บันทึกการ ปฏิบัติ (ครูสันตินันท์)

กราบขอบพระคุณครับ...

 

<table style="width: 598px; height: 84px;" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้ อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะ นำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> ขันธ์*, kengkenny, เตชพโล

ตายละหว่า ขาโจ๋มาแล้วเว่ย

ไปดีกว่า เคลียร์กันเองนะคุณ
</td> </tr> </tbody></table>

 

ถ้ามันเป็นความจริงก็คือความจริง และผมก็ไม่ได้เอ่ยว่าใครเพียงแต่รู้ว่า คุณทำอะไรไว้ไม่ว่าคุณจะเอาไปพูดต่อคนอื่นอย่างไร ก็ตามแต่คุณเถอะครับ ผมไม่ได้มีส่วนได้กับเรื่องนี้หรอกเพียงแต่บอกว่า ให้คุณเอาตนให้พ้นเท่านั้นครับ เพราะที่ผ่านมานั้นมันเดินทางตรงข้ามอยู่ ก่อนบวชก็เอ่ยคำหนึ่งไว้กับเขา ซึ่งผมไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ชี้ให้ทราบว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลย กามเมสุมิฉาจารา กิเลสตัณหาที่สั่งสมนั้น คุณจะกล่าวคำที่สองมาล้างคำแรกก็สุดแล้วแต่คุณครับ ส่วนอีกคนก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคุณหรอกครับ เที่ยวว่าคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆ ผมก็ว่าไปเพื่อเตือนให้คุณรู้ว่า วิธีนี้มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่แท้จริง

 

เอาเถอะเตชไปเคลียร์ปัญหาของเตชให้เรียบร้อย
ไม่ต้องห่วงเรื่องคุยกับเรา เพราะเราไม่คุยกับนายแล้ว
เรารูสึกอายแทนนายจัง อะไรกันคุยธรรมะกันอยู่ดีๆ
ดันมีเรื่องฉาวคาวโลกีย์ด้วย

 

ปราบ น่าสงสารจัง หุหุหุ อยู่ดีดี ก็มีคนหาเรื่องมาให้ โชคดีจังนิ อย่างฮา เขาบอกว่า เวรกรรมมันติดเนตไงเนอะแต่ลุงแก พลาดเป้าหมายไปเยอะ อายแทนจังก็นั่นแระ คว้ามาเอง คราวนี้ทั้งคู่(หญิง ชาย)คงซึ้งอ่ะก่อนจะกล่าวว่าร้ายใคร ใจเรามันเกิดอกุศล คนที่ได้รับคือคนที่กล่าวนั้นแระสัมมาสติ คือ สติอยู่กับตัวรู้ดีรู้ชั่ว กับตัวเอง แยกแยะ และพิจารณาได้ไม่ใช่ไปรู้ดี รู้ชั่วคนอื่น เฮ้อจนได้ปัญญาโลกุตะระ มิฉาสติ คือสติที่นอกตัวหรือส่งสมุทัยนี้ล่ะจะกุศล ก็ได้ อกุศลก็ได้มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่มากระทบตะหากล่ะ หูย แต่เห็นกล่าวธรรมดีดีเยอะ บางคนเนอะปราบเนอะ แต่ทำไม ไม่เอามาใช้ประโยชน์ในการใช้ชิวิต คนดีไม่ตีใคร ใครมาตีเราก็เจ็บมือและเจ็บใจเอง

 

