กลัวฝึกอภิญญาไม่สำเร็จ แล้วเสียเวลาเปล่าครับ กลุ้มมาก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย dawsonsc222, 4 พฤษภาคม 2006.

  1. dawsonsc222

    dawsonsc222 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +60
    สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่
    จริงๆแล้วผมเชื่อเรื่องอภิญญาครับ (จริงๆนะครับ) และก็หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่ไม่มีเวลาฝึกเลยจริงๆ
    เพราะผมเป็นนิสิตแพทย์ปี 4 แล้วเรียนหนักแบบไม่ได้นอนน่ะครับ

    ถ้าจะฝึกอภิญญาก็จะหมายความว่าผมต้องเจียดเวลาเรียน (ซึ่งมีค่ามากๆ
    เพราะผมอยากเป็นหมอ รักษาและช่วยชีวิตเด็กด้อยโอกาส) มาฝึกอภิญญาครับ
    ดีไม่ดีอาจเรียนไม่จบได้ (จริงๆก็ไม่ได้เรียนเก่งมากมายอะไรเสียด้วยครับ) ซึ่ง
    ถ้าเรียนไม่จบ พ่อแม่คงจะเสียใจมากแน่ๆเลย

    แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังอยากฝึกมากครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ กล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า ผมเกิดมาเพื่อสิ่งๆนี้ (แต่ไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเปิดโอกาสให้ผมรึเปล่า)

    ดังนั้น ผมจึงขอความกรุณาท่านที่มีอภิญญา หรือรู้จักคนที่มีอภิญญาจริงๆ
    ได้โปรด ยืนยันกับผมด้วยเถอะครับ ว่ามันมีจริงๆ ผมจะได้ตั้งหน้าตั้งตาฝึกด้วย
    อิทธิบาท 4 อย่างเต็มที่ โดยไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว

    ขอร้องเถอะครับ
    แล้วก็ขอขอบคุณจากใจจริงครับ

    ปล. กลัวว่าฝึกไปจนตลอดชีวิตก็ยังไม่สำเร็จ แล้วก็เรียนหมอไม่จบอีกครับผม
     
  2. กิมท้ง

    กิมท้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +165
    ใจเย็นๆ จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดในฐานะของความเป็นมนุษย์,อย่าทำให้สิ่งที่ตั้งใจล้มเหลว อย่าทำให้พ่อแม่เสียใจ (การเรียนทางโลกจงอย่าไปทิ้ง การศึกษาปฏิบัติทางธรรมก็อย่าไปละ) [b-wai]*(องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี)
     
  3. angus

    angus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +2,725
    ขอเล่าเรื่องตัวเองหน่อยนะค่ะ เราเองฝึกมโนมเอง ( 3 เดือนกว่าได้แล้ว ) ไม่มีโอกาสได้ไปฝึกวัดท่าซุง บางครั้งฝึกอภิญญาไปด้วย นั่งฝึกวันละ 4 -5 ช.ม. เป็นอย่างต่ำ พอจะได้ๆกะเขาจิตก็ตก กลัวไปหมด บางครั้งก็ดีใจมากไปหน่อย ผลยังไม่ไปถึงไหนกะเขาสักที สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ไม่เคยท้อใจ สักวันก็คงเป็นวันของเราบ้างอ่ะ จริงๆแล้วตั้งใจจะเลิกไปหลายครั้ง แต่มานึกถึงคำสอนของหลวงพ่อที่ว่า เหยีบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทีไร ต้องกลับมาทำใหม่ทุกที เพื่อนๆหลายๆคนในนี้บางคนก็ยังเรียน แต่เขาแบ่งเวลามาฝึก โดยไม่เสียการเรียนค่ะ มีเวลาแยอะหน่อย ก็ฝึกมากหน่อย มีเวลาน้อย เราก็ฝึกน้อยลง
     
