การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

ส่งการบ้านค่ะ เมื่อคืน ตี 1 กว่าๆ...

กะว่านอนก่อน ค่อยตื่นมานั่ง พอถึงเวลาจริงๆ ห้าทุ่มครึ่ง...ไม่ยอมนั่ง จะนอนต่อ ได้ยินเสียงเหมือนพลุหรือไรไม่รู้ ดังเป็นระยะ ๆ ทีละนัด จนต้องลุกขึ้นมาดู ที่ไหนหว่า...แล้วนอนต่อ :d นอนก็กังวล แล้วก็ฝัน เลยตื่นมานั่งตอนตี 1 กว่าๆ...สงบดีค่ะ ไม่มีอะไร นั่งจนเมื่อยแล้วแผ่เมตตา อุทิศบุญกุศล...ออกจากสมาธิ ขอบคุณหลวงพ่อ...ขอบคุณ อ.บาส (เลียนแบบคุณชัยวัฒน์ 555) ล้อเล่นค่ะ จริงๆ ทำอยู่ประจำค่ะ

สังเกตุตัวเองว่า วันหลังจากที่ฟุ้งซ่าน คิดโน่น นี่ มากๆ วันถัดไปจะสงบดี ทุกครั้ง

 

ช่วงนี้ยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้เข้ามาโพส แต่ก็ยังนั่งอยู่เป็นประจำเวลาดี 3 ทุ่ม ทุกคืน เก็บชั่วโมงไปเรื่อยๆ บางทีเหมือนเกิดการเรียนรู้ไปในตัว เพราะในแต่ละคืนที่นั่งมันก็เกิดไม่เหมือนกัน ก็พยายามจะมาส่งการบ้านบ่อยๆละกันนะ เพื่อ อ.บาสจะได้ช่วยชี้แนะเพิ่มเติมได้.....chearr

 

จิตเริ่มนิ่งละวางได้เยอะแล้ว สภาวะจิตก็จะถูกยกโดยอัตโนมัตความคิดจะสุขุมขึ้นครับ

 

ส่งการบ้านกะเค้าบ้าง

หลังจากสังเกตุอาการตัวเองดู เหมือนอาิทิตย์ที่แล้ว นั่งไม่ค่อยได้เท่าไหร่
แป็บๆ ก็เลิก แป็บๆ ก็พอ ความขี้เกียจบ้าง ง่วงบ้าง ก็เฉยๆ ไป
อาศัยมองลมหายใจ มองท้อง ตอนระหว่างวัน

สองสามวันมานี้ จะนั่ง ก่อนนอนได้ และก็ตื่นมาสัก ตี 4กว่าๆ เกือบ ตี 5
ก็นั่งๆไป รู้สึกดีึขึ้น นั่งได้นานกว่าอาทิตย์ที่แล้ว และก็ไม่รู้สึกขี้เกียจ
พอนั่งได้ก็รุ้สึกเหมือนมีกำลังใจ ตอนเช้าตื่นมาเลยนั่งต่อ
มานั่งคิดดู เมื่อเช้า ตื่นปุ๊บ นั่งปั๊บ ตลกตัวเองดีเหมือนกัน เหมือนหุ่นยนต์ทำหน้าที่ 555
นั่งคราวนี้ ได้นาน น่าจะเกือบ 6 โมงเช้า
พอได้ที่แป็บนึง ก็แผ่เมตตาก่อนกันลืม แล้วก็คิดว่าวันนี้น่าจะเนวะฯ
แต่ทำทีไร จะไม่ค่อยถึงเนวะ มันจะนิ่ง ไม่รับรู้อะไรเอาให้ได้
ยิ่งตอนถึงความว่าง โห จะเนวะต่อไม่ได้เลย แต่ก็ดึงกลับมา เนวะฯเสร็จ ก็ปล่อยยาว ที่นี่ นิ่งๆ โล่งๆ สบายๆ จนไม่อยากจะภาวนา