แต่เรื่องจิตส่งนอกนั้น ที่ถามว่านอกจากสิ่งใด ไม่ใช่นอกจากตัณหานะครับ ไม่เชื่อไปถามคนที่นานานับถือดูสิว่า การที่จิตส่งนอกนั้น นั้นนอกจากสิ่งใดกันแน่แต่ที่แน่ๆไม่ใช่ นอกจากตัณหาแน่นอน และการจะไปจับเอาปฏิจจสมุปบาทมาร่วมด้วยนั้น ยังไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง แต่เป็นสิ่งที่ควรรู้เพราะกำลังสติของคนเราจะหยุดวงจรนั้นได้ มันมีสองอย่างคือหยุดที่ต้นกับหยุดทีปลายและสุดท้ายหยุดที่เหตุของต้นและปลาย ลองพิจารณาธรรมให้ดีๆครับ และการที่เรารู้ชั่วคนอื่นนั่นเพราะว่า เราเองก็ยังคงเห็นว่าการแนะนำด้วยเมตตาต่อคนอื่นนั้นมีค่ามากกว่า การแนะนำด้วยการเย้ยหยัน เพราะสิ่งที่นานาถามมานั้น มันเป็นความเพ้อฝันและคิดอย่างด้นเดาไปเท่านั้นครับ และเรื่องธรรมนั้นส่วนตัวผมเห็นว่าคนที่กล่าวธรรมได้ดีนั้นก็ดีจริงและมีอยู่ เพียงแต่ผลแห่งธรรมนั้นยังไม่ลงตรงจิตใจเลย เช่น ตอนนี้ที่นานากำลังเป็นอยู่ จริงๆ ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อหรือรอจนดึกก็ได้ เพราะพูดตรงนี้ก็มีคนรู้คนเห็นเหมือนกัน และที่ไม่อยากตอบมากเพราะคนในวงนั้นไม่เหมือนคนในวงนี้ เรื่องเท่านี้ นานา ยังไม่รู้เลย แล้วนานายังจะมาถามพี่ว่า พี่มีสติไหม นานายังหาสติตัวเองไม่เจอเลย ยังทำสิ่งใดก็ตามไปตามที่กิเลสปราถนาอยู่เลย แล้วจะรู้เรื่องสติได้ยังไง อย่าไปคิดในสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องของตนแต่ถ้าจะคิดต้องคิดอย่างมีสติ ไม่ปล่อยให้ความโกรธ ความโลภ ความหลง ลากไป อย่างนี้แล้ว สติ จึงจะเกิดขึ้นได้และนำไปสู่สิ่งที่นานาเขียนมาทั้งหมดครับ
ปล. หากคนที่ถามพี่คนนั้นไม่ใช่น้องนานา พี่ก็ต้องขอขมาและขออภัยน้องนานาเป็นอย่างสูงครับ ถึงอย่างไรก็ถือว่าเป็นการแนะนำซึ่งกันและกันนะครับ

 

อ่านตั้งแต่แรกก็รู้แล้ว คนที่ไม่รู้ดีรู้ชั่วก็จะหลงอยู่นั้นแระถึงพ่อแม่ไม่ใช่คนไทย แต่ท่านสั่งสอนหนูอย่างดีแน่นอนไม่ไปทำเรื่องอย่างนั้นหรอก ก่อนจะกล่าวว่าอะไรใครรู้ดี และรู้จริงขนาดไหน ขนาดพี่เก่งเคยคุยด้วยก็ยังคิดว่าเป็นหนูอีกจะบ้าหรือไง พวกเราอ่านแล้วฮามากล่ะ ไม่ได้โกธรอะไรใครหนูไม่อาฆาตใคร โกธรแปบแล้วหาย นี่คือสันดานของหนูในการปฏิบัตินานาเชื่อตัวเอง หากไม่เชื่อตัวเอง จะปฏิบัติได้อย่างไงธรรมของเรา ไม่ก้าวกระโดด ไม่คิดว่าคนอื่นรู้แค่ไหน มันไม่จำเป็นสำหรับเราแค่เรารู้กิเลส ตัวเองบ้างไหม และจะมาบอกว่าเราเย้ยได้ไง พวกเราอยู่ดีดีของพวกเรา แต่ก็พยายามกล่าวร้ายให้อยู่นั้นแระ กลับไปถาม คนที่พวกพี่ เรียกว่าน้องดาวใหม่นะ และไปอบรมเขาด้วยเลิกเถอะ นรกรออยู่ข้างหน้า ขออโหสิกรรมให้ทุกคน นานาถือว่านี่คือวิกรรมเล่นงาน แบบขำขำ หุหุหุ ^^

 

ข้อแรก เราไม่ควรเอ่ยชื่อครับ แม้ว่าเขาจะเคยทำไม่ดีกับเรา
ข้อสอง พี่ต้องขออภัยเรื่องที่คิดว่าเป็นหลบภัยหรือนานา ซึ่งความจริงก็ไม่รู้ว่าหลบภัยกับนานานั้นเป็นคนๆเดียวกันไหมครับ
ข้อสาม พี่ถึงบอกว่า หากเราอยากจะตักเตือนเขาเพราะรู้ว่ากรรมนั้นส่งผลจริงเราก็ต้องวางอารมณ์นั้นเสีย เพราะว่า ถ้าเราใช้อารมณ์เช่นเดียวกันซึ่งมันเป็นอกุศลจิตมาใช้นั้น เราเองก็จะแย่เช่นเดียวกันครับ
หากพี่เข้าใจผิดในเรื่องนั้นก็ขอให้นานา อโหสิกรรมต่อพี่ด้วยครับ เพราะความคล้ายกัน และคล้ายกันจริงๆ จึงต้องมีการเจอะเจอกัน เป็นธรรมดา ทำให้พี่แยกแยะไม่ได้ว่า คนนั้นเป็นใครกันแน่ ยังไงก็ขอให้ทุกๆคนเลิกใช้หลาย ยูสเซอร์เถอะครับ เวลาคุยหรือพูดธรรมะกัน นี่ก็เป็นเรื่องของเจตนามาตั้งแต่ต้นเช่นกัน ตรงจุดนี้ก็สำคัญ ต้องขออภัยน้องนานาเป็นอย่างสูงครับ
ขอโทษด้วยครับ

 

[music]http://charyen.com/jukebox/asx_file/thaiori11527.wma[/music]

 

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

พูดกับผู้หญิง เก๊กเสียงหล่อเลยวะเฮ่ย

 

สรุปว่า พฤติกรรมทั้งหมด ที่เพี้ยนๆ บ้าๆบอๆ
กระทำในเรื่องที่ไร้สาระ เพราะมีแรงจูงใจ ที่มองไม่เห็นอยู่คือ ราคะ

 

ทำไมละครับ รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหล่เท่าไหร่นี่ ทำไมจะทำเสียงหล่อไม่ได้ละครับ และอันที่จริงผมก็คุยแบบนี้กับน้องเขาและก็ทุกๆคนมานานแล้ว มีเพียงคนบางคนที่ไม่รู้จักตนเองที่เห็นเป็นเรื่องอื่น ตนเองไม่รู้อะไรเลย ยังจะจูงโน้นจูงนี่ทำเหมือนว่ารู้เสียอย่างนั้น ในตอนแรกนั้นเรื่องคู่หูคุณนั่นนะผมไม่คิดอะไรหรอกรู้ด้วยซ้ำว่า ตอนนั้นน้องนานา เขาหมายถึงใคร แต่เรื่องที่กล่าววันนี้ มันเป็นเรื่องที่ผมพบเจอมาเมื่อคืนเลยเข้าใจผิดเล็กน้อย แต่เรื่องของคู่หูคุณกับตัวคุณนั้นไม่เคยเข้าใจผิดเลยครับเพราะ...

กิเลสก็คือกิเลส จะเอาทองมาแปะรอบตัว แท้ที่จริงข้างในก็คือกิเลส ส่วนธรรมนั้น จะแปะหรือไม่แปะทอง มันก็ยังเป็นธรรมอยู่วันยังค่ำ

 

ไมรู้อย่าพูดเลย เพราะไอ้ที่เป็นหนะไม่ใช่ผม คนส่วนใหญ่ในนี้โดยเฉพาะน้องนานา หรือหลบภัยเขารู้ดีกว่าใคร มีแต่คุณนั่นแหละที่คอยจะจับแพะชนแกะ หรือกลัวคนอื่นไม่รู้ว่า ตนเองนั้นรู้หมดครับ เลิกเหอะจับแพะชนแกะ
แต่ราคะผมมีแน่นอน ซึ่งเป็นราคะที่มีในผมเพียงเท่านั้นไม่มีแรงพอจะไปละเมิดศีลทั้ง ๕ ข้อได้ครับ

 

วาทะจากคนเพี้ยนๆนะ เขาว่า อ่านให้ดีๆนะ แล้วพิจารณาให้ดีๆนะ

กิเลสก็คือกิเลส จะเอาทองมาแปะรอบตัว แท้ที่จริงข้างในก็คือกิเลส ส่วนธรรมนั้น จะแปะหรือไม่แปะทอง มันก็ยังเป็นธรรมอยู่วันยังค่ำ<!-- google_ad_section_end -->

เขาว่าอย่างนั้นคนเพี้ยนๆเลยว่าไปอย่างนี้

 

ข้อสาม พี่ถึงบอกว่า หากเราอยากจะตักเตือนเขาเพราะรู้ว่ากรรมนั้นส่งผลจริงเราก็ต้องวางอารมณ์ นั้นเสีย เพราะว่า ถ้าเราใช้อารมณ์เช่นเดียวกันซึ่งมันเป็นอกุศลจิตมาใช้นั้น เราเองก็จะแย่เช่นเดียวกันครับ

 

ถ้าอ่านข้อความของผมทุกประโยคทุกตอนแล้ว รู้สึกว่าผมกล่าวไปด้วยอกุศลจิตนั้น ก็ตามนั้นเถอะครับ เพราะผมเองรู้สึกตรงกันข้ามเสมอ ทุกๆครั้งที่โต้ตอบคำพูดกับคุณนั้น พักหลังพอเข้าใจแล้วว่า อะไรเป็นอะไรเลยให้วาทะไว้หนึ่งประโยค

กิเลสก็คือกิเลส จะเอาทองมาแปะรอบตัว แท้ที่จริงข้างในก็คือกิเลส ส่วนธรรมนั้น จะแปะหรือไม่แปะทอง มันก็ยังเป็นธรรมอยู่วันยังค่ำ<!-- google_ad_section_end -->

จากคนเพี้ยนนะ (เขาคือใคร...ว่าไว้)

 

นิสัย! เตฉะ-พะโล้ เป็นอย่างนี้นี่เอง สงสัยอยู่นานแล้ว ทำไมไม่พอใจ
ตู ก็แค่เข้าไปคุยกับสาวในกระทู้ของนายหน่อยเดียว ทำเป็นไม่พอใจ ตอน
แรกยังงงๆ ตอนนี้เข้าใจแล้ว ที่แท้สุนัขหวงก้าง เจ้าชู้ไม่มีใครว่า ขอ
อย่างเดียวอย่าไปตืท้ายครัวชาวบ้าน มันไม่ดี บาป

 

กิเลส เดือนสิบสอง

 

ไปทำความรู้จักกับกิเลสแล้วช่วยกันสอนและขัดเกลา สันดานของกันและกันนะ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดอะไรถูกก็ว่าไปตามถูกอย่า ทำขาวให้เป็นดำอย่าทำดำให้เป็นขาว คุณเองก็รู้เยอะนี่ คุณเอามาใช้แก้ไขในสิ่งที่เห็นว่าควรแก้ไขและพาผู้คนที่เดินหลงทางให้ตรงทางไม่ดีกว่าหรือ ดีกว่าการมาอิจฉาริษยาคนอื่นเพราะความไม่รู้ความเป็นจริงของคนนั้นๆ และเห็นเพียงว่าคนนั้นคนนี้พวกพ้องตนแต่ไม่ได้มองที่การกระทำและเหตุผลว่ามันสมควรไหม ที่ผมต้องทำอย่างนั้นเพราะรู้ว่า การโอ้อวดนั้น มันจะพาให้คนอื่นเป็นไปตามกัน ปฏิบัติมาแล้วก็เอามาโอ้อวด มากล่าวขัดแย้งกันเองทั้งที่ผ่านมาหลายสิ่งหลายอย่างระหว่างคุณกับผมก็ไม่ต่างกันนัก ต่างก็แต่ ผมไม่อยากทำไม่อยากสอนใครจะกล่าวก็กล่าวออกไปแบบสาธารณะ หาได้คิดโอ้อวดแต่อย่างใด และก็ไม่คิดจะใช้การสนทนาธรรมเพื่อการอื่นนอกจากธรรม ที่สำคัญเมื่อสิ่งใดที่ไม่เข้าใจและเป็นผลให้คู่สนทนาต้องเกิดโทสะ หรือ ความดิ้นรน ผมเองก็มักจะเลิกก่อนประจำ ลบทิ้งเลยยังทำได้เพราะมันยิ่งอ่านก็ยิ่งแย่ในบางครั้ง ไม่ได้หมายถึงผมหมายถึงคนอื่น เพราะที่แห่งนี้ก็เหมือนที่สาธารณะ แต่ต่างกันตรงที่เราไม่รู้จักกันไม่เห็นหน้ากัน จะมานั่งแยกแยะว่าคนนั้นต้องเป็นแบบนั้น มันก็เหมือนฝันเอาเพราะความจริงก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเขาเป็นใคร และเป็นยังไง ถึงบอกไงว่า เมื่อไม่รู้อะไรจริงๆ อย่าเที่ยวไปด่าไปว่าคนอื่นเขาอย่างนั้น ถ้าไม่มั่นใจก็กล่าวคำขอโทษเขาเสีย ผมทำประจำเขาเรียกว่า มีความนอบน้อมในตนและผู้อื่น
คุณเองละครับ ตั้งแต่คุณเล่นเวปนี้มา คำว่า ขอโทษ ขออภัย ต่อสิ่งที่กระทำพลาดไปนั้น เคยใช้แล้วกี่ครั้ง กับผู้คนในนี้เพราะหากผู้คนในนี้คุณเองยังไม่กล้าใช่เลย คำขอโทษ คำขออภัย เมื่อตนกระทำผิดพลาดไป ยังยื้อยังดื้อดึงอยู่ โลกภายนอกของคุณก็ยิ่งแย่กว่า เพราะต้องเห็นทั้งหน้าตัวเป็นๆ มันจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณได้เท่านั้นเองครับ

 

หน้าที่ของคุณ คืออะไร
อย่าเอากิเลส เดือนสิบสอง มาพูดกับผมเลย