ทุกคนเข้ามาทางนี้คราบ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เปรมจะทำดี, 16 พฤษภาคม 2010.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ ดีใจที่รู้ว่าคุณต้นละ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีครับ
    และดีใจที่เขาเข้าใจพระนิพพานตรงกันกับผมครับ

    พระอาจารย์เล็ก ท่านเป็นลูกศิษย์สายตรงหลวงพ่อฤาษีลิงดำเหมือนกันครับ
    ทีมงานเว็บพลังจิต เชื่อว่าท่าน "จบกิจ" แล้ว (ความเชื่อส่วนบุคคล)

    โมทนาครับ ถ้ามีโอกาสแนะนำให้คุณ J47 ไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลมดูครับ จะเป็นประโยชน์กับตัวคุณเองครับ
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มีพุทธพยากรณ์แม่นยำที่สุดครับ ดังนั้นประเด็นนี้ผมเห็นด้วยครับ
     
  3. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ

    วรรณะเป็นตัวแยกคนในมุมมองของพราหมณ์
    ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่เห็นด้วยในการแยกคนแบบนี้

    แต่พระพุทธเจ้าแบ่งแยกคนเป็นบัว 4 เหล่า ตามที่เราเข้าใจ
    โดยเหล่าสุดท้าย บัวใต้ตม ที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนนั้น
    ไม่ใช่ว่า พระองค์สอนไม่ได้ หรือ ไม่อยากสอน
    แต่เป็นเพราะคนกลุ่มนี้เขายังไม่ถึงวาระที่จะรับธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน

    ถ้าอ่านในพุทธประวัติจะทราบว่า เมื่อตรัสรู้ใหม่ ๆ พระพุทธเจ้าพิจารณายืนพิจารณาธรรม (ไม่กระพริบตา) ถึง 7 วันว่า ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงพบ จะมีผู้ใดเข้าใจหรือไม่ จนพระอินทร์ หรือ พระพรหม (ผมจำไม่ได้) ต้องแปลงกายมาทูลขอให้แสดงธรรม

    โมทนาครับ ตอบยาว ๆ นี่เหนื่อยเหมือนกันนะครับ
     
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    วันนี้เอาเท่านี้ก่อนนะครับ หิวข้าวแล้วครับ เดี๋ยวผอมแย่ครับ

    ผมเองเป็นแบบนี้แหละครับ ตรง ๆ ถ้าล่วงเกินท่านใดต้องขออภัยด้วยครับ

    อ่านได้ในกระทู้ของผมที่สวัสดีเพื่อน ๆ ในห้องกฎแห่งกรรมทุกคนที่ปักหมุดไว้นะครับ

    ผมแจ้งแนวทางการทำงานไว้แล้ว และผมยึดแนวทางการทำงานนั้นมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมาครับ

    โมทนาครับ
     
  5. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ท่านครับ
    ไม่สมควรที่จะไปเช็คข้อมูลของคนอื่นนะครับ
    ถึงผมจะเป็นญาติหรือพี่น้อง คนร่วมงาน หรือคนเดียวกัน กับน้อง J47 ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับกระทู้เลยนิครับ
    เป็นถึงทีมงานมีจรรยาบรรณมั้งดิครับ
     
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับผม ผมนับถือหลวงพ่อเป็นอาจารย์ครับ
    พระนิพพานของผมอาจจะไม่เหมือนท่าน ( โกโมโด )ก็ได้นะครับ

    น้อง J47 เขาคงไม่ฝึกมโนม.. หรอกครับ เคยบอกน้องเขาแล้ว ( น้องเขาบอกว่าเด็กๆๆๆ ) อัธยาสัยของน้องเขาไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องนั้นนะครับ ( ดูท่าทางจะปรารถนาพุทธภูมิซะด้วย )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2010
  7. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ดูจากการตอบของน้อง j47 แล้วเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ บางเรื่องผมเองไม่คิดขนาดนั้นเหมือนน้องเขาเลย อิอิ

    ส่วนเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆๆๆนั้น พระองค์เสวยวิมุติ 7 สัปดาห์ไม่ใช่ครับ
    อีกอย่างก็เป็นทำเนียมของพระพุทธเจ้าทุกๆๆพระองค์อยู่แล้วนะครับ ที่พระพรหมจะต้องมาอาราธนาในการโปรดสัตว์ ....ทั้งหลายนะครับ

    ตอบยาวๆๆๆ........เหนื่อย...อิอิ อย่าพึ่งเหนื่อยสิครับ น้อง J47 อายุ 19 เอง สู้ๆๆครับ
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ท่านครับ
    มีคนส่งข้อความมาทาง PM ของผมเยอะมากเลยนะ
    ส่งข้อความมา ต่อว่าท่าน นะครับ อิอิ
    ไป เม้นส์ ชาวบ้านไว้เยอะสิท่า
    ระวัง..........นะ อิอิ ล้อเล่นนะครับ อย่าคิดมาก
     
