เมื่อพุทธภูมิกลายเป็นนางแก้ว..นางแก้วมาเป็นพุทธภูมิแทน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย rose2009, 18 พฤษภาคม 2010.

  1. patuwan

    patuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +842
    สาธุ

    อ่านแล้วก็....งง....( เพราะมีความรู้ไม่ถึง ) ...ขออนุโมทนากับพุทธภูมิและนางแก้วก็แล้วกัน......สาธุ
     
  2. patuwan

    patuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +842
    สาธุ

    อ่านแล้วก็....งง....( เพราะมีความรู้ไม่ถึง ) ...ขออนุโมทนาและเอาใจช่วยกับพุทธภูมิและนางแก้วก็แล้วกัน......สาธุ
     
  3. โพธิ์เพชร

    โพธิ์เพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +133
    กำลังคล้อยตาม มาสับสนสะดุดตรง มีพระอิศวรเทพเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

    กำลังคล้อยตาม มาสับสนสะดุดตรง มีพระอิศวรเทพเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    อ้าว..ท่านพี่ Tamsak มาตอบแทนซะแว้ว...จะให้น้องไหน่ฮวยเดาซะหน่อย อ้าว..ท่านพี่ Tamsak มาตอบแทนซะแว้ว...หมดสนุกเลย อิอิ


    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2010
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ลองฝึกการระลึกชาติแล้วย้อนไปดูว่า แท้จริงเราปรารถนาอะไรกันแน่ หากพบว่า มีความปรารถนาทั้งสองอย่าง ก็ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ เมื่อสร้างบุญทุกครั้ง ให้อธิษฐานซ้ำ ๆ ถึงแม้จะเป็นการปรารถนาในใจก็ตาม หรือหากเบื่อการเดินทางก็ลา เข้าพระนิพพานในชาตินี้ก็แล้วแต่เจตนาค่ะ


    สำหรับผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ หรือนางแก้วก็ตาม การระลึกชาติมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเราจะได้ทราบว่า เราพร่องในการสร้างบารมีส่วนใด ก็เติมส่วนนั้นเต็ม:cool: หรือแก้ไขสิ่งที่เราเคยบกพร่องแต่กาลก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างกรรมใหม่ และจะมีผลต่อเราในอนาคต

    แต่เมื่อระลึกชาติได้แล้ว ไม่ควรยึดติดในภพชาตินั้น ให้รู้เพียงเพื่อแก้ไขกรรม เห็นความทุกข์ของการเกิด

    เมื่อระลึกชาติคล่องตัวแล้ว อีกประการควรจะใช้คือ อตีตังคญาณ คือ การย้อนอดีตไปดูการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์แต่กาลก่อนว่า ในแต่ละชาติท่านบำเพ็ญมาอย่างใด เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขการบำเพ็ญบารมีของเราต่อไป


    ส่วนวิธีการปฏิบัติเรื่องของการระลึกชาติ ไม่ขอแนะนำนะคะ เพราะสามารถหาอ่านได้ในเว็บ หรือไปฝึกในสถานที่เปิดสอนพระกรรมฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ


    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2010
  6. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ขออภัยด้วยนะที่มาขัดความสำราญ อิอิ...



    .
     
  7. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ อนุโมทนาครับ
    ท่านน้ำใส รู้ได้งัยครับ ว่านางแก้ว " ประเภทศรัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ หาใช่เพียงการอนุโมทนาบุญไม่ การบำเพ็ญบารมีนั้น ยากพอ ๆ กับเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพันกันทีเดียวจึงจะผ่าน. "
    นะครับ
    มีที่มาไหมครับ ?????
    อยากรู้ครับ ????
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ท่าน น้ำใส ครับ
    มีคนสามารถใช้ญาณย้อนดูอดีตของพระโพธิสัตว์ ได้ด้วยเหรอครับ ???? งง
    ผมเห็นแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มีญาณ " อตีตังคญาณ " นะครับ
     
