เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ท่านั่งสมาธิแบบดอกบัว ผมว่าเป็นท่าที่ยากเหมือนกันครับ ถ้าช่วงไหนกล้ามเนื้อยืดหยุ่น เพราะออกกำลังกาย จะทำได้ไม่ยาก และเป็นท่านั่งที่มั่นคงมากๆ แต่ถ้าในทางกลับกัน จะเป็นท่าที่ทรมานพอสมควรครับ ท่าที่ไม่ฝืนเกินไปเห็นจะเป็นท่าครึ่งดอกบัวครับ

    ถ้าเรามองว่า ทุกอย่างเป็นเหมือน ของขวัญจากฟากฟ้า อย่างที่คุณ mead กล่าวไว้
    คงจะดีไม่น้อยเลยนะครับ

    ไม่ว่าความรู้สึกทุกข์ หรือสุข ต่างก็เป็นครูที่มีค่ายิ่งของเราทั้งนั้นครับ

    ผมว่าหากเราเห็นการเกิด การดับ ตลอดเวลา มันจะมีผลทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงมากหรือน้อยอย่างไร

    ส่วนการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนั้น หากตัดเรื่องระยะเวลา การเกิด การดับ ที่ไหลไปตามเวลาออกไป ผมว่ามันเกิดขึ้นได้ตลอดนะ หากเราเข้าใจบางสิ่งบางอย่าง และเปลี่ยนความเชื่อที่เกาะเกี่ยวเราอยู่ได้

    เหมือนกับว่าเราเจอเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ความรู้สึกอะไรซักอย่าง แล้วนั่งจ้องมองมัน โดยไม่นำอารมณ์อื่นๆเข้ามาแทนที่ เพื่อให้เราหลุดพ้นจากอารมณ์ความรู้สึกเศร้าหมองนั้นๆ เราจะรู้สึกกดดัน ขมขื่น ทนไม่ไหว กับอารมณ์ดังกล่าว เพราะประกอบไปด้วยความคิดในเส้นทางต่างๆมากมาย ที่เกาะเกี่ยวกันไว้อย่างหนาแน่น

    แต่เมื่อเราไม่กลัว ไม่หนี เหตุการณ์ที่ดูเหมือนเลวร้ายนั้น ก็จะผ่านไป พร้อมกับได้ข้อคิดต่างๆมากมาย

    ในความรู้สึกผม รู้สึกเหมือนว่าได้เกิดใหม่ เพราะความเชื่อที่เปลี่ยนไปจากเดิม

    ผมว่า เพื่อนๆต่างก็ได้ผ่านการเกิดใหม่อย่างฉับพลันนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อความเชื่อบางสิ่งบางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว

    หายเร็วๆนะครับคุณ veggie guy
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ความเหงามักเล่นตลกกับเราได้สารพัดเลยครับ
    มันเป็นความรู้สึกของมนุษย์ทุกคนนะครับ ที่ต้องมีเพื่อนไว้พูดคุยระบายความรู้สึกแลกเปลื่ยนแบ่งปันประสบการณ์บ้าง การอยู่โดดเดี่ยวนานๆก็มีน้อยคนที่ทำได้อย่างน่าพิศวง แต่ลึกๆแล้วก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
    เพราะมนุษย์ทุกๆคนสามารถถ่ายเทพลังงานให้กันและกันได้
    พลังของความสุขสดชื่น จากเค้าก็จะไหลมาที่เรา
    และมาผลักดันให้พลังอำนาจในตัวเรามีมากขึ้น (ยืมข้อความคุณเดรดมาหน่อย)
    ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณเดรดและเพื่อนๆทั้งในและนอกห้องวิทย์ฯที่น่ารักทุกคน
    ขอให้รักกันเหนียวแน่นเหมือนสายไหมกับโรตีนะครับ (อร่อย) อิอิ

    เอาคำถามสนุกๆมาให้เพื่อนๆทายเล่น 3 ข้อครับ

    1.ให้เรียงลำดับความสำคัญของสัตว์ต่อไปนี้ (เรียงตามที่ใจชอบครับ)
    วัว เสือ หมู ม้า แกะ

    2.เขียนใส่ความรู้สึกเกี่ยวกันสัตว์ต่อไปนี้ ตามจริง แวปแรกที่รู้สึก (จะเขียนสั้น-ยาวแล้วแต่ครับ)
    สุนัข+...............................
    แมว+................................
    หนู+...............................
    กาแฟ+............................
    ทะเล+.............................

    3.จับคู่ "สี"กับ"ชื่อคน"กับที่เรารู้สึกว่าใช่ครับ (ชื่อใครก็ได้รอบๆตัวเราในห้องวิทย์นี้ก็ได้)
    ส้ม+.........
    ขาว+.........
    เหลือง+........
    เขียว+........
    แดง+........

    ลองดูครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเฉลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2009
  3. Mila

    Mila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184
    จิตวิญญาณกำเนิดใหม่

    [​IMG]


    Kokopelli สัญลักษณ์ของการเกิดใหม่
    เป็นบุคลิกภาพสำคัญของอินเดียแดงเผ่า Pueblo ซึ่งเป็นบุคลิกภาพที่ชาวอินเดียนแดงถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในดินแดนแห่งลมใต้<O:p</O:p
    หรือในแคนซัส ที่คุณแม่นักเขียนของเราอยู่ตอนนี้
    ชาวอินเดียนแดงมักให้เครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ของ Kokopelli นี้เพื่อเป็นการอวยพรในโอกาศสำคัญต่างๆโดยเฉพาะให้ในวันที่มีเด็กเกิดใหม่สำหรับแม่ที่มีลูกยากก็มักจะให้เป็นของขวัญเพื่อให้มีลูกได้สมปราถนา<O:p</O:p

    โคโคเพลลี่ มีลักษณะเหมือนคนหลังโก่งและกำลังเป่าขลุ่ย<O:p</O:p
    หลังของเขาโก่ง เราะต้องแบกรับน้ำหนัก แบกภาระ<O:p</O:p
    และแบกความทุกข์ยากทั้งหลายของเราเอาไว้<O:p</O:p
    Kokopelli ผู้ใจดีหวังว่าจะช่วยปลดทุกข์เหล่านั้นและนำพาความสุขให้หลั่งไหลมาสู่เรา<O:p</O:p
    ขับกล่อมเสียงเพลงแว่วหวาน ผ่านขลุ่ยประจำตัว<O:p</O:p
    ส่งบทเพลงแห่งความร่าเริงเบิกบาน ให้แก่ชีวิตใหม่รอยยิ้มครั้งใหม่ การสรรสร้างใหม่ๆ ให้แด่ก้าวเดินก้าวต่อไป <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เกดขอเอาข้อความในหนังสือ อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคปลาย หน้า 466-467 มาให้อ่านนะคะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ทำ MV เปิดตัวได้สวยงามน่าสนใจดีครับคุณสันโดษ
    คงได้แรงบันดาลใจที่ดีเอามากๆ ขอบคุณนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2009
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    TO MY DEAR WRITER

    I already found the answer of the above. It is in the Book named "AMATA JITVINYAN". You my hit may head again (may be sound like single bowl). All came from my mind, and it 's also my symbol.
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ค่ำคืนที่ยาวนานจะจางหายและวันใหม่แห่งชีวิตใหม่จะเป็นนิรันดร์<O:p</O:p

    Kokopell สัญลักษณ์แห่งการเกิดใหม่ของอินเดียนแดงเผ่านั้น
    นับเป็นของขวัญชิ้นพิเศษของลูกเกดเลยนะครับ
    ในแต่ละมุมโลกก็จะมีสัญลักษณ์แทนความเชื่อแบบนี้อยู่มากมาย
    ชาวอียิปต์ก็จะมีด้วง scarab ที่เป็นสัญลักษณ์แทนการเกิดใหม่และการนำโชค
    เพราะแมลงชนิดนี้อึดมากๆ ทนได้ทุกสภาวะแวดล้อมเหมือนมีชีวิตอมตะครับ


    ส่วนคำถามนั้นยังไม่เฉลยแล้วกันนะ สงสัยเพื่อนๆรู้คำตอบแล้วแน่เลย อิอิ
    เป็นคำตอบเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่คลุมทับความรู้สึกด้วยครับ
     
  7. Fleurdelis

    Fleurdelis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +112
    จะรอเฉลยนะครับ ;)
     
  8. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    ;aa37ยินดีต้อนรับคุณ tro สู่ห้องวิทย์ฯ ครับ;aa37