  9. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    นิพพานมิใช่ดินแดนนะครับ ไม่ใช่สภาวะที่ว่าเป็นอัตตาหรืออนัตตาด้วย
    นิพพานพ้นจากอิทัปปัจจยตาไป เนื่องจากนิพพานไม่ใช่จิต ไม่มีการปรุงแต่ง
    ดังนั้นจึงไม่มีสัมพัทธภาพ เมื่อไม่มีสัมพัทธภาพ กาลเวลาจะไม่มี ระยะทางจะไม่มี
    ไม่มีซ้าย-ขวา หน้า-หลัง บน-ล่าง เพราะไร้ซึ่งการเปรียบเทียบ ไม่มีเรา-เขา
    จึงพ้นจากความหลง และรู้แจ้งแทงตลอด เนื่องจากระยะทางไม่มีแล้ว กาลไม่มีแล้ว...
    นิพพานใช่ว่ารู้ทันกิเลส แต่กิเลสสิ่งเป็นเครื่องเศร้าหมองได้ดับไป กิเลสสิ้นเชื้อแล้ว...

    คหการก ทิฏฺโฐสิ - ดูก่อนช่างผู้สร้างเรือน ก็บัดนี้ ท่านเป็นผู้อันเราสามารถเห็นได้ด้วยดวงตา คือพระอริยมรรคนั้นแล้ว.

    ปุน เคหํ - เจ้าจะไม่กระทำ คือจักไม่สร้างเรือนของเรา กล่าวคืออัตภาพในสังสารวัฏนี้ต่อไปได้อีก.

    สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา - ซี่โครงคือกิเลสทั้งปวงของเจ้า อันเราหักแล้วโดยไม่มีส่วนเหลือ.

    ถูณิกา จ วิทาลิตา - และบัดนี้เราทำลายช่อฟ้า กล่าวคืออวิชชา แห่งเรือนคืออัตภาพ อันท่านพึงกระทำเสียแล้ว.

    วิมริยาทิกตํ จิตฺตํ - จิตของเราอันเรากระทำให้มีที่สุดไปปราศแล้ว คือให้ถึงความไม่ต้องเกิดต่อไปเป็นธรรมดา.

    เพราะเหตุนั้นแล จิตของเราจักดับอยู่ในภพนี้เอง คือจักถูกกำจัดเสียในภพนี้แหละ ได้แก่จักดับไปด้วยการดับแห่งจิตดวงสุดท้าย.

    นิพพาน จึงไม่ใช่จิตแล้ว กิเลสทั้ง๑๐ดับมอดแล้ว สังโยชน์ทั้ง๑๐ได้ทลายลงแล้ว ไม่มีกิเลสให้รู้เท่าทันอีก เมื่อพ้นไป ไม่มีอวิชชา ไม่มีสิ้นอวิชชา ไม่มีบรรลุ ไม่มีการไม่บรรลุ แม้แต่ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ก็ไม่มี เพราะถึงซึ่งความดับกิเลส อวิชชา...จิตจึงไม่เหลือ ไม่ปรุงแต่ง สู่ธรรมชาติอันแท้จริง สิ้นอายตนะทั้ง๖ ด้วยประการนี้แล...
     
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ไม่มีใครไม่โดนนินทาครับ ในการทำหน้าที่ย่อมมีผู้พอใจและไม่พอใจครับ
    ผมเลือกที่จะทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว ดังนั้นความเห็นลับหลังไม่มีผลต่อผมครับ
    ผมจะพิจารณาเฉพาะความเห็นซึ่งหน้าเท่านั้นครับ

    ผมใช้หลักนี้ยึดเหนื่ยวจิตใจครับ

    [​IMG]


    นินทานั้นไม่มีโทษ...แก่ผู้ถูกนินทาเลย


    ผู้ถูกนินทาพึงมีเหตุผล

    คำ นินทาใดๆ ไม่อาจทำคนดีให้เป็นคนไม่ดีไปได้ คนจะดีก็เพราะกรรม คนจะเลวก็เพราะกรรม หาใช่จะดีเพราะสรรเสริญ หรือจะเลวเพราะนินทาก็หาไม่

    ควร ถือความจริงนี้เป็นสำคัญ และอย่าทำหรือไม่ทำอะไรเพราะกลัวนินทาหรือเพราะปรารถนาสรรเสริญ อย่าทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่แม้เพียงสงสัยว่าเป็นกรรมไม่ดี แต่จงทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่พิจารณาแล้วตระหนักแน่ชัดว่าเป็นกรรมดีเท่ากัน แม้ว่าการทำกรรมดีจะมีผู้นินทา

