๙๙๙ อิทธิมงคล มหาบารมี วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ๙๙๙

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย FALCON1, 9 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. เด็กท้ายตลาด

    เด็กท้ายตลาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +412

    กระแอม...กระแอ๊ม...กระแอ๊ม...อึม.อึม.อึม....อย่างนี้ผมมีเครียดเลยนะ กดดันเหลือเกิน.......
     
  2. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

    " ศีลห้า "

    ศีล ๕ ข้อ คือ
    ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
    ๒. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
    ๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
    ๔. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ
    ๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย
    อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท


    เพียงรู้จักว่าศีล ๕ ข้อมีอะไรบ้างเท่านั้น ยังไม่พอ ผู้รักษายังต้องรู้เลยไปถึงว่า ท่านวางกฎ
    เกณฑ์ไว้อย่างไรในการวินิจฉัยว่าทำอย่างไรแค่ไหนจึงล่วงศีล คือศีลขาด โดยใช้กฎเกณฑ์ในการวินิจฉัยที่
    ท่านเรียกว่า องค์ของศีล เป็นเครื่องตัดสิน ถ้าครบองค์ของศีลข้อนั้นๆ ศีลข้อนั้นก็ขาด ถ้าไม่ครบองค์ที่
    วางไว้ ขาดไปหนึ่งหรือสองข้อ ถือว่าศีลไม่ขาด แต่ศีลก็เศร้าหมอง องค์ของศีลที่ท่านวางไว้จึงเป็นเครื่อง
    เตือนใจให้สำรวมระวังไม่ประมาท

    ศีลข้อ ๑ มีองค์ ๕ คือ
    ๑. <SUP>*</SUP>ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
    ๔. อุปกฺกโม เพียรเพื่อจะฆ่า
    ๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความเพียรนั้น
    ------------------------------------------------------
    <SUP>*</SUP> อรรถกถาบางแห่งใช้ว่า ปรปาโณ คือสัตว์อื่นที่มีชีวิต มิได้หมายถึงตัวเอง เพราะฉะนั้น
    การฆ่าตัวเองจึงไม่ล่วงกรรมบถ เพราะไม่ครบองค์ของศีลข้อนี้

    ถ้าครบองค์ ๕ ศีลข้อ ๑ ก็ขาด ถ้าไม่ครบ ๕ ข้อ ศีลไม่ขาด แต่ก็เศร้าหมอง
    โทษของศีลข้อ ๑ นี้ อย่างหนักทำให้ไปเกิดในอบาย เป็นสัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์
    เดรัจฉาน อย่างเบาทำให้อายุสั้นเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์

    ถึงกระนั้นโทษของการล่วงศีลข้อนี้ก็หนักเบาต่างกันด้วยร่างกายของสัตว์ ๑ ด้วยคุณของสัตว์ ๑
    ด้วยเจตนา ๑ และด้วยความพยายาม ๑

    กล่าวคือ ถ้าฆ่าสัตว์ใหญ่ โทษก็มาก ถ้าฆ่าสัตว์เล็ก โทษก็น้อย
    ถ้าฆ่าสัตว์มีคุณมาก โทษก็หนักมาก ถ้าฆ่าสัตว์มีคุณน้อย โทษก็น้อยลดหลั่นกันลงไป
    ถ้าเจตนา คือความจงใจแรง โทษก็แรง ถ้าเจตนาคือ ความจงใจอ่อน โทษก็น้อย
    ความพยายามมากโทษก็มาก ความพยายามน้อยโทษก็น้อย

    แต่อย่าได้คิดว่าเมื่อท่านฆ่าสัตว์เล็ก ทั้งมีคุณน้อย มีความจงใจอ่อน และมีความพยายามน้อย
    โทษก็น้อย คงจะไม่น่ากลัว อย่าลืมว่า บาปอกุศลนั้นถึงแม้จะเล็กน้อยก็ไม่ควรทำ เพราะเมื่อสำเร็จเป็น
    กรรมแล้ว ย่อมพาไปอบายได้เช่นเดียวกับโทษหนักเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจไปอยู่ในอบายชั่วระยะเวลา
    อันสั้น ไม่ยาวนานเหมือนโทษหนัก เพราะฉะนั้นจึงควรสังวรระวังไม่ประมาทแม้โทษเพียงเล็กน้อย

    ใน อรรถกถาวัมมิกสูตร มัช.มูล. เล่าถึงพวกโจรที่ฆ่าอุบาสกที่เป็นพระอนาคามีว่าทำให้ตา
    บอดทันที เพราะผู้ถูกฆ่าเป็นสัตว์ใหญ่ มีคุณธรรมสูง เจตนาของโจรก็แรง ผลจึงเกิดขึ้นในปัจจุบันทันที
    ยังไม่ต้องกล่าวถึงโทษที่จะเกิดในอนาคตว่าจะร้ายแรงแค่ไหน

    ศีลข้อ ๒ มีองค์ ๕ คือ
    ๑. ปรปริคฺคหิตํ ของมีเจ้าของหวงแหน
    ๒. ปรปริคฺคหิตสญฺญิตา รู้ว่ามีเจ้าของหวงแหน
    ๓. เถยฺยจิตฺตํ จิตคิดจะลัก ( ทั้งโดยคิดลักเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นลักแทน )
    ๔. อุปกฺกโม เพียรเพื่อจะลัก
    ๕. เตน หรณํ นำของมาด้วยความเพียรนั้น

    ถ้าครบองค์ ๕ ศีลข้อสองนี้ก็ขาด
    โทษของศีลข้อสองนี้ อย่างหนักทำให้ไปเกิดในอบายเช่นเดียวกับศีลข้อ ๑ อย่างเบาทำให้ทรัพย์
    สมบัติพินาศไปเมื่อเกิดเป็นมนุษย์

    ศีลข้อ ๓ มีองค์ ๔ คือ
    ๑. อคมนียวตฺถุ วัตถุที่ไม่ควรถึง (คือชาย หรือหญิงที่มีเจ้าของ หรือมีผู้คุ้มครองดูแลรักษา)
    ๒. ตสฺมึ เสวนจิตตํ จิตคิดจะเสพในวัตถุนั้น
    ๓. เสวนปฺปโยโค พยายามที่จะเสพ
    ๔. มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ อธิวาสนํ ทำมรรคต่อมรรคให้ถึงกัน

    ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อ ๓ นี้ก็ขาด
    ศีลข้อนี้ขึ้นอยู่กับเจตนา และคุณของผู้ถูกล่วงด้วย กล่าวคือ ถ้าจงใจมากโทษก็หนัก ถ้าจงใจ
    น้อยโทษก็น้อย ถ้าผู้ถูกล่วงเป็นผู้มีศีลโทษก็หนัก เช่นในสมัยพุทธกาล นันทมาณพล่วงเกินนางอุบลวรรณา
    อรหันตเถรี โทษถึงธรณีสูบก่อนแล้วจึงตกนรกอเวจี

    โทษของศีลข้อ ๓ นี้ อย่างหนักทำให้เกิดในอบาย อย่างเบาทำให้มีศัตรู คู่เวร เมื่อเกิดเป็นมนุษย์
    (ในชาดกแสดงว่าทำให้เกิดเป็นกระเทย หรือเมื่อเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือมนุษย์แล้วต้องถูกตอน)

    ศีลข้อ ๔ มีองค์ ๔ คือ
    ๑. อตถํ วตฺถุ เรื่องไม่จริง
    ๒. วิสํวาทนจิตฺตํ จิตคิดจะพูดให้ผิด
    ๓. ตชฺโช วายาโม พยายามพูดออกไป
    ๔. ปรสฺส ตทตฺถวิชานนํ คนอื่นเข้าใจเนื้อความนั้น

    ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อ ๔ ก็ขาด
    โทษของศีลข้อ ๔ นี้ อย่างหนักทำให้เกิดในอบาย อย่างเบาทำให้ถูกกล่าวตู่ด้วยคำที่ไม่เป็น
    จริง ในเมื่อเกิดเป็นมนุษย์

    ศีลข้อ ๕ มีองค์ ๔ คือ
    ๑. มทนียํ ของทำให้เมามีสุราเป็นต้น
    ๒. ปาตุกมฺยตาจิตฺตํ จิตใคร่จะดื่ม
    ๓. ตชฺโช วายาโม พยายามดื่ม
    ๔. ปีตปฺปเวสนํ ดื่มให้ไหลล่วงลำคอเข้าไป


    ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อที่ ๕ ก็ขาด
    <SUP>*</SUP> โทษของศีลข้อ ๕ นี้ อย่างหนักทำให้เกิดในอบาย อย่างเบาทำให้เป็นบ้า ขาดสติ ในเมื่อ
    เกิดเป็นมนุษย์
    ------------------------------------------------------
    <SUP>*</SUP> โทษของศีลทั้ง ๕ ข้อ จากสัพพลหุสสูตร อํ. อัฏฐกนิบาต ข้อ ๑๓๐

    ในปัจจุบันนี้มีสิ่งเสพติดที่มีโทษมากกว่าสุราและเมรัย เช่นกัญชา และยาเสพติดเป็นต้น แม้จะ
    ไม่จัดไว้แต่เดิม แต่ถ้าเสพแล้วก็สงเคราะห์เข้าว่าขาดศีลข้อ ๕ นี้เช่นกัน โดยอาศัยมหาประเทศ ๔
    ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในวินัยเป็นเครื่องตัดสิน

    ศีลทั้ง ๕ ข้อนี้ เมื่อผู้ใดล่วงเข้า ถือว่าล่วงกรรมบถมีโทษมาก จัดเป็นเวร คือก่อให้
    เกิดผลร้ายทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

    เช่นเมื่อล่วงศีลข้อ ๑ มีผลทำให้เกิดในอบาย หรือทำให้มีอายุสั้นเป็นต้น ทั้งเป็น โลกวัชชะ คือ
    มีโทษที่ชาวโลกควรเว้น กล่าวคือ ศีลทั้ง ๕ ข้อนี้ ถึงใครจะรักษาหรือไม่รักษาก็ตาม เมื่อประพฤติล่วงเข้า
    แล้ว ย่อมเกิดโทษแก่ผู้ล่วงนั้นทั้งสิ้น ทำให้ได้รับโทษเกิดในอบายเป็นต้น

    เพราะฉะนั้นจึงควรเว้นสิ่งที่มีเวรมีโทษเสีย

    อนึ่ง ผู้ที่ไม่ฆ่าสัตว์ แต่ชอบเบียดเบียนสัตว์ให้เป็นทุกข์เดือดร้อน แม้ศีลข้อที่ ๑ ไม่ขาด แต่ก็
    ขาดธรรม คือเมตตากรุณา ด้วยเหตุนี้ผู้ที่จะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์หมดจดจริงๆ จึงต้องมีธรรมที่คู่กับศีล
    แต่ละข้อกำกับไว้ด้วย คือ

    ๑. เมตตากรุณา คู่กับศีลข้อที่ ๑ เมตตา นั้นได้แก่ ความปรารถนาจะให้ผู้อื่นเป็นสุข ส่วน
    กรุณา นั้นปรารถนาจะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
    ๒. สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีวิตชอบ คู่กับศีลข้อที่ ๒ ในที่นี้หมายถึงการประกอบอาชีพที่สุจริต
    ไม่ผิดศีลผิดธรรม เพื่อให้ได้ทรัพย์สินมาใช้สอยเลี้ยงดูตนเองและผู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน
    ๓. ความสำรวมในกาม คือยินดีเฉพาะคู่ครองของตน คู่กับศีลข้อที่ ๓
    ๔. ความมีสัจจะ คือพูดจริงทำจริง คู่กับศีลข้อที่ ๔
    ๕. ความมีสติ สำรวมระวังไม่ประมาท คู่กับศีลข้อที่ ๕

    ผู้มีทั้งศีลและธรรมคู่กันไป ย่อมเป็นผู้งามพร้อมไม่มีที่ติ เพราะฉะนั้น ศีล ( ที่ประกอบด้วย
    ธรรม ) จึงเป็นอาภรณ์ หรือเครื่องประดับอันประเสริฐสำหรับมนุษย์

    ผู้ที่ปรารถนา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ตลอดจนการเกิดในสุคติเป็นมนุษย์ และเทวดา หรือ
    ปรารถนาจะไม่เกิด คือบรรลุนิพพาน ก็ต้องอาศัยศีล

    พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ความปรารถนาของผู้มีศีลเท่านั้นที่จะสำเร็จ หรือความสำเร็จ
    ผลสมความปรารถนาจะเกิดแก่ผู้มีศีลเท่านั้น

    ทุกคนปรารถนาของดีทั้งสิ้น ไม่มีใครปรารถนาของไม่ดี เมื่อปรารถนาของดีก็ต้องทำดี ผลที่
    ได้รับจึงจะดีตามการกระทำ แต่ถ้าปรารถนาของดีแล้วทำชั่ว ผลที่ได้รับก็ชั่วตามการกระทำ เมื่อได้รับ
    ผลชั่วมีการเกิดในอบายเป็นต้นแล้ว ความปรารถนาเหล่านั้นจะสำเร็จได้อย่างไร

    ผู้ที่ไม่ทำชั่วจึงต้องมีศีลเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกัน

    นอกจากนั้นพระพุทธองค์ยังตรัสว่า ศีล ๕ นี้เป็น มหาทาน<SUP>*</SUP> เป็นทานที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็น
    การให้ความไม่มีเวรไม่มีภัยแก่สัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้ กล่าวคือ




    <SUP>*</SUP>ปุญญาภิสันทสูตร อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ข้อ ๑๒๙


    การรักษาศีลข้อ ๑ คือการงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ทั้งด้วยตนเองและใช้ให้ผู้อื่นฆ่าแทนตน
    เป็นการให้ชีวิตแก่สัตว์ทั้งปวง
    การรักษาศีลข้อ ๒ คืองดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของเขามิได้ให้ เป็นการให้ความ
    ปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น
    การรักษาศีลข้อ ๓ คือการงดเว้นจากการประพฤติผิดในบุตร ภรรยา สามีของผู้อื่น เป็นการ
    ให้ความบริสุทธิ์แก่บุตร ภรรยา สามีของผู้อื่น
    การรักษาศีลข้อ ๔ คือการงดเว้นจากการพูดเท็จ เป็นการให้ความจริงแก่ผู้อื่น
    การรักษาศีลข้อ ๕ คือการงดเว้นจากการดื่มสุราเมรัย และสิ่งเสพติดอันเป็นโทษทุกชนิด
    เป็นการให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง คือให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตสัตว์ ให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สิน
    ของผู้อื่น ให้ความบริสุทธิ์แก่บุตร ภรรยา สามีของผู้อื่น ให้ความจริงแก่ผู้อื่น ทั้งนี้เพราะผู้ที่มึนเมาเพราะ
    สุราเป็นต้น ย่อมขาดสติ สามารถทำความชั่วได้ถึงที่สุด คือฆ่าแม่ฆ่าพ่อก็ได้ เพราะฉะนั้นการงดเว้นจาก
    การเสพสิ่งเสพติด มีโทษเหล่านี้จึงเป็นการให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง

    ก็เมื่อเราได้ให้ความไม่มีเวร ไม่มีภัยแก่สัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้อย่างนี้แล้ว ย่อมได้รับ
    ความไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่ถูกเบียดเบียน หาประมาณมิได้เช่นกัน เพราะเราทำเหตุอย่างใด ย่อมได้รับ
    ผลเช่นนั้น

    ด้วยเหตุนี้ผู้ไม่มีปัจจัยจะบริจาคทาน จึงไม่ควรเสียใจ เพราะกุศลที่สูงกว่าทานที่ไม่ต้องอาศัย
    ปัจจัยก็สามารถบำเพ็ญได้นั้นมีอยู่ กุศลนั้นคือ ศีลกุศล ที่พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมหาทาน ล้ำเลิศกว่า
    ทานธรรมดา ที่ต้องเสียสละของออกไปเสียอีก

    ควรหรือไม่ที่จะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์

    ดังได้กล่าวแล้วว่า ศีล ๕ เป็นศีลของคฤหัสถ์ ที่คฤหัสถ์ทั้งชายหญิงควรรักษาเป็นปกติ เป็น
    ประจำตลอดชีวิต
    .....................................................................

    ที่มาจาก
    : http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
    : ประณีต ก้องสมุทร - ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ <BIG>( สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ )</BIG><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    อนุโทมนาบุญครับ

    ศิษย์มีครู

    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2011
  3. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    เจอโดยบังเอิญถูกใจดีม๊ากมาก

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=BjK1juDL728&feature=player_detailpage]YouTube - ปล่อย อ้น ธวัชชัย ชูเหมือน[/ame]
     
  4. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    อันนี้ก็โดน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=frlHH0PTK6M&feature=player_detailpage]YouTube - SMF - อภัย(Acoustique)[/ame]
     
  5. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    เป็นกำลังใจให้ทุกคน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=C9JLkn_5FEs&feature=player_detailpage]YouTube - SMF - ศรัทธา(Acoustique)[/ame]
     
  6. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    เราควรหมั่นทำความดี ในยามที่มีโอกาส

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=iWfYWEtMeIs&feature=player_detailpage]YouTube - SMF - สู้(Acoustique)[/ame]
     
  7. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ



    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>FALCON1, BROSNAN, คชบุตร, thelaw, heyday, suwannamai :cool::cool::cool:

    *ช่วยกันกดตรงช่อง ให้คะแนนกระทู้ ด้วยนะครับ เพื่อกระทู้นี้ของหลวงปู่จะได้ติดดดาว*


    [​IMG] <NOSCRIPT></NOSCRIPT><TABLE style="MARGIN-BOTTOM: 3px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD class=smallfont>[​IMG]</TD><TD align=right>
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=3 border=0><TBODY><TR><TD class=vbmenu_control style="FONT-WEIGHT: normal">หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 13 หน้า</TD><TD class=alt2>1</TD><TD class=alt1>1</TD></TR></TBODY></TABLE>[/LEFT]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  8. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    โครงการของหลวงปู่เรา ยังคงต้องใช้ปัจจัยอีกจำนวนมาก หวังว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=cupmAtPb2yI&feature=player_detailpage]YouTube - พรุ่งนี้ต้องดีกว่า[/ame]
     