จบรายงานเพียงเท่านี้คะ

 

เมื่อคืนเข้าสมาธิก่อนนอน เพราะปวดหัวมาก เลยไม่ค่อยได้นอนเลย

ก็นอนอยู่สะพักเดินออกมาอีกห้องจะมานั่ง ยังไม่ทันจะนั่งใจมันไม่อยากนั่งแล้ว ก็ลองนั่ง

นั่งไปยังไม่ทันจะสวนมนต์เสร็จ มันจะดิ่งจะไปๆอย่างเดียว ผมก็ยื้อขอสวดมนต์ก่อน

พอดีสวดเสร็จ นั่งไปแป๊บเดียว 2 3 นาทีเองมั้งคับ นั่งไม่ไหวแน่น เลยกลับไปนอนต่อคับ

ไปนอนก็ไม่ได้นอนดีๆ ที่หูก็เหมือนหูอื้อไม่ค่อยได้ยินอะไรแล้ว หัวก็มึน

ได้ยินเสียงแพร่วๆ เหมือนมีคนเป่า อะไรสักอย่าง ให้ฟัง ผมก็อารมณ์จะนอน

ง่วงก็ง่วงก็ปล่อยไปสะพักกว่าจะได้นอน คับ

 

ส่งการบ้านค่ะ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ตอนเช้า นั่งบทที่ 3<o></o>
<o></o>
สมาธิดีพอสมควร นิ่งดิ่ง แต่ไม่ลึก<o></o>
เผลอๆ จิตก็ไม่ค่อยนิ่ง ดูต่อไป ก็กลับมานิ่งเหมือนเดิม<o></o>
ช่วงนี้ มักจะกลับไป กลับมา แต่ก็จะไม่นิ่งอยู่สักครู่ แล้วก็จะกลับมานิ่งเหมือนเดิม
นั่งดูไปเรื่อยๆ จนได้เวลาเตรียมของใส่บาตร
จึงพิจารณาพรหมวิหาร 4 และปัจจเวกณ์
<o> </o>
ขอบคุณค่ะ<o></o>

 

ส่งการบ้านค่ะ

เมื่อคืน เที่ยงคืนกว่า...รู้ตัวว่า ไม่ได้เรื่อง ไม่มีสติก็เลยลา แผ่เมตตา+อุทิศบุญ ก้อผิด ๆ ถูก ๆ ตั้งหลักกันหลายรอบ เลยจบแบบรวบรัด นั่งได้ประมาณ 15 นาที แต่เหมือนมีนึกถึง ยักษ์ 3-4 ท่า (รูป) ท้าวเวสสุวรรณ รึเปล่าไม่รู้ เอ...ช่วงนี้มีนึก เห็นช้าง เห็นยักษ์ เรามีติดค้างอะไรรึเปล่า... รึต้องทำไรรึเปล่า อาจ้านนนน :d

 

ส่งการบ้านนะคะ
ช่วงนี้เป็นเหนื่อยๆ เพลียๆ แต่ก็พยามนั่งนะคะ

นั่งบทสาม ไม่ได้ภาวนา
มีบางช่วงที่เหมือนสติขาดไป เหมือนจะหลับน่ะค่ะ
มีช่วงแวปๆ หรือเรานึกถึงได้งัยไม่รู้ เห็นเหมือน
มงกุฏของพระถังซัมจั๋ง เคยเห็นแต่ในหนัง
มีจริงรึปล่าวล่ะน้อ แล้วมานึกถึงทำไมล่ะเนี่ย
ก็ปล่อยๆจนหายไป ซักหน่อย อะไรแวปๆมาอีก
คราวนี้คุ้นๆ คล้ายๆหลวงปู่ทวด ... สรุปว่า
เรานึกถึงรึปล่าว งง นั่งแป๊บนึงแล้วก็ออกสมาธิอะค่ะ
อย่างนี้ฟุ้งซ่านไปมั้ยอะคะ

 