    นินทา นั้นไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย ถ้าผู้ถูกนินทาไม่รับ คือไม่ตอบ เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ แต่คำนินทาว่าร้ายทั้งจะตกเป็นของผู้นินทาทั้งหมด ผู้นินทาคือผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี ไม่ว่าผู้ถูกนินทาจะรับหรือไม่รับก็ตาม ผู้นินทาย่อมได้รับผลไม่ดีแห่งกรรมไม่ดีของเขาอย่างแน่นอน

    ดังนั้น แม้เมื่อถูกนินทาแล้ว ก็ให้คิดว่าผู้นินทาเราได้รับการตอบแทนแล้ว คือได้รับผลของกรรมไม่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ปรากฏช้าหรือเร็วเท่านั้น ผลของกรรมไม่ดีนั้นแหละได้ตอบแทนเขาผู้นินทาแล้ว เราไม่มีความจำเป็นต้องตอบแทนแต่อย่างใด

    ความ เชื่อในเรื่องกรรมและผลของกรรมมีคุณอย่างที่สุด ผู้ใดทำกรรมไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น ความเชื่อเช่นนี้จักทำให้ไม่คิดร้ายตอบผู้คิดร้าย เป็นการระงับเวรภัยไม่ให้เกิดแก่ตน เป็นการป้องกันตนมิให้ทำกรรมไม่ดี ทั้งทางกายวาจาและใจ โดยมุ่งให้เป็นการแก้แค้นตอบแทน ผลจักเป็นความสงบสุขแก่ตนและแก่ผู้อื่นด้วย

    ที่มา : การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก<!-- google_ad_section_end -->

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2010
  11. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    สมัยหลวงพ่อฤษี ลูกศิษหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่สมัยท่านยังเป็นพระหนุ่มๆอยู่


    หลวงพ่อท่านมีความรู้ ด้านปริยัติธรรมมาก หลวงพ่อท่านจบ นักธรรมเอก จบป.ธ.๔

    ท่านเป็นพระมหาเปรียญ

    ความเชื่อของหลวงพ่อท่าน ก็คือแบบเราๆ ท่านๆ ก็คือ นิพพานไม่มีุณลักษณะใดๆ

    ไม่มีเหตุ ไม่มีจจัย เพราะมันจบสิ้นแล้ว ประดุจควันไฟที่ลอยไปในอากาศ หาไม่เจอ

    หาไม่ได้ว่าไปสถิต ไปอยู่ณ.ที่แห่งใดกันแน่

    หลวงพ่อพระราชพหรมยานเถระ หรือหลวงพ่อฤษี ท่านเป็นนักสมาธิเช่นกัน

    พหรม เทวดา ท่านเคยพบ เคยเห็น ตั้งแต่ก่อนบวช แต่ไม่เคยเห็นนิพพาน

    ประวัติของหลวงพ่อท่าน ท่านทำสมาธิตั้งแต่เด็กๆเลยทีเดียว ลองหาอ่านดูนะครับ

    หลวงพ่อท่านเป็นนักสมาธิ มาก่อน ไม่ไช่นักวิปัสนาญาณ ความเชื่อของหลวงพ่อท่าน

    สมัยแรกๆ ก็คือนิพพาน ไม่มี ไม่เหลืออะไรเลย เหมือนควันไฟที่ล่องลอยไปในอากาศ

    พอท่านบวชอยู่มาได้สักระยะหนึ่ง สักพักไม่นาน ก็หลายปีอยู่ แต่ก็ยังเป็นพระหนุ่มอยู่

    หรีอยังเด็กอยู่

    หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็ได้ส่งหลวงพ่อและฤษี และพระเพื่อนทางธรรม สหายธรรม

    ไปฝึกพระกรรมฐานกับ ท่านเจ้าคุณ เทพมงคลมุนี หรือหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ

    ก็คืวิชาพระธรรมกาย

    มีอยู่วันหนึ่ง หลังจากวสดมนต์ เจริญพระกรรมฐานที่พระอุโบสถ หลวงพ่อสด

    ท่านก็ได้อบรมพระกรรมฐาน กับบันดาศิษยาสานุศิษย์ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ท่านได้เทศน์บอกว่า

    พระนิพพานนี่ มันเป็นเมืองแก้วนะ (เพชร) ท่านบอกท่านไปมาไปเที่ยวมาเมื่อคืน ที่นั่นสวยสดงดงามาก

    หลวงพ่อฤษีท่านก็ได้ฟัีงอยู่ด้วย แต่ท่านก็นั่งเฉยๆ ไม่ได้แสดงออกอะไร แต่ใจท่านคิด

    ท่านบอกนะ ใจหลวงพ่อฤษีท่านคิดว่า หลวงพ่อสดนี่ ท่าทางประมาณว่าคงจะไปกันใหญ่แล้ว (ก็คือเพี้ยน) ใจมันคิดไปเอง แต่ไม่ไดปรามาสหลวงพ่อท่านบอก ต่อมาหลวงพ่อสด ท่านก็ได้อนุญาต