    มารอฟังเฉลยด้วยคนครับ
    ที่ไม่ได้เล่น เพราะเคยเล่นมาแล้วครับหัวหน้า
    แต่เพื่อนๆอีกหลายๆคน ที่ยังไม่เคยเล่นสนุก อาจมีคำตอบเอาไว้ในใจอยู่แล้ว แต่ยังอายอยู่ อิอิ
    ;aa8
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ความฝันบ่งบอกภายใน (อีกแล้ว) 3 มี.คffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    เพิ่งจะฝันว่าตัวเองยืนอยู่หน้าบ้านโดยกำลังมองหมาที่กำลังวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน สักพักมีครอบครัวแมวสีดำเดินออกจากในตัวบ้านมาที่หน้าบ้าน บางส่วนของลูกแมวเริ่มเดินออกไปด้านนอกที่หมาวิ่งเล่นอยู่ ด้วยความปรารถนาดีจึงพยายามจับลูกแมวเหล่านั้นกลับเข้ามา ลูกแมวขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีสิ้นสุดจนจินตวดีต้องพยายามใช้มือโกยเข้ามาในบ้าน บางส่วนมันไม่ใช่ลูกแมวแต่กลายเป็นก้อนกลม ๆ เหนียว ๆหนึด น่ารังเกียจแต่ตัวเองก็ยังคงโกยเข้ามา ขณะที่กำลังเอามือโกยเข้ามานั้น มีมือเอื้อมมาจากข้างหลังปัดลูกแมวกระเด็นออกไป จินตวดีหันหลังเพื่อจะต่อว่า แต่ปรากฏภาพพี่สาวใจดียิ้มให้ด้วยความบริสุทธิ์พร้อมบอกกับจินตวดีว่า “มันขยายพันธ์เยอะแยะไปหมด ทิ้งมันไปบ้าง” จินตวดีฟังแล้วเฉย แต่เดินกลับไปเก็บเศษลูกแมวที่พี่สาวคนนั้นปัดไปกลับมา ทันทีที่แตะลูกแมวเหล่านั้น มือจินตวดีปรากฏเป็นผื่นขึ้นเต็มไปหมด ปรากฏภาพในกระจกเป็นภาพตัวเองที่มีผื่นขึ้นหน้าเต็มไปหมด
    <O:p> </O:p>
    สัญญลักษณ์
    บ้าน เปรียบแต่แก่ตัวเราอันเป็นเหมือนเจ้าเรือน
    ลูกแมว เปรียบได้กับสิ่งที่รัก ภาระ เพราะทั้งแมวและหมา เป็นสัตว์เลี้ยงที่รักของจินต์
    ผื่น เปรียบได้กับ ภาวะแห่งทุกข์ โรคภัย
    กระจก เปรียบได้กับภาพสะท้อน
    <O:p> </O:p>
    จำได้ว่าเคยตั้งจิตอธิษฐานขอรู้ต้นเหตุแห่งปัญหา และวิธีแก้ไข ความฝันข้างบนนี้พอตื่นมาพิจารณาดูก็ยังไม่เข้าใจความหมาย แต่ก็ยังจำได้ติดใจ อยู่ ๆ ก็มาคิดได้ ตัวเราเองไม่ใช่หรือที่ก่อให้เกิดทุกข์ให้กับตัวเองทั้งกายและใจ เราเป็นคนรับเอาอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ เข้ามาสู่ตัวเอง และก็ทำให้มันขยายตัวขึ้น สิ่งที่เรารับมามีทั้งดีและไม่ดี การที่พี่สาวมาปัดออกก็น่าจะบอกถึงวิธีแก้ปัญหาในตัว คือทิ้งมันออกไปบ้าง บางครั้งความหวังดีของเราก็ก่อให้เกิดทุกข์กับเราได้ทั้งกายและใจเหมือนกัน เหมือนภาวะผื่นคันในฝัน รวมทั้งกระจกที่เปรียบเสมือนภาวะที่สะท้อนภายในให้เห็น เรากำลังป่วยจากภายใน ด้วยภาวะของความเกินพอดี คงต้องทิ้ง ๆ วาง ๆ กันบ้างล่ะคราวนี้ ทุกข์ที่ไหนสมควรจะตัดที่นั่น ความเจ็บป่วยของเราเกิดจากความคิดภายในที่เกินพอดี ถ้าตัดทิ้งไปคงจะดีขึ้นแน่นอน ใช่ไหมพี่นักเขียนที่รัก<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2009
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    คงเคยเล่นกับบ้างแล้ว (โบราณมากๆ อิอิ)
    จริงๆเค้าจะมีให้อฐิษฐานก่อน และส่งต่อให้คนอื่นๆด้วย
    เป็นความเชื่อหนึ่งในเรื่องสัญลักษณ์ของทางธิเบต
    ถ้างั้นมาเฉลยเลยนะครับ ลองดูคำตอบนะครับว่าตรงกับที่เราคิดไว้รึเปล่า?


    1.ให้เรียงลำดับความสำคัญของสัตว์ต่อไปนี้
    คำตอบจะเป็นการให้ความสำคัญตามลำดับในชีวิตของแต่ละคน

    วัว - หมายถึง อาชีพการงาน
    เสือ - หมายถึง ศักดิ์ศรี
    แกะ - หมายถึง ความรัก
    ม้า - หมายถึง ครอบครัว
    หมู - หมายถึง การเงิน

    2.เขียนใส่ความรู้สึกเกี่ยวกันสัตว์ต่อไปนี้

    สุนัข - เป็นนัยเกี่ยวกับตัวเอง
    แมว - เป็นนัยเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน
    หนู - เป็นนัยเกี่ยวกับศัตรู
    กาแฟ - เป็นนัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ
    ทะเล - เป็นนัยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว

    3.จับคู่ "สี"กับ"ชื่อคน"กับที่เรารู้สึกว่าใช่ครับ

    ส้ม ใครบางคนที่เป็น เพื่อนแท้ ของคุณ
    ขาว ใครบางคนที่เป็น ชีวิตจิตใจ ของคุณ
    แดง ใครบางคนที่เป็น รักแท้ ของคุณ
    เขียว ใครบางคนที่จะจดจำไปตลอดชีวิต
    เหลือง ใครบางคนที่คุณไม่เคยลืม


