แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

Norragate · 16 สิงหาคม 2010

ศิษย์หลวงปู่กวย009 said: ↑

วันนี้ พี่หนุ่ม คงจะเข้ามา ตอนสายๆ หรือ ช่วงเย็นๆ หน่อย

อดใจรอกันนะครับ
Click to expand...

สวัสดีครับคุณ ศิษย์หลวงปู่กวย......(^_^)..จะอดใจรอครับ ....(หวังว่าพี่หนุ่มคงเข้ามาก่อนเลิกงานน๊า....)

fox2008 · 16 สิงหาคม 2010

เข้ามาติดตาม สาระ ความรู้ และอื่นๆอีกมากมาย
เหมือนเดิมครับ
ขอบคุณคร๊าบ...

อุดมเดช · 16 สิงหาคม 2010

เดี๋ยวจะมีคนกล่าวหาว่าพูดกล่าวร้ายหน่วยงานของสงฆ์ จึงขอเอาบางเรื่องที่เปิดเผยอยู่ในข้อมูลสาธารณะและรับรู้กันทั่วไป มาลงให้อ่าน และผมยังมีหลักฐาน ใบเสร็จ เทปบันทึกเสียง ภาพถ่ายมากมาย เกี่ยวกับเรื่องเสียหายในวงการพระสงฆ์องค์เจ้าที่ล้วนทำให้ศาสนาพุทธเสื่อม หลายองค์ดังและคนขึ้นหามากมาย ถวายเงินทุกวัน แต่เบื้องลึกน่ากลัว น่าห่วงสังคมมาก รอให้พ้นจากหน้าที่รับผิดชอบเสียก่อน จะมาร่วมเปิดโปงสังคมมุมมืดเล็กๆน้อยๆ เท่าที่พอทำได้เพื่อเป็นทานกับคนอื่นๆบ้าง การพูดเรื่องจริงให้คนตาสว่างคงจะพอได้กุศลบ้างนะ หลายท่านเป็นแพะ เช่นอดีตท่านเจ้าคุณอุดม เพราะเบื้องลึกและเบื้องหลังมีเรื่องที่เผยไม่ได้เลย บางท่านดังแต่ดับก่อนตาย เช่นท่านกิตติวุฒโฑ ชลบุรี

"พระพม่าเก่งอภิธรรม พระเขมรเก่งวินัย พระไทยเก่งพระสูตร" สามคำนี้มีความหมายจริงตรงตัว

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Ccompaq%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Ccompaq%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Ccompaq%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style> [FONT=&quot]เสียงสะท้อนจาก [/FONT][FONT=&quot]'[/FONT][FONT=&quot]ยุวสงฆ์[/FONT][FONT=&quot]'<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]มหาเถรสมาคม : ในคลื่นลมวิกฤติศรัทธา[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นเวลานานกว่า [/FONT][FONT=&quot]7 เดือน ที่คณะสงฆ์และฆราวาส ผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา ได้ออกมาเคลื่อนไหวเปิดโปงพฤติกรรมของวัดพระธรรมกาย ด้วยรูปแบบต่างๆ ซึ่งในนั้นก็มี 'คณะสงฆ์หนุ่ม' หรือ 'ยุวสงฆ์' รวมอยู่ด้วย<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]ย้อนไปเมื่ออดีตยามใดที่เกิดปัญหาในวงการสงฆ์ คณะสงฆ์หนุ่มก็จะออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับฆราวาส ดั่งเช่น [/FONT][FONT=&quot]'คณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนา' ที่ผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.การปกครองคณะสงฆ์ 2484 ที่มีรูปแบบการปกครองสงฆ์ที่เป็นประชาธิปไตยที่สุด <o></o>[/FONT][FONT=&quot]แต่ พ.ร.บ.การปกครอง คณะสงฆ์ [/FONT][FONT=&quot]2505 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีการตราออกมาใช้ในสมัยเผด็จการครองเมือง ฉะนั้น อาจกล่าวได้ว่าปัญหาของวงการพระศาสนา ก็คือปัญหาการปกครองคณะสงฆ์ ภายใต้กฎหมายที่ล้าหลังและไม่เป็นประชาธิปไตย

