(ปิดกระทู้)แจ้งข่าวอ.ต้น (คนวัด) เรื่อง พิธีขอขมากรรม,ระเบิดจิต,สักผงสีวลี,สักไก่แดง ประจำปี 2554

ในห้อง 'บริการรับดูดวง' ตั้งกระทู้โดย saipote, 27 มิถุนายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    แล้วกำหนดบวชเมื่อไหร่คะ น้อง jaetechno จะหายทันเหรอ, เดี๋ยวพี่จะขอร่วมบุญด้วยนะคะ ประมาณอาทิตย์หน้าจะโอนเงินเข้าำไป
     
  2. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    <TABLE id=post4022435 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>เมื่อวานนี้, 01:50 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #[​IMG]
    สวัสดีชาวนครบาดาลทุกท่าน ที่เอ่ยนามและไม่ได้เอ่ยนาม ก๊าป วันนี้ไซมีงานบุญดีๆมาฝาก เนื่องจาก เจ้า jaetechnoจะบวชในอีกไม่นานนี้ และน้องมีความประสงค์จะบวชมานานแล้ว แต่ด้วยเหตุอันใดไม่ทราบทำให้ยังไม่ได้บวชจนถึงทุกวันนี้ และได้มาบอกกล่าวกับไซ ไซจึงได้ไปปรึกษาแม่ไซ และแม่กำลังดำเนินการไปถามเจ้าอาวาส และจะให้น้องบวชที่ กทม. นี้ แต่ตอนนี้ต้องรอคำตอบจากแม่ ว่าจะบวชวันไหน ที่วัดไหน และวันที่เท่าไหร่ จึงขอใคร่ ญาติธรรมชาวนครบาดาลทุกท่าน ใครที่สนใจจะร่วมบุญ บวชพระใหม่ เนื่องจากน้อง jaetechno ขาดปัจจัยในการบวชและการเดินทางมา กทม. เนื่องจากน้องอยู่ จังหวัด เพชรบุรี และทางบ้านน้องมีฐานนะ ไม่ค่อยดีนัก และปัจจุบัน น้องยังตกงานอยู่ เลยขาดปัจจัยในการบวช สาเหตุ ที่ไซให้น้องมาบวชที่ กทม. นี้เนื่อง จากทางแม่มีผู้ใหญ่ หลายคน ที่จะร่วมบุญนี้ เลยอยากให้น้องมาบวชที่นี่ เพื่อพวกท่านจะได้ร่วมกันโกนหัว และแห่นาค และค่อยทำการย้ายไปจำวัดที่ จ. เพชรบุรี หรือตามใจน้อง ถ้าท่านใดมีความประสงค์ จะร่วมบุญ ขอให้โอน เงิน มาร่วมกับไซ ที่เลขที่บัญชีนี้ และไซจะอัฟเดตบัญชีให้ค่ะ และเสร็จงานบวชน้องแล้ว จะนำรูปงานมาลงให้ชม และได้อนุโมทนาบุญกันค่ะ

    ชื่อบัญชี

    รุ่งทิพย์ ผูกภู่
    ธ. กรุงเทพ สาขา บางกรวย บ/ช ออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี 208-0-35286-3
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุโมทนาและขอบคุณพี่น้องชาวบาดาลมา ณ โอกาสนี้ด้วย สาเหตุมาจนป่านนี้(27 ย่าง28 ) ยังมิได้บวชทั้งที่อยากบวชมานานหลายปี แต่จะติดขัดมาตลอด ไม่ได้บวช เด็กบ้านนอกฐานะทางบ้านไม่ค่อยจะดีครับ ครอบครัวแตกแยกมาตั้งแต่ 2-3 ขวบ สู้ชีวิตมาตลอดครับจนเรียนจบ ป.ตรี มีงานทำตอนหลังเก็บเงินพอทีจะจัดงานเล็กๆได้แล้วครับ แต่ดันมาตกงานซ้ำร้ายแม่ยังมาป่วยเลยปัจจัยที่บวชเลยเอาไปรักษาแม่ครับ เลยไม่ได้บวชอีก ได้มาคุยกับพี่ไซปรึกษาว่าจะบวชให้เจ้ากรรมนายเวรแม่ คุณพี่ไซและแม่พี่ไซเลยอาสาเป็นธุระให้ครับ เรื่องเป็นอย่างนี้ล่ะครับ ขอขอบคุณคุณกิ่ง อ.นิ และพี่รั้งและท่านอื่นๆมา ณ โอกาสนี้ด้วย

