พุทธทำนายเรื่องภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดที่กำลังจะมาถึงในยุคนี้ จะมีผู้รอดชีวิตแค่น้อยนิดเท่านั้น (ไม่เกิน พ.ศ. 2560)

ตายแล้วกลัวการเกิดนะครับ จะทำดี ตอนนี้กำลังหาทางลดกิเลสให้ได้อยู่ ผมคนกิเลสมาก
เกาะจิตใจหนากว่าเปลือกโลกดาวอังคารอีกใครมีหนทางดีแนะนำผมด้วยครับ ตายไปไม่กลัว
แต่กลัวเกิดมา แล้วมากนั่งพิมพ์กระทู้แบบนี้ ลำบากมาก....เลยพิมพ์เสร็จหิวข้าว แล้วก็ง่วงนอน กิน นอนมาแต่เล็กจนโต เบื่ออีก เฮอยย....

 

ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม
อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นเช่นนั้นเอง

 

ตามหาพระธรรมมิกราชกันเถิด

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่ง ก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา

จริงๆแล้วคำทำนายนี้มีมานานมากแล้วและอ่านมาไม่รู้กี่รอบ
รวมทั้งคนที่มีญาณต่างๆเริ่มจากปี2525มาแล้ว และก็วนมาอีกหลายๆรอบ

และเปลี่ยนแปลงตัวเลขแก้ไขกันมาเรื่อยๆ(อ้องว่าสนุกดี)

แต่สิ่งที่อ้องว่าไม่น่าสนุกนักก็คือเรื่อง ศีลธรรม ความเสื่อมแห่งพุทธศาสนา
ของผู้รักษาและผู้ค้ำจุน...

ถ้าเพื่อนๆทำงานเป็นรูปแบบบริษัทก็คงต้องพูดได้ว่าบริษัทเราใกล้เจ๊งเต็มที
บริษัทเราไม่มีทางประคองตัวไปอีก2500ปีข้างหน้าได้แน่นอน...

แล้วอะไรหล่ะที่จะทำให้มนุษย์เกิดสำนึก...
แล้วอะไรหล่ะที่จะเป็นผู้กอบกู้ชะตาแห่งพุทธศาสนา...
พระธรรมมิกราชคือใคร ท่านอยู่แห่งหนไหน
พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ท่านคือใคร ท่านอยู่ที่ไหน

อ้องว่าถ้าเอ่ยถึงคำทำนายก็ต้องหาข้อมูลเบื้องลึกกัน...
เพื่อความเจริญ เพื่อเป็นที่พึ่งพา เพื่อเดินตามเส้นทางแห่งพุทธศาสนาอย่างสถาพร เพื่อนๆว่าอย่างไงดีครับ...

ตั้งกระทู้ตามหาพระธรรมมิกราชดีไม๊ครับ
สาธุอนุโมทนา เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ผิดพลาดขออภัยครับ...

 

โมทนาบุญด้วยค่ะ เอาไปไม่ได้จริงๆค่ะ
ทรัพย์สิน เงินทอง ลาภยศ สรรเสริญทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งสมมุติ
มีเพียงความดีและบุญกุศลที่ได้สร้างเอาไว้เท่านั้นค่ะที่เอาไปได้
และจะติดตามเราไปทุกภพ ทุกภูมิ ทุกชาติที่เราเกิด

บุญใหญ่ร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าปูนสร้างพระวิหารวัดป่าโนนจ่าหอม จำนวนกว่า 2,000 ถุงใน วันอาสาฬหบูชาที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2552

 

อีก 3 ปี...ขอผมทำบุญ ขอไปหาแม่ ไปหาพ่อ ไปหาพี่ ไปหาตา
ที่รักของผมบ่อย ๆ ไปหาพวกท่าน ไปคุยกับท่าน สวดมนต์ให้ท่าน
พบหนทางสบายหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงทุก ๆ คน...ตัวผมไม่เคยกลัว
สิ่งที่จะเกิดกับผมหรอก เพียงแต่ผมเสียดายถ้ามันเกิดขึ้นจริง เวลาของผมที่จะอยู่กับพวกเค้า ช่างเหลือเวลาน้อยเสียเหลือเกิน (จะร้องไห้)

 

ผมว่าเรื่องแผ่นดินจมทะเลมีโอกาศสูงเพราะแกนโลกเริ่ม
พลิกกลับทิศแล้วแถมโลกร้อนขึ้นน้ำแข็งละลายน้ำทะเล
ท่วมบางประเทศที่เป็นเกาะ

 

อ่านแล้วรีบเร่งทำความเพียรสร้างบุญกุศลกันเยอะๆนะครับ

 