    ไห้พระทั้งหมดกลับที่พักได้ ยกเว้นคณะหลวงพ่อฤษี

    หลวงพ่อสดท่านก็ได้ชวน คณะของหลวงพ่อฤษี ก็มีหลวงพ่อโพธิวัตรเป็นต้น

    คือท่านทำวัตรเย็นนะ พอทำเส็จก็มืดค่ำพอดี หลวงพ่อสดท่านชี้ไห้หลวงพ่อดูดาวประจำเมือง ที่สุกสว่าง

    หลวงพ่อสด ได้ถามหลวงพ่อฤษีว่า เห็นดวงดาวนั้นไหม หลวงพ่อฤษีท่านก็ตอบว่ามองเห็นครับ

    หลวงพ่อสดท่านบอกดูนะ เดียวยดาวมันจะหายไป พอพูดจบ ดวงดาวก็หายไปจริงๆ

    แล้วท่านก็บอกต่อว่า เดี๋ยวนะ เดี๋ยวดวงดาวก็จะปรากฏไห้เห็นเหมือนเดิม ดวงดาวก็กลับมาเห็นเหมือนเดิมจริงๆ

    หลวงพ่อฤษีท่านก็ตกใจ ท่านคิดทันทีเลย ว่าหลวงพ่อสด ทรงคุณความดีขนาดนั้น

    แล้วเรื่องที่หลวงพ่อสดได้กล่าวว่านิพพานมีสภาวะไม่สูญ ก็ต้องเป็นจริงตามนั้น

    พุทธวจน นะครับ นิพพานนัง ปรมัง สุญญัง นิพพาน ปรมัง สุขขัง

    นิพพาน ปรมัง สุญญัง = นิพพาน มีสภาวะ หรือว่าง หรือสุญ แต่สุญในที่นี้ ก็คือ สุญจากกิเลส แม่แต่ธุลีของกิเลสก็ไม่มี โลภ โกรธ หลง ไม่เหลืออยู่ในใจ

    นิพพานนัง ปรมัง สุขัง = นิพพานเป็นเอกตบรมสุข ก็คือหาความสุข อะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ มีความสุจขปราณีตที่สุด

    ที่ท่านได้กล่าวว่า นิพาพานเป็นสุขอย่างยิ่ง เป็นเอกตบรมสุข ถ้าสุญไำปหมดเลย

    แล้วจะเอาอะไรมารับสัมผัสความสุขได้ล่ะ มันต้องมีตัวรับสัมผัส รับความรู้สึกไช่ไหม

    อนุโมทนาครับ







    จะหาที่ใดเปรียบเทียบไม่ได้เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2010
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมไม่ได้เช็คอะไรทางลึกครับ เพราะทีมงานผู้ดูแลห้องแต่ละห้องจะเห็นไอพีของสมาชิกทุกคนโชว์อยู่แล้ว เพื่อให้ทีมงานแยกแยะได้ว่า มีใครปลอมตัวมามากวน หรือ มาป่วนหรือไม่

    แต่เราจะมองคนในแง่ดีก่อนว่า อาจจะอยู่บ้านเดียวกัน หรือ ที่ทำงานเดียวกันก็ได้ ดังนั้นผมก็เลยถามไปตรง ๆ

    อีกอย่าง ผมก็ไม่ได้ track ข้อมูลกลับไปว่า ใครอยู่ที่ไหนครับ
    และไม่ได้เอาไอพีคุณต้นละไปเผยแพร่ให้คนอื่นทราบ แต่ที่ถาม
    เพราะน้องเขาถามเยอะ และต้องใช้การอธิบายนาน
    ถ้าอยู่ที่เดียวกับคุณต้นละ ผมก็จะได้แนะนำให้ไปถามคุณต้นละจะง่ายกว่า

    ที่ผมถามน้อง J47 ไปนั้น ผมถามด้วยการให้เกียรติแล้วว่า
    ถ้าอยู่ที่เดียวกับคุณต้นละ ก็น่าจะถามคุณต้นละดีกว่า

    เพราะปกติน้องเขาไม่เคยตอบข้อความเลย และเพิ่งตอบครั้งแรก
    ซึ่งน้องเขาตอบมาเองว่า เขาทำงานที่เดียวกับคุณ และเหมือนจะบอกว่า
    เป็นคนสมัครให้คุณ ว่าแต่คุณต้นละขยันมากเลยครับ ทำงานวันอาทิตย์ด้วย

    สำหรับจรรยาบรรณในฐานะทีมงาน อันนี้แล้วแต่คนจะคิดครับ
    จริง ๆ แล้วผมก็ทำหน้าที่ของผมครับ เพียงแต่อาจจะไม่ถูกจริตคุณต้นละหรือสมาชิกบางท่านเท่านั้น

