ว่ากันเรื่อง วัดธรรมกาย

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย วิถีคนจร, 14 มกราคม 2011.

  1. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    เห็นด้วยกับข้อมูลนี้มากครับ...และไม่เห็นด้วยกับคนบางคนที่เอาแต่นิ่งเฉย แล้วยังกล่าวหาว่าคนอื่นเอาแต่พิมพ์แล้วได้อะไร อย่างน้อยก้อเป็นการกระตุ้นให้คนเรารู้สึกขึ้นมาในเรื่องเกี่ยวกับศาสนาเรา... ตัวเขาเองนิ่งเฉย ตัวเองคิดว่าการนิ่งเฉยเป็นสิ่งที่ดี ก้อแล้วแต่จะคิด ตอนนี้เราทุกคนทำได้เท่าไรก้อเท่านั้น อนาคตจะทำอะไรได้อีกก้อคงต้องแล้วแต่กาลเวลา...อย่างน้อยดีกว่าคนที่นิ่งเฉย ไม่รู้สึกรู้สาอะไร
     
  2. Tawansai

    Tawansai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ความจริงย่อมทนต่อการพิสูจน์

    ความจริงก็ต้องขอบคุณกลุ่มที่พยายามจะทำลายวัดพระธรรมกาย ด้วยวิธีการกล่าวร้ายต่าง ๆ นานานะ เพราะว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเข้าวัดมากขึ้นก็เป็นเพราะคนกลุ่มนี้แหละ คือกำลังจะบอกว่าคนที่มีปัญญาน่ะจะไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ เพียงเพราะได้ยินได้ฟังมาเท่านั้นหรอก เหมือนภาษิตที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าคลำเอง เหมือนตอนที่วัดพระธรรมกายโดนโจมตีใส่ร้ายป้ายสีหนัก ๆ แทนที่จะมีคนเข้าวัดน้อยลง กลับตรงกันข้าม แสดงให้เห็นว่าคนที่มีปัญญาและเป็นบัณฑิตยังมีอยู่มากในโลกนี้
     
  3. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    กำลังรอความจริงอยู่เหมือนกัน..ว่าอะไรกันเเน่ที่จริง อะไรไม่จริง ถ้าเขาใส่ร้ายวัด เขาก้อจะได้รับบาปกรรมไปเอง แต่ถ้าเขาเอาความจริงมาเปิดเผย ผมว่า เขาก้อคงได้รับบุญมากขึ้นเพราะ ช่วยจรรโลงพุทธศาสนา และกำจัดเหลือบศาสนา เรื่องนี้คงต้องใช้เวลา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย..ทุกสิ่งทุกอย่างมนุษย์เป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น จะดีจะเลวอยู่ที่ตัวคนกระทำ
     
  4. howverts

    howverts สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +0
    พูดได้จริงที่สุดเลยครับ ก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้รับข้อมูลต่างๆในทางที่ไม่ดี ดังนั้น แล้วผมเองก็ตัดสินใจไปบวชที่วัดพระธรรมกายในรุ่น กองพันสถาปนา หลังจากนั้นมาผมก็เข้าใจและล่ะว่ามันไม่จริงอย่างที่เค้าใส่ร้ายกัน
     
  5. howverts

    howverts สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +0
    ถามน้องวงบุญพิเศษเรื่องคนนอกศาสนาที่มาซื้อที่ดินรอบๆวัด คือตอนนี้พวกคนนอกศาสนาเค้าต้องการอะไร หรือต้องการกำจัดศาสนาพุทธ แล้วตอนนี้เค้าซื้อที่ดินไว้หมดแล้วหรือยังแล้วจะแก้ยังไงล่ะเนี้ย พี่ดูๆแล้วตอนนี้ศาสนาเรากำลังจะมีภัยอันใหญ่หลวงแล้วนะ ทั้งพวกนอกศาสนา ทั้งคนในศาสนาเอง ต่างทำล้ายกัน แล้วเรื่องที่หลวงพ่อฤาษีท่านพูดถึงหลวงพ่อธัมมชโย ท่านพูดว่าอย่างไร ขอชีแจ้งให้ทราบอย่างละเอียดหน่อย แล้วหลวงพ่อเทศเรื่อง พระศรีอริยเมตไตร แล้วในเพลงก็บอกว่าอีกไม่นานเท่าได (ในเพลงพระศรีอริยเมตไตรของวัดพระธรรมกาย) หรือว่าเราจะได้พบพระศรีอริยเมตไตร เร็วๆนี้ เพราะใกล้ 2012 แล้ว (เชื่อในใจว่าอาจจะมีการเปลียนแปลงครั้งยิ่งใหญ่) หรือทุกปัญหาถูกแก้ไขในยุคนั้น แล้วมันต้องรออีกนานเท่าไรใช่หลัง 2012 หรือไม่ อย่างรู้มากๆ น้องวงบุญตอบพี่หน่อยนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2011
  6. Tawansai