มาส่งการบ้านครับ

หลังจากนั่งมาหลายวัน ก็ยังเหมือนเดิม บางวัน ภาวนา จึงจะนิ่ง บางวันไม่ภาวนาก็นิ่งแทน

อย่างเมื่อวาน ช่วงภาวนาบท 1 ไม่โล่งโปร่งเท่า ตอน ไม่ภาวนา ปล่อยไปเรื่อยๆ เหมือนตอนภาวนา เป็นแบบรถเร่งไม่ขึ้น พยายามขึ้น ดันทุลังอยู่แบบนั้น แต่ ตอนไม่ภาวนา เหมือนเหยียบคันเร่งได้สุด ไม่ติดไม่ขัด อะไรทำนองนั้นครับ

ก็ ขอถามอีกเรื่องครับ ใครจำ วิธีทำกองบุญ ได้บ้างอ่ะครับ ขอหน่อยครับ เอิทจำไม่ได้อ่ะครับ= =

 

อาจารย์ค่ะ ยุ้ยคิดไม่ดีอยู่เรื่อย มันแว๊ปเข้ามาบ่อย ๆ บางครั้งสงสัยจนกลายเป็นปรามาสไปก้อมี มันจมกลับความรู้สึกผิดเพราะเราไม่อยากคิด แต่มันแว๊บเข้ามาเอง

เวลาฝึกสมาธิก้อมีภาพอะไรต่อมิอะไร เข้ามาเยอะ่แยะไปหมด แรก ๆ ก้อดี ตอนท้าย ๆ หลับเกือบทุกที ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยชี้ทางให้ยุ้ยด้วยนะค่ะ ตอนนี้ไปไม่เป็นแล้ว

ขอบพระคุณอาจารย์มากเลยค่ะ

 

ส่งการบ้านคับ

วันนี้ไปซื้อเทียนมานั่งเพ่ง

ก็เพ่งๆ มันก็ เห็นเป็นดวงๆลอยๆ

พอหลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็น

มองไปทางอื่นก็เห็น ผมคุมให้มันไม่ลอยไม่เอียง

ตอนนี้ทำได้แค่นี้คับ

ปล.ปวดตาจังเลยคับ

 

เท็คนิคเจอแล้วจะบอก บอกในนี้ไม่ได้คนอื่นเอาไปทำตามโดยไม่รู้แล้วเดี๋ยวบ้าติดนิมิต

 

ส่งการบ้านค่ะ

2 วันนี้ นั่งเหมือนไม่นั่งเลย นั่งไม่ได้ นั่งไม่ทน นั่งไม่เป็น ขี้เกียจมาก... เช้านี้มีทะเลาะกับเด็กที่ทำงานแต่เช้า ตะบะแตกแล้วเรา ทดสอบไม่ผ่่าน เฮ้อ เหนื่อยกับคน...รวมตัวเองด้วย:'(

 

ตอนนี้นั่งไม่ได้นานนัก บางทีก็ดิ่งจนสะดุ้งแรงๆกับเสียงรอบข้าง
บางทีก็เตลิดกับความคิดวอกแวก เน้นส่งบุญเยอะหน่อยค่ะ
แต่ที่นั่งแล้วเป็นประจำ คืออาการขนห่าน หายใจเข้าออกเป็นกระแสไหล
ช่วยเรื่องปวดหัว(ความดัน)ได้พอสมควร

ยังต้องขยันหน่อย ตอนนี้ก็รักษาระดับเอาไว้ แหะๆ

 

วันก่อนไปฝังเรื่องจริตมาเลย อยากมาเล่าให้ฟังครับ

[FONT=&quot]จริตแปลว่า[/FONT][FONT=&quot] จิตท่องเที่ยว สถานที่จิตท่องเที่ยวหรืออารมณ์เป็นที่ชอบท่องเที่ยวของจิตนั้น สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประมวลไว้เป็น ๖ ประการด้วยกัน คือ[/FONT][FONT=&quot]

