เจ้าอาวาสวัดสามแยกพร้อมยืนยันจะอยู่วัดต่อไป

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย slamb, 4 สิงหาคม 2008.

  1. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    <TABLE id=Table_01 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=285 border=0><TBODY><TR><TD class=white align=left width=210 background=../images/header/sb_rd_bg.gif></TD><TD width=59></TD></TR><TR><TD colSpan=3>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=normal style="TABLE-LAYOUT: fixed; WORD-WRAP: break-word" cellSpacing=1 cellPadding=1 width=280 border=0><TBODY><TR><TD class=normal_blue vAlign=top align=left>เจ้าอาวาสวัดสามแยกพร้อมยืนยันจะอยู่วัดต่อไป [​IMG]
    [​IMG]


    </TD></TR><TR><TD class=normal vAlign=top align=left>พระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าอาวาสวัดสามแยก อำเภอน้ำหนาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ ได้หารือกับพระลูกวัด และญาติโยม กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงมีมติว่าจะทำหนังสือคัดค้านคำสั่งของคณะสงฆ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ให้พระภิกษุทั้งหมดออกจากวัดสามแยก ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2551 และหากมีการส่งบุคคลใดเข้ามาตรวจสอบ ก็จะมอบหนังสือคัดค้านให้ และจะอยู่วัดต่อไปพร้อมกับแสดงธรรมสั่งสอนประชาชนตามพระไตรปิฎก เพราะมติของคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่สำคัญเท่ากับมติของพระพุทธเจ้า ถ้าคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองทำตามพุทธบัญญัติถูกต้อง ก็ยินดีปฏิบัติตาม

    ส่วนองค์พระพุทธชินราชจำลอง ที่กลุ่มคนพิษณุโลก อัญเชิญกลับไปประดิษฐานที่สนามกีฬาแห่งชาติ จังหวัดพิษณุโลก วันพรุ่งนี้ อบจ.พิษณุโลก จะอัญเชิญขึ้นรถแห่รอบเมือง เพื่อให้ชาวพิษณุโลก ที่เคยสะเทือนใจได้กราบไหว้สักการะบูชา

    พระธรรมกิตติเมธี โฆษกและกรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะสงฆ์ จะหารือกัน เพื่อเตรียมชี้แจงกับชาวพุทธ ให้เกิดความกระจ่าง เพราะ พระพุทธรูป เป็นเสมือนตัวแทนพระพุทธเจ้า

    การกล่าวติเตียน พระพุทธรูป และ พระพุทธเจ้า เป็นการกระทำของคนไม่มีศีล ถือว่า พระเกษม ได้ประพฤติเสื่อมเสียวงการคณะสงฆ์ เบื้องต้น ได้ลงโทษ ขับไล่พ้นจากจังหวัดเพชรบูรณ์ และ ดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามวินัยสงฆ์ ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง มีเจตนา ทำลายศรัทธาของชาวพุทธ

    (เสียง..... พระธรรมกิตติเมธี,โฆษกและกรรมการมหาเถรสมาคม )


    </TD></TR><TR><TD class=small_number vAlign=top align=right>03-08-2551 | 17:30 น. </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <IFRAME src="http://www.ch7.com/news/sbnews.aspx?NwType=02&SbType=04&SeqNo=23392" width="100%" height=600></IFRAME>


    http://www.ch7.com/news/sbnews.aspx?NwType=02&SbType=04&SeqNo=23392
     
  2. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ให้พระท่านว่ากันไปตามเรื่องของสงฆ์ท่าน

    ส่วนตัวเรา
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ให้เหนียวแน่น ไม่คลอนแคลน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pic_top5.gif
      pic_top5.gif
      ขนาดไฟล์:
      30 KB
      เปิดดู:
      1,783
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อนุโมทนา สาธุ....ถูกต้องครับ กล่าวได้ดีแล้วชอบแล้ว

    ท่านยังมิได้ ปาราชิก ไปปรามาสท่านจะไม่เป็นมงคลกับตัว
     
  4. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  5. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ทำดีดีส่งให้เห็นผล

    ทำชั่วชั่วก็ดลชั่วให้

    ชั่วดีดุจตราตรึงตีบอกไว้นา

    ใครชั่วใครดีไซร้ สืบได้ด้วยกรรม ฯ
     
  6. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    และก็ขอเรียนเชิญ ผู้เคารพ พ่อในธรรม และผู้ต้องการปกป้องพระศาสนา ทุกๆท่านครับ


    ยินดีครับ.........