     
  11. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    อ่านประโยคข้างต้นแล้วรู้สึก ดี จังเลยค่ะ ^-^

    [​IMG]

    " มนุษย์ทุกๆคนสามารถถ่ายเทพลังงานให้กัน และ กันได้ พลังของความสุข
    สดชื่น จากเค้าก็จะไหลมาที่เรา และ มาผลักดันให้พลังอำนาจในตัวเรามีมากขึ้น "

    ถึงว่าเข้ามาห้องนี้แล้ว สดชื่น ... เป็นพิเศษ อย่างนี้เข้ามาบ่อย ๆ อิอิ
     
  12. Fleurdelis

    Fleurdelis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +112
    ขอบคุณครับ ;)
     
  13. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    พี่นักเขียนคะ หนูเริ่มพอจะเข้าใจสติสัมปชัญญะระดับ ก. 1 แล้วค่ะ ภาพและข้อความที่เห็นบ่อย ๆ มาจากสติสัมปชัญญะระดับนี้นี่เอง ถ้าจินต์ฝึกฝนมากกว่านี้ จินต์จะสามารถยักย้าย เปลี่ยนบางอย่างได้จากภายใน โดยอาศัยสติสัมปชัญญะระดับนี้ คราวนี้ก็อยู่ที่การฝึกฝนของเราแล้ว จินตวดีเอ๋ย
     
  14. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความรักและการแสดงออกซึ่งความรัก

    ใกล้จะถึง Valentine's Day แล้วนะคะ
    พี่นักเขียนชวนพวกเราวาดภาพ และพวกเราก็เสนอ idea อื่นๆอีกมากมาย เช่น ถ่ายภาพ แต่งเพลง เขียนโคลงกลอน เพื่อแสดงออกซึ่งความรัก

    พี่นักเขียนขอถึอโอกาสนี้ ส่งการบ้านก่อน ด้วยการนำเสนอบทความเรื่อง :
    ความรักและการแสดงออกซึ่งความรัก
    ช่วงนี้งานยุ่งมาก เกรงว่าจะไม่มีเวลาวาดภาพหรือแต่งเพลงมาร่วมแสดงออกซึ่งความรักกับพวกเราตาม สัญญา ถือว่าบทความวันนี้เป็นการส่งการบ้านของพี่นักเขียนก่อนแล้วกันนะคะ ใครจะช่วยวาดภาพหรือแต่งโคลงกลอน หรือเพลงประกอบ ก็จะทำให้กลายเป็น project แห่งความรักที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่านี้



    ความรักและการแสดงออกซึ่งความรัก
    [​IMG]
    ความรักเป็นพื้นฐานอันเป็นธรรมชาติที่สุดของจิตวิญญาณทั้งหลาย
    ทั้งนี้รวมทั้งจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง และปราศจากร่างกายเนื้อหนัง

    จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังเช่นเราท่านทั้งหลาย เป็นจิตวิญญาณที่ได้รับพรในการแสดงออกซึ่งความรักได้มากมายหลายทิศทางด้วย กัน ทั้งทางกายภาพ อันได้แก่การกระทำทางกาย และทางจินตภาพ อันได้แก่การส่งความรู้สึก หรือส่งกระแสแห่งความรักไปสู่ผู้ที่เรารัก

    เราทุกคนสามารถรู้เห็นและตระหนักได้ในความรัก จากการแสดงออกทางกายภาพได้ง่าย กว่าการส่งกระแสจิต เพราะเรามักจะเชื่อถือประสาทสัมผัสทั้งห้าของเรามากกว่าความรู้สึกของตนเอง ทั้งที่จริงแล้ว เราทุกคนสามารถรู้เห็นและตระหนักได้ในกระแสจิต ไม่น้อยไปกว่าการรู้เห็นด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าเลย และมากกว่าด้วยซ้ำไป เพราะวิธีการรู้เห็นหรือรับรู้ด้วยกระแสจิต คือการรู้เห็นหรือรับรู้โดยตรงด้วยจิตวิญญาณ จากจิตวิญญาณ-สู่-จิตวิญญาณโดยตรง โดยปราศจากการปรุงแต่ง-บิดเบือนด้วยเครื่องพรางทั้งหลาย

    แต่คนจำนวนมากไม่ค่อยจะเชื่อถือในกระแสแห่งความรัก เท่ากับกระแสแห่งความเกลียด
    กล่าวคือ หากมีใครสักคนส่งความรักให้เราด้วยกระแสจิต เรามักจะไม่แน่ใจว่า เราทึกทักเอาหรือเปล่าว่า เขารักเรา และหากเราแอบส่งความรักให้ใครบางคนด้วยกระแสจิต และอยากจะให้มันเป็นความลับต่อไป เราก็มักจะเชื่อว่า มันยังคงเป็นความลับที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้


    แต่บ่อยครั้งที่เราทั้งหลายมักจะเชื่อถือในกระแสแห่งความเกลียดได้อย่างเป็น อัตโนมัติ และเชื่อถือในความรู้สึกของตนเองอย่างมั่นนคง เพราะหากเรารู้สึกว่า ใครสักคนเกลียดเรา แม้เขาจะไม่ได้แสดงออกทางกายภาพ เรามักเชื่อถือความรู้สึกของตนเอง จนทำให้เราแสดงออก หรือตัดสินใจในทิศทางที่สนับสนุนความเชื่อ อันเกิดจากความรู้สึก หรือจากการสื่อจากจิตวิญญาณ-สู่-จิตวิญญาณโดยตรง โดยไม่มีข้อแม้

    การขาดความมั่นใจว่า เราได้รับความรักที่แท้จริงจากผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนแปลกหน้า เป็นความเชื่อที่ถูกปลูกฝังจากสังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม ที่หลอมความคิดความเชื่อของคนจำนวนมากให้คุ้นเคยกับการไม่ไว้วางใจในผู้อื่น อันเกิดจากความกลัว ความหวาดระแวงในความไม่ปลอดภัย การแข่งขัน และการเชื่อในการสร้างกำแพงขวางกั้นการเป็นตัวตนเรา-เขา

    หากเราจะรักใครสักคน สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมหล่อหลอมให้เราเชื่อว่า เราจะรักได้แต่เพียงคนใกล้ตัวที่เรารู้จักเป็นอย่างดีเท่านั้น มิฉะนั้นแล้ว มันแทบจะเป็นความรักที่เป็นอันตรายต่อตนเอง

    แต่ธรรมชาติความเป็นจริงที่เราทั้งหลายพบเห็นเป็นประสบการณ์อยู่ทุกเมื่อ เชื่อวัน ก็ขัดแย้งกับความเชื่อทั้งหมดนี้โดยสิ้นเชิงเสมอ เพราะคนแแปลกหน้าคู่แล้ว-คู่เล่า กลายเป็นคู่รัก-คู่ชีวิต คู่คิด หรือญาติมิตรและเพื่อนสนิท ภายในระยะเวลาที่แตกต่างกันไปตามทัศนะและบุคลิกภาพของเราทั้งหลาย เวลาจึงไม่ใช่ปัจจัยที่เป็นรากฐานของความรักอย่างที่เราเข้าใจกัน และบางคนก็เข้าใจว่า ความใกล้ชิด หรือระยะทางเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้ความรักเบ่งบาน แต่เราก็พบเห็นได้เสมอๆว่า
    คำกล่าวที่ว่า ไกลตัว-ไกลใจ ก็ไม่จริงเสมอไป แม้ความรักที่เรามีให้กับคนรักคนใกล้ตัวที่ตายจากไปนานปี ก็ไม่เคยจืดจางเพราะช่องว่างและกาลเวลา บ่อยครั้งความรักที่มีให้กับผู้ที่ตายไปอาจท่วมท้นหรือปริ่มยิ่งกว่าเดิม ด้วยซ้ำไป


    ความรักที่แท้จริง จึงอยู่เหนือช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา
    ดังนั้นความรักที่แท้จริง จึงเป็นไปได้โดยปราศจากการแสดงออกทางกายภาพ
    แต่สัมผัสได้ด้วยกระแสจิต หรือด้วยจิตวิญญาสัมผัสโดยตรง
    เราทั้งหลายเพียงแต่จะต้องเรียนรู้ที่จะมีสติสัมปชัญญะอันคมชัด พอที่จะมองเห็นความอ่อนไหวในตนเอง เพื่อที่จะทำให้เราสามารถสัมผัสรู้โดยตรงด้วยจิตวิญญาณ ถึงความรักที่เรามีให้ผู้อื่น และผู้อื่นมีให้เราเสมอๆ

    ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้สิ่งที่เราไม่เคยมี เพราะจิตวิญญาณสัมผัสเป็นธรรมชาติที่อยู่กับเรา-เป็นเรา-คือเรา ตลอดวันเวลา เป็นประสาทสัมผัสภายในที่ทำให้เรารู้เห็นสิ่งต่างๆอย่างแท้จริง ก่อนที่จะแปลงสัญญาณเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้เห็นได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า อีกทีหนึ่ง แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะมีสติสัมปชัญญะที่คมชัด เพื่อรู้เห็นส่ิงที่ปรากฏและสัมผัสได้ตลอดวันเวลา

    หากเรารู้สึกได้ถึงความรัก
    แม้ดวงตาของเราจะมองไม่เห็นการแสดงออกซึ่งความรัก ด้วยการกระทำ
    แม้หูของเราจะไม่ได้ยินคำกล่าวที่แสดงออกซึ่งความรัก
    แม้จมูกของเราจะไม่ได้กลิ่นอันหอมหวลของดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก
    แม้ลิ้นของเราจะไม่ได้รับรสอันหอมหวานของของหวานที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก
    แม้ร่างกายของเราจะไม่ได้รับสัมผัสที่แสดงออกซึ่งความรัก
    แต่หากใจของเราสัมผัสได้ถึงความรักที่ส่งกระแสมาจากจิตวิญญาณของใครสักคน

