999 ประสบการณ์วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ 999

ผมจองเหรียญเสมานวโลหะหน้ากากเงินลงยา 1 เหรีญย นะครับ
เหรียญเสมาทองแดง 1เหรียญ นะ ครับ รบกวนช่วย สรุปยอด ให้ ด้วย นะ ครับ ว่าให้ โอนไปบัญชีใหน ขอบคุณครับ

 

1.เหรีญญเสมานวโลหะหน้ากากเงินลงยาจีวรเหลือง 1 เหรียญ 900 บาท
2.เหรียญเสมาทองแดง 1 เหรียญ 250 บาท
3.ค่าจัดส่ง 100 บาท
รวมเป็นเงินทั้งหมด 1250 บาท

โอนเงินเข้าบัญชี คุณธนวัตร สถิรวิวัฒน์กุล บัญชีออมทรัพย์/ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาปิยะรมย์เพลส เลขบัญชี 185-1-33897-8
หลังจากโอนแล้วโพสสลิปพร้อมที่อยู่การจัดส่งให้ด้วยครับ หรือโทรแจ้ง 087-5539408

อนุโมทนาบุญครับ

นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

โอนให้แล้วนะครับ
บริษัท Thai-nihon seals(นายสุรศักดิ์ ครอบแก้ว)
ที่อยู่ 90/3 ม.1 ต.ละหาร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 21140

ขอโทษนะครับที่รูปใบสลิปไม่ชัดเอากล้องโทรศัพท์ถ่ายอะครับ

 

ดีใจกับคุณ tum_pyu ด้วยนะครับลูกสาวตากลมแก้มใส๋น่ารักจริงๆ

คุณพ่อเตรียมไว้หนวดไว้ได้เลย....

ลูกหลานหลวงปู่เกิดมาเป็นคนดีมีบุญวาสนาแน่นอน

 

ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้นั้น...ไม่จริง
คนบางคนมีปากไว้คอยรับคำสั่งจากสมอง ซึ่งสมองรับคำสังจากจิตอีกที บางคนจิตเป็นกุศล ก็พูดแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่งาม น่าสรรเสริญ แบบนี้เรียกว่า ปากพาสุข........แต่คนบางคน มีปากไว้สร้างภาระให้คนอื่นเดือดร้อน พูดจาไม่รู้จักคิด บางครั้งถ้าถูกความโลภ ความโกรธ ความหลงครอบงำ ชิงดี ชิงเด่น อวดศักยภาพตัวเองว่าดี ว่าเก่ง จนทำให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ ทั้งที่คาดถึงและคาดไม่ถึง โดยหวังผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม คนที่มีปากประเภทนี้ เรียกว่าปากพาทุกข์ให้ชาวบ้าน ปากประเภทนี้ สักแต่พูดไม่ค่อยได้ทำ ไม่มีอะไรที่จะห้ามปรามปากประเภทนี้ได้ ยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ แบบนี้.....ต้องคอยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ หรือไม่ก็ต้องคอยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับแรงกรรมเป็นตัวตัดสิน

สมัยที่สร้างพระกริ่งพระเจ้า ๕ พระองค์ มีปากประเภทอย่างว่า มาพูดจาทำให้ไขว้เขว้มากมาย จนท้อแท้ ไม่มีกำลังใจที่จะทำต่อ...แต่ก็มีองค์หลวงปู่ เป็นที่ยึดเหนี่ยวในใจของผู้สร้างทุกคน ทำให้งานดำเนินต่อไปด้วยดี และสำเร็จในที่สุด ยังจำคำที่หลวงปู่พูดตอนที่ไปปรับทุกข์ให้หลวงปู่ท่านฟังได้เลย ที่ว่า "คนเราจะทำอะไรที่ดี ที่เป็นประโยชน์ให้ตั้งใจทำให้ดีที่สุด คนอื่นจะพูดอะไรอย่างไรอย่าไปสนใจ อย่าไปใส่ใจ แบบอย่างนี้ ใคร ๆ ก็พูดได้ ใคร ๆ ก็คิดได้ ใคร ๆ ก็ทำได้ เราจะไปห้ามเขาไม่ให้คิด ไม่ให้พูด ไม่ให้ทำไม่ได้หรอก เราทำอะไรอยู่ คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวเราเอง จะดีจะชั่วคนอื่นไม่รู้ แต่ครูบาอาจารย์รับรู้ เทวดาได้เห็น ก็พอ และระยะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์"

ขอให้คิดเสมอว่า "คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังมีเกลอร่วมก๊วนอยู่อีกคน และอีกสองคน และอีกหลาย ๆ คน ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน สนุกด้วยกัน" ถ้าเหนื่อย ถ้าเบื่อนัก ก็พักบ้าง เรื่องที่เหลือ ทีคั้งค้าง เกลอ ๆ ทั้งหลาย......จะช่วยกันทำให้ดี ให้สำเร็จที่สุด

 

ครับ...............
เป็นกำลังใจให้กับทีมงานนี้ อีก1เสียงในจำนวนอีกหลายๆร้อยเสียงที่คอยชื่นชมและอนุโมทนาแบบเงียบๆ( ไม่แสดงตัว) อย่าไปฟังเสียง แทรกแซงที่มีไม่กี่เสียงเลยครับ....สู้ต่อครับทุกท่าน เย้ เย้ เย้............

 

น้อมนำพระราชดำรัสในหลวง "ปิดทองหลังพระ"


บางส่วนจาก "บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร".....สนพ.มติชน

ในคืนวันหนึ่งของปี พ.ศ. ๒๕๑๐(ยศในขณะนั้นพันตำรวจโท)

.....หลังจากได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแล้ว

ในวังไกลกังวล.....ผมจำได้ว่า คืนนั้นผู้ที่โชคดีได้เข้าเฝ้าฯ

รับพระราชทานพระจิตรลดา เป็นนายตำรวจ 8 นาย และนายทหารเรือ 1 นาย

.....พระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมาพร้อมด้วยกล่องใส่พระเครื่องในพระหัตถ์

ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ชุดลำลอง.....

.....ขณะที่ทรงวางพระลงบนฝ่ามือที่ผมแบรับอยู่นั้น

ผมมีความรู้สึกว่าองค์พระร้อนเหมือนเพิ่งออกจากเตา.....

.....ภายหลัง เมื่อมีโอกาสกราบบังคมทูลถาม จึงได้ทราบว่า

พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระเครื่ององค์นั้น

ด้วยการนำเอาวัตถุมงคลหลายชนิดผสมกัน เช่น ดินจากปูชนียสถานต่างๆ

ทั่วประเทศ

ดอกไม้ที่ประชาชนทูลเกล้าถวายในโอกาสต่างๆ และเส้นพระเจ้า(เส้นผม)

ของพระองค์เอง เมื่อผสมกันโดยใช้กาวลาเท็กซ์เป็นตัวยึดแล้ว

จึงทรงกดลงในพิมพ์ (อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ซึ่งต่อมาเป็นศิลปินแห่งชาติ

เป็นผู้แกะถวาย)

โดยไม่ได้เอาเข้าเตาเผา.....หลังจากที่ได้รับพระราชทานแล้ว

ทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทมีความว่า.....“ พระที่ให้ไปน่ะ

ก่อนจะเอาไปบูชา ให้ปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะข้างหลังพระเท่านั้น ”

.....พระราชทานพระบรมราชาธิบายด้วยว่า

ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่าการทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใคร

หรือประกาศให้ใครรู้ ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่

และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว.....

.....ผมเอาพระเครื่องพระราชทานไปปิดทองที่หลังพระแล้ว ก็ซื้อกรอบใส่

หลังจากนั้นมา สมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินองค์นั้น

ก็เป็นพระเครื่องเพียงองค์เดียวที่ห้อยคอผม.....

.....หลังจากที่ไปเร่ร่อนปฏิบัติหน้าที่อยู่ไกลห่างพระยุคลบาท

ผมได้มีโอกาสกลับไปเฝ้าฯที่วังไกลกังวลอีก.....ความรู้สึกเมื่อได้เฝ้าฯ

นอกจากจะเป็นความปีติยินดีที่ได้พระยุคลบาทอีกครั้งหนึ่งแล้ว

ก็มีความน้อยใจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ลำบาก

และเผชิญอันตรายนานาชนิด บางครั้งจนแทบเป็นอันตรายถึงชีวิต

แต่ปรากฎว่ากรมตำรวจมิได้ตอบแทนด้วยบำเหน็จใดๆ ทั้งสิ้น.....

