ทริปเข้าพรรษา ภูทอก-วัดเจติยาศีรีวิหาร จ.หนองคาย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ปาฏิหาริย์, 12 กรกฎาคม 2009.

  1. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ๓๑. ตัวโลกธรรม
    วันต่อมาท่านออกบิณฑบาตตามปกติ ไม่ผิดสังเกตอะไร โยมคนที่ใส่กบให้ท่านเมื่อวานนี้
    ก็มายืนมองท่านด้วยอาการขำขำ แต่ท่านทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    และต่อมาเมื่อท่านออกไปรับบืณฑบาตรตอนเช้า ได้มีคนเขียนบัตรสนเทห์ใส่บาตรท่าน
    เมื่อกลับไปถึงวัด ท่านได้ห่มจีวรพาดสังฆาฏิอย่างดี เอาบัตรสนเท่ห์นั้นให้พระเณรอ่านว่า
    “เอ้าลูกอ่าน อมฤตธรรมแน่นี่ เทวดาเขาใส่บาตรมา หาฟังยากตั๋ว” พระเณรได้อ่านไป
    ตัวท่านพนมมือฟังไป ใจความมีว่า “พระผีบ้า เป็นพระเป็นเจ้า ไม่มีสำรวม ไม่มีศีล ไม่มีวินัย
    ประจบสอพลอ ขอของจากชาวบ้าน พระแบบนี้ถึงจะเหาะเหินเดินอากาศได้ ก็ไม่นับถือเป็นพระ
    ให้รีบออกจากวัดไป ถ้าไม่ไปจะเอาลูกตะกั่วมาฝาก” พอพระเณรอ่านจบ ท่านได้พนมมือสาธุ
    จนพระเณรได้ยินทุกรูป และท่านได้พูดว่า “เอาเก็บได้แท่นบูชาเด้อโลกธรรมแปดมันนี่เอง
    แต่ก่อนได้ยินแต่ชื่อว่า มีลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ มีสรรเสริญ-มีนินทา มีสุข-มีทุกข์
    โอ้ยของดีตั๋วนี่ สาธุพ่อได้ฟังแล้วแก่นธรรมเพิ่งมามื้อนี่เอง เก็บไว้เก็บไว้”

    วันต่อมาท่านได้ออกบิณฑบาตเหมือนเดิม โยมที่เอาบัตรสนเท่ห์ใส่บาตรเมื่อวาน
    ยืนยิ้มหน้ารั้วบ้านที่ท่านเดินผ่าน พระเณรสังเกตดูอาการท่าน
    ก็ไม่เห็นอาการโกรธเคืองโยมคนนั้นแต่อย่างไร
     
  2. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ได้ทราบประวัติและธรรมของหลวงปู่ทองรัตน์กันมาพอสมควรแล้วนะคะ
    ณ ยังมีธรรมมะของหลวงปู่ที่ เก็บมาได้อีกสิบกว่าตอน แฮ่...ยังคัดลอกไม่เสร็จ
    ถ้ามีผู้สนใจก็จะโพสต์เพิ่มเติมให้ค่ะ ...ขอเสียงหน่อย...
    หรือหากจะศึกษาประวัติหลวงปู่เพิ่มเติม ตามลิงค์นี้ได้เลยนะคะ


     
  3. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [​IMG]

    ส่งเสียงจ้า... ร่วมด้วยช่วยเล่า

    คืนวันเข้าพรรษา

    ... ที่สมุทรปราการ ท้องฟ้ากระจ่างมาก บนท้องฟ้า ไม่มีเมฆเลยแม้แต่นิดเดียว

    ทางทิศตะวันออก พระจันทร์ดวงโตสว่างสวย อยู่ใกล้มือราวกับเอื้อมได้ถึง

    แต่พอดีว่า สวมแว่นตาอยู่มั๊งนะ...เลยมองเห็นพระจันทร์มีสองดวง

    เอ๊~ ปกติแว่นตานี่เพิ่งตัดไม่กี่เดือน เคยมองพระจันทร์ผ่านแว่นตานี้ อยู่บ่อยๆ

    ...ก็เห็นดวงเดียวเป็นปกติ

    งั้นถอดแว่นตามองพระจันทร์ใหม่อีกที

    ...ก็เห็นสองดวง เหมือนเดิม

    !?!?!?

