การสอนดูจิตตอนนี้ ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 6 พฤศจิกายน 2009.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    พูดเรื่องธรรมอยู่ว่า ผักตบอย่างไร ไม่มีคนเถียง
    พูดว่า ธรรมพระปราโมทย์ไม่ดีอย่างไร เห็นเก่งสุด เถียงได้แค่ว่า คุณไม่รู้ คุณฟังไม่รู้เรื่อง

    ปัดโธ่ คนเรา แถมยังมีพวกป่วนตัวจริง มาด่าอีกว่า กูเก่งสุดกูเลิศสุด
    มันก็แน่อยู่แล้ว ก็ให้มาพูดธรรม เถียงกันไม่ได้เลี่ยงไปทางอื่น สุดท้าย ไม่พอใจ

    ตลกนะไอ้พวกกิเลสนี่
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่ได้คิดจะแก้คนที่ว่าหลวงพ่อ เพราะรู้ว่าแก้ไม่ได้
    แต่มันเป็นทุกข์เกิดในใจเรา มันห้ามไม่ได้
    เหมือนมีคนมาว่าพ่อแม่เราเป็นคนไม่รู้เรื่องแล้วมาสอนเราไม่ดี
    เราก็เป็นทุกข์ มันก็ทนไม่ได้ต้องออกมาบอกว่าพ่อแม่ฉันสอนมาอย่างนี้
    ถ้าวันไหนมีคนมาว่าพ่อแม่ฉันแล้วฉันไม่ทุกข์ไม่ร้อน ฉันก็หลุดพ้นจากทุกข์
    แล้วซิ
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ลองหันไปชำเรืองใจเราซิ ตอนนี้เราเป็นยังไง อ่านแล้วเกิดยินร้ายไม่ชอบใจ ก็สังเกตุตัวเราไปเรื่อยๆ เห็นที่ใจตัวเอง ลองดูซิครับ รู้บ่อยๆ
     
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เห็นด้วยครับ
     
  5. guest_1

    guest_1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +41
    แม้การเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    พ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง บุตร สามี
    ก็สมมติ ทั้งหมดไม่ใช่เหรอครับ

    เมื่อเป็นสมมติ ทั้งหมด จะยึดไว้ทำไม
    เพราะ เป็น ทุกข์ เป็นอนัตตา

    ถ้าไม่ปล่อยวางจะพ้นทุกข์ได้ยังไง
    ต้องปล่อยวางก่อนถึงจะพ้นทุกข์

    ไม่ใช่พ้นทุกข์ แล้ว ค่อยปล่อยวางครับ

    หาผู้รู้ให้เจอจะดับได้ง่าย.....
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ผมจะเอาประเด็นออกมาให้ชัดๆ จะได้เลิกคิดสักที ว่ามันมีประเด็นอะไรบ้างที่สังคมอยากรู้

    1 เรื่องคำสอนที่อ้างว่าของหลวงปู่ดูลย์ แต่แท้จริงคือ หนังสือฮวงโป ของท่านพระพุทธทาส

    2 เรื่องการดูจิต ที่สอนให้ดูเฉยๆ ที่คำว่า อย่าไปเพียร จิตมันทำของมันเอง ข้อนี้เถียงอย่างไร ก็ไม่มีใครเอามาพูดตรงๆ ได้แต่เลี่ยงไปเรื่องนั้นเรื่องนี้

    3 เรื่องการอ้างครูบาอาจารย์ผิดๆ เช่น อ้างหลวงพ่อพุธ อ้างหลวงปู่ดูลย์

    เอาแค่สามประการนี้ ไม่มีใครชี้แจงตรงๆ แล้ว คุณยังคิดว่า คนอื่นเขาไปลบหลู่ดูหมิ่น อีกหรือ

    แล้วก็คอยดูไป ขอตัว
     
  7. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เดี้ยวรออีกคนมาด้วยจะได้ชัดเจน ลองอ่านที่เราถกธรรมกันสิครับ ผมรู้ว่าต้องมีคนเข้าใจแน่นอน ผมถึงเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นพระอรหันต์ เพราะอะไรเพราะจิต ไม่จำ ไม่ยิ้มด้วย มันก็อยู่ของมันเฉยๆ
    http://palungjit.org/threads/ความหมายของการดูจิต.211934/page-2
    เอาทั้งสองโพสต์เลยครับ
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    บอกตามตรง ได้อ่านแล้วทุเรส
    ตัวคุณเอง นี่แหละ ตัวโง่เลย ยังจะไปสอนคนอื่น ท่องกันยังกับนกแก้วนกขุนทอง เหมือนกัน เป็น ประโยคเดียวกันไม่มีผิด

    แหม้ง ลัทธิชัดๆ

    พอ ขอตัว
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    แหม พี่เสขะก็ว่าไป ... คงไม่มีผู้ปฎิบัติตามแนวดูจิตคนไหนไม่ทำความสงบของใจหรอกน่า จะ สงบ ละเอียดแค่ไหน ก็แล้วแต่กาล
     
  10. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ขอบคุณคร๊าบ.. ที่ชม
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ปัญญายังไม่เกิด จะเอาวิชชาที่ไหนไปวางทุกข์
    มีแต่วาง เก๊ๆ กับคิดว่าวางไปแล้ว พอเผลอก็ทุกข์แล้วก็ไม่รู้ตัวอีก
    พอรู้ตัวมันก็ไม่ทุกข์อยู่แล้ว ฉันก็รอดูอยู่เนี่ย เมื่อไรมันจะเกิดปัญญารู้ตัวมั่ง
    ฉันไม่ชอบหลอกตัวเอง ทุกข์เกิดก็รู้ไปว่าทุกข์มันเกิด สมมุติมันก็เกิดจาก
    ปรมัตถ์ ลูกผัวพ่อแม่ ก็ของจริงณ.ปัจจุบัน ทุกข์ก็ของจริง ณ.ปัจจุบัน
    เราเห็นทุกข์แต่ปล่อยไม่ได้ เพราะปัญญาไม่มี เราจะวางจะไม่สนใจก็ได้
    ก็ทำได้แต่ชาตินี้ เพราะชาติหน้าก็ไม่ใช่เราแล้ว ปรมัติถ์มันกลายเป็นสมมุติ
    คนใหม่อีกแล้ว
     
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ใจเย็นๆครับลุง ธรรมดาไม่ใช่เหรอครับ คำว่า อธิมุตติ นั้นไม่ล้าสมัยเลยจริงไหมครับ ศิษย์เทวทัตก็เหมือนเทวทัต ศิษย์พระสารีบุตรก็เหมือนพระสารีบุตร ศิษย์พระโมคคัลลานะก็เหมือนพระโมคัลลานะ อันนี้เป็นต้น ไม่ต้องร้อนรนเพราะทุกผลมาจากเหตุ ทุกเหตุมาจากกรรม เพราะมีกรรมร่วมกัน จึงเป็นเช่นนั้น
    ผมก็ยืนยันคำเดิมแม้ว่าพระท่านจะไม่เคยกล่าวว่าพระท่านเป็นพระอรหันต์ แต่ผมเชื่อว่าธรรมระดับนั้นยังไม่สมควรจะเป็นธรรมของพระอริยะบุคคลเลย แต่ของๆใครๆก็รัก ความยึดมั่นมีไม่สิ้นสุด มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    หาผู้รู้ให้เจอจะดับได้ง่าย.....
    ---------------
    ผู้รู้เนี่ย อะ ตัวทุกข์ เลย รู้ไปถึงไหนทุกข์เกิดที่นั่นเรย
     
  14. guest_1

    guest_1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +41
    พระโสดาบันท่านวางขันธ์ 5 ท่านก็วางชั่วคราวอย่างนั้นล่ะครับ
    พอหมดกำลังก็กับมายึดใหม่

    เหมือนเรามีสติหลุดพ้นจากการครอบงำของโมหะนั่นล่ะครับ
    เราก็หลุดออกมาจากอารมณ์นั้นชั่วคราว
    ซักหน่อยก็เข้าไปหลงใหนอารมณ์นั้นอีก
    เพราะยังทำลายเชื้อมันไม่หมด
    มันก็ก่อตัวใหม่ได้
    แต่เราหลุดพ้นจากมันได้ชั่วคราว
    จากกำลังของ สติ ของสมาธิ ของปัญญา

    ส่วนจะของจริงของเก๊ นี่
    นักปฏิับัิติท่านถือเป็นปัจจัตตังครับ
    ใครจะเชื่อหรือไม่ท่านไม่ถือเป็นประมาณ

    แต่ส่วนมากคนชอบบอกว่าเก๊นั่นล่ะ
    มีเหตุผลในใจอะไรบางอย่างถึงได้พูดออกมาอย่างนี้
     
  15. guest_1

    guest_1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +41
    ไม่รู้จริง ๆ เหรอครับ
    ผู้รู้เป็นยังไง
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เราพูดถึงตัวเอง ว่าเคยวางเก๊ๆ ทำบ่อยๆ
    ไม่ได้วางด้วยปัญญา มันไม่หายขาด ไม่ได้หมายถึงคนอื่น
    เราจะไปรู้เรื่องของคนอื่นได้อย่างไร ถ้าเราไม่อยากสู่รู้ เราก็ไม่รู้คนอื่นหรอก
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ยังไม่ได้ฌาณ ผู้รู้ก็เป็นรู้ลักปิดลักเปิดไง รู้แป๊บๆ แบบขณิกสมาธิ
    รู้ว่า ใจ นี่แหละ คือผู้รู้ รู้ตัวเองก็ได้ รู้คนอื่นก็ได้
    ถ้าใจมันเป็นกลางๆ มันจะรู้แม่น ถ้าใจมีสมาธิจะรู้ชัด
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าใจไม่เป็นกลาง รู้อะไรก็มีแต่เป็นทุกข์ เพราะมันเต้นผิดปกติ
     
  19. guest_1

    guest_1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +41
    มันก็ต้องวางเก๊ ๆ ไปก่อนล่ะครับ
    พอจิตใจเราเคยชินกับการวางเก๊ ๆ
    สุดท้ายจิตเรารู้ว่าการวางถึงแม้จะวางเก๊ ๆ ก็ทำให้สุขได้นะ
    คราวนี้จิตก็จะอยากวางจริง ๆ
    จนกระทั่งวางจริง ๆ ได้ครับ
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มันก็เอาแต่วางเก๊ๆ อะดิ เพราะมันไม่ทุกข์ มันจะเกิดปัญญาวางทุกข์ได้จริงหรือ
    มันสุขจนเคยตัวแล้ว มันจะยอมวางสุขหรือ
    ถ้ายอมวางสุขได้ ก็โอเคนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...