    Tawansai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เวลาเท่านั้นที่จะเฉลยให้รู้ว่าใครเป็นอย่างไร และกฎแห่งกรรมก็ไม่เคยลำเอียงในการตัดสินใครต่อใตร เพียงแต่รอเวลาและทำความดีของตัวเองให้ถึงพร้อมให้มาก ๆ คือ ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส อะไรที่พูดแล้วร้อนเขาร้อนเรา อย่าพูด หรือจะร้อนเราเย็นเขาก็อย่าพูด แม้แต่เย็นเราแต่ร้อนเขาก็ไม่ควรพูด เพราะมันจะมีวิบากกรรม ที่วัดพระธรรมกายโดนเขาใส่ร้ายป้ายสี ก็เป็นเพราะกรรมเก่าที่เราเคยทำมาเองทั้งนั้น แต่มันจะเป็นกรรมใหม่ของใครหลาย ๆ คนในชาตินี้ ที่ว่าร้ายวัดทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่สู้ไม่หนีแถมยังทำความดีไม่หยุดยั้ง ขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่านที่ตั้งใจทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ...สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ก็ต้องรอดูนะครับ......................การชักจูงผู้มีเมตตามีจิตศรัทธา มาฉาบ เพื่อภาพลักษณ์
    การกล่อมเกลาสิ่งดี แต่ออกนอกทางไปนิด เพื่อประโยนช์ใคร ก็ต้องพิจรณากันไป
     
  8. อุ้มบาตร

    อุ้มบาตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +19
    ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ยินได้ฟัง และได้สัมผัสกับเรื่องราวเหล่านี้มานานแล้ว และไม่ค่อยเห็นด้วยกลับการกระทำของวัดนี้สักเท่าไรนัก การหาเงินเข้าวัดก็เป็นสิ่งดี ถ้าเอาไปบำรุงพุทธศาสนา หรือซ่อมแซมศาสน์สถานต่างๆ เผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือช่วยเหลือประชาชนให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ซึี่งผมเห็นแต่ไม่สร้างพระทองคำ ก็เอาไปขยายอนาเขต โฆษณาต่างๆนาๆ ทำเพลง ทำซีดี ขายไปในสื่อต่างๆ
    ดูอย่างพระอริยะจริงแท้ อย่างหลวงตามหาบัวซิครับ ไม่เห็นจะต้องทำการอย่างนั้นเลย ก็รวบรวมศรัทธามากมายแถมช่วยชาติบ้านเมืองได้อีกด้วย
     
  9. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    ผมอ่านกระทู้นี้มาตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย
    ผมรู้สึกว่าคุณ วงบุญพิเศษ ได้ทั้ง วิริยะบารมี และ ขันติบารมีไปเต็มๆ เลยครับ ขอกราบอนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ
    ผมก็ชอบทำบุญ กับทุกวัด ครับ วัดใกล้บ้านก็ทำ ผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตา มหาบัวก็เคยทำ
    สำหรับวัดพระธรรมกาย ผมเริ่มไปครั้งแรก ก็ 20 กว่าปีที่แล้วครับ ในเวลานั้นผมก็ไม่ได้รวย ต้องนั่งรถเมล์ ไปต่อรถฟรีของทางวัดที่สนามหลวง
    ทำบุญได้ครั้งละ 5 บาท 10 บาทก็เก่งแล้วครับเพราะยังเรียนอยู่ ไม่ได้ทำงาน
    พอเรียนจบ เริ่มทำงานก็เริ่มมีเงินทำบุญมากขึ้น และช่วงที่สร้าง ธรรมกายเจดีย์ ก็มีบุญสร้างพระประจำตัว ซึ่งผมก็ใช้วิธีค่อยๆ จ่ายจนเต็มองค์
    หากไม่มี วิธีค่อยๆ จ่ายจนเต็มองค์ในตอนนั้น ผมคงไม่มีทางได้สร้างพระประจำตัว
    รถยนต์คันแรก บ้านหลังแรกของผมก็ซื้อผ่อน รายเดือนเหมือนกัน ดังนั้นใครต่อว่าเรื่องทำบุญผ่อนส่ง ผมก็ไม่ใส่ใจเพราะผมเคยทำมา กะมือและรู้สึกดีด้วย
    เรื่องการใส่ร้ายวัด ก็มีมาตั้งแต่เริ่มสร้างวัด รวมเวลาก็ 40 ปีกว่าได้แล้ว โดนมาเป็นระยะ ๆ
    เนื่องจากตัวผมเคยเจอปาฏิหาริย์เล็กๆ เกิดขึ้นที่วัดพระธรรมกาย และเจอด้วยตัวผมเอง ดังนั้นไม่ว่าจะมีการใส่ร้ายวัดอย่างไร ก็ไม่อาจสั่นคลอนศรัทธาผมได้
     
