เหนื่อยเหลือเกิน...ช่วยด้วยค่ะ

บางครั้งคนทั่วไปก็อาจจะเห็นว่าเราอายุแค่นี้เอง...ทำไมต้องมาดูดวงด้วย แต่ในชีวิตเราเราเจอเรื่องหลาย ๆ อย่างมากมาย ที่ทำให้เราท้อใจ ตอนเด็ก ๆ เราโดนน้ำมันร้อนลวกทั้งตัวปวดแสบปวดร้อนมากในความรู้สึกตอนนั้นเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับได้ หยอดน้ำข้าวต้ม ตามตัวพันผ้าเป็นมัมมี่เลย รู้ว่าอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือน ๆ แต่ก็รอดมาได้ พอตอนโตมาก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากมาย เรามีพี่น้อง 5 คน เราเป็นแฝดสามท้องสุดท้าย เราอยู่กับย่า ย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนตอนนี้ก็ส่งเราเรียนตอนย่าทำงานอยู่ย่าก็พอส่งให้อยู่อย่างสบายได้ แต่พอเกษียณอายุแล้วย่าก้มาเปิดร้านค้าขายตามปรกติเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็เอามาปลูกบ้านให้คนเช่า แต่โดนช่างก่อสร้างโกงเบิกเงินไปแล้วก็ไม่ทำให้เสร็จคนงานหนีไปเฉย ๆ หัวหน้าก็มาเบิกเงินใหม่เอาไปซื้อของมาทำเอง พอเสร็จ(แบบไม่สมบูรณ์) ก็เก็บของไปเลย ย่าตรวจดูบ้านใหม่ประปาก็ต่อไม่ดี (สร้าง 3 หลัง) ไฟฟ้าก็ติด 2-3 วันก็ดับใช้ไม่ได้ ประตูรั้วก็หลุด ประตูห้องน้ำก็แตก พอหน้าฝน หลังคารั่วแทบทุกที่ อยู่กันไม่ได้เลย เป็นทั้ง 3 หลัง ย่าต้องเสียเงินทำใหม่ไปทีละอย่าง พอย่าตั้งวงแชร์ก็โดนลูกแชร์โกงรับเงินแล้วก็หนีไป ย่าต้องตามใช้เป็นหมื่น ๆ บ้านหลังที่อยู่กันมานานก็โดนศาลฟ้อง (ป้าเอาโฉนดที่ดินไปจำนองไว้กับธนาคาร) ทั้งที่ส่งดอกเบี้ยทุกเดือน ย่ากลายเป็นคนเครียดมาก ย่าซื้อแท็กซี่ไว้ 2 คัน ก็ต้องคอยซ่อมคอยเปลี่ยนอะไหล่อยู่เสมอไม่รู้มันจะพังอะไรนักหนา คนออกก็ไม่ค่อยให้ค่าเช่า บางทีออก5 กะ กะละ 500 บาท ก้ให้แค่300 หรือไม่ให้เลยก็มี ทุกสิ่งที่เล่ามานี้มีเรารับหน้าที่เป็นคนรับฟังและหาทางแก้ไขเสมอ บางทีเราอายุแค่ 17 เองต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้ พี่ก็พึ่งไม่ค่อยได้ น้องก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว เราสนิทกับย่าที่สุด นอนก็นอนกับย่า บางครั้งย่าก็นอนร้องไห้เราก็รู้สึกสงสารย่ามาก แต่ย่าชอบมาย้ำกับเราให้เราช่วยหา ให้เราช่วยเอาบ้านกลับมา ย่าไม่อยากให้บ้านโดนธนาคารยึด เรากลับเครียดเอง เราเหนื่อยจึง ๆ มีอีกหลายที่เราเล่าไม่หมด แต่เราอยากรู้ว่าเราจะเอาบ้านคืนมาได้ไหม และถ้าเราจะทำงานอาชีพไหนจะเหมาะกับเรามากที่สุด และอยากรู้ดวงย่าด้วยว่าทำไหมถึงทุกข์มา กอยากทำบุญที่วัดก็ไม่ค่อยได้ไปเพราะถ้าปิดร้านก็เสียรายได้หลักของครอบครัว อยากรู้มากจริง ๆ ค่ะ

 

แวะมาแสดงความเห็น
1. เห็นด้วยกับความเห็นข้างบน ลองถามที่เวบญาณทิพย์ดูคะ
2. เรื่องทำมาหากิน อันนี้พี่เองยังเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน
แต่พอจะมีประสบการณ์จากที่บ้าน ที่ตรงกับน้องเล็ก ๆ ว่า
- ทำหอพัก หรือ ทำแทกซี่ให้เช่า
ความจริง คุณย่าไม่ควรทำเลย เพราะว่าไม่มีความรู้ เท่าที่พี่อ่านดู
คิดว่าคุณย่าอยากลงทุน แต่ตัวเองไม่มีความรู้ ความถนัด ทำให้เสียหายแยะ
ถูกโกงเอา
คุณย่าน่าจะทำใจ ยอมรับสภาพและทำสิ่งที่ง่าย ๆ กว่านั้น เช่น รับดูแล สอนเด็ก
(เห็นว่าเป็นครูมาก่อน) หรือว่าขายขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ

สำหรับตัวน้องเอง อย่ากดดันตนเองมากกนักเลยคะ
นอกจากเรียนแล้ว ลองขอทุน และหางานพิเศษทำตามห้าง เช่น ขายของดู
ส่วนแทกซี่ พี่ว่า น่าจะขายไปดีกว่ามั๊งคะ ในเมื่อจัดการไม่ได้
เอาเงินก้อนเก็บเข้าแบงค์ดีกว่าไหมคะ

เอาใจช่วยคะ

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=o6y-ZpzDrD8]YouTube - ยากเพราะไม่ทำ ทำก็ไม่ยาก[/ame]

 

ตาม ที่น้องเหลามาทั้งหมด ถ้าเป็นเรื่องจริง คือทุกข์ มาก แต่สำหรับ คนที่ผ่านมรสุมมา แล้ว ทุกข์นี้ ช่างแผ่วเบา เหลือ หลาย แต่เอาหล่ะ ในเมื่อทุกข์ ก็จะตอ่บ ถ้าเอาแบบความเป็นจริง คงจะไม่มีประโยชน์ เพราะกำลัง ของน้องคงไม่พอ แต่ถ้าหยั่งกรรมย่า ได้ หล่ะก็ ต้องเอาแบบนี้ ครับ ......แก้ ที่กรรม ของย่า.......ทำอย่างไร และ จะทำ ได้จริง หรือ หรือ แล้วมันจะดีหรือ ขอเชิญ ยกคำ ถามทั้งหมด ไปที่ ครอบจักรวาล ครับ แล้วจะตอบ แบบ ล่ะเอียด เอาบุญครับ รับรองต้องดีขึ้น กว่าที่เป็นอยู่ ครับ .....

 

ขอบพระคุณมากๆเลยนะค่ะ
แต่ว่าครอบจักรวาลอยู่หัวข้อไหนหรอค่ะ

 

เราอยากให้เธออ่านข้อความข้างร่างนี้ทุกข์ตัวถึงเธอจะรู้แล้วหรือเคยได้ยินได้ฟังได้อ่านมาก็ขอให้เธออ่านอีกรอบ
(แล้วพิจารณาอย่างถี่ถ้วนทุกข้อ) เพราะนี่คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
อริยสัจ หรือจตุราริยสัจ หรืออริยสัจ ๔ เป็นหลักคำสอนหนึ่งของพระโคตมพุทธเจ้า แปลว่า ความจริงอันประเสริฐ ความจริงของพระอริยะ หรือความจริงที่ทำให้ผู้เข้าถึงกลายเป็นอริยะ มีอยู่สี่ประการ คือ
๑. ทุกข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สภาพที่บีบคั้น ได้แก่ ชาติ (การเกิด) ชรา (การแก่ การเก่า) มรณะ (การตาย การสลายไป การสูญสิ้น) การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก การปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่สมหวังในสิ่งนั้น กล่าวโดยย่อ ทุกข์ก็คืออุปาทานขันธ์ หรือขันธ์ ๕
๒. ทุกขสมุทัย คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ตัณหา ๓ คือ กามตัณหา-ความทะยานอยากในกาม ความอยากได้ทางกามารมณ์, ภวตัณหา-ความทะยานอยากในภพ ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่ ความอยากที่ประกอบด้วยภวทิฏฐิหรือสัสสตทิฏฐิ และ วิภวตัณหา-ความทะยานอยากในความปราศจากภพ ความอยากไม่เป็นโน่นเป็นนี่ ความอยากที่ประกอบด้วยวิภวทิฏฐิหรืออุจเฉททิฏฐิ
๓. ทุกขนิโรธ คือ ความดับทุกข์ ได้แก่ ดับสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ กล่าวคือ ดับตัณหาทั้ง ๓ ได้อย่างสิ้นเชิง
๔. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา คือ แนวปฏิบัติที่นำไปสู่หรือนำไปถึงความดับทุกข์ ได้แก่ มรรคอันมีองค์ประกอบอยู่แปดประการ คือ ๑. สัมมาทิฏฐิ-ความเห็นชอบ ๒. สัมมาสังกัปปะ-ความดำริชอบ ๓. สัมมาวาจา-เจรจาชอบ ๔. สัมมากัมมันตะ-ทำการงานชอบ ๕. สัมมาอาชีวะ-เลี้ยงชีพชอบ ๖. สัมมาวายามะ-พยายามชอบ ๗. สัมมาสติ-ระลึกชอบ และ ๘. สัมมาสมาธิ-ตั้งใจชอบ ซึ่งรวมเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "มัชฌิมาปฏิปทา" หรือทางสายกลาง
มรรคมีองค์แปดนี้สรุปลงในไตรสิกขา ได้ดังนี้ ๑. อธิสีลสิกขา ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ และสัมมาสังกัปปะ ๒. อธิจิตสิกขา ได้แก่ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ และ ๓. อธิปัญญาสิกขา ได้แก่ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ
อริยสัจ ๔ นี้ เรียกสั้น ๆ ว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค
(ถ้าเธออยากพ้นทุกข์เธอควรพิจารณาดู หรือแม้กระทั่งอยากให้คนอื่นพ้นทุกข์เธอก็ควรเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังด้วย หรือคนที่เธอรักไคร่ บางทีนะเธออาจจะคิดว่าไม่ได้ช่วยให้ชีวิตสบายขึ้น เมื่อเธอพิจารณาในยามแก่ เธอก็จะรู้ว่าร่างกายเน่า ๆ ของเธอนั้น ไม่มีค่าเธอสมควรทำให้มานมีค่าหรือไม่ หรือเธอจะให้มันเน่า พร้อมกับคนที่เธอรัก เพราะคนทั้งโรคมีร่างกาย แต่ไม่พิจารณาว่าเนื้อนั้น มีไว้เพื่ออะไร เธอทำทุกข์อย่างเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด เธองคงไม่คิดว่า ทุกิออย่างที่เธอทำอยู่นั้น ก้เพื่อไปเกิดในชาติหน้าที่ดีกว่าหรือที่หนักกว่าเก่าเท่านั้นเอง เราขออนุโมทนาสาธุให้เธอดับทุกข์ได้ และขอให้เธอลองนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบ พิจารณา 4 ข้อข้างบนให้ถี่ถ้วน แล้วเธอจะพ้นทุกข์ เพราะทุกข์อย่างที่เธอประสบมามันคือเรื่องธรรมดา ถ้าเธอเปิดตา ดูคนในโลกนี้ เธอจะรู้เองว่าผู้ที่ทุกข์ากกว่าเธอนั้น มีมหาศาล เพาะความทุกข์มักจะมากับการเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องธรรมดา

อนุโมทนา ขอให้ พ้นทุกข์ กันทุกคนถ้วนหน้าสาธุ
หรืออาจทำให้ความทุกของทุกข์คนเบาบางก็ดี