  4. ผู้กินทุกข์

    ผู้กินทุกข์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    ฝึกอภิญญาเพื่อเป็นเครื่องมือในการทําพระนิพพานให้แจ้งครับ อย่าไปนึกว่าฝึกเอาฤทธิ์ ถ้านึกแบบนี้ฝึกยังไงก็ไม่ได้อย่างที่หวัง

    ถ้ามีพระนิพพานเป็นเป้าหมาย ยังไงก็ต้องสําเร็จแน่ๆ

    เจริญในธรรมนะครับ
     
  5. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    ผมว่าตั้งใจเรียนให้จบ จะได้สำเร็จเป็นหมอ ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย ได้บุญมากเลยครับ ส่วนอภิญญานั้น ผมว่า เราตั้งใจฝึกให้ได้สมาธิ จิตใจสงบ ตัด โทสะ โมหะ โลภะ ให้ได้ดีกว่าครับ เรียนจบแล้ว หาเวลาว่าง นั่งสมาธิ แล้วใช้ความคิดเวลาจิตใจสงบ เป็นสมาธิ หาวิธี ตัด โทสะ โมหะ โลภะ ให้ได้ แล้วผมว่า ความเจริญก้าวหน้าไปสู่พระนิพพาน คงเป็นไปได้ดีครับ
     
  6. Dragon_Fly

    Dragon_Fly สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +13
    สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ครับ ผมอยากทราบว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราได้ญาณขั้นไหน
     
  7. cap5123

    cap5123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +85
    อภิญาณสมาบัติ นั้นมีจริงครับ แต่จะฝึกอภิญาณได้ต้องผ่านญาณรูปณาน4 อรูปณาน4 และการฝึกกสิณ10 มีฤทธิ์นั้น ย่อมได้อภิญาณครับ จงใช้ความพยายามมุ่งมานะเพื่อความหลุดพ้นแห่งวัฎสงสาร ครับ อนุโมทนา
     
  8. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,694
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    การฝีกสมาธิจริงๆ เราฝีกเพื่อให้ละ ตัดกิเลสได้ครับ มุ่งไปที่นิพพานเป็นที่ตั้ง อภิญญาหรืออิทธิฤทธิ์ที่ได้มานั้นถือเป็นของเเถมจากการฝึกครับ ( ผมก็ไม่มี หิๆๆๆ ) อย่าไปยึดติดเลยครับ มาฝีกสมาธิเพื่อละดีกว่าครับ ถ้ามีเเล้วไปยึดมัน ก็เท่ากับเอาิกิเลสมาไว้ในจิตใจ ชาติต่อๆไปก็ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ผมว่า ถ้าเป็นได้ เดินตามรอยพระพุทธเจ้าจะเป็นการดีที่สุดครับ อนุโมทนา
     
  9. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    คุณได้อภิญญามาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ

    อภิญญาแปลว่าความค่องตัว ความชำนาญ

    คุณกำลังเรียนหมอ คุณได้ความชำนาญในการเป็นหมอรักษาโรคมาใช้ในการช่วยเหลือคน

    ยายผีป่าฝึกมาหลายปี นั่ง เดิน นอน มาหลายกริยา ยังไม่ได้อภิญญาเหมือนคุณเลยค่ะ วิเคราะห์และรักษาโรคไม่ได้เหมือนคุณ

    อันที่จริงคุณอาศัยฝึกเพื่อให้ได้ทั้งทางโลกทางธรรมได้ทุกขณะที่เรียน ที่คุยกับเพื่อน และที่อยู่กับตัวเองนะคะ


    สนใจจะแนะนำให้จ้า
     
  10. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    อย่าไปสนใจคำจำกัดความ เพราะเวลาเราปฏิบัตินั้น มันไม่ได้มีสัญญาณมาบอกหรอกนะคะ แต่ครูบาอาจารย์ท่านเอามาพูดสอน เพื่อให้คนที่ทำได้แล้ว เอาอาการตอนนั้นๆ มาเทียบ แล้วจะรู้ว่าได้อารมณ์ไหน