  9. BROSNAN

    BROSNAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +2,440
    จะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนครับ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=6LXH9UQCIqU&feature=player_detailpage]YouTube - กำลังใจ อำพล ลำพูน เรวัติ พุทธินันท์ remembered[/ame]
     
  10. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ




    <TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY id=threadbits_forum_15><TR><TD class=alt1 id=td_threadstatusicon_279079 style="CURSOR: hand">[​IMG] </TD><TD class=alt2></TD><TD class=alt1 id=td_threadtitle_279079 title="" style="CURSOR: default">[​IMG] [​IMG] ๙๙๙ อิทธิมงคล มหาบารมี วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ๙๙๙ (6 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 12345678910111213)
    [​IMG] FALCON1
    </TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 248, จำนวนอ่าน: 4,037">
    เมื่อวานนี้ 11:27 PM

    โดย BROSNAN [​IMG]

    </TD><TD class=alt1 align=middle>248</TD><TD class=alt2 align=middle>4,037</TD></TR></TBODY></TABLE>​

    *****
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:



    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  11. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ
    อานิสงส์ของการรักษาศีล 5 ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ

    คำว่า ศีล ได้แก่สภาพเช่นไร ศีลอย่างแท้จริงเป็นไปด้วยความมีสติ รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระวังการระบายออกทางทวารทั้งสาม คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในขอบเขตของศีลที่เป็นสภาพปกติ ศีลที่เกิดจากการรักษามีสภาพปกติไม่คะนองทางกาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด นอกจากความปกติงดงามทางกาย วาจา ใจ ของผู้มีศีลว่าเป็นศีล เป็นธรรม

    เราควรรักษาศีล 5

    1. สิ่งที่มีชีวิต เป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียน ข่มเหง และทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป
    2. สิ่งของของใคร ๆ ก็รักและสงวน ไม่ควรทำลาย ฉกลัก ปล้น จี้ เป็นต้นอันเป็นการทำลายสมบัติและทำลายจิตใจกัน
    3. ลูก หลาน สามี ภรรยา ใคร ๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง ไม่ปรารถนาให้ใครมาอาจเอื้อม ล่วงเกิน เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ
    4. มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่นให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้เดรัจฉานก็ไม่พอใจคำหลอกลวง จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย
    5. สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดี ๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าลงโดยลำดับ ผู้ต้องการเป็นคนดีมีสติปกครองตัว อย่างมนุษย์จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายสุขภาพทางร่างกายและใจอย่างยิ่ง เป็นการทำลายตัวเอง และผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน

    อานิสงส์ของการรักษาศีล 5
    1. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
    2. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
    3. ระหว่างลูก หลาน สามี ภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำกล้ำกรายต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข
    4. พูดอะไร มีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ด้วยศีล
    5. เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง จับโน่นชนนี่เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้ ผู้มีศีล เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลกให้ มีแต่ความอบอุ่นไม่เป็นระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า

    ศีล นั้นอยู่ที่ไหน มีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนา คือ จิตใจ คนเราถ้าจิตไม่มี ก็ไม่เรียกว่าตน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่าง ๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหาหลงขอคนที่หา คนที่ขอ ต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไรยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยาก ยากเข็ญยิ่งไม่มี

    กายกับจิต เราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้จากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์แล้ว จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล

    ผู้มีศีล ย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีล ย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ สมบูรณ์ ไม่อด ไม่อยาก ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์ จิตดวงเดียว เป็นศีลเป็นสมาธิ เป็นปัญญา

    ผู้มีศีลแท้ เป็นผู้หมดเวรหมดภัย

    ที่มา : คติธรรม คำสอน ของ องค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร

    http://palungjit.org/threads/%E0%B...B0.212013/<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->


    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  12. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

    คุณชีวะธันต์ ร่วมทำบุญบูชา วัตถุมงคล รุ่น "ฉลองมงคล ๙๓ " ดังนี้

    1.เหรียญเสมาเนื้อนวโลหะหน้ากากเงินลงยาจีวรเหลือง จำนวน 3 เหรียญ
    [​IMG]

    อนุโมทนบุญครับ

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  13. ejob

    ejob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +366
    สวัสดีพี่น้อง ศิษย์หลวงปู่หงษ์ทุกท่าน

    ไม่รู้จะพูดอะไรเอาเบี้ยแก้รุ่นแรกหลวงปู่หงษ์มาให้ชมกันเล่นๆครับ
    ตัวเล็กๆทำจากเปลือกหอย อุดมวลสารไว้+จีวร
    มีแผ่นเงินปั๊ม ปู่หงษ์ ติดไว้ข้างใต้

    ส่วนปีการสร้างหรือประวัติ ประสบการณ์ไม่ทราบครับ
    พี่ๆท่านใดมีความรู้ช่วยแนะนำด้วยครับ:cool:

    [​IMG]
     
  14. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

    " ศีลห้า "

    รักษาศีล ๕ ข้อ แล้วได้อะไร ?


    คำปรารภ
    <O:p</O:p
    หนังสือรักษาศีล ๕ แล้วได้อะไร...ในหนังสือเล่มนี้ เนื้อความ คำอธิบายมีครบถ้วนอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าได้ตรัสอบรมสั่งสอนไว้นับตั้งแต่ต้นกัป ตั้งแต่พระกกุสันโธ พระโกนาคะมะโน พระกัสสะโป พระโคตะโมสัมมาสัมพุทธเจ้า<O:p</O:p
    ท่านสั่งสอนมานับสิบล้านปีมาแล้ว ผู้ใดประพฤติตาม ก็จะมีความสุขความเจริญ สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ เมื่อละโลกนี้ไปก็จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ถ้าไม่ประพฤติตามก็สู่อบาย(ทุคติภูมิ) เดียรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก<O:p</O:p
    ขอให้ท่านสาธุชน จงประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ได้รวบรวมไว้จากพระไตรปิฎกนี้ ท่านจะมีอานิสงส์ ๑๐๓ ประการ ประเสริฐกว่าความเป็นเอกราชในแผ่นดิน ประเสริฐกว่าการกำเนิดเป็นเทพในสวรรค์<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    พระเทียบ ถิรธัมโม<O:p</O:p
    (เทียบ ถิรวัฒน์)<O:p</O:p
    ๗ ตุลาคม ๒๕๔๖<O:p</O:p<O:p</O:p



    <O:p</O:p



    <O:p</O:p



    <O:p</O:pสมบัติที่หาได้ยาก
    <O:p</O:p

    ๑. คติสมบัติ คือการได้อัตภาพมาเป็นมนุษย์ เป็นของยาก<O:p</O:p
    ๒. กาลสมบัติ การได้เกิดมาในเวลาที่มีคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นของยาก<O:p</O:p
    ๓. ปเทสสมบัติ คือการได้อยู่ในประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเป็นของยาก<O:p</O:p
    ๔. กุลสมบัติ คือได้อยู่ในตระกูลหรือกลุ่มที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา เป็นของยาก<O:p</O:p
    ๕. อุปธิสมบัติ คือการได้อัตภาพบริบูรณ์ไม่พิการ ใบ้, บ้า, บอด, หนวก, เป็นของยาก<O:p</O:p
    ๖. ทิฏฐิสมบัติ คือการที่เป็นผู้มีความเห็นถูกต้อง คือ เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นของยาก<O:p</O:p
    ใครได้มีสมบัติครบ ๖ ประการนี้แล้ว ได้ชื่อว่า เป็นผู้มีบุญมาก มีวาสนาดี มีกองทุนชีวิตที่อุดมสมบูรณ์

    <O:p</O:p


    ความรู้เรื่อง ศีล ๕<O:p</O:p



    รักษาศีล ๕ ข้อ แล้วได้อะไร ?
    <O:p</O:p

    เรื่องของศีลข้อที่ ๑ คือเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการเบียดเบียนชีวิตซึ่งกันและกัน เนื่องจากชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนรัก ทุกคนหวงแหน แม้สัตว์ทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน รักชีวิต หวงชีวิต กลัวชีวิตจะต้องตาย ทุก ๆ ชีวิตไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย ต่างดิ้นรนต่อสู้ทุกวิถีทาง เพื่อให้ชีวิตของตนอยู่รอด แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ดีมีความสุข พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติศีลข้อที่ ๑ ด้วยเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายรักชีวิตของตนเป็นอันดับ ๑
    <O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๑ ปาณาติปาตา เวรมณี<O:p</O:p
    เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่า...ถ้าไม่เว้นย่อมยังสัตว์ให้ไปเกิดในนรก ในสัตว์เดรัจฉาน ในเปรตวิสัย...และเมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกจะได้รับผล ๙ ประการ คือ<O:p</O:p
    ๑. เป็นคนทุพพลภาพ ๒. เป็นคนรูปไม่งาม<O:p</O:p
    ๓. มีกำลังกายอ่อนแอ ๔. เป็นคนเฉื่อยชา<O:p</O:p
    ๕. เป็นคนขี้ขลาด ๖. เป็นคนถูกผู้อื่นฆ่า, และฆ่าตัวเอง<O:p</O:p
    ๗. โรคภัยเบียดเบียน ๘. ความพินาศของบริวาร<O:p</O:p
    ๙. อายุสั้น และให้ผลติดต่อกันหลายชาติ
    <O:p</O:p
    รักษาศีลข้อที่ ๑ แล้วได้อะไร ?<O:p</O:p
    ๑. ได้รับผลปฏิสนธิกาล คือได้เกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา เรียกว่า กามสุคติภูมิ <O:p</O:p
    ๒. ได้รับผลในปวัตติกาล คือ หลังจากเกิดแล้ว เช่น หลังจากเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ได้รับผลอีก ๒๓ ประการ
    <O:p</O:p
    อานิสงส์แห่งการรักษาศีลข้อที่ ๑ มี ๒๓ ประการ<O:p</O:p
    ๑. สมบูรณ์ด้วยอวัยวะน้อยใหญ่ ๒. มีร่างกายสมทรง<O:p</O:p
    ๓. สมบูรณ์ด้วยกำลังกาย ๔. มีเท้างามประดิษฐานลงด้วยดี<O:p</O:p
    ๕. เป็นผู้มีผิวพรรณสดใส ๖. มีรูปโฉมงามสะอาด<O:p</O:p
    ๗. เป็นผู้อ่อนโยน ๘. เป็นผู้มีความสุข<O:p</O:p
    ๙. เป็นผู้แกล้วกล้า ๑๐. เป็นผู้มีกำลังมาก<O:p</O:p
    ๑๑. มีถ้อยคำสละสลวยเพราะพริ้ง ๑๒. มีบริษัทรักใคร่ไม่แตกแยกจากตน<O:p</O:p
    ๑๓.เป็นคนไม่สะดุ้งตกใจกลัวต่อภัยเวร๑๔.ข้าศึกศัตรูทำร้ายไม่ได้ <O:p</O:p
    ๑๕. ไม่ตายด้วยความเพียรฆ่าของผู้อื่น ๑๖. มีบริวารหาที่สุดมิได้ <O:p</O:p
    ๑๗. มีรูปร่างสวยงาม๑๘. มีทรวดทรงสมส่วน <O:p</O:p
    ๑๙. มีความเจ็บไข้น้อย ๒๐. ไม่มีเรื่องเสียใจเศร้าโศก <O:p</O:p
    ๒๑. เป็นที่รักของชาวโลก ๒๒. ไม่พลัดพรากจากสิ่งที่รักแลชอบใจ<O:p</O:p
    ๒๓. มีอายุยืน
    <O:p</O:p
    ศีลข้อ ๒ อทินนาทานา เวรมณี...เว้นจากลักทรัพย์ด้วยตนเองหรือใช้ผู้อื่นลัก<O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า อทินนาทาน อันบุคคลเสพแล้วเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้ไปเกิดในนรก ในกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน ในเปรตวิสัย วิบากแห่งอทินนาทานอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความพินาศแห่งโภคะให้เป็นไปแก่ผู้เกิดเป็นมนุษย์ มีสมบัติก็ต้องพินาศ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกจะได้รับผล ๖ ประการ<O:p</O:p
    ๑. เป็นคนด้อยทรัพย์ ๒. เป็นคนยากจน<O:p</O:p
    ๓. เป็นคนอดอยาก ๔. ไม่ได้สมบัติที่ตนต้องการ<O:p</O:p
    ๕. ต้องพินาศในการค้า <O:p</O:p
    ๖. ทรัพย์พินาศเพราะภัยต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ราชภัย <O:p</O:p
    โจรภัย เป็นต้น<O:p</O:p

    รักษาศีลข้อที่ ๒ แล้วได้อะไร ?<O:p</O:p
    ๑. ได้รับผลในปฏิสนธิกาล คือได้เกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา เรียกว่า กามสุคติภูมิ <O:p</O:p
    ๒. ได้รับผลในปวัติติกาล คือหลังจากเกิดเป็นมนุษย์แล้ว จะได้รับผลอีก ๑๑ ประการ
    <O:p</O:p
    อานิสงส์ของการรักษาศีลข้อที่ ๒ มี ๑๑ ประการ<O:p</O:p
    ๑. จะเป็นผู้มีทรัพย์มาก ๒. มีข้าวของและอาหารมาก<O:p</O:p
    ๓. หาโภคทรัพย์ได้ไม่สิ้นสุด ๔. โภคทรัพย์ที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น<O:p</O:p
    ๕. โภคทรัพย์ที่ได้ไว้แล้วก็ยั่งยืนถาวร<O:p</O:p
    ๖. หาสิ่งที่ปรารถนาได้รวดเร็ว ๗. สมบัติไม่กระจายด้วยภัยต่าง ๆ<O:p</O:p
    ๘. หาทรัพย์ได้โดยไม่ถูกแบ่งแยก๙. ได้โลกุตตรทรัพย์คือนิพพาน<O:p</O:p
    ๑๐. อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข ๑๑. ไม่รู้ไม่เคยได้ยินคำว่าไม่มี
    <O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๓ กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี...เว้นจากการประพฤติผิดในกาม<O:p</O:p
    ถ้าไม่เว้นจะเกิดอะไรขึ้น...พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า บุคคลเสพแล้ว เจริญให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้ตกนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย
    <O:p</O:p
    ทำกาเมสุมิจฉาจาร แล้วได้อะไร ? ทำแล้วหากเกิดเป็นมนุษย์อีก ได้รับผล ๑๑ ประการ คือ<O:p</O:p
    ๑. มีผู้เกลียดชังมาก ๒. มีผู้ปองร้ายมาก<O:p</O:p
    ๓. ขัดสนทรัพย์ ๔. ยากจนอดอยาก<O:p</O:p
    ๕. เป็นหญิง ๖. เป็นกระเทย<O:p</O:p
    ๗. เป็นชายในตระกูลต่ำ ๘. ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ<O:p</O:p
    ๙. ร่างกายไม่สมประกอบ ๑๐. มากไปด้วยความวิตกกังวล<O:p</O:p
    ๑๑. พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก<O:p</O:p
    ...ผลทั้ง ๑๑ ประการนี้เป็นเศษของกรรมกาเมสุมิจฉาจารให้ผลหลังจากไปตกนรก ไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน หรือหลังจากไปเกิดเป็นเปรตมาแล้ว เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะได้รับผลของกาเมสุมิจฉาจารในปวัตติกาลดังกล่าวแล้ว
    <O:p</O:p
    รักษาศีลข้อ ๓ แล้วได้อะไร ?<O:p</O:p
    การละเว้นจากการประพฤติผิดในกามเสียได้ จะได้รับผล ๒ ขั้น คือ<O:p</O:p
    ๑. ได้รับผลในปฏิสนธิกาล คือเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา เรียกว่าได้ปฏิสนธิในกามสุคติภูมิ<O:p</O:p
    ๒. ได้รับผลในปวัตติกาล คือหลังจากเกิดแล้ว เช่นถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะได้รับผลอีก ๒๐ ประการ
    <O:p</O:p
    อานิสงส์ของการรักษาศีลข้อที่ ๓ มี ๒๐ ประการ<O:p</O:p
    ๑. ไม่มีข้าศึกศัตรู ๒. เป็นที่รักของคนทั่วไป<O:p</O:p
    ๓. นอนเป็นสุข ๔. ตื่นก็เป็นสุข<O:p</O:p
    ๕. พ้นภัยในอบายมุข ๖. ไม่อาภัพไม่เกิดเป็นหญิงหรือกระเทย<O:p</O:p
    ๗. ไม่โกรธง่าย ๘. ทำอะไรก็ได้โดยเรียบร้อย<O:p</O:p
    ๙. ทำอะไรเปิดเผยแจ่มแจ้ง ๑๐. มีความสง่า คอไม่ตก<O:p</O:p
    ๑๑. หน้าไม่ก้ม มีอำนาจ ๑๒. มีแต่เพื่อนรักทั้งบุรุษและสตรี<O:p</O:p
    ๑๓. มีอินทรีย์ ๕ บริบูรณ์ ๑๔. มีลักษณะบริบูรณ์<O:p</O:p
    ๑๕. ไม่มีใครรังเกียจ ๑๖. ขวยขวายน้อยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมาก<O:p</O:p
    ๑๗. อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข ๑๘. ไม่ต้องกลัวภัยจากใคร ๆ<O:p</O:p
    ๑๙. ไม่ค่อยพลัดพรากจากของที่รัก<O:p</O:p
    ๒๐. หาข้าว, น้ำ, ที่อยู่, เครื่องนุ่งห่มได้ง่าย
    <O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๔ คือให้เว้นจากการพูดเท็จ พูดไม่เป็นความจริง พูดโกหก หรือพูดมุสา<O:p</O:p
    ถ้าไม่เว้นจากมุสาวาทหรือพูดเท็จอะไรจะเกิดขึ้น...พระพุทธเจ้าตรัสว่า มุสาวาทอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย<O:p</O:p
    ผลจากการกล่าวมุสาวาทอย่างเบาที่สุดย่อมยังการแตกจากมิตรให้เป็นไปแก่ผู้เกิดเป็นมนุษย์
    <O:p</O:p
    การกล่าวมุสาวาทแล้ว จะได้อะไร ?<O:p</O:p
    การกล่าวมุสาวาทหรือการพูดเท็จปราศจากความจริง เมื่อกล่าวออกไปแล้วจะได้รับผล ๒ ขั้น คือ<O:p</O:p
    ๑. ได้รับผลในปฏิสนธิกาล คือเกิดในนรก ดิรัจฉาน เปรตวิสัย<O:p</O:p
    ๒. ได้รับผลในปวัตติกาล คือหลังจากเกิดแล้ว และผลที่ได้รับในปวัตติกาลนี้ จะครบองค์มุสาวาทหรือไม่ก็ตาม ถ้าได้เกิดมาเป็นมนุษย์จะได้รับผลอีก ๘ ประการ คือ<O:p</O:p
    ๑. พูดไม่ชัด ๒. ฟันไม่เป็นระเบียบ<O:p</O:p
    ๓. ปากเหม็นมาก ๔. ไอตัวร้อนจัด<O:p</O:p
    ๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ <O:p</O:p
    ๖. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้นและปลายปาก<O:p</O:p
    ๗. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย ๘. จิตไม่เที่ยงคล้ายคนวิกลจริต
    <O:p</O:p
    อานิสงส์แห่งการรักษาศีลข้อ ๔ มี ๑๔ ประการ<O:p</O:p
    ๑. มีอินทรีย์ทั้ง ๕ ผ่องใส ๒. มีวาจาไพเราะอ่อนหวาน<O:p</O:p
    ๓. มีฟันเสมอชิด สะอาด ๔. ไม่อ้วนจนเกินไป<O:p</O:p
    ๕. ไม่ผอมจนเกินไป ๖. ไม่สูงจนเกินไป<O:p</O:p
    ๗. ไม่เตี้ยจนเกินไป ๘. กลิ่นปากหอมเหมือนดอกบัว<O:p</O:p
    ๙. ได้สัมผัสแต่ที่เป็นสุข ๑๐. มีบริวารล้วนขยันขันแข็ง<O:p</O:p
    ๑๑. มีถ้อยคำที่บุคคลเชื่อถือได้ <O:p</O:p
    ๑๒. ลิ้นบางแดง อ่อนเหมือนกลีบดอกบัว<O:p</O:p
    ๑๓. ใจไม่ฟุ้งซ่าน ๑๔. ไม่เป็นอ่าง ไม่เป็นใบ้
    <O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๕ คือเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย รวมถึงเครื่องดองของเมา ยาเสพติดให้โทษทุกชนิด
    <O:p</O:p
    โทษของการดื่มสุรา<O:p</O:p
    ทำให้เกิดความประมาทปราศจากการเคารพบิดามารดา พี่น้อง น้าอา แม้อุปัชฌายอาจารย์และสมณะพราหมณ์ ผู้มีศีลก็ไม่เคารพศีลาจารวัตรในการปฏิบัติกายวาจาใจให้บริสุทธิ์ จะทำแต่การบาปหยาบช้า มีกายหยาบ วาจาหยาบ ใจหยาบ ทำแต่อกุศลเป็นนิตย์ ไม่คิดสงสารสัตว์<O:p</O:p
    นอกจากนี้ โทษของการดื่มสุราเมรัยยังพาให้ตกในอบาย นายนิรยบาลจะกรอกด้วยน้ำทองแดง น้ำถึงปากและคอก็จะทำลายไส้พุงขาดกระจายตาย ตายแล้วก็จะกลับฟื้นขึ้นมา เสวยทุกขเวทนาต่อ ๆ กันไป เมื่อพ้นจากอบายแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นคนใบ้ เสียจริตผิดจากมนุษย์ทั้งหลาย จะเป็นเป็นคนใบ้ บ้า เสียจริต ผิดจากมนุษย์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นภัยของชีวิตที่น่ากลัว
    <O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๕ สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวรมณี เว้นจากการดื่มสุราเมรัย ของมึนเมา สิ่งเสพติดให้โทษ<O:p</O:p
    ถ้าไม่เว้น อะไรจะเกิดขึ้น ?<O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า : การดื่มน้ำเมา คือสุรา และเมรัย อันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ยังสัตว์ให้เป็นไปในนรก ในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรตวิสัย<O:p</O:p
    ผลแห่งการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัยอย่างเบาที่สุด ย่อมยังความเป็นบ้าให้เป็นไปแก่ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์
    <O:p</O:p
    ถ้าผิดศีลข้อที่ ๕ จะได้อะไร ?<O:p</O:p
    การดื่มสุรา เมรัย หรือสิ่งเสพติดให้โทษจะได้รับผล ๒ ขั้น คือ<O:p</O:p
    ๑. ได้รับผลในปฏิสนธิกาล, เกิดในนรก, ดิรัจฉาน, เปรตวิสัย<O:p</O:p
    ๒. ได้รับผลในปวัตติกาล คือหลังจากเกิดแล้วและผลที่จะได้รับในปวัตติกาลนี้จะครบองค์หรือไม่ก็ตาม ถ้าได้เกิดมาเป็นมนุษย์จะได้รับผลจากการดื่มสุรา ๖ ประการ คือ<O:p</O:p
    ๑. ทรัพย์ถูกทำลาย ๒. เกิดวิวาทบาดหมาง<O:p</O:p
    ๓. เป็นบ่อเกิดแห่งโรค ๔. เสื่อมเกียรติ<O:p</O:p
    ๕. หมดยางอาย ๖. ปัญญาเสื่อมถอยหรือพิการทางปัญญา
    <O:p</O:p
    รักษาศีลข้อ ๕ จะได้อะไร ?<O:p</O:p
    ถ้าเว้นจากการดื่มสุรา เมรัย หรือเว้นจากสิ่งเสพติดให้โทษจะได้ผลดี ๒ ประการ<O:p</O:p
    ๑. ได้รับผลดีในปฏิสนธิกาล คือจะเกิดในกามสุคติภูมิ มีมนุษย์หรือสวรรค์เป็นที่เกิด<O:p</O:p
    ๒. ได้รับผลในปวัตติกาล คือหลังจากเกิดแล้ว ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์จะได้รับอานิสงส์จากเว้นดื่มน้ำเมา ๓๕ ประการ
    <O:p</O:p
    อานิสงส์แห่งการรักษาศีลข้อที่ ๕ มี ๓๕ ประการ<O:p</O:p
    ๑. รู้กิจการ อดีต อนาคต ปัจจุบันได้รวดเร็ว<O:p</O:p
    ๒. มีสติตั้งมั่นทุกเมื่อ ๓. มีปัญญาดี มีความรู้มาก<O:p</O:p
    ๔. มีแต่ความสุข ๕. มีแต่คนนับถือยำเกรง<O:p</O:p
    ๖. มีความขวนขวายน้อยหากินง่าย ๗. มีปัญญามาก<O:p</O:p
    ๘. มีปัญญาบันเทิงในธรรม ๙. มีความเห็นถูกต้อง<O:p</O:p
    ๑๐. มีศีลบริสุทธิ์ ๑๑. มีใจละอายแก่บาป<O:p</O:p
    ๑๒. รู้จักกลัวบาป ๑๓. เป็นบัณฑิต<O:p</O:p
    ๑๔. มีความกตัญญู ๑๕. มีกตเวที<O:p</O:p
    ๑๖. พูดแต่ความสัตย์ ๑๗. รู้จักเฉลี่ยเจือจาน<O:p</O:p
    ๑๘. ซื่อตรง ๑๙. ไม่เป็นบ้า<O:p</O:p
    ๒๐. ไม่เป็นใบ้ ๒๑. ไม่มัวเมา<O:p</O:p
    ๒๒. ไม่ประมาท ๒๓. ไม่หลงใหล<O:p</O:p
    ๒๔. ไม่หวาดสะดุ้งกลัว ๒๕. ไม่บ้าน้ำลาย<O:p</O:p
    ๒๖. ไม่งุนงง ไม่เซ่อเซอะ ๒๗. ไม่มีความแข่งดี<O:p</O:p
    ๒๘. ไม่มีใครริษยา ๒๙. ไม่ส่อเสียดใคร<O:p</O:p
    ๓๐. ไม่พูดหยาบ ๓๑.ไม่พูดเพ้อเจ้อไร้ประโยชน์<O:p</O:p
    ๓๒. ไม่เกียจคร้านทุกคืนวัน ๓๓. ไม่ตระหนี่<O:p</O:p
    ๓๔. ไม่โกรธง่าย ๓๕. ฉลาดรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และในสิ่งที่เป็นโทษ
    <O:p</O:p
    อานิสงส์ของความถึงพร้อมด้วยศีล ๕<O:p</O:p
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้ว่า<O:p</O:p
    ดูก่อนคฤหบดีทั้งหลาย อานิสงส์ของความถึงพร้อมด้วยศีลมี ๕ ประการ คือ<O:p</O:p
    ๑. ย่อมประสบซึ่งกองแห่งโภคะใหญ่ คือความไม่ประมาทอันเป็นคุณอย่างยิ่ง<O:p</O:p
    ๒. ย่อมมีชื่อเสียงดีงามฟุ้งขจรไป<O:p</O:p
    ๓. เข้าไปในบริษัทใดก็ตามย่อมเป็นผู้แกล้วกล้าไม่เก้อเขิน<O:p</O:p
    ๔. ผู้มีศีลสมบูรณ์ด้วยศีลย่อมเป็นผู้ไม่หลง ไม่หลงตาย<O:p</O:p
    ๕. เบื้องหน้าเมื่อการแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

    ต.ป.ฎ. เล่ม ๑๐/๑๐๒<O:p</O:p
    ดูก่อนอานนท์ ศีลทั้งหลายเป็นกุศล มีความไม่เดือดร้อนเป็นประโยชน์ มีความไม่เดือดร้อนเป็นอานิสงส์
    <O:p</O:p
    อานิสงส์การสมาทานศีล ๕ ข้อ มี ๑๐๓ ประการ<O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๑ มีอานิสงส์ ๒๓ ประการ<O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๒ มีอานิสงส์ ๓๑ ประการ<O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๓ มีอานิสงส์ ๒๐ ประการ<O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๔ มีอานิสงส์ ๑๔ ประการ<O:p</O:p
    ศีลข้อที่ ๕ มีอานิสงส์ ๓๕ ประการ<O:p</O:p
    รวม ๑๐๓ ประการ

    ....................................................................................................................................................................................​


    ที่มาจาก : http://www.wat-buddhabharami.com/ind...=32414&Ntype=5

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> ​
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  15. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    ได้ข่าวว่า ยอดจองทยอยมาเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้แล้ว
    จะทำให้บางคน ผิดหวังรึเปล่าน่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  16. tum_pyu

    tum_pyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +462
    555555555555555555555
    เครียดอะไรกัน ผมจะดูแลอย่างดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  17. สมาธิ7689

    สมาธิ7689 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ผมมีข้อมูลเท่านี้ครับ แต่ประสบการณ์นั้นผมไม่แน่ใจครับ
    ต้องสอบถามผู้ที่แขวนครับ เท่าที่รู้อยู่ในรุ่นทรัพย์มงคล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC07864.jpg
      DSC07864.jpg
      ขนาดไฟล์:
      751.9 KB
      เปิดดู:
      406
  18. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ


    เบี้ยแก้ รุ่นแรก " รุ่นทรัพย์มงคล "หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี เบี้ยแก้รุ่นแรกนี้มีจำนวนน้อยมาก โดยหลวงปู่หงษ์ เมตตาลงจารยันต์ด้วยปากาเมจิกด้วยตัวท่านเอง ซึ่งเบี้ยแก้จะฝังตะกรุดเงิน อุดปรอท ติดจีวร และหลังจากนั้นยังได้ทำพิธีปลีกเสกอีก 3 วาระ
    คือ วันจักรีที่ 6 เมษายน , วันที่ 7 เมษายน และวันเสาร์ห้าที่ 8 เมษายน 2543


    [​IMG]

    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  19. สมาธิ7689

    สมาธิ7689 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +1,253
    พอได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับเบี้ยแก้ แล้วเป็นปลื้มครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  20. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,521
    ค่าพลัง:
    +4,863
    "น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
    คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ


    :cool::cool::cool: คุณ สมาธิ7689 ครับ ไม่ทราบพอแบ่งให้บูชาบ้างหรือเปล่าครับ :cool::cool::cool:




    ศิษย์มีครู
    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...