แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

เกือบไปแล้ว โชคดีที่ได้มาเจอกระทู้นี้ซะก่อนม่ายงั้นบาดเจ็บอีกแน่ๆ555 แต้งกิ้วหลายครับคุณหนุ่มฯ

 

สวัสดียามดึกครับคุณหนุ่ม..และทุกๆท่าน....(^_^)...สมาชิกในกระทู้ยังมากมายอบอุ่นตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลยนะครับ.....

นอกเรื่องนิดนึงนะครับ...พอดีผมเห็นรูปแทนตัวของคุณนวลพรรญเป็นแหวนหลวงปู่ทวดลงยาสีน้ำเงิน...ซึ่งผมเองก็มีอยู่ 1 วงและลงยาสีเดียวกับของคุณนวลด้วยอ่ะครับ...ไม่ทราบว่าเป็นรุ่นเดียวกันมั้ยครับคุณนวล...ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันขอทราบประวัติการสร้างได้มั้ยครับ..ว่าใครปลุกเสกและสร้างเมื่อไหร่ที่วัดไหนอ่ะครับ....ขอบคุณครับ...(^_^).....

นี่ครับรูปแหวนของผม..










รูปล่างสุดนี้ของคุณนวลครับ....

 

แต่สำหรับคนดีแล้วความดีทำได้ง่ายแต่ความชั่วกลับป็นเรื่องยากจริงมั๊ยครับ

 

ติดตามอ่านประสบการณ์ดีๆจากพี่ๆน้องๆ และพี่หนุ่ม จนง่วงแล้วครับ
ขอตัวไปนอนก่อนครับ ราตรีสวัสดิ์ ครับ บุญรักษาครับ

 

พี่หนุ่ม เมืองแกลงครับ ตะกรุดไม้ขนุนสอดไส้ตะกรุด ของหลวงปู่หมุน(ปกติไม้คูณของผมเป็นไม้ขนุน) นอกจากดีทางคุ้มครองแล้ว หลวงปู่อธิษฐานทางอื่นอีกไหมครับ เห็นในใบคาถาบอกว่าให้จุดธูป 16 ดอก แล้วแต่จะอธิษฐาน พี่หนุ่ม เมืองแกลงเคยนำมาบูชาหรือเปล่าครับ

 

สุดยอดครับกระทู้นี้<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
มีความเป็นกันเอง<o></o>
มีทั้งมิตรภาพ<o></o>
มีทั้งคนมีน้ำใจ<o></o>
มีทั้งคนที่มีความจริงใจให้กัน<o></o>
บอกได้คำเดียวว่า สุดยอด
<o></o>
แต่ไม่เห็นมีใครเล่าถึงหลวงพ่อทรง วัดศาลาดินเลยครับ<o></o>
<o></o>
งั้นผมของเล่าสักหน่อยนะครับ<o></o>
เรื่องนี้ยังไม่เคยเล่าในกระทู้ของพี่ พี (กลัวคนหาว่าเชียร์)<o></o>
เรื่องของเบี้ยแก้กับตะกรุดไมยราบสะกดทับ(น่าจะสะกดผิด)ครับ<o></o>
ทั้งสองอย่างผมนำติดตัวมาตลอด<o></o>
ทั้งของหยุดฝน ทั้งของให้ผ่านอุปสรรค์ต่างๆนานา เพื่อให้งานของผมสำเร็จไปได้ด้วยดี<o></o>
เรื่องแรกครับ<o></o>
<o></o>
เรื่องของหยุดฝน<o></o>
ผมได้ไปบ้านลูกน้อง ที่ไม่ไกลจากฟาร์ม นั่งไปเรื่อยๆ แต่ดันมีฝนตก<o></o>
ดึกแล้วผมก็อยากกลับฟาร์มเพื่อไปพักผ่อน<o></o>
แต่ฝนยังไม่หยุดตก<o></o>
ไม่รู้ทำไงเคยแต่อ่านในกระทู้ของพี่ พี ว่าเบี้ยแก้หลวงพ่อทรง ช่วยหยุดฝนได้<o></o>
ผมก็เลยอธิฐานเบี้ยแก้หลวงพ่อทรง ว่าของให้ฝนซาลงเพื่อจะได้กลับฟฟาร์ม<o></o>
ไม่ถึง ๓ นาทีครับ ฝนหยุดตก ลูกน้องผม(คนเวียดนาม)แปลกใจว่าผมไปทำอะไรมา ฝนถึงได้หยุดตกอย่างนี้ ผมบอกแค่ว่า รีบกลับแล้วกันเพื่อเดี๋ยวฝนมาอีก แค่นั้นครับ เค้าก็ไม่ถามอะไรต่อ เป็นที่รู้กันครับกับลูกน้อง(คนเวียดนาม) ว่าผมทำอะไรไป
ลูกน้องคนนี้เค้ารู้ครับว่าคนไทยมีของดี ทำเรื่องที่เหนือเหตุผลได้ บ้างคนยังของพระเครื่องไทยจากไทยจากผมด้วย ผมก็ให้พระที่ได้จากงานบุญต่างๆเนื่องจากเจตนาดี