    จะไม่บอกให้ไปตามอ่านว่า อาการไหน คืออะไร

    ขอให้ทำไป

    โดยอันดับแรกนั้นอาราธนาพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ด้วยจิตน้อมนำก่อน แล้วบอกตัวเองทางใจว่า

    "ฉันเบื่อหน่ายความเลวแล้ว"

    การทำสมาธิทำได้ทุกอริยาบท คำภาวนาหากเราถนัดคำไหนภาวนาคำนั้น

    หากเกิดอาการอะไร ให้คิดว่า ชีวิตนี้ไม่เสีดายแล้ว ไม่ต้องตกใจ ไม่มีอาการอะไรเลย ยิ่งดี ทำไปเรื่อยๆ ถ้าเมื่อก็ถอดออกจากสมาธิ

    ถ้าเราจะเอารวบยอด นะคะ

    ให้สังเกตสิ่งต่างๆ ให้มองว่า นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และสักวันมันก็ดับไป อย่างน้องที่เป็นหมอ เวลาเห็นคนป่วย ให้พิจารณาตามไปเลย แล้วมาดูตัวเรา มันไม่ต่างกันเลย แม้หน้าตา ฐานะ และเพศ ความเป็นอยู่อาจต่างกัน แต่การเกิดแก่เจ็บตายมันไม่ต่างกัน ทุกคนต้องเจอ เราเป็นหมอ ก็ป่วยเป็น ตายเป็น พิจารณาสังขารอาจารย์ใหญ่ทุกท่าน แล้วมาดูสังขารเรา เอ๊กซเรย์ตัวเราเลย ใช้จิตกำหนดก่อน

    บางคนนะคะ จิตรวมตัวกันเร็ว ร่างกายสว่างโพล่งไปเลย เห็นภายใน ภายนอก เนื้อ หนัง เลือด ลม ฯลฯ ที่ประกอบเป็นสังขาร เป็นอะไรๆ ได้

    พิจารณาตามไป
     
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ผมยินดีด้วยนะครับที่คุณมีกำลังใจทางด้านนี้.....ไม่ว่าจะฝึกอภิญญาหรือฝึกสมาธิอะไรก็ตาม.....จุดเริ่มแรกเลยคือ ศีล ต่อมาก็สมาธิ ต่อไปก็ปัญญา นะครับ.......

    หากคุณต้องการที่จะฝึกอภิญญาเริ่มแรกนั้น คุณจะต้องมีศีล ก่อนนะครับ....คุณอาจรักษาศีล 5 ก็ได้.......ถ้า 5 ไม่ได้ ก็3 ข้อก็ได้ แล้วพัฒนามาเป็น 5 ต่อไป........

    หลังจากนั้นคุณก็ฝึกสมาธิ เช่น อานา..ก่อน ...เพราะเป็นกรรมฐานแม่บท ของกรรมฐานต่างๆ .....ก็คือการกำหนดลมหายใจเข้าออก....ผมว่าในชีวิตประจำวันคุณก็ทำได้นะ......ไม่เห็นจะเป็นต้องตั่งท่า...นั่งสมาธิ...อย่างเดียว....
    คือ เมื่อใดก็ตาม ที่คุณพอมีเวลาว่างๆ จากการเรียน จากการอ่านหนังสือ เพียงแค่ นิดเดียว ในห้องสมุด(หรือที่ใหนก็แล้วแต่)....คุณพักสายตา....ก็กำหนดลมหายใจไปก็ได้(ไม่คิดถึงเรื่องต่างๆ)......คุณเชื่อไม จะทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น.....อารมณ์จะดีขึ้น.....การเรียนก็จะดีขึ้นด้วย.......เมื่อใดก็ตามมีเวลาที่ปฏิบัติเต็มที่ก็ทำก็ได้นะ(เมื่อมีเวลา).........พยายามเก็บเล็กผสมน้อยไปก่อน .....การทำสมาธิ ไม่ได้กำหนด ว่าจะต่องนั่ง เท่านั้น...ได้ตลอดในทุกอริยาบท แม่แต่วิ่งออกกำลังกายก็ยังทำได้....ผมทำมาแล้ว(วิธีเดียวกับการเดินจงกลม)....คือทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้จิดไปกินกับกิเลสในปกติมากเกินไป....ไม่ต้องไปคิดกับไอ่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมาก.....คุณลองเอาเวลาในปกติของคุณนี่หละ....ใช้ในการปฏิบัติ......เดินไปกินข้าว...ก็ยังทำได้เลยนะ(วิธีการเดินจงกลม).......อย่าพยามยามหาข้ออ้างว่าไม่มีเวลานะครับ.....ท่านที่ฝึกกรรมฐานจริงๆ....ต้องเอามาใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้....จนเป็นอันเดียวกัน..........การปฏิบัติไม่ได้ยากและต้องใช้เวลาอย่างที่คุณคิด.....