    เราควรจะเชื่อถือในกระแสที่สัมผัสไม่ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
    เพราะมันเป็นความรักที่มาจากต้นกำเนิดอันล้ำลึก
    ปราศจากการแปลงเป็นสัญลักษณ์ ปราศจากการปรุงแต่งและบิดเบือนทั้งปวง

    จิตวิญญาณทั้งหลายล้วนมาถือกำเนิดเพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ และเรียนรู้คุณค่าของชีวิต

    ประสบการณ์และคุณค่าชีวิตที่เราทั้งหลายเกี่ยวพันดำเนินไปหลากทิศทาง
    แต่ไม่ว่ามันจะดำเนินไปในทิศทางใด ไม่ว่าเราจะทำงาน ทำหน้าที่ หรืออยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม
    ปัจจัยหลักที่ทำให้หน้าที่การงานและตำแหน่งของเราก้าวไกล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของเราเท่านั้น หากแต่ขึ้นอยู่กับความรักที่เรามีให้ผู้อื่น และที่ผู้อื่นมีให้เราโดยแท้

    หากผู้บังคับบัญชาไม่รักเรา เราก็ก้าวหน้าไม่ได้
    หากเราไม่รักลูกน้อง ลูกน้องก็ก้าวหน้าไม่ได้
    หากเราไม่รักคู่ชีวิตของเรา ชีวิตสมรสก็ประสพความสำเร็จไม่ได้
    หากเราไม่รักเพื่อนร่วมงาน งานก็สำเร็จไม่ได้


    ไม่ว่าเราจะพรั่งพร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ หรือทรัพย์สินเงินทอง ลาภยศ สรรเสริญใดๆ ความพรั่งพร้อมเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ด้วยความรักเป็นปัจจัยแรก
    และจะยั่งยืนต่อไปได้นานเท่านานก็ด้วยความรักเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยง

    หากปราศจากความรักเมื่อใด ความพรั่งพร้อมทั้งหลายจะหมดความหมายไปโดยปริยาย
    และกลายเป็นความขาดแคลนที่ไม่อาจเติมเต็มได้ด้วยวิธีการใดๆ นอกจากการเติมเต็มด้วยความรัก


    ไมว่าพวกเราแต่ละคนจะดำเนินชีวิตด้วยอาชีพใด มีตำแหน่งหน้าที่การงานใดๆ
    พี่นักเขียนหวังว่า เราจะตระหนักได้เสมอๆว่า ความรักคือปัจจัยหลักของความก้าวหน้า การบรรลุความสำเร็จส่วนตนและส่วนรวมเสมอ เพราะความรักจะเป็นปัจจัยก่อให้เกิดความสามัคคี การร่วมแรงร่วมใจ การให้อภัย การเสียสละ การสนับสนุน การช่วยเหลือเกื้อกูลทั้งปวง

    เรามักจะเชื่อในทางกลับกันว่า หากเราได้รับความสามัคคี การร่วมแรงร่วมใจ การให้อภัย การเสียสละ การสนับสนุน การช่วยเหลือเกื้อกูลจากผู้อื่นก่อน ความรักจึงจะเกิดขึ้นตามมา หรือเราจึงจะสามารถรักผู้ที่ให้สิ่งเหล่านี้แก่เราได้

    คนจำนวนไม่น้อยจึงมักผิดหวังกับความรัก เพราะเราเชื่อว่า ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังปัจจัยอื่นๆ บางคนอาจคอยชั่วชีวิตที่จะพบกับรักแท้

    หากเราตระหนักได้ในธรรมชาติความเป็นจริงที่ว่า แก่นแท้ของเราทั้งหลายคือจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไข เราจะตระหนักต่อไปว่า ความรักเป็นปัจจัยที่เป็นเนื้อแท้ของเราทุกคน และเป็นปัจจัยที่ดึงดูดทุกสิ่งที่พีงปรารถนามาสู่ชีวิตของเรา

    เราเริ่มต้นดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เราปรารถนามาสู่ชีวิตได้ด้วยการรักในสิ่งนั้น
    ยกตัวอย่างเช่น หากเราปรารถนาคนรักที่มีให้แต่รักแท้ เทิดทูนและซื่อตรงต่อเรา
    เราจะต้องรัก-ความรักอันปราศจากเงื่อนไข รักการเทิดทูน รักความซื่อตรง
    ไม่ใช่เกลียดข้อแม้ เกลียดการเหยียดหยาม หรือเกลียดความไม่ซื่อ

    แม้เรารักสิ่งหนึ่ง เราก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดสิ่งที่ตรงกันข้าม
    เราเพียงแต่รู้เห็นความแตกต่างของมัน
    และนำความรู้นั้นๆมาเทิดทูนในสิ่งที่ตรงกันข้าม ซึ่งเรารักให้ยิ่งขึ้นไปอีก


    ความรัก เป็นพรอันประเสริฐที่จิตวิญญาณทั้งหลายได้รับมอบมา
    เพราะความรักจะดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารักเข้ามาสู่ประสบการณ์ชีวิตของเรา-โดยปราศจากข้อยกเว้น

    คำกล่าวที่ว่า-เกลียดสิ่งใดได้สิ่งนั้น เป็นความจริง
    แต่ความจริงที่น่ารื่นรมย์ยิ่งไปกว่านั้น ที่เรากลับกลัวว่าจะไม่จริงคือ-รักสิ่งใดได้สิ่งนั้น


    พี่นักเขียนขอให้พวกเราสำรวจตนเองเสมอๆว่า เราได้ใช้สติสัมปชัญญะอันคมชัด สัมผัสรู้ถึงรักแท้ในทิศทางต่างๆแล้วหรือยัง หรือตัดสินสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตด้วยประสบการณ์ทางกายภาพอันผิวเผิน

    เราทุกคนค้นหาความรักในหัวใจของเราได้ไม่ยาก หากเราพบว่าเรามีความรักเมล็ดน้อยๆที่กำลังเริ่มงอกงามให้ใครสักคน เราควรจะตระหนักด้วยว่า ความรักของเขาที่ส่งมาให้เรา เป็นเสมือนหยาดน้ำค้างเล็กๆที่ทำให้ความรักงอกงามเสมอ

    ไม่มีรักใดที่งอกงามอย่างโดดเดี่ยว ดังคำกล่าวที่ว่า รักเขาข้างเดียว
    การรักเขาข้างเดียว ไม่ใช่ความรัก
    แต่เป็นการหลงข้างเดียว

    ความรักเป็นปัจจัยสองทาง ที่เราทุกคนสัมผัสรู้ได้ด้วยการมีสติสัมปชัญญะอันคมชัด
    หากปราศจากสติสัมปชัญญะอันคมชัด
    เราอาจตีความหมาย ความหลง เป็นความรัก
    เราอาจตีความหมาย ความสงสาร เป็นความรัก
    เราอาจตีความหมาย ความศรัทธา เป็นความรัก


    ความรักที่แท้จริงย่อมเปลือยเปล่า
    ปราศจากข้อแม้ ปราศจากเงื่อนไขทั้งปวง

    ความรักอันปราศจากเงื่อนไขย่อมให้ผู้ที่รักแต่ความสุข และให้ผู้ได้รับแต่ความสุข เพราะมันเป็นความรักที่ปราศจากการคาดหวังการตอบแทนทั้งปวง

    หากวันนี้เรายังขาดความสุข
    ส่งกระแสแห่งความรักให้ใครสักคนด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไข เราจะสัมผัสรักที่สะท้อนกลับมาได้อย่างฉับพลัน

    รักทุกคนค่ะ [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2009
  15. Mila

    Mila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184


    แม้เรารักสิ่งหนึ่ง เราก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดสิ่งที่ตรงกันข้าม
    เราเพียงแต่รู้เห็นความแตกต่างของมัน
    และนำความรู้นั้นๆมาเทิดทูนในสิ่งที่ตรงกันข้าม ซึ่งเรารักให้ยิ่งขึ้นไปอีก

    ความรัก เป็นพรอันประเสริฐที่จิตวิญญาณทั้งหลายได้รับมอบมา
    เพราะความรักจะดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารักเข้ามาสู่ประสบการณ์ชีวิตของเรา-โดยปราศจากข้อยกเว้น



    อ่านหลายรอบเลยค่ะ ชอบมากๆ
    ขอบคุณนะคะ
    :-D
     
  16. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    เป็นบทความที่น่าประทับใจมากๆครับ ;aa44
    อ่านแล้ว อยากวาดภาพประกอบจัง
    มีคิดอยู่ในหัวเยอะแยะ แต่ยังขาดฝีมือในการวาดออกมา ให้เหมือนที่คิดไว้ อิอิ.
    แต่จะพยายามครับ
    ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่ มาช่วยกันสร้างสรรค์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน เพลง รูป ภาพเขียน รับเทศกาลวาเลนไทน์กันครับ
    ขอชะแว่ป ไปขีดๆเขียนๆก่อนครับ rabbit_run_away
     
  17. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    อ่านบทความพี่นักเขียนแล้วโดนใจ เพราะกำลังจะคิดถามคุณพอดีเกี่ยวกับวิธีกระตุ้นจักระที่ 4 ซึ่งเกี่ยวกับความรัก ยังไม่ทันได้ถาม คุณก็อธิบายมาซะแล้ว เลยโดนใจพอดี
    ffice:eek:ffice" /><O:p> </O:p>
    คิดถึงความรักซึ่งสามารถส่งได้ทางกระแสจิต ในจินตภาพจินต์ว่าจินต์เห็น ภาพกล่องของขวัญเยอะแยะ ข้างใต้มีเนื้อเพลงของขวัญจากฟากฟ้าของน้องลูกเกด ในความรู้สึกแล้วจินต์ทราบว่ามันไม่ใช่ภาพแสดงภายในภาวะจิตของตนเอง แต่มันเป็นความรู้สึกผ่านจากใครบางคนมาสู่ตัวเรา และ ตัวตนภายในเราใช้สัญลักษณ์คลุมทับไว้เพื่อให้ตัวตนภายนอกเข้าใจถึงความรู้สึกนั้น

    ขอบคุณมากค่ะ<O:p></O:p>
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอบคุณครับพี่นักเขียน
    ความรักนอกจากจะเกิดขึ้นระหว่างคนกับคนแล้ว ยังจะเกิดขึ้นได้กับสิ่งต่างๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นงาน หรือสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบพระคุณค่ะ พี่นักเขียน
    อ่านแล้ว ชื่นใจจัง เหมือนสัมผัสถึง กระแสความอ่อนโยน ที่พี่นักเขียนมีให้พวกเรา
    นี่กระมังค่ะ ที่เรียกว่า ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ที่พี่นักเขียน มอบให้พวกเรา

    kindred ก็ รักพี่นักเขียน เช่นกันค่ะ...
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ความรักของพี่นักเขียนฯส่องสว่างถึงพวกเราทุกคนเลยครับ
    นี่ก็ใกล้วันแห่งความรักแล้ว แม้จะเป็นวันที่สมมุติขึ้นให้หลายๆคนนึกถึงก็ตาม
    ความรักนั้นก็เป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณ หากไม่มีความรักโลกและจักรวาลนี้คงไม่เกิดขึ้น
    ขอส่งความรักให้เพื่อนๆทุกคนในห้องวิทย์ฯ และเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน
    ทั้งเขากะลา ยูเรอัส พลังจิตพิชิตภัยฯ และสมาชิกทุกๆคนในเวปพลังจิตด้วยครับ

    ความรักที่ไม่ครอบครอง+มีแต่ให้+ปราศจากเงื่อนใข
    จากการมีสติปัญญารู้เท่าทันเสมอ
    จะช่วยให้จิตวิญญาณงอกงามในทุกๆมิติ-ทุกๆองศาครับ

    ขอบคุณ พี่นักเขียนฯ ที่นำความรักและความรู้ มาให้พวกเราอย่างสม่ำเสมอด้วยครั
    พี่เป็น idol ที่รักของพวกเราทุกคนไปตลอดกาลเลยครับ

    ขอบคุณ คุณเดรด ที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งที่ปรึกษาที่น่ารัก และยังทำให้เพื่อนมีเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา

    ขอบคุณ คุณเซลล์ ที่แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆที่มีประโยชน์กับเพื่อนๆมาโดยตลอด (ช่วงหลังก็ฮาไม่แพ้กัน)

    ขอบคุณ คุณซิปฯ ที่นำสาระประโยชน์ รวมทั้งมุมมองที่น่าสนใจและความคิดแบบนักวิทยาศาสตร์มาแบ่งปันด้วย

    ขอบคุณ ลูกเกด ที่จุดประกายสร้างแรงบัลดาลใจให้เพื่อนๆได้มากมาย
    และนำพรสวรรค์มาแบ่งปันให้พวกเราทำให้อดทึ่งไม่ได้ทุกครั้งในความสามารถของน้องเค้า

    ขอบคุณคุณ Fleurdelis ศิลปินนักดนตรีอีกท่านนึง
    ที่เพิ่งได้เจอกันเมื่อวานนี้พอดี
    ขอนำผลงานเพลงที่น้องเค้าทำไว้เอง (คนเดียว) มาฝากเพื่อนๆด้วยเลยครับ
    www.myspace.com/dryseasononmars


    ขอบคุณคุณจินตวดี คุณขจรวรรณ พี่ประสงค์ คุณเวกกี้กาย คุณธรรมจิตต์ คุณสงบ
    และเพื่อนทุกคนที่ใส่ใจ และติดตามพร้อมทั้งนำประสบการณ์มาแบ่งกันตลอดเช่นกันครับ
    รวมทั้งทุกท่านที่เข้ามาอ่านตรงนี้ก็รักทุกคนเช่นกันนะครับ
    ไหนๆแล้ววันนี้ก็บอกรักกันซะเลยครับ อิอิ


    เรื่องวาดภาพ ถ่ายภาพ แต่งเพลง บทกลอน ก็ยังส่งกันเข้าได้เรื่อยๆนะครับ
    แต่งเพลงนี่ไม่ถนัดที่สุดเลย..แต่จะลองทำดูชวนเพื่อนๆมาลองดูด้วย
    จะได้เห็นว่าสิ่งที่เราคิดว่าไม่เคยทำ หรือ ทำไม่ได้นั้น บางที่เพราะว่าไม่ได้เริ่มทำรึเปล่า ?

    ;aa44
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2009

แชร์หน้านี้

Loading...