1.ราคะจริต คือสภาวะจิตที่หลงติดในรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสจนเป็นอารมณ์ [/FONT]

[FONT=&quot]2.โทสะจริต หรือสภาวะจิตที่โกรธง่าย ฉุนเฉียวง่าย เพียงพูดผิดสักคำ ได้เห็นดีกัน [/FONT]

[FONT=&quot]3.โมหะจริต หรือจิตที่มักอยู่ในสภาพง่วงเหงาหาวนอนหรือซึมเศร้าเป็นอาจิณ [/FONT]

[FONT=&quot]4.วิตกจริต หรือสภาวะจิตที่กังวล สับสนและวุ่นวายฟุ้งซ่านแทบทุกลมหายใจ [/FONT]

[FONT=&quot]5.ศรัทธาจริต คือสภาวะจิตที่มีปรัชญาหรือหลักการของตัวเองและพยายามผลักดันให้ตัวเองและผู้อื่นบรรลุถึงจุดหมายนั้น [/FONT]

[FONT=&quot]6.พุทธิจริต คือสภาวะจิตที่เน้นการใช้ปัญญาในการไตร่ตรอง คิดหาเหตุหาผลมาแก้ปัญหาต่างๆในชีวิต ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตการทำงาน มีความสนใจ เรื่องการยกระดับและพัฒนาจิตวิญญาณ [/FONT]

[FONT=&quot]ราคะจริต[/FONT]

[FONT=&quot]ลักษณะ บุคลิกดี มีมาด น้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะ ติดในความสวย ความงาม ความหอมความไพเราะ ความอร่อย ไม่ชอบคิด แต่ช่างจินตนาการเพ้อฝัน จุดแข็ง

มีความประณีตอ่อนไหว และละเอียดอ่อน ช่างสังเกตุเก็บข้อมูลเก่ง มีบุคลิกหน้าตาเป็นที่ชอบและชื่นชมของทุกคนที่เห็น วาจาไพเราะ เข้าได้กับทุกคน

เก่งในการประสานงาน การประชาสัมพันธ์และงานที่ต้องใช้บุคลิกภาพ
[/FONT]
[FONT=&quot]จุดอ่อน ไม่มีสมาธิ ทำงานใหญ่ได้ยาก ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่มีความเป็นผู้นำ มุ่งแต่บำรุงบำเรอผัสสะทั้ง [/FONT][FONT=&quot]5 ของตัวเอง คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

ชอบพูดคำหวานแต่อาจไม่จริง อารมณ์รุนแรงช่างอิจฉา ริษยา ชอบปรุงแต่ง [/FONT]

[FONT=&quot]โทสะจริต

[/FONT] [FONT=&quot]ลักษณะ จิตขุ่นเคือง โกรธง่าย คาดหวังว่าโลกต้องเป็นอย่างที่ตัวเองคิด พูดตรงไปตรงมา ชอบชี้ถูกชี้ผิด เจ้าระเบียบ เคร่งกฎเกณฑ์ แต่งตัวประณีต

สะอาดสะอ้าน เดินเร็ว ตรงแน่ว [/FONT]

[FONT=&quot]จุดแข็ง อุทิศตัวทุ่มเทให้กับการงาน มีระเบียบวินัยสูง ตรงเวลา วิเคราะห์เก่ง มองอะไรตรงไปตรงมา มีความจริงใจต่อผู้อื่นสามารถพึ่งพาได้ พูดคำไหนคำนั้น

[/FONT][FONT=&quot]จุดอ่อน จิตขุ่นมัว ร้อนรุ่ม ไม่มีความเมตตา ไม่เป็นที่น่าคบค้าสมาคมของคนอื่น และไม่มีบารมี สร้างวจีกรรมเป็นประจำ มีโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย [/FONT]

[FONT=&quot]กว้างรับความคิดใหม่ๆ พิจารณาโทษของความโกรธต่อความเสื่อมโทรมของร่างกาย [/FONT]