    อภิญญา พื้นฐานก็มาจากสิ่งนี้หละครับ.......เป็นขั้นต้นที่ต้องทำให้ได้.....

    อภิญญานั้น......มีอยู่จริงครับ......แต่ผู้ที่ทำได้ไม่ค่อยพูด......
    ทั้งในพระไตรปิฏก ก็มีกล่าวไว้ รวมทั้งวิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึง.....

    ผมแนะนำให้คุณลองโหลดพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อฤาษี...ไปเปิดฟังก็ได้(ถ้าขี้เกียจอ่านและไม่มีเวลาอ่าน)...หมวดต่างๆ ทั้งหมวดอภิญญา....โหลดใส่ MP3 ว่างๆ ก่อนนอน(ฟังจนหลับไป) หรือ วิ่งออกกำลังกายก็ฟังไปด้วยก็ได้.....จะมีส่วนในการ...พัฒนาจิตของคุณไปได้มาก.....วิธีนี้เป็นวิธีเดียวกับ....ในหลวงของเราใช้.....นะ...กรรมฐานใช้งาน....

    ลองดูนะครับ....ขอให้คุณสำเร็จนะ.....งานทั้งทางโลกก็ไม่เสีย...ทางธรรมก็พัฒนาขึ้น....
     
  12. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    ก็เรียนหมอให้จบ แล้วก็ได้อภิญญาครับ

    ได้ ปริญญาด้วย ได้ฤทธิ์ด้วยครับ


    แต่ถ้าตามที่คุณว่าที่หมอ ต้องการนั้นคืออยากจะทราบจริงๆว่ามันมีจริงๆหรือปล่าว

    ไอ้เรื่อง เหาะเหินเดินอากาศเนี่ย

    จริงๆแล้วผมอ่านแล้วก็รู้สึกเห็นในความตั้งใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว

    ถ้าลองหาดูดีๆ ก็น่าจะเจอนะครับ ฆราวาสที่ได้อภิญญา

    แต่พูดแล้วก็หนักใจจริงๆครับ คือมันพูดยากน่ะครับ

    ประมาณว่า ผู้ที่ได้เขามักจะไม่มาบอกนะครับ หายากจริงๆครับ

    แต่ถ้าถามว่าที่หาไม่เจอนั้น เขามีไหม?ก็มีนะครับ

    สำหรับเรื่องนี้ นับว่าละเอียดอ่อนมากๆครับ

    เพราะถ้าจะเปิดเผยกันจริงๆ คงจะมีนานแล้ว

    เอาเป็นว่า ลองศึกษาเว็บนี้ดูแล้วกันนะครับ

    สำหรับเวลา ถ้าลองแบ่งดีๆ ก็ไม่จำเป็นว่า ต้องเจียดมามาก ก็ได้นะครับ

    สัก 20-30 นาทีต่อวันก็ได้ครับ การศึกษาหาความรู้นั้น 1 วินาทีก็สำคัญใช่ไหมครับ
     
  13. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    ความจริงนักศึกษาแพทย์ ทันตแพทย์ เทคนิคการแพทย์ พยาบาล ต่างๆ ที่ปฏิบัติ และเป็นลูกศิษย์ สายหลวงพ่อก็เยอะนะ......หลายมหาวิทยาลัย....เช่น มน. เป็นต้น ตั่งเป็นชมรมเลยหนิ...จำไม่ได้ว่าเป็นกระทู้ใหน ในเวบนี่เรานี่หละ......เห็นว่ามีงานรวมตัวไหว้ครู ที่เพิ่งจะผ่านไปนะ.....ใครผ่านไปมาถ้าจำได้ก็ช่วยบอกน้องเขาหน่อยนะครับ.....