  10. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
     
  11. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Gg1Ti1c_QUo]YouTube - สถาพร[/ame]
     
  12. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ํYou never walk alone
     
  13. mephisto

    mephisto Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +65
    มนุษย์ก็แบบนี้ จะทำดีซักทีก็มีข้อแม้มากมาย แถมยังชอบทำลายความดีที่คนอื่นเขาทำไว้อีก มองอะไรก็คอยแต่จะหาสิ่งไม่ดี เพราะในใจมันไม่บริสุทธิ์มีแต่ความคิดเชิงลบ เพราะกิเลสมันบังไว้จนมิด พระไตรปิฎกไม่เปิดอ่านดูว่าเขามีจุดมุงหมายกันอย่างไร วิเคราะห์กันไม่เป็น เอาใจช่วยคนทำดี
     
  14. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    อยากให้ลองคิดกันดูสักหน่อยเถอะว่า หลวงพ่อวัดพระธรรมกายทำแบบนี้ไปทำไม
    ทั้งที่ตัวท่านเองอยู่เฉยๆก็มีคนคอยดูแลท่านทุกอย่าง
    บางคนบอกว่าก็อยากได้ชื่อเสียงไง
    ถามหน่อยเถอะ มีกี่คนที่รู้จักชื่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายจริง
    คุณฟังข่าวคุณได้ยินอะไรมากกว่าระหว่างชื่อวัดกับชื่อเจ้าอาวาส
    เอาเป็นว่า คุณรู้จักวัดบ้านไร่ วัดป่าบ้านตาด หรือคุณรู้จักหลวงพ่อคูณ หลวงตาบัว ดีกว่ากัน
    กราบขออนุญาติอ้างถึงด้วยความเคารพ

    ทุกวันนี้ทำไมท่านต้องจัดทำโครงการเพื่อศีลธรรมเป็นร้อยๆโครงการ
    ต้องมาสอนธรรมะตอนเย็นทุกวันวันอาทิตย์เทศ2รอบ
    ต้องดูแลองค์กรซึ่งมีขนาดใหญ่และเติบโตขึ้นทุกวัน
    ต้องแก้ปัญหาที่หลายๆคนกำลังทำอยู่เนี่ยะ
    ต้องหาวิธีให้กำลังใจคนทำความดีไม่ให้ท้อ

    เป็นตัวคุณ คุณทำได้มั๊ย หรือเอาแค่ว่าแล้วจะทำไปทำไมเหนื่อยจะตาย
    แต่ท่านภิิกษุชราอายุจะ70อยู่แล้ว
    ต้องทำงานหนักเพียงด้วยความหวังว่าพุทธศาสนาจะต้องรุ่งเรืองด้วยวิธีการต่างๆที่ท่านจะทำได้

    หลายคนอาจคิดว่าแต่คำสอนมันผิด
    แล้วคุณคิดว่าที่มันถูกคืออะไร
    คุณก็ลงมือทำให้มันเหมือนท่านสิครับถ้าคุณมันใจ เอาให้ดีกว่าที่วัดธรรมกายทำ

    อย่าบอกว่าก็ฉันไม่มีอย่างที่วัดธรรมกายมี
    เขาก็เริ่มต้นด้วยเงิน3200บาทกับมือเปล่าๆเท่านั้น
    อย่ามัวแต่ว่าท่านว่าสอนผิด

    แล้วเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไรหรือครับ
    ไม่ต้องการคำตอบ แต่อยากให้ลองคิดดูมุมนี้บ้าง
    ถ้ามีใจรักศาสนาจริงๆ อย่าเก่งแต่ในจอนะครับ
    ลองคิดดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2011
  15. kamoochi

    kamoochi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +326
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2011
  16. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
  17. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
  18. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    รออีแป๊ป Lot ใหม่กำลังมาครับ ช่วยกันนะครับ ให้ข้อมูลนะครับ
     
  19. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    เอามาฝากนะครับเพื่อนๆทุกท่าน


    โกหัญวิธี ของ สำนักธรรมกาย
    เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้คุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่ต่างจังหวัด ตอนหนึ่ง เราพูดกันถึง พระธรรมปิฎก หรือพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เพื่อนบอกว่า

    เขาว่าท่านเป็นพวกคริสต์!

