การที่เราดูดวงกับหลายๆหมอ จะมีผลอะไรไหม

การที่เราดูดวงกับหมอท่านนึง แล้วรุ้สึกไม่ชัดเจน เราอยากดูอีกหมอหลายๆคน
จะมีผลไม่ดีตามมาไหมครับ แล้วที่เขียนกันในบอร์ดนี้ อยากรุ้เป็นความจริงแค่ไหนครับ ผมเคยดูกับหมอจิตสัมผัสท่านนึงเสียเงิน 300 บาท มีคนโพสในกระทุ้ว่าแม่นยังงั้นแม่นยังงี้ พอโทรไปเหมือนคุยกันธรรมดา ไม่รุ้อะไรเกี่ยวกับเราสักอย่าง
ขอความคิดเห็นหน่อยนะครับ

แต่ผมเองโดยส่วนตัว ยึดในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ทำดียอ่มได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว กฏแห่งกรรมนั้นมีจริง
แต่เคยไม่เคยคิดจะดูดวงเลย แต่พอไปดูกับหมอดูท่านนึงบอกว่าผมน่ะมีเทพคุ้มครอง ผมจึงอยากรุ้ว่า จริงมั้ยว่าเทพนี้คุ้มครองเรา แต่หลายคนบอกมาไม่ตรงกัน
เลยรุ้สึกว่า เรากำลังหลอกตัวเองหรือป่าว การมีเทพคุ้มครองไม่ได้ทำให้เรารุ้สึกว่าเรา จะดีกว่าใครนะ แต่เราอยากรุ้ว่าจิรงหรือเปล่า พอหลังจากที่ไปดูกับหมอดูหลายท่าน ผมก็เลยรุ้สึกว่า เราทำดีอย่างที่เราทำนี่แหละ ดีอยู่แล้ว อย่าไปดิ้นรนอยากรุ้ให้เป็นทุกข์จะดีกว่า ( เป็นเพราะเราหลอกตัวเอง ไม่ยอมรับความจริงหรือป่าว)

แต่ไม่ได้บอกนะว่าเรืองอื่นที่หมอดูหลายท่านบอก ไม่ตรง มีหลายเรืองที่ตรง
มีหลายคนที่พูดเหมือนกัน หรืออาจจะเป็นเพราะเรายังสร้างบารมีไม่พอ และยังไม่ถึงเวลาด้วยหรือป่าว

ถ้าพูดไม่ดีในกระทู้นี้ผมต้องขออภัยทุกท่านนะครับ

 

แล้วจะไปดูหมอทำไมให้เสียตังค์ ตั้ง 300 ร้อย เพราะคุณเองก็ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย ก็แค่อยากรู้คำถามพื้นฐานทั่วไปเท่านั้นเอง ดูกี่หมอไม่ตรงกันเพราะศาสตร์แห่งการพยากรณ์อาจไม่เหมือนกันก็ได้ คนมีญาณก็เช่นกัน บางคนจริง บางคนก็อุปทาน ไม่มีอะไรรับประกันแน่นอน ว่าเค้ามีญาณจริง ๆ เอาเป็นว่าดีใจด้วยเพราะคุณพูดตรงใจผมมาก ได้ใจ 555555 อย่าลืมระลึกถึงหลวงปู่ทวดทุกวันนะ แล้วชีวิตจะมีอะไรดี ๆ มากมาย สวัสดี คนไร้ตัวตน

 

ยึดหลักนี้ครับ....

จะเชื่อหมอดูคนไหน.....หรือเชื่อใครคนใด หรือไม่อย่างไร ให้พิจารณาจาก ปัญญา ครับ

* แต่ต้องเป็นปัญญาที่ปราศจาก......มิจฉาทิฐิ ควรตั้งอยู่ใน สัมมาทิฐิ คือ ความเห็นชอบ

เห็นชอบแบบใดนั้น ผู้มีปัญญา ผู้มีธรรม ย่อมเข้าใจครับ

แนะให้ยึดหลัก ความเชื่อ 10 ประการ ของ...องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าไว้ครับ ซึ่งท่านได้สอน เหล่าพราหมณ์พวกหนึ่ง ซึ่งจัดได้ว่า เป็นผู้ที่ฉลาดมาก จนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป และได้ถามพระพุทธองค์ ทำนองว่า ควรจะเชื่อพระพุทธองค์หรือไม่ อย่างไร พระพุทธองค์ ทรงสอนให้ว่า จะเชือใครนั้น ต้องพิจารณาด้วยตนเองจาก สิ่งเหล่านี้....ครับ

หลักความเชื่อ 10 ประการ

๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา

๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา

๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว

๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก

๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง

๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน

๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ

๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน

๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้

๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา

แต่ให้เชื่อ การพิจารณาของตนเอง ว่า คำสอนเหล่านั้น เมื่อประพฤติ กระทำตาม ไปแล้ว จะเจริญหรือไม่ อย่างไร

** เทพมีทุกคนไหม ต้องบอกอย่างนี้ครับว่า...

- ทุกคนในที่นี้ ไม่มีใครที่เพิ่งเกิดมาชาตินี้ เป็นชาติแรก

- เมื่อไม่ได้เกิด เป็นชาติแรก แสดงว่า ต้องเคยเกิดมาบนโลกใบนี้

- เมื่อเคยเกิดมา ต้องมี พ่อ - แม่ - พี่ - น้อง และญาติสนิม พร้อมพ้องเพื่อน ถูกไหมครับ

- อีกอย่าง เมื่อเคยเกิดมา ถามว่า ชาติที่คุณเกิดมา คุณก็ต้องมีการนับถือศาสนา...ถูกไหม ไม่นับถือศาสนา ก็ต้อง...นับถือผี

- สรุปง่ายๆคือ เทวดารักษา หรือ เทพ ที่ว่า...คุ้มครองปกป้องนั้น แท้ที่จริง คือ คนที่เคยมีความผูกพันธ์กับเรามาก่อน และเขายังไม่ได้ไปเกิด จึงได้ตามดูแลเรา

- สมมุติ พระพิฆเนตร ถามว่า ท่านคุ้มครองคุณ เพราะอะไร

- เกิดจาก เคยนับถือ ท่านมาก่อน เคยเป็น...สาวกมาก่อน

- คุณบูชา ท่านๆจึงรักษาคุณ เพราะ จิตคุณสื่อกับท่านได้

- สาเหตุอีกอย่างก็คือ ชาติ....ก่อน...คุณเคยเกิดในตระกูลใด เช่น สายอินเดีย (แขก) สายจีน คุณก็จะมี...เทพสายนั้น ปกป้อง จึงไม่แปลก และจำไว้เลยว่า.... หากบ้านคุณ มาจากสายไหน จะมาจากสายเดียวกันทั้งบ้านครับ

** ยกตัวอย่าง บ้านไหนมาจากสาย แขก ก็จะมีความเกี่ยวข้องกันมาในอดีตชาติ ทั้งบ้านครับ ถึงได้มาอยู่รวมกัน

*** เพราะ ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่จะรู้ได้ว่า คุณมีเทพ คุ้มครองอยู่ เพราะ เทพนั้นๆ เกี่ยวพันธ์กับคุณ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ

 

ใครอ่านแล้วคิดยังไงช่วยเขียนกันหน่อยนะ

 

อนุโมทนา...
มนุษย์ทุกนามมีเทพเทวดาดูแลปกปักษ์รักษาด้วยกันหมดทุกคน แต่จะมาดูแลท่านละกี่องค์นั้น ก็แล้วแต่บุญบารมี แต่อย่าได้ยึดมั่นถือมั่นในเรื่องนี้เลย รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ ผ่องใส ใจสะอาดเถิด เพราะศีลที่รักษานั่นแหละ จะกลับมารักษาตนเช่นกัน ถ้าจะยึดมั่นถือมั่น ก็จงยึดมั่นในความดีให้กระทำได้ในทุกวัน รักษา กาย วาจา และ ใจ ให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ ไปพร้อมๆ กับการรักษาศีลนั่นแหละ และศรัทธา ในพระรัตนตรัย ไว้เถิด มิเสียหลายดอก เมื่อมีพระพุทธองค์ พระธรรมวินัย และพระอริยสงฆ์ อยู่ในใจแล้ว เท่านั้นใจก็เป็นสุข เมื่อทุกข์มา ใจก็พร้อมจะผจญทุกข์นั้นได้โดยมิหวาดหวั่น สาธุ