ว่ากันเรื่อง วัดธรรมกาย

เราว่าคนที่ว่าคนโน้นคนนี้โง่ไปทั่ว คนพวกนั้นมันลืมมองไปว่าตัวเองโง่ยิ่งกว่า แบบนี้โลกอินเตอร์เน็ตเรียกว่า "เกรียน" เราจะเรียกนายว่า 'เกรียนกัปปะ' แล้วกันนะจะได้เหมาะสม เกรียนกัปปะเอ๋ยๆๆ ได้ยิ้นได้ฟังมาแล้วก็มาคิดเอาเอง โถ่ๆๆ ผมบอกไปหลายครั้งแล้วว่าให้ลองไปศึกษาเรื่องที่สงสัยอย่างจริงจังอย่าไปคิดเอาเอง เกรียนกัปปะเอ๋ยๆๆๆๆ เจ้าเด็กน้อย

 

คำว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา คงเหมาะกับนายมากที่สุด ที่นี่เขามีไว้แสดงความคิดเห็น ไม่ได้มีไว้เพื่อ ด่าคนโน้นที คนนี้ที เพราะคิดต่างกัน แต่เท่าที่ดู คำว่า "โง่อวดฉลาด" น่าจะเหมาะกับนายมากที่สุด 55555+++ ส่วนที่จะเรียกเราว่าอะไร ก้อเรียกไปเถอะ เราจะได้ให้ฉายานายว่า "MR.STUPID" แทนเพราะน่าจะเหมาะกับจริตของนาย 5555+++ โง่ไม่โง่ ขนาดภาษาไทยแท้ๆยังพิมพ์ผิด ขำว่ะ..5555+++

 

หือ พระไม่เกี่ยว นะจ๊ะๆ

 

<IFRAME height=600 src="http://www.thairath.co.th/content/edu/158282"width="100%"></IFRAME>

มีข่าวอีก

 

<IFRAME height=600 src="http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=31147.0"width="100%">

ผมไม่ก๊อปแล้วเอามาทั้งหน้าเลย

 

หลังจากที่มีการชีเแจงไปแล้วว่าไม่มีการแก้พระไตรปิฎก มีแต่โครงการรักษา

พระไตรปิฎกซึ่งริเริ่มมานานแล้ว แต่ก็ไม่หยุด ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีความ

พยายาม ต่อความยาว สาวความยืดเรื่องพระไตรปิฎก ทั้งๆที่ตอนนี้วัดพระ

ธรรมกายกำลังฟีเวอร์ เรื่องการบวชแสนรูปครั้งที่3 ในวันที่29 มีนานี้



ดูนี่ เคยเห็นไหมพระไตรปิฎก หินอ่อน เค้าแก้ก่อนอีก

 

เกรียนของแท้ เกรียนเทพด้วย เหอะๆ พูดกับคนนี้แล้วไม่ได้รู้เรื่องเลย เพราะมันเป็น เกรียนนี้เอง เข้าใจแหละ เดี๋ยวรอดูชีวิตมันไม่เจริญดีกว่า มันจะได้เข้าใจเอง

 

ดีครับ..ถ้าเป็นความจริง เอามาเปิดเผยให้หมด..

 

งงจัง โครงการมันก็แค่การนำพระไตรปิฎกโบราณ ที่พบตามที่ต่างๆทั่วโลก

ในไหบ้าง ฝังไว้ในดินบ้าง มารวบรวม เก็บรักษา และเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล

เราไม่จำเป็นต้องไปแก้รายละเอียดในนั้นหรอก


อยากเห็นพระไตรปิฎกเป็นๆที่เสร็จแล้วหรือป่าว ทีนี้ ทำไมไม่ออกข่าวเลยอ่ะ

ชมเลย












พระไตรปิฎกหินอ่อนระดมทุนสร้างโดยวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในโอกาสเฉลิม

พระชนมพรรษาครบ 5 รอบของในหลวง มีงบประมาณ 200 ล้านบาท โดย

เริ่มสร้างประมาณปี 2532 และมีพิธีเปิดโดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเป็นผู้

แทนพระองค์ในปี 2542



ยังไม่ทันเห็นหลักฐานอะไรเลย เพียงแค่พระรูปหนึ่ง เป็นพระธรรมฑูตที่อ้างตัว

ว่าสืบเชื้อสายศากยวงศ์ ออกมาให้ข่าว ก็

เป็นตุเป็นตะ แต่ที่เห็นจะๆ ไม่มีใครพูดอะไร นี่เกิดอะไรขึ้น

 

ส่วนเรื่องแฟ้มคดีต่างๆนั้น เขียนอ่ะเขียนได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ทั้งกรม

ศาสนา พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา สื่อมวลชน ไม่มีใครมีหลักฐานพอจะ

ให้ถึงที่สุดเลย มีแต่คนให้สัมภาษณ์แต่ไม่มีใครมาเป็นพยาน


ทางวัดพระธรรมกาย ก็ยังขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา


ผมมีอะไรชวนคิดน่ะ

เมื่อก่อนคนมาวัดพระธรรมกายน้อย ก็มีศาลาจาตุมหาราชิการองรับสูงสุด500

คนไม่กี่ปีผ่านไป เจ้าอาวาสคนเดิม มีสานุศิษย์เรือนหมื่น จึงต้องสร้างที่บัง

แดด บังฝนจึงเป็นที่มาของสภาธรรมกายสากลหลังคาจาก(หลังเก่า) ต่อมาผ่าน

งานมาหลายครั้งที่สภาหลังเก่าไม่พอจุคน หลายครั้งที่สาธุชนนับพันคนไม่มีที่

นั่งฟังธรรม ต้องตากฝนก็หลายครั้ง ลำบากพระเณรต้องมาปรับพื้นที่ จึงเป็น

ที่มาสภาธรรมกายสากลปัจจุบัน เมื่อคนมามากเข้า ผมอยากชวนคิดว่าจะทำสิ่ง

ต่อไปนี้อย่างไร

1. เมื่อคนศรัทธามากแล้ว คุณจะหาที่จอดรถให้พวกเขาอย่างไรหากไม่ซื้อที่เพิ่มเติม

2. คุณจะบริหารการเงินอย่างไรให้เป็นระบบ ไม่ให้บกพร่อง วิธีการบริหารการเงินที่ดีนั้น มีไม่กี่วิธีหรอก บางคนก็อาจคิดว่าบริหารเสมือนแอมเวย์ กีฟฟารีน

3. การจะจัดงานอะไรแต่ละที เงินบริจาคมีมาก หากจัดงานเล็กๆ พิธีกรรมเห็นไม่ทั่วถึง คุณคิดว่าสาธุชนจะรู้สึกอย่างไร แต่จัดงานใหญ่ๆที่คุ้มค่ากับเงินที่ได้รับบริจาคมาก็หาว่า Over

น่าสงสัย ทำไมวัดต้องสร้างใหญ่ ข้อคิด รอบตัว


บางคนอาจจะว่า มาวัดนี้ ต้องทำบุญมากๆ แต่ถ้าเราไม่ทำซะอย่าง

ใครจะทำไม เงินอยู่กับเรา เราไม่สละ ก็ปล่อยให้คนอื่นสละไป ไม่

เห็นต้องเห็นช้างขี้แล้วขี้ตามช้างเลย ไม่งั้น คนที่เข้าเว็บพลังจิตที่

ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งวิหารทาน สร้างพระ งานวัด งานบวช งาน

เต็มไปหมด โอนเงินกันสนั่น ผมเองเข้าไปทุกวัน เลือกทำบุญที่เรา

ถูกอัธยาศัยบ้าง นี่ก็เพิ่งโอนเงินไป1,500บาท สร้างกำแพงวัด3ช่อง แต่ทำไมไม่เป็นข่าวว่าเข้าเว็บนี้แล้วเงินหมด ก็

เพราะเราไม่ทำก็ได้นิครับ เข้าวัดพระธรรมกายก็เช่นกัน ที่ได้ยินมา

นั้น มันเป็นส่วนน้อย เพราะคนนับล้านคน มันต้องมีบ้างแหละครับ

ประเภทที่เห็นช้างขี้แล้วก็ขี้ตามช้าง และมีเหล่ามหาเศรษฐีผู้ใจบุญ

ที่สามารถทำบุญทีเป็นสิบล้านอยู่มาก จุดนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่เพราะ

กระเทือนถึงมโนจิตของมนุษย์ที่ได้ยินเพราะมีความตระหนี่เป็นปกติ




จากศาลาจาตุมหาราชิกา ถึง สภาธรรมกายสากล










จากบ้านธรรมประสิทธิ์ ถึง วัดพระธรรมกาย

 

นิจจัง สุขขัง อัตตา VS นิจจัง สุขขัง อนัตตา

เมื่อใจเข้าถึง ก็จะเข้าใจสภาวธรรมะภายในได้เอง

แต่ก็สามารถที่จะศึกษาธรรมะจากทฤษฎีควบคู่ไปด้วยได้ครับ


คำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั้นแปลว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัว

ตน ซึ่งก็คือ หลักไตรลักษณ์นั่นเอง

ขอบเขตของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา กินความขนาดไหน

กินความขนาดทุกสรรพสิ่งในโลกและจักรวาลครับ คือ โลกและจักรวาล ล้วน

ไม่เที่ยง เดี๋ยวก็มีดวงดาวเกิดดับๆ เป็นเรื่องปรกติ ไม่มีดาวดวงไหนอยู่ค้ำ

จักรวาล

ดังนั้น สรรพชีวิตทุกอย่างในจักรวาล ไม่เว้นแม้แต่ พรหม อรูปพรหม ก็ไม่

เที่ยงทั้งนั้น เมื่อหมดบุญก็ต้องจุติ(ตาย) ครับ

นอกจากไม่เที่ยงแล้วก็เป็นทุกข์ครับ คำว่า เป็นทุกข์นี่หมายความทนอยู่ใน

สภาพเดิมไม่ได้นะครับ เดี๋ยวบางคนจะงงว่า แล้วภูเขาจะเป็นทุกข์ได้อย่างไร

เป็นทุกข์ในกฏไตรลักษณ์หมายถึง มันทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้นั่นเอง

และเป็นอนัตตา คือ ทุกสรรพสิ่งในโลกและจักรวาลล้วนไม่ใช่ตัวตนที่ควรไป

ยึดมั่นถือมั่นน่ะครับ

จุดประสงค์ของการมองทุกสรรพสิ่งในโลกและจักรวาล ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง

และอนัตตา ก็เพื่อให้ปลดปล่อยวาง อย่าได้ไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นที่พึ่งให้

แก่เราไม่ได้นั่นเองครับ แล้วหันมา พึ่งในสิ่งที่เป็นที่พึ่งให้แก่เราได้ครับ อัน

ได้แก่ นิพพาน

นิพพานนั้น เป็นนิจจัง สุขขัง ครับ แต่ที่มันยุ่งก็คือ ไม่มีคำที่ระบุตรงๆว่า

นิพพานเป็นอัตตา น่ะครับ จึงมีความเห็นมาตั้งแต่โบราณกาล เป็น 2 ฝ่าย

บางพวกก็เห็นว่า นิพพานเป็นอัตตา บางพวกก็เห็นว่า นิพพานเป็นอนัตตา

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ปฏิบัติไปให้ถึงนิพพานนั่นแหละครับ

เพราะต่อให้เชื่อผลผิด แต่ถ้าปฏิบัติถูก ก็ไปถูกได้ครับ เช่น สมมุติบางคน

เชื่อว่า เชียงใหม่มีภูเขา แต่บางคนเชื่อว่า เชียงใหม่มีทะเล หากทั้งสองเอา

แต่เถียงกัน โดยไม่ยอมไปเชียงใหม่ ย่อมไม่มีใครยอมใคร แต่ถ้าทั้งสองกาง

แผนที่ไปเชียงใหม่ขึ้นมา แล้วขับรถไปตามแผนที่ พอถึงเชียงใหม่เห็นแต่

ภูเขาก็เข้าใจได้เอง แม้จะเชื่อว่า เชียงใหม่มีทะเล แต่เมื่อมีแผนที่ ก็สามารถ

ถึงเชียงใหม่ และได้รับความรู้ที่ถูกต้องได้ครับ ไม่มีปัญหาเลย

ปัญหาคือ ต้องมีแผนที่ไปให้ถูกเท่านั้นเอง คือ ปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา

ไม่ปฏิบัติ ตระหนี ไร้ศึล(รวมใส่ร้ายคนอื่น) และความว้าวุ่นของจิต อย่างนี้ต่อ

ให้บังคับคนอื่นให้เชือว่า นิพพาน เป็นอะไร แต่ก็ไม่มีวันไปถึงนิพพานน่ะ

ครับ

​

 

เรียนถามคุณวงบุญพิเศษ(ด้วยความเคารพ)
ข้อความที่เขียนบนแท่นหินอ่อน อยู่ส่วนไหนของพระไตรปิฎกครับ(พระสูตร,พระวินัยหรือพระอภิธรรม) ผมจะได้ศึกษาบ้าง ถ้าไม่ใช่ก็กรุณาอย่าลงรวมไว้ครับ อาจเกิดการสับสนได้ ถ้าใช่ก็ขอข้อมูลและขออภัยในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมด้วยครับ

 

ผมสงสัยว่าคุณวิถีคนจร เห็นภาพเหล่านี้ตามที่ต่างๆแล้วจะทำอย่างไร




หากชาวพุทธไม่ทำ แล้วใครจะทำ


ถ้าไม่ทำแล้วจะซื้อที่ดินยังไง



หากน้ำยาล้างจานไม่พอกระทันหัน พระขาดปัจจัย จะเอาขี้เถ้าล้างหรือ



หากไม่บริจาค ใครจะมาสร้างกุฎิ ยุคนี้ไม่มีอนาถบิณฑิกเศรษฐีเหมาแล้วน่ะ



ค่าน้ำ ค่าไฟล่ะ แล้วจะสร้างศาลายังไง



สร้างเจดีย์ยังไง หรือจะไม่มีพระเจดีย์เพิ่มขึ้นอีกแล้ว



สร้างห้องน้ำยังไง คุณวิถีคนจรเหมาบุญเลยไหม



ศาลานี้คงไม่มี เราจะไม่มีที่ปฎิบัติธรรม นั่งตากฝนไปเถอะ



กำแพงนี้จะสร้างยังไง คุณวิถีคนจรเหมาอีกหรือเปล่า



จะเอาเงินที่ไหนมาบูรณะ หรือคุณวิถีคนจรรับไปอีก



จะตั้งเสาวิทยุยังไง



แลกกับวิธีกำจัดเหลือบศาสนา แต่เกิดปัญหาเหล่านี้ ผมไม่เอาด้วย

หรอกครับ


การพูดว่า "หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา โดยการไม่ถวายเงิน" นั้น

เป็นคำพูดที่ทิ้งปัญหาต่างๆไว้ ผู้พูดมิทันได้คิดไปไกล คิดแบบคนไม่

เคยทำงานใหญ่ คิดแบบคนอ่อนประสบการณ์

 

ข้อความบนแท่นหินอ่อน วางปะปนกันอยู่กับพระไตรปิฎกทั้ง45เล่ม

คนรู้จักเคยไป เล่าให้ผมฟังว่าอยู่ในส่วนอภิธรรมปิฎก โดยไม่มีการ

แยกแยะอย่างชัดเจนว่าเป็นวิชชาธรรมกาย แต่หลังจากวันเปิดงาน

ได้มีการโยกย้ายแท่นหินอ่อนวิชชาธรรมกายออกไปสักระยะ แต่

เหมือนว่าหาที่ไว้ไม่ได้ ปัจจุบันก็ได้มาปรากฎอยู่ที่เดิม

 

ที่ผมนำพระไตรปิฎกหินอ่อนมาแสดง มิใช่ว่าเป็นการปกป้องสำนักใดสำนักหนึ่ง

แต่เป็นการชี้ให้เห็นว่า แม้ไม่มีหลักฐาน แต่ก็มีการกระพือข่าวเสียขนาดนี้

หากคิดให้ดี เป็นการดิสเครดิตอย่างชัดเจน เพราะงานของวัดพระธรรมกาย

กำลังลุกโชนได้ที่


โดยเรื่องและภาพของพระไตรปิฎกชุดนี้ ผมนำมาจากอินเตอร์เน็ท ซึ่งก็

เหมือนกันกับทุกท่านที่นำกรณีกล่าวร้ายวัดพระธรรมกายมาจากอินเตอร์เน็ท

เช่นกัน ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่คลาดเคลื่อนได้ ผมเองก็ไม่เคยไปดู มีแต่คนที่เค้ามา

เล่าและถ่ายรูปมาให้ดู


ผมเข้าไปอ่านข่าวเรื่องที่ว่าวัดพระธรรมกายจะแก้พระไตรปิฎก มีคนแสดงความ

คิดเห็นมากมาย กว้างขวางทั้งๆที่ยังไม่มีหลักฐาน เสมือนว่าสังคมนี้ทุ่มเทชีวิต

จิตใจให้กับพระศาสนาอย่างมาก แต่พอมีการชี้แจงออกมาจากวัดพระธรรมกาย

หลายคนเหมือนเสียใจ ผิดหวังที่ทำไมไม่แก้เพราะจะได้เกิดกรณีธรรมกายเพิ่ม

เติม สะใจที่ได้ด่าอีก คุณเชื่อผมมั้ยว่าข่าวนี้จะยังถูกกล่าวขานนานนับสิบปี

และต้องมีรุ่นน้องของพวกเรามาถกเถียงกันอีกว่าสมัยนั้นแก้หรือไม่ได้แก้

เหมือนข่าวหลายๆกรณีในอินเตอร์เน็ท ทั้งนี้ยังปรากฎว่ามีผู้หวังดี นำข้อมูลของ

วัดพระธรรมกายไปโพส ว่าไม่มีการแก้พระไตรปิฎก แต่คนอ่านก็เหมือนเอาหู

ไปนา เอาตาไปไร่ ไม่สนใจและก็แสดงความคิดเห็นออกมา ด่าวัดอีก


ลองคิดดูน่ะว่า หากแก้พระไตรปิฎกจริง โดยมิได้มีคณะสงฆ์ทั่วโลกร่วมด้วย

ใครจะไปยอมรับพระไตรปิฎกชุดนี้ ยิ่งวัดพระธรรมกายทำอย่างเงียบๆด้วยแล้ว

ผลเสียย่อมมีมาก และพระไตรปิฎกในปัจจุบันก็แพร่หลายมาก ง่ายต่อการ

เปรียบเทียบฉบับเก่า-ใหม่ แล้วใครจะปัญญาน้อยไปแก้ได้ เพราะผลเสียมีมาก

ผลดีไม่มีเลย ไม่ใช่กฎหมายน่ะ ที่บางคนแก้ให้ขายหุ้นโดยไม่เสียภาษี อาศัย

เสียงข้างมากในสภา แล้วก็ใช้กฎหมายนั้นคนแรกเลย แล้วออกมาบอกว่า

กฎหมายเขียนอย่างนั้น แต่นี่เป็นพระไตรปิฎก



ผมยังไม่เจอคนแบบนี้ในกระทู้นี้น่ะ แต่หลายเว็บมีมาก ที่คนแสดงความคิดเห็น

เหมือนจะรู้มาก และทุ่มชีวิตเพื่อพระศาสนา แต่เขากลับไม่รู้ว่าตอนนี้พระ

ศาสนามีภัย วัดทั่วประเทศร้างเสีย6,000กว่าวัด อีก10,000มีเพียงหลวงตา

ชราภาพรูปเดียวคือตกในสถานภาพวัดใกล้ร้าง พระทั้วประเทศที่สำรวจกันนั้น

ปรากฎว่ามีพระประมาณ 170,000 รูปแต่พบว่าเป็นการสำรวจช่วงเข้าพรรษา

พออกพรรษาก็มีที่ลาสิกขากว่า 40% และนี่คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่าทำไมต้อง

บวชพระแสนรูป และกำลังจะเป็นล้านรูป

 

เราขอบใจนายจริงๆเลย นายเป็นคนที่อธิบายสิ่งที่เราอยากจะอธิบายให้คนที่เข้าใจผิดฟังได้อย่างลึกซึ่งเข้าใจชัดเจน ซึ่งบางทีเราไม่รู้จะพูดอธิบายยังไง บางทีเราก็โมโหนะ แต่โมโหคนพวกนี้ไปก็เท่านั้นเพราะเค้าเอาแต่อยู่หน้าจอไม่เคยได้สนใจปฏิบัติจริงๆจังๆเลย ขอบคุณมากๆครับ