<o></o>[/FONT][FONT=&quot]'ธรรมธารี'[/FONT] [FONT=&quot] เป็นนามปากกาของพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ลุกขึ้นมาเขียนบทความขนาดยาวชิ้นนี้ ด้วยมุมมองแบบคนรุ่นใหม่ ซึ่งมองปัญหามหาเถรสมาคมอย่างเป็นระบบ และเสนอทางออกไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง <o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]1.กรณีธรรมกาย : ไฟสุมขอนที่รอวันปะทุ <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ญหาวัดพระธรรมกาย ซึ่งต่อมาเรียกกันตามเอกสารเพื่อพระธรรมวินัยของพระธรรมปิฎก[/FONT][FONT=&quot] (ป.อ.ปยุตโต) ว่า 'กรณีธรรมกาย' มิใช่ปัญหาใหม่ในวงการพระพุทธศาสนาในประเทศไทย หากติดตามประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งวัดพระธรรมกายมาแต่แรกเริ่มจะพบว่า อาการ 'ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปเป็นบ้องกันชา' นั้น มีเค้าเงื่อนให้เห็นมาแต่แรกเริ่มแล้ว นั่นคือ นับแต่ปี พ.ศ.2520 วัดพระธรรมกายได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นวัดได้โดยสมบูรณ์ และคณะกรรมการวัดได้พยายามขยายพื้นที่วัดให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ โดยมีการกว้านซื้อที่ดินที่มีอาณาบริเวณติดกับที่วัดแต่เดิมให้ขยายออกไป อีกกว่า 2,000 ไร่ ในการกว้านซื้อที่ดินเพื่อขยายอาณาเขตนี้ มีโศกนาฏกรรมซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นจนดังเป็นข่าวรับรู้กันไปทั่วทั้งประเทศก็ คือ การที่ 'คนของวัดพระธรรมกาย' มีกรณีพิพาทกับกลุ่มชาวบ้านบริเวณข้างวัด ซึ่งไม่พอใจกับพฤติการณ์ของคณะกรรมการวัด ที่พยายามขยายอาณาเขตของวัดด้วยการใช้ทั้ง 'เงิน' และ 'อิทธิพล' เข้าข่มขู่เจ้าของที่ จนในที่สุดถึงกับมีการใช้ความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกทั้งสองฝ่าย
<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อข่าวนี้หายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ชาววัดพระธรรมกายก็พยายามรุกคืบต่อไปอย่างแยบยล และเป็นพลวัตร ในการรุกคืบเพื่อสร้างมหาอาณาจักรทางธรรมนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แสดงความไม่ชอบมาพากล และทำท่าว่าจะเดินสวนทางพระธรรมวินัยมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีเสียงทักท้วงจากผู้รู้ นักวิชาการ นักการเมือง และปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาอยู่เนืองๆ เสียงทักท้วงนี้มีทั้งที่เป็นทัศนวิจารณ์และทั้งที่เป็นเอกสารหลักฐานมากมาย หนึ่งในนั้นเป็นเสียงก้องจาก ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ซึ่งเป็นนักคิดคนสำคัญของไทย ได้วิพากษ์วัดพระธรรมกายและพยากรณ์ล่วงหน้าไว้ ดังนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"พูดถึง 'ธรรมกาย' ในส่วนที่เป็นองค์กรจัดตั้งนั้น ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อดี คือ มีพลังรุกได้รวดเร็ว[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อเสีย คือ[/FONT][FONT=&quot] (1) ต้องใช้เงินมาก (2) หลักธรรมแคบ (3) มีอำนาจซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และคอรัปชั่นในอนาคต[/FONT][FONT=&quot] ดังนี้[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]ก.การที่เป็นองค์กรใหญ่ทำให้ต้องใช้เงินมาก จึงมีลักษณะ [/FONT][FONT=&quot]'หาเงิน' สูง การที่ต้องการเงินมากจะทำให้ต้องประนีประนอมในหลักธรรมและเข้าไปสู่การค้า เช่น อาจต้องคบคนที่ไม่ค่อยมีธรรมะเท่าใด เพราะต้องการเงินจากเขาหรืออำนาจซึ่งเอามาแปรเป็นเงิน<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ข.การที่เป็นองค์กรจัดตั้งที่ต้องการรวมกลุ่มสูง ทำให้ต้องเสนออุดมการณ์โดดเดี่ยว เพื่อเป็นหลักยึดในการรวมกลุ่มไว้ ให้รู้ความหลากหลายของธรรมะไม่ได้เพราะจะรวมกลุ่มไม่ติด...[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ค.เมื่อเป็นองค์กรจัดตั้งใหญ่ที่มีอำนาจทั้งทางกำลังคนและกำลังเงิน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ แต่ในความสำเร็จต้องระวังความล้มเหลวเสมอ ความล้มเหลวจะเกิดจากความใหญ่ และเกิดจากอำนาจนั้นเอง ไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จะมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นลูกโป่ง ไดโนเสาร์ กองทัพ เครื่องบิน แนวรบ เพราะจะเกิดความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก คุมองคาพยพไว้ไม่ได้ ต้องแตกสลายไปหรือคงอยู่ไม่ได้...ถ้าธรรมกายจะชูธง [/FONT][FONT=&quot]'ธรรมกาย' ไม่ชูธงพุทธเป็นส่วนรวมและเอาเฉพาะหมู่พวกของตน ย่อมต้องเกิดความขัดแย้งกับชาวพุทธที่มีความหลากหลายดังที่ชักจะเริ่มพูดอะไรต่ออะไรกันขึ้นแล้ว..."<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]13 ปีให้หลังการวิพากษ์กึ่งพยากรณ์ของศาสตรา-จารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ราวปลายปี 2541 กรณีธรรมกายก็ปะทุ และลุกลามเป็นปัญหาสังคมอย่างรวดเร็ว จากความใหญ่โตขององค์กร และการจัดระบบอย่างดีเลิศชนิดนักบริหาร นักการตลาดสมัยใหม่ยอมยกนิ้วให้ ทำให้กรณีธรรมกายกลายเป็น 'น้ำผึ้งหยดเดียว' ที่ปลุกเอาสังคมไทยทั้งระบบให้ฟื้นตื่นขึ้นมาตรวจสอบ ไม่เฉพาะแต่วัดพระธรรมกายเท่านั้น หากเป็นการตรวจสอบ<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot](1) หลักพระธรรมวิจัยอันเป็นรากเหง้าของพระพุทธศาสนา คือหลัก 'นิพพานอัตตา-อนัตตา'<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](2) สถาบันสงฆ์และวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ทั่วทั้งสังฆมณฑล<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](3) มหาเถรสมาคม อันเป็นองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](4) จิตวิญญาณชาวพุทธในฐานะ 'เจ้าของพระพุทธศาสนา' ซึ่งคนไทยกว่า 95% ล้วนเป็นหุ้นส่วนพุทธบริษัท<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](5) นักวิชาการ นักคิด นักการเมือง องค์กรพุทธ รัฐะ (ผ่าน รมต.ศึกษาฯ กรมการศาสนา)<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](6) มหาวิทยาลัยสงฆ์ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาชั้นสูง ซึ่งควรมีบทบาทโดยตรงในการสร้างความเข้าใจ ชี้แจง และออกนำหน้าในการหาทางออกต่อกรณีนี้<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](7) สื่อมวลชน ในฐานะผู้นำเสนอความจริงอย่างมั่นใน 'อาชีวปฏิญาณ' หรือเพียงผู้รอรับ 'ใบสั่ง' จากใครก็ได้ที่มีซองขาว<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]การตรวจสอบดังกล่าวนี้ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ยาวนาน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่อาจหาข้อยุติได้ ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายต่างพยายามอย่างเต็มที่และถึงที่สุดแล้วในการทำให้ความจริงปรากฏอย่างชนิด[/FONT][FONT=&quot] Clean and clear ถ้ากรณีธรรมกายไม่มีระบบการจัดตั้งที่เข้มแข็ง ไม่มีผู้นำที่เป็นปัญญาชน ไม่มีเงินทุนมหาศาล และไม่มีศาสนิกเรือนแสน ทุกอย่างคงจบไปแล้วภายในเวลาไม่เกินไตรมาสแรก นับแต่เหตุการณ์ปะทุขึ้นมา แต่เผอิญว่ากรณีธรรมกายนี้เป็น 'รัฐน้อย' ที่ซ้อนอยู่ใน 'รัฐใหญ่' (หรือบางทีอาจเป็นรัฐอิสระในประเทศไทยด้วยซ้ำไป) ของรัฐบาลสงฆ์ (หรือมหาเถรสมาคม) การตรวจสอบและวินิจฉัย อรรถคดีที่ 'ด้อยประสิทธิภาพ' ของมหาเถรสมาคม จึงกลายเป็นปลายหอกที่หันเข้าใส่ยอดอกของมหาเถรสมาคมเองในที่สุด<o></o>[/FONT][FONT=&quot] และทั้งหมดนี้คือสาเหตุที่ทำให้พุทธบริษัทและสังคมไทยทั้งระบบ ต่างหันกลับมาจับตามององค์กรสงฆ์อันได้ชื่อว่า[/FONT][FONT=&quot] 'มหาเถรสมาคม'[/FONT][FONT=&quot] อย่างจดจ่อและจริงจังอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในรอบทศวรรษ (2530-2540) ที่ผ่านมา<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]2. มหาเถรสมาคม : พัฒนาการ กรรมการ และอำนาจ[/FONT] [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]2.1 พัฒนาการ[/FONT] [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]การปกครองคณะสงฆ์ไทยในรูปของ[/FONT][FONT=&quot] 'มหาเถรสมาคม'[/FONT][FONT=&quot] เพิ่งจะเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ด้วยเหตุผลในการปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปการศึกษาเพื่อให้บ้านเมืองทันสมัยสามารถรับมือได้กับจักรวรรดินิยม ตะวันตกในสมัยนั้น หลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ก็คือการตรา 'พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121' (พ.ศ.2445) และนับจากนั้นมา การปกครองคณะสงฆ์ไทย ภายใต้องค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด คือ 'มหาเถรสมาคม' ก็มีวิวัฒนาการมาโดยลำดับจนถึงปัจจุบัน<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]แนวทางการบริหาร จัดการ คณะสงฆ์ไทยในปัจจุบัน ดำเนินไปภายใต้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2505 และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.2505 (แก้ไข) พ.ศ.2535<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]2.2 กรรมการ[/FONT] [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]องค์กรมหาเถรสมาคมในปัจจุบัน ประกอบด้วย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](1) สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการโดยตำแหน่ง<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](2) สมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](3) พระราชาคณะซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งมีจำนวนไม่เกินสิบสองรูปเป็นกรรมการ (และ)<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](4) อธิบดีกรมการศาสนาเป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคมโดยตำแหน่ง และกรมการศาสนาเป็นสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]2.3 อำนาจ[/FONT] [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]2.3.1 สมเด็จพระสังฆราช<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]สมเด็จพระสังฆราชทรงมีอำนาจ [/FONT][FONT=&quot]2 ทางด้วยกัน คือ<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ก.ในฐานะทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ และทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระ สังฆราช โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ข.ในฐานะทางดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมหา-เถรสมาคม[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จาก [/FONT][FONT=&quot]2 ข้อนี้จะเห็นว่าการที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระอักษรออกมาถึง 5 ฉบับ) นับรวม 2 ฉบับแรก ที่ไม่ปรากฏทางสื่อสารมวลชนด้วย) นั้น แสดงว่าพระองค์ทรงมีพระอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้อย่างชอบธรรม และเมื่อว่ากันอย่างที่มุ่งจะรักษาพระธรรมวินัยเป็นหลักแล้ว เพียงพระอักษรที่เผยแผ่ทางสื่อสารมวลชน ฉบับที่ลงวันที่ 26 เมษายน 2542 และฉบับที่ลงวันที่ 30 เมษายน 2542 รวมทั้งฉบับล่าสุด (ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2542) ที่ทรงระบุชัดลงไปว่าผู้ที่ทรงกล่าวถึงในพระอักษรนั้น มุ่งเอา 'วัดพระธรรมกาย' อย่างเป็นด้านหลักด้วยแล้ว ก็นับได้ว่าเพียงพอแล้วสำหรับที่จะยึดเป็นแนวทางในการจัดการยุติปัญหากรณีธรรมกาย (แต่ที่ยืดเยื้อออกไปนั้นจะเป็นด้วยเหตุใด เชื่อว่าถึงเวลานี้วิญญูชนย่อมกระจ่างชัดในเหตุผลเป็นอย่างดี)<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]2.3.2 อำนาจของมหาเถรสมาคม<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อว่าถึงอำนาจของมหาเถรสมาคม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับปัจจุบันกำหนดขอบเขตไว้ตามมาตรา[/FONT][FONT=&quot] 15 ตรี ดังต่อไปนี้<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](1) ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](2) ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](3) ควบคุมและส่งเสริมการศาสนาศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณ-สงเคราะห์ของคณะสงฆ์<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](4) รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](5) ปฏิบัติที่อื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่น...<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]3.จุดเด่น จุดด้อย และเสียงสะท้อนจากสังคมไทยต่อมหาเถรสมาคม <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]องค์กรมหาเถรสมาคม ประกอบด้วยพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมากด้วยพรรษายุกาล วัยวุฒิ คุณวุฒิ และปัญญาวุฒิ ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ผ่านมามากทั้งทางคดีโลก คดีธรรม ความเป็น [/FONT][FONT=&quot]'พระมหาเถระ' มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือมีประสบการณ์มากทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับโลกและเรื่องที่เกี่ยวกับธรรม ข้อดี ตรงนี้ส่งผลให้เป็นองค์กรที่มีความรอบคอบสูง มีวิจารณญาณเฉียบคม ไม่หลงกระแส (แต่อาจตกกระแส?) และใจเย็นยามเผชิญอธิกรณ์ (คดีความ) ต่างๆ การปกครองที่อนุ-วัตรตามฝ่ายบ้านเมืองของมหาเถรส มาคม ทำให้มีเอกภาพทางการปกครองสูง สามารถสั่งการคณะสงฆ์ทั้งประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว (ในยามปกติ) จุดเด่นเรื่องเอกภาพในการปกครองนี้ ได้รับการยอมรับทั่วไปว่าคณะสงฆ์ไทยทำได้อย่างดีเยี่ยม <o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]แม้ในงานเขียนเรื่อง [/FONT][FONT=&quot]The Buddhism in the Buddhist World พระราชวรมุนี (สมณศักดิ์ในขณะนั้นของพระธรรมปิฎก ป.อ.ปยุตโต) ก็ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ว่า<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]"อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในส่วนดี (จะพบว่า) คณะสงฆ์ไทยแม้จะมีจุดอ่อนและข้อด้อยมากมาย ก็ถือว่ามีการจัดองค์กรที่ดีเมื่อเทียบกับสถาบันสงฆ์ในประเทศอื่น วัดจำนวนหมื่นและพระภิกษุไม่น้อยกว่า 250,000 รูป รวมตัวเป็นเอกภาพภายใต้คณะผู้บริหารเดียวกัน ด้วยการจัดองค์กรสงฆ์ระดับชาติเช่นนี้ คณะสงฆ์ไทยจึงได้รับการยอมรับและอุปถัมภ์เต็มที่จากทางบ้านเมือง มีเอกภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ และการปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ เช่น การศึกษา ศาสนพิธี และการรักษาศีล ภายใต้ระบบการปกครองที่แบ่งระดับชั้นในรูปพีรามิดชนิดรวบอำนาจไว้ที่ส่วน กลางนี้ กิจการคณะสงฆ์สามารถได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งสามารถรักษาวินัยของสงฆ์ได้เป็นอย่างดี การถ่ายทอดคำสั่งอย่างฉับพลันและการส่งข่าวสารอย่างรวดเร็วระหว่างวัดในชนบท ห่างไกล กับคณะผู้บริหารระดับสูงสุดในกรุงเทพมหานคร ก็เป็นเรื่องที่อาจทำได้ ความร่วมมือร่วมใจระหว่างคณะสงฆ์กับฝ่ายบ้านเมืองมีอยู่อย่างแน่นแฟ้น<o></o>[/FONT][FONT=&quot] ทั้งนี้ เพราะคณะสงฆ์มีการจัดองค์กร และระดับชั้นผู้ปกครองคู่ขนานกับระบบราชการ ในสถานการณ์เช่นนี้ พระสงฆ์สามารถแสดงบทบาทสำคัญมากมายในการสร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชน และความมั่นคงของชาติ..."[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]แต่ในจุดเด่น หรือจุดแข็งของมหาเถรสมาคมดังกล่าวมานี้ ก็มีจุดด้อยแทรกอยู่ในนั้นด้วย เมื่อสังคมเปลี่ยนไป โลกเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน กระทั่งเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ จุดแข็งขององค์กร สงฆ์ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นจุดแข็งอีกต่อไป เมื่อมีปัญหามากมายเกิดขึ้น ท้าทายศักยภาพทางการปกครองของคณะสงฆ์อยู่เนืองๆ และนับวันคดีความก็ มักจะยุ่งยาก ซับซ้อน และเชื่อมโยงกับองคาพยพส่วนอื่นๆ ในสังคมมากยิ่งขึ้น ความเป็นพระมหาเถระของกรรมการมหาเถรสมาคมกลายเป็นจุดอ่อนขึ้นมาทันทีเมื่อพบ กับอธิการณ์ที่มีความซับซ้อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ [/FONT][FONT=&quot]'อลัชชี' เป็นบุคคลประเภท 'ลื่นเหมือนปลาไหล' และมีการ 'จัดตั้ง-วางระบบ' มาอย่างดีในระดับหนึ่งใน ภาวการณ์เช่นนี้ จุดแข็งก็แปรเป็นจุดอ่อนไปโดยพลัน
<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](1) ความเป็นพระมหาเถระ กลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'ไม่ทันโลก'<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](2) ความรอบคอบ กลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'ชักช้า' บ้าง 'โยนกลอง' บ้าง<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](3) ความเมตตา และความสุขุมคัมภีรภาพกลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'เห็นแก่คนมากกว่าเห็นแก่พระธรรมวินัย'<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](4) ความมีอำนาจมาก กลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'ใช้อำนาจเพื่อช่วยพวกพ้อง'<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](5) ความที่เป็นองค์กรสูงสุดมากด้วยอำนาจและบารมี แต่มีวิธีพิจารณาอธิกรณ์ต่างๆ อย่างชนิดเน้นเมตตาเป็นหลัก (ความจริงอาจเป็นเพราะท่านต้องการความรอบคอบมากกว่า) ทำให้การวินิจฉัยอธิกรณ์ต่างๆ ล่าช้า จึงเป็นที่มาแห่งข้อกล่าวหาว่าเป็น 'เสือกระดาษ'<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot](6) และล่าสุดอันนับได้ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและมากด้วยอารมณ์ทางสังคมเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีธรรมกายก็คือข้อกล่าวหาที่ว่า 'ธุระไม่ใช่' และ 'อุ้มอลัชชี' และหรือ 'อามิสทายาท'<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]จุดเด่น จุดด้อย และเสียงสะท้อนเหล่านี้ล้วนยืนอยู่บนรากฐานที่สามารถตรวจสอบ วัด และประเมินได้อย่างแน่นอน และเป็นความจริงทีเดียวที่พุทธบริษัทในฐานะเจ้าของพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับ พระมหาเถระในมหาเถรสมาคมย่อมมีสิทธิอย่างเต็มที่ที่จะแสดง[/FONT][FONT=&quot] 'ประชามติ' ต่อองค์กรมหาเถรสมาคมในฐานะองค์กรที่รับผิดชอบโดยตรงในการบริหารการพระศาสนา เสียงสะท้อนเหล่านี้ ดำรงอยู่ และขยายพรมแดนกว้างขวางเป็นอย่างยิ่งและอย่างเป็นพลวัตรด้วยอำนาจของสื่อใน ยุค 'โลกไร้พรมแดน' มหาเถรสมาคม จึงไม่อาจนิ่งดูดายกับเสียงก้องเหล่านี้ เพราะหากมหาเถรสมาคมไม่ยอมฟัง 'เสียงจากผู้อื่น' (ปรโตโฆสะ) ซึ่งมากด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อองค์กรและต่อพระพุทธศาสนาแล้ว <o></o>[/FONT][FONT=&quot] ในระยะยาว เสียงสะท้อนเหล่านี้เองจะเป็นเหตุปัจจัยอย่างสำคัญในการผลักดันให้มหาเถรสมาคมต้องมีการปรับตัวอย่างขนานใหญ่แน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นสถาบันพระพุทธศาสนาในเงื้อมมือมหาเถรสมาคมอาจจะถึงกาลละ [/FONT][FONT=&quot]'ล่มสลาย' ก่อนเวลาอันควร<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]4. มหาเถรสมาคม : การปรับองค์กรเพื่อเกื้อกูลต่องานรักษาและเผยแพร่พระธรรมวินัย <o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]จากการศึกษาบทบาทของมหาเถรสมาคมทั้งในอดีต ปัจจุบัน และท่ามกลางภาวะวิกฤติศรัทธาครั้งแล้วครั้งเล่ามีผู้พยายามชี้จุดอ่อน จุดแข็ง และทิศทางที่ควรจะเป็นของมหาเถร-สมาคมไว้มากมาย แต่ทัศนวิจารณ์เหล่านั้นก็ยังคงเงียบหายเป็นคลื่นกระทบฝั่งอยู่เหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot] การที่มีผู้ออกมาแสดงความเห็นห่วงองค์กรปกครองคณะสงฆ์สูงสุดอย่างมหาเถรสมาคมอย่างมากมาย และต่อเนื่องเช่นนี้ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าองค์กรมหาเถรสมาคม [/FONT][FONT=&quot]'มีปัญหา' ทั้งปัญหาในระดับโครงสร้าง ปัญหาระดับตัวบุคคล และปัญหาในระดับปฏิบัติการดำรงอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]ต่อกรณีธรรมกายปัญหาที่เห็นชัดและโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งก็คือมหาเถรสมาคม ไม่สามารถที่จะวินิจฉัยอธิกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมหาเถร-สมาคมมีศักยภาพที่จะทำได้เป็นอย่างดี มีทั้งประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและรวดเร็ว ถูกต้องดีงาม แม้เมื่อพลิกดูพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับแก้ไข พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2535 ก็พบ 'ทางสว่าง' ที่มหาเถรสมาคมสามารถนำมาปรับใช้ในการวินิจฉัยอธิกรณ์ได้อย่างเต็มที่เช่นกัน ดังมาตรา 19 ระบุ ไว้ว่า<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]"สมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ตามมติมหาเถรสมาคมประกอบด้วยพระภิกษุ หรือบุคคลอื่นจำนวนหนึ่ง มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองเรื่องที่จะเสนอต่อมหาเถรสมาคมและปฏิบัติหน้าที่ อื่นตามที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย โดยขึ้นตรงต่อมหาเถรสมาคม..." [/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]จากมาตรการนี้ มหาเถรสมาคมสามารถที่จะตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ขึ้นมาพิจารณากลั่นกรองคดีความ[/FONT][FONT=&quot] (อธิกรณ์) ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลือกสรรผู้ทรง คุณวุฒิจากสาขาต่างๆ มาทำงานให้กับมหาเถรสมาคมอย่างได้ผล แต่เท่าที่ผ่านมา มหาเถรสมาคมยังไม่ค่อยใช้มาตรานี้ให้เป็นคุณแก่การพระศาสนาเท่าไหร่นัก แม้ผู้เชี่ยวชาญพระธรรมวินัยอย่าง พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) เองก็ตาม พระคุณท่านก็ทำงานรักษาพระธรรมวินัยในฐานะพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งเท่านั้น ทั้งๆ ที่มีช่องทางใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์เปิดไว้ให้และมีแนวปฏิบัติในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเป็นบท เรียนไว้มากมาย มหา-เถรสมาคมก็กลับไม่พิจารณาพระคุณท่าน (หรือพระสงฆ์รูปอื่นที่มีศักยภาพด้านนี้) เพื่อทำงานในกรณีธรรมกายโดยเฉพาะ (ตรงกันข้าม กลับเลือกวิธีการแบบเดิม ซึ่งเป็นการดำเนินการไปตามขั้นตอนอันสมคล้อยกับระบบราชการ ซึ่งรู้กันเป็นอย่างดีว่าในกรณีเร่งด่วน สำคัญ และเกี่ยวเนื่องกับความเป็นความตายของสดมภ์หลักของชาติอย่าพระพุทธศาสนานี้ การทำงานในรูปแบบเดิมนั้นยากที่จะทำออกมาให้ได้ผลดีและเป็นที่ยอมรับ และการก็เป็นจริงดังประจักษ์กันดีอยู่แล้วในเวลานี้) ซึ่งหาก มส. ดำเนินการตามมาตรา 19 และแต่งตั้งให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาทำงานเพื่อการนี้โดยตรง ปัญหากรณีธรรมกายจะไม่บานปลายและลุกลามใหญ่โตจนเป็นปัญหาระดับชาติ สั่นสะเทือนสถาบันและองค์สังฆบิดรอย่างที่เห็นและแน่นอนว่ามหาเถรสมาคมเองก็ คงไม่บอบช้ำ จนตกอยู่ในสภาพ 'จำเลย' อันไม่ต่างไปจากชาวธรรมกายสักเท่าไหร่นัก<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]สภาพการณ์[/FONT][FONT=&quot] 'รวบและรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง'[/FONT][FONT=&quot] คือที่องค์ปกครองสงฆ์สูงสุดเพียงฝ่ายเดียวเช่นนี้ทำให้ลักษณะองค์กรมีความ ใหญ่โต เทอะทะ ไม่คล่องตัว และปรับตัวยาก ยิ่งในสังคมโลกาภิวัตน์ด้วยแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่ามีสารพัดปัญหารอท้าทายมหาเถรสมาคมอยู่อย่างน่าประหวั่น พรั่นพรึง<o>

</o>[/FONT] [FONT=&quot]ในอนาคต หากองค์กรปกครองคณะสงฆ์สูงสุดอย่างมหาเถรสมาคม ไม่มีการ[/FONT][FONT=&quot] 'ปรับองค์กร'[/FONT][FONT=&quot] เพื่อรับมือกับกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลกยุค 2000 ก็น่าเป็นห่วงว่ามหาเถรสมาคมอาจตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ล้าหลัง ก้าวไม่ทันโลก อาจตกเป็น 'แนวร่วมอลัชชี' หรือมีฐานะเป็นเพียงสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่มีความสลักสำคัญอะไรอีกในสังคมไทย<o></o>[/FONT][FONT=&quot] และเมื่อถึงวันนั้น ไม่เพียงมหาเถรสมาคมเท่านั้นที่น่าเป็นห่วง หากสถาบันพระพุทธศาสนาและสังคมไทย ทั้งหมดนั่นแหละที่ตกอยู่ในสภาพน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า ดังธรรมทัศนะจากพระธรรมปิฎก...[/FONT][FONT=&quot]<o>

</o>[/FONT][FONT=&quot]"เราถือกันว่า พระสงฆ์เป็นสถาบันทางจริยธรรม เป็นสถาบันผู้นำทางด้านจิตใจของสังคมนี้ เราอาจจะพูดได้ว่า โดยทั่วไปในสังคมไทยนี้ พระสงฆ์เป็นบุคคลที่ถือได้ว่ามีศีลธรรมและจริยธรรมมากที่สุดจากเกณฑ์มาตรฐาน หรือพื้นความเข้าใจอย่างนี้ เมื่อเรามองสังคมไทย ก็จะได้ข้อคิดต่อไปว่า อ้อนี่ ขนาดบุคคลที่ถือว่าเป็นแบบอย่างทางศีลธรรม และเป็นผู้นำทางจิตใจของสังคมก็ยังมีความเสื่อมโทรมขนาดนี้ แล้วสังคมไทยส่วนรวมทั่วๆ ไป จะเลวทรามขนาดไหน..."[/FONT] [FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

IEC · 16 สิงหาคม 2010

สวัสดีตอนช่วงบ่ายๆ ครับ

ไม่ได้เข้ามาซะตั้งหลายวัน เลยต้องมาตามอ่านซะหลายๆ หน้าเลย อิอิ

สิทธิศักดิ์ · 16 สิงหาคม 2010

สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมตามอ่านทุกวันครับแต่ไม่ค่อยได้เขียนกระทู้ครับ
ต้องขอบคุณทุกท่านในนี้ที่ให้สาระความรู้และประสบการณ์ต่างๆครับ สุดยอดครับ
ผมอาจจะไม่ค่อยมีอะไรที่จะเล่าแต่ยังไงผมก็ขอติดตามอ่านกระทู้ไปเรื่อยๆครับ

โต้งชลบุรี · 16 สิงหาคม 2010

สิทธิศักดิ์ said: ↑

สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมตามอ่านทุกวันครับแต่ไม่ค่อยได้เขียนกระทู้ครับ
ต้องขอบคุณทุกท่านในนี้ที่ให้สาระความรู้และประสบการณ์ต่างๆครับ สุดยอดครับ
ผมอาจจะไม่ค่อยมีอะไรที่จะเล่าแต่ยังไงผมก็ขอติดตามอ่านกระทู้ไปเรื่อยๆครับ
Click to expand...

ยินดีต้อนรับครับ
กระทู้นี้ที่ผมตามอ่านมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภา สิ่งที่ผมเห็นมาตลอดคือความมีน้ำใจ และเอื้อเฟื้อต่อกัน ที่หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ผมก็รู้จักเพื่อนที่ดี และมีความจริงใจ ก็จากกระทู้นี้แหละครับ หากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ ที่พอจะแนะนำพวกเราได้บ้างก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ

Norragate · 16 สิงหาคม 2010

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สิทธิศักดิ์
สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมตามอ่านทุกวันครับแต่ไม่ค่อยได้เขียนกระทู้ครับ
ต้องขอบคุณทุกท่านในนี้ที่ให้สาระความรู้และประสบการณ์ต่างๆครับ สุดยอดครับ
ผมอาจจะไม่ค่อยมีอะไรที่จะเล่าแต่ยังไงผมก็ขอติดตามอ่านกระทู้ไปเรื่อยๆครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ยินดีต้อนรับเช่นกันครับ....(^_^)....

นำทาง · 16 สิงหาคม 2010

สิทธิศักดิ์ said: ↑

สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมตามอ่านทุกวันครับแต่ไม่ค่อยได้เขียนกระทู้ครับ
ต้องขอบคุณทุกท่านในนี้ที่ให้สาระความรู้และประสบการณ์ต่างๆครับ สุดยอดครับ
ผมอาจจะไม่ค่อยมีอะไรที่จะเล่าแต่ยังไงผมก็ขอติดตามอ่านกระทู้ไปเรื่อยๆครับ
Click to expand...

......................
ยินดีต้อนรับ สู่บ้านหลังนี้ครับ

ลูกน้ำเค็ม · 16 สิงหาคม 2010

สวัสดีวันทำงานวันแรกหลังจากหยุดยาวช่วงวันแม่หลายวันครับทุก ๆ ท่่าน...

Suppasit_S · 16 สิงหาคม 2010

สวัสดีครับคุณหนุ่มฯและทุกๆท่าน

เป็นกระทู้แห่งน้ำใจจริงๆครับ ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรมาเล่า แต่ก็ติดตามตลอดครับ

ลูกน้ำเค็ม · 16 สิงหาคม 2010

วันนี้ มีโชคลาภ กันบ้างไหมครับ

น้าต๋อย เซมเบ้ · 16 สิงหาคม 2010

หยุดไปนานเกินไปหรือเปล่า
แทบจะไม่อยากมาทำงาน เพราะกำลังติดลมเพลินๆ

หยุดวันแม่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนครับ
โดนร่วมพิธีตอนเย็น ถ้าพลาดขึ้นมา อาจจะโดนข้อหา ไม่จงรักภักดี
อีกสามวันก็ได้แต่นั่งมองเมฆฝนที่ครึ้มทั่วฟ้า กทม. จะตกก็ไม่ตก
ยึกๆ ยักๆ แกล้งทำให้ผ้าเรามีกลิ่นอับ ลำพังไม่ค่อยซักก็จะแย่อยู่แล้ว
พักนี้หัวสมองผมตีบตันทางความคิด คิดอะไรไม่ค่อยออก รอคนมาล่อเป้าก่อน
คงจะบรรจงเขียนออกมาต่อได้ไม่ยากเย็น
เอาคำถามนี้ก็แล้วกันครับ

สำหรับคนชอบดูพระ ท่านใช้กล้อง (Loupe) ยี่ห้ออะไรกันอยู่ครับ

anoldman · 16 สิงหาคม 2010

สาธุๆ

อุดมเดช said: ↑

เดี๋ยวจะมีคนกล่าวหาว่าพูดกล่าวร้ายหน่วยงานของสงฆ์ จึงขอเอาบางเรื่องที่เปิดเผยอยู่ในข้อมูลสาธารณะและรับรู้กันทั่วไป มาลงให้อ่าน และผมยังมีหลักฐาน ใบเสร็จ เทปบันทึกเสียง ภาพถ่ายมากมาย เกี่ยวกับเรื่องเสียหายในวงการพระสงฆ์องค์เจ้าที่ล้วนทำให้ศาสนาพุทธเสื่อม หลายองค์ดังและคนขึ้นหามากมาย ถวายเงินทุกวัน แต่เบื้องลึกน่ากลัว น่าห่วงสังคมมาก รอให้พ้นจากหน้าที่รับผิดชอบเสียก่อน จะมาร่วมเปิดโปงสังคมมุมมืดเล็กๆน้อยๆ เท่าที่พอทำได้เพื่อเป็นทานกับคนอื่นๆบ้าง การพูดเรื่องจริงให้คนตาสว่างคงจะพอได้กุศลบ้างนะ หลายท่านเป็นแพะ เช่นอดีตท่านเจ้าคุณอุดม เพราะเบื้องลึกและเบื้องหลังมีเรื่องที่เผยไม่ได้เลย บางท่านดังแต่ดับก่อนตาย เช่นท่านกิตติวุฒโฑ ชลบุรี

"พระพม่าเก่งอภิธรรม พระเขมรเก่งวินัย พระไทยเก่งพระสูตร" สามคำนี้มีความหมายจริงตรงตัว

<LINK rel=File-List href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Ccompaq%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><LINK rel=themeData href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Ccompaq%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><LINK rel=colorSchemeMapping href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Ccompaq%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><STYLE>  </STYLE>[FONT=&quot]เสียงสะท้อนจาก [/FONT][FONT=&quot]'[/FONT][FONT=&quot]ยุวสงฆ์[/FONT][FONT=&quot]'<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]มหาเถรสมาคม : ในคลื่นลมวิกฤติศรัทธา[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]เป็นเวลานานกว่า [/FONT][FONT=&quot]7 เดือน ที่คณะสงฆ์และฆราวาส ผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระศาสนา ได้ออกมาเคลื่อนไหวเปิดโปงพฤติกรรมของวัดพระธรรมกาย ด้วยรูปแบบต่างๆ ซึ่งในนั้นก็มี 'คณะสงฆ์หนุ่ม' หรือ 'ยุวสงฆ์' รวมอยู่ด้วย<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]ย้อนไปเมื่ออดีตยามใดที่เกิดปัญหาในวงการสงฆ์ คณะสงฆ์หนุ่มก็จะออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับฆราวาส ดั่งเช่น [/FONT][FONT=&quot]'คณะปฏิสังขรณ์การพระศาสนา' ที่ผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.การปกครองคณะสงฆ์ 2484 ที่มีรูปแบบการปกครองสงฆ์ที่เป็นประชาธิปไตยที่สุด <O></O>[/FONT][FONT=&quot]แต่ พ.ร.บ.การปกครอง คณะสงฆ์ [/FONT][FONT=&quot]2505 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีการตราออกมาใช้ในสมัยเผด็จการครองเมือง ฉะนั้น อาจกล่าวได้ว่าปัญหาของวงการพระศาสนา ก็คือปัญหาการปกครองคณะสงฆ์ ภายใต้กฎหมายที่ล้าหลังและไม่เป็นประชาธิปไตย[/FONT]

[FONT=&quot]<O></O>[/FONT][FONT=&quot]'ธรรมธารี'[/FONT] [FONT=&quot]เป็นนามปากกาของพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ลุกขึ้นมาเขียนบทความขนาดยาวชิ้นนี้ ด้วยมุมมองแบบคนรุ่นใหม่ ซึ่งมองปัญหามหาเถรสมาคมอย่างเป็นระบบ และเสนอทางออกไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง <O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]1.กรณีธรรมกาย : ไฟสุมขอนที่รอวันปะทุ <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ญหาวัดพระธรรมกาย ซึ่งต่อมาเรียกกันตามเอกสารเพื่อพระธรรมวินัยของพระธรรมปิฎก[/FONT][FONT=&quot] (ป.อ.ปยุตโต) ว่า 'กรณีธรรมกาย' มิใช่ปัญหาใหม่ในวงการพระพุทธศาสนาในประเทศไทย หากติดตามประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งวัดพระธรรมกายมาแต่แรกเริ่มจะพบว่า อาการ 'ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปเป็นบ้องกันชา' นั้น มีเค้าเงื่อนให้เห็นมาแต่แรกเริ่มแล้ว นั่นคือ นับแต่ปี พ.ศ.2520 วัดพระธรรมกายได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นวัดได้โดยสมบูรณ์ และคณะกรรมการวัดได้พยายามขยายพื้นที่วัดให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ โดยมีการกว้านซื้อที่ดินที่มีอาณาบริเวณติดกับที่วัดแต่เดิมให้ขยายออกไป อีกกว่า 2,000 ไร่ ในการกว้านซื้อที่ดินเพื่อขยายอาณาเขตนี้ มีโศกนาฏกรรมซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นจนดังเป็นข่าวรับรู้กันไปทั่วทั้งประเทศก็ คือ การที่ 'คนของวัดพระธรรมกาย' มีกรณีพิพาทกับกลุ่มชาวบ้านบริเวณข้างวัด ซึ่งไม่พอใจกับพฤติการณ์ของคณะกรรมการวัด ที่พยายามขยายอาณาเขตของวัดด้วยการใช้ทั้ง 'เงิน' และ 'อิทธิพล' เข้าข่มขู่เจ้าของที่ จนในที่สุดถึงกับมีการใช้ความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกทั้งสองฝ่าย[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อข่าวนี้หายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ชาววัดพระธรรมกายก็พยายามรุกคืบต่อไปอย่างแยบยล และเป็นพลวัตร ในการรุกคืบเพื่อสร้างมหาอาณาจักรทางธรรมนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แสดงความไม่ชอบมาพากล และทำท่าว่าจะเดินสวนทางพระธรรมวินัยมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีเสียงทักท้วงจากผู้รู้ นักวิชาการ นักการเมือง และปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาอยู่เนืองๆ เสียงทักท้วงนี้มีทั้งที่เป็นทัศนวิจารณ์และทั้งที่เป็นเอกสารหลักฐานมากมาย หนึ่งในนั้นเป็นเสียงก้องจาก ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ซึ่งเป็นนักคิดคนสำคัญของไทย ได้วิพากษ์วัดพระธรรมกายและพยากรณ์ล่วงหน้าไว้ ดังนี้[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]"พูดถึง 'ธรรมกาย' ในส่วนที่เป็นองค์กรจัดตั้งนั้น ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อดี คือ มีพลังรุกได้รวดเร็ว[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ข้อเสีย คือ[/FONT][FONT=&quot] (1) ต้องใช้เงินมาก (2) หลักธรรมแคบ (3) มีอำนาจซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และคอรัปชั่นในอนาคต[/FONT][FONT=&quot] ดังนี้[/FONT][FONT=&quot]<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]ก.การที่เป็นองค์กรใหญ่ทำให้ต้องใช้เงินมาก จึงมีลักษณะ [/FONT][FONT=&quot]'หาเงิน' สูง การที่ต้องการเงินมากจะทำให้ต้องประนีประนอมในหลักธรรมและเข้าไปสู่การค้า เช่น อาจต้องคบคนที่ไม่ค่อยมีธรรมะเท่าใด เพราะต้องการเงินจากเขาหรืออำนาจซึ่งเอามาแปรเป็นเงิน<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ข.การที่เป็นองค์กรจัดตั้งที่ต้องการรวมกลุ่มสูง ทำให้ต้องเสนออุดมการณ์โดดเดี่ยว เพื่อเป็นหลักยึดในการรวมกลุ่มไว้ ให้รู้ความหลากหลายของธรรมะไม่ได้เพราะจะรวมกลุ่มไม่ติด...[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ค.เมื่อเป็นองค์กรจัดตั้งใหญ่ที่มีอำนาจทั้งทางกำลังคนและกำลังเงิน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ แต่ในความสำเร็จต้องระวังความล้มเหลวเสมอ ความล้มเหลวจะเกิดจากความใหญ่ และเกิดจากอำนาจนั้นเอง ไม่ว่าอะไรก็ตาม ถ้าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จะมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นลูกโป่ง ไดโนเสาร์ กองทัพ เครื่องบิน แนวรบ เพราะจะเกิดความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก คุมองคาพยพไว้ไม่ได้ ต้องแตกสลายไปหรือคงอยู่ไม่ได้...ถ้าธรรมกายจะชูธง [/FONT][FONT=&quot]'ธรรมกาย' ไม่ชูธงพุทธเป็นส่วนรวมและเอาเฉพาะหมู่พวกของตน ย่อมต้องเกิดความขัดแย้งกับชาวพุทธที่มีความหลากหลายดังที่ชักจะเริ่มพูดอะไรต่ออะไรกันขึ้นแล้ว..."<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]13 ปีให้หลังการวิพากษ์กึ่งพยากรณ์ของศาสตรา-จารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ราวปลายปี 2541 กรณีธรรมกายก็ปะทุ และลุกลามเป็นปัญหาสังคมอย่างรวดเร็ว จากความใหญ่โตขององค์กร และการจัดระบบอย่างดีเลิศชนิดนักบริหาร นักการตลาดสมัยใหม่ยอมยกนิ้วให้ ทำให้กรณีธรรมกายกลายเป็น 'น้ำผึ้งหยดเดียว' ที่ปลุกเอาสังคมไทยทั้งระบบให้ฟื้นตื่นขึ้นมาตรวจสอบ ไม่เฉพาะแต่วัดพระธรรมกายเท่านั้น หากเป็นการตรวจสอบ<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot](1) หลักพระธรรมวิจัยอันเป็นรากเหง้าของพระพุทธศาสนา คือหลัก 'นิพพานอัตตา-อนัตตา'<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](2) สถาบันสงฆ์และวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ทั่วทั้งสังฆมณฑล<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](3) มหาเถรสมาคม อันเป็นองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](4) จิตวิญญาณชาวพุทธในฐานะ 'เจ้าของพระพุทธศาสนา' ซึ่งคนไทยกว่า 95% ล้วนเป็นหุ้นส่วนพุทธบริษัท<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](5) นักวิชาการ นักคิด นักการเมือง องค์กรพุทธ รัฐะ (ผ่าน รมต.ศึกษาฯ กรมการศาสนา)<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](6) มหาวิทยาลัยสงฆ์ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาชั้นสูง ซึ่งควรมีบทบาทโดยตรงในการสร้างความเข้าใจ ชี้แจง และออกนำหน้าในการหาทางออกต่อกรณีนี้<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](7) สื่อมวลชน ในฐานะผู้นำเสนอความจริงอย่างมั่นใน 'อาชีวปฏิญาณ' หรือเพียงผู้รอรับ 'ใบสั่ง' จากใครก็ได้ที่มีซองขาว<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]การตรวจสอบดังกล่าวนี้ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ยาวนาน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่อาจหาข้อยุติได้ ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายต่างพยายามอย่างเต็มที่และถึงที่สุดแล้วในการทำให้ความจริงปรากฏอย่างชนิด[/FONT][FONT=&quot] Clean and clear ถ้ากรณีธรรมกายไม่มีระบบการจัดตั้งที่เข้มแข็ง ไม่มีผู้นำที่เป็นปัญญาชน ไม่มีเงินทุนมหาศาล และไม่มีศาสนิกเรือนแสน ทุกอย่างคงจบไปแล้วภายในเวลาไม่เกินไตรมาสแรก นับแต่เหตุการณ์ปะทุขึ้นมา แต่เผอิญว่ากรณีธรรมกายนี้เป็น 'รัฐน้อย' ที่ซ้อนอยู่ใน 'รัฐใหญ่' (หรือบางทีอาจเป็นรัฐอิสระในประเทศไทยด้วยซ้ำไป) ของรัฐบาลสงฆ์ (หรือมหาเถรสมาคม) การตรวจสอบและวินิจฉัย อรรถคดีที่ 'ด้อยประสิทธิภาพ' ของมหาเถรสมาคม จึงกลายเป็นปลายหอกที่หันเข้าใส่ยอดอกของมหาเถรสมาคมเองในที่สุด<O></O>[/FONT][FONT=&quot] และทั้งหมดนี้คือสาเหตุที่ทำให้พุทธบริษัทและสังคมไทยทั้งระบบ ต่างหันกลับมาจับตามององค์กรสงฆ์อันได้ชื่อว่า[/FONT][FONT=&quot] 'มหาเถรสมาคม'[/FONT][FONT=&quot] อย่างจดจ่อและจริงจังอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในรอบทศวรรษ (2530-2540) ที่ผ่านมา<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]2. มหาเถรสมาคม : พัฒนาการ กรรมการ และอำนาจ[/FONT] [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]2.1 พัฒนาการ[/FONT] [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]การปกครองคณะสงฆ์ไทยในรูปของ[/FONT][FONT=&quot] 'มหาเถรสมาคม'[/FONT][FONT=&quot] เพิ่งจะเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ด้วยเหตุผลในการปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปการศึกษาเพื่อให้บ้านเมืองทันสมัยสามารถรับมือได้กับจักรวรรดินิยม ตะวันตกในสมัยนั้น หลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ก็คือการตรา 'พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121' (พ.ศ.2445) และนับจากนั้นมา การปกครองคณะสงฆ์ไทย ภายใต้องค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด คือ 'มหาเถรสมาคม' ก็มีวิวัฒนาการมาโดยลำดับจนถึงปัจจุบัน<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]แนวทางการบริหาร จัดการ คณะสงฆ์ไทยในปัจจุบัน ดำเนินไปภายใต้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2505 และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับ พ.ศ.2505 (แก้ไข) พ.ศ.2535<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]2.2 กรรมการ[/FONT] [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]องค์กรมหาเถรสมาคมในปัจจุบัน ประกอบด้วย[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](1) สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการโดยตำแหน่ง<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](2) สมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](3) พระราชาคณะซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งมีจำนวนไม่เกินสิบสองรูปเป็นกรรมการ (และ)<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](4) อธิบดีกรมการศาสนาเป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคมโดยตำแหน่ง และกรมการศาสนาเป็นสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]2.3 อำนาจ[/FONT] [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]2.3.1 สมเด็จพระสังฆราช<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]สมเด็จพระสังฆราชทรงมีอำนาจ [/FONT][FONT=&quot]2 ทางด้วยกัน คือ<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ก.ในฐานะทรงดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ และทรงตราพระบัญชาสมเด็จพระ สังฆราช โดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]ข.ในฐานะทางดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมหา-เถรสมาคม[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]จาก [/FONT][FONT=&quot]2 ข้อนี้จะเห็นว่าการที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระอักษรออกมาถึง 5 ฉบับ) นับรวม 2 ฉบับแรก ที่ไม่ปรากฏทางสื่อสารมวลชนด้วย) นั้น แสดงว่าพระองค์ทรงมีพระอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้อย่างชอบธรรม และเมื่อว่ากันอย่างที่มุ่งจะรักษาพระธรรมวินัยเป็นหลักแล้ว เพียงพระอักษรที่เผยแผ่ทางสื่อสารมวลชน ฉบับที่ลงวันที่ 26 เมษายน 2542 และฉบับที่ลงวันที่ 30 เมษายน 2542 รวมทั้งฉบับล่าสุด (ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2542) ที่ทรงระบุชัดลงไปว่าผู้ที่ทรงกล่าวถึงในพระอักษรนั้น มุ่งเอา 'วัดพระธรรมกาย' อย่างเป็นด้านหลักด้วยแล้ว ก็นับได้ว่าเพียงพอแล้วสำหรับที่จะยึดเป็นแนวทางในการจัดการยุติปัญหากรณีธรรมกาย (แต่ที่ยืดเยื้อออกไปนั้นจะเป็นด้วยเหตุใด เชื่อว่าถึงเวลานี้วิญญูชนย่อมกระจ่างชัดในเหตุผลเป็นอย่างดี)<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]2.3.2 อำนาจของมหาเถรสมาคม<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อว่าถึงอำนาจของมหาเถรสมาคม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับปัจจุบันกำหนดขอบเขตไว้ตามมาตรา[/FONT][FONT=&quot] 15 ตรี ดังต่อไปนี้<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](1) ปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยดีงาม<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](2) ปกครองและกำหนดการบรรพชาสามเณร<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](3) ควบคุมและส่งเสริมการศาสนาศึกษา การศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณ-สงเคราะห์ของคณะสงฆ์<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](4) รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](5) ปฏิบัติที่อื่นๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่น...<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]3.จุดเด่น จุดด้อย และเสียงสะท้อนจากสังคมไทยต่อมหาเถรสมาคม <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]องค์กรมหาเถรสมาคม ประกอบด้วยพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมากด้วยพรรษายุกาล วัยวุฒิ คุณวุฒิ และปัญญาวุฒิ ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ผ่านมามากทั้งทางคดีโลก คดีธรรม ความเป็น [/FONT][FONT=&quot]'พระมหาเถระ' มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือมีประสบการณ์มากทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับโลกและเรื่องที่เกี่ยวกับธรรม ข้อดี ตรงนี้ส่งผลให้เป็นองค์กรที่มีความรอบคอบสูง มีวิจารณญาณเฉียบคม ไม่หลงกระแส (แต่อาจตกกระแส?) และใจเย็นยามเผชิญอธิกรณ์ (คดีความ) ต่างๆ การปกครองที่อนุ-วัตรตามฝ่ายบ้านเมืองของมหาเถรส มาคม ทำให้มีเอกภาพทางการปกครองสูง สามารถสั่งการคณะสงฆ์ทั้งประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว (ในยามปกติ) จุดเด่นเรื่องเอกภาพในการปกครองนี้ ได้รับการยอมรับทั่วไปว่าคณะสงฆ์ไทยทำได้อย่างดีเยี่ยม <O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]แม้ในงานเขียนเรื่อง [/FONT][FONT=&quot]The Buddhism in the Buddhist World พระราชวรมุนี (สมณศักดิ์ในขณะนั้นของพระธรรมปิฎก ป.อ.ปยุตโต) ก็ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ว่า<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]"อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในส่วนดี (จะพบว่า) คณะสงฆ์ไทยแม้จะมีจุดอ่อนและข้อด้อยมากมาย ก็ถือว่ามีการจัดองค์กรที่ดีเมื่อเทียบกับสถาบันสงฆ์ในประเทศอื่น วัดจำนวนหมื่นและพระภิกษุไม่น้อยกว่า 250,000 รูป รวมตัวเป็นเอกภาพภายใต้คณะผู้บริหารเดียวกัน ด้วยการจัดองค์กรสงฆ์ระดับชาติเช่นนี้ คณะสงฆ์ไทยจึงได้รับการยอมรับและอุปถัมภ์เต็มที่จากทางบ้านเมือง มีเอกภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ และการปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ เช่น การศึกษา ศาสนพิธี และการรักษาศีล ภายใต้ระบบการปกครองที่แบ่งระดับชั้นในรูปพีรามิดชนิดรวบอำนาจไว้ที่ส่วน กลางนี้ กิจการคณะสงฆ์สามารถได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งสามารถรักษาวินัยของสงฆ์ได้เป็นอย่างดี การถ่ายทอดคำสั่งอย่างฉับพลันและการส่งข่าวสารอย่างรวดเร็วระหว่างวัดในชนบท ห่างไกล กับคณะผู้บริหารระดับสูงสุดในกรุงเทพมหานคร ก็เป็นเรื่องที่อาจทำได้ ความร่วมมือร่วมใจระหว่างคณะสงฆ์กับฝ่ายบ้านเมืองมีอยู่อย่างแน่นแฟ้น<O></O>[/FONT][FONT=&quot] ทั้งนี้ เพราะคณะสงฆ์มีการจัดองค์กร และระดับชั้นผู้ปกครองคู่ขนานกับระบบราชการ ในสถานการณ์เช่นนี้ พระสงฆ์สามารถแสดงบทบาทสำคัญมากมายในการสร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชน และความมั่นคงของชาติ..."[/FONT][FONT=&quot]<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]แต่ในจุดเด่น หรือจุดแข็งของมหาเถรสมาคมดังกล่าวมานี้ ก็มีจุดด้อยแทรกอยู่ในนั้นด้วย เมื่อสังคมเปลี่ยนไป โลกเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วและซับซ้อน กระทั่งเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ จุดแข็งขององค์กร สงฆ์ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นจุดแข็งอีกต่อไป เมื่อมีปัญหามากมายเกิดขึ้น ท้าทายศักยภาพทางการปกครองของคณะสงฆ์อยู่เนืองๆ และนับวันคดีความก็ มักจะยุ่งยาก ซับซ้อน และเชื่อมโยงกับองคาพยพส่วนอื่นๆ ในสังคมมากยิ่งขึ้น ความเป็นพระมหาเถระของกรรมการมหาเถรสมาคมกลายเป็นจุดอ่อนขึ้นมาทันทีเมื่อพบ กับอธิการณ์ที่มีความซับซ้อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ [/FONT][FONT=&quot]'อลัชชี' เป็นบุคคลประเภท 'ลื่นเหมือนปลาไหล' และมีการ 'จัดตั้ง-วางระบบ' มาอย่างดีในระดับหนึ่งใน ภาวการณ์เช่นนี้ จุดแข็งก็แปรเป็นจุดอ่อนไปโดยพลัน[/FONT]
[FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](1) ความเป็นพระมหาเถระ กลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'ไม่ทันโลก'<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](2) ความรอบคอบ กลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'ชักช้า' บ้าง 'โยนกลอง' บ้าง<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](3) ความเมตตา และความสุขุมคัมภีรภาพกลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'เห็นแก่คนมากกว่าเห็นแก่พระธรรมวินัย'<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](4) ความมีอำนาจมาก กลายเป็นชนวนแห่งข้อกล่าวหาว่า 'ใช้อำนาจเพื่อช่วยพวกพ้อง'<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](5) ความที่เป็นองค์กรสูงสุดมากด้วยอำนาจและบารมี แต่มีวิธีพิจารณาอธิกรณ์ต่างๆ อย่างชนิดเน้นเมตตาเป็นหลัก (ความจริงอาจเป็นเพราะท่านต้องการความรอบคอบมากกว่า) ทำให้การวินิจฉัยอธิกรณ์ต่างๆ ล่าช้า จึงเป็นที่มาแห่งข้อกล่าวหาว่าเป็น 'เสือกระดาษ'<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot](6) และล่าสุดอันนับได้ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและมากด้วยอารมณ์ทางสังคมเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีธรรมกายก็คือข้อกล่าวหาที่ว่า 'ธุระไม่ใช่' และ 'อุ้มอลัชชี' และหรือ 'อามิสทายาท'<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]จุดเด่น จุดด้อย และเสียงสะท้อนเหล่านี้ล้วนยืนอยู่บนรากฐานที่สามารถตรวจสอบ วัด และประเมินได้อย่างแน่นอน และเป็นความจริงทีเดียวที่พุทธบริษัทในฐานะเจ้าของพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับ พระมหาเถระในมหาเถรสมาคมย่อมมีสิทธิอย่างเต็มที่ที่จะแสดง[/FONT][FONT=&quot] 'ประชามติ' ต่อองค์กรมหาเถรสมาคมในฐานะองค์กรที่รับผิดชอบโดยตรงในการบริหารการพระศาสนา เสียงสะท้อนเหล่านี้ ดำรงอยู่ และขยายพรมแดนกว้างขวางเป็นอย่างยิ่งและอย่างเป็นพลวัตรด้วยอำนาจของสื่อใน ยุค 'โลกไร้พรมแดน' มหาเถรสมาคม จึงไม่อาจนิ่งดูดายกับเสียงก้องเหล่านี้ เพราะหากมหาเถรสมาคมไม่ยอมฟัง 'เสียงจากผู้อื่น' (ปรโตโฆสะ) ซึ่งมากด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อองค์กรและต่อพระพุทธศาสนาแล้ว <O></O>[/FONT][FONT=&quot]ในระยะยาว เสียงสะท้อนเหล่านี้เองจะเป็นเหตุปัจจัยอย่างสำคัญในการผลักดันให้มหาเถรสมาคมต้องมีการปรับตัวอย่างขนานใหญ่แน่นอน เพราะไม่เช่นนั้นสถาบันพระพุทธศาสนาในเงื้อมมือมหาเถรสมาคมอาจจะถึงกาลละ [/FONT][FONT=&quot]'ล่มสลาย' ก่อนเวลาอันควร<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]4. มหาเถรสมาคม : การปรับองค์กรเพื่อเกื้อกูลต่องานรักษาและเผยแพร่พระธรรมวินัย <O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]จากการศึกษาบทบาทของมหาเถรสมาคมทั้งในอดีต ปัจจุบัน และท่ามกลางภาวะวิกฤติศรัทธาครั้งแล้วครั้งเล่ามีผู้พยายามชี้จุดอ่อน จุดแข็ง และทิศทางที่ควรจะเป็นของมหาเถร-สมาคมไว้มากมาย แต่ทัศนวิจารณ์เหล่านั้นก็ยังคงเงียบหายเป็นคลื่นกระทบฝั่งอยู่เหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น[/FONT][FONT=&quot]<O></O>[/FONT][FONT=&quot] การที่มีผู้ออกมาแสดงความเห็นห่วงองค์กรปกครองคณะสงฆ์สูงสุดอย่างมหาเถรสมาคมอย่างมากมาย และต่อเนื่องเช่นนี้ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าองค์กรมหาเถรสมาคม [/FONT][FONT=&quot]'มีปัญหา' ทั้งปัญหาในระดับโครงสร้าง ปัญหาระดับตัวบุคคล และปัญหาในระดับปฏิบัติการดำรงอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]ต่อกรณีธรรมกายปัญหาที่เห็นชัดและโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งก็คือมหาเถรสมาคม ไม่สามารถที่จะวินิจฉัยอธิกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมหาเถร-สมาคมมีศักยภาพที่จะทำได้เป็นอย่างดี มีทั้งประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและรวดเร็ว ถูกต้องดีงาม แม้เมื่อพลิกดูพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ฉบับแก้ไข พ.ศ.[/FONT][FONT=&quot]2535 ก็พบ 'ทางสว่าง' ที่มหาเถรสมาคมสามารถนำมาปรับใช้ในการวินิจฉัยอธิกรณ์ได้อย่างเต็มที่เช่นกัน ดังมาตรา 19 ระบุ ไว้ว่า<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]"สมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ตามมติมหาเถรสมาคมประกอบด้วยพระภิกษุ หรือบุคคลอื่นจำนวนหนึ่ง มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองเรื่องที่จะเสนอต่อมหาเถรสมาคมและปฏิบัติหน้าที่ อื่นตามที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย โดยขึ้นตรงต่อมหาเถรสมาคม..." [/FONT][FONT=&quot]<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]จากมาตรการนี้ มหาเถรสมาคมสามารถที่จะตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ขึ้นมาพิจารณากลั่นกรองคดีความ[/FONT][FONT=&quot] (อธิกรณ์) ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเลือกสรรผู้ทรง คุณวุฒิจากสาขาต่างๆ มาทำงานให้กับมหาเถรสมาคมอย่างได้ผล แต่เท่าที่ผ่านมา มหาเถรสมาคมยังไม่ค่อยใช้มาตรานี้ให้เป็นคุณแก่การพระศาสนาเท่าไหร่นัก แม้ผู้เชี่ยวชาญพระธรรมวินัยอย่าง พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) เองก็ตาม พระคุณท่านก็ทำงานรักษาพระธรรมวินัยในฐานะพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งเท่านั้น ทั้งๆ ที่มีช่องทางใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์เปิดไว้ให้และมีแนวปฏิบัติในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเป็นบท เรียนไว้มากมาย มหา-เถรสมาคมก็กลับไม่พิจารณาพระคุณท่าน (หรือพระสงฆ์รูปอื่นที่มีศักยภาพด้านนี้) เพื่อทำงานในกรณีธรรมกายโดยเฉพาะ (ตรงกันข้าม กลับเลือกวิธีการแบบเดิม ซึ่งเป็นการดำเนินการไปตามขั้นตอนอันสมคล้อยกับระบบราชการ ซึ่งรู้กันเป็นอย่างดีว่าในกรณีเร่งด่วน สำคัญ และเกี่ยวเนื่องกับความเป็นความตายของสดมภ์หลักของชาติอย่าพระพุทธศาสนานี้ การทำงานในรูปแบบเดิมนั้นยากที่จะทำออกมาให้ได้ผลดีและเป็นที่ยอมรับ และการก็เป็นจริงดังประจักษ์กันดีอยู่แล้วในเวลานี้) ซึ่งหาก มส. ดำเนินการตามมาตรา 19 และแต่งตั้งให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาทำงานเพื่อการนี้โดยตรง ปัญหากรณีธรรมกายจะไม่บานปลายและลุกลามใหญ่โตจนเป็นปัญหาระดับชาติ สั่นสะเทือนสถาบันและองค์สังฆบิดรอย่างที่เห็นและแน่นอนว่ามหาเถรสมาคมเองก็ คงไม่บอบช้ำ จนตกอยู่ในสภาพ 'จำเลย' อันไม่ต่างไปจากชาวธรรมกายสักเท่าไหร่นัก<O></O>[/FONT]
[FONT=&quot]สภาพการณ์[/FONT][FONT=&quot] 'รวบและรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง'[/FONT][FONT=&quot] คือที่องค์ปกครองสงฆ์สูงสุดเพียงฝ่ายเดียวเช่นนี้ทำให้ลักษณะองค์กรมีความ ใหญ่โต เทอะทะ ไม่คล่องตัว และปรับตัวยาก ยิ่งในสังคมโลกาภิวัตน์ด้วยแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่ามีสารพัดปัญหารอท้าทายมหาเถรสมาคมอยู่อย่างน่าประหวั่น พรั่นพรึง<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]ในอนาคต หากองค์กรปกครองคณะสงฆ์สูงสุดอย่างมหาเถรสมาคม ไม่มีการ[/FONT][FONT=&quot] 'ปรับองค์กร'[/FONT][FONT=&quot] เพื่อรับมือกับกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลกยุค 2000 ก็น่าเป็นห่วงว่ามหาเถรสมาคมอาจตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ล้าหลัง ก้าวไม่ทันโลก อาจตกเป็น 'แนวร่วมอลัชชี' หรือมีฐานะเป็นเพียงสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่มีความสลักสำคัญอะไรอีกในสังคมไทย<O></O>[/FONT][FONT=&quot] และเมื่อถึงวันนั้น ไม่เพียงมหาเถรสมาคมเท่านั้นที่น่าเป็นห่วง หากสถาบันพระพุทธศาสนาและสังคมไทย ทั้งหมดนั่นแหละที่ตกอยู่ในสภาพน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า ดังธรรมทัศนะจากพระธรรมปิฎก...[/FONT][FONT=&quot]<O>[/FONT]

[FONT=&quot]</O>[/FONT][FONT=&quot]"เราถือกันว่า พระสงฆ์เป็นสถาบันทางจริยธรรม เป็นสถาบันผู้นำทางด้านจิตใจของสังคมนี้ เราอาจจะพูดได้ว่า โดยทั่วไปในสังคมไทยนี้ พระสงฆ์เป็นบุคคลที่ถือได้ว่ามีศีลธรรมและจริยธรรมมากที่สุดจากเกณฑ์มาตรฐาน หรือพื้นความเข้าใจอย่างนี้ เมื่อเรามองสังคมไทย ก็จะได้ข้อคิดต่อไปว่า อ้อนี่ ขนาดบุคคลที่ถือว่าเป็นแบบอย่างทางศีลธรรม และเป็นผู้นำทางจิตใจของสังคมก็ยังมีความเสื่อมโทรมขนาดนี้ แล้วสังคมไทยส่วนรวมทั่วๆ ไป จะเลวทรามขนาดไหน..."[/FONT] [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
Click to expand...

สุดยอดเลยครับคุณลุง ลุงของผมก็หมดเนื้อหมดตัว บ้านแตกสาแหรกขาด ก็ "วัดทำกลาย" นี้แหละครับ ใครไปแล้วอยู่นานๆ จะกลายร่างหมด เห็นแต่สวรรค์ ไปทางอื่นไม่เป็น สุดท้ายต้องกลับมาบ้านเกิดชนิดที่เหลือแต่ตัวจริงๆ น่าเสียดายจากคนมีอันจะกิน

อนุโมทนากับคุณลุงครับที่นำเรื่องจริงมาพูดกัน __^/|\^__

______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ สายอีสาน มารายงานตัวกันหน่อยครับ

โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัดฯ ทั่วภาคเหนือตอนล่าง
โครงการถวายพระบรมสารีริกธาตุทั่วทุกวัด สำนักสงฆ์สำนักปฏิบัิติธรรม ทั่วภาคเหนือตอนล่าง

saweit · 16 สิงหาคม 2010

น้าต๋อย เซมเบ้ said: ↑

หยุดไปนานเกินไปหรือเปล่า
แทบจะไม่อยากมาทำงาน เพราะกำลังติดลมเพลินๆ

หยุดวันแม่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนครับ
โดนร่วมพิธีตอนเย็น ถ้าพลาดขึ้นมา อาจจะโดนข้อหา ไม่จงรักภักดี
อีกสามวันก็ได้แต่นั่งมองเมฆฝนที่ครึ้มทั่วฟ้า กทม. จะตกก็ไม่ตก
ยึกๆ ยักๆ แกล้งทำให้ผ้าเรามีกลิ่นอับ ลำพังไม่ค่อยซักก็จะแย่อยู่แล้ว
พักนี้หัวสมองผมตีบตันทางความคิด คิดอะไรไม่ค่อยออก รอคนมาล่อเป้าก่อน
คงจะบรรจงเขียนออกมาต่อได้ไม่ยากเย็น
เอาคำถามนี้ก็แล้วกันครับ

สำหรับคนชอบดูพระ ท่านใช้กล้อง (Loupe) ยี่ห้ออะไรกันอยู่ครับ
Click to expand...

แล้วแต่เพื่อนให้ยืมครับ ^^ น้าต๋อย

น้าต๋อย เซมเบ้ · 16 สิงหาคม 2010

saweit said: ↑

แล้วแต่เพื่อนให้ยืมครับ ^^ น้าต๋อย
Click to expand...

แสดงว่าชอบมีศักดิ์เป็น "อา"
รุ่นพี่ผมช่วงเที่ยงๆ จะชอบเดินเข้าไปโรงประกอบเลี้ยง
เพื่อทำหน้าที่เป็น "อา" เป็นประจำ
ผมก็สงสัยอยู่นานว่า "อา" อะไร

อาศัยข้าวโรงเลี้ยงมื้อกลางวัน
ประหยัดไปได้อีก....55

โอสถ · 16 สิงหาคม 2010

น้าต๋อย เซมเบ้ said: ↑

สำหรับคนชอบดูพระ ท่านใช้กล้อง (Loupe) ยี่ห้ออะไรกันอยู่ครับ
Click to expand...

ปกติไม่ค่อยชอบส่องดูพระเท่าไร แต่มีกล้องอยู่เหมือนกัน

ของผมใช้กล้องโนเนมไม่มียี่ห้อ เลนส์ import จาก Leicaไลก้า เยอรมัน .. แต่ตัวเรือนมาทำเอง โดยใช้แผ่นโลหะปั๊มยันต์ทั้งด้านหน้าและหลัง (ผ่านการอธิษฐานจิต ปลุกเสกโดยพระเกจิจากเขมร )

พอดีตอนนั้นมีเพื่อนๆหลายคนมีความเห็นตรงกันว่า ไหนๆจะพกกล้องติดตัว ก็น่าจะเป็นของที่คุ้มครองตัวเองได้ด้วย ก็เลยช่วยกันทำ ส่วนค่าใช้จ่ายก็เฉลี่ยๆกันไป

fujiayu · 16 สิงหาคม 2010

สอบถามคุณหนุ่ม.... ครับ พระสมเด็จมงคลมหาลาภหลังเรียบ พอทราบรายละเอียดไหมครับ

Norragate · 16 สิงหาคม 2010

ลูกน้ำเค็ม said: ↑

วันนี้ มีโชคลาภ กันบ้างไหมครับ
Click to expand...

เซ็งเลยครับ......ทำบุญแต่กรรมบัง......เลขจากรถตัวเองแท้ๆแต่ดันไม่ซื้อ....79, 97 เฮ้อ....โดนเรียบเช่นเคย...แหะๆ....(>_<).....

ขอตัวกลับก่อนนะครับญาติธรรมทุกๆท่าน....(^_^)...

PITINATTH73 · 16 สิงหาคม 2010

สวัสดียามเย็นครับ ญาติธรรม ชมรมคนรักพี่หนุ่มเมืองแกลง ทุกๆท่าน

lynn@nice · 16 สิงหาคม 2010

ฮือฮา! ตำรวจท่องเที่ยวโชว์เต้นเกาหลี-หวังใกล้ชิด ปชช.



15 ส.ค. 53 13.01 น.

พิมพ์หน้านี้

สนับสนุนเนื้อหา



<li class="left">(+ให้คะแนนบทความ) <script type="text/javascript" src="http://app.sanook.com/weblog/rating/js/?zone=news&site_id=71&weblog_id=21&entry_id=959154"></script><script src="http://app.sanook.com/weblog/rating/jspack?zone=news&site_id=71&weblog_id=21&entry_id=959154" type="text/javascript"></script><link rel="stylesheet" type="text/css" href="http://static.sanook.com/share/js/jquery/jquery.rating/rating.css">Cancel Rating
1
2
3
4
5

เปิดอ่าน <script type="text/javascript" src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?zone=news&site_id=71&weblog_id=21&entry_id=959154"></script>52,876 ความคิดเห็น 311

ฮือฮา! ตำรวจท่องเที่ยวโชว์เต้นเกาหลี-หวังใกล้ชิด ปชช.
ตำรวจ ท่องเที่ยวกองกำกับการ 4 สร้างความฮือฮาทำคลิปวีดีโชว์เต้นเพลงซอรี่ ซอรี่ ของวงซุปเปอร์จูเนียร์ ออกลีลาท่าเต้นไม่แพ้ต้นฉบับ หวังให้ประชาชนรู้สึกใกล้ชิด-เป็นกันเองกับตำรวจ
(15 ส.ค.)รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ได้นำคลิปของตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) เต้นเพลง sorry sorry ของบอยแบนด์ดังเกาหลี super junior มาเผยแพร่ให้ชมกัน โดยนักแสดงทั้งหมดที่แสดงในมิวสิควีดีโอดังกล่าวล้วนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรของ กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวทั้งสิ้น
สำหรับรายชื่อนายตำรวจที่แสดงในมิวสิควีดีโอดังกล่าวมี ทั้งสิ้น 9 นาย ประกอบด้วย 1.พ.ต.ท. ธนกร ดลธนากานต์ รองผกก.4 บก.ทท. 2.พ.ต.ท.ยุทธสิทธิ์ บุญกล่ำ สว.ส.ทท.1 กก.4 บก.ทท. 3.พ.ต.ต.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ สว.ส.ทท.2 กก.4 บก.ทท. 4.พ.ต.ท.สุกฤต มัลคละสวัสดิ์ สว.ส.ทท. 6 กก.4 บก.ทท. 5.พ.ต.ท.พีรพัทธ บุญพุทธ สว.ส.ทท. 7 กก. 4 บก.ทท.
6.พ.ต.ท.ฉัตรมงคล วศินอมร สว.งานสืบสวน กก.4 บก.ทท. 7.ร.ต.อ.พัดธงทิว ดามาพงศ์ รอง สว. งานสืบสวน กก.4 บก.ทท. 8.ร.ต.อ.อมร โสภา รองสว.งานสืบสวน กก.4 บก.ทท. 9.ร.ต.อ.มนต์ชัย มะลิพวง รองสว. ส.ทท. 1 กก. 4บก.ทท.
ขณะที่มิวสิควีดีโอเพลงซอรี่ ซอรี่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกองกำกับการ 4 ซึ่งได้ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ยูทูบนั้น ได้มีประชาชนสนใจเข้ามาชมเป็นจำนวนหลายหมื่นคน

<object data="http://www.youtube.com/v/IGAseOSIp3c" type="application/x-shockwave-flash" width="425" height="350">
</object>


   <dl class="article-info">
<dt class="h-tags">Tags: </dt><dd class="tags">

Tags คือ คำสัญ(Keyword)
เพื่อช่วยในการค้นหาบทความนี้
(เช่น sanook, sport, women)

คลิปวิดีโอ

ตำรวจ

ซุปเปอร์จูเนียร์

</dd><dd class="ads"> <script type="text/javascript"> a1=(Math.floor(Math.random()*(3))+1);switch(a1){case 1:a2=(Math.floor(Math.random()*2)+2);if(a2==2)a3=3;else a3=2;break;case 2:do{a2=(Math.floor(Math.random()*(3))+1);if(a2==1)a3=3;else a3=1}while(a2==2);break;default:a2=(Math.floor(Math.random()*(2))+1);if(a2==1)a3=2;else a3=1} spac_writeAd("site=sanook.com/area=sanook.news.social-news/position=pos.center"+a1+"/aamsz=text/method=jscript",11); spac_writeAd("site=sanook.com/area=sanook.news.social-news/position=pos.center"+a2+"/aamsz=text/method=jscript",11); spac_writeAd("site=sanook.com/area=sanook.news.social-news/position=pos.center"+a3+"/aamsz=text/method=jscript",11); </script><script src="http://c2.asanook.com/jserver/SITE=SANOOK.COM/AREA=SANOOK.NEWS.SOCIAL-NEWS/POSITION=POS.CENTER1/AAMSZ=TEXT/METHOD=JSCRIPT/PAGEID=199993099/ACC_RANDOM=344078679?"></script> <script src="http://c2.asanook.com/jserver/SITE=SANOOK.COM/AREA=SANOOK.NEWS.SOCIAL-NEWS/POSITION=POS.CENTER3/AAMSZ=TEXT/METHOD=JSCRIPT/PAGEID=199993099/ACC_RANDOM=209305567?"></script>
</dd></dl>

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

fox2008 เป็นที่รู้จักกันดี

อุดมเดช เป็นที่รู้จักกันดี

IEC เป็นที่รู้จักกันดี

สิทธิศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

ลูกน้ำเค็ม เป็นที่รู้จักกันดี

Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

ลูกน้ำเค็ม เป็นที่รู้จักกันดี

น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

anoldman เป็นที่รู้จักกันดี

saweit เป็นที่รู้จักกันดี

น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

โอสถ เป็นที่รู้จักกันดี

fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

111655465.JPG

119895.JPG

PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ไฟล์ที่แนบมา:

111655465.JPG

119895.JPG

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา