หลวงปู่เชย อมโร , พระเกจิเมืองจันทร์ , และคณาจารย์สายตะวันออก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 7 ตุลาคม 2010.

  1. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981



    ได้ครับไว้ให้ผมกลับไปที่บ้านก่อน เดี๋ยวไปค้นมาให้ดูนะครับ



    .
     
  2. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    คุณทุเรียนทอดเอาเรื่องหลวงปู่เชยมาเล่าอีกนะครับ ได้ความรู้และสนุกดี

    ในตำราทำตะกรุดของหลวงปู่ผุดมีกล่าวถึงผ้ายันต์แดงบ้างไหมครับ

    เซียนพระสมัยใหม่ชอบอ้างว่าในตะกรุดของหลวงปู่ผุดต้องมีผ้ายันต์สีแดง

    ผมเองเห็นว่าไม่น่าเป็นข้อยุติ เขาบอกว่าหลวงปู่จารยันต์แล้วเลยแผ่นโลหะต้องเอาผ้า

    แดงมาต่อ ผมว่าเหลวไหลเต็มที การจารยันต์นั้นห้ามยกมือขึ้น มิฉะนั้นเส้นยันต์จะขาด

    แล้วหลวงปู่เป็นผู้ชำนาญทางพระเวทย์วิทยาอย่างนั้น จะไม่ทราบเลยหรือครับว่าจะต้องใช้

    พื้นที่เท่าไรในการเขียน ถ้าว่าลูกศิษย์เอาแผ่นโลหะมาให้เล็กไป ท่านก็น่าจะให้ไปเอามา

    ใหม่มากกว่าเอาผ้ามาต่อโลหะ ซึ่งตรงรอยต่อน่าจะมีโอกาสเส้นยันต์ขาดอีกด้วย
     
  3. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ผมเคยเห็นดอกหนึ่งมีผ้ายันต์พันหุ้มไว้อีกที ต่อมาเจ้าของแกะผ้ายันต์ออกคลี่ดู มีลักษณะคล้ายยันต์มงกุฏพระเจ้า เจ้าของบอกว่าเป็นของหลวงปู่ผุด

    ตะกรุดหลวงปู่ผุดของผมกับท่านอาจารย์ที่วัดเขาน้อยสามผานมีลักษณะคล้ายกันคือขนาดใหญ่ประมาณทองม้วนท่าใหม่(ทองม้วนป้าใบ้,ทองม้วนผู้พัน) แล้วมีผงยาแบบเดียวกับผงพระปิดตาพอกหุ้มอยู่ทั้งดอก ส่องดูจะเห็นรอยทองนิดๆตามร่องเพราะทองสึกหมดแล้ว แต่ของที่เห็นกันทั่วๆไปไม่มีผงยาพอก แต่อ้างกันที่ผ้ายันต์แดงแทน
     
  4. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    คุณทุเรียนทอดทราบไหมครับว่าตำราพระปิดตาและตำราตะกรุดวัดวังเวียนตกทอดไปที่พระอาจารย์องค์ไหนอีก
     
  5. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    เท่าที่เคยถามๆคนที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกผมมาว่า มีคนมาเรียน หลายคน ทั้งพระ และ ฆราวาส ส่วนใหญ่จะได้กันไม่ครบ ไม่ใช่ว่าหลวงปู่หวงวิชานะครับ แต่เป็นเพราะว่าผู้ที่มาเรียน ไม่เอาจริงเอาจังกันมากกว่า เพราะหลวงปู่เชยท่านเข้ม เริ่มแรกต้องหัดสมาธิก่อน พอเริ่มมีสมาธิตั้งมั่นบ้างจึงค่อยเรียนอักขระ เอาแค่อักขระแค่นี้ก็อ่วมแล้วมั๊งครับ(สำหรับผู้ที่ไม่เอาจริง) เพราะอักขระขอม มีทั้งหมด 33ตัว และตีน(ตัวสะกด)อีก33ตัว สระอีก 8 รวมเป็น 74ตัว และแต่ละตัวก็จะมีการเขียนขึ้นต้นว่าจะเริ่มตรงไหนก่อน บางตัวต้องขึ้นที่หัวก่อน แต่บางตัวต้องขึ้นกลางตัวก่อน ฯลฯ พอจำได้หลวงปู่ท่านจะสอบ แล้วก็ให้เขียนให้ท่านดู ถ้าเขียนขึ้นผิด ก็ให้เขียนใหม่ ทุกตัวต้องจำได้ทั้งหมด ถึงค่อยมาเริ่มเรียนวิชากันอีก เท่าที่รู้คนที่มาเรียนกับท่านได้ไปกันแค่ คนละอย่าง สองอย่าง ส่วนผู้ที่ได้วิชาตะกรุด ไปเป็นพระภิกษุ 2รูป แต่จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่า รูปหนึ่งอยู่วัดเกาะเปริด องค์นี้ลงตะกรุดมาให้ท่านเช็คดู ประมาณรอบที่ 4 จึงสำเร็จ ท่านว่าพอใช้ได้ แต่ตำราจริงๆเนี่ย ท่านฝากไว้กับฆราวาสมีอยู่หลายท่าน ที่ท่านไว้ใจ โดยก่อนละสังขาร ท่านได้เขียนชื่อเขาเอาไว้ ว่าตำราตะกรุดมอบให้กับนาย....(น่าจะเป็นตำรวจ แต่ไม่ทราบชื่อ)นี้ไว้ ตำราปิดตาขอมอบให้กับ นาย......นี้ ไว้ ตำรา...ขอมอบให้... แล้วเรียกให้ทุกคนมารับ มีอยู่ด้วยกันหลายตำราพอท่านสั่งเสียเสร็จ ไม่นานท่านก็ละสังขารเข้าสู่สุทธาวาส