    ไม่เราตาเอ๋อ ก็เลนส์แว่นเกเรแน่ละหว่า

    ตานี้เลยทั้งสวมแว่นทั้งถอดแว่น เี้อียงซ้ายเอียงขวา ก้มๆเงยๆ
    หาองศาในการมองพระจันทร์ให้ได้ดวงเดียว

    ก็เห็นพระจันทร์สองดวงเหมือนเดิม

    เริ่มมึนหัวจากการใช้สายตามากไป...แต่หนนี้แปลก ไม่อยากคว้ากล้องมาถ่ายรูปแฮะ

    กะเลยบอกศาลาแล้วจ้า ไปนอนดีกว่า z z Z Z

    ใครทราบปรากฎการณ์นี้ ช่วยเฉลยให้ซันทราบบ้างเน้อ ...ทุกวันนี้ยังสงสัยไม่หายค่ะ

    (มีต่อจ้า)
     
  4. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    โมทนา กับ ณ ครับ
    ที่ถ่ายรูปจากหนังสือแล้ว วิริยะ แกะประวัติหลวงปู่เอามาลง

    หนังสือมี อยู่สองเล่ม ที่ศาลาชั้นห้า
    ตอนแรกตั้งใจจะหาอ่านหนังสือ ที่น้องโน่ บอกว่า พุทธศาสนาเกิดที่สุวรรณภูมิ
    แต่หาไม่เจอ เลยหยิบ " มณีรัตน์" มาอ่าน

    เรื่องของหลวงปู่ทองรัตน์ มีน้อยมาก
    ส่วนใหญ่เป็นคำบอกเล่า จากผู้รู้จักกับหลวงปู่ท่าน
    รูปถ่ายท่าน มีเพียงรูปเดียวเท่านั้น
    ได้อ่านแล้ว วัตร และ ปฏิปทา ท่านแล้ว
    งามสมเป็น อริยะสงฆ์ ครับ

    ณ เอา ตอนที่พระทะเลาะกันเรื่องวินัย และเอาตำราคัมภีร์มาอ้างทุ่มเถียงกันใหญ่โต
    แต่หลวงปู่กลับเอาตำรานั้นมาเช็ดก้น
    ทำให้ยุติการวิวาทนั้น
     
  5. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    อ้าว ณ ไม่มีตอนนี้หรือ
    ...
    เล่าเท่าที่พอจำได้นะครับ
    มีภิกษุสองกลุ่มถกเถียงกัน เรื่องวินัยพระ
    ต่างคนว่าสิ่งที่ตนเองปฏิบัตินั้นถูกต้อง
    ภิกษุกลุ่มที่จะเถียงเพลี่ยงพล้ำไปหา หนังสือ นวโกวาท มายืนยัน
    ทำให้ เรื่องราวลุกลามใหญ่โต
    ...
    หลวงปู่ทองรัตน์เห็นดังนั้น
    เดินไปคว้าหนังสือมาทำท่าเช็ดก้น
    ส่งผลให้ยุติการวิวาทโดยสิ้นเชิง
    ...
    หลวงปู่ยังมีเมตตาบอกกับพระเหล่านั้นด้วยว่า

    "อย่าทำแบบหลวงปู่นะมันเป็นบาป"
     
  6. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    [​IMG]

    เล่าต่อจากโพสต์ที่แล้วนะคะ ...(ขอลอกพี่ลีนะจ๊ะ)