[FONT=&quot]โมหะจริต[/FONT]

[FONT=&quot]ลักษณะ ง่วงๆ ซึมๆ เบื่อๆ เซ็งๆ ดวงตาดูเศร้าๆ ซึ้งๆ พูดจาเบาๆ นุ่มนวลอ่อนโยน ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เดินแบบขาดจุดมุ้งหมาย [/FONT]

[FONT=&quot]จุดแข็ง ไม่ฟุ้งซ่าน เข้าใจอะไรได้ง่ายและชัดเจน มีความรู้สึก มักตัดสินใจอะไรได้ถูกต้อง ทำงานเก่ง โดยเฉพาะงานประจำ ไม่ค่อยทุกข์หรือเครียดมากนัก

เป็นคนดี เป็นเพื่อนที่น่าคบ ไม่ทำร้ายใคร [/FONT]

[FONT=&quot]จุดอ่อน ไม่มีความมั่นใจ มองตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง โทษตัวเองเสมอ หมกมุ่นแต่เรื่องตัวเองไม่สนใจคนอื่น ไม่จัดระบบความคิด ทำให้เสมือนไม่มีความรู้

ไม่ใครใส่ใจในการทำอะไรสมาธิอ่อนและสั้นเบื่อง่าย อารมณ์อ่อนไหวง่ายใจน้อย [/FONT]

[FONT=&quot]วิตกจริต[/FONT]

[FONT=&quot]ลักษณะ ความคิดพวยพุ่ง ฟุ้งซ่านอยู่ในโลกความคิด ไม่ใช่โลกความจริง มองโลกในแง่ร้ายว่าคนอื่นจะเอาเปรียบกลั่นแกล้ง อัตตาสูงคิดว่าตัวเองเก่ง

อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง [/FONT]

[FONT=&quot]จุดแข็ง เป็นนักพูดที่เก่ง จูงใจคน เป็นผู้นำหลายวงการ ละเอียดรอบคอบ จ้องจับผิดเห็นความผิดเล็กความผิดน้อยที่คนอื่นไม่เห็น [/FONT]

[FONT=&quot]จุดอ่อน มองจุดเล็กลืมภาพใหญ่ เปลี่ยนแปลงความคิดตลอดเวลา จุดยืนกลับไปกลับมา ไม่รักษาสัญญา มีแต่ความคิด ไม่มีความรู้สึก ไม่มี วิจารณญาณ

ลังแล มักตัดสินใจผิดพลาด ทำร้ายจิตใจ เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีความทุกข์ เพราะเห็นแต่ปัญหา แต่หาทางแก้ไม่ได้ [/FONT]

[FONT=&quot]ศรัทธาจริต[/FONT]

[FONT=&quot]ลักษณะ ยึดมั่นอย่างแรงกล้าในบุคคล หลักการหรือความเชื่อถือและความศรัทธา คิดว่าตัวเองเป็นคนดี น่าศรัทธา ประเสริฐ กว่าคนอื่น เป็นคนจริงจัง

พูดมีหลักการ [/FONT]

[FONT=&quot]จุดแข็ง มีพลังเข้มแข็งพร้อมที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคมไปสู่สภาพที่ดีกว่าเดิม มีพลังขับเคลื่อนมหาศาล

มีลักษณะความเป็นผู้นำ [/FONT]

[FONT=&quot]จุดอ่อน หูเบา ความเชื่ออยู่เหนือเหตุผล ถูกหลอกได้ง่าย ยิ่งศรัทธามาก ปัญญายิ่งลดน้อยลง จิตใจคับแคบ ไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่าง ไม่ประนีประนอม

มองโลกเป็นขาวและดำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนคิดว่าถูกต้อง สามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่ใช้ความรุนแรง [/FONT]

[FONT=&quot]พุทธิจริต[/FONT]