    <!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ตอบแทนน้องนะคะ น้องไม่ได้ป่วยหรอกค่ะ ที่ล้มเพระว่า ปัจจุบันน้องตกงานอยู่ 7 เดือนแล้ว ทุกวันนี้อยุ่ได้เพราะเงินประกันสังคม และเงินจากแฟนน้อง มาช่วยบ้าง แต่ปัจจุบันน้องกับแฟนได้ขาดการติดต่อกันแล้ว และตอนที่น้องทำงาน ก็พอมีเงินเก็บอยุ่บ้าง ก็เลยคิดว่าเงินก้อนนี้จะเอามาบวช เก็บมาหลายปีค่ะ แต่พอตกงาน ก็ต้องเอาเงินก้อนนี้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และช่วยไซในงานแจกจ่ายพระธาตุตามวัดต่างๆบ้าง พอสมควร และมาระยะ เดือนที่แล้ว น้องประสบปัญหาชีวิตหนัก เนื่องจาก แม่ป่วย ป้าป่วย ลุงป่วย น้องเลยต้องเอาส่วนที่เหลือ ไปรักษาจนหมด และแฟนดันมาบอกเลิก ทำให้น้องประสบปัญหาหนักยิ่งกว่าใดๆ ไซก็อธิบายไม่ถูก น้องเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยกล้าระบาย ถ้าไม่ถามตรง น้องก็บอกว่าท้อจนไม่รุ้จะท้อยังไงแล้ว ไซก็เลยแนะนำว่า หลังจาก ลุง ป้า แม่ อาการ ดีขึ้นแล้ว ก็สมควรจะบวชซะ ถ้าเลื่อน ก็จะไม่ได้บวชแน่ ก็เลยรับเป็นเจ้าภาพบวชให้น้องแทน หากใครสนใจก็สามารถร่วมบุญได้ตามศรัทธานะคะ ขอบพระคุณมากๆค่ะ
     
  4. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    บวชซะน้อง jaeteฯ การทำความดีกุศลใหญ่มักมีกรรมตัดรอนเสมอ ได้กี่วันก็ไม่เป็นไร ขอให้ตั้งใจในการบวชและในระหว่างที่บวช ขอให้ปฏิบัติอย่างดีที่สุด อย่ารอเวลาอะไรอีกต่อไปเลยนะยิ่งตอนนี้มีผู่อุปถัมภืก็เป็นการดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกันในงานบุญ ทำเรียบง่ายสมพอสมควร ได้บุญใหญ่ แน่นอนล่ะตอนนี้อายุ27ตกงานชีวิตมีปัญหาแน่ๆตามลำดับของกำลังบุญ ที่ลดกำลังลงแต่หลังเดือนมกราคมปี54น้องจะดีขึ้น น้องต้องทำอาชีพส่วนตัวนะเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ได้มันทำได้ไม่นานสัมมาอาชีพของเราต้องทำอาชีพส่วนตัว
    29-30จะดีขึ้นตามลำดับ ตอนนี้กำลังบุญลด และเราติดค้างหนี้สงฆ์เอาไว้ในกาลก่อนด้วย
    ขอให้มั่นในทานศีลภาวนาจะพาพ้นภัย อะไรๆจะดีขึ้น
    อย่างไรผมจะช่วยอีกแรงนะร่วมด้วยช่วยกัน กำหนดวันบวชได้เมือ่ไหร่ช่วยแจ้งด้วย
    อนุโมทนาบุญในการทำกุศล และเป็นกำลังใจให้ตลอด คนเราล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียรพยายามในการทำความดี
    อ.คนวัด
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ตอนนี้ได้ไปสอบถามทางเจ้าอาวาสวัด ค่าบวชทั้งหมด 8,000 บาท แต่ยังไม่รู้ว่ารวมค่าซอง + กลองยาวหรือยัง คาดว่าจะใช้พระจำนวน 9 รูป แต่ว่าถวายเพลพระนั้น มีพระจำนวน 30 องค์ คงต้องหาปัจจัยนี้เพื่อเลื้ยงเพลพระ แต่วันบวชต้องรอน้องมาคุยกับเจ้าอาวาสอาทิตย์นี้ค่ะ
     
