เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288

    ขอบคุณครับ ที่มาเยี่ยมชม
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 53 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 50 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>พี เสาวภา, MooDam, ถิรวุษิ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    แขกนอก นี่จะมาตอนดึกๆน่ะครับ กราบเรียนเชิญมาสมัคร สมาชิกพลังจิตครับ
     
  3. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    อืมห์.....แปลกดี ปกติกระดอนสะท้อนจะเป็นแนวป้องกันและสะท้อนสิ่งไม่ดีให้ออกห่าง แต่นี่กลับเรียกสาว ๆ มาหาดีทางเสน่ห์สงสัยเป็นเพราะเป็นกาฝากแน่ ๆ เลยพลิกกลับเป็นตรงกันข้ามแทน
     
  4. jb007

    jb007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +314
    คนขายบอกเป็นลายมือหลวงพี่วิโรจน์ครับ หลวงพ่อทรงเสก หวังว่าคงไม่โดนยัดวัด

    แต่ลายมือไม่เหมือนหลวงพ่อเสียนนี่ครับ พอดีเคยเห็นรอยจารของหลวงพ่อท่าน
     
  5. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,321
    ค่าพลัง:
    +11,307
    ไม่ใช่ลายมือหลวงพ่อเสียน ครับแต่เป็นลายมือ หลวงพี่ในวัดมะนาวหวาน และลักษณ์ยันต์ก็ไม่ใช่ ลองเทียบจาก ลิงค์นี้นะครับ
    ว่าเป็นยันต์เดียวกันไหม
    http://palungjit.org/threads/วัดมะนาวหวาน.177566/

    แต่ถ้าไม่ใช่ผมคงตากลับ แหะๆ ขอโทษพี่ด้วยครับ
     
  6. jb007

    jb007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +314
    อ้าววว แล้วกัน งั้นเดี๋ยวไปเช็คก่อน ขอบคุณนะครับที่เตือนถ้าไม่ดีจะได้ไปคืนเค้า
     
  7. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    สำหรับพี่พี หรือ พี่ท่านอื่น ๆ ที่ต้องการเริ่มต้นกับ Facebook นะครับ ลองไปดูที่ Facebookgoo - ชุมชนคนไทยใช้ facebook .:: สอนวิธีเล่น วิธีใช้ แต่ง facebook ::. ครับ เป็นภาษาไทย พอจะเข้าใจได้ง่ายพอสมควรครับ

    หรือลองไปดาวน์โหลดอีบุ๊คมาอ่านได้จากที่นี่ครับ จริง ๆ ไฟล์ก็มาจากลิงค์ด้านบนน่ะแหละครับ แต่ว่าตอนนี้เหมือนลิงค์ที่เว็บเสีย ผมก็เลยเอาไปไว้ใน Mediafire แทนครับ

    facebook_for_beginner.pdf

    Credit ตามลายน้ำในเอกสารนะครับ :)
     
  8. jb007

    jb007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +314
    ทำไมหน้า web มันแฮงค์ๆ ข้อความที่ผม post ก็หายไปด้วย

    ตอบคุณ G.sis.t อีกครั้งครับ

    ขอบคุณครับที่เตือน เดี๋ยวผมจะไปเช็คอีกรอบ ถ้าไม่ดีอย่างไรจะได้คืน
     
  9. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    เป็นอย่างนี้ ท่าทางกระทู้จะมีปัญหาครับ ลองดูว่า ถ้าพ้นหน้านี้ไปแล้วจะดีขึ้นไหม
     
  10. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093
    คิดเเหมือนผมเลยครับ เลยเอารูปเบี้ยวัดมะนาวหวานมาฝากครับ

    จะสังเกตุเห็นโค๊ตที่ถูกชันโรงปิดไปครึ่งหนึ่ง ถ้าบี้ชันโรงมาปิดให้มิด

    ก็จะไม่เห็นโค๊ตครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0005.jpg
      IMG_0005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53 KB
      เปิดดู:
      439
  11. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,698
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  12. Maestro

    Maestro เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    676
    ค่าพลัง:
    +2,411
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
     
  13. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    กราบหลวงพ่อทรงครับ สวัสดียามเช้าวันศุกร์ครับทุกๆท่าน ขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองทุกคนครับ(deejai)
     
  14. เพพัง

    เพพัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +8,250
    กราบ องค์หลวงพ่อทรงครับ

    เห็นด้วยครับ
    ตอนนี้ รอช่วงหยุดยาวไม่ช่วงวันเข้าพรรษา หรือวันเฉลิม 12 ส.ค.ลูกสาวกลับบ้าน จะได้ให้พระนักธรรมไว้บูชาครับ
     
  15. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    กราบหลวงพ่อทรง... ครับ
    แวะเข้ามาทักทาย พี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกบ้านเหรียญบิน ณ.ยามเช้า อันสดใส ยิ่งแถวบ้านผมจะมีเสียงนกเขา ( ที่ไม่ได้อยู่ในกรง ) ร้องตั้งแต่เช้า แต่แดดสมัยนี้ หกโมงนิดๆ ก็โผล่ออกมาแล้ว ไม่เหมื่อนแต่ก่อน อีกทั้งตอนเย็น พระอาทิตย์ก็ยังมิยอมตกไปง่ายๆ อีกสัก 20 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ...?
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288

    ขอบคุณครับ..............
     