    กลางคืนนอนหลับ ฝันตอนหนึ่งว่า

    หลังจากที่ไปสอนกลุ่มวัยรุ่นเรื่องการรักษาด้วยปรอทที่วัดท่าซุงแล้ว

    กำลังเดินออกจากวัดท่าซุง ไปอีกที่หนึ่ง

    ขณะเดินไปต้องข้ามสะพานไม้เก่า สะพานกว้างกว่าช่วงตัวคนนิดหน่อย

    กว้างพอเดินได้ทีละคนสบายๆ เป็นสะพานที่ไม่ได้พาดผ่านลำน้ำ

    พาดยาวไกลไปยังฝั่งเขาอีกฝั่งหนึ่ง

    ไม้ที่ทำสะพาน พาดขวาง ห่างๆกัน ทำให้มองลอดไปเห็นด้านใต้สะพานได้

    ใต้สะพานมีคนเดินไปมา ทำภาระำิกิจต่างๆกัน

    พอเดินขึ้นสะพานมาได้นิดหน่อย ประมาณ 3 ใน 10

    สายตาเหลือบมองลอดลงไป เห็นแถวคน 7 คน กำลังเดินลอดใต้สะพาน

    ห่างไปมากพอควร

    แต่ละคนแต่งตัวรุ่มร่าม ผ้าคลุมพันตัว สีคล้ายผ้าย้อมฝาดเข้มๆ

    ท่าทางเดินของแต่ละคน กระโดดย่องแย่ง เหมือนเด็กๆอนุบาล

    แต่คนหัวแถว เดินเรียบร้อยที่สุด ไล่ไปตามลำดับ คนสุดท้าย กระโดดโลดเต้นซนกว่าใคร

    แต่ทั้ง 7 คน เดินแถวตามลำดับห่างกันพอดี และตรงเป๊ะ

    ผู้คนรอบๆมองเหมือน 7 คนนี้เป็นเพียงคนขอทาน

    แต่ตอนนั้นในใจบอกว่าเป็น "พระ" กำลังเดินผ่าน ลอดใต้สะพาน ที่เรากำลังข้าม

    จึงหยุดเท้ากระทันหัน และหันหลังกลับจะถอยลงจากสะพานให้พระผ่านไปก่อน

    แต่พอหันหลังไป เห็นผู้หญิงที่ตามมาติดๆ หยุดตามเรา...เพิ่งเห็นว่าต่างคนต่างสวมชุดขาว

    ทำให้ถอยลงจากสะพานไมไ่ด้ ได้แต่ยั้งยืนไว้อย่างนั้น รอท่านผ่านไปก่อน...

    แต่ในใจกังวลมาก เกรงว่าเป็นการไม่สมควรต่อพระสงฆ์ ..แต่ถอยหลังลงไม่ได้แล้วจริงๆ

    ยืนรอและมอง ...ท่านทั้ง 7 นั้น ทะยอยเดินผ่านใต้สะพานไป ทีละคน

    จนกระทั่งถึงองค์สุดท้าย ตอนที่ท่าน กระโดดโลดเต้นผ่านใต้สะพานพอดีนั้น

    ท่านแหงนหน้ามองลอดสะพานขึ้นมา สบตาเราแล้วยิ้มให้

    ยิ้มด้วยสายตาและรอยยิ้มที่เมตตา ..เย็นวาบเข้าไปถึงหัวใจ

    ความรู้สึกของใจบอกว่า ท่านน่าจะเป็นพระ.... (ไม่กล้าทายท่านนะคะ)

    ................ จบแล้วค่ะ...............
     
  7. มเหสี

    มเหสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +124
    แหมมม ถล่มตัวอีกแล้วพี่ ณ อยากบอกว่าทุกอย่างในรูปดูพอดิบพอดีจริงๆ
    ขนาดไม่ค่อยมีแสงยังออกมาสวยประทับใจเลยง่ะ :cool:
     
  8. มเหสี

    มเหสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +124
    อนุโมทนาในนิมิตดีๆจ้า _/|\_

    กลับมาอ่านอีกรอบ... ขอแก้ไขข้อความ
    เพราะอยู่ดีๆไปบังอาจแปลนิมิตให้เค้า มันเข้าข่ายแส่ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ
    พอดีตอนอ่าน มันดีใจด้วยจนลืมใช้สมองง่ะค่ะ แห่ะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2009
  9. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    หลวงปู่ทองรัตน์
    ...
    ระหว่างธุดงค์ระหว่างทาง ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีหญิงชาวบ้าน
    มาร้องห่มร้องไห้คร่ำครวญกับหลวงปู่ทองรัตน์ที่ลูกชายได้ตายจากไป
    ให้ช่วยชีวิตคืน หลวงปู่จึงพูดขึ้นว่า

    “ให้มันตาย ให้มันตายหมดโคตร หมดเชื้อหมดแนวมัน หมดพ่อ หมดแม่มัน”

    หญิงคนนั้นโกรธมาก หยุดร้องไห้ฟูมฟายทันที

    นั่นเป็นอุบายของท่าน
    แล้วท่านจึงเทศนาโปรดอบรมให้คลายทุกข์คลายโศกร่ำพรรณนา
    ให้เข้าใจรู้เท่าทันวัฎสังขาร
     
  10. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    รูปยอดภูทอกใหญ่
    พ่อขาวที่เฝ้าวัดอยู่ เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่จวนท่าน มารับอาหารใส่บาตรจากเทวดา
    เวลามาจำวัดที่ชะเวิกใต้หน้าผาแห่งนี้ครับ

    [​IMG]

    "ปีแรกที่จำพรรษาอยู่ที่ภูทอก มีพระ ๓ องค์ ผ้าขาวน้อย ๑ องค์ ปลูกกระต๊อบชั่วคราวพออาศัยได้ ๔ หลัง ทุกองค์ต่างทำความเพียรอย่างเต็มที่ เวลาพลบค่ำ ท่านอาจารย์ขึ้นไปนอนบนชั้น ๕ โดยปีนขึ้นตามเครือเขาเถาวัลย์ ตามรากไม้ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นถ้ำวิหารพระ สมัยนั้นยังเป็นป่าทึบ มีต้นไม้ขึ้นอย่างหนาแน่น
    กลางพรรษาปี ๒๕๑๒ ท่านได้เกิดสุบินนิมิตว่า ได้ออกไปบิณฑบาตที่ภูทอกใหญ่ ตามหน้าผา อุ้มบาตรเดินเลียบไปตามหน้าผา อ้อมไปเรื่อยๆ เห็นหน้าต่างปิดอยู่ตามหน้าผา มองไม่เห็นคนเลย ท่านจึงเดินอ้อมไป และหยุดยืนรำพึงว่า ....


    ทำไมมีแต่หน้าต่างปิด ไม่เห็นคนออกมาใส่บาตรเลย สักครู่หนึ่งก็เห็นคนเปิดหน้าต่างออกมาใส่บาตร ท่านจึงตั้งจิตถามขึ้นว่า เขาเป็นใคร เขาก็ประกาศขึ้นมาเองว่า

    "พวกผมนี้เป็นพวกบังบดขอรับ อยู่กันที่ภูทอกใหญ่ ภูแจ่มจำรัส"

    พวกบังบด คือพวกภุมมเทวดา ที่เขามีศีล ๕ ประจำ เขาอธิบายให้ฟังต่อว่า

    "ชื่อเดิมของภูทอกใหญ่นี้ เรียกกันว่า ภูแจ่มจำรัส แต่ก่อนนี้มีพวกฤๅษีชีไพรมาบำเพ็ญพรตภาวนากันอยู่ที่ภูแจ่มจำรัสนี้มาก"

    เมื่อเขาใสบาตรเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงภามเขาว่า


    "ทำไมจึงรู้ว่าอาตมามาบิณฑบาต"

    เขาก็ตอบยิ้มๆ ว่า

    "รู้ครับ รู้ด้วยกลิ่น ถูกกลิ่นพระผู้เป็นเจ้า"

    "กลิ่นเป็นอย่างไร"

    ท่านซักต่อ

    "กลิ่นหอมขอรับ ถูกกลิ่นพระผู้เป็นเจ้า ก็เลยพากันเปิดหน้าต่างมาใส่บาตรพระผู้เป็นเจ้ากัน"

    ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ควรแก่การบูชา พวกเราจึงพร้อมใจกันมาใส่บาตร"
    พอพวกเขาใส่บาตรเสร็จ ท่านก็กลับ พอดีรู้สึกตัวตื่น พิจารณาดูนิมิตนั้นก็เห็นแปลก และเช้าวันนั้น อาหารที่บิณฑบาตได้ ขบฉันก็รู้สึกว่ารสเอร็ดอร่อยเป็นพิเศษ ทั้งๆที่ ไม่ได้มีใครอื่นมาใส่บาตรจริงๆ มีแต่ชาวบ้านเท่านั้น และอาหารก็เป็นอาหารพื้นๆ"


    คัดลอกตอนหนึ่ง มาจากประวัติหลวงปู่จวนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1putokyai.jpg
      1putokyai.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      982
  11. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    [​IMG]

    ชอบดอกไม้ป่านี้ ไม่ทราบว่าเขาเรียกว่าต้นไม้อะไรกันแน่ะเนาะ ?
    เพราะลักษณะในวงค์ตระกูลพืชพันธุ์ของต้นไม้ชนิดนี้
    จะมีลักษณะดอกและลำต้นคล้ายกัน
    คือทั้ง อินทนิล ตะแบก และเสลา
     
  12. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    อนุโมทนากับพี่ๆด้วยครับ
    ที่นำภาพวัดภูทอกมาฝากกัน ได้บรรยากาศสดชื่นดีมากเลย
     
  13. Bizan

    Bizan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +152
    ขออนุโมทนากับทุกท่านค่ะ
    เป็นการปฏิบัติ "ความเพียร" ที่น่าชื่นชมค่ะ
     
  14. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    อาจารย์ของผมสมัยเรียนปริญญาตรี รศ.ยุพดี เลื่อนฉวี
    สอนไว้ว่า

    เสลา เปลือกแตก
    ตะแบก เปลือกเรียบ

    อันดับแรกให้แยกที่เปลือกก่อนครับ
    ถ้าเปลือกต้นเป็นสะเก็ดแว่นๆและลำต้นมองใกล้ๆจะเป็นสีขาวเหมือนพวกต้นฝรั่งจะเป็นกลุ่ม ตะแบก

    ถ้าเปลือกเหมือนมองดูไม่แตกจะเป็นกลุ่มของเสลาและอินทนิล
    อินทนิลบ้านเราจะมี 2 ต้นคืออินทนิลบกกับอินทนิลน้ำ
    ตอนนี้ ต้องมาดูที่ใบครับ
    ถ้าใบมีขน สาก สากคือเสลา
    ถ้าใบมันคือ อินทนิล

    (ตอนไปทริป พี่อัปสราลี และ ณ ถามว่านี่ดอกอะไร ผมตอบว่า เอนอ้า ซึ่งไม่ใช่นะครับ ถ้าเทียบจากหนังสือคู่มือศึกษาพรรณไม้ยืนต้นฯ คำตอบน่าจะเป็น
    ตะแบก เพราะออกดอกในฤดูฝน ส่วนอินทนิล กับ เสลา ออกดอกในหน้าร้อน
    แต่ดูจากรูปแล้ว เป็น "ตะแบกเกรียบ"ครับ ไม่ใช่ ตะแบกนา เพราะช่อดอกสั้นกว่า)
     
  15. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    พูดถึงต้นไม้แล้ว ก็ขอรายงานเพิ่มหน่อยครับ
    ขากลับ ก็ไปคุยกับร้านขอ ไก่ กับ โย
    เลยได้ กล้วยไม้ หอบกลับบ้านหลายต้น

    เอื้องมะขาม พี่อัปสราลี เชียร์ให้ซื้อครับ
    (เพราะถึงแม้ ดอกไม่สวยมาก ไม่หอมเท่าไหร่ แต่เลี้ยงง่าย ทนแล้ง และ ออกดดอกทั้งปี เวลาดอกกล้วยไม้ชนิดอื่นไม่ออกดอก แต่ มีเจ้ามะขาม คอยออกให้ดู ก็มีค่าแล้ว...จำนนกับเหตุผล จริงจริง)
    กอใหญ่ ราคา 60 บาท กลับบ้านมาแยกปลูกเป็นสองกระถาง

    [​IMG]

    ถุงเงิน ถุงทอง เป็นพวกไม้ตระกูลบอนทำนายดวง ว่าเก็บเงินได้ไหม
    โดยปลายใบจะเป็นถุง
    ถ้าถุงรั่ว ก็ เก็บเงินไม่อยู่
    ขุดมาจาก หลังบ้านของไก่ ได้มาสองต้น ต้นละ สิบบาท

    [​IMG]

    บอนสี ไม่รู้ชื่อขึ้นที่กอไผ่
    เห็นกับ ณ ตอนแรก ว่า สวยดี
    ว่าจะไปต้นตำราดุ ว่า เป็น บอน " ตับ "อะไร
    ตอนนี้เรียก บอนภูทอก คุ้มใต้ ไปพลางพลางก่อน
    กอนี้ โยไปขุดมาให้ฟรี ครับ

    เอื้องกุหลาบกระเป๋าเปิด ออกดอกปีละครั้งเห็น ไก่ บอกว่า ดอกหอม และบานทนมาก
    แต่ ถ้ามีกระเป๋าเปิด แล้ว ต้องมี
    เอื้องกุหลาบกระเป๋าปิด ด้วย (ไม่งั้นเงินรั่วอีก ไก่ บอก 555)

    [​IMG]
    เอื้องจำปา กอใหญ่มาก หน้าร้าน
    ตอนแรกคิดว่าจะเอามายังไงดี ไปไปมาก็เอามาจนได้
    ไม่รู้ว่าเป็น พันธ์เดียวกับ เอื้องจำปาน่าน หรือปล่าว
    เห็นไก่บอกว่า ที่ภูทอก สมัยก่อนมีอยู่มาก
    เป็นกล้วยไม้แล้ง ชอบแดด ออกดอกหอม เหมือนกลิ่นดอกจำปา
    กอที่ขายไปครั้งที่แล้ว ไก่บอกว่า หอมไปไกลมากครับ
    คนตามกลิ่นมาถามว่า หอมดอกอะไรกัน

    พอเสร็จแล้ว ไก่ยังแถม
    เอื้องสายน้ำเขียว และ มาลัยแดงให้อีก ต้องขอบคุณในความมีน้ำใจจริงจริง

    ตอนแรกผมอยากได้ ไม้เท้าฤาษี เพราะเห็นจากรูปว่าดอกสวยมาก
    แต่ไก่บอกว่า อย่าเลย เพราะเลี้ยงยาก ทุกอย่างต้องพอเหมาะ ทั้งน้ำ แดด
    ที่เอาไปเลี้ยงง่ายทั้งนั้น

    โย ยังบอกว่า ถ้ามีโอกาศมาครั้งหน้า ช่วง หน้าร้อน จะพาไปดูกล้วยไม้ที่ภูทอก
    โดยขึ้นอีกทางหนึ่ง อ้อมเขาไป
    หรือไปหน้าหนาว จะชวนไปเที่ยว ลาว กันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    เนืองจากที่พักมีหนังสือให้พวกเราอ่านมากมาย

    ผมก็ได้อ่านนิตยสารเล่มหนึ่งซึ้งท่านกล่าวถึง หลวงปู่เทพโลกอุดร

    และ หลวงปู่ลมัย สวนสมุนไพร เพรชบูรณ์

    ท่านผู้เขียนกล่าวถึงตั้งแต่หลวงปู่ตั้ังแต่ยังมิได้สร้างสำนักสวนสมุนไพร

    และก็มีบทความนึงน่าสนใจ ที่หลวงปู่ท่านเมตตาไว้

    "ระลึกถึงแม่ธาตุทั้งสี่ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ หรือ อักขระ นะ มะ พะ ทะ

    ซึ่งท่านจะสอนให้ภาวนากลับไปกลับมา ซึ่งมีเคล็ดลับผูกเป็นวลีที่ไพเราะว่า

    "คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว เดินทางเดียวไม่เหยียบรอยกัน"

    และก็เป็นเรื่องที่แปลกที่เคล็ดวิชาหมุนธาตุทั้งสี่นี้ กลับเป็นเคล็ดวิชาในสาย
    หลวงปู่สำเร็จลุน มีเงินไซ แขวงจำปาสัก พระอริยเจ้าผู้เป็นตำนานของพระอภิญญาจารย์ในสายอิทธิฤทธิ์


    และบทความในการทำปรอทสำเร็จ

    "ฆ่าพิษปรอท ต้มปรอทในน้ำว่าน หมักไว้ เคี่ยวจนน้ำว่านแห้งแล้วเติมน้ำว่านลงไปใหม่
    ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ดับไฟเลยตลอด ๒๔ ชม. ๗ เดือน เรียกว่า "ปรอทสำเร็จ""

    ท่านผู้เขียนได้กล่าวว่า หลวงปู่ท่านเคยทำหลายครั้งหลายคราว จนท่านบอกว่าไม่สำเร็จ
    เพราะไฟดับก่อน และมิได้กล่าวว่าใช้น้ำว่านชนิดใด

    พิจารณาดูนะครับ แล้วบอกผมด้วย ผมนั่งคิดนอนคิดก็ยังมึนๆอยู่เลย

    รอให้หลวงปู่ท่านเมตตาแล้วกันครับ
     
  17. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ไปค้นรูปมาประกอบให้พี่หนอน...
    บังเอิ๊ญ บังเอิญ มือมันไวกว่าความคิด เลยได้รูปมาด้วย

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0007.JPG
      IMG_0007.JPG
      ขนาดไฟล์:
      227.7 KB
      เปิดดู:
      566
  18. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    คุณลีลาวดี<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2273432", true); </SCRIPT> ณ ชอบดอกไม้สายพันธุ์นี้มากที่สุด
    ทั้งตะแบก อินทนิน และ เสลา ..แหะ แหะ
    เลยขอจัดชุดนี้มาโชว์โดยเฉพาะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0102.JPG
      IMG_0102.JPG
      ขนาดไฟล์:
      185.8 KB
      เปิดดู:
      856
    • IMG_0104.JPG
      IMG_0104.JPG
      ขนาดไฟล์:
      178.4 KB
      เปิดดู:
      590
    • IMG_0117.JPG
      IMG_0117.JPG
      ขนาดไฟล์:
      197.4 KB
      เปิดดู:
      607
    • IMG_0111.JPG
      IMG_0111.JPG
      ขนาดไฟล์:
      213.8 KB
      เปิดดู:
      612
    • IMG_0060.JPG
      IMG_0060.JPG
      ขนาดไฟล์:
      306.4 KB
      เปิดดู:
      585
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009
  19. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196

    โอ้..เยี่ยมเลยครับ ได้ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ชนิดเพิ่มขึ้น [​IMG]
    ต้องขอบพระคุณ คุณพี่ปาฏิหาริย์ มากเลยนะครับ

    "เสลา เปลือกแตก
    ตะแบก เปลือกเรียบ"

    "ถ้าใบมีขน สาก คือเสลา
    ถ้าใบมันคือ อินทนิล"


    คือว่าพอดีที่บ้านมีต้นตะแบกนา
    ปลูกไว้หน้าบ้านช่วงเดือนที่แล้วกลับไปที่บ้าน ต้นตะแบกนี่ดอกเต็มต้นเลย
    ซึ่งจะออกดอกในช่วงถดูฝน และทนแล้ง

    และโดยส่วนมากแล้วบางจังหวัดเค้ามักจะปลูกไว้ที่เกาะกลางถนน
    ซึ่งมีดอกคล้ายกับดอกตะแบก แต่มีลักษณะใบที่แตกต่างกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2009
  20. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    โห..เยี่ยมเลยครับคุณ ณ.
    ชอบมากเลยโดยเฉพาะภาพแรกและภาพที่สอง
    ยังกะดอกซากุระ เลยเนาะ [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...