  6. per_vee

    per_vee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +22
    งวดนี้ชัวร์เลย 38 10 11
     
  7. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ปัญหาคาใจเรื่องทำไมคนเราต้่องเรียนรู้เรื่องกรรม
    มีหลายคนหลายกระแสนะครับที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องให้ความสนใจในเรื่องกรรมด้วย
    สาเหตุหลักๆมีดังนี้ครับ
    1 เพราะเรื่องกรรมเป็นเรื่องใหญ่ ที่ในทุกภพชาติดวงจิตเราได้บัยทึกกรรมเอาไว้และได้ทำกรรมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นทางใจ มโนกรรม ทางวาจา วจีกรรม ทางกาย กายกรรม
    ถ้าเราไม่เรียนรู้เรื่องกรรม เราก็ต้องลองผิดลองผิดลองถูกและเผลอทำกรรมไม่ดีอันมีผลทำให้ชีวิตของตัวเราแย่ สภาวะต่างๆก็ลดลงไปหรือถ้าเราทำกรรมไม่ดีอันหนักเอาไว้ก้ไม่สามารถพัฒนาตนเองก้าวสู่ความหลุดพ้นในวิมุติ การเวียนว่ายตายเกิดได้ ดังนั้นถือว่าการเรียนรู้เรื่องกรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด
    2 พระพุืทธองค์ท่านทรงสอนในเรื่องกรรมว่าทำกรรมเช่นไรแล้วได้ผลอย่างไร เพื่อทรงสอนให้เรารู้ถึงเหตุและผลของการกระทำ แต่ท่านไม่ได้ให้เราไปยึดติดในกรรมที่ล่วงมาแล้ว แต่ให้เราพัฒนาในการทำกรรมดีให้มาก เพื่อความสุขในภพนี้และภพหน้าหรือหลุดพ้นการเวียนว่ายตายเกิด
    3 เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขกรรมในสิ่งที่เราได้เคยทำเอาไว้ในอดีตได้ แต่เราสามารถพัฒนาตนเองให้สร้างทำแต่กรรมดีได้
    4 ไม่มีผู้ใดล่วงในเรื่องกรรมได้ละเอียดแบบทะลุเท่าพระพุทธเจ้า ดังนั้นเป็นการยากอย่างยิ่งที่จะสรุปผลกรรมทั้งหมดในภพชาตินึงได้ เพราะว่าคนเราถ้ายังมีดวงจิตในการเวียนว่ายตายเกิดก็ยังคงสร้างกรรมอยู่ตลอดเวลา และเรื่องกรรมนี้จัดเป็นเรื่องอจินไตยสี่อย่างที่ไม่สมควรไปคิดไปหาเพราะมันสลับซับซ้อนยากที่จะสรุปได้ลงตัว
    5 จะเป็นการดีไหมที่เราพอจะประเมิณวาระกรรมของเราตามเหตุผลตามจริงตามหลักคำสอน เพื่อหาทางพัฒนากรรมของเราให้ดีขึ้นตามลำดับ โดยการประเมินนั้นเอาตามหลักคำสอนที่แท้จริงมาเทียบเคียงวและวิเคราะห์หาเหตุเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อการปรับเปลี่ยนและพัฒนากรรม ของเราให้ดีขึ้น
    6 ในขณะที่เราได้รับผลของกรรมที่เราทำเอาไว้เราก็มีสิทธิ์ทำกรรมดีเพื่อลดความเข้มข้นของกรรมไม่ดีได้เสมอ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตารับแต่กรรมเก่าที่ไม่ดีอยู่ฝ่ายเดียว
    7 กรรมเก่าคือชนกกรรมที่นำพาพวกเราให้มาเกิด กรรมเก่าคืออายตนะที่เรามีในตอนนี้
    และกรรมนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ สลับขั้วได้เสมอ หรือเรียกกันง่ายๆว่ากรรมนั้นดิ้นได้ แต่ถ้าวิบากหรือผลของกรรมอันใดที่เราทำเอาไว้เข้มข้นมาก ก้ยากที่จะหลบหลีกหรือไปห้ามไม่ให้เกิดผลของกรรมนั้นได้
    8 ดังนั้นเป็นการดีหรือไม่ถ้าเรามาเรียนรู้ในเรื่องกรรมอย่างถูกต้องและไม่งมงายในกรรมที่ผิดๆอีกต่อไป
    หัวข้อที่เอามาลงนี้เพื่อให้คิดพิจจารณาด้วยสติตามเหตุและผล ตามคำสอน และให้เลือกทำแต่กรรมดี ผู้เรียนรู้ในเรื่องกรรมย่อมเป็นผู้ที่ไม่ประมาท ผู้ที่เอาใจใส่ในการกระทำของตนเองอยู่เสมอย่อมเป็นผู้ที่ไม่ได้รับความทุกข์ร้อนของวิบากกรรมอันไม่ดี
    เมือ่เหตุเป็นเช่นนี้ เราควรมาศึกษาในเรื่องกรรมแบบถูกต้องตามหลักคำสอนกันเพื่อการพัฒนากรรมที่ดีต่อไปให้มากขึ้น
    อ.คนวัดบ้านดวงธรรม
     
  8. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    เรื่องนั่งสมาธิ ว่าถ้าเรานั่งสมาธิแล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนนั่งแล้วเอาหัวห้อยลงมา เราจะภาวนาอย่างไรคะ หรือตามดูเฉยๆคะ
    ตอบ อาการที่เกิดนั้นมาจากจิตของเราถูกสังขารมารรบกวนครับ สังขารคือความคิดที่ปรุงแต้งในจิตครับ เวลาที่เรานั่งแล้วมันมีความรู้สึกแบบนี้ขอให้ตั้งสติรู้เท่าทัน ว่านี่สังขารมัยปรุงแต่งจิตเรานะให้เราหลงให้เราติดขัด การทำสมาธินี่ใช้จิต ไม่ได้ใช้ร่างกายทำ เรากำลังให้จิตมีสมาธิมีความสงบ ดังนั้นถ้าสังขารมารจะปรุงแต่งให้เราคิดว่าเรานั่งห้อยขานั่งห้อยหัว นั่งแลบลิ้นปลิ้นตา มันก้แค่สังขารมันปรุงแต่งจิต ให้เราหลงให้เราติดขัด เราก็ไม่สนใจมันหรอกมันจะปรุงขนาดไหนก็ช่างมัน เราเอาสติตามดู มันไปเรื่อยๆ ไม่ช้ามันก็หยุดปรุงสังขารเราเอง ให้ลองแก้วิธีนี้ดูก่อนนะครับ
     
  9. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493

    ขอบคุณมากค่ะในคำแนะนำ
    อนุโมทนา:cool:
     
  10. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ขยันทำทานมาตั้งหลายปีแล้วแต่ทำไมไม่เห็นมีความร่ำรวยขึ้นมาเสียทีเป็นเพราะกรรมอันใดและเหตุใดคะ
    ตอบ ทานคือการให้ การสละออก การเอาออก ไม่ใช่ก็เอาเข้า จุดมุ่งหมายของการทำทานคือทำให้เราเป็นผู้มีใจเอื้อเฟื้อไม่ตระหนี่ ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ได้ ในเรื่องการทำทานนี้คนเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนกันมาก ที่เข้าใจที่คลาดเคลื่อนเพราะมัวแต่มุ่งหวังผลของการทำทานแบบลงทุนแล้วหวังผลกำไรตอบแทน ก้เลยมีใจที่มุ่งหวังไว้ว่าฉันทำทานแล้วต้องเกิดความร่ำรวยแบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ พอเริอ่มทำแล้วยังไม่เห็นผลก้เลยมามีข้อสงสัยว่าทำไมทำแล้วยังไม่ร่ำรวยเสียที
    เอาละครับทุกท่านอาจมีความสงสัยนในเรื่องนี้ ผมขอตอบให้กระจ่างแบบสั้นๆรวบรัด
    1 การทำทานจัดเป็นอาการกรรมอย่างนึง และในเรื่องกฏแห่งกรรมนั้นก็เป็นเรื่องของกฏของธรรมชาติ เมือ่เราส้รางแรงอันใดเอาไว้เราย่อมได้ตอบคืนเสมอ ถ้าแรงที่เราสร้างเอาไว้นั้นมีความเข้มข้นมากเพียงพอ และอาศัยระยะเวลาในการทำพอสมควร
    ดังนั้นเมือ่เราให้ทานไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ธรรมชาติมักตอบแทนคืนให้เราเสมอไม่ช้าก้เร็ว พระพุทธองค์ท่านทรงมีปัญญาณมองการให้ผลคืนของธรรมชาติในเรื่องนี้ท่านทรงตรัสเอาไว้ว่า อยากรวยให้มั่นทำทาน นี่คือเหตุของผลที่ได้รับจากการทำทานตามกฏของธรรมชาติ
    2 ที่เราทำทานแล้วยังไม่เห็นผลก็เพราะเราทำแบบลงทุนแล้วหวังผลกำไรด้วยความโลภแล้วก็ยังมีการทำทานไม่ถูกต้อง ในเรื่ององค์ประกอบของการให้ทานที่มีผลสูงสุด
    3 เราอาจทำทานมากก็จริงแต่เรามีศีลที่บกพร่อง การให้ผลของทานเลยเกิดขึ้นได้น้อย
    เพราะศีลเป็นสิ่งที่รองรับผลของการทำทาน ตามคำกล่าวในบทสรุปของศีลว่า ศีเลนะสุคติงยันติ ศีเลนะโภคะสัมปะทา ฯ หมายถึงผู้มีศีลย่อมมีสุขทั้งภพชาตินี้และชาติหน้าย่อมบริบรูณ์ด้วยทรัพย์ ที่นี้พอศีลของเราบกพร่องเลยทำให้ผลของการทำทานที่เราทำไปนั้นให้ผลไม่เต็มที่
    4 ความรวยที่มั่งคั่งและมั่นคงมาจากผลของการมีจิตในการให้ทานที่ยิ่งใหญ่และสม่ำเสมอ
    ที่เราทำมาจากอดีตชาติที่สม่ำเสมอ
    ครับเดี๋ยวมาต่อกันต่อ
     
  11. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ขยันทำทานมาตั้งหลายปีแล้วแต่ทำไมไม่เห็นมีความร่ำรวยขึ้นมาเสียทีเป็นเพราะกรรมอันใดและเหตุใดคะ
    ตอบ ทานคือการให้ การสละออก การเอาออก ไม่ใช่ก็เอาเข้า จุดมุ่งหมายของการทำทานคือทำให้เราเป็นผู้มีใจเอื้อเฟื้อไม่ตระหนี่ ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ได้ ในเรื่องการทำทานนี้คนเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนกันมาก ที่เข้าใจที่คลาดเคลื่อนเพราะมัวแต่มุ่งหวังผลของการทำทานแบบลงทุนแล้วหวังผลกำไรตอบแทน ก้เลยมีใจที่มุ่งหวังไว้ว่าฉันทำทานแล้วต้องเกิดความร่ำรวยแบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ พอเริอ่มทำแล้วยังไม่เห็นผลก้เลยมามีข้อสงสัยว่าทำไมทำแล้วยังไม่ร่ำรวยเสียที
    เอาละครับทุกท่านอาจมีความสงสัยนในเรื่องนี้ ผมขอตอบให้กระจ่างแบบสั้นๆรวบรัด
    1 การทำทานจัดเป็นอาการกรรมอย่างนึง และในเรื่องกฏแห่งกรรมนั้นก็เป็นเรื่องของกฏของธรรมชาติ เมือ่เราส้รางแรงอันใดเอาไว้เราย่อมได้ตอบคืนเสมอ ถ้าแรงที่เราสร้างเอาไว้นั้นมีความเข้มข้นมากเพียงพอ และอาศัยระยะเวลาในการทำพอสมควร
    ดังนั้นเมือ่เราให้ทานไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ธรรมชาติมักตอบแทนคืนให้เราเสมอไม่ช้าก้เร็ว พระพุทธองค์ท่านทรงมีปัญญาณมองการให้ผลคืนของธรรมชาติในเรื่องนี้ท่านทรงตรัสเอาไว้ว่า อยากรวยให้มั่นทำทาน นี่คือเหตุของผลที่ได้รับจากการทำทานตามกฏของธรรมชาติ
    2 ที่เราทำทานแล้วยังไม่เห็นผลก็เพราะเราทำแบบลงทุนแล้วหวังผลกำไรด้วยความโลภแล้วก็ยังมีการทำทานไม่ถูกต้อง ในเรื่ององค์ประกอบของการให้ทานที่มีผลสูงสุด
    3 เราอาจทำทานมากก็จริงแต่เรามีศีลที่บกพร่อง การให้ผลของทานเลยเกิดขึ้นได้น้อย
    เพราะศีลเป็นสิ่งที่รองรับผลของการทำทาน ตามคำกล่าวในบทสรุปของศีลว่า ศีเลนะสุคติงยันติ ศีเลนะโภคะสัมปะทา ฯ หมายถึงผู้มีศีลย่อมมีสุขทั้งภพชาตินี้และชาติหน้าย่อมบริบรูณ์ด้วยทรัพย์ ที่นี้พอศีลของเราบกพร่องเลยทำให้ผลของการทำทานที่เราทำไปนั้นให้ผลไม่เต็มที่
    4 ความรวยที่มั่งคั่งและมั่นคงมาจากผลของการมีจิตในการให้ทานที่ยิ่งใหญ่และสม่ำเสมอ
    ที่เราทำมาจากอดีตชาติที่สม่ำเสมอ
    ครับเดี๋ยวมาต่อกันต่อ
     
  12. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ผมจะรับเปิดกรรมอย่างละเอียดทางไปรษณีย์ นับตังแต่วันจันทร์ที่15 พย 2553เป็นต้นไป ท่านใดสนใจรายละเอียดการเปิดกรรมดังกล่าวให้ติดต่อผมโดยตรงครับ


    อ.ต้น ค่าเปิดกรรมเท่าไรคะ และรายละเอียดอะไรบ้างคะที่ต้่องบอกอาจารย์น่ะค่ะ
     
  13. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ให้สอบถามผมโดยตรงทางโทรศัพท์นะครับ
     
  14. ประยูร123

    ประยูร123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2010
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +31
    ความรู้สึก

    อยากถามอ.ต้นหน่อยครับว่าช่วงนี้เวลาสวดมนต์จะรู้สึกขนลุกในบางบทคาถาและในลำคอจะรู้สึกว่าเย็นในลำคออยากรู้จังว่าเป็นเพราะว่าอะไรครับ และผ้ายันต์ธงชัยผืนสีขาวที่ประมูลได้มาเอามาพับใส่กรอบพระเพื่อเอาไว้ติดตัวได้ไหมครับ
     
  15. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ตอบ อาการที่เกิดนั้นเกิดจากอาการปิติครับ และเกิดจากการได้รับแรงพลังของกระแสพุทธคุณครับ ก็แค่รับรู้เฉยๆครับนั่นเป็นกระแสปิติครับ ที่ทำให้เราได้รับกระแสพลังพลังงานครับ โมทนาบุญด้วยครับ
    ส่วนผ้ายันต์นั้น ให้นำใส่กรอบบูชาที่บ้านดีกว่าครับ
    โมทนาสาธุครับ
     
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อนุโมทนาสาธุค่ะ ขอบพระคุณมากๆค่ะ ว่างก็มางานนะคะ จัดแบบง่ายๆค่ะ
     
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อ.คะ อยากทราบว่า เวลาจิตเรานิ่งแล้ว รู้สึกเหมือนจิตหลุดไป แล้วรู้สึกตัวเองลอยออกไปบนท้องฟ้า และพอเพื่อนชวนคุยก็ลงมาคุยกับเพื่อนได้ แต่พอหยุดคุยก็ยังลอยไปบนท้องฟ้า แล้วก็ลงมาคุยกับเพื่อนที แล้วก็ขึ้นไปอีก อยากนี้เรียกว่าอาการอะไรคะ หรือว่าหลอกตัวเองคะ
     
  18. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    ตอบ อาการที่จิตนิ่งนั้น ที่บอกมาว่ามีอาการเหมือนลอยบนฟ้านั้นมันคืออาการของระดับสมาธิที่อยู่ในช่วงปฐมญาณ คือมันเฉียดญาณ1-2ผสมกัน และอาการที่เหมือนจิตลอยนั้น ก็เป็นอาการปิติที่เรียกว่าอุเพ็งคาปิติ แต่ระดับของอาการที่เกิดในลำดับขั้นของสมาธิมันยังไม่ทรงตัวอยู่ในขั้นญาณ1หรือ2 มันผสมกันสามส่วนเลย คืออัปนาสมาธิ แล้วเข้าปฐมญาณ
    อันนี้ให้ฝึกทรงอารมณ์ ให้อยู่ระดับปฐมญาณหรือทุติยญาณให้ทรงตัว
    ตามลำดับ คือ
    ปฐมญาณ จะมีอาการ วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกัตคตา
    ทุติยญาณ มีอาการ วิจารณืปิติสุขเอกัตคตา
    สาเหตุที่มีความรู้สึกนั้นเพราะจิตมันเกิดกา่รรวมตัวในระดับนึงแต่ยังทรงอารมณ์นานไม่ได้มันเลยรู้สึกแบบนั้น ไม่ใช่อุปาทาานครับ แต่มันเป็นอาการของลำดับขั้นในสมาธิผสมรวมกันเฉยๆ
     
  19. เด็กไร้เดียงสา

    เด็กไร้เดียงสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,024
    ค่าพลัง:
    +3,303
    มาต่อเรื่องการทำทานแล้วทำไมยังไม่เห็นมีฐานะดีขึ้น
    ครับต่อข้อที่ 5 นะครับ
    5 ครับจริงอยู่ที่อาจเป็นไปได้ว่าในภพชาตินี้คุณขยันทำทานแบบสุดๆ แต่ใครจะรู้ได้ล่ะครับว่าในอีดตชาตินั้นคุณอาจจะไม่เคยทำทานมากแบบชาตินี้ก็ได้ เมื่อผลของการทำทานมันไม่เชื่อมโยงกัน ผลเลยยังไม่มีกำลังหนุนส่งให้เกิดฐานะที่ร่ำรวยขึ้นมาได้แบบทันตาเห็นแต่ถ้ายังเอิญในภพชาติที่แล้วคุณได้เคยทำทานมามากแล้วมาในภพชาตินี้คุณทำทานต่อเนื่องกันอีก ผลของการทำทานนี้จะส่งผลให้คุณมีฐานะร่ำรวยมีอันจะกินแบบสบายๆได้แน่นอนเพราะคุณทำทานเชื่อมโยงกันแบบสม่ำาเสมอทั้งในภพชาตินี้หรือภพชาติก่อน
    6 ทานที่เคยทำในอดีตชาติเกี๋ยวข้องกับธุรกิจการงานการค้าขายในปัจจุบัน
    เช่นในอดีตคุณมีฝีมือในการทำก๋วยเตี๋ยวแล้วคุณมักชอบนำก๋วยเตี๋ยวไปถวายพระหรือผู้ทรงศีล เป็นประจำ แล้วในปัจจุบัน คุณก้ยังมาทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวนี้อีก ผลบุญที่คุณได้ถวายทานที่เกี๋ยวข้องเชื่อมโยงกัน ก็ทำให้อาชีพการค้าขายก๋วยเตี๋ยวของคุณมีลูกค้ามากมีคนกินมากค้าขายร่ำรวยทันตาเห็น เพราะผลของการทำทานสอดคล้องกับอาขีพปัจจุบันที่ตรงกัน
    7 หรือบางทีคุณอาจมีกำลังของผลการทำทานได้มากพอแล้วในระดับนึงแต่คุณอาจขาดความฉลาดในธรกิจการค้าที่คุณทำอยู่ มันเลยทำให้อาขีพที่คุณทำนั้นส่งผลความสำเร็จแบบที่น่าพอใจได้ มันก้เลยทำให้คุณรู้สึกว่ามันยังมีฐานะไม่ดีเพราะขาดความฉลาดในการค้าหรือความก้าวหน้าในอาชีพที่ทำในปัจจุบัน
    8 ในขณะทำทานมีความหวังผลตอบแทนมากแบบลงทุนทำบุญแล้วหวังผลกำไร ถ้าอากรทางใจมีความรู้สึกแบบนี้กำลังบุญของการทำทานมันจะน้อยครับเพราะจิตในขณะทำทานนั้นได้มีการเก็งกำไรหรือผลตอบแทนเอาไว้อย่างสูง ผลบุญที่คุณทำมีอยู่ก็จริงครับแต่ผลของการตอบแทนจะมาช้าและน้อยครับเนื่องจากจิตของคุณทำบุญแบบหวังผลกำไรมากจนเกินไปดังนั้นเวลาทำทานควรทำใจให้ผ่องคือคิดว่าทานคือการให้การลดความโลภการลดความตระหนี่ เมือ่มีอาการทางใจได้แบบนี้ผลกำลังของทานที่จะตอบแทนมักมาแบบคาดไม่ถึง จะดีกว่าการทำทานแล้วแอบหวังรวยหวังผลตอบแทนเป็นไหนๆครับ
    9 เมือ่ใดที่คุณทำทานแล้วจิตของคุณไม่หวังผลตอบแทนแบบเก้งกำไรเมือ่ไหร่ไม่มีความโลภเมือ่ไหร่โดยคิดว่าทำทานด้วยใจที่ให้ใจที่สละออกใจที่เกิดปิติใจในสุขที่ได้ทำโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเมือ่นั้น กฏของธรรมชาติจะตอบแทนคุณแบบคาดคิดไม่ถึงเลยทีเดียวครับ
     
  20. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อ.คะ ถามอีกที แล้วเวลาเรานั่งสมาธินั้น พอเวลาจิตนิ่งแล้ว รู้สึกเหมือนลมหายใจจะหมดไป แล้วมันรู้สึกหนักๆที่ศรีษะ เหมือนอะไรจะหลุดออกไป แต่มันก็ไม่ยอมออก เป็นอย่างนี้มานาน อย่างนี้เค้าเรียกว่า กายละเอียดจะหลุดหรือเปล่าคะ ถ้าเป็นจริง เราจะสังเกตุยังไง จะมีวิธียังไงถอดกายละเอียดออกไปได้ เห็นเค้าบอกว่า ต้องเหวี่ยงกายออกไป แล้วต้องทำยังไงบ้างคะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...