  17. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    มีข้อความดีๆมาให้อ่านกัน ลองให้เวลากับตัวเองสักนิด เผื่อชิวิตจะมีมุมมองที่ดีขึ้น.....

    ขอเวลา 5 นาทีอ่านให้จบ

    'อย่าหนีนะ เจ้าเด็กขี้ขโมย'
    เสียง ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่นพร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคน หนึ่งวิ่งผ่านฉันกับแม่ที่กำลังซื้อเนื้อหมูในตลาดไปอย่างรวดเร็วทั้งแม่และ ฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแค่แวบเดียว

    แม่ ถามฉันว่า 'อ้าวนั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ' 'ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ' ป้าคนนั้นชื่อว่า 'ป้าหนอม'เป็นแม่ค้าขายของชำสารพัดอย่างในตัวตลาดในอำเภอที่ฉันอยู่มีฐานะ จัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกันและเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจแถม ปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของมากเกินไปหรือถามราคาแล้วไม่ซื้อป้าแกจะโวยวายชนิดต้องรีบเผ่น ออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียวเสียงเอะอะดังมากขึ้นฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อ มือเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบไล่เลี่ยกับฉันซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้าแกกำลังจะลงไม้ลงมือ

    แม่ จึงเดินเข้าไปถาม 'พี่หนอม มีไรหรอคะ' 'ก็คุณเด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุพอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย' พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งทีและคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้ 'ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ' แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ 'เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัยพ่อแม่ไม่สั่งสอนยังเด็กตัวแค่นี้ก็รึจะเป็นขโมยซะแล้ว ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินหละ'ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่ายหัวน้อยๆ ทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่าแม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปพูดกับป้า หนอมว่า 'อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอมเด็กมันคงอยากซื้อยาแต่ไม่มีเงินนะ เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะกี่บาทกันละ' ในที่สุดเรื่องก็จบลงโดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายาแก้ปวดกับยาธาตุแล้วแม่ก็ จูงเด็กคนนั้นออกมาจากตลาดแต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่ 'ใจดีกับเด็กขี้ขโมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ'

    แม่ ไม่ได้ตอบอะไรแต่พอเดินห่างจากร้านพอสมควรแล้วก็ถามว่า 'ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ' เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่ แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า 'แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอผมก็เลยต้อง...' แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยืนผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็กคนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า 'ทีหลังอย่าขโมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะน้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆ นี่เองถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้าแทบทุกคนเลยแหละ

    เอ้า... เอา ส้มไปฝากคุณแม่ซิคนป่วยนะต้องกินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย' แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดิน จากไป

    หลังจากนั้นพอกลับ มาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที'ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนันด้วยละ รู้จักกันหรอจ้ะ' แม่ยิ้มแล้วตอบฉันว่า 'ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขายอยู่แถวบ้านเราน่ะลูก แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอกแม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง' 'แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่แม่'ฉันถาม ต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า 'แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆกับลูกจะต้อง เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบรู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ว่ากว่าจะได้มา มันเหนื่อยยากขนาดไหนและคนที่มีความรับผิดชอบนะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆเมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้ว เท่านั้น'

    ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อ ว่า 'แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า' 'ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร 'แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านป้าหนอมเขานะแม่ ''ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนักแต่การที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุขแล้วยังได้บุญอีกด้วยนะแค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก'แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า 'จำไว้นะลูก คนเรานะต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคนอื่นแก้ตัวเสมออย่างเด็กคนนั้น..แม่ มั่นใจว่าแกทำไปเพราะรักคุณแม่ของแกจริงๆ แม่ถึงช่วยแกเอาไว้' แล้วแม่ก็พูดต่อว่า 'ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งทีผิด ใช่...แม่ไม่เถียงแต่บางครั้งคนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆบ้าง อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ตอนนี้ลูกอาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ'

    หลัง จากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆกันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้ี้อีกเลยจนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆหลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับ ปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งานทำในโรงงานในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้าเพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหลังจาก ทำงานหนักมาเกือบ 20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน แม่ยอมปิดร้านแต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงินแม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะ รู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้องยอมตามใจแม่
    ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆไม่กี่วันก็หายหลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ้นเรื่อยๆ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอแล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมืองหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ทำงานหนักมากเกินไปหมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆจะได้หาย เร็วๆ หลังจากกินยาตามที่หมอสั่งอาการปวดหัวของแม่ก็หายไปฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ่งเดือนแม่ก็เริ่มกลับมาปวดหัวอีกคราวนี้เป็น หนักมากกว่าครั้งที่แล้วยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม่ได้ผลเลย ฉันกังวลใจมากพอถามหมอหมอก็บอกว่าต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯเพราะว่า เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่าโรงพยาบาลต่างจังหวัด

    หลัง จากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯทันทีไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งหลังจากหมอ ตรวจแล้วบอกว่ามีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดโดยด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ฉันตกใจมากของให้หมอผ่าตัดให้ทันทีแต่หมอบอกว่าโรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมอง ที่มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอกในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่งซึ่งมีชื่อ เสียงมากกว่า ดังนั้นหมอจึงต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลงหลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วแม่ก็ถูกส่งตัวเข้า ห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจอยู่ด้านนอก ทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่และจากคำพูดของหมอที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มา ที่โรงพยาบาลแห่งนี้

    หมอบอก ให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมากโอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมองค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับค่ายาระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหนลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้า หมื่นบาทเลย แต่ยังไงฉันก็ต้องรักษาแม่ให้หายส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลงเป็นโชคดีของแม่ทีการผ่าตัดประสบผลสำเร็จและไม่มี อาการแทรกซ้อนใดๆทางโรงพยาบาลบอกให้พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถไปพัก ฟื้นที่บ้านได้ ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน ปรากฏว่าเป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ่งพันบาทเป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น ฉันแปลกใจมากจึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่าคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเป็นเจ้าของไข้ บอกไม่ให้คิดเงินกับฉันและแม่ โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเหตุ ฉันจึงขอพบคุณหมอคนนั้นเพื่อขอบคุณ นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัวไปต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษา เพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดสมองที่อเมริกา แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่ โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให้ฝากให้ฉัน พร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้น เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน

    เนื้อความในจดหมายมีดังนี้
    ข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์
    ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดดังนี้
    ค่าผ่าตัด 0 บาท
    ค่ายาทั้งหมด 0 บาท
    ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท
    รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท
    ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วย ยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า
    นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร
     
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    คนเราก็หากินกันได้ บนการหลอกลวงผู่อื่นว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อ เบี้ยได้จากวัดมา หรือ ได้จาก คนที่วัด หลวงพี่วิโรจน์น่าจะถูกอ้างมากที่สุด แต่ความจริงก็ต้องรู้กันสักวัน เมื่อดูหลายๆตา


    จากรูปดูกันชัดๆ เห็นไม่ชัด เพราะแต่ก่อนไม่ได้เห็นตัวจริงตอบยากน่ะครับ ตัวนี้ขยายใหญ่ ตัวนี้เป็นเบี้ยวัดมะนาวหวานชัดเจน ใครมีเบี้ยคล้ายๆกัน ก็รู้ที่มาน่ะครับ

    แต่จากรูป เป็นเบี้ยวัดมะนาวหวาน วัดนี้เป็นวัดที่มีความสัมพันธ์กับหลานหลวงพ่อ และอย่างที่บอก ชันนะโรงชุดหลังที่ได้จากคุณชูชีพ ยังเหลืออยู่ที่หลานหลวงพ่อหลายกิโล ก้อนนี้น่ะน่ากลัว เขาอาจจะแบ่งมาทำ และชุดแรกๆ ผมก็ยังนำชันที่เหลือที่ผมไปถวายแต่ไม่ใช่ชันนะโรงใต้ดิน

    และไม่ใช่ลายมือหลวงพี่วิโรจน์น่ะครับ ทั้งยันต์ และ ลายมือเป็นของหลวงพี่ที่วัดมะนาวหวานจริงด้วย อันนี้สายวัดมะนาวหวานยืนยัน ขอบคุณน่ะครับ

    การบี้ชันมาปิดโค้ดนี่ แสดงเจตนา ต้องการปิดโค้ดวัดมะนาวหวานน่ะครับ...เหอๆ จะเอาเงินเขาก็ทำไปได้...แย่จริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2010
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    DSC04242.jpg DSC04243.jpg

    จะเล่นเบี้ยวัดมอญ ต้องเอาแบบน้าแว่นน่ะครับ

    ดูประวัติ และที่สำคัญ มีโค้ด ท ไม่มีหัว ( แกะออกมาดูใหเห็นกับตาจะๆ ไม่ต้องเชื่อใคร ไม่ต้องมาเชื่อผมด้วย ) แพงหน่อยแต่ชัวร์ นอนหลับสบาย ไม่มาแค้นใจภายหลัง แท้ร้อยตาครับ
     
  20. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ทรงครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...