  9. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ถ้าบารมีเกือบเต็ม เท่าที่ทราบจะไม่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานนะครับ ผิดถูก ประการใด ต้องวานผู้รู้มายืนยันครับโมทนา
     
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    คนที่ฝึกแล้วได้ "อตีตังสญาณ" (ดูอดีต) และ "อนาคตังสญาณ" (ดูอนาคต) ได้ มีเยอะครับ เพียงแต่ความแม่นยำอาจจะไม่ 100%

    เพราะคนที่แม่นยำที่สุด คือ พระพุทธเจ้าครับ

    ฝากไปอ่านเล่นครับ

    อนาคตังสญาณ และ ปัจจุปปันสญาณ คืออะไร
     
  11. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    แนะนำให้ศึกษาเรื่อง "คู่บารมี" เพิ่มเติมครับ

    นางแก้วที่เป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์จะต้องมี ศีลเสมอกัน ปัญญาเสมอกัน จาคาเสมอกัน และศรัทธาเสมอกัน

    เทียบง่าย ๆ ว่าศีล คือ พื้นฐาน ดังนั้นนางแก้วก็พระโพธิสัตว์ก็ไม่น่าจะต่างกัน

    เทียบเรื่องปัญญาเสมอกัน ถ้านางแก้วมีกำลังใจ (บารมี แปลว่า กำลังใจ) ไม่เทียบเท่าพระโพธิสัตว์ นางแก้วจะอนุโมทนาบุญและเร่งบารมีไม่ทันครับ ดังนั้นนางแก้วย่อมมีปัญญาไม่แพ้พระโพธิสัตว์ครับ เพราะนางแก้วมีหน้าที่สำคัญ คือ เกื้อหนุน และ ค้ำจุนพระโพธิสัตว์ครับ แนะนำให้อ่านเรื่อง มโหสถบัณฑิตครับ

    เทียบเรื่องจาคาเสมอกัน ในข้อนี้นางแก้วอาจจะมีมากกว่าพระโพธิสัตว์ด้วยซ้ำ เพราะจาคาแปลว่า การสละ ซึ่งสุดยอดของการสละ ไม่ใช่แค่การสละคนรัก หรือ สละลูกเท่านั้น

    แต่สุดยอดของ "จาคา" คือ บุคคลผู้เป็นแม่ ต้องยอมสละลูกของตนเอง เป็นทานให้แก่ผู้อื่น ดังนั้นหัวใจแม่ในเรื่องนี้จะยิ่งใหญ่มากครับ นอกจากนั้น หลายครั้งที่นางแก้วต้องสละชีพเพื่อปกป้องพระโพธิสัตว์ครับ ลองอ่านเรื่องพระศรีสุริโยทัยดูครับ

    มาถึงเรื่องสุดท้าย ศรัทธาเสมอกัน ถ้านางแก้วไม่มีศรัทธาเสมอดังพระโพธิสัตว์ก็จะไม่สามารถอธิษฐานตามไปเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ได้ครับ ทำให้นางแก้วบางคนต้องลาพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นกลางคัน (เพราะสร้างบารมีตามไม่ทันเลยต้องกลายเป็นนางแก้วลำดับท้าย ๆ ดังนั้นลาดีกว่า หุหุ)

    ผิดถูกประการใด วานผู้รู้ช่วยแนะนำครับ

    โมทนา
     
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ตามความเชื่อของบางคนนั้น ผมไม่แน่ใจว่า พระอิศวร คือ พระอินทร์ หรือ เป็นมหาเทพผู้ครองสวรรค์ชั้น 6 ครับ

    ต้องรบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ

    โมทนา
     
  13. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    ถาม : คนมักจะพูดกันต่อๆ มาว่า เกิดมาเป็นผู้หญิงนี่เป็นผู้มีกรรม หรือมีกรรมมาก และทำอย่างไรจะได้เกิดเป็นผู้ชายคะ

    พระธรรมปิฎก : ทุกคนมีกรรมทั้งนั้น ไม่ว่าหญิงหรือชาย มันอยู่ที่ว่า กรรมดีหรือไม่ดี ถ้ามีกรรมมาก เป็นกรรมดีก็ดีน่ะสิ โดยมากภาษาไทยจะมี ปัญหาอยูในตัว คำว่ามีกรรมนี่กลายเป็นว่ากรรมที่ไม่ดีไป ในเรื่องนี้อรรถกถา ก็จะพูดถึงว่า ทำไมไปเกิดเป็นหญิง แล้วก็ว่าเพราะทำกรรมไม่ดีอย่างนี้ๆ นี่ เป็นคำอธิบายของพระอรรถกถาจารย์ แต่ในพระไตรปิฎกไม่มี ในพระ ไตรปิฎกจะเน้นไปในแง่ของจิตที่ยึดถือผูกพันโน้มไป ก็หมายความว่าการตั้ง จิตนี้ละเป็นสาระสำคัญ จิตที่โน้มเอียงยึดถือพอใจในภาวะเพศนี้แหละ ถ้าผู้หญิงพอใจโน้มใจผูกพันยึดถือในเพศที่เป็นหญิง ก็จะโน้มไปในการที่จะ เกิดเป็นหญิง แต่ถ้าไปพอใจในความเป็นชาย ก็มีความโน้มไปในการที่จะเกิด เป็นชายเช่นเดียวกัน อยู่ที่จิตผูกยึดโน้มพอใจ ทีนี้ถ้าเรามาโยงกับอรรถกถา ก็อาจจะมองได้ว่า อรรถกถาอธิบายในเชิงคล้ายๆ ว่า สมัยนั้นสังคมยึดถือผู้ ชายเป็นหลัก เมื่อผู้ชายไปล่วงละเมิดคู่ครองของคนอื่น จิตก็จะครุ่นคิดหมกมุ่น ในเรื่องผู้หญิงมาก ก็จะไปเกิดเป็นหญิง แต่ผู้หญิงที่ภักดีต่อสามี เอาใจใส่ ปฏิบัติสามี ปฏิบัติดีอะไรต่างๆ จิตก็ผูกอยู่กับผู้ชายมาก ก็โน้มไปในทางที่จะ เกิดเป็นชาย ถ้าอธิบายอย่างนี้ก็พอจะเข้ากับหลักในพระไตรปิฎก ที่ว่าไว้เป็น กลางๆ คือหมายถึงสภาวะจิต หรือความโน้มเอียงของจิตเป็นสำคัญ

    ถาม : แต่เดี๋ยวนี้มันไม่เป็นหญิง เป็นชาย

    พระธรรมปิฎก : ไม่ใช่พูดแค่ตัวภาวะเพศเท่านั้นนะ แต่หมายถึงการพัฒนา คุณสมบัติ คือไม่ใช่พอใจในเรื่องเพศ เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ แต่หมายถึง พอใจในคุณสมบัติที่แสดงถึงความเป็นชาย เช่น คุณสมบัติในความเข้มแข็ง ความเด็ดเดี่ยวอะไรต่างๆ

    ที่มา : http://www.budpage.com/borntobe.shtml
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2010
  14. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    ผู้ที่ได้อิตถีภาวรูป(เกิดเป็นหญิง) เพราะชาติแต่ปางก่อนได้ประกอบกุศลกรรมอย่างอ่อนที่ เรียกว่า ทุพฺพลกุสลกมฺม เป็นกรรมที่ประกอบด้วยความเลื่อมใสก็จริง แต่ก็เจือปน ไปด้วยความไหวหวั่น (อวิสทฺธาการ)<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    ส่วนผู้ที่ได้ปุริสภาวรูป (เกิดเป็นชาย)เพราะอดีตชาติได้ประกอบกุสลกรรมที่สูงส่งด้วยศรัทธา ความเลื่อมใส แรงด้วยอธิโมกข์ความชี้ขาด ปราศจากความหวั่นไหว อันจะเป็นเหตุ ให้เกิดความย่อหย่อน กุศลกรรมอย่างนี้เรียกว่า พลวกุสลกมฺม เป็นกุศลกรรมอัน ทรงพลัง จึงยังผลให้เกิดเป็นชาย

    ที่มา : http://www.abhidhamonline.org/aphi/p6/023.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2010
  15. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    ถ้าลองปรารถนาพุทธภูมิจะมีสิ่งทำให้ต้องร้องไห้อยู่เรื่อย เลยตั้งจิตที่นิพพานเเล้วรู้สึกสบายกว่า เเต่ก็ยังปรารถนาสงเคราะห์สรรพสัตว์ พี่ๆว่าอารมณ์เเบบนี้ปรารถนาอะไรคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2010
  16. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    ต้องบำเพ็ญให้ได้ระดับเดียวกัน ถึงจะมีกำลังในการบำเพ็ญบารมีที่ยวดยิ่ง เพราะบางชาติต้องบริจาคลูกเป็นทาน อย่างในมหาเวสสันดรชาดก
     
  17. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถึงด่านปราบเซียน

    บริจากมหาทาน จะผ่านไหนนา

    ยังไม่รวมปรมัตถบารมีก็จอดแล้ว

    ไปกันยังไม่ได้ ตัดไม่ขาด จากโลกขี้สงสาร
     
  18. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    สาธุอนุโมทามิ ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ช่วงเข้าพรรษาจะไปเก็บตัวดูจิตสักพัก..คงได้คำตอบเพิ่มขึ้น
    (จิตเดิมเบื่อมนุษย์...แม้แต่จิตตัวเองยังเบื่อ ไม่อยากได้อะไรทั้งสิ้น...)
     
  19. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    เพิ่งรู้วันนี้นะคะว่า...จิตของนางแก้วมีจาคะระดับนี้ นึกว่าผู้ที่สละได้คือ ผู้ที่สร้างบารมีเป็นพุทธภูมิเท่านั้น...
    ปกติหญิงจะยอมตายเพื่อลูกและสามีเป็นลำดับแรก...ต่อมาก็พ่อ-แม่ พี่-น้อง แล้วค่อยมาคิดสละชีพเพื่อสาธารณชนทีหลัง...มีน้อยที่จะสละชีพเพื่อส่วนรวมก่อน...
    เท่าที่สังเกตุพฤติกรรมของจิต หญิงมีความยึดมั่นผูกพันเหนียวแน่นมากกว่าชาย สละสิ่งอันเป็นที่รักได้ยาก...โดยเฉพาะลูกและสามี ยอมตายดีกว่ายกให้ใคร หรือหากต้องตาย ขอตายแทนดีกว่าแบบนี้แหละ...
    ก็เลยคิดว่าจิตใครบรรลุจาคะขั้นนี้ ย่อมแสดงว่าบำเพ็ญมาทางพุทธภูมิมากกว่าเป็นนางแก้ว...เพราะสละสิ่งที่สละได้ยาก...สละชีวิตตนได้...สละสิ่งอันเป็นที่รักยิ่งได้เพื่อประโยชน์มวลชนและรักษาคุณธรรม...
    หากประกอบกับภาวะจิตที่มีความเป็นผู้นำสูง ศรัทธาใครยากด้วย น่าจะมาทางพุทธภูมิไม๊...
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    พระมหาโพธิสัตว์จะไม่สามารถสร้างทานบารมี ในขั้นปรมัตถบารมี 2 เรื่อง ได้ถ้านางแก้วคู่บารมีไม่ยินยอม คือ

    1. นางแก้วไม่ยินดีในการเป็นทานให้พระมหาโพธิสัตว์
    2. นางแก้วไม่ยินดีในการยกบุตรของตนเป็นทานให้พระมหาโพธิสัตว์

    แนะนำให้ลองอ่านเรื่องพระเวสสันดรชาดกครับ ตอนพระเวสสันดรบริจาคลูกและภรรยาเป็นทาน

    ลองนึกถึงหัวใจของนางแก้วคู่บารมีดูครับ

    เป็นปรมัตถบารมีปลายเช่นกัน เพราะไม่มีนางแก้วคู่บารมี ก็ไม่มีพระมหาโพธิสัตว์ครับ

    โมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...