    ยอมรับนะ....สายทางแพทย์ นี่ปฏิบัติธรรมได้ง่าย...จริงๆ....เพราะว่าอาชีพเขาให้....
    เห็นตลอด เกิด แก่ เจ็บ ตาย สมณะ ครบเลย.....

    เห็นศพ ได้ผ่าศพด้วย ฝึก อสุถะกรรมฐาน และกายคตาสติไปในตัว.....พวกนี้หลายคนใกล้เกลือกินด่าง......เอกอื่นไม่ได้ผ่า...ยังไปขอดูกับเขาเลยนะ.....

    อย่าให้เสียประโยชนะครับ.....คุณอยู่ใกล้กว่าคนอื่นเขามาก....
     
  14. Bkkianmar

    Bkkianmar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +55
    ฝึกอภิญญานี่ฝึกยังไงหรอคะ
    ใช่ทำสมาธิป่าว

    เป็นหมอรักษาเด็กนี่ก้อเท่พอๆกะมีอภิญญาแหละ ในความคิดเรานะ
    สู้ๆค่ะ
    มีความคิดดีดี โมทนานิ
     
  15. Dreamzz

    Dreamzz สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +2
    ลองถามตัวเองก่อนดีมั้ยครับว่าต้องการฝึกอภิญญา เพื่ออะไร ?
    จะได้ไม่หลงทาง ถ้าอยากฝึกมากๆ ก็ดูความอยากไปก่อนดีมั้ยคับ
    ผมบอกว่าผมอยากเป็นหมอ รักษาและช่วยชีวิตคน พี่ว่าน้องทำหน้าที่ของตังเองตอนนี้ให้ดีก่อนดีมั้ยคับ ปีสี่ขึ้นวอร์ดเรียนหนักงานเยอะ ตั้งใจเรียนก่อน อย่าฟุ้งซ่าน ตามดูตัวเองไป
    เรียนจบ ก็เลือกไปใช้ทุน รพช. ที่สงบๆเหมาะแก่การฝึกปฎิบัติ ช่วงใช้ทุนหรือจะอยู่ยาวที่ รพช. น้องมีเวลาปฎิบัติเยอะแน่คับ ถึงตอนนั้นก็ขยันๆ อย่าเบื่อหน่อยเสียก่อนเระกัน
    เป็นกำลังใจให้คับ ทำอะไรก็ขอให้มีสติ ... รู้ว่าจิตคิดคือต้นทางของการปฎิบัติ
    สาธุ ครับ
     
  16. Bkkianmar

    Bkkianmar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +55
    ในนี้มีหมอหลายคนจัง
    คุณหมออออ><
     
  17. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    เข้าไปดูตรงนี้ก่อนนะครับ.....
    http://palungjit.org/showthread.php?t=175071
     
  18. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ช่วงนี้จะมากด้วยอภิญญา ที่บอกว่าสนใจคุณอาจจะเคยสนใจในอดีตมาก่อนก็ได้ ได้ไม่ได้ไม่รู้

    เป็นนักปฏิบัติอย่า ท้อคับ ปลูกข้าวจะให้มันโตแล้วเกี่ยวเลยภายในวันสองวัน อย่าว่าวันสองวันเลยคับ อาทิตย์สองอาทิตย์ก็ยาก ปฏิบัติให้เหมือนกับปลูกข้าว ปลูกต้นไม้ ผลมันจะออกมาเมื่อถึงเวลาอันควร แต่ถ้าสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อากาศไม่เหมาะสม มันก็ตายได้นะคับ

