สโมสรนักบุญภูเหล่าเงินฮาง ร่วมสร้างสรรกับ คณะเบิกบาน บันเทิงบุญ(อดีตรำลึกของบุญกุศล)

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Nar, 8 กรกฎาคม 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรื่องของคุณ ( ต่อ 3 ) โดยปรัศนี ประชากร<O:p</O:p



    ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร สงวนลิขสิทธิ์<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พระพุทธคุณ<O:p</O:p

    เมื่อได้กล่าวถึงอริยคุณ อรหัตคุณ เป็นพื้นฐานแล้ว ต่อไปจะได้จำกัดความของคำว่า
     
  2. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    20050621_015206.jpg


    และเมื่อมีความปรารถนาอะไรขึ้นมาแล้วได้ทำนี่ก็แปลกนะ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่ผมเคยคิดอยากมีโอกาสได้สร้าง ก็มีคนเอาบุญนี้มาให้สร้างจนได้ ความสำเร็จในการคิดสร้างบุญสร้างกุศล แม้จะเป็นการร่วมสร้างก็ตาม

    มีรายระเอียดดังนี้

    ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปวัดดอยชมภู

    <O:p</O:pวัดดอยชมพูตั้ง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเล็กๆ เลขที่ 30 หมู่ 7 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เป็นสถานที่สงบร่มเย็นควรแก่การปฏิบัติธรรม และห่างจากวัดไปประมาณ 4-5 ก.ม มีน้ำตกดอยชมพูที่สูงและสวยงามมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ทางวัดได้มีกุศลจิตเจตนาที่จะจัดสร้างพระพุทธปางปฐมเทศนาแบบอินเดีย ขนาดหน้าตักกว้าง 7เมตร สูง 9 เมตร ทำด้วยปูน เพื่อบูชาคุณพระศรีรัตนตรัยและสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้สักการะขอพรชัยมงคล

    <O:p</O:pในการจัดสร้างครั้งนี้จะต้องใช้งบประมาณในการสร้าง 999,000 บาทเศษ จึงขอบอกบุญมายังสาธุชน พุทธบริษัทให้ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ตามศรัทธาอันควรแก่ฐานะพร้อมทั้งนี้ทางวัดจึงขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งไตรภพโปรดบันดาลให้ท่านและครอบครัวมีความสุขความเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ความคล่องตัวในการดำเนินชีวิต ความสมบรูณ์พูนผลตลอดกาลนานเทอญ..

    <O:p</O:pร่วมบริจาคได้ที่ วัดดอยชมพู 30 หมู่ 7 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย 57250 โทร. 087-0142038 หรือ บัญชีออมทรัพย์ ธ. กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-0-23013-3

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=61955

    ผมได้โทรคุยกับพระหลวงพ่อเจ้าอาวาสโดยตรงแล้ว มีอะไรดีๆอยู่เหมือนกันนะ ท่านอธิฐานจิตว่า ผู้ที่เคยร่วมบุญสร้างกุศลร่วมกันมาแต่ในอดีต จะอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตามให้มีโอกาสได้ทราบข่าวนี้ ได้กลับมาร่วมสร้างบุญกุศลในครั้งนี้อีก มีหลายเรื่องที่คุยกับท่าน

    รูปด้านบนที่ผมเก็บไว้หลายปีแล้ว ปางปฐมเทศนา จากประเทศอินเดีย เอามาให้ชมกะนครับ


    <O:p</O:p
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ที่มา Fwd Mail ครับ

    หัวหน้าในฝัน
    <O:p</O:p
    การทำงานของธุรกิจยุคใหม่โดยเฉพาะธุรกิจข้ามชาติจะอนุญาตให้ลูกน้องประเมินผลงานของหัวหน้าได้ ….ประเมินว่าหัวหน้าสั่งงานควบคุมงาน ตัดสินใจงานหรือแก้ไขปัญหาในงาน เป็นหรือเปล่าหัวหน้ามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีหรือเปล่ามีบุคลิกที่ดีหรือเปล่า
    ก็คล้ายๆกับที่ให้นักเรียนประเมินผลการสอนตลอดทั้งเทอมของอาจารย์ผู้สอนนั่นแหละทั้งนี้ก็เพื่อให้หัวหน้าได้พัฒนาตนเองดียิ่งขึ้นจากผลการประเมินโดยลูกน้อง

    ถ้าเลือกได้….ลูกน้องอยากได้หัวหน้าในฝันที่มีคุณลักษณะเหล่านี้

    1. มีภาวะผู้นำและตัดสินใจเด็ดขาด
    ลูกน้องก็ยังชอบหัวหน้าที่มีลักษณะเด็ดขาดมองการณ์ไกล กล้าคิดกล้าพูด กล้าทำ กล้าตัดสินใจกล้าหาญที่จะชนกับปัญหา
    และกล้ารับผิดชอบแทนลูกน้อง..ลูกน้องจะชอบหัวหน้าที่ไม่โลเลพูดจาคำไหนคำนั้นเพราะลูกน้องจะเกิดความเชื่อถือมั่นใจ สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพะวงแม้ในบางครั้งการตัดสินใจของทีม จะใช้ความคิดของหัวหน้าเป็นใหญ่แต่หากได้ผลงานที่รวดเร็วเสร็จทันเวลาประหยัดเงินก็เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้เพราะหัวหน้าจะเป็นผู้รับประกันความรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น

    2. มีเป้าหมายชัดเจน
    นอกจากจะเฉียบขาดแล้วหัวหน้าที่มีอุดมการณ์ชัดเจนมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมตัวเลขที่วัดได้ ก็เป็นที่ต้องการของลูกน้องเพราะถ้ามีวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่ชัดเจนมีตัวชี้วัดลูกน้องจะสามารถมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายนั้นไม่ยากโดยร่วมกันคิดหาวิธีการที่จะเกิดประสิทธิผลสะดวกรวดเร็วประหยัดเงินคนชอบทำและทำได้ง่าย

    3. รู้จักใช้คน
    Put the right man on the right job in the right time
    หัวหน้าที่ดีจะต้องใช้มีดให้เป็นใช้คนให้เป็น.. ไม่นำมีดโคไปแล่เนื้อไก่ หรือไม่นำมีดไก่ไปแล่เนื้อโคหัวหน้าที่ลูกน้องอยากได้ จะต้องรู้จักลูกน้อง ว่าใครเหมาะที่จะทำงานอะไรร่วมกับใคร ทำเวลาไหนเพราะหากใช้คนผิดจะมีข้อเสียเกิดขึ้นทั้งต่อผลงาน คือ ประสิทธิผลประสิทธิภาพไม่ดี ไม่ประหยัดทั้งต่อตัวลูกน้องคือ เกิดอุบัติเหตุได้ เหนื่อยกายง่าย เครียด และมีผู้อื่นอิจฉาทั้งต่อตัวหัวหน้าเองคืองานโดยรวมไม่เสร็จลูกน้องทะเลาะกันและไม่อยากร่วมงานกับหัวหน้าคนนี้

    4. ซื่อสัตย์
    นอกจากหัวหน้าจะเป็นคนที่ทำงานเก่งแล้วลึกๆในความชอบของลูกน้องทุกคนอยากจะได้หัวหน้าที่ซื่อสัตย์ต่อองค์กรบริหารค่าใช้จ่ายภายในอย่างเป็นธรรมอย่างเป็นระบบถูกต้อง ตรวจสอบได้ไม่มีนอกไม่มีในไม่มีการเอารัดเอาเปรียบสังคม

    5. สนับสนุนลูกน้อง
    งานใดที่จะส่งเสริมให้..ความสามารถของลูกน้องโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของลูกค้าและผู้บริหารระดับสูงได้งานนั้นหัวหน้าจะสนับสนุน
    หัวหน้าที่ดีจะไม่แย่งผลงานของลูกน้องมาเป็นผลงานของตนยิ่งกว่านั้นจะสนับสนุนผลักดันให้ลูกน้องมีความรู้สูงขึ้นมีความรอบรู้ในงานเพิ่มขึ้น มีตำแหน่งและมีเงินเดือนสูงขึ้น …..หากลูกน้องมีศักยภาพที่จะทำได้หัวหน้าที่ลูกน้องอยากได้จะสนับสนุนให้ลูกน้องเก่งกว่าตนก้าวหน้ากว่าตนเหมือนกับพ่อแม่ที่สนับสนุนให้ลูกเจริญก้าวหน้ากว่าตนฉันใดก็ฉันนั้น

    6. มีมนุษยสัมพันธ์ดี
    หัวหน้าที่ดีจะมีมนุษยสัมพันธ์อย่างจริงใจทั้งในองค์กรและนอกองค์กรกับลูกน้อง จะทักทายจะไต่ถามทุกข์สุขจะขอบคุณหรือขอโทษลูกน้องเป็นจะให้รางวัลหรือให้คำชมเชยลูกน้องเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องอยากได้จะรู้จักยืดหยุ่น มีอารมณ์ขันจะเข้าร่วมกิจกรรมนอกเวลางานกับลูกน้องตามความเหมาะสมไม่ว่าการไปเยี่ยมคนเจ็บไปเคารพศพญาติผู้ใหญ่ของลูกน้องไปร่วมทีมกีฬากับลูกน้องหรือไปทำบุญ(ได้ทุกศาสนา)กับลูกน้อง

    7. รับฟังความคิดเห็น
    หัวหน้าในฝันจะไม่พูดเพียงฝ่ายเดียวแต่จะฟังความคิดเห็นและคำอธิบายของลูกน้องจะเปิดเวทีความคิดเห็นความเข้าใจ และทัศนคติของลูกน้อง ให้ตนรับทราบบ่อยๆการมอบหมายงานหัวหน้าจะถามความสมัครใจและจำนวนงานของลูกน้องก่อนการประเมินผลงานของลูกน้องก็จะถามถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นเสียก่อนเช่นกันแล้วตนจึงจะตัดสินใจโดยใช้ศิลปะที่จะให้ลูกน้องเห็นด้วยก่อนที่จะดำเนินการใดๆ

    8. เป็นตัวอย่างที่ดีในการกระตือรือร้นทำงาน
    หัวหน้าในฝันจะขยันงานมาทำงานเช้าแต่กลับช้าไม่เคยมาสายไม่เคยลาหยุดถ้าไม่จำเป็น รับประทานอาหารและเครื่องดื่มแค่พออิ่มแล้วกระตือรือร้นทำงานต่อ จนเป็นที่เลื่องลือน่านิยมน่าเกรงใจ ….หากลูกน้องคนใดไม่ทำตาม

    9. มีบุคลิกภาพดีมีสุขภาพดี
    หัวหน้าที่ลูกน้องอยากได้จะมีพัฒนาการทางอารมณ์แบบผู้ใหญ่นิ่ง น่าเกรงขามไม่ตีโพยตีพายแบบเด็กๆ จะมีบุคลิกการนั่ง การยืนการเดินการแสดงท่าทางที่ดูดีมีสง่า การแต่งกายมีรสนิยม …. หัวหน้าคนนั้นจะต้องมีสุขภาพดีแข็งแรงเดินนั่งคล่องตัวทำงานรวดเร็ว ไม่ไอจามน้ำมูกไหลเสียงแหบแห้งหรือเจ็บป่วยบ่อยๆ

    10. จัดหาสิ่งสนับสนุนการทำงานให้ลูกน้อง
    ลูกน้องอยากได้หัวหน้าที่ช่วยจัดหาเงินค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เครื่องใช้และสิ่งสนับสนุนในการทำงานให้ตนได้ใช้ฝีมือทำงานอย่างเต็มที่ ….ไม่ต้องพะวงเรื่องการขาดแคลนและลูกน้องยังอยากจะได้หัวหน้าที่มีใจนักเลงจ่ายเงินส่วนตัว(หากเบิกจากองค์กรไม่ได้) เพื่อสร้างความสะดวกสบายและสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกน้อง

    ใครๆก็อยากเป็นหัวหน้าเพราะตำแหน่งดูโก้ ดูน่าจะงานเบาและมีลูกน้องไว้ใช้งาน

    แต่ใครบางคนยังไม่รู้ว่าตำแหน่งหัวหน้าเป็นเพียงหัวโขนเพื่อจะบอกผู้อื่นว่าตนต้องรับผิดชอบแทนทีมงานทั้งหมด
    …หากเกิดอะไรขึ้น

    งานของลูกน้องทุกคนหัวหน้าจะต้องมีส่วนร่วมทำ สอนงานตรวจทานและรับผิดชอบ

    ยิ่งกว่านั้นหัวหน้าจะต้องเป็นลูกน้องให้กับลูกน้อง

    ….จะต้องจัดหาเงินค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เครื่องใช้และสิ่งสนับสนุนการทำงานให้กับลูกน้องเมื่อลูกน้องต้องการแรงงานคนเพิ่มรถไม่มี คอมพ์เสีย ส้วมตัน แอร์ไม่เย็นเหล่านี้หัวหน้าต้องจัดหาให้ลูกน้องทั้งสิ้น

    ยิ่งถ้าเป็นหัวหน้าในฝันด้วยแล้วงานจะหนักมากขึ้นอีกเท่าตัว

    ต้องไปทำงานแต่เช้าเลิกงานช้ากว่าลูกน้องเวลาที่จะได้พักผ่อนก็ต้องใช้เพื่อการเซ็นงานการต้อนรับแขกการเป็นตัวแทนของทีมงานและการไปร่วมงานของลูกน้อง

    ต้องรักษาบุคลิกที่ดีตลอดเวลาทั้งเสื้อผ้า ท่าทาง การพูดการกิน
    ต้องควบคุมและอดกลั้นอารมณ์โกรธเกลียด เศร้าโศกและความอยากได้เอาไว้
    ต้องรักษาหน้าใหญ่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อลูกน้องและคนทั่วไป… ซึ่งสิ่งเหล่านี้ลูกน้องไม่จำเป็นต้องมีเลย
    ก่อนที่ใครๆจะได้เป็นหัวหน้าไม่ว่าจะโดยสมัครอาสาเข้าไปหรือได้รับการทาบทามให้เป็น….
    ขอให้พิจารณาให้ดีเพราะเป็นหัวหน้าในฝัน…นั้นเป็นยาก
    ขืนเป็นหัวหน้าแล้วเกิดลูกน้องเกลียดถึงกับออกปากขับไล่
    มันจะน่าอับอายที่ต้องย้ายงาน และย้ายบ้านหนี นะนา<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    โลกใบนี้ โลกที่พวกเราหรือสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายได้อาศัยอยู่นี้ประกอบด้วยธาตุหลัก 4 อย่าง ดิน น้ำ ไฟ ลม ทุกท่านคงทราบ ทุกสรรพสิ่งก็ได้อาศัยธาตุทั้งสี่นี้เป็นที่อาศัย ร่างกายของคนก็ดี ร่างกายของสัตว์ก็ดี ต้นไม้ต้นหญ้า ก็ได้อาศัยธาตุทั้งสี่เป็นหลัก

    ฟังจากหลวงพ่อพระราชพรหมยานที่ท่านนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาสอน ว่าธาตุทั้งสี่เป็นของไม่สะอาดเป็นของสกปรก ยิ่งร่างกายของคนและสัตว์ด้วยแล้วสกปรกมากที่สุด ผมก็ได้นำมาพิจารณาด้วยตัวเองแล้วเป็นจริงตามที่ท่านสอนทุกประการ ร่างกายของคนและสัตว์สกปรกกว่าส้วมเสียอีก เพราะส้วมถ้าเราไม่เอาของเสียจากคนหรือสัตว์ไปใส่มันจะสกปรกไหม ของเสียทั้งหลายที่ส้วมมีมันมาจากคนทั้งนั้น

    ลองพิจารณาดูนะครับว่าร่างกายนี้สกปรกจริงไหม มันเป็นที่อาศัยของคน(เอาเฉพาะคนก่อนก็แล้วกันนะครับ) ทุกระดับตั้งแต่เด็กยันแก่ใกล้ตาย คนชั่วช้าเลวทรามสุดๆ จนถึงดีสุดๆก็คือพระพุทธเจ้า ก็ได้อาศัยร่างกายอันเต็มไปด้วยความสกปรกนี้ด้วยกันทั้งนั้น บรรจุได้ทั้งดีทั้งชั่ว

    เมื่อเทียบกันระหว่างธาตุทั่วไป ดิน หิน ปูน ทราย ทองเหลือง ทองแดง เงิน นาก ทองคำ กับร่างกายของคนที่ผมกล่าวมาแล้วอันไหนมันเลวและสกปรกกว่ากัน ปรากฎว่าร่างกายของคนนี้เลวและสกปรกกว่ามากมายหลายสิบเท่า ถ้าไม่เชื่อก็เอาศพที่มีน้ำเลือดน้ำเหลือง เอาไปวางเปรียบเทียบกับ ดิน หิน ปูน ทรายดูก็ได้นะครับ เรากล้าจับอันไหน
     
  6. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ทีนี้ผมจะมากล่าวถึงร่างกายอันแสนสกปรกนี้ แต่ประกอบด้วยคุณงามความดีที่อาศัยเรือนร่างนี้นะครับ คุณไม่งามและความเลวไม่กล่าวถึงเสียเวลาเปล่า จะกล่าวแค่เพียงว่าสภาพร่างกาย ของคนดีและคนชั่วมีสภาพคล้ายกันตายได้เหมือนกัน คนชั่วนี่ตายเมื่อไรเน่าได้เมื่อนั้น แต่คนดีสุดๆตายแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อยก็มีนะครับ ก็ด้วยคุณความดีที่มีในร่างนั้น

    ทีนี้ร่างกายที่บรรจุคุณความดีนี่ได้จริงหรือ ขณะที่เราทรงร่างกายขันธ์ห้านี่เรารักษาศ๊ลห้าได้ไหม ศีลแปดได้ไหม ศีลสิบได้ไหม ศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ดได้ไหม ก็ตอบว่าได้ แต่ท่านจะแย้งว่าไม่ใช่ของร่างกายผมก็ว่าใช่และถูต้องเพราะเป็นคุณของจิต อทิสมานกาย แต่เมื่อยังประกอบกันอยู่ผมก็ถือว่าร่างกายด้วย

    และขยับขึ้นไป ร่างกายนี้สามารถบรรจุคุณงามความดีที่เหนือโลกได้ไหม เช่น อริยะบุคคล พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ และสูงสุดเป็นพระพุทธเจ้าด้วยร่างกายนี้ได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ เพราะปัจจุบันมีพระอริยะบุคคลทรงขันธ์ห้าอยู่มากมาย

    ในเมื่อร่างกายที่แสนสกปรกสามารถบรรจุพระพุทธคุณที่มีพระธรรมคุณด้วยได้ และบรรจุพระอริยะสังฆคุณที่มีพระธรรมคุณด้วยได้ แล้ว ดิน หิน ปูนทราย ทำไมถึงจะบรรจุคุณ พระพุทธคุณ พระสังฆคุณไม่ได้ ซึ่งมีความสะอาดบริสุทธิ์กว่าร่างกายเยอะทีเดียว อาจจะแย้งได้ว่าไม่มีจิตรองรับเหมือนร่างกายก็จะมีเหตุผลมากล่าวต่อไป
     
  7. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    เนื่องจากเป็นที่ทราบกันแล้วว่า พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ นั้นอัปปมาโณ คือหาที่สิ้นสุดของความดีไม่ได้ ไม่จำกัดทั้งกาลเวลาและสถานที่ เราสามารถเข้าถึงได้ตลอดเพียงแค่น้อมใจเข้าหาถึงได้ทันที นี่คืคุณพระรัตนะตรัย

    คุณของพระรัตนะตรัยไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้ ไม่มีอะไรมาทำลายลงได้ด้วยเหตุนี้ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์หรือพระอริยะสงฆ์จึงมีได้ทุกหนทุกแห่งทุกกาลเวลา และด้วยเหตุนี้ทำไมวัตถุมงคลจะไม่มีพระพุทธคุณหรือมีไม่ได้ การจะสร้างเหรียญพระก็ดี พระพุทธรูปก็ดี ก็ได้อาศัยวัตถุธาตุที่มีในโลกเรานี้ ทำขึ้นมาแล้วกำหนดจิตเอาตามขั้นตอนและวิธีที่ผมไม่ทราบรายระเอียดทั้งหมด ของแต่ละที่และสำนัก

    แต่ที่ผมทราบก็คือการปลุกเสกสายหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ซึ่งท่านได้เปิดเผยถึงขั้นตอนวิธีต่างๆทั้งหมด ผมขอกล่าวแต่เพียงคร่าวๆ ท่านบอกว่าการปลุกเสกนั้นท่านไม่ได้ทำ แต่ได้อัญเชิญพระเบื้องบนมาทำให้ ก็คือพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาทำให้ รวมถึงพระอรหันต์สาวกทั้งหลายด้วย เป็นผู้ทำให้ทั้งหมด ท่านบอกว่าด้วยอำนาจพุทธคุณไม่มีวันเสื่อมและไม่มีอะไรมาทำลายให้เสื่อมได้ ไม่เหมือนที่ทำด้วยอภิญญาสมบัติธรรมดามีเสื่อมได้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ด้วยเหตุนี้ก็แสดงว่าพระของท่านบรรจุด้วยพระพุทธคุณได้ด้วย เช่นเดียวกันครับนี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลข้อเขียนนี้ให้ใช้พิจารณาด้วยตัวเองนะครับ <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ธันวาคม 2006
  8. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    เนื่องจากข้อเขียนของข้าพเจ้า เป็นการสงสัยในคำกล่าวของครูบาอาจารย์แต่ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนาที่จะคัดค้าน คำกล่าวแต่ประการใด แต่ข้าพเจ้ายึดในความเชื่อด้วยเหตุผล ตามกฎ กาลามสูตร ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดปัญญาเห็นเหตุและผลด้วยตัวเองด้วยเถิด<O:p</O:p
    หากข้อสงสัยของข้าพเจ้าเป็นการไม่สมควรต่อครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่เทพโลกอุดรทุกพระองค์ และท่านอาจารย์ประถม ที่คุณสิทธิพงศ์นำข้อความมาลง<O:p</O:p
    ข้าพเจ้า ณรงค์ เพ็งลาภ ขอกราบขอขมาต่อครูอาจารย์ทุกท่านด้วยครับรวมทั้งคุณสิทธิพงศ์ด้วยครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แม้ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยสงสัยคำสอนของพระพุทธเจ้า ในความเป็น อนัตตา และบัดนี้ข้าพเจ้าได้เข้าใจด้วยปัญญาของตัวเองแล้ว จึงสิโรราบโดยสิ้นเชิงต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าข้า<O:p</O:p
     
  9. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +13,541
    แวะมากินกาแฟอีกสักหนึ่งแก้ว(วิญญานของกาแฟ) ก่อนเข้า กทม. เพื่อไปชมงานวิทยาสาสตร์ทางจิต ได้รับฟังธรรมะแต่เช้าเลยครับ แล้วถ้าวันไหนผมได้มีโอกาส พบเจอสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมจะกราบนมัสการถามเกี่ยวกับเรื่องพุทธคุณนี้ ให้ด้วยนะครับ ....ฮึ...ฮึ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    ไว้ผมจะมาตอบนะครับ ผมจะไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิต

    เรื่องนี้เป็นเรื่องอธิบายได้ไม่ยาก สำหรับผู้ที่จับพลังของพระพิมพ์ได้หรือจับพลังพระพิมพ์เป็น แต่ค่อนข้างยากสำหรับผู้ที่จับพลังของพระพิมพ์ไม่ได้หรือไม่เป็น

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  11. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,443
    ไปชมงานวิทยาศาสตร์ทางจิต แล้วครับ วันนี้จะไปอีกเพราะยังดูไม่ทั่วเลย
     
  12. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,443
    ในงานวิทยาศาสตร์ทางจิต วันนี้มีแบบทดสอบว่าเราทำสมาธิได้ลึกระดับไหน(แบบ realtime)
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ขอบคุณและโมทนาครับคุณสิทธิพงศ์

    เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเบาๆนะครับไม่หนักไม่ซีเรียด เป็นเพียงความรู้และความเชื่อของแต่ละบุคคล เพื่อนำมาเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน สำหรับผมยังมีอีกหลายตอนครับที่เป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าไม่เป็นเหตุเกินวิสัยซึ่งกันและกันผมก็จะยกมากล่าว

    ผมขออนุนุญาติเอาคุณ เม้าฯ มาเกี่ยวข้องนิดนึงนะครับ เรื่องหินแก้วโป่งข่าม ที่มีเทวดาประจำอยู่แต่ละก้อน หรือหลวงพ่อเกษมที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ท่านมีความสามารถพิเศษเห็นผีเห็นเทวดาด้วยตา เทวดาที่มีคุณเมื่อเทียบกับคุณของพระพุทธเจ้าแล้วเทียบไม่ได้ แต่ยังสามารถเข้าไปประจำในก้อนหินแต่ละก้อนได้ จะเข้าไปอยู่หรือไม่นั้นผมไม่ทราบแต่ก็ใช้คุณรักษาก้อนหินนั้นๆ ตามที่คุณเม้ากล่าวไว้

    ทีนี้มาเรื่องของอภิญญา อภิญญานี่สามารถทำได้แม้จะเป็นโลกิยะบุคคล เมื่อได้อภิญญาก็สามารถใช้คุณของอภิญญา ทำให้วัตถุมีความศักดิ์สิทธิ์ได้ เช่น เสกให้หินแข็งอ่อนได้ เสกให้น้ำอ่อนแข็งได้เป็นต้น นี่แค่อภิญญาของโลกิยะบุคคลก็สามารถทำได้

    อภิญญานี้พระพุทธเจ้าบอกว่าเป็นของเด็กเล่น ไม่ได้วิเศษอะไร เหาะเหินเดินอากาศได้ อย่างพระเทวทัต ก็ยังลงอเวจีได้เป็นต้น แต่ก็สามารถใช้คุณของอภิญญา แปลเปลี่ยนวัตถุที่มีในโลกให้เป็นไปตามต้องการได้

    ทีนี้มาถึงอริยะบุคคลที่มีความบริสุทธิ์ของจิตใจมากแล้ว ที่ขีดสูงสุดคือการเป็นพระอรหันต์ แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าที่มีคุณอเนกอนันต์ เมื่อท่านต้องการจะสงเคราะห์สัตว์โลก ด้วยการแบ่งบุญแบ่งบารมีท่านช่วยเหลือสัตว์โลกในรูปแบบต่างๆย่อมสามารถทำได้ กับการเอาพุทธคุณบรรจุในวัตถุมงคลที่ผู้อยู่บนโลกทำขึ้นนี่ผมว่าเรื่องเล็กนะครับ

    ในเมื่อแค่อภิญญาโลกิยะบุคคลยังสามารถทำได้ต่อวัตถุ แล้วพระพุทธองค์เหนือกว่าสิ่งใดในโลกทั้งสามจะทำไม่ได้นี่ผมว่าจะแปลกมากๆเลยทีเดียว เมื่อพระองค์ก็ยังได้อาศัยธาตุสี่บนโลกมนุษย์มาสำเร็จกิจของพระพุทธเจ้า จนทำให้สังขารของท่านที่เป็นธาตุสี่ กลับกลายเป็นพระบรมสารีริกธาตุเมื่อพระองค์ท่านดับขันธ์ปรินิพาน ให้มนุษย์และเทวดาได้เก็บไว้สักการะบูชาจนปัจจุบัน นี่ก็ด้วยอำนาจพระพุทธคุณล้วนๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2006
  14. oyoyo554

    oyoyo554 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +9,199
    ข้อความโพสนี้ส่งตรงถึงท่านที่ไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิต

    หากท่านใดไปเที่ยวชมงานแล้ว หากมีกล้องดิจิตอล ช่วยถ่ายภาพงานมาให้ชมกันหน่อยนะคะ ว่าในงานบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง

    เพราะงานนี้สำนักข่าว YOYO ยอมพลาดงานสำคัญเพราะติดธุระ ไปไม่ได้ค่ะ

    เช้านี้แวะเข้ามาทักทาย ได้อ่านที่พี่ณรงค์โพสไว้ก็ นึกขึ้นได้ทันทีว่า

    พุทโธ อัปปมาโณ(คุณของพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ)
    ธัมโม อัปปมาโณ(คุณของพระธรรมเจ้าไม่มีประมาณ)
    สังโฆ อัปปมาโณ(คุณของพระสงฆ์ไม่มีประมาณ)

    สาธุ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วันนี้ผมได้ไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่ 11 (9-10/12/49) ได้ไปถ่ายรูปด้วยแสงออร่า ผมเองถ่ายมา 2 ครั้ง ครั้งแรกถ่ายรูปโดยใส่พระพิมพ์ของวังหน้า ครั้งที่สองถ่ายรุปโดยไม่ใส่พระ ในรูปที่ถ่ายครั้งแรก มีแสงบริเวณตรงกลางหน้าอก มากจนไม่เห็นหน้าผม แต่พอถ่ายรูปครั้งที่สอง เห็นเป็นสีแดงรอบศีรษะ ก็เป็นเรื่องที่แปลกดี เลยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

    ถ้าพี่เม้าอ่านแล้ว ลองเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ผมอธิบายไม่เป็นครับ

    [​IMG]
    รูปที่ถ่ายรูป ผมใส่พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเสกครับ
    .
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  16. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    วันนี้ผมได้ไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่ 11 (9-10/12/49) ได้ไปถ่ายรูปด้วยแสงออร่า ผมเองถ่ายมา 2 ครั้ง ครั้งแรกถ่ายรูปโดยใส่พระพิมพ์ของวังหน้า ครั้งที่สองถ่ายรุปโดยไม่ใส่พระ ในรูปที่ถ่ายครั้งแรก มีแสงบริเวณตรงกลางหน้าอก มากจนไม่เห็นหน้าผม แต่พอถ่ายรูปครั้งที่สอง เห็นเป็นสีแดงรอบศีรษะ ก็เป็นเรื่องที่แปลกดี เลยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

    ถ้าพี่เม้าอ่านแล้ว ลองเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ผมอธิบายไม่เป็นครับ

    [​IMG]
    รูปที่ถ่ายรูป ผมใส่พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเสกครับ
    .
    <!-- / message --><!-- attachments -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพออร่า ของคุณสิทธิพงศ์ ขณะสวมพระของหลวงปู่โลกอุดร
    ปรากฏเป็นพลังออกมาจากพระเครื่อง สว่างมากจนปิดบังไม่เห็นหน้าคุณ
    สิทธิพงศ์ แสงสีม่วง อ.สถิตย์ธรรม บอกว่า เป็นแสงของพระอริยเจ้า
    ที่มีพลังมากๆ แสงสีเหลือง เป็นแสงพลังของครูบาอาจารย์ท่านให้ความคุ้มครองอยู่ ซึ่งทั้งหมดเป็นแสงออร่าที่ออกมาจากพระเครื่อง ที่มีอิทธิคุณสูงส่ง
    ผมก็เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เอง โมทนาสาธุครับ
     
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ไปชมภาพบรรยากาศงานวิทยาศาสตร์ทางจิตครั้งที่ 11 กันนะครับ
    สร้างสรรค์โดย สำนักข่าวเม้าตาอิน ข รับ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=411303#post411303
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE class=tborder id=post410437 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 06:55 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2324 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Narong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_410437", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:52 PM
    วันที่สมัคร: Jan 2006
    ข้อความ: 610 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6,005 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 7,094 ครั้ง ใน 601 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 779 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_410437 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ทีนี้ผมจะมากล่าวถึงร่างกายอันแสนสกปรกนี้ แต่ประกอบด้วยคุณงามความดีที่อาศัยเรือนร่างนี้นะครับ คุณไม่งามและความเลวไม่กล่าวถึงเสียเวลาเปล่า จะกล่าวแค่เพียงว่าสภาพร่างกาย ของคนดีและคนชั่วมีสภาพคล้ายกันตายได้เหมือนกัน คนชั่วนี่ตายเมื่อไรเน่าได้เมื่อนั้น แต่คนดีสุดๆตายแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อยก็มีนะครับ ก็ด้วยคุณความดีที่มีในร่างนั้น

    ทีนี้ร่างกายที่บรรจุคุณความดีนี่ได้จริงหรือ ขณะที่เราทรงร่างกายขันธ์ห้านี่เรารักษาศ๊ลห้าได้ไหม ศีลแปดได้ไหม ศีลสิบได้ไหม ศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ดได้ไหม ก็ตอบว่าได้ แต่ท่านจะแย้งว่าไม่ใช่ของร่างกายผมก็ว่าใช่และถูต้องเพราะเป็นคุณของจิต อทิสมานกาย แต่เมื่อยังประกอบกันอยู่ผมก็ถือว่าร่างกายด้วย

    และขยับขึ้นไป ร่างกายนี้สามารถบรรจุคุณงามความดีที่เหนือโลกได้ไหม เช่น อริยะบุคคล พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ และสูงสุดเป็นพระพุทธเจ้าด้วยร่างกายนี้ได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ เพราะปัจจุบันมีพระอริยะบุคคลทรงขันธ์ห้าอยู่มากมาย

    ในเมื่อร่างกายที่แสนสกปรกสามารถบรรจุพระพุทธคุณที่มีพระธรรมคุณด้วยได้ และบรรจุพระอริยะสังฆคุณที่มีพระธรรมคุณด้วยได้ แล้ว ดิน หิน ปูนทราย ทำไมถึงจะบรรจุคุณ พระพุทธคุณ พระสังฆคุณไม่ได้ ซึ่งมีความสะอาดบริสุทธิ์กว่าร่างกายเยอะทีเดียว อาจจะแย้งได้ว่าไม่มีจิตรองรับเหมือนร่างกายก็จะมีเหตุผลมากล่าวต่อไป
    <!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
    **************************************************

    เรามาว่ากันเรื่องขันธ์กันก่อน เรื่องของขันธ์ ซึ่งประกอบไปด้วยธาตุ 4 คือ ดิน ,น้ำ ,ลม ,ไฟ นั้น เป็นส่วนประกอบทำให้เกิดเป็นรูปร่าง เกิดเป็นบุคคลขึ้น โดยมีวิญญาณ ซึ่งยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอยู่ วิญญาณเป็นพลังงานรูปหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยธาตุทั้ง 4 ประกอบกันขึ้นครับ

    บุคคลที่ฝึกจิตดี ก็จะมีการรวบรวบพลังงานซึ่งเป็นจิตให้รวมกันอยุ่และสามารถทำให้เกิดสิ่งต่างๆที่คาดไม่ถึง

    บุคคลที่ไม่ได้มีการฝึกจิต ก็จะไม่มีการรวบรวมพลังงานซึ่งเป็นจิตวิญญาณให้รวมกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะรวมเป็นรูปไม่ได้ เพียงแต่ไม่มีพลังที่จะทำให้เกิดการปรากฎเป็นตัวเป็นตนได้

    การที่พระอริยสงฆ์ มีพลังเช่น การเสกวัตถุมงคลนั้น ไม่ได้หมายความว่า ตนเองจะมีพลังพุทธคุณอยู่ในตัวเอง แต่เกิดจากอำนาจของจิตที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างเอกอุ แต่จะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีปฎิบัติของพระอริยสงฆ์แต่ละรูป บางรูปเป็นพระอรหันต์แต่ไม่มีฤทธิ์ก็มีเยอะ บางรูปยังไม่เป็นอรหันต์ เป็นแต่เพียงพระอนาคามี แต่มีฤทธิ์ก็มาก ส่วนเรื่องของร่างกายของพระอริยสงฆ์หรือพระสงฆ์ที่ไม่เน่าเปื่อยนั้น ไม่จำเป็นเสมอไปที่เจ้าของร่างนั้นจะเป็นพระอรหันต์ อาจจะเกิดจากการอธิษฐานของเจ้าของร่าง ในขณะอยู่ในฌาณ หรือญาณ หรือเกิดจากการกินสมุนไพรบางอย่างก็เป็นไปได้


    พลังจิตของพระอริยสงฆ์ที่ใช้ถ่ายทอดพลังลงไปที่วัตถุต่างๆนั้น เป็นพลังจิตของตนเองทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง สมเด็จองค์ปฐม ทั้งผมเองและเพื่อนบางคนเคยนำสมเด็จองค์ปฐมที่ผ่านการพุทธาภิเษกแล้ว โดยพระสงฆ์ผู้เสกได้บอกว่า ได้เชิญสมเด็จองค์ปฐมมาเสกให้ แต่เมื่อได้นำไปตรวจพลังอิทธิคุณกับหลายๆคน หลายๆองค์แล้วปรากฎว่า พระพิมพ์สมเด็จองค์ปฐม มีพลังแต่พระสงฆ์ผู้เสกเท่านั้น ไม่เคยมีพลังของสมเด็จองค์ปฐมเลยแม้แต่องค์เดียว แต่ที่แรงนั้น จะเป็นพลังของเทวดาเบื้องบน ซึ่งพระสงฆ์ที่เป็นองค์ปลุกเสกนั้น ได้เชิญเเทวดาเบื้องบนมาช่วยเสกให้ครับ

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ไม่มีอะไรจะมาขวางทางได้ครับ เพราะว่าคุณพระศรีรัตนตรับ ย่อมอยุ่ในใจของผู้ประพฤติธรรมครับ

    แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวัตถุมงคลเลยแม้แต่นิดเดียว การที่วัตถุมงคลมีพลัง มีอำนาจนั้น อยู่ที่พลังจิตขององค์ผู้เสก หรือเทวดาเบื้องบนที่ท่านถูกเชิญมาเสกเท่านั้น พระอริยสงฆ์ที่ท่านนิพพานแล้ว ท่านจะไม่ลงมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ซึ่งรวมทั้งหลวงพ่อฤาษีด้วย ผมเองเคยนำพระที่เว็บนี้ ที่ได้แจ้งว่ามีการทำพิธีพุทธาภิเษก โดยเชิญสมเด็จองค์ปฐม และหลวงพ่อฤาษี มาเสกวัตถุมงคลให้(แต่ผมเองไม่บอกว่าที่ไหนนะครับ) กับพระหางหมาก ไปตรวจสอบกับแหล่งที่ผมตรวจสอบพระพิมพ์หลายที่ ปรากฎว่าพระที่ได้แจ้งว่ามีการทำพิธีพุทธาภิเษก โดยเชิญสมเด็จองค์ปฐมและหลวงพ่อฤาษี มาเสกให้นั้น มีพลังอยู่นิดเดียวและไม่ใช่พลังของสมเด็จองค์ปฐมและไม่ใช่พลังของหลวงพ่อฤาษี แต่พระหางหมากนั้น มีแต่พลังของหลวงพ่อฤาษี และพลังของเทวดาเบื้องบนครับ

    อีกเรื่องไหนๆก็พูดถึงหลวงพ่อฤาษีแล้ว หลวงพ่อฤาษีท่านเองไปนิพพานแล้ว เพราะฉะนั้น พระพิมพ์ของท่านๆจะฝากไว้กับเทวดาให้ดูแลรักษาพระพิมพ์และคนที่ใส่พระพิมพ์แทนท่าน เรื่องนี้นั้น ผมคงอธิบายมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ หากคุณณรงค์มีความประสงค์ที่จะทราบมากกว่านี้ โทร.มาคุยได้ครับ

    เรื่องพระพุทธคุณ แปลได้ว่า คุณของพระพุทธเจ้า ย่อมไม่มีวันเสื่อมครับ แต่พลังที่อยู่ในพระพิมพ์และวัตถุมงคลนั้น เป็นพลังที่เกิดจากอำนาจจิตของผู้เสก เป็นเรื่องธรรมดาที่ย่อมมีเกิดมีดับได้ครับ

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    เรื่องของเทวดานั้น ข้าวสารเพียงเมล็ดเดียว เทวดาสามารถเข้าไปอยู่ได้เป็นร้อยๆองค์ครับ เรื่องนี้ก็เป็นคนละเรื่องกับพุทธคุณ และการที่เทวดาเข้าไปอยู่ในสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้น ต้องมีการเชิญเทวดานะครับ

    เรื่องฤทธิ์นั้น ต้องดูว่าฤทธิ์นั้นเกิดจากอะไร จากฌาณ ,ญาณ ,อภิญญา ในแต่ละอย่างนั้น ก็แบ่งเป็นขั้นๆไป แต่ฤทธิ์ที่เกิดขึ้นก็สามารถเสื่อมได้ ฤทธิ์ที่เกิดจากอำนาจจิตขององค์ผู้เสกนั้น วัตถุที่รับการเสก ไม่ว่าเป็นพระอริยสงฆ์หรือพระอรหันต์องค์ไหน ก็มีวันเสื่อมได้นะครับ

    เรื่องพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุนั้น เป็นผลของการปฎิบัติ (เหมือนกับการฟอกจิต) ไม่ใช่เรื่องของพุทธคุณอีกนะครับ

    หากว่ามีพระอริยสงฆ์ เสกโดยอัดพลังพุทธคุณไปที่โจรซึ่งปล้น จี้ ข่มขืน ฆ่าคน เป็นว่าเล่นและไม่เคยปฎิบัติธรรมเลย ถามว่ากระดูกจะเป็นพระธาตุได้หรือไม่ เพราะว่าได้ให้พระอริยสงฆ์เสกโดยอัดพลังพุทธคุณลงไปในตัวแล้ว

    ผมตอบแทนนะครับ ไม่มีพระอริยสงฆ์องค์ไหนในจักรวาลนี้ สามารถอัดพลังพุทธคุณลงไปในตัวของโจรซึ่ง ปล้น จี้ ข่มขีน ฆ่าคน เป็นว่าเล่นและไม่เคยปฎิบัติธรรมเลย ได้ และกระดูกไม่สามารถใสเป็นพระธาตุได้ครับ
    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...