    ผมถามว่า ไปรู้มาจากไหน? เพื่อนว่า มีพระที่วัดแถวนี้บอก พระคนนั้นได้ไปวัดธรรมกาย ในวัดก็แจกหนังสือให้มา หนังสือว่า พระธรรมปิฎกเป็นพวกรับเงินจากคริสต์จะมาล้มพุทธ!

    นี่แสดงว่า สำนักธรรมกายยังคงเผยแพร่ “หนังสือทุจริต” ซึ่งทางการบ้านเมืองเคยสั่งเก็บไปแล้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน!
    หนังสือที่จัดทำขึ้นโดยสำนักนี้มีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไร จะได้แสดงไว้ต่อไปตอนท้ายกระทู้

    เมื่อปี ๒๕๔๒ พระธรรมปิฎกได้เขียนหนังสือ “กรณีธรรมกาย” ออกมา เพื่อความเข้าใจปัญหาธรรมกายและเพื่องานรักษาพระธรรมวินัย หลังจากที่หนังสือกรณีธรรมกายออกมาแล้ว ก็เกิดความกระจ่างชัด โดยเฉพาะปัญหาที่สำนักธรรมกายมุ่งทำให้ชาวพุทธเกิดความสับสนในเรื่องหลักการของพระพุทธศาสนา
    หากเห็นว่าพระธรรมปิฎกเขียน กรณีธรรมกาย ไม่ถูกต้อง สำนักธรรมกายก็ควรจะใช้เหตุผลหลักฐานในการโต้แย้งเนื้อความในหนังสือกรณีธรรมกาย ชี้แจงว่าไม่ถูกต้อง ตรงไหน อย่างไร แต่ก็ไม่ทำ คงเพราะโต้แย้งมิได้ สำนักธรรมกายจึงได้ใช้วิธีการทุจริตหาทางเบนเรื่องโดยการให้ร้ายทำลายชื่อเสียงผู้ที่ทำหน้าที่รักษาพระธรรมวินัย

    สำนักธรรมกายได้ตั้งทีมงานชื่อว่า ดร.เบญจ์ บาระกุล (ไม่มีตัวตนอยู่จริงในสารบบทะเบียนราษฎร์) ให้เขียนหนังสือให้ร้ายพระธรรมปิฎก รวมทั้งชาวพุทธท่านอื่นๆ ที่มีใจมุ่งรักษาพระพุทธศาสนา กล่าวหาว่าท่านเหล่านั้นเป็น “ขบวนการรับเงินจากศาสนาคริสต์ มาทำลายพระพุทธศาสนา” จากนั้นแจกจ่ายหนังสือไปทั่ว ในวัดเองก็แจกอย่างขนานใหญ่ ดังที่พระที่เพื่อนผมเล่าให้ฟัง ได้รับมา
    การก่อกรรมชั่วของสำนักธรรมกายที่จงใจทำให้ “โกหัญวิธี ของเบญจ์ บาระกุล” แพร่กระจายไป ก็เพื่อทำให้เกิดความความสับสนในหมู่ประชาชน ให้เข้าใจผิดต่อบุคคลที่สำนักธรรมกายจ้องทำลาย
    หลักฐานในการแก้ข้อกล่าวหาพระธรรมปิฎกมีให้พิสูจน์ได้อย่างชัดเจน เปิดหนังสือดูกันเมื่อไร ก็จะเห็นความเท็จอันน่าอัปยศของสำนักธรรมกาย ตัวการจัดทำหนังสือให้ร้ายพระธรรมปิฎก
    เรื่องนี้ถูกแฉอย่างหมดเปลือกมาช้านานแล้ว แต่ก็ยังมีคนของสำนักธรรมกายออกมาเผยแพร่ความเท็จทุจริตไม่หยุดหย่อน ดังจะเห็นได้จากกระทู้ต่างๆ เรื่อยมา มิใยจะมีเพื่อนสมาชิกทักท้วง ก็ยังไม่หยุดกระทำชั่ว

