ผมอยากรู้

พุทธเขต อาณาเขต ชาติเขต วิสัยเขต คืออะไร



ตอบแบบพุทธภูมิ

 

ความจริงในบาลีฝ่ายเถรวาทที่ได้แสดงไว้คือ เขตแดนมี ๓ อย่าง คือ ชาติเขต อาณาเขต วิสัยเขต.

ในบรรดาเขตทั้ง ๓ นั้น

ชาติเขต ก็คือ หมื่นโลกธาตุ

อธิบายว่า ::: ก็ในเวลาที่พระตถาคตเสด็จก้าวลงสู่พระครรภ์ของพระมารดา ในเวลาเสด็จออกจากพระครรภ์ ในเวลาตรัสรู้ ในเวลาประกาศพระธรรมจักร ในเวลาปลงพระชนมายุสังขารและในคราวปรินิพพาน หมื่นโลกธาตุนั้นย่อมหวั่นไหว อันแสดงไว้แล้วในพุทธประวัติ ทุกๆบท ศึกษาเอาเองนะครับ

อาณาเขต คือ ภายในแสนโกฏิจักรวาล

อธิบายว่า ::: ในการแสดงธรรมสูตรต่างๆ มี อาณาของอาฏานาฏิยปริตร โมรปริตร ธชัคคปริตร และรัตนปริตร เป็นต้น ย่อมเป็นไปในแสนโกฏิจักรวาล.


ส่วนวิสัยเขต ไม่มีปริมาณเลย.

อธิบาย ::: ความจริง ชื่อว่าสิ่งอันมิใช่วิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมไม่มี เพราะพระบาลีว่า ญาณมีเท่าใด สิ่งที่พระองค์พึงรู้ก็มีเพียงนั้น สิ่งที่พระองค์พึงรู้มีเท่าใด ญาณก็มีเพียงนั้น สิ่งที่พระองค์พึงรู้มีญาณเป็นที่สุด ญาณก็มีสิ่งที่พระองค์พึงรู้เป็นที่สุด.


ส่วนพุทธเขต คือเขตของพระพุทธศาสนา


อธิบายว่า ::: ก็พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ที่หลั่งไหลเข้าสู่จิตใจ ชำระล้างซึ่งกมลสันดานให้บริสุทธิ์ของสัตว์แม้ตัวหนึ่ง หมดอาสวะดีแล้ว ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะดำรงชีวิตอินทรีย์อยู่ในส่วนใดมุมใด ของแสนโกฏิจักรวาล หมื่นโลกธาตุ ก็ได้ชื่อว่า เป็นพุทธเขต


ข้อนี้เพียงแค่นำมาเสนอตามที่เคยได้ยินได้ฟังมาเท่านั้น ส่วนจะกล่าวให้พิสดารขอให้ท่านทั้งหลาย นำเสนอ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่เพื่อนบำเพ็ญด้วยกันเถิด...

 

รู้แต่วิทยาเขต

 

วิทยาเขตลาดกระบังป่าวหว่า อิอิอิbubu

 

โพธิสัตว์ผุ้ที่เข้าใจว่า ตัวเองได้รับคำทายพยากรณ์เเล้ว
หรือ พยายามพยากรณ์ตัวเองว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต อันเกิดจากความเห็นส่วนตัว หรือ นิมิตญาณส่วนตัว
หรือว่า จากผู้ที่อ้างตัวเป็นผู้วิเศษมีญาณอันไพบูรณ์ได้ทำนายไว้

ข้อนี้ไม่สำคัญในบทนี้ แต่สำคัญอยู่ว่า ท่านผู้บำเพ็ญโพธิญาณ เข้าใจในบทที่นำเสนอ มากน้อยเพียงใด ในความหมายที่ว่า ชาติเขต อาณาเขต วิสัยเขต พุทธเขต และท่านจะรู้แจ้งซึ่งบทเหล่านั้นอย่างท่องแท้หรือไม่

ตราบใดที่ท่านผู้บำเพ็ญโพธิญาณทั้งหลาย ยังไม่สามารถรู้แจ้งในตัวเองได้ว่า ธรรมเขตทั้ง 4 เหล่านั้นปรากฏชัดแก่เราหรือยัง ตราบนั้นท่านผู้บำเพ็ญโพธิญาณท่านจงรู้ไว้ว่า ท่านเป็นอนิยตโพธิสัตว์ เป็นผู้ไม่เที่ยงเเท้ในการตรัสรู้ ยังไม่แน่นอน

หากท่านผู้บำเพ็ญโพธิญาณท่านใดรู้ธรรมเขตทั้ง 4 ว่าปรากฏมีแก่ตนเเล้ว พึงรู้ว่าธรรมเหล่านี้เป็นนิมิตเครื่องหมายของคำว่า นิยตโพธิสัตว์ ผู้เที่ยงเเท้ในการตรัสรู้แน่นอน โดยไม่ต้องสงสัย

ถามว่า ท่านเจ้าของกระทู้เอาธรรมเหล่านี้มาจากไหน ไม่เคยได้ยินมาก่อน ในตำราก็ไม่มีบอกอะไรเลย ข้อนี้เจ้าของกระทู้เอง เป็นแค่ผู้นำเสนอเหตุผลอันไม่เป็นสาธารณะธรรม ซึ่งได้รับการชี้แนะจากพระโพธิสัตว์ผู้นิ่งองค์นึง และก็เกิดจากข้อมูลในพระไตรปิฎกของนิกายต่างๆ มีบอกไว้ทุกๆบทของการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าทั้งปวงไว้ คือ พุทธประวัติ พุทธวงศ์ อนาคตวงศ์ เป็นต้น

และมีที่อ้างอิงจากเรื่องของพระโพธิสัตว์ก่อนได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เสวยพระชาติต่างๆ อันเป็นมหาชาดก ให้ท่านไปค้นหา อ่าน ศึกษา พระชาติเหล่านั้นดูเถิด...จะรู้ว่า มีเหตุการณ์พิสดารอะไรเกิดขึ้นกับพระโพธิสัตว์บ้าง หมื่นโลกธาตุโกลาหล เทวดาในแสนโกฏิจักรวาลสาธุการ เป็นต้น ข้อนี้เรียกว่า นิมิตของมหาโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ทั้งสิน

และธรรมเขตทั้ง 4 คือ ชาติเขต อาณาเขต วิสัยเขต พุทธเขต จะสมบูรณ์ได้ทุกๆส่วนก็ต่อเมื่อได้ตรัสรู้แล้วเท่านั้น นอกนั้นเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น แต่พอเป็นเครื่องหมายให้รู้ได้

ท่านผู้บำเพ็ญโพธิญาณหากไม่รู้ถึง ชาติเขต อาณาเขต วิสัยเขต พุทธเขต ก็พึงสำรวมตน อย่าเชื่อในคำพยากรณ์ทำนายของใครเลย ไม่ว่าจะเป็นชนระดับไหนๆ

 

เออถามเองตอบเองเลย แต่ก็อนุโมทานด้วย

 

อนุโมทนาด้วยครับกับเรื่องนี้
ส่วนจะใช่หรือไม่ จะจริงไม่จริง เรื่องเหล่านี้เป็นอจิณไตยทั้งสิ้น ส่วนใหญ่ก็มักคิดว่าได้รับพุทธพยากรณ์แล้วทั้งสิ้น แล้วคิดว่าตัวเองอยู่ในระดับปรมัตถบารมี เลยประกาศป่าวๆ โดยไม่รู้เลยว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงตรัสเรื่องนี้ว่าอย่างไร ที่พระพุทธองค์ทรงรับรองอย่างแน่นอนว่า มีนิยตโพธิสัตว์จะมาตรัสรู้หลังพระศรีอริยเมตไตรย อีก 10 พระองค์ อนิยตโพธิสัตว์รอพุทธพยากรณ์อีก 500 พระองค์ พวกท่านทั้งหลายที่ออกมาป่าวประกาศว่าอยู่ข่ายพระพุทธวงค์มีพระนามนั้น พระนามนี้ บอกได้เลย อุปทานกินครับ

 

เป็นความรู้ที่น่าสนใจทีเดียวครับ
กลองดีมิดังเองฉันใด
ความดีเฉพาะตนย่อมไม่จำเป็นต้องให้ตนสรรเสริญฉันนั้น
ผู้รู้จบแตกฉานในธรรมทั้งหลาย ตอบโต้วาทะได้ดี ไม่จำเป็นต้องเป็นโพธิสัตว์ผู้เที่ยงเสมอไป ธรรมเฉพาะตัว ย่อมเป็นธรรมะเฉพาะตัว
อนุโมทนากับพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ทุกผู้ทุกนาม
และเเม้ผู้ปฏิบัติดีตามพระพุทธเจ้า เเละดำเนินตามรอยพระผู้ทรงคุณทั้งหลาย สาธุ

 

อืมมม แบบนี้ต้องให้คุณเอ๋ สันตดุสิต เข้ามาตอบละครับ

 

ไม่เห็นมีใครเข้ามาตอบอธิบายให้ พระธรรมเขต 4

ให้เป็นธรรมมีเนื้อความมหัศจรรย์อันยิ่้งใหญ่มั้งเลยเน๊าะ

หรือว่า พระโพธิสัตว์เหล่านั้น กลัวความยิ่งใหญ่ของธรรมเขต4 จะไม่มีปรากฏแจ้งแก่ตนเอง (แอบคิดเท่านั้นเน้อ)

เอ้า...แล้วว่าไงท่านข้างล่าง จงตอบมา

 

เห็นทีจะไม่ไหวครับ รุ่นนั้นเขารู้เขตของตนแล้ว ไม่ต้องมาตอบธรรมเด็กๆอย่างเราๆถกกันหรอกครับท่าน ustharos

 

ก็แค่ขอบเขตที่แล้วแต่เราว่าจะกำหนดใดๆเป็นขอบเขต ก็เท่านั้นเอง

 

รู้จักแต่ นายเขตต์ ฐานทัพ ดาราคิ้วเข้มงับ
หง่าววววววววววววววว

 

นำข้อมูลเสนอให้พิจารณา

ความหมายของพุทธเขต และเมื่อกัปพินาศ จากอรรถกถาเล่มที่ 1

ในกาลใด กัปย่อมพินาศไปเพราะไฟ, ในกาลนั้น โลกย่อม ถูกไฟเผา ภายใต้ตั้งแต่ชั้นอาภัสสระลงมา.

ในกาลใด กัปย่อมพินาศไปเพราะน้ำ ในกาลนั้น โลกย่อมถูกน้ำทำลายให้แหลกเหลวไป ภายใต้ตั้งแต่ชั้นสุภกิณหะลงมา.

ในกาลใด กัปย่อมพินาศไปเพราะลม, ในกาลนั้น โลกย่อมถูกลมพัด ให้กระจัดกระจายไป ภายใต้ตั้งแต่ชั้นเวหัปผละลงมา.
ก็โดยส่วนมาก* พุทธเขตอย่างหนึ่ง (คือเขตของพระพุทธเจ้า) ย่อมพินาศไป แม้ในกาลทุกเมื่อ.

[พุทธเขต ๓ พร้อมทั้งอรรถาธิบาย]
ขึ้นชื่อว่า พุทธเขต (คือเขตของพระพุทธเจ้า) มี ๓ คือ ชาติเขต (คือเขตที่ประสูติ) ๑ อาณาเขต (คือเขตแห่งอำนาจ) ๑ วิสัยเขต (คือ เขตแห่งอารมณ์ หรือความหวัง) ๑.

ในพุทธเขต ๓ อย่างนั้น

สถานเป็นที่หวั่นไหวแล้ว เพราะเหตุทั้งหลาย มีการถือปฏิสนธิเป็นต้น ของพระตถาคต ชื่อ ชาติเขต ซึ่งมีหมื่นจักรวาลเป็นที่สุด.

สถานที่อานุภาพแห่งพระปริตรเหล่านี้ คือ รัตนปริตร เมตตาปริตร
ขันธปริตร ธชัคคปริตร อาฏานาฏิยปริตร โมรปริตร เป็นไปชื่อว่า อาณาเขต
ซึ่งมีแสนโกฏิจักรวาลเป็นที่สุด.

เขตเป็นที่พึ่งซึ่งพระองค์ทรงระลึกจำนงหวัง ที่พระองค์ทรงหมายถึง
ตรัสไว้ว่า ก็หรือว่า ตถาคตพึงหวังโลกธาตุมีประมาณเพียงใด ดังนี้เป็นต้น ชื่อว่า วิสัยเขต ซึ่งมีประมาณหาที่สุดมิได้.

บรรดาพุทธเขตทั้ง ๓ เหล่านั้น อาณาเขตอย่างหนึ่ง ย่อมพินาศไป ดังพรรณนามาฉะนี้. ก็เมื่ออาณาเขตนั้นพินาศอยู่ ชาติเขตก็ย่อมเป็นอันพินาศ ไปด้วยเหมือนกัน. และชาติเขตเมื่อพินาศไป ก็ย่อมพินาศโดยรวมกันไปทีเดียว.
แม้เมื่อดำรงอยู่ ก็ย่อมดำรงอยู่โดยรวมกัน.

สรุปได้ว่า พุทธเขตมี 3 เขต คือ

1.ชาติเขต มีหมื่นจักรวาล ที่สว่างและหวั่นไหว เมื่อพระมหาโพธิสัตว์ ปฏิสนธิ ประสูติ และตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า

2. อาณาเขต มีล้านล้านจักรวาล ที่อำนาจของพุทธคุณไปถึงได้ (ก็คือกลุ่มกาแลคชี ที่รวมกาแลคชีทางช้างเผือกนี้ด้วย)

3. วิสัยเขต มีจักรวาลหรือโลกธาตุประมาณหาที่สุดมิได้ ที่พระพุทธเจ้าพึงรู้ได้ (ทรงรู้ไปได้ทั่วทุกๆ กาแลคชี)

วิเคราะห์ตามอรรถกถา เมื่อตอนสิ้นกัป หมายถึง 1. อาณาเขตและ 2. ชาติเขต ที่มีจักรวาลถึงแสนโกฏิจักรวาล (ล้านล้านจักรวาล) ก็คือกลุ่มกาแลคชีในอาณาบริเวณทางช้างเผือกทั้งหมด พังจนหมดสิ้นจนไม่มีเหลือ ซึ่งไม่ใช่จักรวาลเดียวหรือโลกที่มนุษย์โลกเราอยู่นี้ พังจนหมดสิ้นเพียงจักรวาลเดียว แต่หมายความว่าพังสลายไปทั้งหมดในกลุ่มกาแลคชีทางช้างเผือก(มีอยู่หลายกาแลคชีที่ใกล้กัน ที่อัดเข้ามารวมกัน) แต่กาแลคชีอื่นหรือโลกธาตุอื่นที่อยู่ไกลออกไปมากๆ หาได้พังสลายไปพร้อมกันไม่ ก็คือ กลุ่มกาแลคชีแต่ละกลุ่มมีการเกิดแล้วยุบรวมตัวกันแล้วสลาย แล้วเกิดใหม่แล้วยุบรวมตัวกันแล้วสลาย ไปตามธรรมชาติแต่หาได้สลายไปพร้อมกันที่เดียว และการนับว่า 1 กัป นั้น จำนงหมายเอาแต่โลกธาตุหรือกาแลคชีที่จะมีหรือที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติปรากฏขึ้นได้เท่านั้น เกิดขึ้นแล้วพังสลายไปหนึ่งรอบเป็น 1 กัป และเมื่อก่อตัวเป็นโลกธาตุสมบูรณ์(กาแลคชี)ใหม่ จึงนับเป็น กัป ต่อไป
<O
จากลิงค์ www.vichadham.com</O
<O></O>
Un title page

 

สาธุๆ ความนี้เป็นอักขระศาสตร์ที่นำมาซึ่งความรู้ในการศึกษาบทต่อไป สาธุๆ เป็นความพิสดารดีแท้

สรุปว่าภายในแสนโกฏิจักรวาลอันเป็นพุทธเขตของเราถูกทำลายไปแล้ว 1 กลุ่่มเขตแสนโกฏิจักรวาล...
แต่ก็ยังคงมีกลุ่มเขตแสนโกฏิจักรวาลอันนับไม่ได้ ดำรงอยู่ เป็นไปอยู่ และถูกขับเคลื่อนไปตามกฏพระไตรลักษณ์
บางกลุ่มแสนโกฏิจักรวาลกำลังเริ่มสร้างตัวอยู่ก็มี บางกลุ่มแสนโกฏิจักรวาลกำลังเจริญอยู่ก็มี บางกลุ่มแสนโกฏิจักรวาลกำลังเสื่อมอยู่ก็มี บางกลุ่มแสนโกฏิจักรวาลกำลังทำลายสลายตัวอยู่ก็มี

ถ้าเป็นเช่นนี้ ภายนอกแสนโกฏิจักรวาลของเรานี้ ก็อาจมีพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้ว หรือ กำลังตรัสรู้ หรือ กำลังแสดงธรรมอยู่ ข้อนี้จะมีความเห็นเป็นไฉน...

ความเห็นของผม...ตามคำภีร์ฝ่ายเถรวาทก็จะเเสดงไว้แค่เฉพาะภายในเเสนโกฏิจักรวาลของพระพุทธเจ้าของเราเท่านั้น แต่ไม่นำมาขยายมากนัก เพราะต้องระวังและต้องสำรวมเรื่องวิสัย จึงไม่นำมากล่าวไว้มากนัก เอาแต่ธรรมที่เป็นเครื่องพ้นทุกข์สำหรับชาติเดียว

ด้วยเหตุนี้พระโพธิสัตว์ผู้พ้นจากวิสัยของสาวกภูมิจึงไม่ยินดี ไม่พอใจที่จะเสพธรรมวิสัยนี้ จึงได้พากันเสาะแสวงหาวิสัยที่เกินกว่านี้ต่อไป แต่ก็ไม่ทิ้งธรรมของสาวกภูมิ เพราะธรรมเหล่านี้เป็นธรรมของพุทธภูมิวิสัย เพียงไม่มีคนอธิบายให้พิสดารเป็นพุทธภูมิวิสัยเท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นเราจะตัดสินให้เป็นกฏตายตัวว่า ในเอกภพอนันตจักรวาลทั้งหมดจะมีพระพุทธเจ้าได้แค่องค์เดียวไม่ได้ เพราะในคำภีร์ต่างๆก็บอกไว้ชัดว่า "พระโพธิสัตว์จะตรัสรู้ภายในมงคลจักรวาลอันเกิดภายในแสนโกฏิจักรวาลเท่านั้น" และมงคลจักรวาลแต่ละแสนโกฏิจักรวาลหนึ่งๆก็มีเหมือนกันกับทุกๆแสนโกฏิจักรวาล แต่ก็ไม่ได้มีลักษณะเหมือนกันเสมอไป แต่ก็ปรากฏให้รู้ว่าเป็นเครื่องหมายของมงคลจักรวาลนั้นๆ อุปมาเหมือนพระราชาไม่ได้มีแค่ประเทศเดียวเท่านั้น ประเทศอื่นๆที่ไม่รู้จักก็ยังมีอยุ่ ฉันใดก็ฉันนั้น อยุ่ที่เ่ราจะยอมรับว่ามีหรือว่าไม่มีเท่านั้น


ส่วนฝ่ายมหายานนั้นผมไม่ขอออกความเห็น

ความเห็นนี้ กำลังจะบอกว่า ถ้าคนเป็นพระโพธิสัตว์ขั้นสูงต้องมีความรู้วิสัยเหล่านี้ ให้ชัดๆ ไม่อนุมานหรืออนุโลมตามที่ได้ยินได้ฟังมาเท่านั้นหรือรู้ตามปัญญาคนอื่นที่เขาพยากรณ์ให้ หรือทึกทักเอาเอง ฉะนั้น ตัองรู้ชัดๆว่า ชาติเขต อาณาเขต วิสัยเขตเล็กๆของพุทธวิสัยบางส่วนเกิดขึ้นแก่เราเเล้วหรอยัง **หากผู้ใดสงสัยว่า จะรู้ด้วยอาการอย่างไร ก็คงจะต้องไปหาศึกษาเรื่อง สุเมธโพธิสัตว์ เอาเองนะครับ ว่าท่านเพ่งพิจารณาธรรมอย่างไร หมื่นโลกธาตุเป็นอย่างไร เทวดาภายในแสนโกฏิจักรวาลมาสาธุการหรือไม่ เมื่อผู้ที่ศึกษารู้ความแล้ว ก็จะทราบว่าสุเมธโพธิสัตว์ถึงพร้อมด้วยเขตทั้งหลายด้วยตัวเอง ** ข้อความนี้เหมือนจะกำลังพยากรณ์ตัวเองหรือป่าว ไม่ได้พยากรณ์หรอกครับ เพียงแต่รุ้ธรรมเขตเหล่านี้เท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่พยากรณ์ตัวเอง จนกว่าพระพุทธเจ้าจะทรงพยากรณ์ให้ แล้วประกาศขึ้นเท่านั้น

ท่านผุ้อ่านท่านใดที่กำลังอ่านอยู่ หากเกิดความคิดเห็นขัดแย้ง หรือ ต่อต้าน ก็นำเสนอความคิดเห็นได้นะครับ

ปล. วิสัยเหล่านี้หากท่านใดคิดไปไม่ถึง หรือว่า ไม่เข้าใจ ก็อย่าขัดเคืองนะครับ เพราะความคิดความเห็นเหล่านี้ เป็นส่วนความคิดของคนบ้า ผมเองเป็นคนบ้า ฮาฮาฮา บทความเหล่านี้ดูเหมือนไม่มีสาระประโยชน์เท่าไรครับ เพราะว่าไม่ได้เป็นธรรมฝ่ายปฏิบัติเท่าไร อีกอย่างธรรมปฏิบัติเหล่านั้น ท่านทั้งหลายคงจะทราบดีอยู่แล้ว ผมจึงนำเสนออะไรที่เสี่ยงต่อการเบี่ยงเบนดูบ้างครับ เผื่อทีจะได้ความเห็นจากผู้่รู้ทั้งหลายอีกทีครับ หากท่านผู้อ่านท่านใดอยากรู้ธรรมฝ่ายปฏิบัติจริงขอแนะนำกระทู้ของ ท่านมหาหิน เถิด

จุดประสงค์ของข้อความที่นำเสนอมาทั้งหมด คือ ถ้าพระโพธิสัตว์ท่านใดยังไม่รู้เรื่องเหล่านี้ด้วยจิตของตน ก็ให้สำรวม ระวังจิต เพราะการสำรวมตน ระวังจิตตน ถ่อมตน เรียกว่า ศีลของพระโพธิสัตว์ ส่วนโพธิสัตว์เหล่าใดยิ่งไม่รู้ในธรรมเขตทั้ง 4 คือ ชาติเขต อาณาเขต วิสัยเขต พุทธเขตนี้ เที่ยวประกาศตน ก็เรียกได้ว่า โพธิสัตว์ไร้ศีล อุปทานกิน

สาูธุๆอีกที กับบทความของท่าน ตติยะ

 

พื่นที่ที่พวกเราอยู่นี้ ที่มีโลก พระจันทร์ พระอาทิตย์ ดวงดาวต่าง รวมๆๆ กันอยู่ ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า "ทางช้างเผือก" หรือ "กาแลกซี" และรวมไปถึง กาแลกซีอื่นๆ แล้วแต่วิทยาศาสตร์จะไปพบ แล้วตั้งชื่อว่าอะไร ? ก็แล้วแต่ รวมกันทั้งหมดแล้ว ว่างๆ ออกไป เป็นลมเป็นอากาศ "เรียกได้แค่ว่า" "ที่อยู่ของสัตว์โลก" เป็นส่วนหนึ่งของ "จักรวาล" (ไม่ใช่จักรวาลทั้งหมด)

จักรวาลที่เราอยู่นี้ ชื่อว่า "มงคลจักรวาล" มีเขาพระสุเมรุเป็นแกนกลาง และมีทวีปใหญ่ทั้ง ๔ ล้อมรอบอยู่ (มีหลายๆจักรวาล แต่ละจักรวาลก็มีชื่อเรียก)

แบ่งเขาพระสุเมรุออกเป็น ๔ ด้าน ๔ ทิศ ด้านทิศใต้ของเขาพระสุเมรุนั้น เป็นที่อยู่ของสัตว์โลก มีชื่อว่า "ชมพูทวีป" เป็นชื่อทวีปใหญ่ ในทวีปนี้จะมีทวีปบริวาร ล้อมรอบทั้ง ๔ ทิศ เหมือนกัน

หมู่ดาว โลกที่เราอยู่ ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ที่เราเห็น รวมๆ เรียกว่า "ทางช้างเผือก" และที่มนุษย์เราศึกษาทางวิทยาศาสตร์ แล้วก็พากันร่ำเรียนเป็นดอกเตอร์ ตั้งชื่อว่า กาแลกซี่นั้น กาแลกซี่นี่ เป็นบริเวณที่เวียนว่ายตายเกิดของสัตว์โลกใน ทวีปบริวารของทวีปที่ชื่อว่า "ชมพูทวีป" เท่านั้นเอง


โลก (World) ที่เราเดิน กิน นั่ง นอน ถ่าย ฯลฯ นี้ รวมทั้งที่ว่างๆๆออกไป เป็นลม เป็นอากาศนั้น ก็อยู่ในส่วนของทวีปบริวารของ "ชมพูทวีป" (พวกเราไม่ได้อยู่ในกาแลกซีที่อยู่ในส่วนชมพูทวีปใหญ่เลย เราอยู่บริเวณของทวีปบริวาร)

ถ้ามองจากโลกมนุษย์ (มีตาทิพย์ , ทิพยจักขุ) มองไปทางทิศเหนือเห็นเขาพระสุเมรุ


"ชมพูทวีป" ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น คือ ทวีปทางด้านทิศใต้ของเขาพระสุเมรุนี่แหละ ทวีปชื่ออื่นอีก ๓ ทวีป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงโปรดสัตว์โลก (มนุษย์) ทั้งหลายเหล่านั้น เพราะไม่เห็นทุกข์สัตว์โลกในทวีปนั้นอยู่กันสบาย เหมือนเทวโลก
สัตว์โลกที่อาศัยอยู่ส่วนของ "ชมพูทวีป" นั้นเห็นทุกข์ได้ เห็นอริยัจได้ เพราะเหตุว่า ทำดีแล้ว ได้เป็นถึงพระพุทธเจ้า ทำชั่วแล้วก็เลวได้เหมือนอย่างพระเทวทัต

ที่เราทราบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นที่ "ชมพูทวีป" นั้น ก็หมายเอาชื่อทวีป

ที่ชาวเราเถียงกันแหลกลาน ว่า ชมพูทวีป คือ "อินเดีย ไทย ลาว ฯลฯ" อีกไม่นานพื้นที่ ขี้ดิน ก้อนน้ำ ก้อนลม แม้แต่ ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ที่เรามองเราชมกัน ก็ถูกทำลายเป็นจุณวิจุณไป เป็นลมเป็นอากาศว่าง แล้วพื้นที่ไทย ลาว มันไม่มีแล้ว ชมพูทวีปที่เป็นพื้นดินมันไม่มีแล้ว

ชมพูทวีป ก็หมายเอาชื่อทวีป ไม่ได้หมายเอาพื้นที่ดินแดนบนโลกนี้ คนเกิดทีหลังไม่เข้าใจความหมายก็เขียนตำรา สอนกันบอกกันมา ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็เถียงกันป่นปี้

(ให้สังเกตพระนามของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงดูแล และเป็นเจ้าของจักรวาล ที่ทรงตรัสรูไปแล้วในอดีต ล้วนเกี่ยวข้องกับโลกทั้งสาม เพื่อทรงช่วยยกจิตของสัตว์โลกทั้งหลายใหข้ามพ้นการเวียนว่ายตายเกิดในภพน้อยใหญ่ ทวีปน้อยใหญ่ จักรวาลน้อยใหญ่ ถึงฝั่ง คือ พระนิพพาน)

 

สาธุๆ ๆ อนุโมทนามิ ขอท่านทั้งหลายจงเปี่ยมด้วยปรมัตถบารมีสมเจตนาเถิด สาธุ

 

สาธุกับท่านเม ขอให้เต็มเร็วๆนะครับ

 

ผมระลึกชาติไม่ได้ ไม่มั่นใจในนิมิต ไม่บังเกิดฌาน 4 ไม่รู้ว่าบรรลุรึไม่ แค่เคยอธิษฐานตอนทำบุญว่าให้บรรลุพระโพธิญาน อย่าได้ลาเลย รู้ว่าอยากเป็นพระพุทธเจ้า แต่ระลึกชาติไม่ได่ เลยไม่ลา ครับ ทำไปเรื่อยๆ ....สาธุกับท่าน vera_p ปรมัตบารมีเต็มเมื่อไหร่ โปรดผมด้วยละกันครับ ทุกท่านด้วยครับ สาธุ

 

ไม่ต้องสนใจในคุณวิเศษ ที่ท่านไม่มีเหล่านั้นหรอกครับ ท่านก็ทำอย่างที่ท่านกำลังเจริญอยู่นะดีแล้ว ระลึกชาติได้แล้วไง มีหูตาทิพย์แล้วไง กำจัดอวิชชา ตัณหา อุปาทานไม่ได้ก็แค่นั้น

ผู้น้อยยังไม่กล้าจะโปรดท่านเมหรอกครับ เพราะตอนนี้พิจารณาดูบารมีในใจตัวเอง ไม่รู้มันหายไปไหนหมด รู้แต่ว่าตอนนี้มีแต่ใจล้วนๆ สบายๆ 555