พลังเอกภพยูเรอัส

ขอตอบ ให้ คุณ narmai แบบ กระซิบ ดังๆ .......55

ฝึกหมุน จักระ ก็ ทำบ่อยๆ เดี๋ยวได้ เอง
ทำ ทีละ จักระ จนชำนาญ
แล้ว จะ ทำ ทีละ สอง สาม หรือ หลายๆ จักระ พร้อมกัน ก็ ย่อมได้

ยังมี อีก นะ ..... ยังไม่ จบ แค่ นี้ หรอก
ค่อยๆ ทำไป เถิด
ความสำเหร็จ รอ อยู่ ข้างหน้า

ส่วนรายละเอียด ก็ ถาม มาได้ เป็น กรณีๆ ไป
จะได้ ตอบ ให้ ตรงประเด็น

หาก จะโทรมา ก็ ได้ 081-497 2008

 

เมื่อเรารักษาคน เจริญเมตตา ให้ความรัก ทำความเพียรอย่างเสมอต้นเสมอปลาย นอกจากจะทำให้หัวใจของเราชุ่มชื่นแล้ว ยังทำให้ การพัฒนาทางจิต เร็วขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อท่านทำความดีด้วยความปลอดโปร่งโล่งสบาย ทำด้วยความรัก แล้ว ความรักนั้นก็จะประสบกับท่าน ทั้งความสะดวก สุขภาพ ปัจจัยต่างๆ จะบอกให้นะเออ อิอิ

ปล. แต่เราต้องไม่หวังนะ หยุดอยากแล้วจะได้ เมื่อให้อย่างเหมาะสม ถูกควรและบริสุทธิ์รักนั้นก็จะ พาท่านเข้ากระแส แห่งความสุขสงบ

 

ขอบคุณคะคุณดาว สำหรับคำแนะนำและให้กำลังใจ ตอนนี้ก็ส่งพลังรักษาทางไกลอยู่ทุกวันอยู่ 2 เคส ไม่รู้ว่าคนป่วยจะดีขึ้นหรือเปล่า

วันก่อนไปที่บ้านญาติ อยู่ๆหัวใจก็เต้นตูมตาม ไม่รู้ความหมายว่าเหมือนอย่างที่อาจารย์บอกหรือเปล่าว่า มีคนต้องการให้ช่วยเหลือ เราก็ไม่กล้าถามว่ามีคนไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า เห็นทุกคนก็สบายดี แต่ก่อนกลับก็รู้ว่าญาติผู้ใหญ่มีอาการเจ็บขา ก็เลยส่งพลังให้ ไม่รู้ว่าเป็นสัญญาณที่แจ้งเตือนเราหรือเปล่า

ยังไงก็ขอยืนยันอีกเสียงหนึ่งว่าเราจะได้เรียนรู้จากการที่เราส่งพลังรักษาคนจริงๆ อยากให้เพื่อร่วมห้อง รุ่นพี่ รุ่นน้อง รักษาคนให้มากๆ หากไม่มีคนมาให้รักษา สัตว์เลี้ยงที่บ้านก็ได้ แล้วเราก็จะได้รับประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งคะ เหมือนอย่างที่อาจารย์ว่าอย่าขี้เกียจคะ

ในส่วนตัวไม่แน่ใจว่าจะได้เรียนถึงระดับใด ในใจจริงๆอยากเรียนให้สูงที่สุด เพื่อยกระดับจิตวิญญาณของตน แต่ไม่ทราบว่าทางจะเปิดสำหรับเรามากน้อยเพียงใด

 

เมื่อคืนวันอาทิตย์ โดนมีดบาดค่ะ.. ที่นิ้วชี้ ซ้าย ลึกเลยล่ะ เลือดไหลโจ้กกกกกเลย...หยดติ๋งๆ
รีบแตะเลยค่ะ ทั้งๆที่เลือดยังหยดติ๋งๆแหละ ตอนนั้น ตั้งใจมาก ..
หมุนทุกจักระเลย หายใจเข้า 675432- หายใจออก 2345
ทำอยู่นานเกือบ 3 นาที ...

ล้างแผล เลือดหยุดสนิท สนิทเลยค่ะ แผลปิดเลยด้วย ..
ไม่รู้สึกว่าเจ็บแผลเลยค่ะ ..กดก็ไม่เจ็บ

ตอนนั้นคิดว่า ..อืมมมมม ยังคงชาอยู่มั้ง เพราะเพิ่งเกิดสดๆเลย

ด้วยความที่เป็นคนถนัดซ้าย .. เลยกลัวว่า จะเจ็บแผล และใช้งานไม่สะดวก
ก็เลยแตะอีกรอบ ... แฮ่ะๆๆ นอกตำรานะคะ .. ครั้งที่ 2 ก็อีกนานราวๆ 2 นาที
ห่างจากครั้งแรก ราวๆ 10 นาที

เมื่อวานวันจันทร์ แทบเป็นปกติแผล สมานไม่แยกเลย สามารถยก weight (Bar Bell) ใน class Body pump ที่ fitness ได้ตามปกติ 1 ชม. น้ำหนักเท่าเดิม... ดีใจมาก

วันนี้วันอังคาร ดีขึ้นกว่าเดิมมากกกกกก
ขนาด กล้าหาญชาญชัย ลองแยกแผลดู ก็ไม่เจ็บ...