    หมอเป็นอาชีพที่เสียสละมาก เรียนหนัก เวลาน้อย แต่อย่าให้เสียเวลาไปเปล่าเลยคับ อีกชีพของคุณก็ได้ช่วยเหลือคนหมู่มากอยู่แล้ว เรื่องฤทธิ์เป็นเพียงเครื่องมือกำจัดกิเลศชิ้นหนึ่งเท่านั้น ที่ห้ามไม่ให้ผู้มีฤทธิ์แสดงฤทธิ์ ก็กลัวว่าคนจะหลงฤทธิ์ ติดฤิทธิ์กัน มองว่าเป็นของวิเศษ ในพระไตรปีดก ก็กล่าวถึง แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมาก เพราะกลัวคนจะติดฤทธิ์กัน จะไม่สนใจปฏิบัติให้พ้นทุกข์

    เรื่องเห็นผี รู้อดีต อะไรพวกนี้ผมก็มีเพื่อนที่ทำได้อยู่ แต่เธอกลับไม่อยากได้ ไม่อยากมี หาทุกวิธีที่จะสลัดออกไป

    ลองถามใจตัวเองดูคับว่า อยากได้อภิญญาไปเพื่ออะไร หากได้มาเท่ๆแบบ x-men นี้ อย่าดีกว่า ( ไม่ได้ว่าใครนะคับ เพราะผมเคยอยากได้ อยากมีมาก่อน ) ผมมีหนังสือเล่มหนึ่ง กสินไฟ ของอาจารย์อะไรผมก็จำชื่อไม่ได้ แต่ได้มาจาก 7 ลองไปหาในร้านหนังสือดูนะคับ มีรูปนิดๆหน่อยๆ

    ผมหันมาสนใจพุทธศาสนาจิงๆจังๆ เพราะอะไรนะเหรอ สิ่งแรกที่สนใจคือ กสิน ผมเป็นพยาบาลคับอายุก็ราวๆกับคุณเจ้าของกระทู้ ผมเพิ่งจบปีนี้เอง ผมเรียนที่ ม ช มีโอกาศได้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ผมเรียนไม่เก่งเอามากๆ และไม่ถนัดทางนี้มาก ตอนแรกไม่คิดเลยจะเรียนพยาบาล 1.ไม่ถนัท 2.ไม่ชอบ ครบ set การเรียนของผมเวลาก็ไม่ได้มากมายอะไร พูดง่ายๆคือต้องเสือกรู้ไปซะทุกเรื่อง เรื่องผ่าตัดของหมออาจารย์ยังให้ไปหาอ่านมาทั้งๆไม่เกี่ยวอะไรเลย ผมก็ยิ่งไม่ชอบขึ้นไปอีก อคติมาเรื่อยๆ จนได้พบพระพุทธศาสนากลับทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป ดีใจที่ได้เห็นคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกับได้วิปัสนาไปในตัวในทุกๆวัน ผมได้เห็นความรักที่แม่มีต่อลูก เห็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เห็นการเอารัดเอาเปลี่ยบ การมองคนไข้ว่าเป็นอาจารย์ของนักศึกษาในสายนี้ การช่วยเหลือคนไข้ที่ต้องช่วยให้ผ่านๆไปตามหน้าที่ และหลายๆมุมมอง จิงๆเรื่องทางโลกเป็นเพียงแค่สัญญา แต่ความเป็นจริงก็ไม่มีอะไรเลย มารู้ที่หลังว่าไอ่ที่ผ่านมาทั้งหมด เราเป็นทุกข์เพราะปรุงแต่งขึ้นทั้งนั้น ทำของที่ง่ายให้ยาก

    ฟุ้งซ่านมากคับ ทำยังไงดี อาจารย์ท่านแนะนำให้ทำสมาธิ ผมตอบไปว่าผมก็ลองทำแล้วนะคับ พุท-โธ แต่ไม่สงบเลยทำได้ไม่นาน ท่านก็เลยบอกงั้นลองกสินซิ ท่านพูดแค่นี้ ผมก็ใส่ใจเลย เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
    และวันหนึ่งก็ได้มาพบกับหนังสือ่เล่มหนึ่งคือ หลวงปู่บรมครูโลกเทพอุดร ผมอ่านในร้านหนังสือ จนจบเล่ม ตั้งใจอ่าน ในหนังสือก็พูดถึงเรื่องกสิน เอ่อผมชักจะชอบขึ้นมาแล้วซิ ก็เลยหาข้อมูลต่างๆ และเิริ่มฝึกปฏิบัติ ทีแรกแผ่นวงกลมสีขาว แต่พื้นห้องเป็นสีขาว ทำให้ยากต่อการเกิดนิมิตร ท้อมาก หาข้อมูลในเน็ตก็พบกับ เทศของหลวงพ่อฤาษีเรื่องอภิษญา เรื่องกสินก็โหลดมาฟัง ชอบมาก ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเป็นของหลวงพ่อฤาษี ผมก็ฟังด้วยความชอบ บางทีก็อยากรู้ว่าใครกันที่กำลังพูดอยู่ทำไม อัศจรรย์ในใจได้เพียงนี้

    ก็มาคิดดูว่าจะเริ่มที่ไหนดี เอาวะ อยากเห็นผี ตั้งแต่เรียนทางนี้ยังไม่เจอจะๆ เลยคับส่วนมากก็ได้ยินเสียง โดนอำ เห็นตอนโดนอำบ้าง อยากเห็น ก็เริ่มฝึก เพ่งเทียน ก็ทำไปเรื่อยๆ ก็ไม่ถึงไหน ทำได้แค่ เห็นไฟลอยๆ ในอากาศซักพักแล้วก็หายไป จิงๆมันเป็นรูปไฟนะคับ พอเห็นก็ลืมภาวนา ภาวนาก็ผิดเพราะไปกำหนดลมหายใจ ไม่ได้ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ก็เลยลองไม่ภาวนาก็ยังเห็นเช่นเดิม เอ่อเริ่มเกิดคำถามในใจว่า ที่ภาพกสินเราไม่เปลี่ยนไปนี้เพราะเราทำผิดหรือเปล่า ภาวนากับไม่ภาวนาก็เหมือนกัน วันหนึ่งก็ได้ฟังเทศของหลวงพ่อต่อ หลวงพ่อบอกว่าถ้าจะให้ดีต้องเอาอาณาให้คล่อง แล้วไปจับจะเร็วมาก ก็เริ่มสนใจอาณา ฝึกคับ ฝึกไปแล้วก็เจอเลย วันแรก 5 นาทีหลับตาทำ จะตายให้ได้ ปวดไปหมด หลังๆก็ดีขึ้น ท่าที่ชอบก็ท่านอน แต่หลับตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่งก็ทำไปแล้วคิดว่ากำลังหลับ แต่แอะทำไมเรารู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา มีเพื่อนจะมาชวนไปกินเหล้า ช่วงนั้นมารผจนเยอะมาก ก็รู้ว่ากำลังเดินมาที่ห้องและกำลังเปิดประตู คือรู้หมด ตื่นมาก็พบว่า แอะทำไมตัวเรานี้ใหญ่จังวะ ( จิงๆ เท่าเดิม เป็นเพียงความรู้สึก ) ก็มาค้นหาว่ามันคืออะไร ก็มีบัญญัติไว้ในพวกปิติ ผมจึงหมดข้อสงสัยในกรรมฐาน

