รู้สึกท้อกับการทำสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ทิดทิด, 26 สิงหาคม 2009.

  1. ทิดทิด

    ทิดทิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +203
    ผมทำสมาธิติดต่อกันมานาน เป็นเดือนแล้วครับ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจให้จิตรสงบ ไม่คิดฟุ้งซ่าน
    แต่มีปัญหาว่า เวลาทำสมาธิ จิตฟุ้งซ่านตลอด บางครั้งนั่งได้ไม่ถึงนาทีก็เริ่มฟุ้งซ่านแล้ว พอรู้ตัวว่าฟุ้งซ่านก็ดึงจิดกลับมาใหม่ สักพักก็ฟุ้งซ่านอีก เป็นอย่างนี้ตลอดการนั่งสมาธิ โดยที่ช่วงเวลาที่มีสมาธิจะน้อยกว่าการฟุ้งซ่านครับ
    ตอนแรกๆ นึกว่าถ้าเราหมั่นปฏิบัติ อาการฟุ้งซ่านจะค่อยๆ หายไป แต่นี่ไม่ยอมหายเลย นั่ง 30 นาที จะได้จิตที่มีสมาธิแค่ 10% เอง
    เห็นเพื่อนที่เขานั่งสมาธิแล้วจิตสงบ ก็รู้สึกว่าทำไมเราไม่สงบเลย ทั้งๆ ที่ทำมาตั้งนานแล้ว เพื่อนที่บอกว่าจิตมันสงบ มันจริงไหม เป็นเหมือนเราหรือเปล่า แล้วเขาทำกันยังไง
    ตอนนี้ยังคงปฏบัติอย่างต่อเนื่องครับ ทุกเช้าตอนตี 4 ครึ่ง แต่ก็ยังคงมีปัญหาจิตรฟุ้งซ่านอยู่
    เพื่อนๆ เจอปัญหาแบบผมไหมครับ ทำยังไงดีครับ

    ....เฮ้อ....​
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การแก้กรรมฐานนั้น ต้องเล็งใหเห็นอธิปัจจัย แต่อธิปัจจัยนั้นมองเห็นยาก

    ให้มองมาที่ชนกกรรมแทน

    กรรม ก็คือ เจตนา เจตตาชนก ก็คือ เจตนาแรกที่มุ่งกระทำในเวลานั้นๆ

    เมื่อสำรวจดู ผมก็ขออนุญาติชี้ว่า ที่คุณไปแก้ความฝุ้งซ่าน นั้นแก้ผิดตัว
    พอแก้ผิดตัวทำให้ เหตุ ที่ต้องถูกแก้ไม่ได้แก้

    เหตุ ที่ต้องแก้ ทีเป็นชนกกรรม คือ ความมุ่งหวังจะสงบ ความยินดีในรสความ
    สงบ ความอยากได้ความสงบแบบนั้นๆกลับคืนมา ให้แก้ตัณหาตัวนี้ก่อน

    หากนึกไม่ออกว่าจะต้องแก้อย่างไร มองอย่างไรก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เราจะ
    ละอยากตัวนี้ เพราะกลัวไม่ได้ปฏิบัติ ไม่ได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติ ก็ขอแนะนำว่า
    ให้หากิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นกุศลทาน จาคะ เป็นกิจกุศลในบุญกริยาวัตถุมาทำ
    ขั้นกลางไปพลางๆก่อน ...ขณะที่เพลินๆกิจกรรมนั้น จะเกิดการกระเดิดขึ้น
    ของจิตอยากปฏิบัติ ให้สังเกตุอารมณ์ตอนนั้น จดจำสภาวะไว้ พอเข้าใจว่า
    การกระเดิดในความอยากปฏิบัติ อยากสงบ มีอาการทางกายทางใจอย่างไร
    แล้ว ก็ลองกลับมานั่งสมาธิต่อดู ....