ทำบุญปล่อยสัตว์บ่อยๆ อย่างน้อยเดือนละ ครั้ง อาจช่วยได้ เพราะการให้ชีวิตสัตว์ ทำให้เรามีอายุยืนยาว และโรคภัยไข้เจ็บลดลง
ปล่อยสัตว์ได้มหากุศล 10 ประการ
เมื่อวานได้เดินทางไปกราบไหว้หลวงปู่ทวด ณ. วัดห้วยมงคล และได้ไปทำบุญปล่อยโค และกระบือ จึงได้หนังสือ ต่างกันในกายอานิสงส์ของการปล่อยสัตว์ มาเล่าให้ฟังนะครับ เพื่อจะได้เพิ่มบุญให้กับตนเองครับ
พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ...........
1. พ้นจากภัยสงคราม การปล่อยสัตว์ทำให้ชีวิตพ้นภัยอันตรายจากศาสตรา การรบราฆ่าฟัน ล้วนเกิดจากการฆ่าสัตว์ เมื่อละเว้นจากการฆ่า หันมาปล่อยชีวิต ภัยจากศาสตราก็จะถูกขจัดหมดไป อันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาโลกครั้งยิ่งใหญ่
2 ความเป็นมงคลจะเข้ามาหา การปล่อยสัตว์เป็นบ่อเกิดแห่งเมตตาธรรม ไอของความปิติสุขปกคลุมกาย การตอบสนองจะเป็นไปตามธรรมชาติ
3. มีสุขภาพดีอายุยืน การปล่อยสัตว์มีบันทึกไว้ในพระสูตร กล่าวคือ เปี่ยมด้วยวาสนาตอบสนอง 2 ประการ คือ มีอายุยืน และ ไร้โรคภัย
4. ได้บุตรที่กตัญญู การปล่อยสัตว์ ดีกับฟ้าดินที่มีใจให้กำเนิด ดังนั้นจึงได้บุตรกตัญญูเป็นมงคลแก่ครอบครัว
5. มีเทพอารักขา การปล่อยสัตว์เป็นการให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ เฉกเช่นช่วยเหลือบุตรพุทธะ เมื่อได้ช่วยชีวิตสัตว์เหล่าพุทธะต่างชื่นชมยินดี
6. สัตว์ทั้งหลายต่างสำนึกบุญคุณ เพราะสัตว์ที่ได้รับการช่วยชีวิตล้วนซาบซึ่งบุญคุณ เป็นบุญสัมพันธ์ที่สัตว์เหล่านั้นคิดจะทดแทนไปตราบนาน
7. ไม่มีเคราะห์ร้ายใด ๆ ผู้มีเมตตาจิต บุญกุศลนับวันเพิ่มพูน เคราะห์ภัยทั้งหลายล้วนมลายหายไป
8. บรรเทาภัยสังคม ปัจจุบันกลียุคสมัย ผู้คนลุ่มหลงในอบาย ภัยสุรายาเสพติดดาษดื่น การปล่อยสัตว์สามารถลดวิบากกรรมเหล่านั้นได้
9. บุญกุศลไร้ขอบเขต สัตว์ก็มาจากคนที่จุติแล้วไปเกิดเป็นสัตว์ สัตว์ก็จะกลับมาเกิดเป็นคนอีก หลังชดใช้กรรมจนหมดสิ้น
10. ได้ไปเกิดบนสวรรค์ ผู้ละเว้นจากการฆ่า หันมาปล่อยชีวิตสัตว์ เมื่อชีวิตล่วงไปแล้วจะอุบัติในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา สำหรับผู้บำเพ็ญฯ ก็จะไปอุบัติยังแดนสุขาวดีพุทธเกษตร บุญกุศลนี้ประมาณมิได้
คุณต้นไผ่:พลังจิตดอทคอม<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ขออนุโมทนาสาธุครับ
เกิดชาติหน้าชาติไหนขอให้เกิดใต้ร่มพระพุทธศาสนา ขอให้พบพระศรีอริยเมตไตรย์
มีดวงตาเห็นธรรม น้อมนำไปสู่พระนิพพาน

 

ผมว่าอย่าเอาการเมืองมาปะปนเลยครับ บ้านเมืองแตกแยกกันมามากแล้ว

เลิกเถอะครับ ที่นี่เว็ปพุทธศาสนาน๊ะครับ อย่ามายุแหย่ให้คนไทย

เกลียดกันอีกเลย มันจะเป็นเวรเป็นกรรมติดตัวน๊ะครับ !!!