    ขอให้พิจารณาความจริงดังที่จะแสดงต่อไป เมื่อได้ข้อพิสูจน์ชัดแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ผมขอให้ชาวพุทธช่วยกันเผยแผ่ความจริงนี้ออกไปให้มาก อย่าได้เพิกเฉยเมื่อเห็นคนดีพระดี เช่นพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ต้องถูกให้ร้ายโดยพวกคนชั่ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2011
  20. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    โกหัญวิธีที่ชื่อว่า เบญจ์ บาระกุล
    เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๔๒ นายชาญชัย บุษปวนิช กับพวก ได้ยื่นฟ้องต่อเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม กล่าวหาให้ลงนิคหกรรมแก่พระธรรมปิฎก ซึ่งพระธรรมปิฎก ก็ได้เปิดเผยตัวต่อการตรวจสอบทุกประการ แต่เรื่องก็เงียบไปจนบัดนี้
    แม้จะมีข่าวว่า เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้มีคำสั่งไม่รับคำกล่าวหาแล้ว และไม่ว่านายชาญชัยจะยื่นคำฟ้องต่อไปอีกหรือไม่ แต่เรื่องนี้ก็เป็นกรณีศึกษา ที่ควรจะสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนต่อไป
    นายชาญชัย บุษปวนิช กับพวก กล่าวหาว่าพระธรรมปิฎกบิดเบือนปลอมปนพระธรรมวินัย โดยนำเอาคำของศาสนาคริสต์มาเจือปนในหนังสือพุทธธรรม เป็นต้น ทั้งนี้ คำกล่าวหาเน้นว่า พระธรรมปิฎกนำคำว่า “อุดมธรรม” มาใช้ ซึ่งเป็นคำของศาสนาคริสต์ และในพระไตรปิฎกไม่มีที่ใดบอกว่าอุดมธรรมหมายถึงนิพพาน
    แม้ว่าคำกล่าวหาของนายชาญชัย กับพวก จะเหลวไหล เลื่อนลอย และไร้สาระ แต่พระธรรมปิฎกก็ได้ถือโอกาสทำให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาธรรม โดยยกเอาหลักธรรม เช่น “อุดมธรรม” ที่ถูกระบุในคำกล่าวหานั้นขึ้นมาอธิบาย เพื่อสร้างเสริมความรู้แก่ประชาชน ซึ่งจะนำมาแสดงไว้ให้ท่านได้อ่าน ต่อไป
    อย่างไรก็ดี คำกล่าวหาของนายชาญชัย บุษปวนิช กับพวกนั้น มีปมแอบแฝง คือเป็นเพียงการกระทำส่วนหนึ่งซึ่งสืบเนื่องมาจาก กลุ่ม ดร.เบญจ์ บาระกุล ที่เกี่ยวพันกับปัญหาวัดพระธรรมกาย และกลุ่ม ดร.เบญจ์ บาระกุล นี้ได้ใช้วิธีชั่วร้ายสร้างเรื่องเท็จป้ายสีใส่ความแก่บุคลที่รักษาความถูกต้องและปกป้องพระธรรมวินัยต่าง ๆ นานาอย่างไม่ละอาย ซึ่งสมควรเปิดเผยให้สาธารณชนรู้เท่าทันไว้

    รู้จักโกหัญวิธี ของกลุ่ม ดร.เบญจ์ บาระกุล
    คำฟ้องนิคหกรรมของนายชาญชัย บุษปวนิช รวมทั้งความเท็จและการปั้นแต่งข้อกล่าวหาของเขานั้น สืบเนื่องมาจากหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่ใช้ชื่อว่า ดร.เบญจ์ บาระกุล
    นอกจากนี้ ข้อเขียนอื่น ๆ ทำนองเดียวกัน ในหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ตลอดจนเอกสารของผู้ใช้ชื่อว่า “กลุ่มเปรียญธรรม” ที่ทางเปรียญธรรมสมาคมได้ปฏิเสธไปแล้วว่า เป็นการใช้ชื่อแบบสวมรอย ซึ่งเปรียญธรรมสมาคมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้อเขียนและเอกสารเหล่านั้น ล้วนเป็นความเท็จ และสังเกตได้ไม่ยากว่ามาจากแหล่งเดียวกับ ดร.เบญจ์ บาระกุล
    เอกสารมากมายในนาม ดร.เบญจ์ บาระกุล มิใช่กล่าวหาเฉพาะพระธรรมปิฎกเท่านั้น แต่ได้ใส่ร้ายป้ายสีบุคคล องค์กร และสถาบันต่างๆ ที่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำของวัดพระธรรมกาย โดยแต่งเรื่องโยงให้บุคคลและองค์กรเหล่านั้นสัมพันธ์กันเหมือนกับอยู่ในขบวนการเดียวกัน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว บุคคลและองค์กรเหล่านั้น หลายท่านหลายแห่งไม่รู้จักกัน และบางท่านบางแห่งก็มีความคิดความเห็นไม่ตรงกันด้วยซ้ำไป
    เรื่องที่กล่าวหาต่างๆ นั้น ถ้าอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์ ก็จะทราบว่า ใช้วิธีอย่างที่ ศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตเรียกว่า โกหัญวิธี (วิธีโกหกหลอกลวง) คือจับเอาเค้าเรื่องแห่งละนิดละหน่อยไปตั้งเป็นเลศแต่งคำกล่าวหาขึ้นบ้าง ตัดต่อข้อความให้ได้ความหมายที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดตามที่ตนต้องการบ้าง จับข้อมูลเรื่องหนึ่งไปปะติดปะต่อใส่กับอีกเรื่องหนึ่งแล้วสร้างเป็นเรื่องใหม่ขึ้นบ้าง แต่งเติมความเท็จให้คนไขว้เขวหรือจูงให้หลงประเด็นบ้าง ต่อไปนี้ ขอเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า วิธีเบญจ์บาระกุล
    วิธีเบญจ์บาระกุล มีแต่ความเท็จ การหลอกลวง และมุ่งทำลาย เป็นภัยทั้งต่อพระพุทธศาสนา และสังคมไทย ดังจะเห็นได้ว่า
    ๑. ดร.เบญจ์ บาระกุล กับพวก ไม่ยอมแสดงตัวออกมา และใช้ชื่อแอบแฝง ไม่กล้าเปิดเผยตัวจริง เพราะ ตนเองมีแต่ความเท็จ จึงไม่กล้าพิสูจน์ความจริง
    ๒. ใช้วิธีกล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงบ้าง หาเลศโจทบ้าง กล้าปั้นแต่งเรื่องเท็จใส่ร้ายผู้รักษาพระธรรมวินัย อย่างไม่ละอาย แสดงว่าไม่มีความเป็นชาวพุทธอยู่ในตัว
    ๓. มุ่งทำร้ายผู้รักษาพระธรรมวินัยให้สำเร็จอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงสัจจะหรือความถูกต้อง เช่น พระธรรมปิฎก เขียนเตือนไว้ให้ชาวพุทธเจริญสมาธิที่ถูกต้องให้เป็นสัมมาสมาธิ ที่จะนำไปสู่ปัญญารู้แจ้งธรรม อย่าปฏิบัติผิดให้กลายเป็นมิจฉาสมาธิ อย่างฤาษีชีไพรนอกพระพุทธศาสนาก่อนพุทธกาล ที่ใช้สมาธิอย่างยากล่อม กลุ่ม ดร.เบญจ์ บาระกุล ก็บิดเบือนว่าพระธรรมปิฎกสอนว่าสมาธิเป็นยากล่อม
    ๔. กล้าทำลายพระพุทธศาสนา เพื่อรักษาตัวเอง หรือเพื่อปกป้องคนที่ให้ผลประโยชน์แก่ตน ทำความเท็จได้ ทุกอย่าง โดยไม่คำนึงว่าจะเสียหายแก่พระธรรมวินัยอย่างไร เช่น พูดเหยียบย่ำคัมภีร์ปริวาร ในพระไตรปิฎก โดย กล่าวคำหลอกลวงให้ชาวพุทธหลงเข้าใจผิดว่า เป็นคัมภีร์พวกอรรถกถา เพื่อหลอกให้ชาวพุทธไม่เชื่อถือคำวินิจฉัย ของคัมภีร์ปริวารนั้น
    ถ้าชาวพุทธเห็นตัวอย่างวิธีเบญจ์บาระกุล สัก ๓-๔ เรื่อง ก็จะรู้ทัน และจับได้ว่า หนังสือและเอกสารที่กล่าวหาทั้งหมดนั้น เป็นความเท็จตามโกหัญวิธีนี้ทั้งสิ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...