    พักผ่อนน้อยทำให้เครียดได้ โมทนาจิตกุศลกับเจ้าของกระทู้นะคับ ที่หันมาสนใจด้านนี้ ของจริง ทำจริง ก็ต้องมีจริงคับอ่ที่เรายังไม่เจอ แสดงว่าเรายังทำไม่จริง แนะนำให้ทำทางโลกไปก่อน มีเวลาหายใจก็ต้องมีเวลาปฏิบัติคับ ตอนที่คุณใช้ความคิดก็ปฏิบัติไม่ได้ แต่หากตอนพักก็ขอให้รู้ลมหายใจเข้าออก ก็พอ ช่วงเรียนเหนื่อย คุณเป็นหมอ ต้องรับผิดชอบชีวิตคนเลยต้องเหนือคน ขอให้พยายามต่อไปนะคับ เหนือคนที่ว่านี้ด้านความรู้นะคับ จริงๆ ก็มีเหมือนกันหมดไม่มีใครเหนือใครหรอก ว่างๆแล้วค่อยปฏิบัติคับ ไม่เสียเวลาหรอกคับที่ปฏิบัติธรรม หากคุณปฏิบัติแล้วทุกข์ใจ ผมให้เอาเท้าถีบหน้าเลยคับ แต่ต้องปฏิบัติให้ถูกหลักนะคับ ไม่ใช่ว่าผิดจากหลักปฏิบัติ ธรรมปฏิบัติแล้วสุขคับ หากทุกข์นั้นถือว่าผิดทางแล้ว เจริญกรรมฐาน ดีคับ แต่ถ้าให้ดีอีก เอาวิปัสนามาช่วยจะดียิ่ง

    เรื่องทางธรรม ไม่มีอะไรมากคับ มันอยู่ที่จิตคุณทั้งนั้น ให้ดูจิตตลอดเวลา ดีก็อยู่ที่เรา ชั่วก็อยู่ที่เรา ผมเชื่อว่าเจ้าของกระทู้จะพบเจอกับสิ่งที่ต้องการในเร็ววันนะคับ ในทางโลกเข้าใจได้ง่าย แม้ในสิ่งที่ว่ายากๆ แต่ในทางธรรมต้องปฏิบัติถึงจะรู้ ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน

    ที่ผมพูดๆมาอย่าเพิ่งเชื่อนะคับ

    แนะนำให้อ่านกระทู้นี้คับ วิปัสนา http://palungjit.org/showthread.php?t=153379

    ส่วนเทศของหลวงพ่อฤาษีผมแนะนำนี้คับ
    http://audio.palungjit.org/forumdisplay.php?f=26


    อยากฝากว่า อย่าติดในตัวกู ของกู มึง ของมึง ในทางโลกมี คำว่า มี แต่ในทางธรรม มีคำว่าไม่มี คับ ขอความพวกนี้ผมจำได้จากคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์นะคับ ถ้าความคิดเห็นของผมทำให้เกิดอกุศล ผมขอขมามา ณ ที่นี้นะคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  19. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
    อภิญญานี่นะ.....บางคนยังไม่รู้จักเลยหน้าตาเป็นอย่างไร.......ยังไม่เคยไปสัมผัสแม้แต่นิดเลย.........ก็ว่าไม่มีประโยชน์....หาว่าหลงได้ง่ายอีก(ถ้าฝึกได้...และฝึกเป็น...ไม่มีทางหลง)...คือได้ยินจากเขาว่ามาว่าไม่ประโยชน์....ตัวเองก็ไปยึดตามนั้น(เขาว่า....(มันก็คือเขาว่า....นั่นหละ))...........คนที่ได้(จริง)......กับคนที่ไม่ได้(หรือฝึกไม่จริง)......มันคนละอย่างกันนะ......


    จงอย่าลืมนะ....พระสารีบุตร...พระโมคคัลลา...และอีกหลายองค์ สำเร็จ อภิญญา ตั่งแต่อดีตชาติ (อาจไกลตัวไป)


    เอาสมัยใกล้ๆ หลวงปู่ปาน หลวงปู่ศุข หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่คำคนิง สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน) ท่านก็ได้......เคยมีบ้างใหมที่ท่านกล่าวว่า อภิญญาไม่มีประโยชน์......

    ใกล้สุด หลวงพ่อ ปราโมทย์ ท่านก็ได้ งั้นท่านจะมองจิต(วาระจิต) ลูกศิษย์ได้อย่างไร.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  20. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122

    โมทนาคับ เป็นเช่นนั้นจริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...