พระศิวะ แม่อุมา พระเคนศ เป็นเทพชั้นไหนหรอครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ทิวัตถ์, 9 กรกฎาคม 2010.

  1. ทิวัตถ์

    ทิวัตถ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +56
    คืออยากทราบว่าพระศิวะ พระอุมา และพระเคณศเป็นเทพชั้นไหน ผมจะได้ตั้งที่บูชาถูกต้องตามตำแหน่งสูงและลดหลั่นตามๆมา ขอบคุณครับ
     
  2. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    เคยอ่านในพระไตรปิฎก
    พระพุทธองค์ตรัส
    ว่า พระอิศวร หรืออิสระ แปลว่าผู้เป็นใหญ่ ซึ่งก็คือพระพรหมพระองค์หนึ่ง

    พระอิศวรองค์เดียวกับพระศิวะเจ้าหรือไม่ไม่ค่อยแน่ใจ
     
  3. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    เคยอ่านเจอว่ามีเทวดาองค์หนึ่งมาถามปัญหากับพระพุทธเจ้า
    ท่านชื่อว่า สิวะเทพบุตร พบเจอในพระไตรปิฏก ภาคสุตตันตปิฏก แต่จำเนื้อไม่ได้ ว่าอยู่ตรงไหน

    แต่ไม่รู้ว่าเป็นองค์เดียวกับพระศิวะของฮินดูหรือปล่าว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2010
  4. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    เกล้าฯเคยอ่านตามตำนานเทพมาขอรับ...พระศิวะหรือพระอิศวร..กับ..พระแม่อุมา...เป็น..มเหสี..ของท่านขอรับ......ส่วนพระพิฆเณศ..หรือพระพิฆเณศวร...เป็นลูก..ขอรับ...
    หากจะเปรียบไป...พระศิวะ...ท่านคือพ่อ...พระอุมาคือแม่....ส่วนพระพิฆเณศวร..เป็นลูก....จะตั้งตำแหน่งไหนท่านสามารถพิจารณาตามหลัก..แห่งตำนานได้เลยขอรับ...เป็นเทพที่เกล้าฯก็เคารพนับถือ...ขอรับ

    ท่านจะเป็นพระพรหมหรือไม่เกล้าฯก็ไม่รู้ขอรับ.....แต่ที่เกล้าฯรู้เป็นพระพรหม....ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์....ซึ่ง..บุพกรรมเป็นผู้เจริญสมถะภาวนา....มาก่อนขอรับ
    (ได้ขณิกสมาธิหรือปฐมฌาน..อายุเป็นอย่างต่ำก็ ๒๑ อันตรกัปล์เศษ).และมีอยู่ห้าชั้นที่เป็นที่อยู่ของเหล่าพรหมพระอนาคามีคือ..
    อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฎฐา(หรืออะกะนิฏฐกาเทวา) ...แต่มีชั้นหนึ่งขอรับอายุยืนนาน...เกล้าฯขอเรียกว่าชั้น...นิพพานพรหม.........
    คืออายุของพรหมชั้นที่ว่าอายุ..๘๔,๐๐๐.(แปดหมื่นสี่พันมหากัปล์).....ชั้นบนสุดเลยขอรับ.ภวัคพรหมคือชั้น.เนวะสัญญานาสัญญายตนะภูมิ...
    ทำไมต้องเรียกนิพพานพรหม....คืออายุของท่านยาวนานมาก...ขอรับ...ยาวนานขนาดพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ร้อยพระองค์..ก็ไม่แน่ว่าท่าน...จะได้มาจุติในโลกมนุษย์......
    [​IMG]
    เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา(ห้องหนังสือธรรมะเพื่อประชาชน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2010
  5. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    <CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
    ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค</CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center background="" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TR><TD width="100%" bgColor=darkblue hspace="0" vspace="0">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    [๑๓] ดูกรภัคควะ อนึ่ง เราย่อมทราบชัดซึ่งสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้น และไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย เมื่อไม่ยึดมั่น จึงทราบความดับได้เฉพาะตน ฉะนั้น ตถาคตจึงไม่ถึงทุกข์ ฯ ดูกรภัคควะ มีสมณพราหมณ์บางพวกบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ว่าพระอิศวรทำให้ ว่าพระพรหมทำให้ ตามลัทธิอาจารย์ เราจึงเข้าไปถามเขาอย่างนี้ว่าได้ยินว่า ท่านทั้งหลายบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ว่าพระอิศวรทำให้ ว่าพระ-*พรหมทำให้ ตามลัทธิอาจารย์จริงหรือ สมณพราหมณ์เหล่านั้น ถูกเราถามอย่างนี้แล้วยืนยันว่าเป็นเช่นนั้น เราจึงถามต่อไปว่า พวกท่านบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ว่าพระอิศวรทำให้ ว่าพระพรหมทำให้ ตามลัทธิอาจารย์มีแบบอย่างไรสมณพราหมณ์เหล่านั้นถูกเราถามอย่างนี้ เมื่อตอบไม่ถูก จึงย้อนถามเรา เราถูกถามแล้วจึงพยากรณ์ว่า ท่านทั้งหลาย มีสมัยบางครั้งบางคราวโดยระยะกาลยืดยาวช้านาน ที่โลกนี้จะพินาศ เมื่อโลกกำลังพินาศอยู่ โดยมากเหล่าสัตว์ย่อมเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม สัตว์เหล่านั้นได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน ฯ ดูกรท่านทั้งหลาย มีสมัยบางครั้งบางคราวโดยระยะกาลยืดยาวช้านานที่โลกนี้จะกลับเจริญ เมื่อโลกกำลังเจริญอยู่ วิมานของพรหมปรากฏว่าว่างเปล่าครั้งนั้น สัตว์ผู้ใดผู้หนึ่งจุติจากชั้นอาภัสสรพรหม เพราะสิ้นอายุหรือสิ้นบุญย่อมเข้าถึงวิมานพรหมที่ว่างเปล่า แม้สัตว์ผู้นั้นก็ได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหารมีรัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงามสถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน เพราะสัตว์นั้นอยู่แต่ผู้เดียวเป็นเวลานาน จึงเกิดความกระสันความดิ้นรนขึ้นว่า โอหนอ แม้สัตว์เหล่าอื่นก็พึงมาเป็นอย่างนี้บ้าง ต่อมาสัตว์เหล่าอื่นก็จุติจากชั้นอาภัสสรพรหม เพราะสิ้นอายุหรือเพราะสิ้นบุญ ย่อมเข้าถึงวิมานพรหมที่ว่าง เป็นสหายของสัตว์ผู้นั้น แม้สัตว์พวกนั้นก็ได้สำเร็จทางใจมีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน ฯ ดูกรท่านทั้งหลาย บรรดาสัตว์จำพวกนั้น ผู้ใดเกิดก่อน ผู้นั้นย่อมมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เราเป็นพรหม เราเป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นอิศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐเป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น สัตว์เหล่านี้ เราเนรมิตขึ้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า เราได้มีความคิดอย่างนี้ก่อนว่าโอหนอแม้สัตว์เหล่าอื่นก็พึงมาเป็นอย่างนี้บ้าง ความตั้งใจของเราเป็นเช่นนี้และสัตว์เหล่านี้ก็ได้มาเป็นอย่างนี้แล้ว แม้พวกสัตว์ที่เกิดภายหลังก็มีความคิดเห็นอย่างนี้ว่าท่านผู้เจริญนี้แลเป็นพรหม เป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นอิศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐเป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น พวกเราอันพระพรหมผู้เจริญนี้นิรมิตแล้ว ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าพวกเราได้เห็นท่านพรหมผู้นี้เกิดก่อน ส่วนพวกเราเกิดภายหลัง ฯ ดูกรท่านทั้งหลาย บรรดาสัตว์จำพวกนั้นสัตว์ใดเกิดก่อน สัตว์นั้นมีอายุยืนกว่า มีผิวพรรณงามกว่า มีศักดิ์มากกว่า ส่วนสัตว์ที่เกิดภายหลังมีอายุน้อยกว่า มีผิวพรรณทรามกว่า มีศักดิ์น้อยกว่า ดูกรท่านทั้งหลาย ก็เป็นฐานะที่จะมีได้แล ที่สัตว์ผู้ใดผู้หนึ่งจุติจากชั้นนั้นแล้วมาเป็น
    ๑- อย่างนี้ เมื่อมาเป็นอย่างนี้แล้วจึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวชแล้ว อาศัยความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส อาศัยความเพียรที่ตั้งมั่น อาศัยความประกอบเนืองๆ อาศัยความไม่ประมาทอาศัยมนสิการโดยชอบ แล้วบรรลุเจโตสมาธิ ที่เมื่อตั้งมั่นแล้ว ย่อมตามระลึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อนนั้นได้ หลังแต่นั้นไประลึกไม่ได้ เขาจึงกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้ใดแลเป็นพรหม เป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ ไม่มีใครข่มได้ เห็น
    @๑. เกิดเป็นมนุษย์ถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้บงการเป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น พระพรหมผู้เจริญใดที่นิรมิตพวกเรา พระพรหมผู้เจริญนั้นเป็นผู้เที่ยงยั่งยืน คงทน มีอายุยืน มีอันไม่แปรผันเป็นธรรมดา จักตั้งอยู่เที่ยงเสมอไปเช่นนั้นทีเดียว ส่วนพวกเราที่พระพรหมผู้เจริญนั้นนิรมิตแล้วนั้น เป็นผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่คงทน มีอายุน้อย ยังต้องจุติมาเป็นอย่างนี้ ก็พวกท่านบัญญัติสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ว่าพระอิศวรทำให้ว่าพระพรหมทำให้ตามลัทธิอาจารย์ มีแบบเช่นนี้หรือมิใช่ สมณพราหมณ์เหล่านั้นตอบอย่างนี้ว่า ท่านโคดม พวกข้าพเจ้าได้ทราบมาดังที่ท่านโคดมได้กล่าวมานี้แล ฯ ดูกรภัคควะ เราย่อมทราบชัดซึ่งสิ่งที่โลกสมมติว่าเลิศ ทั้งรู้ชัดยิ่งกว่านั้นและไม่ยึดมั่นความรู้ชัดนั้นด้วย เมื่อไม่ยึดมั่น จึงทราบความดับได้เฉพาะตนฉะนั้น ตถาคตจึงไม่ถึงทุกข์ ฯ<CENTER></CENTER>



    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ บรรทัดที่ ๕๔๓ - ๖๐๑. หน้าที่ ๒๓ - ๒๕.http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=543&Z=601&pagebreak=0 อ่านโดยใช้เนื้อความเป็น เกณฑ์แบ่งข้อ ที่ :-http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/item.php?book=11&item=13&items=1&preline=0 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=1 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๑๑</U>http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=11&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD<CENTER></CENTER>


    </PRE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2010
  6. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ในตำนานเทพ
    อ่านได้ความเช่นเดียวกับคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปฐมฌาณ<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3523209", true); </SCRIPT> ค่ะ

    อันเป็นผลมาจากการอ่านล้วนๆ ข้าพเจ้าไม่เคยประสบพบเห็นแต่ใดๆทั้งสิ้นเจ้าค่าเอ๋ย(ที่ผ่านมาชาตินี้นะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2010
  7. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    โอ้โห ราคุเรียวซาย นับถือ นับถือ เลือกสถานที่ได้เมื่อไหร่บอกกันมั่งนา
     
  8. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515

    ที่ไหนดีก็น่าจะไปอยู่ที่นั่นค่ะ
     
  9. peenangfa

    peenangfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +228
    พระศิวะ เป็น1ใน3ของมหาเทพ ที่สูงที่สุด พ่อศิวะท่านเป็นมหามุนีด้วยนะครับ เหล่าฤาษีต่างให้ความเคารพ
    พระแม่อุมา เป็น 1ใน3มหาเทวี ที่สูงที่สุด
    ส่วนองค์มหาคเณศ เป็นบุตรของทั้ง 2 พระองค์ ครับ แต่องค์ท่านได้รับพรมากมายจากมหาเทพและมหาเทวี และ1ในพรที่ได้รับคือ ไม่ว่าจะบูชาเทพหรือมหาเทพองค์ใด พรพิฆเนศท่านจะได้รับการบูชาก่อนเป็นองค์ประธาน ซึ่งก็คือต้องบูชาต่อองค์พระพิฆเนศก่อนเสมอครับ

    ที่ฮินดู ยกให้ทั้ง 6 พระองค์เป็นเทพที่สูงสุดครับ

    เทพทางพุทธกับฮินดู ไม่ได้แยกกันนะครับ 2ศาสนาเรามีการเกี่ยวพันกัน เพียงแต่คนละปางอวตารเท่านั้น

    แต่มหาเทพท่านเป็นศาสดาของฮินดู นะครับ จึงเป็นเทพของฮินดูครับ ส่วนเทพองค์อื่นๆ ของพุทธและฮินดูก็มีเหมือนกันเกือบหมครับ เช่นพระวิศณุกรรม พระแม่ธรณี เป็นต้นครับ เพียงแต่รูปลักษณ์ไม่เหมือนกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กรกฎาคม 2010
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    พระศิวะ ก็คือ พระอินทร์ และองค์เดียวกับเง็กเซียนฮ้องเต้ ไม่ใช่เหรอ

    หรือว่าผมเข้าใจผิด
     
  11. ariyabut

    ariyabut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +2,415
    ถาม : ตอนนี้ยังมีไหมครับ ... อย่างพระนารายณ์แบ่งภาคมาเกิด ?
    ตอบ : แบ่งภาคคงไม่ต้องแบ่งหรอกจ้ะ ถ้ามาคงมาเลย คำว่าพระนารายณ์ที่เป็นตำแหน่งไม่ใช่เป็นชื่อเฉพาะ ดังนั้นใครมากินตำแหน่งนั้นเขาเรียกว่าพระนารายณ์ ปัจจุบันเขาเรียกท่านพี่มเหสักข์ นอกจากท่านจะทำหน้าที่พระนารายณ์แล้วท่านยังเฝ้าทางเข้าพระจุฬามณีด้วย ถ้าหากท่านพ้นตำแหน่งไปองค์อื่นก็มาเป็นเขาเรียกพระนารายณ์เหมือนกัน ถ้ามาเกิดคงมาเกิดเลยเรื่องแบ่งภาคไม่มีหรอก แบ่งไม่ออก (หัวเราะ)

    พราหมณ์เขาเก่งเขาตั้งเทวดาได้ คือเขาจะกำหนดว่าเทวดาชื่อนั้นมีความสามารถอย่างนั้น ๆ เสร็จแล้วทางข้างบนเขาก็ลำบากกันเพราะว่าการเคารพเทวดาตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคือเป็นเทวตานุสสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาท่าน แต่ว่าพรหามณ์เขาไม่ระลึกถึงความดีในลักษณะที่ว่าเทวดาดีอย่างไรแล้วทำตาม

    เช่น เทวดาต้องมี หิ ริ รู้จักละอายชั่ว โอตตัปปะ เกรงกลัวผลของความชั่วจะให้ผล หรือว่าอย่างน้อยต้องมีศีลห้าบริสุทธิ์ เป็นต้น ถ้าหากว่าเป็นพรหมซึ่งถือว่าอากาศเทวดา ชั้นสูงขึ้นไปอย่างน้อยต้องได้ฌานสมาบัติเขาไม่ได้ดูตรงจุดนี้ แล้วก็ไม่ได้ทำตามตรงจุดนี้ เขาใช้วิธีอ้อนวอนร้องขออย่างเดียว แต่ว่าก็ยังเป็นการยึดในเทวตานุสสติ ในเมื่อเป็นการยึดความดีในคำสอนของพระพุทธเจ้า

    พระอินทร์ซึ่งถือว่าเป็นหัวหน้าเทวดาก็เลยต้องหาผู้มารับตำแหน่งรับหน้าที่ตามนั้น ผู้ใดมีความสามารถใกล้เคียงกับที่เขากำหนดไว้ เอ้า ! เขาว่าไว้ต้องเก่งอย่างนั้น ต้องดีอย่างนั้น มีความสามารถด้านนั้นก็หามารับตำแหน่งไป

    อย่างพระศิวะของเขาในปัจจุบันก็คือท่านปู่พระอินทร์รับไปอย่างนั้น พระแม่อุมาเทวี ก็ท่านย่ารับไป แต่ว่าประวัติเทวดาของเขาแต่ละอย่างพิลึกพิลั่นบางทีกิเลสท่วมหัวยิ่งกว่ามนุษย์อีก เช่นพระอินทร์ไปเป็นชู้กับเมียพระฤๅษีก็มี....อะไรอย่างนี้ ของเขาสนุกมากประวัติเทวดาแขกลองไปอ่านดู

    ถาม : พระพิฆเณศวร์ล่ะครับ ?
    ตอบ : พระพิฆเณศวร์ก็มีจ้ะ ปัจจุบันนี้ก็คือท่านปิยะสิกขะรับตำแหน่งอยู่ เป็นตำแหน่งเฉย ๆ ใครมารับตำแหน่งก็เรียกพระพิฆเณศวร์ ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งศีลปวิทยาการทั้งปวง แต่ท่านไม่ได้มีเศียรเป็นช้างอย่างที่เห็นนะ ที่เป็นช้างนั่นตามตำราพราหมณ์เขาว่าไว้

    จริง ๆ แล้วท่านหล่อกว่าชายงามจักรวาลอีก เรื่องนี้โกหกหรือเปล่าพระก็เล่าไปเรื่อยนะ จับผิดไม่ได้โกหกมันไปเรื่อยอย่างนั้นพูดหน้าตาเฉยอย่างกับรู้จักกันดี (หัวเราะ) ว่าไปเรื่อยเปื่อย... มันเป็นตำแหน่งของเขา


    อ้างอิง ..สนธนา ธรรม หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน
     
  12. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    บทความที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มีอคติต่อเทพเทวัญ

    เรื่อง ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยมที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่ศาสนาอเทวนิยม

    ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยม ที่สมบูรณ์ที่สุด

    เพราะบอกวิธีการเข้าไปเป็นเทพเจ้าและเทวะในทุกชั้นภูมิ

    1. วิธีการเข้าสู่ความเป็นพรหมชั้นภูมิสูงสุด คือ พระอดิเทพ หรือเทวาติเทพ = พระพุทธเจ้าต่างๆ ศาสนาอื่นเรียกว่า พระผู้เป็นเจ้า หรือพระบิดา ศาสนาพุทธเรียกว่า "พระธรรม"

    ...... ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดแต่โอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม เป็นธรรมนิรมิต (ผู้ที่ธรรมสร้าง) เป็นธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม)

    ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะคำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต "

    (ที.ปา. 11/51/91)

    หมายความว่า:

    - พรหมชั้นภูมิสูงสุด = ธรรมกาย พรหมกาย ธรรมภูต พรหมภูต
    - พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นพระธรรม และล้วนเกิดจากพระธรรม นอกจากนี้..พระธรรมนั้นยังเป็นผู้สร้าง หรือ เป็นพระเจ้าผู้สร้าง ที่เรียกันว่า พรหม หรือพรหมัน หรือ ตรีมูรติ "พรหม ศิวะ นารายณ์". ซึ่งเป็นพรหมที่บริสุทธิ์ที่สุด ไม่มีกิเลสตัณหาใดๆ ศาสนาอิสลามเรียกว่า "มหาบริสุทธิ์"

    อนึ่ง...การเป็นพระพุทธเจ้านั้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทแบ่งจากการสร้างสมบารมีของมนุษย์คนนั้น พูดให้ชัดคือ พระพุทธเจ้ามี ๓ ประเภท คือ

    ๑. พระปัญญาธิกพุทธเจ้า ต้องใช้เวลาสั่งสมพระบารมี ๒๐ อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

    ๒. พระสัทธาธิกพุทธเจ้า ต้องใช้เวลาสั่งสมพระบารมี ๔๐ อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

    ๓. พระวิริยาธิกพุทธเจ้า ต้องใช้เวลาสั่งสมพระบารมี ๘๐ อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

    2. วิธีการเข้าสู่ความเป็นพระบรมโพธิสัตว์ ก็ต้องสะสมบารมีด้วยเช่นกัน

    - ที่เป็นอุคฆติตัญญูโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๔ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า ปัญญาธิกะ ยิ่งด้วยปัญญาฯ
    - ที่เป็นวิปจิตัญญูโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๘ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า สัทธาธิกะ ยิ่งด้วยศรัทธาฯ
    - ที่เป็นเนยยโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๑๖ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า วิริยาธิกะ ยิ่งด้วยความเพียรฯ

    3. วิธีการเข้าสู่ความเป็นเทพชั้นรองๆลงมา เช่น วิสุทธิเทพ (พระอรหันต์) ศาสนาพุทธก็สอน โดยให้ละราคะ โทสะ โมหะ ออกจากใจทั้งหมด

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"

    พระอรหันต์ถือว่าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า(พระธรรม)องค์ใดองค์หนึ่ง ท่านเป็นผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สาวกพุทธะ เพราะพระพุทธเจ้าถือว่าเป็นพุทธะที่เป็นสัพพัญญูพุทธะ

    4. วิธีการเข้าสู่ความเป็นเพรหมชั้นโลกุตตระรองลงมาอีก

    - พรหมชั้นสุทธาวาส ได้แก่ พระอนาคามีต่างๆซึ่งมีอยู่ ๕ ชั้น เป็นพรหมชั้นที่ 12 – 16 ซึ่งจะบรรลุเป็นพรหมได้ ต้องสามารถขจัดกิเลสจน กำจัดกิเลสขั้นต้นและขั้นกลางได้เด็ดขาด ยังเหลือแค่กิเลสขั้นละเอียดเท่านั้น

    พรหมชั้นสุทธาวาส ชั้น 12. อวิหา, ชั้น 13. อตัปปา, ชั้น 14. สุทัสสา, ชั้น 15. สุทัสสี, ชั้น16. อกนิฏฐา

    ในโลกใบนี้ ก่อนมีพระพุทธศาสนา ยังไม่มีผู้เข้าถึงความเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาส พรหมในชั้นสุทธาวาสที่พระพุทธเจ้าไปพบเจอ ล้วนเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าองค์อื่น ซึ่งอยู่ในโลกธาตุอื่น

    5. วิธีการเข้าสู่ความเป็นพรหมชั้นโลกียะ

    ทางไปเกิดเป็นพรหมนั้น ต้องมีฌานเป็นหนทางไป บุคคลที่จะทำฌานให้บังเกิดขึ้นได้นั้น ได้แก่ ผู้ฏิบัติสมถะกรรมฐาน หรือสมาธิ เช่น พวกโยคี แล้วท่านเหล่านี้ได้ตายในฌาน

    อรูปพรหม

    มี 4 ชั้น คือ อากาสานัญจายตนภูมิ วิญญาณัญจายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ และ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ ศาสนาพุทธก็สอนวิธีเข้าถึงความเป็นอรูปพรหมในแต่ละชั้นด้วย

    อากาสานัญจายตนภพรหม ได้ยึดเอา อากาศอันไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอารมณ์
    วิญญาณัญจายตนพรหม ได้ยึดเอา วิญญาณไม่มีที่สิ้นสุด เป็นอารมณ์
    อากิญจัญญายตนพรหม ได้ยึดเอา ภาวะความไม่มีอะไรเลย ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอารมณ์
    เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม ได้เข้าถึงภาวะมี สัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ (ภาวะที่มีสัญญาไม่ปรากฏชัด)

    รูปพรหม

    ผู้ที่ตายในปฐมฌาน ผู้ที่ตายในทุติยฌาน ผู้ที่ตายในตติยฌาน และผู้ที่ตายในจตุตถฌาน ย่อมเกิดเป็นรูปพรหม

    ....ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากปฐมรูปฌาน ก็เป็นรูปพรหมชั้น 1-3
    ....ผู้ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากทุติยรูปฌาน ก็เป็นรูปพรหมชั้น 4-6
    ....ผู้ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากตติยฌาน ก็จะได้มาบังเกิดเป็นพรหมชั้น 7-9
    ....ผู้ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากจตุตถฌาน(ฌาน ๔) ก็จะได้มาบังเกิดเป็นพรหมชั้น 10 (เวหัปผลาภูมิ) เป็นภูมิของเวหัปผลพรหม

    อย่างไรก็ตาม ในบางตำรา แบ่งจตุตถฌานเป็นอย่างอ่อน อย่างปานกลาง และอย่างประณีต

    และยังแบ่งฌานออกเป็นฌาน 5(ปัญจมฌาน)ด้วย ฌาน 5 เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มมาก ท่านจะแยกตัวเอกัคตากับตัวอุเบกขาออกจากกันได้ ก็จะกลายเป็นฌานที่ ๕ การจำแนกภูมิก็จะต่างออกไป กลายเป็นว่า จตุตถฌานเป็นอย่างอ่อน อย่างปานกลาง และอย่างประณีต ก็จะไปตกในพรหมชั้น 7-9 แต่ผมจะไม่จำแนกอะไรเพิ่ม ณ ที่นี้ เดี๋ยวจะสักสนกันไปใหญ่

    เอาเป็นว่า ผู้ที่แบ่งฌานออกเป็นฌาน 5 ผู้มาเกิดในเวหัปผลาภูมิ ก็จะมาจากอำนาจของปัญจมฌานกุศลเท่านั้น (เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มมาก) ผู้ที่ได้จตุตถฌานยังเข้ามาไม่ได้

    พรหมในเวหัปผลาภูมิ มีอายุ ๕,๐๐๐ มหากัป เป็นภูมิที่พ้นจากโลกาวินาศ คือการที่โลกถูกทำลายด้วยไฟ-น้ำ-ลม พรหมในขั้นที่ 10 ภูมินี้ นับว่าเป็นยอดภูมิ และเป็นภูมิที่ประเสริฐกว่าพรหมปฐมฌาน-ทุติยฌาน-ตติยฌานภูมิ ซึ่งย่อมไม่พ้นจากโลกาวินาศ

    สรุป

    พวกที่เรียนทางภาคทฤษฎี หรือสายปริยัติ ย่อมไม่ได้ปัญญาทางศาสนา เกิดมิจฉาทิฏฐิได้ ทำให้มีความเชื่อที่ว่า ศาสนาพุทธเป็นอเทวนิยม ทั้งๆที่ ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยม ที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะบอกวิธีการเข้าไปสู่ความเป็นเทวะในทุกชั้นภูมิ ชั้นภูมิสูงสุด คือ พระอดิเทพ หรือเทวาติเทพ (พระพุทธเจ้าต่างๆ) ไล่ลงมาถึงขั้นพระวิสุทธิเทพ(พระอรหันต์) ต่อเนื่องลงไปถึงชั้นพรหมโลกุตตระและพรหมโลกียะ รวมทั้งเทพในสวรรค์ชั้นต่างๆด้วย
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  13. Kawee_win

    Kawee_win เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2006
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +420
    ตามศรัทธา ต่างคนต่างปฏิบัติ พิสูจน์ ของเท็จจริง ต่าง ๆ ด้วยตนเอง
    ผลที่เกิด ก้อเกิดขึ้นกับตัวเองทั้งสิ้น...
     
  14. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ตั้งพระศิวะ บนสุด จะตั้งคู่กับพระแม่อุมาก็ได้

    ส่วนรองลงมาก็พระคเนศ (เพราะเป็นลูก)

    แต่ธรรมเนียมพราหมณ์จะบูชาพระคเนศก่อน
    เพราะพระศิวะท่านให้พรแก่พระคเนศ

    โมทนาครับ
     
  15. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ขอบคุณมากครับคุณKomodo


    ตอบได้ตรงประเด็น


     
  16. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    มีผู้รู้ฝากปริศนาธรรมมาว่า ถ้าคิดว่าจะแยกแบ่งความสูงต่ำอย่างนี้ขององค์มหาเทพ

    ก็ให้คุณ Komodo สร้างตึกขึ้นมาสูง 90 ชั้น แล้วให้พ่อของคุณไปอยู่ชั้นที่ 90
    ส่วนแม่ของคุณอยู่ระดับเดียวกันไม่ได้ ต้องไปอยู่ชั้นที่ 1
    อ้อ แล้วคุณคนเป็นลูก ต้องอยู่ระดับต่ำสุด คือ ไปอยู่นอกตึกเสีย

    โอ๊ย ใครหนอช่างคิดปริศนาธรรมนี่ขึ้นมา โอ้โห.....
     
  17. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมเคยบูชาเทพมาก่อนครับ

    โมทนาครับ

    หากเคยศึกษาประวัติของมหาเทพทั้ง ๘ (พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระแม่อุมาเทวี พระแม่ลักษมี พระแม่สุรัสวตี พระคเนศ และพระขัณฑกุมาร) จะทราบดีครับว่า พระคเนศเคารพพระศิวะและพระแม่อุมาเทวีเพียงใดครับ

    คนที่ไม่เคยศึกษาประวัติมาก็มักจะกล่าวแบบ "ผู้รู้ที่ฝากปริศนาธรรม" มาครับ
    นั่นเป็นเพราะไม่เข้าใจลำดับของเทพ

    ผมจะบอกให้นิดนึงครับว่า ที่ผมเทียบมหาเทพ ๓ พระองค์ให้ ก็เพราะท่านเป็นพ่อ แม่ และลูกกัน

    แต่ถ้าให้เทียบพระศิวะ พระพรหม และพระนารายณ์ ผมจะไม่ตอบ เพราะทางฮินดูมีหลายนิกาย บางนิกายจะยกมหาเทพบางพระองค์เป็นใหญ่

    ส่วนที่บอกให้วางพระคเนศต่ำกว่า ก็เพราะ "พระคเนศ" ซึ่งเป็นลูก จะไม่อยู่เหนือพ่อหรือแม่ นั่นเป็นเพราะ "ความเคารพ" และ "ความกตัญญู"

    เช่นเดียวกับพระแม่อุมาเทวี ซึ่งเป็นชายาของพระศิวะ ก็ย่อมให้เกียรติพระสวามีเช่นกัน

    อีกอย่าง คือ "ผู้รู้ที่ฝากปริศนาธรรม" ไม่ได้อ่านคำถามของเจ้าของกระทู้ให้ดี และไม่ได้อ่านคำตอบของผมให้ดี เพราะถ้าอ่านโดยใช้ "สติ" และ "ปัญญา" จะเห็นได้ว่า

    ผมตอบเรื่องการวางตำแหน่งในการบูชา และไม่ได้ตอบว่า มหาเทพทั้ง 3 พระองค์อยู่สวรรค์ชั้นไหน
    ขณะเดียวกันผมได้ยกเหตุผลประกอบไปว่า ในการบูชานั้นให้บูชา "พระคเนศ" ก่อน
    เพราะพระองค์ได้รับพรจากพระศิวะ และที่สำคัญ ผมตอบไปแล้วว่า "ตั้งพระศิวะบนสุด หรือ จะตั้งคู่กับพระแม่อุมาเทวีก็ได้"

    พ่อและแม่ผมย้ำกับผมเสมอว่า

    "บุคคลผู้เคารพบิดามารดาของตนเอง ย่อมไม่กล่าวล่วงไปถึงบิดามารดาของผู้อื่น" และ
    "บุคคลที่มีความกตัญญและยกย่องบิดามารดาของตน ย่อมขึ้นชื่อว่าเป็นลูกที่ดี"

    ก็ไม่เป็นไรครับ พ่อผมอยู่ชั้น 90 ก็ถือว่าผมบูชาพ่อครับ ส่วนแม่อยู่ชั้น 1 ก็ว่าผมบูชาแม่ครับ
    ส่วนตัวผมไปอยู่นอกตึก ก็ได้ครับ เพราะถือว่า เป็นการเฝ้าเวรยามไม่ให้ใครเข้ามารบกวนพ่อและแม่ครับ

    ลองอ่านประวัติพระคเนศดูนะครับว่า ท่านเป็นนายทวารที่ดีเพียงใด

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2010
  18. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    555 อยากหัวเราะเป็นภาษาสเปน ผู้ไม่รู้ ก็จงไม่รู้ต่อไป
     
  19. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมก็ตอบเท่าที่ผมรู้ครับ และผมเชื่อว่า
    ผู้อ่านทุกท่านมีวิจารณญาณในการพิจารณา
    ก่อนเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อครับ

    จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคลครับ
    ผมเชื่อว่าไม่มีใครผิดหรือใครถูก เพราะถึงจะมีผู้รู้มาตอบ
    ก็ใช่ว่าทุก ๆ คนจะเชื่อครับ

    โมทนาครับ
     
  20. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ในโลกนี้มีความจริงอยู่มากมายที่ไม่มีการเปิดเผย ความเชื่อหลายอย่างก็เชื่อต่อๆกันมาอย่างไม่รู้ความจริง และถ้าเปิดเผยความจริงเข้า ก็จะทำให้ยอมรับความจริงได้ยาก วันดีคืนดีก็จะมีนักเลงดีมาเปิดเผยข้อมูลบางอย่างเข้า ซึ่งแน่นอนว่าคนหลายคนทำใจยอมรับได้ยาก เพราะเคยเชื่ออีกอย่างมานาน เพราะฉะนั้น สุดท้าย ก็แล้วแต่ปัญญาคน ซึ่งไม่หวังว่าคุณหรือใครจะต้องมาเชื่อตาม เพียงแต่ขอแย้งไว้หน่อย

    และสุดท้ายข้อมูลในเวบนี้ทั้งหมดจะถูกลบเลือนไปก็ได้ ถ้าเกิดภัยพิบัติจริง อย่าหวังเลยว่าเทคโนโลยีจะเหลือ เหอะๆๆ เคยสำเหนียกตรงนี้บ้างมั้ย ?


    และอยากจะบอกว่า ให้ระวังตัวระวังตนไว้ ประเภทที่ตัวเองเข้าใจผิดไม่พอ แล้วไปทำให้คนอื่นเข้าใจผิด พวกที่ปฏิบัติผิด ก็ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ นึกว่าแน่ แต่รับรองว่าซวยแน่ๆ ..... เหอะๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...