สืบสานบูรพาจารย์หลวงปู่แสวง อริโย(ฝังตะกรุดทองคำและแบ่งปันประสบการณ์)

ก่อนงานไหว้ครูทุกๆปีมักจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการวัดได้ปรึกษากันว่าในปีนี้จะนำวัตถุมงคลชิ้นไหนแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน จนได้ข้อสรุปว่าจะนำพระผงเนื้อปูนสีขาวมาแจกในงาน แต่ทางวัดอยากให้มีอะไรเป็นพิเศษกับองค์พระ มีกรรมการท่านหนึ่งเสนอความคิดว่าน่าจะเจิมสีผึ้งสุดยอดหายากจากครูอาจารย์ในอยุธยาและทางสายอิสานที่มีพุทธคุณเด่นโด่งดังทางด้านเมตตามหานิยมที่เก็บไว้หลายสิบปีที่ด้านหน้าองค์พระ หลังจากได้ข้อสรุปเรื่องวัตถุมงคลที่ใช้แจกผู้มาร่วมงานแล้ว กรรมการต่างแยกย้ายไปเตรียมการต่างๆและได้แยกย้ายกลับบ้าน ซึ่งในคืนนั้นเองมีกรรมการท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์สักยันต์ที่มีชื่อทางอยุธยาได้ฝันว่า หลวงปู่แสวงท่านได้เมตตาเดินมาบอกว่า "สีผึ้งของเราก็ใช้ได้นะ" จนทำให้เรื่องที่หลวงปู่มาบอกในฝันต้องเปลี่ยนมาใช้สีผึ้งของท่านเองที่ได้หุงไว้มาหลายปีเจิมที่องค์พระแทน เท่ากับเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นและหวงแหนให้กับผู้ที่ได้บูชาสีผึ้งหลวงปู่แสวงกันถ้วนหน้าครับ

 

ขอเชิญศิษยานุศิษย์ในองค์หลวงพ่อแสวงทุกๆท่าน​

เข้าร่วมงานไหว้ครูบูรพาจารย์ ประจำปี 2554​

พระครูปทุมฏิจโกศล (หลวงพ่อแสวง อริโย)​

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554​

(ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3)​

ณ วัดสว่างภพ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง​

จ.ปทุมธานี

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่ครับ
(เป็นไฟล์ PDF ต้องมีโปรแกรม Acrobat Reader ในเครื่อง ถึงจะเปิดได้นะครับ)
​

 

...อ้าว จิงดิ..ผมจำผิด นึกว่า วันธรรมดา....555....

 

ต้นเดือนหน้า เอ จะส่งพัสดุให้พี่ ขอลูกอมกับสีผึ้งอย่างละ 1 มาให้พี่ใช้ด้วย

ขอบคุณล่วงหน้าครับ..........ขอจริงๆนะ (ไม่ได้โม้)

 

ถ้าไปที่วัด แล้วถามคนที่ดูแลว่า องค์ไหนทัน ลพ. เขาจะรู้ไหมครับ..คิดว่า เร็วๆนี้ จะไปกราบพระที่วัดอะครับ..

 

...เออ..เห็นค่าบูชา แล้ว คงอดไปหลายรายการเลยครับ สูงไม่เบาเลยครับ

 

​

ขอเชิญศิษยานุศิษย์ในองค์หลวงพ่อแสวงทุกๆท่าน

​

เข้าร่วมงานไหว้ ครูบูรพาจารย์ ประจำปี 2554

​

พระครูปทุมฏิจโกศล (หลวงพ่อแสวง อริโย)

​

วันอาทิตย์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554

​

(ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3)

​

ณ วัดสว่างภพ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง

จ.ปทุมธานี

ราย ละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่ครับ
(เป็นไฟล์ PDF ต้องมีโปรแกรม Acrobat Reader ในเครื่อง ถึงจะเปิดได้นะครับ)

ในงานนี้ทางวัดแก้ไขค่าบูชาตอกตะกรุด ทองคำฝังแขน จากบูชา 500 บาท เป็น 300 บาทครับ
​

 

กล้าขอกล้าให้พี่ แต่ได้ลูกอมลูกเดียว บูชามาสามลูก เหลี่ยมทองลูกนึง เหลี่ยมเงินลูกนึง ยังเหลือหนึ่งลูก ให้พี่พอดีแถมจีวรหลวงปู่ไปด้วย จีวรนี่ของแท้ตัดกันสดๆในวัดหลวงน้าสมชายตัดให้....ส่วนสีผึ้งนี่พี่ผมบูชามาตลับเดียว 50 บาทเอาให้หลวงปู่เสกท่านบอกว่า นี่เป็นเทียนชัยนะให้ใส่กระเป๋าเสื้อไว้เหมือนเป็นพระองค์นึง วิธีใช้ไม่ได้ให้สีปากเหมือนสีผึ้งทั่วๆไปนะพี่ ท่านบอกผมให้เอานิ้วป้ายแล้ววนรอบศีรษะสวดอิติปิโส 3 จบ ท่านเสกให้อีกรอบ ตลับนี้หวงมาก เวลาทำงานใหญ่ผมไม่เคยลืมใช้เลยสีผึ้งเทียนชัยหลวงปู่ มั่นใจมากๆ..รู้งี้ตอนนั้นผมบูชามาสักสิบตลับผ่านมือหลวงปู่ด้วย ปล.แล้วท่านยังบอกพระเนื้อขี้เหล็กไหลนี้ดีมาก พระเนื้อขี้เหล็กไหลนี่หลวงปู่แนะนำมาเดี๋ยวผมจะไปดูให้พี่ยังเหลือรึปล่าว ตอนผมไปคราวนั้นหลวงปู่ชี้ให้ดูในกระแป๋งบอกเหลือแค่นั้นและขี้เหล็กไหลทำได้อีกแค่นั้น ได้มาจากวัดหลวงปู่เจียม เนื้อแข็งมากทดลองกันดูที่วัดเอาพระโยนตกพื้นไม่แตก อันนี้ต้องมีไว้พี่มวลสารดี

 

สีผึ้งขอจากตลับนี้แหละ แบ่งมา ใส่ตลับร้านทองมาเลย ปลายนิ้วโป้งก็พอ

สมเด็จเหล็กไหลบูชามาให้พี่องค์หนึ่ง สมเด็จหลังอะ องค์หนึ่ง เชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวโอนเงินไปให้

ขอบคุณครับ............

 

งานมีสองวันนะครับ วันที่ ๕ กับ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ส่วนรายละเอียดงาน พรุ่งนี้จะแจ้งให้ทราบโดยละเอียด แต่บอกได้คำเดียวว่า "ปีนี้สุดยอด"

 

วันงาน คนคงเยอะมากซิครับ....ไม่ไหวครับ คนเยอะมากไป จะหาโอกาสไปวันอื่นครับ.....อยากไปวันไหว้ครูครับ แต่คนเยอะมากก็ไม่ไหวครับ

 

คนไม่เยอะครับ..มีโรงทานเลี้ยงด้วย ปีที่แล้วครอบครูแรกๆก็ต่อแถวสักครึ่งชั่วโมงก็ไม่ต้องต่อแล้ว ส่วนมากก็มีชาวบ้านกับลูกศิษย์จากถิ่นอื่นๆ ไม่เยอะจนแออัดเบียดเสียดกัน...สบายๆครับ

 

ไม่ใช่สมเด็จเหล็กไหลพี่ ..ขี้เหล็ไหล หลวงปู่ท่านว่าอย่างนั้น มีความศักดิ์สิทธิ์ ในตัวอยู่แล้ว...เดี๋ยวจัดให้ตามคำขอ สีผึ้งผมเหลือแค่ไม่ถึงครึ่งตลับ เพราะผมแบ่งให้น้าชายไปแกจะไปทำงานใหญ่ มาหาผมผมเลยแนะนำและแบ่งให้แกไป ...แต่เดี๋ยวจัดให้นิดหน่อย

 

....ใจดีจังครับ แล้วพอจะมีอะไรเหลือให้ผมบ้างไหมอะครับ ถือว่าเป็นศิษย์น้องใหม่ละกันครับ

 

ไปเจอที่วัดวันไหว้ครู..เดี๋ยวมีของดีจัดให้ หน้าตาตามรูปหาไม่ยาก555

 

ท่านหนึ่งต้องจัดไปแล้วครับ รับน้องใหม่555

 

ขอบคุณมากหนึ่ง

ได้พระหลวงปู่มาหลายองค์แล้ว เอาติดตัวด้วย แต่ยังไม่เคยทำบุญกับท่านเลย

ขอเลขบัญชีมาทางPM ด้วย ต้นเดือนจะโอนตังค์ให้

 

ไปด้วยคนครับ

 

คุยกันสบายๆกับ อาจารย์เทพ

รายละเอียดตะกรุดทองคำ

ขอความเจริญสุขและโชคดีจงดีแด่ผู้เคารพนับถือและศรัทธาในองค์หลวงพ่อแสวงทุกท่าน

สวัสดีครับ..บรรดาสานุศิษย์ของวัดสว่างภพทุกท่าน กระผม "อ.เทพ" นานๆทีจะได้เข้ามาคุยเองในเว็บนี้ก็คงจะเป็นเรื่องเบาๆ เล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับตะกรุดทองคำฝังใต้ท้องแขน ในสมัยก่อนที่หลวงพ่อยังทรงสังขารอยู่ ตะกรุดทองคำเป็นวิชาที่ท่านหวงมาก ท่านจะนั่งจารเองทุกดอก ทุกตัว ภายในตะกรุดทองคำนั้นบรรจุ "นะ" อยู่ 3 ตัว คือ นะทรหด นะราชสีห์ และนะครุฑ กระผมเคยสอบถามหลวงพ่อ หลวงพ่อก็เล่าให้ฟังว่า "ของหลวงพ่อคูณนั้น ท่านใช้ "มะอะอุ" แค่ 3 ตัว" ส่วนของท่านใช้นะ 3 ตัวดังที่กล่าวมานี้ ซึ่งเป็นนะครูของท่าน ซึ่งท่านสำเร็จมา ผมก็เลยถามท่านต่อไปอีกว่า "แล้ววิชาฝังเข็มทองคำละครับ เขาทำกันอย่างไร" ท่านหัวเราะหึๆ ตามแบบฉบับของท่าน แล้วท่านก็บอกว่า "มันอยู่ที่เสก วิชาตะกรุดทองคำนั้นเขาสร้างให้เข็มมีชีวิต โดยประจุธาตุทั้งสี่ และมีรายละเอียดในการปลุกเสกอีกปลีกย่อย จึงทำให้เข็มสามารถวิ่งได้ เตือนภัยได้ แต่จะมีปัญหานิดหนึ่ง ตอนที่เข็มวิ่งเข้าไปรับคมดาบคมกระสุน พระเถราจารย์ท่านนั้นต้องเสกน้ำมันงาวงรอบอวัยวะสำคัญภายในร่างกายของผู้ฝังเข็มทองคำ เพื่อเป็นารป้องกันไม่ให้เข็มวิ่งไปแทง" กระผมก็เลยถามต่อไปอีกว่า "ทำไมหลวงพ่อไม่สร้างเข็มทองคำบ้างล่ะครับ" ท่านตอบว่า "ตะกุดทองคำก็พอแล้ว ใช้ได้ดีเหมือนกัน และไม่มีอันตรายสำหรับอวัยวะภายใน" ผมเลยถามท่านต่อไปอีกว่า "เคยมีคนที่ฝังตะกรุดทองคำไปแล้ว อยู่ๆตะกรุดหายไปจากท้องแขน มันหายไปไหนครับหลวงพ่อ" ท่านตอบว่า "มันก็กลับไปสู่ถิ่นเก่าของมันน่ะแหล่ะ ถ้าเจ้าของทำไม่ดี" ผมเลยถามท่านต่อไปอีกว่า "แล้วอีกรายนึงฝังตะกรุดไปแล้ว เกิดอาการตะกรุดตอดที่ใต้ท้องแขนจนเจ็บไปหมดนั้นหมายความว่าอย่างไรครับ" ท่านตอบว่า "มันก็เหมือนกับเข็มทองคำที่เทพถามน่ะแหล่ะ แล้วท่านก็หัวเราะ หึๆ เหมือนเดิม" ผมเลยถึงบางอ้อนับแต่นั้นมา

สาเหตุของการสร้างตะกรุดทองคำย้อนยุค:
ในช่วงไหว้ครูปีสุดท้าย ก่อนที่หลวงพ่อจะละสังขาร ท่านนั่งคร่ำเคร่งจารตะกรุดทองคำเป็นจำนวนมาก จนหลับพับคาไปกับโต๊ะจาร ผมเห็นภาพนั้นแล้วสงสารหลวงพ่อมาก ที่ท่านตั้งใจที่จะช่วยสานุศิษย์ของท่าน หลังเสร็จสิ้นงานไหว้ครูปีนั้น ผมเข้าไปกราบท่านแล้วเรียนกับท่านว่า "หลวงพ่อครับ ผมไม่ได้อยากเด่นอยากดังอะไร ผมถามจริงๆครับ ตะกรุดทองคำฝังแขนนั้น ถ้าผมจะช่วยหลวงพ่อจาร ผมจะมีความสามารถจารได้ไหมครับ" ท่านมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า "ได้" ผมก็เลยถามท่านไปอีกว่า "ต่อไปงานไหว้ครูคงจะมีคนมาในงานมากกว่านี้เป็นเท่าตัว ผมอยากจะช่วยหลวงพ่อจารตะกรุด และเรียกสูตรตามที่หลวงพ่อได้สั่งสอนผมไว้ จะได้เบาแรงหลวงพ่อ และวิชาตะกรุดทองคำฝังแขนนี้ ผมจะให้เป็นวิชาที่อยู่คู่วัดสว่างภพและจะไม่ใช้วิชานี้เพื่อส่วนตัว" หลังจากนั้นอีกไม่นานก่อนที่ท่านจะละสังขารท่านได้ขยายเคล็ดวิชาการจารและการปลุกเสกตะกรุดทองคำฝังแขนให้กับข้าพเจ้าอย่างไม่ปิดบังอำพราง

กำเนิดตะกรุดทองคำย้อนยุค:
หลวงพ่อแสวง วัดสว่างภพท่านเรียนวิชามามากมาย แต่วิชาสองสายใหญ่ๆคือ วัดพระญาติฯ จ.อยุธยา และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา

ตะกรุดชุดนี้ถูกจารเบื้องหน้าหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อ ก่อนวันเสาร์ห้าหนึ่งคืน จารและเรียกสูตรจนครบจำนวน 200 ดอก จากนั้นจึงทำการจุดธูปอันเชิญดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อแสวง ทำการเสกก่อนเป็นปฐมฤกษ์ จนข้าพเจ้าและหลวงน้าสมชายสัมผัสได้ถึงกระแสดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อว่าท่านมาจริงๆ หลังจากนั้นในวันเสาร์ห้า จึงนำไปใ้ห้หลวงปู่ผ่าน ฉันทโก ศิษย์เองของหลวงปู่สรวง เทพพระเจ้าแห่งบ้านละลม ปลุกเสกให้อีก 3 วาระ หลังจากนั้น อาจารย์ทอง วัดพระญาติฯ จ.อยุธยา ได้นำตะกรุดชุดนี้ไปถวายให้กับหลวงพ่อเฉลิมแห่งวัดพระญาติฯ ซึ่งท่านก็ได้เมตตาปลุกเสกให้อย่างยาวนานเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ภายในห้องกุฏิส่วนตัวของท่าน และตะกรุดทองคำชุดนี้จะถูกนำออกมาเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกในวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ ในช่วงเวลาสวดธรรมจักรและอิติปิโส 108 อีกครั้งหนึ่ง โดยมีพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคมขั้นสูงดังรายนามต่อไปนี้
1.หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติฯ จ.อยุธยา
2.หลวงพ่อเสวก(ศิษย์เอกหลวงปู่นะ) วัดหนองบัว จ.ชัยนาท (สายหลวงปู่ศุข)
3.พระอาจารย์ตรีอมร(พระอาจารย์เบียร์) ศิษย์เอกหลวงพ่อแสวง
4.พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.อยุธยา (หุ่นพยนต์แดงแรงฤทธิ์)
5.พระอาจารย์ปุ้ม วัดชุมพลนิกายาราม จ.อยุธยา (เป็นพระเถราจารย์ภาคกลางที่พระเกจิอาจารย์ภาคใต้นิมนต์ให้ท่านปลุกเสกในพิธีเสกจตุคามรามเทพบ่อยมากที่สุด)
6.พระอาจารย์เผชิญ โกวิโท วัดขนอนเหนือ (ศิษย์หลวงพ่อพรหม ติสเทโว วัดขนอนเหนือ
7.พระอาจารย์แดง วัดชุมพลนิกายาราม จ.อยุธยา (ศิษย์เอกหลวงปู่ผ่าน ฉันทโก เทพเจ้าแห่งความคงกะพัน แห่งท้องทุ่งปราจีนบุรี)

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีปลุกเสกแล้วก็สามารถทำการฝังได้เลย

เจตนารมณ์ในการสร้างตะกรุดทองคำฝังแขน:
1.อนุรักษ์วิชาสายวัดสว่างภพไม่ใ้ห้สูญหายไปตามกาลเวลา
2.รายได้ทุกบาททุกสตางค์ สู่สาธารณกุศล
3.อ.เทพ แค่จาร มิได้ปลุกเสกแต่อย่างใด เพราะเป็นเพียงฆราวาสถือศีลห้าธรรมดา
4.ตะกรุดทองคำปลุกเสกเดี่ยว โดยพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคมขั้นสูงสายวัดพระญาติฯ
5.ทำการบวงสรวงและอันเชิญพระวิญญาณของหลวงพ่อแสวงลงปลุกเสกตะกรุดทองคำพร้อมกับพระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคมร่วมพุทธาภิเษกหมู่เพิ่มเติม ในวันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 ในเวลาประมาณ 17.00 น.

สุดท้ายนี้ ขอบรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือในองค์หลวงพ่อแสวงแห่งวัดสว่างภพ จงประสบแต่ความสุขและความเจริญในหน้าที่การงาน และขออนุโมทนาบุญในผลบุญกุศลของท่านที่ได้สร้างสรรค์แด่วัดสว่างภพให้เจริญทันตาเห็นจนเป็นรูปธรรม ขอผลบุญมหากุศลในครั้งนี้จงมีแด่ท่านตลอดปีกระต่ายทอง 2554 ทุกๆท่านเทอญ

ทั้งนี้ กระผมอ.เทพ เข็มทอง ในนามตัวแทนศิษย์วัดสว่างภพขอเชิญชวนสาธุชนทุกท่านเข้าร่วมพิธีในวันที่ 5(เสริมดวง) และ 6 กุมภาพันธ์(ครอบเศียรครู) โดยพร้อมเพรียงกัน(ไม่มีเงินก็เข้าพิธีได้)

 

ในปีนี้มีตะกรุดทองคำที่จะใช้ฝังท้องแขนมีแค่ ๒๐๐ ดอกเท่านั้นนะครับ งานนี้ต้องรีบกันหน่อยนะครับเพราะนานๆทีมีครั้ง พร้อมร่วมทำบุญสร้างศาสนสถานภายในวัด เรียกได้ว่า "ได้ทำบุญ ได้ของดีติดตัว"