.....ก่อนเสด็จขึ้นคืนนั้น ผมจึงก้มลงกราบบนโต๊ะเสวย

แล้วกราบบังคมทูลว่า

ใคร่ขอพระราชทานอะไรสักอย่างหนึ่ง.....

.....พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า “จะเอาอะไร?”

และผมก็กราบบังคมทูลอย่างกล้าหาญชาญชัยว่า จะขอพระบรมราชานุญาต

ปิดทองบนหน้าพระ ที่ได้รับพระราชทานไป

พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามเหตุผลที่ผมขอปิดทองหน้าพระ.....

.....ผมกราบบังคมทูลอย่างตรงไปตรงมาว่า.....พระสมเด็จจิตรลดาหรือ

พระกำลังแผ่นดินนั้น นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานไปห้อยคอแล้ว
ต้องทำงานหนักและเหนื่อยเป็นที่สุดเกือบได้รับอันตรายร้ายแรงก็หลายครั้ง

มิหนำซ้ำกรมตำรวจยังไม่ให้เงินเดือนขึ้นแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย.....

.....พระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวล (ยิ้ม)

ก่อนที่จะมีพระราชดำรัสตอบด้วยพระสุรเสียงที่ส่อพระเมตตาและพระกรุณาว่า

ปิดทองไปข้างหลังพระเรื่อยๆ แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง.....




การทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อบูชาถวายแด่ครูบาอาจารย์ด้วยจิตศรัทธาที่บริสุทธิ์ องค์หลวงปู่และครูบาอาจารย์ท่านรับรู้ครับ


หลวงปู่บอกว่า ทุกๆอย่างหากเราตั้งใจทำ ทำดี งานอะไรก็สำเร็จ บางคนก็ชอบ บางคนไม่ชอบเขาจะว่าก็ช่างเขา ไม่ต้องไปสนใจ หลายคนอยากทำแต่ทำไม่ได้ เขาก็อิจฉาเจตนาไม่ดี เทวดาไม่ช่วย จึงทำไม่สำเร็จ แต่ลูกๆทำไม่เป็น ไม่เป็นไร เจตนาดีบริสุทธิ์ ครูบาอาจารย์ คอยช่วยเหลืออยู่ ก็ดีใจด้วย ที่ทำสำเร็จ ทำได้ดีแล้ว ให้ทำต่อไป

แม้วัยย่างเข้า 94 ปี ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ อายุและสุขภาพไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการที่หลวงปู่มุ่งมั่นที่จะพัฒนา สาธารณประโยชน์แก่ประชาชนทั้งหลายเลย แต่นี้ชี้ให้เห็นถึงความเสียสละ ละแล้วซึ่งกิเลส และมีความมุ่งมั่นของหลวงปู่ ที่พวกเราควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

หลวงปู่เคยบอกว่า เหนื่อยนักก็พัก ตื่นมาก็ทำต่อ ๆไป ก็สำเร็จ

การทำวัตถุมงคลของพวกเรา ก็สร้างจากเจตนาที่บริสุทธิ์ และทำเป็นครั้งๆ ไปตามแต่หลวงปู่จะเห็นสมควร แต่ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์ที่ดี และทำเพื่อหลวงปู่ทั้งหมด
แต่ก็อาจจะทำให้ใครหลายๆท่านไม่สบายใจ ไม่ชอบใจ อันนี้ไม่เป็นไรครับ

หลวงปู่บอกว่าตาอยู่ส่วนตา หูอยู่ส่วนหู ใจอยู่ส่วนใจ ปากอยู่ส่วนปาก
ให้เราคิดเสมอว่าเราทำอะไรก็พอแล้ว ให้ตั้งมั่นเอาไว้

เป็นคำพูดที่ดูแสนจะธรรมดา แต่ทิ้งปรัชญาให้คิดทั้งสิ้น


นะเมติ นะเมติ นะเมติ

 

สู้ๆครับ...ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ผมว่าในเมื่อเจตนาเราดี ตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมครูบาอาจารณ์ของเรา
รายได้ที่ได้มา มากน้อยยังไงก็ยังดีที่ได้ทำอะไรเลย
ยังดีที่มีโอกาสในการทำ
บางคนได้แต่คิดไม่มีปัญญาทำ