[FONT=&quot]ลักษณะ คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล มองเรื่องต่างๆ ตามสภาพความเป็นจริงไม่ปรุงแต่ง พร้อมรับความคิดที่แตกต่างไปจากของตนเอง ใฝ่เรียนรู้ ช่างสังเกตุ

มีความเมตตาไม่เอาเปรียบคน หน้าตาผ่องใส ตาเป็นประกาย ไม่ทุกข์ [/FONT]

[FONT=&quot]จุดแข็ง สามารถเห็นเหตุเห็นผลได้ชัดเจน และรู้วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างถูกต้อง อัตตาต่ำ เปิดใจรับข้อเท็จจริง จิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่จมปลักในอดีต

และไม่กังวลในสิ่งที่จะเกิดในอนาคต พัฒนาปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เป็นกัลยาณมิตร [/FONT]

[FONT=&quot]จุดอ่อน มีอัตตาสูง คิดว่าตนรู้ตนมี ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น นึกหาเหตุที่จะโต้เถียงตลอดเวลา เนื่องจากมีปัญญา สงสัยตลอดเวลา คิดแต่ไม่ทำ

คนจริตนี้คือคนที่อยู่ในอบายภูมิมากที่สุด[/FONT]

 

โหจารย์ ยาวเลย
คนๆนึง มีหลายจริตได้มั้ยคะ

 

ส่งการบ้านบ้าง

2-3 วันที่ผ่านมา...รู้สึกว่าอยู่ในสมาธินาน จิตก็ไม่ซุกซนไปใหนเลย เหมือนอยู่กับเนื้อกับตัวไงไม่รู้อะ นิ่งๆแบบนี้แต่ก็ไม่ได้อยากจะพิจารณาอะไรเลย เลยนั่งไปเรื่อยๆ อยากออกตินใหนก็ออกเลย แนะนำหน่อยยังไงต่อดี...

แต่เมื่อคืนตั้งใจนั่งแต่เนิ่นๆเพราะมันหนาวๆ อยากนอนไวๆ ก็เลยรีบนั่งก่อน แต่เจ้ากรรมดันกินซะเยอะ แน่นอึดอัด เลยจำไว้เลย ฮึ่ม !!! เสียเลยอะ

 

ดูท่าจะมีครบทั้งหมด 555

 

วันไหนมานั่งสอบจริตกันครับน่าจะดีขึ้นกว่านี้ แล้วเดี๋ยวไปทำบุญด้วยกันครับ

จะได้หลุดจากความเบื่อหน่ายที่เป็นอยู่ครับ

 

ช่วงนี้ขอเล่าอะไรซักหน่อยแล้วกันครับ

คือช่วงนี้ไปรับรู้อะไรมาบางอย่าง คือ อายุไขของคนหลายๆคนทีผมรู้จักและไม่รู้จัก ก็อยากจะบอกว่า

บุญนะทำกันเยอะๆดีกว่าไหม พลังจิตสูงต่อให้ได้อภิญญาก็ไม่ได้ช่วยให้พ้น อบายภูมิได้

เดี๋ยวก็รู้ว่าเป็นใครอีกไม่กี่เดือนก็ได้เห็น

บูญคำนี้ทำบ่อยๆได้ บางคนทำบ้างแต่ระลึกว่าทำเยอะและบ่อย

โดยส่วนตัวผมทำบ่อยมาก ให้ทานนั้นทำทุกวันแต่ไปไหว้พระ ทำสังฆทานนั้นทุกอาทิตย์ และ

ทำบุญใหญ่สืบสานพระพุทธศาสนาทำเป็นครั้งคราว ปีนึงจะทำ 4-5ครั้ง อยากให้สำรวจตนเองนะครับ

ทำบุญนั้นรู้ได้จริงว่าเป็นไง คือทำบ่อยๆเข้าไว้ วันหลังจะชวนกันไปหลายๆคน ช่วงนี้ชวนแต่คนใกล้ตัวไปก่อน

แล้ววันหลังจะชวนกันไปครับ