นี่อาจเป็น ..ระดับเด็กๆนะคะ
แต่ สำหรับจ๋าเอง นี่คือการประสบกับตัวเอง และ เห็นผลอย่างทันตา ..เดี๋ยวนั้นเลย

เป็นการตอกย้ำ ค ว า ม เ ชื่ อ และ ค ว า ม มั่ น ใ จ ในสิ่งที่เราได้รับ ...
ในการนำไปช่วยเหลือคนอี่น ด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น ค่ะ

ตอนนี้ส่งพลังรักษาทางไกลข้ามประเทศ ..ฟิลิปปินส์ (แม้ว่า พลังยังน้อยนิด .. ขอฝึกไปเรื่อยๆ) ให้กับคนที่ไม่เชื่อเลย จะติดตามผลมาเล่าให้ฟังค่ะ
(อาจารย์ขา ทำการบ้านแล้วนะคะ)



...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่เกิดขึ้น
ไม่ใช่เพราะ ความบังเอิญ

ขอบคุณองค์พระสูงสุด และ พระอาจารย์ค่ะ

 

ทำได้ ดี แล้ ครับ คุณจ๋า

การรักษา บาดแผล สดๆ ทำถูกต้อง แล้ว ครับ

อาการ แผล ก็ จะ ติดไว หายเจ็บ ปวด โดย รวดเร็ว อย่างที่ คุณจ๋า ได้ พบ แหละ ครับ

ยินดี ด้วย ที่ เจ็บ ตัว แต่ หาย อย่าง ว่องไว
แถม ยัง ได้ ความมั่นใจ ในการ รักษา อีกด้วย เป็น ตัวอย่าง ให้ เพื่อนๆ และ เป็น กำลังใจ ให้ ผู้ ที่ ยัง ลังเล สงสัย อยู่

จะ ได้ มั่นใจ กันมากขึ้น

ผม เอง ประเภท กล้า ดี เดือด
เริ่ม ลุย รักษา มา ตั้งแต่ สมัย เรียน ระดับ 1 แบบ ไม่ อายใคร คือ รักษา แล้ว ต้องหาย
รักษา กัน แบบ ไม่ ยอม เลิก ลา
ตื้อ เท่า นั้น ที่ ครองโลก..............55

รักษา ไป ทุกวัน ไม่ หาย ก็ ไม่ หยุด การรักษา ... ให้ มันรู้ ไป ว่าใคร จะ อึด กว่ากัน
โรคภัย เค้า ก็ ยอม เรา ไป เอง
เค้า ก็ อยาก ไป อยู่ ในที่ ดีดี เป็นสุข ยิ่ง ขึ้น พอเค้า ปล่อย
การรักษา ก็ จะ ดี ขึ้น อย่าง ง่ายดาย.......

สำคัญ ทำ ไป ทุกวัน ด้วย ความไม่ ย่อท้อ......

 

คุณ Joypor

ดี แล้ว ครับ การ ช่วย รักษา ผู้อื่น ทุกวัน เหมือนการ ฝึกฝน ตนเอง ไปด้วย
แต่ การ รักษา ทางไกล
ข้อสำคัญ คือ การ ติดตาม ผล การรักษา ด้วย นะ...... ต้อง ติดตามผล..

หาก ไม่ ติดตามผล ก็ เหมือน ยิงปืน ขึ้นฟ้า จะ ไป โดน อะไร หรือ เปล่า ก็ไม่รู้

ทำให้ เรา ไม่ รู้ ผล หาก ทำ แบบ ไม่ ติดตามผล บ่อยๆ ก็ เหมือน ยิงปืน ขึ้นฟ้า อย่างไม่ รับผิดชอบ ดี หรือ ไม่ดี ถูกหรือ ผิด ก็ไม่รู้

ทำ ให้ ผู้ ให้การรักษา เอง แหละ ... จะเบื่อ และ หมด กำลังใจ ในการรักษา ไป เอง

ผม จึง มัก คอยเตือน เพื่อนๆ ทุก คน อยู่ บ่อยๆ ว่า ต้อง ติดตาม ผลการรักษา ด้วย
การ ติดตามผล .... นี้ สำคัญ มาก ........

ถึง จะไม่ มี กฏว่า ต้อง ติดตาม การรักษา

แต่ มัน จำเป็น

มัน จะ เป็นทางสองแพร่ง ในอนาคต ว่า

ท่าน จะ ได้ เป็น คุณหมอ มือเปล่า ต่อไป ในอนาคต ได้ นาน เพียงไร

การ ติดตาม ผลการรักษา ยังทำให้ เรา ทราบ ผลว่า รักษา ไปแล้ว เป็น เช่นไร
ดี ขึ้น มากน้อย เพียงไร
โรค หรือ อาการ ไร ....... ควรรักษา แบบ ไหน
โรค อะไร ที่ รักษา ยาก อันไหน ต้อง รักษา ต่อเนื่อง นานๆ
หรือ อาการ แบบไหน รักษา บุ๊บ หาย ปั๊บ

แล้ว อย่า ลืม จดบันทึก ไว้ ด้วย ..... นะ

นำ มา เล่า สู่ กัน ฟัง บ้าง ด้วย ยิ่งดี ใหญ่.....

จะได้ เป็น บรรทัดฐาน และ กรณีศึกษา เคสสตัสดี้
ให้ คน รุ่น หลัง ได้ไว้ ศึกษา... อีกด้วย

ที่ สำคัญ ในการ นำผลการรักษา มา เล่า เผยแพร่ ให้ เพื่อนๆ ฟัง ยังเป็นการ สร้างกำลังใจ ให้ ซึ่งกัน และ กัน อีกด้วย


เห็น ไหม ว่า การ ติดตามผลการ รักษา มีประโยชน์ ขนาดไหน

รู้ อย่าง นี้ แล้ว อย่า ช้า รีบ ช่วยกัน ติดตามผล การรักษา และ นำมา เล่าสู่กันฟัง

นะ .... จ๊ะ........

คุณหมอ มือเปล่า ........................ 55

 

ขอบคุณคะสำหรับคำแนะนำ เห็นด้วยกับคูณดาวคะ ว่าจะต้องติดตามผลกับคนไข้ด้วย สำหรับเคสคนไข้ที่เป็นไทรอยด์ก็โทรสอบถามเขาหลังจากส่งพลังไปให้อาทิตย์หนึ่ง เขายังไม่รู้สึกว่าดีหรือแย่ลงแต่อย่างไร ในส่วนตัวก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยว่าเขายังไม่รับรู้ว่าดีขึ้น แต่ไม่ท้อคะ คิดว่าโรคนี้คงต้องใช้เวลานานพอสมควร ตั้งใจว่าจะส่งพลังให้ไปตลอดจนกว่าเขาจะต้องไปพบหมออีกครั้งในเดือนธันวาคมคะ ถึงเวลานั้นคงจะมารายงานผลให้ทราบคะ

สำหรับประสบการณ์การรักษาของตนเอง เท่าที่ผ่านมา อาการเกี่ยวกับข้อพลิก ขาแพลง เป็นอาการที่รักษาและเห็นผลดีขึ้นได้เร็วที่สุดคะ เช่นรักษาวันนี้ ไม่ทันข้ามวันคนไข้รู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าเป็นอาการเกี่ยวกับการปวดหลัง ใช้เวลานานเป็นอาทิตย์ และอาจจะเป็นเพียงการช่วยบรรเทาเท่านั้น ไม่หายขาด เคสแบบนี้ทำเอาเราท้อเหมือนกัน คงเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไข้และระยะเวลาที่เป็นมาด้วย

พอดีมีประสบการณ์ส่งพลังรักษาให้ปลารักเร่ที่บ้านคะ วันนึงเห็นเขาไม่ว่ายน้ำ หากเ******่ยว และมีอาการเหมือนช้ำเลือดให้เห็น ก็เลยส่งพลังให้เขาโดยว่าเพ่งไปที่เขาประมาณ10 วินาที รุ่งขึ้นเห็นเขาร่าเริงขึ้น หางฟูเหมือนเดิม ก็ไม่ได้ส่งพลังรักษาต่อ หลังจากนั้นอีกตัวก็เริ่มเป็นเหมือนกัน ไม่ค่อยว่ายน้ำ ซึม ลำตัวช้ำเลือดมากว่า ก็ส่งพลังให้ 10 วินาทีเหมือนกัน แต่สำหรับตัวนี้ส่งให้อยู่ 3 วัน ดีขึ้นเล็กน้อย ก็คงต้องรักษากันต่อไป ไม่รู้ว่าจะต้องให้เวลากี่วัน

 

เดือน พ.ย. นี้มีสอบระดับเริ่มต้นอีกไหมครับ

 

ถึงอาจารย์กิตติชัยครับ

 

พลังงานกับโรคภัยไข้เจ็บ

<TABLE style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 4.5pt 4.5pt 4.5pt 4.5pt" class=MsoNormalTable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #ece9d8 1pt inset; BORDER-LEFT: #ece9d8 1pt inset; PADDING-BOTTOM: 4.5pt; PADDING-LEFT: 4.5pt; PADDING-RIGHT: 4.5pt; BACKGROUND: #f7f3f7; BORDER-TOP: #ece9d8 1pt inset; BORDER-RIGHT: #ece9d8 1pt inset; PADDING-TOP: 4.5pt; mso-border-alt: inset windowtext .75pt">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณChalhoei<V</V<O</O
ตอนนี้อ่านความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณถึงบทที่ 6 เรื่องความฝันกับสุขภาพ
บทนี้อ่านแล้วเข้าใจยากจังพยายามอ่านหลายเที่ยวก็ยังงงๆอยู่ อาจจะเป็นเพราะไม่เข้าใจตรงหน้าแรกก็ได้เลยทำให้หน้าอื่นๆงงไปด้วย หน้าที่ 75 อาจารย์อนาลัยบอกว่า
การเจ็บป่วยเป็นภาวะที่หน่วงเหนี่ยวหรือกีดขวางการไหลผ่านของพลังงานในภาวะดังกล่าวนี้พลังงานรวมตัวกันอย่างเข้มข้น-ไหลย้อนกลับเข้าสู่ภายในและส่งผลกระทบกับระบบทั้งระบบการเจ็บป่วยเป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นถึงการแตกแขนง-ซึ่งไม่ใช่การเสื่อมโทรม-การสูญเสียหรืออันตรายนอกเสียจากว่าภาวะดังกล่าวถูกมองจากมุมมองของบุคลิกภาพ-ร่างกายตัวตน-ซึ่งเกี่ยวพันกับการกระทำอื่นๆของตัวตนนั้นๆ
คำถาม
1 คำว่าไหลย้อนกลับเข้าสู่ภายในแสดงว่าพลังงานในร่างกายไหลไปทางเดียวใช่หรือไม่
2 การเจ็บป่วยเป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นถึงการแตกแขนง-ซึ่งไม่ใช่การเสื่อมโทรมตรงนี้หมายถึงอะไรครับ
3 นอกเสียจากว่าภาวะดังกล่าวถูกมองจากมุมมองของบุคลิกภาพ-ร่างกายตัวตน-ซึ่งเกี่ยวพันกับการกระทำอื่นๆของตัวตนนั้นๆตรงนี้ก็ไม่เข้าใจครับ
ต้องรบกวนอาจารย์นักเขียนแล้วครับ หรือน้องขจรวรรณหมอพลังจักรวาล ประจำห้องวิทย์ช่วยอาจารย์นักเขียนก็ได้ ขอบคุณล่วงหน้าครับเดี๋ยวจะขออ่านบทอื่นล่วงหน้าไปก่อนครับ<O></O>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
พี่นักเขียนต้องขอบคุณคุณน้องขจรวรรณมากๆที่ช่วยตอบคำถามทำให้อุ่นใจมากๆว่าห้องวิทย์ของเรามีความพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและช่วยกันค้นหาคำตอบได้เสมอไม่ว่าพี่นักเขียนจะอยู่ตรงนี้หรือไม่ก็ตาม วันนี้พอมีเวลาเข้ามาคุยด้วยและได้ตอบขยายความไปก่อนที่จะพบว่าคุณน้องขจรวรรณนำคำตอบจากหนังสือมาให้คุณเฉลยเรียบร้อยแล้วก็เลยขอขยายความตามนี้ค่ะ

โดยธรรมชาติแล้วพลังงานไหลผ่านร่างกายเนื้อหนังของเราทุกอนูเพื่อนำพลังงานใหม่ๆมาสู่ร่างกายเนื้อหนังของเราเสมือนน้ำดีที่เข้าแทนที่น้ำเสียอย่างสม่ำเสมอและในขณะเดียวกันก็ไหลออกสู่ภายนอก-กลับคืนสู่ต้นกำเนิด-เพื่อนำน้ำเสียออกไปด้วย

พลังงานเหล่านี้ชุบชีวิตและทำให้ทุกเซลล์ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ในยามที่่เราเจ็บป่วยพลังงานไม่ไหลผ่านร่างกายเนื้อหนังหรือเซลล์อย่างที่มันควรจะเป็นไปตามธรรมชาติพลังงานบางส่วนไหลเข้าสู่ร่างกายแล้วไม่ไหลออกแต่กลับย้อนกลับเข้าภายในหรือถูกเก็บกักอยู่ภายในเสมือนน้ำดีที่ไหลเข้าแทนที่น้ำเสียแล้วไม่ไหลออก ไม่ได้พาบางส่วนของน้ำเสียออกไปทำให้พลังงานใหม่ๆหรือน้ำดีใหม่ๆที่จะไหลเข้าสู่ร่างกายได้ตามปกติเพื่อชุบชีวิตทุกเซลล์ลดน้อยลงไปด้วย

เมื่อเปรียบพลังงานจากต้นกำเนิดว่าเปรียบเสมือนน้ำดีเราควรตระหนักด้วยว่า พลังงานคือจิตวิญญาณ และจิตวิญญาณคือพลังงานจิตวิญญาณคือความรู้ และความรู้คืิอจิตวิญญาณ หากเรานำความหมายทั้งหมดมาสัมพันธ์กันเราจะเกิดความเข้าใจ 3 ระดับด้วยกันคือ:
1. ระดับกายภาพ -เกี่ยวพันกับสุขภาพร่างกายหรือชีวภาพของร่างกาย
2. ระดับจินตภาพ -เกี่ยวพันกับอารมณ์และความรู้สึกนึิกคิด
3. ระดับจิตวิญญาณ -เกี่ยวพันกับสติสัมปชัญญะ-ความรู้หรือการเปลี่ยนความเชื่อบางส่วนเป็นความรู้

ทั้ง 3 ระดับนี้เกี่ยวพันกัน ส่งผลกระทบกัน โดยที่ระดับที่ลึกที่สุดได้แก่จิตวิญญาณส่งผลกระทบต่อระดับจินตภาพและระดับจินตภาพส่งผลกระทบหรือสะท้อนให้เห็นในภาวะอันเป็นระดับกายภาพคือแสดงออกทางสุขภาพร่างกาย

กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าความเชื่อที่มีอยู่ในสติสัมปชัญญะยังผลให้เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดคล้อยตามความเชื่อนั้นๆและยังผลให้เรามีสุขภาพร่างกายที่คล้อยตามอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดนั้นๆ

ข้อ 1. คำว่าไหลย้อนกลับเข้าสู่ภายในแสดงว่าพลังงานในร่างกายไหลไปทางเดียวใช่หรือไม่
พลังงานไม่ได้ไหลไปในทิศทางเดียวตามธรรมชาติแล้วร่างกายตัวตนของเราเปรียบเสมือนศูนย์กลางที่พลังงานไหลเข้าและออก-ทุกทิศทางแต่บางศาสตร์ก็กำหนดศูนย์กลางแยกย่อยออกไปว่ามีหลายศูนย์กลางโดยที่แต่ละศูนย์กลางหนึ่งๆควบคุมและแจกจ่ายพลังงานให้ส่วนหนึ่งๆหรือขอบเขตหนึ่งๆของร่างกายซึ่งการแยกย่อยดังกล่าว เช่น ในศาสตร์ของจักระช่วยทำให้เราสามารถฝึกฝนที่จะจดจ่อกับร่างกายส่วนหนึ่งหรือขอบเขตหนึ่งเพื่อเหนี่ยวนำพลังงานงานมาใช้รักษาโรคซึ่งที่เกิดขึ้นในจุดหนึ่งๆ แต่ตามธรรมชาติแล้ว การเหนี่ยวนำพลังงานไปสู่จุดหนึ่งๆหรือศูนย์กลางหนึ่งๆ จะส่งผลกระทบต่อทุกศูนย์กลางหรือส่งผลกระทบต่อทุกส่วนของร่างกาย เพราะพลังงานไหลผ่านทุกอนูของร่างกายและความเจ็บป่วยทั้งหลายมักจะไม่ได้ส่งผลกระทบหรือแสดงอาการอยู่เฉพาะที่แต่เกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กับส่วนอื่นๆของร่างกายด้วยเช่นกัน

ข้อ 2.การเจ็บป่วยเป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นถึงการแตกแขนง-ซึ่งไม่ใช่การเสื่อมโทรม
แม้ว่าร่างกายของเราจะเจ็บป่วยแต่ท่านอาจารย์อนาลัยได้อธิบายว่าความเจ็บป่วยทั้งหลายเป็นกระบวนการ-การเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับสภาพระบบทั้งหมดทั้งสามระดับ

หากเราพิจารณากระบวนการ-การเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับสภาพจากระดับลึกสุดอันได้แก่ระดับจิตวิญญาณกระบวนการ-การเปลี่ยนแปลงในระดับนี้คือการเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ซึ่งจะทำให้ความรู้เดิมแตกแขนงเสมอและความเชื่อที่ถูกเปลี่ยนเป็นความรู้ก็ส่งผลกระทบในระดับต่อไปอันได้แก่ระดับจินตภาพคือเปลี่ยนแปลงอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบให้กลายเป็นแง่บวกการแตกแขนงในระดับนี้เกิดจากการเปลี่ยนอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่หดหู่ท้อแท้ ทำลายล้าง ไปสู่อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เต็มไปด้วยความหวังและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกระบวนการการแปลงสภาพจากภาวะที่ถดถอยหรือเสื่อมโทรมไปสู่ภาวะที่ก้าวหน้าแตกแขนง สร้างสรรค์

ข้อ 3.นอกเสียจากว่าภาวะดังกล่าวถูกมองจากมุมมองของบุคลิกภาพ-ร่างกายตัวตน-ซึ่งเกี่ยวพันกับการกระทำอื่นๆของตัวตนนั้นๆ
ในที่นี้หมายถึงว่าความเจ็บป่วยจะดูเสมือนความเสื่อมก็ต่อเมื่อเรามองเห็นกระบวนการทั้งหมดแต่เพียงระดับกายภาพเท่านั้นโดยรับเอาภาวะทางกายภาพทั้งหมดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพดังตัวอย่างที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า เรามักรับเอาว่า "ฉันเป็นเบาหวาน" "ฉันเป็นโรคหัวใจ" เป็นต้นแทนที่จะรับเอาว่าโรคภันเหล่านั้นเป็นเพียงกระบวนการที่เกิดขึ้นแล้วก็จะแปลงสภาพไปไม่ได้เป็นของเราหรือเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนหรือบุคลิกภาพตลอดไปแต่ถ้าหากเราปราศจากความเข้าใจทั้งหมดเกี่ยวกับการแปลงสภาวะใน 3 ระดับที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึง เรามักจะรับเอาความเจ็บไข้ได้ป่วยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนและบุคลิกภาพของเราหรือรับเอามาเป็นภาวะทางกายภาพของเราโดยปริยายภาวะทางกายภาพที่เรารู้เห็น ก็ไม่พ้นสิ่งที่แพทย์วินิจฉัยว่าคือ? โรค อาการและการกระทำทางกายภาพทั้งหมดของบุคคลตัวตน ซึ่งเป็นการกระทำ เป็นอาการเป็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตัวตนภายนอก

เมื่อท่านอาจารย์อนาลัยสรุปว่า สุขภาพที่ไม่ดีไม่ได้เกิดขึ้นก่อนความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดี
พี่นักเขียนขอให้พวกเราพิจารณาย้อนต่อไปให้ถึงระดับจิตวิญญาณเราจะค้นพบต่อไปอีกด้วยว่าความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ดีไม่ได้เกิดขึ้นก่อนความเชื่อที่ผิด

เมื่อใดก็ตามที่เรามีคำถามเกี่ยวกับสาระจากหนังสือ
พี่นักเขียนขอแนะนำให้พวกเรานำสาระหลักๆประเด็นหลักๆที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวย้ำเสมอๆมาไว้ในสติสัมปชัญญะของเราก่อนเสมอเพราะมันจะช่วยขยายความเข้าใจของเรา สาระหลักประเด็นหลักปรากฏในหนังสือทุกเล่มเป็นตัวอักษร Italic หรือตัวเอียงพี่นักเขียนได้นำประเด็นหลักๆมาให้พวกเราจดจำกันแล้วครั้งหนึ่งขอให้พวกเรากลับไปทบทวนประเด็นเหล่านั้นเสมอๆ เพราะมันคิือหัวใจของคำสอนหากเรานำเอาประเด็นเหล่านี้มาไว้ในสติสัมปชัญญะได้บ่อยเท่าไรเราก็จะเข้าใจสาระต่างๆจากหนังสือทั้งหมดได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
:z2:z2:z2

 

ยังคงรอคอยเรียนระดับ 5 (2/3) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้อยู่ครับ

 

มีคน ที่ รอเรียน ในแต่ละระดับ อยู่ หลายคน ทีเดียว

ก็ ดี นะ ที่ แจ้ง ความจำนง มา เพื่อ อาจารย์ กิตติชัย จะได้ ทราบ ว่า มี คน รอเรียน ในระดับ ใด บ้าง มากน้อย สัก กี่คน

วันนี้ ก็ มี คนที่สนใจ ที่จะเรียน ในระดับ 1 มาสอบถาม กับผม ก็ได้แนะนำ ในเบื้องต้น ไป พอสมควร
...................................................................


สำหรับ ผู้ ที่มีอาการเจ็บ ป่วย ต้องการ ให้ ทำการรักษา
......สามารถ ติดต่อมา ........ ทางกระทู้ นี้ แหละ ครับ

แจ้ง ชื่อ พร้อม ลง ภาพถ่าย ของผู้ ป่วย
แจ้งอาการ ป่วย หากเคย ไปพบแพทย์ ตรวจอาการมาแล้ว แจ้ง มาด้วย
เพื่อ ความสะดวก และรวดเร็ว ในการ รักษา

ผม และ เพื่อนๆ รุ่นพี่ รุ่นน้อง ยินดี ช่วยกันส่งพลัง รักษาทางไกล ให้ ครับ


................................................

เมื่อเช้า พี่วิมลรัตน์ โทร มา
คุณพี่ แก แอบ หนีไป เที่ยว ไหนมา หายหน้า หายตา ไป เสียนาน

ยินดี ด้วย ที่ พี่ ได้เรียนระดับ 5 แล้ว เริ่ม รักษาทางไกล แล้ว ด้วย ดี ๆ ครับ
เรียนมาแล้ว ต้อง ใช้

พลัง มีไว้ ทำไม ถ้าไม่ใช้ ช่วย ผู้ คน


จริง ไหม เนอะ คุณพี่ ............................. 55

 

มาอ่านค่ะ พี่ดาวทะเลทรายเป็นนักประดิษฐิ์ซะแล้ว พี่จ๋าก็ขยันส่งข่าวสารมาให้เรื่อยเลยขอบคุณค่ะ
ตัวกลมก็โยคะบ้าง รักษาตัวเอง เจ้าตัวเล็กเท่านี้เลย วันโน้นไปวัดความดัน ลงมานิดหน่อยพอให้ได้
มีโอกาสไปบริจาคเลือด แต่ไม่รู้ว่าอาการร้อนท้องเกิดจากโรคกระเพาะ หรือโยคะกำหนดที่ท้อง
แบบหิว แต่ทานได้น้อย แถมวันหนึ่งทำท่าอย่างกะเป็นโรคไต เย๋ยยย เลยต้องรีบรักษาอาการที่ว่า
วันนี้หม่ำได้เยอะเกือบเป็นปกติแล้ว สงสัยอยากให้ผอมเร็วๆ อิอิ
อากาศเปลี่ยน กลางวันร้อน กลางคืนหนาว ก็ระวังสุขภาพกันนะคะ

 

เรื่องงาน วิจัย พัฒนา ไฮโดรเจต เจนเนอเรเตอร์ ที่ทำอยู่
ก็ ทำไป ก็ คีบหน้า ไปเป็นลำดับ

จะนำมาใช้ ตอนนี้ ก็ ได้ แล้ว

แต่ ที่ยัง ต้องทำต่อ ก็ เพื่อ พิสูจน์ ทฤษฏี ต่างๆ ว่า เป็นจริง เป็น เช่นไร บ้าง มีเงื่อนไข อย่างไร ตรงไหน

จะได้ นำ กลับ มา พัฒนาประสิทธิ์ภาพ ในลำดับ ต่อๆ ไป

แต่ เรื่อง รักษา สุขภาพ รักษา คนป่วย ก็ ยัง ทำอยู่ ไม่ เคย ละทิ้ง
ยินดี ที่ จะ รักษา ให้ ทุกคน ที่ ร้อง ขอ
หรือ แม้น บางคน ไม่ ได้ ขอ ก็ ยัง ให้ เลย................. 55

เมื่อต้นเดิน ได้ คนไข้ มาอีกคน
อาจารย์ สามตา แนะนำ ให้ มารักษา กับผม
รู้สึกว่า ก็ กินยา ของ หมอสุวิ อยู่ด้วย หลายขนาน ไว้ เจอ อ.สุวิ จะได้ ถาม ดูบ้าง

รายนี้ ยังไม่ เคยเจอตัว กัน เค้าโทรศัพท์ มา
ก็ รักษา ทางโทรศัพท์ ให้ไป ทุกๆ วัน เว้นวัน
โดย ผม ให้เค้าโทร ทุกๆ สองวัน แล้ว ก็ ส่งพลังรักษาให้ พอส่งเสร็จ ก็ ให้ โทรมา อีกคร้ง เพื่อ สอบถามอาการ กัน อีก รอบ

ทำ อยู่ อย่างนี้ มาตั้งแต่ ต้นเดือน แล้ว อาการ ก็ ดี ขึ้น บ้าง ทรงตัว บ้าง ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ อย่างนี้
เค้า เป็น โรค ประหลาด ในทำนอง โรค กรรม นั่นแหละ
ตรจทางการแพทย์ ไม่ พบอะไร ตัวเค้าเอง ก็ เป็นพยาบาล อยู่ใน โรงพยาบาล ด้วย
อาการ ก็ ยิ๊บ ๆ ยับๆ ทั่งตัว เหมือน มี อะไร วิ่ง ในเนื้อ ในตัว

พอเราส่งพลัง ให้ไป บางที ที่ยิ๊บ ยับ ก็ หยุด นิ่ง แต่ ก็ ยังอยู่ ไม่หาย เพียง ไม่ ซุกซน วิ่งไป วิ่งมา เท่านั้น

รายนี้ ก็ คง รักษา กัน นาน หน่อย รักษา กันจน เบื่อ ไป บ้าง ข้างหนึ่ง ละ....... 55

 

คุณยายพิมพ์พา หนุนนาค ไปสบายแล้ว
หน้ายายยิ้มเหมือนคนนอนหลับธรรมดา ตัวก็นิ่มๆ

ขอบคุณหมอมือเปล่าทุกท่านที่ส่งพลังให้คุณยายค่ะ

 

มีเรื่องแปลกเล่าให้ฟัง
คือ ตอนยายนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล5อาทิตย์แล้วก็จากไป
ปกติจะส่งพลังให้ยายทุกคืนก่อนนอน ก็จะเห็นหน้ายายปกติ
แต่คืนก่อนที่ยายจะจากไป ส่งพลังให้ยายหลายครั้งตอนกำหนดภาพใบหน้าของยายจะกลายเป็นภาพใบหน้ายายเละๆ กำลังเน่าเปื่อย ทีแรกก็คิดว่าเราจิตไม่นิ่งคิดไปเอง กำหนด5ครั้งเป็นภาพยายกำลังเน่าเปื่อยทุกครั้งเลย

ตื่นเช้ามาก็เลยเข้าใจว่าทำไมจึงเห็นภาพเช่นนั้น เพราะยายจากไปเช้านั้นเอง

ใครมีประสบการณ์เช่นนี้ก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะ จะได้มีจุดสังเกตุตอนส่งพลัง

 

ผม มีประสบการ คล้าย กับ คุณ BooK777 แต่กลับกัน

คือ...... คนแก่ อายุ แปดสิบกว่าแล้ว อยู่ๆ ก็ หลับไป ทั้งวัน ทั้งคืน เรียกก็รู้สึกตัว แต่ลืมตาไม่ขึ้น อยากจะ หลับ ท่าเดียว

เป็น เช่นนี้ มา สองวัน ลูกหลาน ก็ เตรียมใจ ว่า คงจะไป สวรรค์ แน่
ลูกสาว เค้า ก็ มาบอกผม ให้ ช่วย ส่งพลัง ไปให้ และ ขอให้ไป เยี่ยม ด้วย

เช้าวันนั้น ผม เอง ก็ มีงาน อยู่ ยังไม่ ได้ ไป แต่ก็ ส่งพลังรักษา ไปให้ ก่อน
พอทำสมาธิ ก็ เห็น คุณยาย แก สว่าง ไสว ดีอยู่
ในใจ ก็ รู้สึกได้ ว่า เค้า ยังไม่ ตาย หรอก ก็ บอก ญาติๆ เค้าไป

พอตอนบ่าย มีเวลา แวะไป เยี่ยม คุณยาย
แก ก็ นอน เหมือนคนนอน หลับ ...... เรียก ปลุกให้ ตื่น ก็ รู้สึกตัว เด๊ยวก็หลับต่อ

ผม ก็ เอาใจช่วย ส่งพลัง ให้ ไป เป็น ชุด ๆ
ลูกหลาน มา รายล้อม จน ดู จอ แจ
ผม จึง เดิน ออกไป นอก ระเบียงบ้าน หาที่ เหมาะๆ นั่ง ทำสมาธิ และ ส่งพลัง ให้ อยู่ นาน ทำ อยุ่ อย่างนี้ หลายรอบ

แต่ ทุกครั้ง ก็ รู้ สึก ได้ ว่า คุณยาย ยัง ส่วางไสว อย่างไร ก็ ไม่ ตาย แน่ ๆ
แต่ แก คง ไม่ ค่อยมีแรง
จึง พยายามส่ง พลัง ให้ แก แข็งแรง มี เรียวมีแรง กระฉับกระเฉง ขึ้น ... ส่งไป....

ก็ บอก ญาติ ๆ เค้าไป ไม่ ตายหรอก

ก็ ไม่ มี ใคร เชื่อ ผม หรอก ...... ยัง นั่ง เฝ้า กันอยู่ อย่าง นั้น

จนเย็น ผม ก็ ขอลากลับ

วันรุ่ง ขึ้น .... ได้รับข่าว คุณยาย ท่านนี้ ...
ลูกหลาน เล่า มาว่า ตอนนี้ ตื่น ขึ้นมา ไม่ยอมนอน หิว ก็ กิน นั่ง เล่น ช่างพูด อยากจะ ออกไป เดินเล่น ให้ ลูกหลาน พาออกไป เดินนอกบ้าน................. 555

หลายวัน ต่อมา ได้รับข่าว เพิ่มเติมมาว่า
ทีนี้ ปาก แข็งแรง มาก ช่างพูด ผิดจาก แต่ก่อน ที่ ไม่ ค่อยพูด

ทีนี้ ลูกหลาน มาบ่น บ้าง ว่า เหนื่อย ที่ ต้อง คอยดูแล
เดิน แก่ กิน ๆ นอนๆ ก็ ดูแล กันมา อย่างนี้ เป็น ปี ปี

ตอนนี้ จะ ลุกขึ้น น่าซิ ... ลุกหลาน ต้อง คอย พยุง คอยอุ้ม กลัว ว่า แก จะ ล้ม
ลูกหลาน เหนื่อย หนัก ขึ้น.....
เหมือน เลี้ยง เด็ก ซน ๆ....... 55

อ้าว .... เป็น ซะ อย่าง นั้เน....

ตอน แก จะ นอน ไม่ ตื่น ก็ โศกเศร้า ...... กลัว ว่า แก จะ จากไป

พอ แก ตื่น ขึ้นมา มีเรี่ยวมีแรง แก ก็ อยาก เปลื่ยน อาริยาบท บ้าง แหละ นอน มาตั้งนาน
จะ มา บ่น ซะ อีก ง.... อย่าง นี้ หมอ มือเปล่า อย่าง เรา เอาใจ ไม่ ถูก..... 55

สงสัย ใส่ พลัง แอคทีผ ให้ มากไป หน่อย ...........................55

 

แจ้งข่าว

ขอให้ผู้ที่จะเรียนต่อระดับ 5 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 29 พ.ย. มาลงชื่อได้แล้ว

ส่วนผู้ที่สนใจจะเรียนระดับ 1 ทุกท่านโปรดลงชื่อไว้เพื่อดูจำนวนคนที่สนใจ หากเกิน 20 ท่าน จะเปิดสอนให้ภายในเดือน ธันวาคม นี้
จึงแจ้งมาเพื่อทราบ

อจ.กิติชัย สุรทิณฑ์

 

"วิชาที่ทุกท่านเรียนรู้ไปทั้งหมด หากไม่นำไปปฏิบัติ ก็ยากจะเข้าถึงองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งกว่าที่เขียนไว้เป็นตัวอักษรได้"

อนึ่งเมื่อนำมาผนวกเข้ากับความเอื้ออาทร ห่วงใย ดั่งเขาคือคนสนิท แม้จะไม่เคยรู้จัก ก็เหมือนดั่งว่าคุ้นเคย จักทำให้ความเข้าใจสัจจะธรรมของชีวิต ชัดเจนขึ้น

 

1. พรปู่ 1 ที่ครับ