อนุโมทนากับทีมงานทุกๆท่านด้วยนะครับ
ถ้าต้องการให้ช่วยเหลือแจ้งข่าวบอกกันได้นะครับพี่แซม

 

แจ้งโอนเงินครับ

 

รับทราบครับเดี๋ยวจะรีบส่งให้นะครับ

 

ขอให้หลวงปู่มีสุขภาพแข็งแรง พลานามัยสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของลูกศษย์ตลอดไป สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผมได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ
อนุโมทนาสาธุ

 

สวัสดีครับทักทายตอนเย็นวัน พุธ นะครับ ...

 

ในวันที่ 17 มค.54 ครบรอบปีที่21แห่งการมรณภาพขององค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ คณะศิษย์ที่มีเคารพองค์หลวงปู่ดู่และองค์หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ได้จัดสร้างล๊อคเกตของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เพื่อจะนำไปแจกในงานของวัดสะแกในวันที่ 17 มค.54 จำนวน 500 อัน ด้านหลังจะมีเม็ดประคำของหลวงพ่ออุตตะมะติดอยู่ ที่เม็ดประคำจะยิงโค๊ตเลเซอร์ นะเมติได้ไปกราบขอบารมีของ
องค์หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญอฐิฐานจิตให้ในเช้าวันที่ 11 มค.54 จึงขอเรียนเชิญศิษย์ขององค์
หลวงปู่หงษ์ และหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เดินทางไปขอรับล๊อคเกตชุดนี้จำนวน 500 อันได้ที่วัดสะแก จ.อยุธยาในวันที่ 17 มค.54

 

วัตถุประสงค์ ของล็อคเก็ต รุ่นนี้ เจตตนา คือ แจก อย่างเดียว ครับ แจก แจก แจก

 

ส่วนหนึง คิดเอาไว้ว่าจะแจกให้กับลูกศิทย์ หลวงปู่หงษ์ที่มีความเคารพนับถือ หลวงปู่ดู่ แต่กำลังคิดหาวิธีการแจกอยู่ครับ หรือ พี่ๆ เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นได้นะครับ

 

หลังพิธีอฐิฐานจิตจึงขออนุญาติหลวงปู่ถ่ายรูปเพื่อนำมากราบไหว้สักการะบูชาไว้เป็นที่ระลึกแห่งความเมตตาของหลวงปู่ และสอบถามเรื่องเกี่ยวหลวงปู่สรวง องค์หลวงปู่หงษ์เคยพบกับหลวงปู่สรวงตอนที่ท่านบวชใหม่ๆเดินธุดงค์ไปเขมร จนหลวงปู่หงษ์กลับจากเขมรมาอยู่เมืองไทย ได้พบกับหลวงปู่สรวงอีกตามชายแดนเขมร

 

อยากได้ไว้บูชาบ้างครับ

17 วันจันทร์ทำงานคงไม่สามารถไปร่วมงานได้
เคารพหลวงปู่ดู่เป็นอาจารณ์องค์แรกเช่นกันครับ
ถึงได้มารู้จักหลวงปู่หงษ์ อาจารณ์ของเราในปัจจุบัน

 

ในวันที่ 14 เมษายน 2554 ที่จะถึงนี้ จะมีการทอดผ้าป่า กองละ 2700 บาท พี่น้องท่านใดสนใจร่วมทำบุญ เพื่อสมทบซื้อที่ดินเพิ่มเติมและทำการถมที่ดินที่ซื้อไว้แล้ว เพื่อสำหรับเป็นที่สร้างปราสาทฆติกามหาพรหมและ ปราสาทพระเจ้าห้าพระองค์ พร้อมที่พักสำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม และ เสนาสนะต่างๆภานในสุสานที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จ สนใจร่วมทำบุญสามารถมารับซองผ้าป่าที่ ร้านธนภัทรพระเครื่องที่บิ๊กซีติวานนท์ได้เลยครับ หรือ โทรสอบถาม 0896793839 ครับ
อานิสงค์ที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำบุญในครั้งนี้ ขอให้บุญกุศลนี้จงเป็นปัจจัยให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลก และ ทางธรรม และให้ได้เข้าถึงพระนิพพานเป็นที่สุด