 

รู้ก็ดึ เราจะได้ระวังตัวกันมากขี้นอย่าคิดว่าไม่มีประโยชน์ อนุโมทนา

 

สาธุ
"อะไรมา อะไรไป ก็เป็นเรื่องของอะไร..."
เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนานี้แสนประเสริฐยิ่งนัก พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ได้สั่งสอนคนโง่ให้เป็นคนมีปัญญา ใครรักดี ก็ได้ดี ใครรักชั่ว ก็ได้ชั่ว
บาป-บุญ ไม่มีใครทำแทนใครได้
"ศีล" ทุกคนก็มีอยู่แล้ว ก็คือ "ใจที่เป็นปกติ ไม่ใฝ่ต่ำทราม ทำชั่ว ทำกรรมที่สกปรกจิตใจ" แต่มนุษย์อีกมากมายต่างลูบๆคลำๆศีล หลงเข้าใจว่า ศีล ต้องไปรับกันที่วัด จากสมมุติสงฆ์
เพียงจิตใจของคน หลงตกลงมาต่ำ นั่นก็คือ "ทุศีล"
ดังนั้นมนุษย์ผู้มีหวัง จงตั้งใจ ใช้สติ ดูจิตใจ ว่าปัจจุบัน จิตใจมันเป็นอย่างไร คิดดี หรือคิดชั่ว ถ้ามันคิดดี ศีลก็บริบูรณ์ ขาวสะอาด ตรงกันข้าม ถ้าจิตใจคิดชั่ว ศีลก็ขาดตกบกพร่อง หม่นดำ
ศีลเป็นเหตุ สมาธิเป็นผล
สมาธิเป็นเหตุ ปัญญาเป็นผล
ปัญญาเป็นเหตุ วิมุตติเป็นผล

ศีล... รักษาง่ายขึ้นแล้ว เพียงดูจิตใจ ด้วยสติ
อย่าไปแบกศีลให้หนักกันอีกเลย

มีลมหายใจอุ่นๆอยู่ ก็ขอให้รีบเร่งบำเพ็ญความดีให้ติดเป็นนิสัย สิ่งใดที่เป็นกุศลทำได้ยาก อานิสงค์ที่ได้มันก็มาก

สาธุ ขอให้สมาชิกทุกคนในเว็บ รวมถึงผู้ฝักใฝ่ในธรรม จงเจริญในธรรมของพระพุทธองค์ทุกท่าน.

 

ทำไมต้องนึกถึงความตายเป็นอารมณ์<!-- google_ad_section_end -->

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->




เมื่อมีชีวิตเกิดมา ก็ได้ชื่อว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ในการนึกถึงความตายเป็นอารมณ์ พระพุทธเจ้าท่านแปลว่าเป็นมรณานุสสติกรรมฐาน จัดว่าเป็นความประมาทในชีวิต ถ้าเราคิดอยู่เสมอว่า ถ้าเราตายแล้ว ตัวเรายังไม่เป็นพระอรหันต์เพียงใด เราก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏะ

ดังนั้นก่อนตายก็ควรแสวงหาความดีไว้


ข้อแรก คือ การให้ทาน


ทานเป็นปัจจัยแห่งความรัก ทานเป็นปัจจัยแห่งการผูกมิตร หมายความว่าจะไปที่ไหนก็ตาม บุคคลที่รับทานจากเรา ย่อมแสดงความเป็นมิตรกับเรา


ด้วยอานิสงส์แห่งทาน เมื่อตายจากความเป็นมนุษย์แล้ว คนที่ให้ทานจะไม่พบกับความยากจนเข็ญใจ ถ้าเรายังไม่ถึงนิพพานเพียงใด เราก็จะมีความสุขในการเสวยทรัพย์สมบัติ

ข้อที่สอง ถ้าเตรียมตัวเพื่อตาย โดยการมี ศีลบริสุทธิ์

คนที่มีศีลบริสุทธิ์ตายไปแล้ว มีอายุยืนนาน มีรูปร่างหน้าตาสะสวย แล้วก็เมื่อเป็นมนุษย์ จะมีทรัพย์สมบัติ ไม่ถูก อัคคีภัย โจรภัย อุทกภัย หรือวาตภัยทำลาย เพราะอำนาจของศีลเป็นขอบเขต มีคนในปกครอง ก็อยู่ในโอวาท ไม่มีใครฝ่าฝืน วาจาเป็นที่รักของบุคคลอื่น สติสัมปชัญญะสมบูรณ์

ข้อที่สาม ควรมีการภาวนานึกถึงความดีที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงปฏิบัติเป็นต้น อันนี้องค์สมเด็จพระทศพลให้ฝึกไว้เพื่อเป็นการดึงสติสัมปชัญญะ ไม่ให้ลืมไม่ให้เลอะ ขณะที่เรากำลังจะตาย


ถ้าเวลาที่เรากำลังจะตาย เมื่อเราเคยฝึก ภาวนา ไว้ก่อน จะทำให้อารมณ์จิตชินในด้านกุศล เมื่อจิตของเรานึกถึงกุศลส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือภาวนาว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วก็ตาย(จิตละออกจากกายเนื้อ เข้าสู่อทิสมานกาย) อบายภูมิไม่มีสำหรับเรา เรามีที่ไปอยู่ อย่างเลวเราก็เป็นมนุษย์ชั้นดี มิฉะนั้นก็เป็นเทวดา หรือไม่ก็เป็นพรหม


ขอให้ท่านทั้งหลายจงจดจำและปฏิบัติไว้เป็นปกติ จึงจะได้ชื่อว่า ไม่เสียทีในการเกิด เพราะเมื่อเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ตายแล้วต้องไปเกิดในอบายภูมิเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน อีก นับได้ว่าเราแย่มากๆ เป็นการขาดทุนอย่างยิ่ง


การสร้างความดีที่เราเรียกว่า ทำบุญ เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้มีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป เป็นเรื่องที่ควรเตรียมไว้ทุกขณะจิต เราตายแล้วจะไม่เป็นผู้ลำบาก ไม่เป็นผู้มีความทุกข์ เราจะมีความสุขตามสมควร

ที่มา ʑ?ҷԯ?Ԡ?ǒ?˧??ͺ ?׍?҃???釂?Ѻ?ӊ͹?ͧ?Ð?ط?਩Ҧlt;/a>

 

<TABLE class=tborder id=post2118460 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">21-05-2009, 12:33 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พระที่12<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2118460", true); </SCRIPT>
นักบวช



วันที่สมัคร: Nov 2006
ข้อความ: 1,111
พลังการให้คะแนน: 353



</TD><TD class=alt1 id=td_post_2118460 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->ร่วมบุญบวช 882 รูป บรรพชาหมู่ชาวเขา<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดารในพระราชูถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ร่วมกับ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะพระธรรมจาริก

​

ขอเชิญร่วมพิธีบรรพชา(บวชเณร)หมู่ชาวเขา 882 รูป วันอาทิตย์ 28/6/09 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม (282 รูป) และวัดเจ้าคณะพระสังฆาธิการใน 14 จังหวัด (600 รูป)​

บริจาคบรรพชาอุปสมบทชาวเขานำฝากเข้าออมทรัพย์ ธนาคาร กรุงไทย สาขาสะพานขาว
เลขบัญชี 021-1-22540-1 ชื่อบัญชีมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ​

ติดต่อบริจาคร่วมกุศลได้ที่​

สำนักบริการสวัสดิการสังคม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สะพานขาว กทม 10100
Tel. 02-659-6138-9 Fax 02-282-3896

อานิสงส์การบวชในพุทธศาสนา...โดยหลวงพ่อฤาษี
คำว่า "บรรพชา" หมายความว่า บวชเป็นเณร คำว่า "อุปสมบท" หมายความว่า บวชเป็นพระ​

สำหรับผู้ที่ช่วยในการบวช การอุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา คือบำเพ็ญกุศลร่วมกับเขา ด้วยจตุปัจจัยมากบ้างน้อยบ้าง ช่วยขวนขวายในกิจการงานในการที่จะอุปสมบทบ้าง อย่างนี้องค์สมเด็จพระบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้นั้นจะมีอานิสงส์เสวยความสุขอยู่บนสวรรค์ หรือในพรหมโลกคนละ 8 กัป (คณะเราคูณ 882 รูป เข้าไปเท่ากับ 7056 กัปล์)​

อานิสงส์กุศลบุญบารมี ที่เราจะพึงได้สำหรับท่านผู้เป็นเจ้าภาพ ในฐานะคนที่บวชไม่ได้เป็นบุตรของเรา แต่ว่าเราเป็นผู้จัดการขวนขวายในการอุปสมบทบรรพชาให้ อันนี้องค์สมเด็จพระบรมศาสดากล่าวว่า ท่านผู้จัดการบวชจะได้อานิสงส์ 12 กัป ​

ที่มา...::ยินดีต้อนรับสู่เวปไซต์มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดารฯ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

อนุโมทนาคะ

ทำดีทั้งกาย วาจา ใจ นะคะ

 

สาตุ๊

 

นั่นสิเอาไปไม่ได้จริงนิ ว่าแต่ตอนนี้เหลือตังค์ในกระเป๋าไม่ถึงพันดิ

 

ชาตินี้ขอเร่งบำเพ็ญเพรียรขอปิดอบายภูมิ