    สำหรับเรื่อง PM ไปต่อว่าผมถึงคุณต้นละนั้น ก็แล้วแต่พิจารณาครับ
    เพราะเว็บมักจะมอบให้ผมเป็นคนไกล่เกลี่ยและจัดการกับปัญหาความขัดแย้งในหลาย ๆ ครั้ง ดังนั้นย่อมมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจครับ

    คิดง่าย ๆ ว่า ขนาดเรื่องของคุณต้นละไปโต้กับ อ.กร ในห้องพุทธภูมิ ยังมีคนส่ง PM มาฟ้องเลยว่า ใช้คำที่... ซึ่งผมก็ไปอ่านแล้ว ผมก็เฉย ๆ เพราะคำที่ใช้จะขึ้นกับจริตของแต่ละคนมากกว่า ผมไม่เคยเอาสิ่งที่คุณต้นละโพสต์ หรือ ใคร ๆ โพสต์มาตัดสินว่า คุณเป็นคนเช่นไร เพราะผมเข้าใจว่า บางคนโทสจริต บางคนโมหจริต หรือจริตแบบอื่น ๆ

    แต่ผมจะพิจารณาว่า สิ่งที่แต่ละคนทำนั้น เหมาะสมหรือไม่ และอยู่ในวิสัยที่ควรเตือนหรือไม่ ถ้าเห็นว่า ควรเตือน ผมก็เตือน ถ้าไม่ควรเตือน ผมก็ปล่อย เพราะผมได้แจ้งไปแล้วว่า ผมทำหน้าที่ของผมยังไง

    เรื่องบางอย่างแล้วแต่คนจะพิจารณาครับ เพราะภูมิธรรมของแต่ละคนไม่เท่ากัน
    ผมเองไม่ได้บอกว่าผมดี ผมยังมีความเลวอยู่เยอะ แต่ผมมีหลักในการดำเนินงาน และวิธีการทำงานในรูปแบบของผม

    อีกอย่าง คือ การตัดสินใจของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับบทบาทและหน้าที่ ณ ขณะนั้นว่า ได้รับมอบหมาย หรือ มีสิทธิ์ที่จะดำเนินการใด ๆ ได้บ้างครับ ดังนั้นในระเบียบการใช้เว็บบอร์ดเลยให้สิทธิ์กับทีมงานแต่ละคนในการดำเนินการ

    ผมเรียนตามตรงครบว่า ผมไม่สนใจกับ PM ที่ส่งมาฟ้องว่า คนนั้นเป็นอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้น เพราะคนจริง เขาเตือนกันซึ่ง ๆ หน้าครับ ถ้าลับหลังเขาเรียกนินทาครับ ยกเว้นในบางกรณี มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมจริง ๆ ผมก็ต้องเป็นหนังหน้าไฟออกไปเตือน หลายครั้งผมเตือนตรง ๆ ก็อาจจะทำให้บางคนไม่พอใจก็เป็นได้ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่คน ๆ นั้น จะแบกความโกรธ หรือ ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อผมเอาไว้ครับ

    ผมเรียนไปแล้วว่า ถ้าผมทำผิดจริง ผมรับกรรมเองครับ
    ถ้าผมเป็นทีมงาน แล้วทำผิดจริง กรรมหนักกว่าหลายเท่าครับ
    ดังนั้นให้กฎแห่งกรรมตัดสินผมดีกว่าครับ

    การกล่าวหาผม โดยที่มีข้อมูลไม่ครบ หรือ ใช้แค่ความรู้สึกในการกล่าวหาผมนั้น ไม่คุ้มหรอกครับ อย่าเสี่ยงที่จะมาตัดสินผมแทนกฎแห่งกรรมเลยครับ เพราะผลลัพธ์ของคนที่ตัดสินผมมีแค่ "เสมอตัว" กับ "ขาดทุน" ครับ ผมทำอะไร ผมรู้ดีครับ ให้ผมรับกรรมที่ตัวผมทำดีกว่าครับ

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2010
  13. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    น้องพรานทะเล เป็นแฟนพันธุ์แท้ของหลวงพ่อฤาษีเลยนะครับ

    ผมเห็นด้วยที่น้องตอบมาครับ และขออธิบายเพิ่มเติมสำหรับคนที่คิดว่า นิพพานสูญนะครับ

    ยกตัวอย่าง

    หลวงพ่อฤาษีท่านเล่าว่า คนที่เชื่อว่า นิพพานสูญ พอตายไปจะไปเกิดในชั้นพรหม 2 ชั้น (ผมจำไม่ได้) ซึ่งว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย ก็จะล่องลอยอยู่ในนั้น เพราะไม่มีที่อยู่ เนื่องจากเชื่อว่า ไม่มีอะไร ดังนั้นจึงไม่เชื่อทิพยสมบัติที่ทำมา

    แต่ในพระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ว่า มีชั้นพรหม 2 ชั้นนี้ในสวรรค์ชั้นพรหม
    ดังนั้น แม้ชั้นพรหม 2 ชั้นนี้ที่หลายคนมองว่า ไม่มีตัวตน ก็ยังมีการระบุไว้
    ดังนั้นแสดงว่า ต้องมีที่อยู่จริงไหมครับ

    บางคนนิยามคำว่า "ไม่มีตัวตน" หรือ "อนัตตา" ผิดไป

    เพราะสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน คือ ให้เชื่อในกฎของไตรลักษณ์
    (เกิดมา ตั้งอยู่ และดับไป) ดังนั้นอย่าไปยึดติดกับสิ่งใด ๆ

    ทิพยสมบัติในพระนิพพานก็เช่นกัน ถ้าฝึกมโนมยิทธิจะรู้ว่า
    ทุกคนมีวิมานของตนเองในพระนิพพาน (ความเชื่อเฉพาะกลุ่ม)
    เพราะเราทำความดีมาเยอะ และพระหลายองค์ท่านรับรองแล้วว่า
    นิพพานไม่สูญ

    ดังนั้น คนที่สอนว่านิพพานสูญก็ต้องพิจารณาเอาเองครับ

    แต่ก็เป็นความเชื่อครับ คงจะบังคับให้คนเชื่อเหมือนกันไม่ได้ครับ

    ของอย่างนี้วัดกันตอนตายครับว่า ใครคิดถูกครับ

    โมทนา
     
  14. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขออนุญาต Copy ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยสอนไว้ครับ

    พระนิพพานไม่สูญ


    จาก หนังสือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน


    ท่านนักปฏิบัติได้กำหนดกรรมฐานในอุปสมานุสสตินี้แล้ว ท่านอาจจะต้องประสบกับปัญหายุ่ง สมองในเรื่องพระนิพพานอีกตอนหนึ่ง เพราะบรรดานักคิดนักแต่งทั้งหลาย ได้พากันโฆษณามาหลาย ร้อยปีแล้วว่า พระนิพพานเป็นสภาพสูญ แต่พอมาอ่านหนังสือของพระอรหันต์ท่านเขียน คือหนังสือวิสุทธิมรรค ท่านกลับยืนยันว่า พระนิพพานไม่สูญ ดังท่านจะเห็นตามบาลีทั้ง ๘ ที่ท่านยกมาเป็นองค์ภาวนา นั้น คือ มทนิมฺมทโน พระนิพพานตัดความเมาในชีวิต ปิปาสวินโย นิพพานบรรเทาความกระหายใน กามคุณ ๕ อาลยสมุคฺฆาโต พระนิพพานถอนอาลัยในกามคุณ วัฏฏปัจเฉโท พระนิพพานตัดวนสาม ให้ขาด ตัณหักขโย พระนิพพานมีตัณหาสิ้นแล้ว หรือสิ้นตัณหาแล้วเข้าสู่นิพพาน วิราโค มีความเบื่อ หน่ายในตัณหา นิโรโธ ดับตัณหาได้สนิทแล้ว โดยตัณหาไม่กำเริบอีก นิพพานัง มีความดับสนิทแล้ว จากกิเลส ตัณหา อุปาทานกรรม อันเป็นเหตุให้เกิดอีกในวัฏสงสาร

    ความหมายตามบาลีที่ท่านว่าไว้นี้ ไม่ได้บอกว่า ท่านที่ถึงพระนิพพานแล้วสูญ เพราะความเห็นว่าตายแล้วสูญ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็นความเห็นผิด เมื่อบาลีท่านยันว่านิพพานไม่สูญแล้ว ท่านบรรดานักเขียนนักแต่งทั้งหลาย ท่านเอามาจากไหนว่านิพพานสูญ อันนี้น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่าง เพราะมีพระบาลีบทหนึ่งว่า "นิพพานัง ปรมัง สูญญัง" แปลว่า นิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง ท่านอาจจะไปคว้าเอา ปรมัง สูญญัง โดยเข้าใจว่า สูญโญเข้าให้ เรื่องถึงได้ไปกันใหญ่ เรื่องนิพพานสูญหรือไม่สูญนี้ผู้เขียนไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย เพราะเถียงกันไปก็หาเรื่องจมอยู่ในวัฏฏะสงสารเปล่าๆ เป็นเหตุของทุกข์ เจ้าทุกข์นี้เข็ดหลาบมันเหลือเกินแล้ว มันไม่เมตตาปราณีใครเลย อยากก็ทุกข์ ไม่อยากก็ทุกข์ แต่ทุกข์เพราะไม่อยากเบากว่าทุกข์เพราะอยาก เลยสมัครใจเป็นพวกไม่ค่อยอยาก ถึงแม้จะตัดอยากไม่หมด ก็ค่อยๆ ลดความอยากลง พอลืมตาอ้าปาก เห็นพระจันทร์พระอาทิตย์ได้กระปริบกระปรอย เท่านี้ก็ครึ้มใจพอดูอยู่แล้ว ไม่ดิ้นรนจนสายเปลขาดหรอก ได้เท่าไรเอาเท่านั้น สบายใจดีแล

    ที่มา : www.luangporruesi.com/519.html
     
  15. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=3><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff height=65 colSpan=2>

    [​IMG]
    นิพพานสูญ
    [​IMG]

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=61>ผู้ถาม</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width=435>อาจารย์บางคนเขาว่านิพพานสูญ หมายถึงไม่มีแม้แต่สวรรค์ก็ไม่มี นรกก็ไม่มี
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>หลวงพ่อ</TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top>ไอ้นั่นของเขาว่า เราไปตามทางของพระพุทธเจ้าดีกว่า เขาจะเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าเขาจะเป็นจาน เป็นกาละมังก็ช่างเขาเถอะ ใช่ไหม ในพระไตรปิฎก ก็ไม่มีคำว่านิพพานสูญ บทพิสูจน์มีก็ไม่เรียนกัน
    นิพพานนี่ไม่สูญ แต่คนที่จะไปนิพพานได้ กิเลสต้องสูญ เขาไม่ได้บอกนิพพานสูญ เขาแปลไม่หมดทุกตัว คำว่าสูญ เขาแปลว่า ว่าง นิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง
    หมายความว่า คนที่จิตว่างจากความชั่วทั้งหมด จึงจะเห็นนิพพานได้ ในเวลานั้นนะแต่คนที่จะไปอยู่ในนิพพานได้ ต้องไม่มีความชั่วอยู่ในจิตเลย ที่เขาเรียกว่ากิเลส นั่นแหละ กิเลสคือความชั่ว มันตัวเดียวกัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเคยตอบข้อธรรมไว้ครับ

    ที่มา : www.danpranipparn.com/web/anser/anser43.html
     
  16. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    เรียนสมาชิกทุกท่าน

    หลายคนอาจสงสัยว่า สิ่งที่ผมทำนั้น นอกเหนือหน้าที่หรือไม่
    ซึ่งผมขออนุญาตนำ Link การรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
    จากห้องอื่น ๆ มาให้อ่านครับ ซึ่งจะเห็นว่า เป็นแนวทางเดียวกันครับ

    กระทู้แนวทางเกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง คลิกที่นี่
    จะเห็นได้ว่า ขนาดทีมงานด้วยกันเอง ยังเตือนกันเองด้วยตัวแดงครับ

    กระทู้แนวทางการตั้งชื่อกระทู้ให้ถูกต้อง คลิกที่นี่

    โมทนา
     
  17. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    นิพพานไม่สูญครับ ไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา
    สิ่งที่หลวงปู่สดกล่าวไว้คือความจริงทุกอย่าง
    นิพพานไม่ใช่ดินแดน สมบัตินิพพานคือ พุทธจักร
    แต่นิพพานไม่ได้เกิดจากการปรุงแต่ง (สุญญตา - เป็นความว่างที่ไม่ขาดสูญ)
    ไม่ใช่อยากได้อะไรก็ได้ แต่นิพพานไม่มีความอยากและความไม่อยาก
    ทุกอย่างที่อยู่ในปฏิจจสมุปปบาทได้ดับหมดแล้ว เป็นนิโรธ
    และนิพพานไม่ใช่จิตแน่นอน (เพราะไม่เหลือจิตให้ปรุงแต่งต่อ)
    แต่ดำรงด้วยธรรมกายอรหันต์ที่หลุดพ้นแล้ว...

    ที่กล่าวว่านิพพานไม่ใช่ดินแดนเนื่องจากเป็นอนันต์
    มิได้อยู่ในจักรวาล ไม่มีใกล้-ไกล อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าไร้ซึ่งสัมพัทธภาพ
    ขาดจะสัมผัสคำว่า สุญญตา ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
    ควรฝึกวิชชาธรรมกายตามสายของหลวงปู่สด...

    ที่ไม่กล่าวว่านิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา เพราะอัตตา-อนัตตา คือบัญญัติสมมุติ
    ซึ่งไม่สามารถใช้ได้กับความจริงระดับสูงสุด หรือความจริงระดับนิรวาณได้

    นิพพานคือสุขที่ไม่ได้ปรุงแต่งว่าสุขครับ ไม่ใช้อายตนะใดใด
    ที่เราคิดว่าสุขต้องมีการสัมผัสหรือการปรุงแต่ง นั่นมันคือเวทนา

    ซึ่งเป็นสุขในระดับโลกีย์ ใช้ได้ถึงขั้นอรูปฌานครับผม... มันยังอยู่ในโลกธรรม ๘

    สาธุ พระพุทธองค์ทรงเมตตา...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2010
  18. เปรมจะทำดี

    เปรมจะทำดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +288
    พี่ๆ ครับตอนที่พี่ทีมงานพลังจิต อายุเท่าผม พี่คงพิมถูกไปหมดเลยสินะ

    แล้วพี่ เอากระทู้เก่าที่ผมพิมผิดมาแบบนี้ พี่ทำแบบนี้ได้ไงครับ เพื่อเอาน่าหรอ



    กระทู้เก่าที่ผมพิมผิดผมก็ได้ขอโทษพี่แล้วนิครับ ผมก็พยายามทำไห้ถูกอยู่ครับ

    คนเราต้องมีการพันา ทีละนิดสิครับ ต้องขอโทษพวกพี่ๆด้วยนะครับ

    สาเหตุ
    ที่ตั้งกระทู้ถามแบบนี้เพระ เพื่อนผม จามฮัทชิ้วแล้วถามผมว่าถ้าจามฮัทชิ้วนี่คนนินทาไช่ใหมผมเลยมาถามครับ
     
  19. เปรมจะทำดี

    เปรมจะทำดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +288
    ครับ

    ผมเข้ามาดูตกใจหมดเลยครับ นึกว่าคนมาตอบเยอะ ที่ใหนได้ ผมเป็นต้นเหตุให้พี่ๆ ทะเลาะกัน ต้องขอโทดด้วยนะครับ
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาสำหรับความตั้งใจในการพัฒนาตนเองครับ และต้องขออภัยหากการเตือนของผมทำให้น้องไม่สบายใจครับ

    ผมได้บอกไปแล้วครับว่า การเตือนแต่ละครั้ง เสี่ยงที่จะทำให้ผู้ถูกเตือนและคนอื่น ๆ ไม่พอใจ
    แต่ผมก็เลือกการเตือนครับ เพราะคิดว่า การเตือนกันตรง ๆ จะเป็นประโยชน์กับตัวน้องครับ
    ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะทำเอาหน้าครับ

    เอาเป็นว่าผมขออภัยน้องด้วยละกันครับ ผมจะปล่อยกระทู้ไว้ถึงคืนนี้ แล้วผมจะลบความเห็นที่ไม่เกี่ยวข้องออก
    และจะย้ายกระทู้นี้ไปในห้องที่เหมาะกับเรื่องนี้นะครับ

    เรื่องการพิมพ์ผิดของน้อง ผมก็จะยุติการเตือนครับ เพราะถือว่าได้เตือนแล้วครับ

    แต่ผมอยากจะฝากน้องไว้ด้วยความหวังดีนะครับว่า

    วันนี้น้องอายุ 18 ปีแล้ว วันหนึ่งน้องก็ต้องเติบโตขึ้นและทำงาน
    ดังนั้น การพิมพ์ภาษาไทยให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากครับ

    วันนี้ผมเตือนน้อง ผมไม่รู้ว่าน้องเป็นใคร และไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เสียหน้า
    เพราะผมเชื่อว่า คนอื่นก็ไม่รู้ว่าน้องเป็นใครครับ

    แต่ถ้าวันหนึ่งน้องไปทำงาน และมีคนตำหนิว่าน้องใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องต่อหน้าคนอื่น
    วันนั้น น้องจะเสียหน้ามากกว่านี้ครับ

    จริง ๆ แล้ว ผมมองน้องเป็นคนกล้าหาญนะครับที่นำเรื่องราวที่ไม่ดีของตนเองที่ทำกับแม่มาเล่าให้คนอื่นฟัง
    ทั้ง ๆ ที่เรื่องเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี และทำให้น้องเสียหน้ามากกว่านี้เยอะ

    ผมชื่นชมคนที่พยายามกลับตัวครับ ผมเลยพยายามเตือนน้องและพยายามสอนน้องตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน ก็คือ การเขียน
    ผมพยายามสอนน้องแบบอ้อม ๆ ว่า เวลาทำอะไรให้มีสติและคิดให้ดี เมื่อทำไปแล้วต้องตรวจเช็คว่า ถูกตัองหรือไม่
    การเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องก็เป็นวิธีหนึ่ง แต่ถ้าน้องมองว่า ผมมีเจตนาที่ไม่ดีกับน้อง ผมก็จะเลิกเตือนครับ

    ถ้าน้องย้อนกลับไปอ่านอย่างตั้งใจในสิ่งที่ผมเตือนไป และพิจารณาให้ดี น้องจะรู้เองว่า ผมมีเจตนาดีหรือเจตนาร้ายกับน้องครับ

    โมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...