 

คุณวงบุญ ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณสื่อออกมา... ผมอยากจะบอกว่า สิ่งที่ทำให้เกิดประโยชน์กับศาสนา ผมเห็นด้วย แต่สำหรับคำว่า "หยุดถวายปัจจัยกับพระภิกษุสงฆ์" นั้นผมก้อเห็นด้วย แต่ ไม่ได้หมายความอย่างที่คุณๆทั้งหลายเหมาหมด ว่าไม่ถวายอะไรเลย อย่างที่ทราบ ทุกวันนี้ ค่าใช้จ่ายมากมาย ถ้าไม่ถวายจะเอาเงินมาจากไหน ผมถึงแสดงความคิดเห็นในอีกกระทู้นึงไงครับ แต่เข้าใจอยู่ว่า อาจจะปฎิบัติได้ยาก แต่นั่นเป็นเพราะเราไม่ช่วยกันต่างหาก เพราะสิ่งที่ผมและชาวพุทธอีกหลายๆคนอยากให้ศาสนาเรา ปราศจากเหลือบศาสนา ซึ่งดูจากจริตของคุณ คุณอาจบอกว่า ไม่อยากก้าวล่วงพระสงฆ์ ผมถามหน่อยว่า ถ้าเรามัวแต่นิ่งเฉย โยนให้กรมการศาสนาเป็นคนแก้ไข แล้วไม่แก้ไข เราจะยังนิ่งเฉยอยู่อีกหรือ จะรอดูพระที่เห็นแก่ผลประโยชน์ มั่วสตรี สารพัดชั่ว แบบไม่ทำอะไรเลย มัวรอแต่ให้กรรมตามทัน อย่างนี้หรือที่เรียกว่าเป็นพุทธศาสนิกชน ขนาดผมแค่ลองเข้ามาเปิดประเด็นบางเรื่อง เห็นหลายๆคนยังรับความจริงไม่ได้ ออกมาโพสว่าผม แต่ความเป็นจริงในสังคมนี้ กลับปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรม เสียดายความเป็นชาวพุทธจริงๆเลย ทั้งๆที่ศาสนาพุทธเรา เป็นศาสนาที่ดีที่สุดในสายตาของผม ผมโพสบางเรื่องเพราะอยากเห็นศาสนาเราเป็นที่เลื่อมใสของคนทั้งโลก
และผมโค-ตระ เบื่อไอ้พวกเด็กน้อย STUPID ที่ออกมาระรานใช้วาจาหมาๆ ด่าคนอื่น โดยไม่ได้แหกตาดูว่า ที่นี่เขามีไว้แสดงความคิดเห็น แต่เมื่อเขาแรงมา ผมก้ใช้ความแรงกับเขาบ้าง

 

อ่านแล้วเหมือนจะฉลาดนะ แต่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ดูหมิ่นพระสงฆ์เป็นบาปกรรม ปิดสววรค์เปิดนรก เกรียนกัปปะ หยุดทำบาปซะเถอะ แล้วยิ่งไม่ฉลาดถ้าเห็นวัดดีเป็นวัดไม่ดีแล้วโจมตีแบบนี้ บาปกรรมหนักเลยเกรียนกัปปะ นี้เค้าเรียนว่าคนโง่ ได้เรียนหนังสือมาป่ะเนี้ย เกรียนกัปปะ

 

ไม่ทราบว่าสร้างเนื้อหาธรรมกายเพิ่มเติมด้วยวัตถุประสงค์ใด

ถ้าหาที่ตั้งไม่ได้ ผมเสนอให้นำไปตั้งวัดธรรมกายดูจะเหมาะสมกว่า

จะได้ไม่สร้างความสับสนให้ชาวพุทธ ที่เขากำลังศึกษาพระไตรปิฏก


หากเป็นไปได้ควรทำหนังสือร้องเรียน แจ้งไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

อันนี้ไม่ทราบ ต้องไปถามที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญดูครับ