ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

อยากทราบเกี่ยวกับเทียนมหาลาภครับผม

 

5555..ลพ.กลับมาแล้ว รีบหาโอกาสไปกราบท่านครับ ทุกๆคน

 

ดีใจจังหลวงพ่อ กลับมาแล้ว อาทิตย์หน้าจะแวะเข้าไปกราบท่าน

พร้อมนำรถเข้าไปให้ให้เจิม เพื่อเป็นศิริมงคล ด้วย

ท่านมีกิจนิมนต์ไปไหนไหมครับช่วงวันพุธหน้า

ขอบคุณครับ

 

หลวงพ่อเณร ญาณวินโย กับการเรียนวิชาทำ เทียนมหาลาภ

วิชาทำเทียนนั้นไม่ได้มีแค่เพีบงเพื่อสะเดาะห์เคราะห์ หรือแค่เรียกลาภเท่านั้น แต่ยังมีเทียนที่จุดเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆขึ้นอยู่กับผู้สร้างต้องการอีกเช่น คดีความ อาพาธพินาศ พลิกดวง กำจัดศัตรู รวมถึงการกระทำคนให้พินาศ ฯลฯ แต่ที่หลวงพ่อเณรท่านเห็นความสำคัญสุดที่ควรจะทำออกมาให้ผู้คนทั่วไปใช้คือ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์ แล้วก็เรียกลาภ จะมีอะไรดีกว่า หมดเคราะห์ หมดโศก มีโชคมีลาภ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้คนทุกคน ส่วนแบบอื่นขึ้นอยู่กับท่านว่าจะสงเคราะห์ใครเมื่อไรเป็นกรณีๆไป


ตำราการทำเทียนต่างๆนั้น หลวงพ่อเณรท่านเริ่มเรียนตั้งแต่เป็นเณร ทั้งจากสายเหนือ สายพม่า สายเขมร จากอาจารย์หลายท่านมาก

ส่วนตำราการทำเทียนมหาลาภที่หลวงพ่อเณรทำนี้ เป็นสายเหนือที่ท่านเรียนมาจากอาจารย์ของท่าน คือ ครูบาหมวก วัดดอนมูล (ลูกศิษย์ของครูบาศรีวิชัย) ซึ่งเวลาท่านมาทำธุระที่กรุงเทพฯท่านก็จะมาจำวัดที่ วัดสลุด สมุทรปราการ

ครูบาหมวกได้เริ่มสอนวิชาต่างๆแก่หลวงพ่อเณร เช่นการตั้งจิต การเสกตะกรุด .... และที่สำคัญสุดก็คือการทำเทียนแบบต่างๆจนครบ หลังจากนั้นท่านก็ได้มาเยี่ยมเป็นประจำ จนย้ายมาตั้งวัดทุ่งเศรษฐี ท่านก็ยังคงเดินทางมาพักที่วัดเป็นประจำเพื่อสอบทานวิชากับหลวงพ่อเณรอยู่บ่อยๆ

การทำเทียนนั้นขั้นตอนมีมากและการเสกเทียนก็จะต่างจากการเสกวัตถุมงคลอื่นๆ เทียนแต่ละแบบมีรายละเอียดต่างกัน ทั้งเรื่องยันต์ ที่อยู่ในไส้เทียน ของที่ใช้บรรจุในไส้ เทียนบางแบบที่ยันต์ไส้เทียนต้องใส่ข้อมูลเช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด ใส่ผม ใส่เล็บ หรือบางแบบต้องให้เขียนคำอธิษฐาน คาถาที่ใช้เสกขณะทำไส้เทียน เสกขณะฟั่นเทียน ก็แตกต่าง รายละเอียดมีมากขอไม่กล่าวในที่นี้

สำหรับการสอบวิชาทำเทียนนั้น ครูบาหมวกท่านจะให้เขียนชื่อท่านไว้ในไส้เทียนด้านในแล้วจึงจะจุดเทียน ครูบาหมวกท่านจะเข้าสมาธิเพื่อตรวจดูว่าใช้ได้หรือไม่ ทำอย่างนี้เป็นเวลา 2 อาทิตย์ แล้วท่านบอกว่า "ใช้ได้แล้ว ทำแทนฉันได้แล้วจ้ะ"

ตั้งแต่นั้นมาครูบาหมวกท่านก็ไม่ทำเทียนอีกเลย ใครขึ้นไปให้ครูบาหมวกที่เชียงใหม่เพื่อให้ท่านทำเทียนให้ ท่านก็ส่งให้ลงมาหาหลวงพ่อเณร ที่วัดทุ่งเศรษฐีแทนทุกครั้ง

หมายเหตุ
ให้สังเกตเทียนขี้ผึ้งที่จุดในงานต่างๆของวัดทุ่งเศรษฐี จะเป็นเทียนที่ฟั่นเองในวัดทั้งสิ้น ล้วนเป็นเทียนยันต์ ใช้ยันต์อะไรขึ้นกับวัตถุประสงค์นั้นๆ ซึ่งหลวงพ่อเณรท่านได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ท่านต่างๆมาตลอดชีวิต ทุกวันนี้ก็ยังไม่หยุดเรียน

 

คุณ Lukkrok ครับ

สาริการ้อยรัก ราคา 400.-
กับสาริกา ราคา 200.-
กับสมเด็จสาริกาองค์สีชมพู ราคา 200.-

เห็นเป็น สาริกา เหมือนกันหมด ทำไมถึงสร้างมา 3 แบบครับ

 

ไม่รู้จะรอคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Lukkrok<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4261869", true); </SCRIPT> มาตอบนะ ไม่รู้หลวงพ่อเณรได้วิชาผานไถมารึยัง เห็นท่านบอกจะไปเรียนกับหลวงปู่เลิบ วิชานี้สุดยอดมาก เพราะมีอนุภาพพลิกชะตาได้ วิชานี้มีไม่กี่คนสำเร็จ

 

ตำราสาริกาที่หลวงพ่อท่านร่ำเรียนมามีเยอะครับ อาจารย์แต่ละท่านก็จะมีเคล็ดวิชา อีกทั้งตัวคาถาหรือของที่ต้องใช้เพื่อจัดสร้าง รวมทั้งกรรมวิธีในการสร้าง มีทั้งที่ไม่เหมือนกัน บางท่านก็คล้ายกัน แต่ก็มีความต่างด้วย

หลวงพ่อเณรท่านก็จึงทำวัตถุมงคลออกมาหลายแบบ เนื่องจากคนเราชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบห้อยพระ บางคนชอบเครื่องราง ชอบตะกรุด ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวมวลสาร และการเสกนั้นท่านจะเลือกของท่านเองว่าจะจัดสร้างแบบไหนอย่างไร

ตะกรุดสาริการ้อยรักก็แบบนึง น้ำมันที่ใช้ก็มีความพิเศษ
สมเด็จสาริกา กับ สาริกาญาณวินโย ก็ใช้มวลสารบางอย่างเหมือนกัน แต่ก็มีส่วนต่างที่สาริกาญาณวินโยใช้น้ำมันสาริกาพิเศษผสมด้วย ขณะที่สมเด็จสาริกาก็ใช้ตำราที่ต่างกัน

แต่ทั้งนี้ทุกแบบก็มีพุทธคุณไปทางด้านเดียวกัน คือเมตตามหานิยม เป็นที่รักแก่ผู้พบเห็น การเจรจานำเสนองานเป็นเสน่ห์ ฯลฯ

จำนวนสร้าง นั้นตะกรุดสาริการ้อยรักสร้างน้อยสุดเพียง 300 ดอก

 

หลวงพ่อเณร ท่านได้ไปเรียนวิชากับ พ่อท่านเลิบ มาแล้วครับ หลายวิชาด้วยกันรวมถึงวิชา ผานไถ ด้วย และก็จะไปต่อวิชาในโอกาสต่อไป

ตอนนี้หลวงพ่อเณรท่านกำลังให้ศิษย์รวบรวม ผานไถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว เพื่อนำมาหลอมทำวัตถุมงคลให้ใช้ ยิ่งถ้าเป็นอันที่ใช้งานมาแล้ว เกิน 30 ปียิ่งดี ที่นำมาหลอมก็เพื่อทำวัตถุมงคลให้มีรูปร่างสวยงามขึ้น แทนที่จะตัดผานไถเป็นชิ้นๆแล้วเสก เนื่องจากการจัดสร้างผานไถนั้น สำคัญที่ผานไถที่ใช้งานแล้วกับการเสกเท่านั้น ไม่มีอักขระหรือยันต์ใดๆทั้งสิ้น

ใครที่สามารถหาผานไถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วได้ นำมาถวายหลวงพ่อได้ครับ

 

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล....

 

หลวงพ่อเณร ญาณวินโย เรียนวิชากับ หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี

หลังจากหลวงพ่อเณร บรรพชาเป็นสามเณรในปี พ.ศ.2521 ได้ไม่นานก็ได้ออกจากวัดไปหาหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ หลวงพ่อเณรท่านสืบทราบมาว่าว่าหลวงปู่คำมีนั้นท่านเก่งทางด้าน ไสยเป็นอย่างยิ่ง โดยหลวงปู่คำมี ท่านเป็นศิษย์ของสำเร็จลุน แห่ง วัดเวินไซ นครจำปาสัก ประเทศลาว เรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับ หลวงปู่ศรีทัต วัดท่าอุเทน จ.นครพนม และ หลวงปู่เสาร์ กนตสีโล ในสมัยนั้นถ้ามีพิธีปลุกเสกที่ไหน ท่านจะได้รับเป็นหัวหอกของ 3 เกจิ เมืองลพบุรี คือ ลป.คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ , ลพ.บุญมี วัดเขาสมอคอน , ลพ.พริ้ง วัดโบสถ์ฯ

หลวงพ่อเณรจึงเดินทางออกจากวัดเพื่อไปขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ไปกับจ่าติ๋ม โดยไม่ได้บอกใครในวัดเลย ช่วงนั้นทุกคนงงมากว่าท่านหายไปไหน เมื่อหลวงพ่อเณรไปหาหลวงปู่แล้วเกิดความประทับใจในตัวหลวงปู่และบรรยากาศวัดมาก จึงขอจำวัดด้วย
หลวงปู่คำมีภามว่า "มาทำไม"
หลวงพ่อเณรตอบว่า "มาเรียนคาถาครับ"
หลวงปู่คำมี "ไม่ได้หรอก ต้องเอากรรมฐานก่อน" หลวงปู่ให้อยู่ที่วัดเพื่อเริ่มกรรมฐานก่อน จากนั้นต่อวิชาที่ว่าด้วยเรื่องธาตุ

ตอนอยุ่ที่วัดจะสนิทกับ อาจารย์หวานซึ่งท่านเป็นคนใกล้ชิดคอยดูแลหลวงปู่ มีอะไรก็จะเรียกหลวงพี่หวานคนเดียว และหลวงพี่หวานก็เรียนวิชากับหลวงปู่คำมีมาด้วยกันกับหลวงพ่อเณรเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก สมัยนั้นทั้งสององค์ชอบแกล้ง อ.จุน ให้ตกใจเล่น จนหลวงปู่คำมี ดุบ่อยๆ

เมื่อเรียนวิชาจนหมดสิ้นกระบวนความแล้ว หลวงปู่คำมี ท่านแนะนำให้หลวงพ่อเณร ไปเรียนวิชาต่อกับหลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรีที่อยู่ใกล้ๆกัน

หลวงปู่คำมีมาจำวัดที่วัดสลุดบ่อย หลวงปู่คำมีท่านเป็นผู้ที่ดูฤกษ์บวชพระให้หลวงพ่อเณร และท่านบอกหลวงพ่อเณรว่าท่านจะอยู่ไม่ถึง แต่ท่านจะมา ปรากฏว่าหลวงปู่คำมีท่านมรณภาพก่อนงานบวชหลวงพ่อเณรจริงๆดังที่ท่านกล่าวไว้ และในวันบวชพระ ณ วัดสลุด 6 ก.พ. 2525 วันนั้นพระที่นั่งอันดับเป็นเกจิทั้งสิ้น เช่น หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เป็นต้น โดยท่านต่างๆก็เป็นอาจารย์หลวงพ่อเณรด้วย โดยหลายท่านได้คุยกันและถามกันว่า หลวงพ่อเณร เป็นอะไรกับหลวงปู่คำมี ทำไมท่านเดินไปเดินมาและมานั่งในพิธีบวชด้วย เกจิองคืต่างๆจะนับถือหลวงปู่คำมีมากเพราะท่านเก่งและเป็นพระที่น่าเลื่อมใส


หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ถือได้ว่าเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเณรท่านแรก นับจากเริ่มบรรพชาเป็นสามเณร หลวงปู่ท่านรูปร่างเล็กมาก เล็กกว่าครูบาสิงห์โตอีก ท่านน่ารักมากเมตตาสูง หลวงปู่ท่านรักหลวงพ่อเณรมากเป็นห่วงกลัวจะสึก

 

มาโพส รูป วัตถุมงคลรุ่นเก่าๆของหลวงพ่อจ้า

มีล็อคเก็ต หลังเงิน กับ หลังหนังเสือ ออกที่วัดสลุด
พระพิมพ์หลวงพ่อปาน อุดผงของหลวงพ่อปาน ที่หลวงพ่อเณรได้รับตกทอดมาจาก หลวงพ่อฤาษีลิงขาวด้วยครับ แต่ก่อนจำได้เคยได้มาแต่ไม่สนใจ วันนี้จะหา
สัก ชุดยากเหลือคณา ต่อไปได้อะไรมาจะเก็บๆๆๆๆ
และก็ ยัน ต.บ. สีทองที่หมายปอง

 

ของดีแต่ละอย่างสุดยอดทั้งนั้นเลยครับ....

 

สุดยอดครับ บารมีหลวงพ่อเณร มีตั้งแต่ยังเป็นสามเณร หาคนเสมอท่านยากครับ

 

โอ้ว ท่านพี่ไปหามาจากไหนครับเนี้ย หุหุ แบบว่า แบบว่า ตาลุก อิอิ

 

แล้ววัตถุมงคลรุ่นเก่าๆจะมีออกมาให้บูชากันไหมอะครับ

 

บ้านใครอยู่ในพื้นที่แถววัด มีความได้เปรียบ ครับ หาวัตถุมงคลรุ่นเก่าๆได้ง่ายหน่อยจากคนในพื้นที่ นี่ถ้าพิพิธภัณฑ์ วัตถุมงคลหลวงพ่อเสร็จเมื่อไหร่
จะหายาก และ ราคาจะสูงขึ้น เป็นทวีคูณครับ หลวงพ่อ เคยบอกกับผมว่า
" พระของกูดีทุกรุ่น เพราะกูตั้งใจทำ "

 

ขอบคุณ ครับผมที่นำข้อมูลมาบอกกล่าวครับ

 

ถูกต้องครับ

ถ้าตามเก็บรุ่นเก่าๆไม่ทัน ก็ช่วยกันเก็บรุ่นที่ยังมีในวัดตอนนี้ก็ได้ครับ

ก่อนที่จะหมดแบบนึกไม่ถึงครับ เป็นการช่วยกันทำบุญเข้าวัด

ให้โบสถ์เสร็จเร็วๆๆด้วย โบสถ์สวยงามมาก

 

แต่รู้สึกว่าที่วัก ท่านยังไม่มีของเก่าๆ ออกมานะครับ...ผมอยากร่วมสร้างโบสถ์ครับ เลยไม่อยากเช่าบูชาที่อื่นนอกจากที่วัดครับ...

 

อ้างอิง คุณ apiluk_tarot

ไม่เป็นไรครับ ขอแก้นิดนึง วัดดอนชัย ครับไม่ใช่วัดดอนมูล