    สู้ สู้ สู้โว้ย!!
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เช้านั่งสมาธิ 30 นาที ที่เหลืออีก 1,410 นาทีต่อวัน ทำอะไรบ้าง หลุดไปกับการเห็น การได้ยินได้ฟัง การกินการอยู่เท่าไหร่ เคยสังเกตบ้างมั้ย เคยฝืนความเคยชินเอาชนะใจตนเองบ้างมั้ย วันนึงเราเผลอไปกี่หน พวกนี้ถ้าเรารู้จักสังเกต รู้จักควบคุมสังวรระวังในระหว่างวันด้วย มันก็จะช่วยเราได้มาก แต่ก็อย่าทำด้วยความอยาก แบบอิน จิตเกิด อย่างนั้นมันจะหนักตึง เครียด ไม่ผ่อนคลาย ไม่เป็นธรรมชาติ ค่อย ๆ ดู ค่อย ๆ ศึกษาไป อ่านตัวเองให้ออกบ่อย ๆ รู้จักตัวเองหรือยัง อะไรคือมุมมืด-มุมสว่าง เรามีปมอะไรในใจบ้าง เราหลงเอาปมพวกนั้นไปตัดสินผู้อื่นหรือไม่ แยกแยะกุศลกับอกุศลให้ออก เลือกเดินแต่ทางกุศล ทางที่เป็นประโยชน์ ทางที่ไม่เป็นประโยชน์ก็รู้จักเพลา ๆ ลงบ้าง ถ้าทำได้อีกหน่อยก็จะมีสมาธิเอง (แบบไม่รู้ตัว)...
     
  4. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ไม่เหลือจิตปกติธรรมดา
    [​IMG]
    ลูกศิษย์คนหนึ่งมาถามพระอาจารย์ว่า “ ศิษย์นั่งสมาธิทุกวัน สวดมนต์บ่อยๆ นอนแต่หัวค่ำ ตื่นแต่เช้า จิตไม่คิดฟุ้งซ่าน ในสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ รู้สึกจะไม่มีใครขยันไปกว่าข้าพเจ้า แล้วทำไมถึงยังไม่รู้แจ้งสักที “

    พระอาจารย์นำน้ำเต้า และเกลือหยาบให้ลูกศิษย์ แล้วบอกว่า “ เจ้านำน้ำเต้านี้ไปใส่น้ำให้เต็ม แล้วใส่เกลือเข้าไป ถ้าหากมันละลายทันที เจ้าจะรู้แจ้งทันที “

    ลูกศิษย์ทำตามวิธีที่อาจารย์บอก สักครู่ก็กลับมาบอกว่า
    “ ปากน้ำเต้าเล็กไป ใส่เกลือลงไปมันไม่ละลาย เอาตะเกียบลงไปก็คนไม่สะดวก ดูแล้วศิษย์คงจะไม่สามารถรู้แจ้งได้แล้ว “

    พระอาจารย์เลยเทน้ำออกไปบางส่วน ใส่เกลือลงไปแล้วเขย่า สักประเดี๋ยวเกลือก็ละลาย พระอาจารย์พูดต่อว่า “ ขยันทั้งวัน ไม่เหลือจิตปกติไว้บ้าง ก็เหมือนกับน้ำเต้าที่ใส่น้ำจนเต็มแล้วเขย่าไม่ได้ คนไม่ได้ จะละลายเกลือได้อย่างไร แล้วจะรู้แจ้งได้อย่างไร? “

    “หรือว่าไม่ขยันแล้วจะรู้แจ้งได้ “ ลูกศิษย์ถาม “ การปฏิบัติธรรมก็เหมือนการดีดพิณ สายพิณตึงเกินไป ย่อมขาดง่าย สายพิณที่อ่อนเกินไปก็ไม่เกิดเสียง ทางสายกลาง จิตปกติธรรมดา ถึงจะเป็นฐานที่ทำให้เกิดการรู้แจ้ง “
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [​IMG]...[​IMG]..[​IMG]


    [​IMG]...[​IMG]
     
  6. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ลองเจริญสติระหว่างวันดูคะ
     
  7. wuttichai0329

    wuttichai0329 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,015
    ค่าพลัง:
    +741
    ท่านนิวรณ์ครับ เกี่ยวกับกังฟู ป่าวครับท่าน
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    บอกได้ปะ ได้ปะเจริญสติระหว่างวัน

    เจริญสติอย่างไง ถือว่าพี่มาสร้างศรีสรรค์:boo:
     
  9. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903
    การตั้งใจให้มันสงบ เป็นการฝืน ธรรมชาติของจิต *วิธีแก้ 1. ง่ายมากสวดมนต์เสียงดัง

    บทอะไรก็ได้ที่ใจรักไม่เกิน5นาที เสียงจะแผ่วลงจิตรู้สึกไม่อยากสวด อยากภาวนาให้ทํา

    ตามจิตในตอนนั้น *2 เดินจงกลมก่อนมีพื้นที่แค่ไหนเอาแค่นั้นพอจิตรวมคือเริ่มมีอาการ

    คล้ายเคลิ้มแต่ไม่ใช่ง่วง นะ ธรรมชาติของคนขณะเคลื่อนไหวจะไม่ง่วงเด็ดขาดระวังจะเข้า

    ใจผิดตรงจุดนี้ *ให้นั่งภาวนาจะสงบได้ง่ายค่ะ

    ***และ เรื่องคนอื่นได้ไม่ได้สมาธิอย่าไปรู้เค้าเลย ส่วนมากราคาคุยบางคนได้จากตํารา

    ถ้าคุณฝึก ได้ดีเมื่อไหร่คุณจะมองออกเองว่าคนนั้นคนนี้ได้สมาธิจริงหรือเปล่า การฝึกไม่

    ต้องถามผลจากใตรตัวของเราจะรู้เอง และไม่จําเป็นต้องเล่าให้ใครฟัง การฝึกเน้นหลักร่าง

    กายต้องไม่เคลียด ตรงนี้สําคัญนะ อ้อ ตรงนี้เอาไปสังเกตุคนชอบคุยได้เลยเวลานั่งเป็น

    กลุ่ม ถ้าใครหลังตรงเดะ แบบฝึกโยคะนะท่าสวยแต่ไม่ได้อะไรเลย
     
  10. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เอาอย่างของแว๊ด เวลาทำอะไรจะกำหนดด้วย เช่น เวลายกแก้วน้ำ ก็ยกหนอ จรดปากหนอ ดื่มหนอ กลืนหนอ เห็นหนอ กระพริบตาหนอ เสียงหนอ ฯลฯ (แต่ว่าไม่ใช่ว่าแต่ปาก คือต้องปักจิตที่เรากำหนดด้วยอะคะ)

    พอทำอย่างนี้ ถ้าลืมนึกได้ก็ทำใหม่ ทำทั้งวัน เวลามาเดินจงกรม กับนั่งสมาธิ มันจะไม่ฟุ้งซ่าน ถึงมีก็มีน้อย สงบได้เร็ว
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ข้างบนหลายๆคนวิเคราะห์ได้ดีแล้ว ก็ขอสรุปให้ 2 ปัจจัย

    เพราะนิสัยที่ไม่เคยสงบ และ ความอยากสงบ สองตัวนี้จะทำให้คุณ ทำสมาธิไม่ได้ผล

    ทางแก้ไข

    1 ฝึกสังเกตุเห็นความสงบง่ายๆ ให้เจอก่อน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เราก็มีความสงบส่วนหนึ่ง
    แล้ว ให้หมั่น ดึงจิตใจมาสู่ความสงบที่จรดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้เหนียวแน่นมากขึ้น
    สังเกตุผลที่ได้ ทำให้บ่อยให้เป็น อุปนิสัย

    2 และ เวลาที่อยากจะสงบ เพราะว่า เรารุ้ตัวว่า เราฟุ้งซ่าน ทางที่ถูกต้องไม่ใช่ไปฝืนมันทันทีด้วยการทำสมาธิ แต่ต้องค่อยๆ ผ่อนความฟุ้งซ่านนั้น ด้วยการระลึกถึงเรื่องที่ดีงามอย่างอื่น เช่น นึกถึงพระพุทธคุณ นึกถึง เรื่องดีๆ ของวันวาน ในด้านกุศลต่างๆ
    ปลุกกำลังใจ ให้ฮึกเหิม ต่อสู้กับความฟุ้งซ่านนั้น ดังนักรบกำลังจะออกศึก

    เมื่อยังไม่ได้ผลเต็มร้อย อย่าเพิ่งท้อใจ ให้ทำจนกว่า อุปนิสัยนั้นจะแน่นหนามั่นคง


    เมื่อทำจนเป็นนิสัยแล้ว ก็จะเข้าถึงความสงบได้ง่าย เพราะได้สร้างเอาไว้แล้ว
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ทำนายให้อย่างช้าไม่เกินเจ็ดปี ต้องบรรลุธรรมไม่ขั้นใดก็ขั้นหนึ่ง มีโสดาบันเป็นต้นqsqu
     
  13. shimoto

    shimoto Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +35
    รู้จัก "ปล่อยวาง" ไม่คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างทั้งสิ้นทั้งปวง เพื่อให้เกิดความว่างเปล่าในจิต ความนิ่ง ไม่เคลื่อนไหวก็จะเกิดตามมา ถึงจุดนี้ความง่วงจะเริ่มถามหา ให้ใช้สติประคับประคองรักษาระดับเอาไว้ มิฉะนั้น จะตกสู่ภวังค์ คือหลับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ถูกผิดอย่างไร ขออภัยด้วยครับ
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปก็ไม่ดี....

    ความอยากดีมากเกินไปทำให้ฟุ้งซ่าน....

    บุคคลที่ไม่ฟุ้งซ่านในจิตเลย...คือพระอรหันต์...
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เราก็เป็นคนที่มีจิตฟุ้งซ่าน เป็นคนคิดมากจนเป็นปรกตินะ
    คนที่เป็นแบบเราจะอาภัพเรื่องความสงบ จิตมันไม่ค่อยจะยอมสงบง่ายๆหรอก
    คนที่เขามีจิตสงบง่ายๆ ก็มีนะ เราจะเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้หรอก
    จิตแต่ละคนมีจริตไม่เหมือนกัน เทคนิคที่ใช้ก็ต่างกัน เหมือนการอบรมเด็กที่ซนมากๆ
    กับเด็กที่ซนน้อยๆ ก็ต้องใช้วิธีการต่างๆกัน ถ้าเรารู้จริตของเราได้เราก็หาทางฝึกได้
    ตรงกับจริตเรา ก็จะได้ผลดี ความสงบก็จะได้ตามมา

    อย่างตัวเรานะ นั่งสมาธิจิตมันไม่ยอมสงบง่ายๆ วิ่งเป็นลิงหลอกเจ้า ก็ไม่ต้องแก้มัน
    ปล่อยให้มันฟุ้งมันวิ่งไป พอมันหมดแรงมันก็กลับมาสงบตายรังเอง ที่สำคัญอย่าไปอยาก
    ให้มันสงบ แต่ให้ตามรู้มันไป จิตมันวิ่งไปไหน เราไปด้วยกับมันตลอดเป็นปาท่องโก๋คู่กัน
    ไป อย่าให้คลาดกับมันเรียกว่าเพียรมีสติตามรู้จิต

    จิตมันเป็นของแปลก มันชอบทำตรงข้ามกับที่เราอยากให้มันเป็น เช่นอยากให้สงบมันก็ฟุ้ง
    อยากให้มันนิ่งมันยิ่งไม่นิ่ง อยากให้มันหยุดคิดมันคิดหนักยิ่งกว่าเก่าอีก เหมือนแกล้งเรา
    เลยนะ

    แต่มันมีของแก้กันอยู่ จิตมันไม่ชอบคนรู้ทัน พอเรารู้ว่ามันชอบทำขัดกับที่เราต้องการ
    เราก็หยุดที่ตัวเรา หยุดอยากให้จิตมันเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วตามดูจิตอย่างที่มันเป็น
    จิตมันจะเป็น จะทำอย่างไร เรารู้ตามรู้มันอย่างเดียว ทำไปเรื่อยๆ พอจิตมันรู้ว่าเรารู้ทันมัน
    มันก็ยอมสยบกับเราเอง มันก็เลิกแกล้งเราแล้ว เพราะจิตมันฉลาดมันรู้ว่าทำไปก็ไลฟ์บอย
    เรารู้ทันหมด มันก็ยอมรับเราเอง เราก็ได้ความสงบ จิตมันก็เชื่องกับเราได้ เราก็อบรมจิต
    ได้อีกที

    แต่ถ้าทำยังไงกก็ยังไม่ยอมสงบ ไม่เชื่องซักที ก็ลองเปลี่ยนเป็นเดินจงกลม หรือทำกิจกรรม
    ให้จิตมันเหนื่อยลดพลังมันก่อนซักครึ่งหนึ่งเวลานั่งสมาธิจะได้ฟุ้งน้อยหน่อย หรือว่าจะ
    เปลี่ยนเป็นสวดมนต์ พอให้จิตสงบก่อนก็ช่วยได้ หรือจะถือศีลช่วยก็ได้ ถือศีล5เคร่งๆ ซัก
    ระยะ มันเหมือนถือไม้เรียวขนาบเด็กให้ลดความเฮี้ยวลงได้บ้าง ก็ช่วยได้นิดหนึ่ง ทำหลายๆ
    อย่างประกอบกัน จิตมันก็งงเอง ว่าเรามาไม้ไหนเนี่ย แล้วจิตมันก็ได้รับการขัดเกลาไปแบบ
    ไม่รู้ตัวไปในตัว ความซนความเฮี้ยวความเปรียวมันโดยเราขัดเกลาเนืองๆ พอจับเข้าสมาธิ
    มันก็ทำตัวดีขึ้นเอง

    เราก็ทำมาแบบนี้ ตอนนี้นั่งสมาธิทีไร มันไม่ค่อยฟุ้งแล้วแต่หลับแทน ก็เลยไปเน้นเรื่อง
    เจริญสติในชีวิตประจำวัน ส่วนกลางคืนก็เข้าสมาธิแล้วหลับไปเลย ก็เล่าสู่กันฟัง
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คล้ายๆครับ ต้องเป็นแบบ ปรมจารย์นักสู้คู่คุณธรรม...จางซันฟง นะ

    เรียกพริ้วไหว แก้ไขสถานะการเฉพาะหน้า(บาลีใช้คำว่า ปฏิบัติ)
     
  17. ดับกิเลสทั้ง5

    ดับกิเลสทั้ง5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +238
    เว็บอาตมาเองอาจเป็นประโยชน์แก่โยมไมมากก็น้อย

    Untitled Document
     
  18. E-BanK-*

    E-BanK-* สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +10
    ขอแนะนำด้วยนิดนึงเผื่อจะสร้างประโยชน์กับเค้าได้บ้าง
    - ศีล บริสุทธิ์ทำให้เกิดสมาธิได้ง่ายขึ้น (ลองรักษาศีลอย่างเคร่งครัดดูแล้วค่อยมานั่ง)
    - ลองภาวนาในขณะทำกิจกรรมระหว่างวันดู(เหมือนชาจแบต)แล้วค่อยมานั่งอาจทำไม่ได้ทั้งวันแต่นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ก็นึกภาวนาจะฟุ้งซ่านชั่งมันขอภาวนาไว้ก่อน
    - ทำ 2 อย่างมาแล้วขณะนั่งยังฟุ้งซ่านอยู่ก็ตามดูเลย ตอนนี้มันฟุ้งซ่านเรื่องอะไร ตามมันเข้าไป ตามไปๆ แล้วลองดูได้ผลยังไง บอกเล่า ด้วย เด้อออ
     
  19. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ทำสมาธิ 30 นาที
    เกิดจิตสงบ 10%
    ผมถือว่า คุ้มค่ามากแล้ว
    พยายามต่อไปครับ...
     
  20. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    เป็นธรรมดาของผู้เริ่มต้นครับ ..............ใหม่ ๆ ผมก็ใช้เพลงเบา ๆ เช่น สุเทพ ชรินทร์ กล่อมให้สบายใจก่อน ไหว้พระสวดมนต์ ก็ทำใจให้สบาย ๆ ถ้านั่งสมาธิใจไม่สบาย อย่านั่ง

    ในตอนกลางวัน ให้สนใจอยู่กับการทำงานของเรา อย่าส่งใจคิดไปในเรื่องอื่น นอกจากสนใจแต่ในสิ่งที่กำลังทำอยู่ รู้อยู่เป็นปัจจุบันอารมณ์ ทำให้ไม่คิดฟุ้งซ่าน หลายเรื่อง

    ตอนเย็น ผมเล่นกีฬา ใจก็จดจ่ออยู่กับเกมส์การเล่น หรือสิ่งที่กำลังเล่น ใจมันก็อยู่กับตัวเอง ไม่ส่งออกไปที่อื่น รับรู้ทุกอย่างด้วยใจ ในปัจจุบันอารมณ์ แม้ขับขี่รถก็เอาใจคอยระวัง ไม่คิดไปในเรื่องอื่น นอกจากตั้งใจ ระวัง...

    ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนใจมันถูกควบคุมได้แล้ว การฝึกสมาธิมันก็วางจิต ให้รู้ อยู่กับการเคลื่อนไหวของกาย ของลมหายใจ และเกิดความสงบได้ ในที่สุด...

    ทดลองทำดู ขอให้สมความประสงค์ด้วย ..............โชคดีครับ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...