ส่วนเรื่องตะกรุดไมยราบสะกดทับ<o></o>
อันนี้เป็นของศูนย์ทำมา แต่ผมได้มาเพราะไปช่วยทำบุญ<o></o>
แต่ตะกรุดนี้อยูเวียดนามตลอดนะครับตั้งแต่ที่ผมได้บูชามา ไม่เคยคิดกลับเอากลับไปไทยเลย(ถ้าจะเอากลับไทยก็คือตอนที่ผมลาออกจากงาน)<o></o>
เพราะว่า ผมคิดว่าตะกรุดนี้จะช่วยเรื่องลดความขัดแย้งต่างๆนานา<o></o>
แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิดครับ<o></o>
ช่วงนั้นมีคนงานในฟาร์มคิดว่าแม่ครัว ซื้อกับข้าวไม่เต็มจำนวนเงินที่ผมให้ไป<o></o>
ปัญหานี้มีมานานจนเริ่มจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าคนงานจะออกหมด เพราะไม่แน่ใจในเรื่องเงินที่ซื้อกับข้าวมาทำกินในฟฟาร์ม ผมเลยจะประชุมเพื่ออชี้แจ้งทั้งหมด<o></o>
ก่อนวันประชุม ผมคิดไว้ก่อนแล้วว่าจะมีการเถียงกันในเรื่องค่ากับข้าว และเป็นประเด็นใหญ่ซะด้วย<o></o>
ผมเลยอาราธนาตะกรุดไมยราบสะกดทับหลวงพ่อนทรงเพื่อให้ การประชุมในวันนี้ไม่มีเรื่องไปถึงขั้นแตกหัก ไม่มีเรื่องร้ายแรงจนถึงขึ้นลงไม้ลงมือ(คนเวียดนามอารมณ์ร้อนครับยิ่งถ้ามีเรื่องกับผู้หญิงละก็ทำตัวเป็นใหญ่เลย(หน้าตัวเมียเจอกับผู้ชายไม่กล้าทำ))<o></o>
ผลปรากฏว่าประชุมวันนั้นผ่านไปได้ปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลูกน้องฟังที่ผมพูดทั้งหมด ไม่มีใครแย้งขึ้นมาเลย ประชุมผ่านไปได้ด้วยดี<o></o>
กราบหลวงพ่อทรงครับ


ปล. เรื่องทั้งหมดเกิดที่เวียดนามครับผม <o></o>
<o></o>
<o> </o>

 

วันหลังมาเล่าต่อครับกับพระหลวงปู่แหวน
รอดตายมาได้พระหลวงปู่แหวนแท้ๆคราบ
วันนี้ขอนอนก่อนนะครับ

ฝันโชคดีทุกท่านครับ

 

พี่หนุ่ม...นอนก่อนนะครับ ฝันดีกันทุกท่านนะครับ

 

แล้วแต่บุคคลครับ
แต่ส่วนใหญ่แค่ความคิดมีก็จะไปในทางลบซะมากกว่าครับ

 

ปี 99 นั้นปลุกเสกแล้วแจก ที่เหลือลงกรุหมดในงานโดยมีพระนางเจ้ารำไพพรรณีเสด็จ

ปี 06 เอามาแจกใหม่เนื้อขาวอมเทาๆหม่นๆ พร้อมเหรียญชินราชจอมมุนีในพิธีฉลองพระครับ
คนละเนื้อ

ดีทั้งนั้นครับ ผงก็ดี สร้างก็ดี ปลุกเสกก็ดี คนแขวนก็ต้องดีครับ

 

ของดีที่ลินได้มาแบบ ไม่ทราบที่ค่ะ แต่พอนำไปให้พี่ๆในเวปดู ดีใจมากค่ะ ที่มีพระแท้ และดี อีกองค์ เก็บเอาไว้ให้เจ้าลูกชายค่ะ คุณ หนุ่ม

 

หากให้จุดธูป 16 ดอกก็ลงไว้ครบแล้วครับ
ผมไม่มีเลยครับ

 

ดีใจด้วยครับ สำหรับของดีมีค่า

 

พี่หนุ่มครับ พระแหวกม่านนี้เป็นพระที่เสกเน้นด้านแหวกอุปสรรค ตัดวิบากกรรม ให้เจริญก้าวหน้าใช่ไหมครับ ไม่ทราบว่าจะมีของหลวงพ่อองค์ใดที่จะใช้แทนของหลวงพ่อกวยได้บ้างครับ
มนต์พระกาฬ ของหลวงนั้นท่านเสกไว้กับพระของท่านทุกองค์ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ

 

ไปนอนก่อนครับ พี่ๆ ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

พระมงคลมหาลาภ
ไปทำบุญที่วัดสัมพันธวงศ์ ประมาณเดือน ธันวาคม 2552 เท่าที่ถาม เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่
มีแต่พิมพ์เล็ก นอกนั้นหมดครับ พิมพ์เล็กเท่าที่เห็นไม่น่าเกิน 20 องค์ แบบที่เห็นอยู่นี้ สวยที่สุดแล้วครับ ที่เหลือนอกนั้นสวยน้อยกว่านี้เยอะ โดนเหมาไปหมดแบบสวยๆนะ
ทำบุญ ครับ ทำบุญ

 

เข้านอนก่อนนะครับพี่หนุ่ม...พรุ่งนี้เจอกันใหม่ครับ...

 

ครับเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับท่านบัวแก้ว ในช่วงมนุษย์ยุคขัยลงครับ

 

พอดีเข้ามาอ่าน(กระทู้นี้มาแรงจริงๆครับ..) พบบทความนี้ และก็บังเอิญผมพอจะรู้จักหลวงปู่ท่านนี้บ้าง เลยขออนุญาตตอบคำถามนี้แทนพี่หนุ่มเมืองแกลงนะครับ เพื่อแบ่งปันความรู้..ฯลฯ

ประวัติท่าน เดิมชื่อเชย ชุมศิริ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2466 ปีกุน ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ อุปสมบท เมื่ออายุได้ 20 ปี ณ วัดหมูดุด วันที่ 8 กรกฎาคม 2486 อยู่วัดหมูดุด 15 พรรษา ต่อมา พ.ศ.2520 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ อยู่วัดหนองหงส์ เป็นเวลา 25 พรรษา จากนั้นจึงลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ มาอยู่เขาเจ้าหลาว ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ โดยปลูกกุฏิอยู่โดยลำพังเป็นเวลา 17 พรรษา และก็ได้มรณภาพในท่านั่งสมาธิอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 เวลา 17.00 น. รวมอายุได้ 77 ปี 57 พรรษา

ท่านเป็นพระเกจิองค์หนึ่งของจันทบุรีที่สามารถกราบได้อย่างบริสุทธิ์ใจ(จริงๆ) และเป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่อินทร์เทวดา วัดลาด อ.ท่าใหม่ ในอดีตก็ได้ศึกษาวิชาไสยศาสต์ และอักขระคาถา และมีสหธรรมมิกที่เป็นเกจิอาจารย์เชื่อดังหลายองค์ และทุกๆท่านต่างให้การยกย่องต่อองค์หลวงปู่เชย ว่าท่านมีพลังจิตที่ล้ำลึก และมีวิชาที่แปลกๆ แตกต่างจากองค์อื่นๆ ซึ่งวิชาบางอย่างท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ได้มาจากสมาธิ หรือไม่ก็มีเทวดามาบอก..ฯลฯ และที่สำคัญท่านยังเป็นผู้สืบทอด วิชาสร้างพระภคัมปติ(ปิดตา) เนื้อผงยา7ประการ และวิชาตะกรุดพระเจ้าปิดไฟ ตะกรุดมหาระงับ ตามตำราเก่าแก่โบราณของหลวงปู่ผุด วัดวังเวียน สืบทอดมาโดยตรงจากหลวงปู่เปี๊ยก ลูกศิย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อผุด

ปฏิทาการปฏิบัติของท่านงดงาม น่าเลื่อมใสมาก ท่านใจดีพูดน้อย ถ่อมตัว ไม่โอ้อวดคุณวิเศษ(ทั้งๆที่ทีมากไม่แพ้ผู้ใด)ไม่เคยด่าว่าใคร และไม่จับปัจจัย การอยู่การขบฉันอาหารก็เรียบง่าย แต่ละเมื้อก็จะฉันเพียงข้าวเปล่ากับกุ้งแห้งแช่น้ำปลา ส่วนอาหารดีๆท่านให้เป็นทานหมด เวลานอนจำวัดก็จะอาศรัยนอนในโลงศพ ซึ่งมีผู้ศรัทธาต่อมาถวาย(ต่อมาก็ใช้บรรจุสรีระของท่าน) และยังเชื่อกันอีกว่าหลวงปู่เชยท่านละได้ซึ่งกิเลสทั้งปวง และท่านยังสามารถล่วงรู้วันมรณภาพของตัวท่านเองครับ โดยท่านได้สั่งการทุกอย่างเกี่ยวกับพิธีศพ(ในอนาคต)ของท่าน และสั่งให้ศิษย์ทั้งหลายร่วมกันสร้างพระสถูป(องค์เล็ก)เพื่อใช้บรรจุพระอัฐฐิเอาไว้ก่อนล่วงหน้าณ.อาศรมของท่าน และยังสั่งการให้ลูกศิษย์ ปรับพื้นที่บนเขา(ซึ่งมีลูกศิษย์ที่เป็นกรมป่าไม้ถวายเอาไว้) เพื่อสร้างพระเจดีย์ บรรจุพระอัฐฐิ อีกองค์หนึ่งด้วยเพื่อเป็นอนุสรที่กราบไหว้ ไว้ระลึกถึงกัน โดยกำหนดวางศิลาฤกดิ์ในเช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 ซึ่งการกำหนดวันและเวลาวางศิลาฤกดิ์ดังกล่าว หลวงปู่ท่านเป็นผู้กำหนดเองทั้งสิ้น โดยบอกว่า วันนี้เป็น วันที่ดีมาก หลังจากวันนี้ไป ก็จะไม่มีโอกาสดีๆอย่างนี้อีกแล้ว แต่ลูกศิษย์ทั้งหลายที่ได้ฟังก็ไม่นึกเอะใจอะไร และพอเย็นวันเดียวกันนั้น ท่านก็มรณะภาพ ละขันธ์ไปอย่างสงบ ด้วยท่านั่งขัดสมาธิ ณ.ที่อาสนะของท่านเอง

* ท่านสร้างพระเครื่องต่างๆ หลายอย่าง ส่วนใหญ่เน้นสร้างกันที่วัด และหลวงปู่เป็นผู้ทำเองกับมือจริงๆเช่น ..สมเด็จปรกโพธิ์ พระกริ่งอมโร พระปิดตาพิมพ์ต่างๆ ท่านแม่ศรี(องค์เดียวกันกับวัดท่าซุง) ตะกรุด ผ้ายันต์ ปลัดขิก...โดยเฉพาะขุนแผน ที่โรยตะไบกริ่งชินบัญชรลป.ทิม และเกษาของท่าน...ฯลฯ ล้วนแล้วแต่สร้างประสบการณ์มากมาย มีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในพื้นที่ และแถบบริเวณชาดแดน จันทบุรี-ตราด