    .
     
  6. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ wiraj [​IMG]
    คุณทุเรียนทอดเอาเรื่องหลวงปู่เชยมาเล่าอีกนะครับ ได้ความรู้และสนุกดี

    ในตำราทำตะกรุดของหลวงปู่ผุดมีกล่าวถึงผ้ายันต์แดงบ้างไหมครับ

    เซียนพระสมัยใหม่ชอบอ้างว่าในตะกรุดของหลวงปู่ผุดต้องมีผ้ายันต์สีแดง

    ผมเองเห็นว่าไม่น่าเป็นข้อยุติ เขาบอกว่าหลวงปู่จารยันต์แล้วเลยแผ่นโลหะต้องเอาผ้า

    แดงมาต่อ ผมว่าเหลวไหลเต็มที การจารยันต์นั้นห้ามยกมือขึ้น มิฉะนั้นเส้นยันต์จะขา

    แล้วหลวงปู่เป็นผู้ชำนาญทางพระเวทย์วิทยาอย่างนั้น จะไม่ทราบเลยหรือครับว่าจะต้องใช้

    พื้นที่เท่าไรในการเขียน ถ้าว่าลูกศิษย์เอาแผ่นโลหะมาให้เล็กไป ท่านก็น่าจะให้ไปเอามา

    ใหม่มากกว่าเอาผ้ามาต่อโลหะ ซึ่งตรงรอยต่อน่าจะมีโอกาสเส้นยันต์ขาดอีกด้วย

    ผมเคยเห็นดอกหนึ่งมีผ้ายันต์พันหุ้มไว้อีกที ต่อมาเจ้าของแกะผ้ายันต์ออกคลี่ดู มีลักษณะคล้ายยันต์มงกุฏพระเจ้า เจ้าของบอกว่าเป็นของหลวงปู่ผุด
    ตะกรุดหลวงปู่ผุดของผมกับท่านอาจารย์ที่วัดเขาน้อยสามผานมีลักษณะคล้ายกันคือขนาดใหญ่ประมาณทองม้วนท่าใหม่(ทองม้วนป้าใบ้,ทองม้วนผู้พัน) แล้วมีผงยาแบบเดียวกับผงพระปิดตาพอกหุ้มอยู่ทั้งดอก ส่องดูจะเห็นรอยทองนิดๆตามร่องเพราะทองสึกหมดแล้ว แต่ของที่เห็นกันทั่วๆไปไม่มีผงยาพอก แต่อ้างกันที่ผ้ายันต์แดงแทน


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ประวัติ ปฏิทา ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่เชย ยังมีอีกมากครับ ตอนนี้ผมกำลังนึกอยู่ว่าจะลงเรื่องอะไรดี ขอบพระคุณที่ให้การติดตามครับ

    ตำราตะกรุดของหลวงปู่ผุด ผมเองก็ยังไม่เคยอ่านเล่มจริงๆแท้ๆเลย ความรู้ที่มีก็อาศรัยตำรา(สมุดจด) ของคุณพ่อผม ที่ได้เคยเรียนกับหลวงปู่เชยเท่านั้น ผมจึงไม่ทราบ ในเรื่องของตำราเดิมว่า มีบรรทึกเกี่ยวกับผ้ายันต์แดงหรือไม่ครับ(ต้องขออภัย)

    แต่จะขอสันนิจฐานเอานะครับ อาศรัยจากความรู้ประสบการณ์ที่ได้เห็นมา เอามาประติดประต่อกันดู ความจริงจะเป็นอย่างไรขอจงอย่าเอาข้อสันนิจฐานของผมเป็นมาตรฐานเลยนะครับ ถือเสียว่า วันนี้เราออกความคิดเห็นร่วมกัน ผิด ถูกประการใดขออภัย ณ โอกาสนี้ครับ

    ตะกรุดของหลวงปู่ผุด เป็นตะกรุดในตำนาน ที่มีความนิยมมาทุกยุคสมัยกว่าร้อยปีมาแล้ว ผมเองก็เคยพบ-เห็นมาก็หลายดอก มีที่แน่ใจ และไม่แน่ใน ส่วนดอกที่ไม่แน่ใจเราก็ตัดทิ้งไปเลยนะครับ ดอกแรกที่เห็น เป็นของประจำตะกูล เป็นของปู่แท้ๆของผม ปู่ผมเสียชีวิตมากว่า 40ปีแล้ว ตะกรุดดอกนั้นย่าเก็บรักษามาอย่างดี แล้วก็ให้ลุงรับช่วงต่อ ลุงเคยเอามาเลี่ยมใช้อยู่ ผมก็เคยขอลุงดูหลายครั้งเพื่อศึกษา ก็ได้ความว่า....เป็นเนื้อตะกั่ว ขนาดยาวประมาณ 6นิ้วมีด้ายสายสิญน์ถักพันในชั้นแรก แล้วก็เอาผงยาพอก แล้วก็เอาผ้ายันต์ม้วนหุ้มผงยานั้น แล้วก็เอาเชือกถักหุ้ม ลักษณะเป็นเชือกดิบเบอร์เล็กๆ ถักเป็นลายเกลียวตะบอง(ขึ้นหลายเสา มีช่องไฟ ห่างพอสมควร) ฝีมือถักพอใช้ได้ จากนั้นก็คลุกผงยา โดยใช้รักน้ำเกลี้ยงทาเชือกก่อน ผงยาที่คลุกนั้นมีลักษณะคล้ายเนื้อของพระปิดตาของท่าน มีทองไรๆ

    ส่วนตะกรุดบางดอกที่เห็นมา ก็มีทั้งแบบมี และไม่มีผ้ายันต์ เราจะถือเอาว่าต้องผ้ายันต์แดงเป็นตัวชี้ขาดนั้นไม่ได้(อย่างที่พี่ wiraj บอกเลย) หากแต่ต้องอาศรัย องค์ประกอบโดยรวม และที่สำคัญหากเป็นดอกที่สมบูรณ์จะมีผงยาอุด หรือพอกที่ตะกรุด ขอให้ดูผงยานี้เอาไว้ให้ดี ว่ามีลักษณะอย่างไร เพราะเป็นอีกตัวแปลสำคัญว่าใช่ของหลวงปู่ผุดหรือไม่ และสำคัญที่สุดต้องดูความเก่าเป็น เพราะสามารถบอกอายุได้

    ส่วนผ้ายันต์ที่หุ้มตะกรุด(ถ้ามี)เท่าที่เห็นมา มีทั้งสีแดง และขาว ส่วนอักขระยันต์ที่ลงในผ้า เคยเห็นคนผ่าดูเพราะตะกรุดชำรุด มีอักขระเป็นแถวๆ ส่วนที่พี่ wiraj บอกมาว่าเป็นลักษณะคล้ายยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้านั้นก็น่าจะมีด้วย เพราะก็เคยได้ยินคนเขาพูดกัน แต่สำหรับตะกรุดของหลวงปู่เชย บางดอกก็มีผ้ายันต์หุ้มเหมือนกัน ผมเคยเห็น ท่านก็ลงเป็นยันต์ อักขระเป็นแถวๆ เป็นคาถาบทหนึ่งต่างหาก ไม่เกี่ยวกับยันต์ลงตะกรุด(หลวงปู่เชยก็เคยบอกเหมือนกันว่า ไม่มีผ้ายันต์ก็ได้ ไม่เกี่ยว) ซึ่งที่บางคนบอกว่าตอนหลวงปู่ผุดลงยันต์ แผ่นโลหะไม่พอ จึงน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากว่าครับ