    [​IMG] จัดเดินทางไป "วัดสามแยก"


    ทริปนี้ตาามคำเรียกร้อง (คุณขอมา)นะค่ะ [​IMG] ท่านที่โทรมาสอบถามทีมงานจนท.แวป และผู้ที่กำลังคิดไปต่างๆนานาว่า อะไร คือความจริงที่เกิดขึ้นตามสื่อต่างๆ เรื่องราวความเป็นจริงคืออะไร ... หลวงปู่เกษมทำไมถึงต้องทำแบบนั้น ด้วยเหตุผลอะไร ? ... ท่านที่ยังสงสัย และยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า สิ่งที่พระวัดสามแยกตอบคำถามบนแวปกล่าวอ้างพุทธพจน์ต่างๆ( คำสอนของพุทธองค์ ) เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามสื่อต่างๆนั้น มันใช่หรือป่าว

    ก็ขอเรียนเชิญพิสูจน์ค้นหาความจริง ทวนกระแสความเชื่อต่างๆของสังคมที่ยังหลง ... [​IMG] ด้วยพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ โดยหลวงปู่เกษม อาจิณฺณสีโล ด้วยกันนะค่ะ ... แจ้งความประสงค์ก่อน วันที่12 สค. 2551 นี้นะค่ะ [​IMG]


    วันเดินทาง วันเสาร์ 16 - อาทิตย์ 17 สิงหาคม 2551
    ค่าใช้จ่ายเดินทาง 1,300 บาท (รวมอาหารกลางวันและวันเดินทางกลับ ค่ะ )

    แจ้งความประสงค์ได้ที่ :-

    1 - ในกระทู้นี้เลย (แจ้งเบอร์โทรกลับด้วยนะค่ะ)
    2 - คุณ หนิง 081-8423610
    3 - คุณ โอ๋ 081-6331567

    เราจะออกเดินทางประมาณ 7.45น.วันเสาร์ ที่ 16 สค.2551 ซอยข้างโรงเรียนหอวัง (เซ็นทรัลลาดพร้าว ) นะค่ะ ...เดินทางกลับวันอาทิตย์ที่ 17สค..2551 หลังจากถวายอาหารเช้าแล้วก็ประมาณ 10 -11โมงเช้าค่ะ ... เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ราวๆ 2-3 ทุ่ม ค่ะ

    สำหรับท่านที่ประสงค์จะไปกับคณะเรา แต่ขาดปัจจัย และมีปัญหาส่วนตัวหรือข้อธรรมที่สงสัยจริงๆ อยากกราบเรียนถามข้อธรรมที่ยังติดขัด ก็สามารถแจ้งความประสงค์เข้ามาได้ค่ะ เรามีกองทุนสนับสนุนส่วนนี้อยู่ ( ถึงแม้มันจะไม่มาก ) แต่ทางคณะทีมงานแวป ยินดีที่จะช่วยแบ่งเบาปัญหาจากท่านค่ะ โดยแจ้งความประสงค์มาได้ที่ >> หนิง 081-8423610 หรือ โอ๋ 081-6331567 ก็ได้ค่ะ

    ก้อเรียนเชิญไปพิสูจน์ในข้อธรรมกัน ดีกว่าโทรมาสอบถามทีมงาน ....เมื่อวานก้อมีคนโทรมาก้อได้คุยกะระดับมีองค์พรหมรักษา ( เห็นเค้าว่ายังงั้นนะค่ะ ) แต่เป็นพรหมที่แปลก ไม่รู้พรหมไทปิง หรือป่าว แช่งด่าทอทีมงานกะหลวงปู่ซะจนหู อื้อเลย [​IMG] ... ไม่ประสงค์จะไปกับคณะเรา ก้อขับรถตามกันมาได้ค่ะ หรือจะนัดเจอ
    กันระหว่าทางแล้วตามๆ กันไปก้อได้ค่ะ ยินดีค่ะ [​IMG]




    (ทางทีมงานจะจัดเตรียมอาหารไว้ให้พวกเราร่วมทำและถวายพระพร้อมๆกัน ค่ะ...ท่านใดจะนำไปเพิ่มเติมอีกก็ได้ค่ะ)

    <!-- / message -->
     
  7. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    <TABLE class=tborder id=post1403091 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 09:23 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>JeTo2008<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1403091", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: เมื่อวานนี้ 10:26 PM
    วันที่สมัคร: Mar 2008
    ข้อความ: 48
    ได้ให้อนุโมทนา: 214
    ได้รับอนุโมทนา 855 ครั้ง ใน 42 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1403091 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] เปิดนรกขุมผู้ทำลายพระพุทธรูป
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE class=tborder id=post1403068 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1403068 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">หลังจากที่ได้บอกกล่าวเรื่องคุณแห่งพระพุทธรูปไปแล้วผมจึงคิดว่าน่าที่จะไปค้นหาโทษที่กระทำต่อพระพุทธรูปมาบอกมาเล่าให้ผู้อ่านทั้งหลายได้ประจักษ์กันว่าการกระทำในทางไม่ดีต่อพระพุทธรูปที่เปรียบเสมือนองค์แทนของพระพุทธเจ้านั้นจะมีโทษอย่างไร วันนี้ ( 3 ส.ค. 2551 ) เวลา 17.00 น.เลยตัดสินใจลงไปพบท่านพ่อยมบาลขอให้เปิดนรกขุมของผู้ที่กระทำการบาปหยาบช้าต่อพระพุทธรูป ให้ดู ท่านพ่อยมบาลถามว่า “จะดูไปทำไม”ผมตอบท่านไปว่า ตอนนี้ที่ในโลกมนุษย์กำลังมีผู้ทำลายพระพุทธรูปและชักนำให้คนอื่นทำลายไปด้วย ผมเกรงว่าจะเกิดความสับสนต่อพุทธศาสนิกชนที่ประพฤติดีงามอยู่ ผมจำเป็นต้องลงมา” ท่านพ่อบอกว่าความจริงท่านไม่อยากจะเปิดแต่ด้วยเหตุผลที่ผมบอกท่านเกี่ยวกับพุทธศาสนิกชนที่ดียังมีอยู่และเพื่อศรัทธาที่จะไม่เสื่อมท่านจึงยอมเปิดและพาผมไปดูนรกขุมนั้น นรกขุมนั้นมีชื่อว่า “พุทธรูปัง หิงสิ” แปลว่า “ทำลายพระพุทธรูป” ก็เป็นขุมนรกของผู้ทำลายพระพุทธรูปนั่นเอง นรกขุมนี้นั้นอยู่ลึกและไกลออกไปจากห้องโถงที่ใช้ตัดสินโทษพวกสัตว์หรือหรือดวงจิตของผู้ที่ตายไปแล้วมาก ท่านพ่อยมบาลได้พาเดินเท้าไปที่นรกขุมนั้นตลอดสองข้างทางได้เห็นสัตว์นรกถูกทรมานในลักษณะต่างๆตามโทษของตน เสียงร้องโหยหวนของสัตว์นรกระงมไปทั่วพอเดินไปใกล้จะถึงท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า “นรกขุมนี้ไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ส่วนใหญ่แล้วนานๆจะมีสัตว์นรกมาเกิดที่นี่ทีเพราะไม่ค่อยมีผู่ทำลายเท่าไหร่ ที่มีอยู่ก็เป็นพวกสัตว์นรกเก่าๆที่ยังรับโทษอยู่ โดยเฉพาะสัตว์นรกรุ่นที่ทำลายเผาวัดและพระพุทธรูปในสมัยตอนปลายอยุธยายังอยู่อีกเยอะเลย ตั้งแต่นั้นก็นานๆมาทีล่าสุดก็พวกที่ทำลายพระพุทธรูปแกะสลักที่อัฟกานิสถานนั่นไงแต่ยังมาไม่หมดกำลังทยอยมา และคงจะได้รองรับพวกที่กำลังกระทำต่อพระพุทธรูปอยู่ในเวลานี้ไม่เว้นแม้ว่าจะเป็นพระภิกษุหรือฆราวาสที่กล่าวอ้างตนว่าพ้นโลกแล้วก็ตาม เอาหล่ะถึงแล้วเราเข้าไปดูกันเถอะ” เมื่อประตูนรกขุมนั้นถูกเปิดออกก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังระงมมาก่อน
    ภาพแรกที่เห็นเป็นภาพของสัตว์นรกนั้นถูกจับแขนขาตรึงไว้กับพื้น จากนั้นก็มีท่อนซุงขนาดใหญ่ จากที่สูงตกลงมากระแทกทั้งตัวของสัตว์นรกนั้น ร่างกายของมันแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง สักพักหนึ่งประมาณ 5-10 วินาที สัตว์นรกตัวนั้นก็ฟื้นขึ้นมาอยู่ในอาการหวาดกลัวและเจ็บปวดส่งเสียงหวีดร้องเพราะเห็นท่อนซุงใหญ่นั้นกำลังจะตกลงมากระแทกที่ร่างของตนอีก เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า
    ไอ้อีผู้ใดได้ทุบทำลายพระพุทธรูปหรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำ มันผู้นั้นก็จักถูกทุบทำลายให้แหลกละเอียดไปดุจเดียวกันนี้ตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 40,000 ปี นรก “เดินผ่านเข้าไปอีก
    ภาพที่สองที่ได้เห็นเป็นภาพของสัตว์นรกนั้นถูกนายนิริยะบาลจับแขนทั้งสองข้างไว้และอีกคนจับศีรษะตรึงไว้ ตามลำตัวนั้นมีหอกทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา ทุกส่วนของร่ายกาย แล้วนายนิริยะบาลอีกคนหนึ่งถือกระบองที่เต็มไปด้วยหนามเดินเข้ามาจับสัตว์นรกนั้นอ้าปากแล้วเอากระบองหนามนั้นกระแทกลงไปที่ปากของสัตว์นรกนั้นขณะที่กระบองอยู่ในปากของสัตว์นรกนั้นนายนิริยะบาลนั้นก็หมุนกระบองไปด้วยบดขยี้ปากของสัตว์นรกนั้นจนเหวอะหวะแหลกเหลวสุดที่สัตว์นรกนั้นจะทนทานได้ขาดใจตายด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส หลังจากตายแล้วประมาณ 5-10 วินาที สัตว์นรกนั้นก็ฟื้นขึ้นมาแล้วก็ถูกกระทำอย่างเดิมซ้ำอยู่อย่างนั้น ท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า ไอ้อีผู้ใดด่าทอกล่าววาจาลบหลู่ในพระพุทธรูป แล้วยังชวนให้คนอื่นกระทำเยี่ยงตัวหรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำ เมื่อมันผู้นั้นตายไปก็จักได้รับโทษเยี่ยงนี้ตลอดเวลาอย่างน้อย 40,000 ปีนรก”เดินต่อไปข้างหน้า
    ภาพที่สามได้เห็นภาพข้างหน้าเป็นกองไฟนรกขนาดใหญ่ซึ่งมีความร้อนมากกว่าไฟในโลกมนุษย์ถึง 10,000 เท่า ( แต่ไม่มีความร้อนเลยสำหรับคนดีที่มีจิตใจอันบริสุทธิ์ ) นายนิริยะบาล 4 ตน ได้อุ้มสัตว์นรกตัวหนึ่งมาโยนลงไปในกองไฟนั้น สัตว์นรกนั้นเมื่อตกลงไปในกองไฟก็ร้องโหยหวลดิ้นทุรนทุรายเพราะอำนาจจากความร้อนของไฟนรกนั้น และพยายามจะวิ่งออกจากกองไฟ แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปทางใดที่ตรงนั้นก็จะเกิดกองไฟขึ้นเผาผลาญสัตว์นรกนั้นจนไหม้เกรียมในที่สุดกลายเป็นผงธุลีไปในพริบตา ภาพที่เห็นจากสัตว์นรกที่มีเลือดเนื้อและถูกเผาจนเห็นกระดูกจนแห้งจนเป็นผงธุลีน่าสยดสยอง ท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า ไอ้อีผู้ใดได้เผาทำลายพระพุทธรูป หรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำเมื่อมันผู้นั้นตายไปก็จักได้รับโทษเยี่ยงนี้ เป็นเวลา อย่างน้อยถึง 40,000 ปี นรก” แล้วเราก็เดินเข้าปอีกffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    ภาพที่เห็นเบื้องหน้า สัตว์นรกตัวหนึ่งกำลังถูกเอามีดกรีดที่ผิวหนังแล้วลอกออกทีละชิ้นทีละชิ้น จนกระทั่งหมดทั้งตัว เหลือแต่เนื้อกับกระดูก แต่ส่วนใหญ่ขาดใจตายก่อนที่ถูกลอกหนังจนหมดตัวด้วยความเจ็บปวด หลังจากสิ้นใจตายไปแล้ว อีกประมาณ 5-10 วินาที สัตว์นรกตัวนั้นก็จะฟื้นขึ้นมาถูกกระทำในลักษณะเดิมอีกย่างนี้ตลอดระยะเวลาที่ต้องโทษ ท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า ไอ้อีผู้ใดได้ขูดลอกทองที่ผิวองค์พระพุทธรูปด้วยความละโมภในทองนั้นหรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำเมื่อมันผู้นั้นตายไปก็จักได้รับโทษเยี่ยงนี้ เป็นเวลา อย่างน้อยถึง 40,000 ปีนรก”แล้วเราก็เดินกันเข้าไปอีก<O:p></O:p>
    ภาพที่เห็นต่อมาก็คือ สัตว์นรกตัวหนึ่งถูกถูกจับนั่งแล้วผูกมือเท้าไว้กับหลักประหารโดยไม่มีผ้าผูกตาเหมือนในโลกมนุษย์ สัตว์นรกนั้นอยู่ในอาการหวาดกลัวตลอดเวลานายนิริยะบาลนายหนึ่งตัวใหญ่มากถือดาบที่คมมากดาบนั้นใหญ่และหนักมาก คนธรรมดาอย่างเราต้องช่วยกันอย่างน้อย 10 คน ก็อาจจะยังยกไม่ขึ้นก็ได้ ยืนอยู่ข้างหลังสัตว์นรกตัวนั้น แล้วฟันดาบนั้นลงมาที่คอสัตว์นรกนั้นอย่างแรงเสียงดังมาก แต่แปลกที่คอของสัตว์นั้นไม่ได้ขาดกระเด็นกลับห้อยต่องแต่งเพราะเนื้อหนังยังไม่ขาดจากกันทั้งหมด สัตว์นั้นคงเจ็บปวดทรมานมากจะร้องก็ไม่ได้แล้วเจ็บปวดอยู่อย่างนั้นจนขาดใจตายไป ผมสงสัยจึงได้ถามท่านพ่อยมบาลไปว่า “ท่านพ่อครับทำไมจึงไมตัดให้ขาดไปทีเดียวกลับตับให้เหลือติดห้อยต่องแต่งอย่างนั้น” ท่านตอบมาว่า”ลูกเอยไอ้สัตว์นรกพวกนี้มันต้องได้รับความเจ็บปวดให้มากๆจึงจะหราบจำ ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อให้มันเจ็บปวดที่สุดจะได้เกรงกกลัวและไม่ทำชั่วอีก” แล้วท่านก็พูดต่อว่า ไอ้อีผู้ใดที่มันชอบตัดเศียรพระตัดแขนพระตัดมือพระพุทธรูปเพื่อการค้าหรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำเมื่อมันผู้นั้นตายไปก็จักได้รับโทษเยี่ยงนี้ เป็นเวลา อย่างน้อยถึง 40,000 ปีนรก” แล้วเราก็เดินต่อเข้าไปอีก
    ภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นสยดสยองกว่าที่เห็นมาแต่ต้นเป็นภาพที่สัตว์นรกนั้นดิ้นทุรนทุรายเพราะถูกน้ำกรดมีมีฤทธิ์กัดรุนแรงกว่าในโลกมนุษย์นี้เป็น 10,000 เท่า นายนิริยะบาลหลายนายช่วยกันตักน้ำกรดนั้นที่ละกระบวยราดลงไปที่สัตว์นรกนั้น ผิวหนังของสัตว์นรกนั้นเมื่อโดนน้ำกรดกัดก็เกิดเป็นแผลเหวอะหวะเลือดไหลนองไปทั่วร่างกาย กระบวยแล้วกระบวยเล่า ถูกน้ำกรดกัดจดถึงกระดูกน้ำกรดนั้นกัดจนกระดูกละลายในทันที สัตว์นั้นไม่อาจทนความเจ็บปวดได้ก็ขาดใจตายไป อีกประมาณ 5-10 วินาทีต่อมา สัตว์นั้นก็ฟ้นขึ้นมาแล้วก็ถูกกระทำอย่างเดิมซ้ำอยู่อย่างนั้น ท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า ไอ้อีผู้ใดได้ใช้น้ำกรดราดพระพุทธรูปโดยมีเจตนาที่จะทำลายพระพุทธรูปนั้นให้พินาศลงหรือกระทำเพื่อลบหลู่หรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำเมื่อมันผู้นั้นตายไปก็จักได้รับโทษเยี่ยงนี้ เป็นเวลา อย่างน้อยถึง 40,000 ปีนรก”แล้วเราก็เดินต่อเข้าไปอีก<O:p></O:p>
    ภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็คือสัตว์นรกนั้นถูกจับมัดมือมัดเท้าให้นอนราบกับพื้นแล้วนายนิริยะบาลก็พาฝูงสัตว์นรกอื่นเป็นสัตว์ประเภทต่างๆที่เลี้ยงไว้ใช้ลงโทษ มีสุนัขเป็นต้น มาเหยียบย่ำสัตว์นั้นฝูงหนึ่งๆมีจำนวนเป็นร้อยบ้าง เป็นพันบ้าง ฝูงแล้วฝูงเล่า สัตว์แต่ละตัวนั้นใหญ่มากเล็กสุดประมาณเท่าควายบนโลกมนุษย์ เดนเหยียบไปบนร่างของสัตว์นรกนั้นทีละตัวที่ละตัวจนกว่าสัตว์นรกที่ถูกเหยียบนั้นจะตาย ทั้งกระอักเลือด ทั้งไส้แตกกระจายออกมา ทั้งกระดูกหักไปทั้งตัว ร้องโหยหวนจนขาดใจตาย จากนั้นอีกประมาณ 5-10 วินาทีสัตว์นรกนั้นก็ฟื้นขึ้นมาแล้วถูกกระทำอย่างเดิมนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดกรรม ท่านพ่อยมบาลพูดขึ้นว่า ไอ้อีผู้ใดเหยียบย่ำทำลายพระพุทธรูปด้วยความลบหลู่ด้วยประกาศตนว่ายิ่งใหญ่ด้วยประกาศตนว่าหลุดพ้นแล้วหรือจ้างหรือชักชวนหรือสั่งให้ผู้อื่นทำเมื่อมันผู้นั้นตายไปก็จักได้รับโทษเยี่ยงนี้ เป็นเวลา อย่างน้อยถึง 40,000 ปีนรก”ขณะที่จะเดินทางต่อไปอีก ท่านพ่อยมบาลก็พูดขึ้นว่า “พอเถิดลูกไม่ต้องไปต่อแล้ว เพียงเท่านี้ก็คงพอแล้วกับการที่จะปิดเผยเรื่องนี้แก่มนุษย์ให้รับรู้ถึงบาปกรรมที่กระทำต่อพระพุทธรูปที่เปรียบเสมือนองค์แทนแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงกลับไปบอกกับมนุษย์ทั้งหลายให้รับรู้ไว้” แล้วเราก็พากันเดินทางกลับมาที่โถงพิจารณาโทษซึ่งมีดวงจิตของผู้ที่ตายแล้วมารอรับการพิจารณาโทษมากมาย “พ่อยังมีงานต้องทำอีกมาก เอ็งกลับไปได้แล้ว ไปทำสิ่งที่เอ็งต้องทำ” “ครับท่านพ่อยมบาลวันนี้ผมขอลากลับก่อนวันข้างหน้าหากมีเรื่องที่จะมีผู้ทำลายพระพุทธศาสนาอีกผมจะลงมารบกวนท่านพ่ออีกนะครับ” “เออ ถ้ามันเป็นเรื่องของศาสนา เอ็งมาได้ทุกเวลาพ่ออนุญาต” “ขอบคุณครับท่านพ่อ งั้นวันนี้ผมลากลับไปก่อนนะครับ” ท่านพ่อยมบาลพยักหน้ารับไม่พูดอะไรอีก แล้วผมก็กลับมา จริงแล้วก็ไปด้วยฌานนั่นแหละ พอออกจากฌานก็ดูเวลาที่ไปมาทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 40 นาที ท่านผู้อ่านทั้งหลาย เมื่อท่านได้อ่านแล้วขอจงช่วยกันเผยแผ่เรื่องนี้ไปให้ทั่วด้วย ผมอนุญาตให้พิมพ์เผยแผ่ได้ยิ่งดี มาช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาเอาไว้ให้ลูกหลานของเราสืบต่อไป แต่ก่อนที่จะจากท่านผู้อ่านไปในวันนี้ผมขอฝากข้อคิดไว้สักเรื่องหนึ่งการข้ามฟากจำเป็นต้องใช้เรือ พายข้ามไป บุคคลเมื่อข้ามฝั่งไปได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เรืออีก แต่แทนที่จะทำลายเรือนั้นทิ้งเสีย ทำไมไม่ปล่อยเรือลำนั้นให้ลอยกลับไปยังฝั่งเพื่อให้ผู้ที่ยังต้องการเรือข้ามฟากได้ใช้เรือนั้นข้ามฟากไปได้เช่นกันจะเป็นประโยชน์มากกว่าการทำลายเรือนั้นไม่ใช่หรือ เรือที่ผมพูดถึงก็คือพระพุทธรูปนั่นเอง ผู้ใดมีปัญญาคงจะเข้าใจความหมายนี้ ผมเป็นผู้หนึ่งที่พายเรือจนถึงฝั่งแล้ว แต่ไม่เคยคิดทำลายเรือลำนี้เลยเพราะคิดเสมอว่ายังมีผู้ต้องการอาศัยเรือลำนี้อยู่ทิ้งไว้ให้เขาได้ใช้ข้ามฟากต่อไปเถอะ”วันนี้คงต้องขอจบเรื่องราวต่างไว้เท่านี้ก่อน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    (ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ตาม link ด้านล่างค่ะ)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิงโดย http://palungjit.org/showthread.php?p=1403091#post1403091
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  8. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ท่านพ่อบอกว่าความจริงท่านไม่อยากจะเปิดแต่ด้วยเหตุผลที่ผมบอกท่านเกี่ยวกับพุทธศาสนิกชนที่ดียังมีอยู่และเพื่อศรัทธาที่จะไม่เสื่อมท่านจึงยอมเปิด


    ท่านยมบาลยังต้องจำนนต่อเหตุและผลของท่าน
    ยอดเยี่ยมมากครับ...........นับถือ สุดยอด

     
  9. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เป็นห่วงชาวพุทธทุกท่าน การเมตรา มีพรหมวิหารสี่เป็นสิ่งสำคัญเสมอในศาสนาพุทธ

    การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏรสงสารเป็นทุกข์อย่างยิ่ง แม้การดำเนินไปเพื่อหนทางไปสู่ภูมิภพ เทวดา หรือ พรหม ก็ยังต้อง กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอยู่ดี (ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้)

    นำข้อความของสมาชิกบางท่านเพื่อการพิจารณาสำนึกได้ ปรับปรุง สำหรับ กรรมแห่งการกระทำทำลายพระพุทธรูปที่เราลูกหลานชาวพุทธ กราบไหว้บูชาเพื่อระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดมาตั้งแต่อดีตกาล.. (หาใช่ การยึดคิดว่าเป็นเพียงวัตถุหนึ่ง)

    อย่างไรเสียก็ตามเราต่างเป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย การให้อภัยมีพรหมวิหารสี่ ความเข้าใจ จะทำให้มีความสงบสุขในสังคมชาวพุทธ

    ข้อความนี้ เขียนมาด้วยความเป็นห่วงและหวังดีไม่มีจุดประสงค์อื่นใด หากได้ล่วงเกินท่านใดเข้า ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
     
  10. ชัชวาล เพ่งวรรธนะ

    ชัชวาล เพ่งวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +4,120
    สรณะที่พึ่งคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์


    เวลาเราก้มกราบพระพุทธรูป

    ทำให้ใจเราระลึกถึงในคุณแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ง่าย


    พระพุทธรูปแม้จะเป็นทองเหลือง
    เป็นรูปสมมุติ เป็นดิน เป็นธาตุอันใดก็ตาม

    เราก้มกราบสักการะบูชาและยึดในพระพุทธเป็นสรณะที่พึ่ง

    ก็เพื่อเป็นแนวทางแห่งการ

    ปฏิบัติดีปฏิชอบ และทำให้ระลึกถึงคุณแห่งเมตตาในการนำพาให้เราพ้นทุกข์

    เราก้มกราบพระธรรม
    ก็เช่นกัน พระธรรมเป็นตัวแทนพระพุทธองค์ ธรรมอันใดที่เป็นธรรมอันประเสริฐ์ ทำให้พ้นทุกข์ได้

    เราจึงก้มกราบพระธรรมด้วยเพราะเป็นสรณะ เป็นที่พึ่ง

    เราก้มกราบพระสงฆ์ ก็เช่นกัน ท่านเป็นสรณะที่พึ่ง เป็นครูอาจารย์ เป็นกัลยณธรรม ชี้แจงทางเดินที่ถูก

    ที่ท่านก็ต่างมุมานะพรากเพียรมา

    คงจะเห็นว่า พระรัตนตรัย ก็เป็นสิ่งสมมุติทั้งสามเหมือนกัน

    ทุกอย่างต้องเริ่มมาจากสมมุติ เพราะจิตยังติดอุปทานในรูปทั้งสิ้น

    เพียงแต่สิ่งสมมุตินี้เป็นที่พึ่ง เป็นทางเดินอันถูกต้อง ในการพ้นทุกข์
    ใจจึงควรมีที่เกี่ยวยึดเอาไว้ในเบื้องต้นบ้าง

    ทุกอย่างจึงเริ่มมาจากมีสมมุติ และคลายสมมุติ ไม่ติดรูป ติดขันธ์ ด้วยใจเป็นกลาง

    โปรดพิจารณาด้วยนะครับ ดูที่ใจเรา อยู่ที่ใจเรา ในเบื้องต้นจึงควรมีให้ใจเกาะยึดคุณแห่งความดี

    เพื่อให้เป็นทางเดิน ในเบื้องปลาย ใจเราก็จะเชื่อมั่นในคุณแห่งพระรัตนตรัย แม้ท่านจะเป็นสิ่งสมมุติก็ตาม

    ขึ้นชืื่อว่าความกตัญญูรู้คุณแล้ว แม้แต่รูปสมมุติ ถ้ามาเหยียบย่ำทำลายซะแล้ว

    ก็เท่ากับทำลายใจ ทำลายคุณธรรม อกตัญญูเสียแล้ว

    แม้แต่ผ้าที่ครองอยู่

    แม้แต่พระธรรมที่เรียนรู้

    ก็เพื่อไปในทางแห่งการทำลายอวิชชา อาสวะกิเลสทั้งหลาย

    มาทำลายอุปทานที่ใจ ไม่ใช่ทำลายอุปทานที่รูป

    พระอริยเจ้าต่างๆ ล้วนแล้วแต่ก้มกราบพระพุทธด้วยความกตัญญูรู้ในคุณแห่งพระพุทธองค์

    เพราะพระธรรมของพระพุทธองค์ทำให้พ้นทุกข์ได้จริง

    วิจิกิจฉาที่ถูกทำลายในเบื้องต้น ย่อมเห็นความสำคัญแห่งพระรัตนตรัยทั้งสาม

    หลานข้าพเจ้าอายุยังน้อยถามข้าพเจ้าว่า

    ไม่ต้องกราบพระพุทธรูป อย่างนี้ พระสงฆ์ก็ไม่ต้องกราบด้วยใช่ไม๊

    ผมตอบว่า

    ไม่ว่าครั้งที่1 ครั้ง2 ครั้งที่3 ข้าพเจ้าก็จะยึดในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า จนตลอดชีวิตจะหาไม่


     
  11. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    กระผมส่วนมากจะตอบ......ไม่ค่อยได้ถาม

    ผมอยากถามบ้างว่าผู้ที่บอกว่ากราบพระพุทธรูปเพราะไม่ได้ยึดถือว่าเป็นวัตถุ แต่เพราะกราบระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า....
    และผู้ที่กล่าวเช่นนี้ มี พระพุทธรูป พระเครื่อง ฯลฯไว้ในครอบครองหรือไม่

    (กรุณาอย่าตอบว่า มี ที่มีไว้ก็เพื่อเป็นเครื่องยึด และระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไงเพราะถ้าคุณตอบแบบนั้นก็หมายความว่าคุณยึดในวัตถุ มิใช่ยึดในพระพุทธเจ้า
    และถ้ามีผู้มาขโมยวัตถุทั้งหลายไปจากความครอบครองของคุณ หรือจะเหตุใดก็แล้วแต่คุณก็มิอาจระลึกถึง พระพุทธเจ้าได้หรืออย่างไร และถ้าบอกว่าถึงจะโดนขโมยหรือไม่มีก็ระลึกได้และจะมีไว้เพื่ออะไร
    เปรียบในเรื่องตรงกันข้าม ยาบ้าคุณรู้ว่ามันมีโทษ แต่คุณไม่ได้เสพ ไม่ได้ติดและรู้ว่ามันมีอันตรายอยู่ คุณจะมีไว้ในครอบครองหรือไม่ ที่ถกกันอยู่ทุกๆคนก็เคารพ ศรัทธา เลื่อมใสพระพุทธเจ้าทุกๆคนแต่ประเด็นคือวัตถุที่สมมติว่าเป็นพระพุทธเจ้า)
     
  12. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    เด็กสามขวบที่ตามพ่อแม่ไปวัด พ่อแม่บอกให้กราบพระพุทธรูป เด็กกราบและพ่อแม่ก็บอกว่าพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า

    แล้วทำไมคนบางคนและพระเองก็อายุจะครึ่งร้อยแล้วยังเข้าใจว่าคนไหว้อิฐหินดินทรายทองเหลือง

    สมมติก็มีคุณแห่งสมมตินั้น เพชรมันเป็นธาตุจากธรรมชาติมันมีค่าเพราะคนให้ค่า กระดาษถูกสมมติให้เป็นธนาบัตรก็มีค่าขึ้นมา นี่ก็สมมติ ทำไมไม่เผาทำลายธนบัตรทิ้งล่ะ

    มนุษย์ทุกคนก็เป็นสมมติของรูปและนามคือขันธ์ 5 คนที่คิดว่าพระพุทธรูปเป็นสมมติจึงทำลายพระพุทธรูป แล้วทำไม่ไม่คิดทำลายสมมติที่เป็นขันธ์ 5 ของเจ้าของลงเสียโดยพลันเลยเล่า...

    ก็เพราะเรายังเห็นว่าสมมตินี้ยังมีประโยชน์อยู่ เช่นกัน พระพุทธรูปก็มีประโยชน์สำหรับคนที่เข้าใจอย่างหาประมาณมิได้

    พระพุทธรูปเป็นพุทธานุสสติคือ 1 ในอนุสติ 10 สำหรับการทำกัมมัฏฐาน

    พระพุทธรูปที่คนนำไปถวายวัดถือว่าเป็นของสงฆ์ พระองค์ใดองค์หนึ่งแม้แต่เจ้าอาวาสก็ไม่มีสิทธิ์ทำลายของสงฆ์ ถ้าทำลายของสงฆ์ต้องอาบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2008
  13. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    ตอบไม่ตรงคำถามครับ....

    เพราะเรื่อง ทำลายทำไม ตอบไปแล้วหลายสิบกระทู้ครับ

    คำถาม ถามว่า

    ผู้ที่บอกว่ากราบพระพุทธรูปเพราะไม่ได้ยึดถือว่าเป็นวัตถุ แต่เพราะกราบระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า....
    และผู้ที่กล่าวเช่นนี้ มี พระพุทธรูป พระเครื่อง ฯลฯไว้ในครอบครองหรือไม่
     
  14. พลัjจิต

    พลัjจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +18
    ไหนใครที่ติดต่อยมพบาลไปเรียกให้มาหาเราทีซิ
     
  15. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="postdetails">
    </td> <td valign="top" align="right" nowrap="nowrap">[​IMG][​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <hr> [​IMG]

    พระพุทธรูปที่หลวงปู่มั่น บูชาอยู่เป็นประจำ และหนังสือธรรมะต่างๆ
    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=2347
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2008
  16. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    จะปรับอาบัติท่าน เอาวินัย มาอ้างอิงด้วยครับ.....ข้อไหน ใน 227 เอาที่มาด้วยครับ
    อย่าตอบเอาตามความรู้สึกครับ
     
  17. พลัjจิต

    พลัjจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +18
    แล้วพระธรรมกิติเมธี เอาพระวินัยข้อไหนจะมาปรับอาบัติหลวงพ่อเกษมละ
     
  18. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    หลวงปู่มั่นท่านไม่ยึดในวัตถุ ของจริงแท้แน่นอนครับ และคำถามที่ก็ไม่ได้ถามหลวงปู่มั่นครับ

    อ่านภาษาไทยอีกรอบนะครับ

    ผมอยากถามบ้างว่าผู้ที่บอกว่ากราบพระพุทธรูปเพราะไม่ได้ยึดถือว่าเป็นวัตถุ แต่เพราะกราบระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า....
    และผู้ที่กล่าวเช่นนี้ มี พระพุทธรูป พระเครื่อง ฯลฯไว้ในครอบครองหรือไม่
     
  19. พลัjจิต

    พลัjจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +18
    ก็ผมนี้ไงที่ไม่กราบพระพุทธรูป
     
  20. พลัjจิต

    พลัjจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +18
    พระเครื่องผมก็มีแยะ แต่มีไว้โชว์แล้วขายกับเช่าเท่านั้น ไม่กราบอยู่แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...