ไขปริศนาชะตาชีวิตกลไกแห่งกรรม??

อยากได้เค็ลดลับพลิกแพลงกรรมตามกลไกแห่งจักรวาล ชี้แนะด้วยนะคะ อนุโมทนาด้วยค่ะ

 

สวัสดีครับคุณเทพสำราญ ผมชื่อ ภัทรพงศ์ นิยมชาติ เกิด 16 มีนาคม 2530 ครับ อยากจะรบกวนดูให้เรื่องความรัก และ เรื่องการเงินน่ะครับ อยากล้างหนี้ให้พ่อกับแม่ครับ ชาติก่อนๆ ผมเป็นทหารรึเปล่าครับ แล้วผมลงมาจากข้างบนรึเปล่าครับ จากไหนครับ ขอบคุณมากครับ

 

อยากทราบว่าตัวเองติดหนี้กรรมอะไรบ้างในชาติที่ผ่านๆมา และอยากทราบวิธีการแก้ไข
และวิธีเสริมชีวิตปัจจุบันให้ดียิ่งๆขึ้นค่ะ ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ป้าเม้าท์ รบกวนด้วยค่ะทุกวันนี้ก็พยามยามปล่อยวางลงบ้าง ไม่อยากคิดปัญหาที่มีอยู่ แต่ปัญหาหนี้สินมันคงวางไม่ได้แน่นอน ก็ยังเป็นทุกข์อยุ่ สิ่งที่ป้าทำอยู่นี้ จะช่วยบรรเทาได้บ้างไม๊ค่ะ กับปัญหา และป้าควรปฏิบัติเพิ่มเติมบ้างไม๊ค่ะ บอกตามตรงค่ะอยากหมดนี้เร็วๆ สงสารลูกค่ะ

 

การที่เราทำการใดๆไม่ได้หวังผลตอบแทนและคิดว่าทำดีที่สุดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและ

เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่กลับกลายเป็นไม่ดีทุกครั้งไป อย่างนี้เข้าลักษณะทำบุญไม่ขึ้น

หรือเปล่าค่ะ ไม่รู้มีเวรกรรมอันใดจากชาติก่อนไม่ว่าจะการงาน การเงิน และชีวิตครอบครัว

ไม่ประสบความสำเร็จเลย คุณเทพสำราญ ช่วยชี้แนะด้วยสิคะจะได้มองเห็นหนทางในความ

สุขของชิวืตบ้าง ขอบคุณมากค่ะ

 

แต่เดี้ยนว่า ไม่ได้อโหสิกรรมกันง่ายๆนะค่ะ อย่างใครเค้ามาโกงเราจนหมดเนื้อหมดตัว เรานั่งขอทานอยู่ คนที่เค้าโกงเราเดินผ่านมา หย่อนลงกระป๋องเรา 10 บาท แล้วบอกว่า ขออโหสิกรรมนะ โอ้..แม่เจ้า มันทำได้ยากกกกกกนะค่ะ คงจะต้องเจอเจ้ากรรมนายเวรที่สั่งสมบารมีมาพอสมควร ถึงจะเข้าใจและยอมอโหสิกรรมให้นะค่ะ ยังงัย เวรกรรมต้องชดใช้กันตามระเบียบค่ะ แต่เวรกรรมถอยห่างออกไปได้ ด้วยการทำบุญกุศล เหมือนเติมน้ำในตุ่มที่มีเกลืออยู่ค่ะ น้ำจะทำให้ความเค็มจางลงได้ แต่เกลือในตุ่มก็ยังคงมีอยู่ค่ะ

 

อันนี้ใช่ไหมที่พี่ท่านข้องใจ

สำหรับแนวทางการแก้ไขก็มีเคล็ดลับอยู่ที่ว่า เราอโหสิกรรมเป็นอันจบสิ้น
กล่าวคือ กรรมใดๆก็ตามแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่รับรู้การอโหสิของเรา หากใจเรา
ไม่ยึดมั่นในกรรมนั้นปล่อยวางลงได้ก็เป็นอันจบสิ้น

สงสัยเหมือนกันเลย ว่าทำไมเจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรมให้เรา
ง่ายดายเพียงนั้นเน้อ เคยอ่านหนังสือของ อ.นะโม อ.ท่านยังพูดว่า
ไม่ใช่คุณแค่ถือถังสังฆทานไปทำบุญแล้วเจ้ากรรมนายเวรจะ ยกโทษให้
ง่ายๆๆ เหมือนเช่นหากเพื่อนคุณเอาไม้มาตีคุณปางตายแล้วมาขอโทษคำเดียวนี่คุณจะยกโทษให้เขาง่ายๆๆไหม อ.นะโมยังบอกว่าการที่เจ้า
กรรมนายเวรจะยกโทษให้เรานั่นได้ง่ายๆๆก็คือ คุณต้องไปทำสังฆทานกับพระอริยเจ้าพร้อมกันอย่างน้อย 4 องค์นั่นแหละเจ้ากรรมนายเวร
ถึงจะยกโทษให้ มิใช่แค่เราจะมาปล่อยวางในกรรมที่ทำไปแล้ว แล้ว
เจ้ากรรมนายเวรจะยกโทษให้ ยังมิเคยได้ยินเพิ่งจะเคยได้ยินจากท่านเทพนี่แหละ หากเป็นเยี่ยงนี้เราก็สามารถจะสร้างกรรมให้ใครแล้วมานั่งทำใจให้ปล่อยวางเพื่อให้เจ้ากรรมไม่ถือโทษอย่างนั้นหรือคะ ....

 

-*-! ... ไปแย้งท่านเทพสำราญ เดี๋ยวท่านเทพฯ จะน้อยใจ ปิดกระทู้เงีียบหายไปอีกหรอกค่ะ ...

แบบว่าเห็นมาหลายกระทู้แล้วอ่ะ ....

 

ช่วยชีแนะด้วยค่ะ ทำอย่างไรจะปฏิบัติได้ก้าวหน้าค่ะมากกว่านี้ค่ะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

อยากรู้เกี่ยวกับอดีตหรือเปล่าคับ
หรือว่าอนาคต ยังไงขอแบบละเอียดนิดนึงคับ
เพื่อจะได้ให้คำแนะนำและคำตอบที่ตรงประเด็นคับ...
โมทนาคับ..

 

ไม่ถือสาต่อ อวิชาที่สงสัยคับ แสดงว่ายังอุดส่าห์เห็นใจความรู้สึกของกระผม
อยู่
ส่วนในเคล็ดลับที่ว่า การอโหสิกรรมและการตัดกรรมเบื้องต้นนั้น
ที่กล่าวถึงนั้นหมายรวมๆเอาคับ ซึ่งที่กล่าวถึงเป็นลักษณะกรรมเบา
และโจทย์ผู้ทำกรรมกับจำเลยผู้รับกรรมก็อยู่ไกลกันหรือคนละภพภูมิ
อย่างนี้เป็นต้น มิได้หมายถึงตัวบุคคลที่ผู้อาฆาตพยาบาทเยี่ยงสัตว์
ซึ่งหากเป็นในภพภูมิสวรรค์ด้วยแล้ว การอโหสิในใจก็เพียงพอและเป็นอัน
ระงับกรรมไปโดยปริยาย.....
ทั้งนี้คล้ายกับแรงกริยาของกรรมที่ทำย่อมตัวเชื่อมต่อแรงกรรม
คือ ธรรมวิเศษอย่าง1 ภพภูมิ และผู้นำกรรมไปกล่าวต่อ
ซึ่ง เหตุปัจจัยสำคัญคือ ตัวกลางเชื่อมต่อกรรม ในการสนองกรรมนั้น
กรรมปัจจุบันถือว่าสนองสมบุรณ์ด้วยแรงกริยาที่ตอบกลับ
(คล้ายทฏษฏีฟิสิกส์แต่เป็นนามธรรมที่ลึกซึ้งกว่าคับ)

โมทนาในความสงสัยในอรรถธรรม..​

 

ขออภัยหากตอบแบบไม่ได้เรียงลำดับคับ

 

สวรรค์คาลัยที่ว่า กามาภูมิ หรือ ยามาภูมิชั้นที่3 คับ
โมทนาคับ
.....​

 

คุณ Diya เขียนมาว่า.....
ไม่ค่อยเข้าใจคำตอบที่มีให้เท่าไหร่ค่ะ เหมือนกับว่าต้องมีข้อมูลที่จะต้องถามหรือเปล่าคะ แต่ไม่เข้าใจก็มาเจอคำตอบที่คุณตอบให้คุณ kabukiman เรื่องความรักประมาณนั้น แต่เราก็ไม่ได้อยากจะรู้ว่ากรรมเก่าเราทำอะไรมา ชีวิตความรักจึงเป็นแบบนี้ แค่เราทำในปัจจุบันอย่างดีที่สุดไม่แย่งของใคร ไม่ทำให้ใครเสียใจ ไม่หลอกใช้ใคร เราก็น่าจะได้คู่ที่ดีงั้นหรือป่าวคะ แต่ก็นั่นแหละ ก็ยังแห้วสนิทศิษย์ส่ายหน้าอยู่เหมือนเดิม คำถามตอนนี้อยากรู้ว่าคู่ที่เหมาะสมกันกับเราอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่จะได้เจอกันประมาณนั้นเลย และอยากทราบว่าการปฏิบัติที่ทำอยู่ทุกวันนี้ต้องเพิ่มเติมเสริมแต่งอย่างไรบ้างคะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วการเงิน อาชีพการงานที่เหมาะสม วาสนา สุขภาพ คุณช่วยดูให้ได้มั้ยคะ อย่ากระนั้นเลยให้วันเกิดเป็นข้อมูลอย่างลึกแล้วไปด้วยดีกว่า ศุกร์ 13 เม.ย. 22 ยังงัยก็ขออนุโมทนาในคำตอบค่ะ

"การใช้ชีวิิตบนโลกและวิถีแห่งปุถุชนย่ิอมเป็นธรรมดาที่แปดเปื้อนมัวหมอง
ไปบ้าง บุญต่างๆ รอส่งผลเป็นช่วงๆอยู่คับ หากเราใจเย็นสิ่งต่างๆก็จะดำเนิน
สอดคล้องไปตามวิถีแห่งความสมดุลเอง"
โมทนาคับ​

 

"กรุณาอย่ายึดถือกับคำแนะนำของกระผมเกินไปส่วนมากผมจะใช้
สำนวนเปรียบเทียบทับศัพท์ไปเลยในตัวธรรมที่อธิบายคับ
ส่วนเรื่องที่ถามจำเป็นต้องอาจารย์หรือเปล่า ลองให้ประสบการณ์และ
มองคนที่ปฏิบัติคล้ายกับเรามองเค้าให้เป็นครูหรืออาจารย์ของเราดู
ซึ่งแล้วแต่คุณด้วยคับ
โมทนาคับ"​

 

"เข้าใจถูกแล้วคับ วิธีก้าวล่วงจริตทั้งหลาย
ก็ลดที่ละอัน จากง่ายๆ ไปยากคับ ด้วยสมาธิ และสติ คับ
โมทนาธรรมคับ...​

 

ไม่ถือสาต่อ อวิชาที่สงสัยคับ แสดงว่ายังอุดส่าห์เห็นใจความรู้สึกของกระผม

อยู่
ส่วนในเคล็ดลับที่ว่า การอโหสิกรรมและการตัดกรรมเบื้องต้นนั้น
ที่กล่าวถึงนั้นหมายรวมๆเอาคับ ซึ่งที่กล่าวถึงเป็นลักษณะกรรมเบา
และโจทย์ผู้ทำกรรมกับจำเลยผู้รับกรรมก็อยู่ไกลกันหรือคนละภพภูมิ
อย่างนี้เป็นต้น มิได้หมายถึงตัวบุคคลที่ผู้อาฆาตพยาบาทเยี่ยงสัตว์
ซึ่งหากเป็นในภพภูมิสวรรค์ด้วยแล้ว การอโหสิในใจก็เพียงพอและเป็นอัน
ระงับกรรมไปโดยปริยาย.....
ทั้งนี้คล้ายกับแรงกริยาของกรรมที่ทำย่อมตัวเชื่อมต่อแรงกรรม
คือ ธรรมวิเศษอย่าง1 ภพภูมิ และผู้นำกรรมไปกล่าวต่อ
ซึ่ง เหตุปัจจัยสำคัญคือ ตัวกลางเชื่อมต่อกรรม ในการสนองกรรมนั้น
กรรมปัจจุบันถือว่าสนองสมบุรณ์ด้วยแรงกริยาที่ตอบกลับ
(คล้ายทฏษฏีฟิสิกส์แต่เป็นนามธรรมที่ลึกซึ้งกว่าคับ)​

โมทนาในความสงสัยในอรรถธรรม..

ท่านกล่าวว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขก็มีเคล็ดลับอยู่ที่ว่า เราอโหสิกรรมเป็นอันจบสิ้น
กล่าวคือ กรรมใดๆก็ตามแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่รับรู้การอโหสิของเรา หากใจเรา
ไม่ยึดมั่นในกรรมนั้นปล่อยวางลงได้ก็เป็นอันจบสิ้น ​

ตอนแรกบอกกรรมใดๆๆ ใครมาอ่านเจอคงไม่มีใครสมองอัจฉริยะตรัสรู้ได้ว่าเป็นกรรมเบาๆๆ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเจ้ากรรมนายเวรของเราอยู่ในภพภูมิสวรรค์ ถึงจะได้อโหสิกรรมในใจก็พอเพียงแล้ว เจตนาท่านนั้นมุ่งสอนให้คนทำความดีละความชั่วนั้นชอบแล้ว แต่การกล่าวอ้างถึงกฏสวรรค์ของท่านนั้นไซร์ เกรงจะทำให้คนธรรมดาเดินดินสับสนได้นะท่าน แล้วการระงับกรรมของท่านโดยปริยายนั้นยังไม่เคยเห็นในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์เลยว่าจะระงับได้โดยพลันเช่นนี้ มีแต่ผู้ใดทำกรรมใดไว้ย่อมต้องได้รับผลของกรรมนั้นๆๆๆ เพียงแต่ว่าหากเราทำความดีแซงหน้ากรรม ก็อาจพอแค่ทุเลากรรมได้เท่านั้น พอดีได้มาอ่านเจอมิได้มีเจตนามาป่วนท่าน เลยแค่กังขาในคำสอนของท่านเท่านั้น
หรือคงเป็นเพราะเรามันแค่คนเดินดินธรรมดา มิได้ถอดกายทิพย์ท่องสวรรค์เหมือนท่านเลยมิได้รู้กฏสวรรค์ของท่าน เพราะเรามัวแต่ท่องนรกเพลิน
ให้ได้รู้เห็นว่าคนทำชั่วนั้นแต่ละท่านต้องได้รับผลกรรมเยี่ยงไร เลยมิได้
คิดจะไปท่องสวรรค์ เพราะยังไงๆๆ เราก็คงจะได้ไปสวรรค์ในอนาคตอยู่แล้ว ......

​

​

 

ถ้าเป็นกรรมหนักๆก็คงคลี่คลายได้ในเร็วๆนี้ ผ่านช่วงปีนี้ไป
บุญแห่งความดีจะเข้ามาแซกตอบแทนความดีที่เคยทำไว้คับ
ส่วนเรื่องจริตและการทำสมาธิ

.. แนะนำให้ไม่ยิดติดรูปแบบการนั่งคับ อาจยืน หรืออยู่ใดก็ได้
ที่ผ่อนคลายคับ เฝ้าควบคุมใจและความคิดที่ปรากฏ กลั่นกรอง
ไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นว่าต้องบังคับใจให้คิดหรืออยู่ในสมาธิแห่่งปัจจุบัน
เพียงอย่างเดียว หากใจย้อนหวนอดีตก็ตามไปจนสุด
ไม่แน่น่ะคับคุณอาจได้ข้ามภพไปถึงอดีตชาติก็เป็นได้คับ
โมทนาคับ ..
​

 

อยากได้เคล็ดลับเกี่ยวกับเรื่องอะไรคับ ...​