    วัตถุดิบที่มาทำตะกรุดของหลวงปู่ผุด ส่วนใหญ่เป็นตะกั่ว จะมีทำด้วยเนื้อฝาบาตรบ้างก็เล็กน้อย(หายาก) มีทั้งขนาด ตั้งแต่ 5,6,7,9 นิ้ว บางคนก็บอกว่ามีขนาด 3-4 นิ้วด้วย แต่ผมไม่เคยเห็น แต่ส่วนใหญ่ ตะกรุดขนาดยาวๆ มักจะไม่มีผ้ายันต์หุ้ม นี่กระมังจึงเป็นเหตุให้คนพูดกันเรื่องแผ่นโลหะยาวไม่พอ หลวงปู่จึงต้องหาผ้าแดงมาเขียน สำหรับผม ผมคิดว่าที่ตะกรุดมีขนาดไม่เท่ากัน ก็น่าจะเป็นคนละตำรากัน เพราะหลวงปู่เชยเคยบอกกับพ่อผมว่า ตำราของหลวงปู่ผุดมี อยู่หลายยันต์ เท่าที่รู้คือ พระเจ้าปิดไฟ มหาโจร มหาระงับ ตามลำดับความยาว แต่ที่หลวงปู่เชย สร้างตะกรุดส่วนใหญ่ท่านใช้ยันต์ พระเจ้าปิดไฟ ก็เพราะ มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่เกินไป พกง่าย แต่ถ้าจะใช้ยันต์มหาโจรลงให้ ก็เกรงว่า ศิษย์จะไปใช้เป็นโจรกัน มันอาจจะร้อน แต่ท่านก็เคยสร้างตะกรุดยันต์มหาระงับบ้างเหมือนกัน แต่น้อยมาก เท่าที่ผมเห็นผ่านตามีแค่ 4ดอก ส่วนใหญ่ท่านลงเป็นผ้ายันต์แต่ก็มีไม่มากอีกเช่นกัน ท่านเคยปรารภว่าจะเขียนไว้ไปเป็นแบบ แล้วจะทำเป็นผ้ายันต์แบบ สกีน เพื่อแจกเพราะเขียนไม่ค่อยไหว แต่ท่านก็มาด่วนละสังขารไปก่อน

    เกล็ดความรู้เล็กๆ
    ตะกรุดมหาโจร เป็นยันต์ตารางไขว้ ไป-มา คล้ายๆยันต์ตรีนิสิงเห มีอักขระที่ล้อมยันต์ อ่านขึ้นต้นได้ว่า..โอมมหาโจร... ขนาดแผ่นโลหะที่ใช้ลงต้องมีขนาดอย่างน้อย 6 นิ้วขึ้นไป มีอานุภาพเป็น มหาอุด อยู่ยงคงกระพัน มีด ปืน ของมีคมไม่ระคายผิว ใส่แล้วมีจิตใจฮึกเหิม ร้อน อยู่ไม่ค่อยเป็นที่

    ตะกรุดมหาระงับ เป็นยันต์ตารางหลายช่อง สลับซับซ้อน มีอักขระมาก มีพระคาถาหลายบท อยู่ในนั้น เช่น หัวใจพระเจ้า 5พระองค์(ทั้งอนุโลม-ปฏิโลม) , พระคาถาปารมี 30ทัศน์ , อิติปิโส 8ด้าน , คาถามหาระงับ , ฯลฯ คาถามหาระงับจะอยู่นอกสุดของตาราง อ่านขึ้นต้นว่า..โอมมหาระงับ หลับสิ้นทั้งบ้าน...ขนาดแผ่นโลหะที่ใช้ลงต้องมีขนาดอย่างน้อย 9x7 นิ้วขึ้นไป พุทธคุณ ระงับอันตรายทั้งปวง เป็นมหาจังงัง สะกดคนหลับได้ทั้งบ้าน(มีคาถาปลุก) หากเป็นความเอาตะกรุดแช่น้ำอาบกิน ความสูญ เดินทางปลอดภัย แคล้วคลาดสูงมาก อยู่ยงคงกระพัน ครอบคลุมทุกอย่างตีค่าไว้ควรเมือง

    หากข้อมูลที่กล่าว มีสิ่งใดผิดพลาด บกพร่อง ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง และขอเชิญท่านผู้รู้ท่านอื่นๆ โปรดชี้แนะได้เต็มที่ เพื่อหาข้อสรุป ผู้คนรุ่นหลังจะได้ไม่หลงทาง เพราะนี่เป็นการแสดงความเห็นกันครับ สาธุ


    .


    .
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2010
  7. magictao

    magictao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +3,523

    อนุโมทนาสาธุด้วยจากใจจริงเลยครับ หลวงปู่ท่านเป็นพระดี เสียดายผมเองบุญน้อยเลยยังไม่มีของ ๆ ท่านไว้เลย ไม่ทราบว่าที่วัดสังขารท่านนี่เขาเก็บไว้หรือฌาปนกิจครับ
     
  8. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    สังขารของหลวงปู่เชย ท่านสั่งให้ประชุมเพลิงครับ ท่านจัดการสั่งของท่านเอาไว้ทุกอย่าง เนื่องจากท่านล่วงรู้เหตุการล่วงหน้า และมีมรณานุสติ ทั้งๆที่ท่านอายุเพียง 78 พรรษาเท่านั้น และถ้ามองภายนอกเราจะไม่รู้เลยว่า หลวงปู่ท่านอาพาธอะไรหรือเปล่า เพราะท่านดูเป็นพระที่รายกายแข็งแรงมาก ทำงานได้ดี สายตาก็ดี ฯลฯ แถมยังสั่งให้ทำพระเจดีย์ประดิษฐานเอาไว้ที่บนเขาเจ้าหลาว ตรงบริเวณเลยอาศรมของท่านขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ข้างบนนั้นนับว่าเป็นที่ๆเหมาะสม และทัศนียภาพ(วิว)สวยงามมาก ท่านเลือกของท่านเอง ถ้าเรามองไปทางทิศตะวันออก เราจะเห็นเป็นช่องเขา มองเห็นพื้นทะเลอ่าวคุ้งกระเบนได้ เวลาเช้าๆจะมีพวกชาวประมงเดินเรือออกไปเป็นแถวๆ หรือพวกที่สัญจรผ่านไป-มา ถ้าพวกเขาเห็นพระเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของหลวงปู่เชยตั้งตระหง่าน ก็จะทำอาการเคารพบูชาต่อท่าน หรือเป็นอนุสรให้ทุกคนได้จดจำ และบอกสอนลูกหลานถึงสิ่งดีๆ และพระเมตตาคุณที่หลวงปู่มีให้แด่พวกเขาตลอดมา โดยหลวงปู่เชยได้กำหนดวันวางศิลาฤกษ์ด้วยตนเองในเช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 และบอกว่า..วันนี้เป็นวันที่ดีมากที่สุด หากเลยจากวันนี้ไปก็ไม่สามารถวางศิลาฤกษ์ได้อีก เพราะไม่มีวันไหนจะดีกว่าวันนี้แล้ว ตอนเช้าวันนั้นผิวพรรณหลวงปู่ดูเปร่งประกาย งดงามผ่องใสเป็นพิเศษ ดูว่าท่านแข็งแรงดูดีกว่าทุกวัน พอท่านทำพิธีวางศิลาฤกษ์เสร็จ ท่านก็กลับอาศรมทันที และเย็นวันนั้นท่านก็มรณะภาพในท่านั่งสมาธิเข้าสมาบัติ ด้วยอาการสงบ เวลาโดยประมาณ 16.55 น. ด้วยวัย 78 ปี 58 พรรษา แม่แต่หลานของท่านที่มาดูแล อยู่กับท่านยังไม่ทราบเลย เพราะท่านไม่มีอาการทรมานใดๆ พอทราบอีกทีท่านก็ถอดจิตออกไปแล้ว จริงๆแล้วความตั้งใจของพระเดชพระคุณหลวงปู่เชย ท่านต้องการทำการประชุมเพลิงที่พื้นที่ข้างล่างของอาศรมแบบเรียบงายที่สุด ไม่ต้องสวด ไม่ต้องทำบำเพ็ญกุศลอุทิศ ท่านบอกว่า ตายแล้วก็เผาไปเลย แล้วก็ไม่ต้องบอกใครมาก แต่คณะศิษย์ส่วนใหญ่เห็นว่า เป็นงานของครูบาอาจารย์ระดับนี้ เกรงว่าหากมีผู้คนที่ทราบข่าวจะมาร่วมงานกันคับคั่ง พื้นที่จะไม่พอจึงจัดให้นำสรีระของหลวงปู่นำมาตั้งบำเพ็ญ ณ วัดหมูดุดเพราะมีพื้นที่กว้างพอเพื่อรองรับความศรัทธาจากศิษยานุศิษย์ที่มีแด่องค์ท่าน ที่จะหลั่งไหลกันเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนหีบ(โลง)ที่ใช้บรรจุสรีระของท่านก็ใช้อันที่ท่านสั่งให้ลูกศิษย์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต่อมาถวายให้ท่านนอนจำวัด เพื่อใช้พิจจารณามรณานุสติ และหลังจากทำการประชุมเพลิง ก็นำพระธาตุ(อัฐิ)ไปประดิษฐานยังพระโกฏิที่อยู่บนอาศรมก่อน เพราะปัจจุบันพระเจดีย์ดังกล่าวยังสร้างไม่แล้วเสร็จเพราะรอทางการตัดทางทำถนน และปรับพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อนเพราะเกรงว่าหากกระทำการก่อสร้างในตอนนี้อาจจะกระทบต่อรากฐานพระเจดีย์ได้ หากว่าพระเจดีย์ที่สร้างนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วอย่างไรก็จะนำเอาพระธาตุ(อัฐิ)ไปประดิษฐานไว้บนเขาตามเจตนาขององค์หลวงปู่ท่าน ให้ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ และผู้คนทั่วไปได้กราบไหว้สักการะบูชาและขนานนาน องค์พระอริยะเจ้าแห่งอ่าวคุ้งกระเบน

    ว่ากันว่าตอนที่หลวงปู่มรณะภาพลงทางคณะศิษย์ได้นำร่างของท่านไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสาเหตุการมรณะภาพ และทางแพทย์ได้ทำการฉีดฟอร์มาลีน แต่มีปาฏิหาริย์ ฉีดยังไงก็ฉีดไม่เข้า จึงจุดธูปบอกเจตนาจึงฉีดเข้าโดยง่าย
    และตอนประชุมเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการใส่เชื้อไฟและถวายเพลิงแต่เผายังไงก็ไม่ไหม้ ถ่านหมดไปถึง 5 กระสอบ หีบ(โลง)ที่บรรจุสรีระของท่านมอดไหม้หมดแล้ว แต่พระเพลิงก็ยังไม่สามารถทำอะไรร่างของหลวงปู่ท่านได้แม้แต่ผ้าจีวร บางคนบอกว่า การเอาท่านมาบำเพ็ญที่วัดหมูดุดเป็นการผิดเจตนาของท่าน ท่านจึงแสดงปาฏิหาริย์ให้ได้ประจัก ทางคณะศิษย์ก็เลยทำพิธีจุดธูปบวงสรวงบอกกล่าวขอขมา และเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ประชุมเพลิงคนใหม่ จึงสามารถทำการประชุมเพลิงได้สำเร็จ




    .
     
  9. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    พระเครื่อง วัตถุมงคลของหลวงปู่เชย เป็นของที่น่าใช้มากคนที่เป็นลูกศิษย์ตัวจริงรู้ดี ต่างมีประสบการณ์ แม้แต่ปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ อย่างล่าสุดฟังมา เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ที่ผับแห่งหนึ่งในจ.จันท วัยรุ่นคนองเดือด รุมทำร้ายคู่อริทั้งแทง ทั้งฟันจนกระทั่งเหยื่อไม่มีหนทางหนีได้นอนกองอยู่กับพื้น เสื้อผ้าขาดหวิ้นแต่ของมีคมไม่ระคายผิวหนัง ในคอมีเพียงพระปิดตาแข้งหมอนของหลวงปู่เชยเท่านั้น อีกรายหนึ่งเกิดขึ้นที่ตลาดน้ำพุ เมื่อสองปีก่อน ลูกศิษย์ของหลวงปู่สองคน ขับรถมาจอดซื้อของกิน แต่ยังไม่ได้ลงจากรถ คนร้ายกราดยิงไม่ยั้ง แต่แปลก กระสุนไม่ได้เข้ามาในรถเลยแม้แต่นัดเดียว ไปโดนขอบประตู บ้างตัวถังรถบ้าง ก็เลยรอดแบบปาฏิหาริย์ ทั้งสองคนมีตะกรุด พระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรก และเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เชย อีกรายหนึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่ถึง สามเดือนที่ อ.ท่าใหม่ มีคนโดนยิงในระยะหวังผลได้แน่นอน ด้วยอาวุธปืนลูกโม่ จนหมดโม่แต่ไม่ออกเลยแม้แต่นัดเดียว ในคอมีพระปิดตา กับปรกโพธิ์รุ่นแรก ของหลวงปู่เชยเท่านั้น....เชื่อกันว่าหากใครมีวัตถุมงคล เครื่องรางของหลวงปู่เชย หากดวงไม่ถึงคราวดับดิ้นสิ้นชีวา เชื่อถือไว้เป็นสรณะ(ที่พึ่ง)ได้เลย ไม่ผิดหวัง ประสบการณ์เลื่องชื่อลือชา ให้ได้พบกันมามากต่อมาก พุทธคุณยกย่องกันไม่แพ้ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่แน่นอนครับ




    .
     
  10. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    คุณทุเรียนทอด เรามาช่วยกันสืบหาตำราตะกรุดหลวงปู่ที่อยู่ที่ตำรวจกันดีกว่า เพราะเกรงว่าจะสูญหายหมด

    ตะกรุดหลวงปู่ผุดวัดวังเวียนองค์ที่ผมนี้ ยาวและใหญ่ประมาณทองม้วน เป็นทองฝาบาตร
    มีสายสิญจ์หุ้มอยู่ก่อนแล้วพอกผงยา ผมมีพระปิดตาพิมพ์ใหญ่ของท่านอีกองค์หนึ่ง เนื้อนี้เหมือนกับตะกรุดเลยครับ พระปิดตาองค์นี้ ใครๆเห็นก็บอกว่าถ้าไม่มีสังฆาฏินี่เป็นของหลวงปู่จีนเลย แต่ผมภูมิใจกับหลวงปู่ผุดนี้แหละ เพราะเคารพนับถือท่านเป็นปรมาจารย์องค์หนึ่ง

    ผมยังได้ประคตแขนไว้อีกหนึ่งวง พอกรักลงทองแต่ทองสึกหมด ข้างในเป็นผ้ายันต์แดง ได้จากท่านเจ้าอาวาสวัดเขาบายศรี ในโอกาสที่ผมและครอบครัวเป็นเจ้าภาพปิดทองพระประธานวัดเขาบายศรีใหม่ทั้งองค์ ท่านว่าเป็นของสายวัดวังเวียน

    ตะกรุดหลวงปู่เปี๊ยกนี่ ผมว่าพวกเซียนพระคงตีเป็นหลวงปู่ผุดไปหมดแล้วนะครับ เพราะอยากได้ราคา
     
  11. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    พระปิดตาหลวงพ่อย้อยที่เป็นพี่น้องกับหลวงปู่เปี๊ยกและท่านพ่อจิ่มนี่ เนื้อดำเป็นผงยาเลยนะครับ ดูแล้วคล้ายๆกับครั่งพุทราของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวงเลย น่าจะใช้ตำราหลวงปู่ผุดเหมือนกันนะครับ เพราะตำราอยู่ที่หลวงปู่เปี๊ยก
     
  12. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    เชิญทุกท่านร่วมงานสวดอภิธรรมพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผานนะครับ มีสวดทุกวันเสาร์ จนถึงวันที่ 12 ธันวาคมซึ่งเป็นวันประชุมเพลิงองค์ท่าน

    งานกฐินซึ่งปีนี้เป็นจุลกฐินจะมีวันอาทิตย์ที่ 14 พย. แต่เริ่มทอผ้าตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 13 แล้ว มีงานตลอดคืน สายๆวันที่ 14 จึงเริ่มทอดกฐิน

    ในงานประชุมเพลิงหลวงปู่ฟักนี้ หลวงปู่ทุยได้รับบัญชาจากหลวงตามหาบัวให้เป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งหมด ท่านบอกผมว่า งานนี้ท่านจะทำให้เรียบง่ายแต่สมเกียรติพระป่าพระกัมมัฏฐาน ให้เป็นตัวอย่างให้คนทั้งหลายได้เห็นว่า งานพระป่าต้องเป็นแบบนี้

    งานหลวงปู่ฟักเราไม่ใช้ดอกไม้จันทน์และธูปเทียนนะครับ ทางวัดได้เตรียมไม้จันทน์หอมแท่งเล็กๆ ส่งมาจากภูวัว ไว้ให้คนที่มาร่วมงานได้วางคาระวะหลวงปู่แทนดอกไม้จันทน์ และจะนำแท่งไม้จันทน์ที่คนนำมาวางนี้ทั้งหมดไปเผาร่วมกับสรีระของหลวงปู่ หลวงปู่ทุยท่านว่าเอาไปเผาให้เขาด้วย ให้เขาได้เป็นมงคล

    ใครอยู่ว่างๆ ช่วยกันไปตัดไม้จันทน์ที่วัดได้นะครับ มีอาหารเลี้ยง ไม่ต้องกลัวอด
     
  13. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    ติดตามอยู่เสมอนะครับ เรื่องราวน่าสนใจมากๆครับ
     
  14. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    พี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wiraj มีสุดยอดของดีหลายอย่างเลยนะครับ น่ายินดีด้วยจริงๆ เก็บรักษาเอาไว้เป็นสมบัติประจำตะกูลให้ลูก-หลานได้ภูมิใจครับ
     
  15. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    เอาประวัติหลวงปู่อินอย่างเป็นงานเป็นการก่อนนะครับ

    หลวงปู่อิน ฐิตปญโญ เดิมชื่อ อิน นามสกุล คงทอง เป็นบุตรของนาย อ่ำ และนาง เสียด คงทอง เกิดเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ.2440 ตรงกับปีจอ ที่ต.ยายร้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

    อุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดลาด ต.บ่อพุ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ตรงกับ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2460 มีพระครูวัดบน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการอิ่ม วัดกลาง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเวียง วัดบ่อพุ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ต่อมาท่านได้เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดลาด เมื่อ พ.ศ. 2476

    อนึ่ง วัดลาดนี้ สันนิษฐานว่าแต่ก่อนคงชื่อ วัดล่าง แต่ต่อมาเพี้ยนหรือตั้งใจเปลี่ยนเป็น วัดลาด เพราะในบริเวณเดียวกัน มีวัดกลาง และวัดบน ซึ่งอายุการก่อสร้างใกล้เคียงกัน
     
  16. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    หลวงปู่เป็นพระใจดี เก่งทั้งด้านเมตตา ค้าขาย และรักษาโรค ใครเป็นโรคเช่นตาแดง ปวดขา ปวดตามตัว จะไปให้ท่านเป่าให้ ด้านค้าขายนั้น ท่านแจกปลัดขิกเป็นหลัก

    คนแก่ๆรุ่นพ่อรุ่นลุงผมเล่าว่า ท่านเรียนวิชาจากอาจารย์ทางเขมร ท่านจึงไม่ค่อยอยู่วัดนานๆ ท่านมักออกไปโน่นไปนี่เสมอ โบราณเรียกว่าร้อนวิชา ท่านนิยมไปศึกษาหาความรู้กับอาจารย์ต่างๆทั้งในและนอกจันทบุรี กล่าวกันว่าท่านเรียนวิชาทำปลัดขิกจากหลวงปู่อี๋ สัตหีบ และเป็นเพื่อนไปมาหาสู่กับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
     
  17. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ในสมัยงานวัดเมื่อปี 2520 ผมยังจำได้ ที่หน้ากุฏิหลวงปู่มีพระให้เช่าบูชา นอกจากรูปหล่อขนาดบูชาแล้ว ยังมีพระสังกัจจายน์ทำด้วยศิลาแรงด้วย ตอนนั้นเด็กมากครับ ไม่รู้เรื่องเลย เลยไม่ได้ร้องจะให้พ่อแม่เช่าอะไรให้ การให้เช่าบูชาในสมัยก่อนนั้น ไม่มีตู้ ไม่มีเซียนพระอย่างตามวัดสมัยนี้นะครับ วัดทำเอง เอาโต๊ะไม้มาตั้ง เอาพระวางเรียงๆกัน มีกรรมการเป็นชาวบ้านที่เป็นลูกศิษย์ท่านยืนเฝ้าโต๊ะอยู่

    ปลัดขิกทำด้วยไม้สีขาวอันเล็กๆ หลวงปู่เหลาเองแล้วจารเอง ประมาณนิ้วก้อยนะครับ

    แปลกนะ สมัยนี้เขานิยมลิงอุ้มทรัพย์ ผมพยายามนึกเท่าไรนีกไม่ออกว่าเคยเห็นตอนไหน ค้นของตัวเองดูก็ไม่เห็นมี มีแต่เหรียญ ปลัดขิก ผ้ายันต์ นางกวัก รูปคล้ายๆล็อคเก็ตไว้ห้อยคอ และพระบูชา ขณะพิมพ์อยู่นี่ก็พยายามนึกนะครับ ยังนึกไม่ออกเลย
     
  18. wiraj

    wiraj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +1,620
    คุณทุเรียนทอดอย่าถ่อมตน คุณน่าจะมีมากกว่าผมนั้น คุณพ่อได้เรียนวิชาจากหลวงปู่เชยด้วย สุดยอดดดดด....

    ผมไม่มีพระหลวงปู่พิศดูเลยสักองค์ อาทิตย์ที่แล้วกลับไปบ้านเจอพี่คนหนึ่งเป็นพวกนามสกุลอุตตะโมท มาเที่ยวที่บ้าน เขาเป็นลูกศิษย์หลวงปู่พิศดู เอาพระ เอาล็อคเก็ต มาให้ดูหลายอย่าง มียาจินดามณีด้วย แกเป็นผู้หญิงครับ พกใส่กระเป๋าถือติดตัวตลอด

    ผมกระมิดกระเมี้ยนบอกเขาว่า พี่มีซ้ำกันตั้งหลายองค์ ขอแบ่งผมมั่งสิ เขารวบเก็บใส่กระเป๋า รูดซิบปิดดังปื้ด! บอกว่า น้องเป็นลูกหลานหลวงปู่ฟัก(คงหมายถึงเป็นลูกศิษย์น่ะครับ) แล้วยังมาขอพระพี่อีก อดเลยครับ

    ถ้าคุณทุเรียนทอดมีจิตเมตตาสงสารเพื่อนร่วมอำเภอ ของไหน เหรียญไหน มีมากเกินไปเก็บไม่ไหว แบ่งผมบ้างนะครับ 555++
     
  19. The Outsider

    The Outsider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +311
    พี่ทุเรียนทอด และพี่ๆทุกท่านครับ มีคาถาอาราธนาพระสมเด็จรุ่นแรกหลวงปู่เชย มั้ยครับ สวัสดีครับพี่wirajยินดีที่ได้รู้จัก ครับ บ้านผมอยู่จัน เหมือนกันครับ
     
  20. magictao

    magictao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +3,523
    คุณทุเรียนทอด พระของหลวงปู่เชยนี่ยังพอหาได้มั้ยคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...