พบวัดพิลึก ห้ามไหว้พุทธรูป

สมมุติสงฆ์รูปนี้ มีอเวจีเป็นที่ไปแน่ ๆ เลย ผมก็เคยอ่านเรื่องการเบิกบุญ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นรูปนี้หรือเปล่า

 

จริงๆๆแล้ว การบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เป็นการ ...
..

ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา 20%
อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ของชาติ 20%
ช่วยให้ศาสนายั่งยืน 20%
ทำบุญ ทำให้เกิดสามมัคคีในชาติ 20 %
ช่วยให้เกิดจิตกุศล รู้จักเมตตา บริจาค ทาน ถือศีล ทำให้สังคมสงบสุข 5%
เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ 15%

** การสร้างพระพุทธรูปเป็นการอนุรักษ์ ศิลปะ วัฒนธรรม ของชาติ พระพุทธรูป ๑ องค์ ใช้ช่าง ถึง ๕ หมู่ ช่างแกะลายกนก ช่างเขียนลายน้ำทอง ช่างปิดทอง ลงรักษ์ พวกลายกนก ช่อฟ้า ปิดทอง ถมทอง ลายน้ำตามพนังวัด เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย หากเราไม่สร้างเอง อีกหน่อย เราอาจต้องไปไหว้พระพม่า เช่น พระมัยมุนี เป็นพระพุทธรูปหน้าเหมือนคนพม่า แต่งกายในชุดพม่า มีประบ่า มีมงกุฏแบบพม่า แต่คนไทยชอบไปไหว้ เป้นต้น

 

การบูชาพระพุทธรูป เครื่องราง ของขลัง เป็นการน้อมจิต ถึงพระพุทธเจ้าก่อน แล้วเดี๋ยวศรัทธา ก็จะเริ่มมาเอง ซักพักก็จะเริ่มมีพระธรรม และเริ่มมีพระสงฆ์ จากจิตหยาบจะเริ่มกลายมาเป็นจิตละเอียด รู้จักบุญ บาป ดีชั่ว กุศล และทาน สุดท้ายสังคมก็จะสงบสุขเองในที่สุด
:: ฉะนั้นการบูชาเครื่องรางวัตถุมงคล พระพุทธรูป เป็นการน้อมจิตถึงพระพุทธเจ้าก่อน รู้ธรรมไม่รู้ธรรม ทำไปเถอะเดี๋ยวดีเอง

*การบูชาพระพุทธรูป เครื่องราง ของขลัง เป็นการได้บุญ ผสมกับการพาณิชย์ มันกึ่งๆๆกันอยู่ แต่ก็เป็นบุญ ทำด้วยพุทธคุณก็ดี ศรัทธาก็ดี ชอบก็ดี แต่ก็ถือว่าทำ และได้บุญทั้งนั้น

 

ถ้าพิจารณาให้ดีภิกษุสมัยพุทธกาล และหลังพุทธกาล ๕๐๐ ปี ภิกษุเหล่านั้น ล้วนเป็นผู้มีปัญญามาก เป็นพระอรหันตร์แล้วโดยชอบ อาศรม หรือ วัด หรือ สำนัก ของท่านเหล่านั้น หาได้มีอุโบสถ หาได้มีรูปปั้น หรือภาพแกะสลักที่เหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ เป็นเพียงแค่รั้วกั้น มีอาศน์ และลานว่างสำหรับภิกษุมาประชุม ทำสังคกรรม เมื่อถึงเพ็ญเดือน ๕ เท่านั้น หาได้มีอุโบสถ มีรูปปั้นของพระพุทธเจ้าไม่ ประชาชนที่มาฟังธรรมนั่งกันในลานกว้าง *สามารถดูตัวอย่างได้จากวัดของท่านพุทธทาส ภิกขุได้ ลานกว้างประมานนั้น (ภิกษุสมัยพุทธกาล และหลังพุทธกาล ๕๐๐ ปี )

reference:: เรื่องทั้งหมดที่ผมบอกท่าน สามารถอ่านได้จากพระไตรปิฏก เป็นพระวาจาที่มาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง คือ ท่านพูดออกมาจากปากของท่านเองอะ[/quote]


สมัยนั้น พระเป็นพระอรหันต์กันมาก แต่สมัยนี้ไม่มากเท่าสมัยนั้นครับ ต้องนึกถึง เผื่อคนปุถุชนทั่วไปด้วย "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" ถูกต้องครับ ไม่เถียง แต่เพราะคนเค้ายังไม่เห็นธรรมน่ะสิครับ จึงต้องสร้างวัด สร้างพระเพื่อเป็นตัวแทน เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าทุกคนเห็นธรรมได้ทุกคน ก็ไม่มีใครสร้างพระ สร้างวัด ไม่มีใครมาวัดกันหรอกครับ เพราะเมื่อบรรลุธรรมเห็นธรรมกันหมดแล้ว จะอยู่ที่ไหนก้พบพระพุทธเจ้าได้

 

ไม่ความเห็นอื่นใด

นอกจากจะบอกว่า

"พระพุทธรูปก็คือตัวแทนของพระพุทธองค์"

 

ไม่เสียเวลาแล้วล่ะ เสียอารมณ์ฌาณ ผู้ใดเผยแพร่ผิดๆ ทำให้คนที่ไม่รู้ เห็นผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิไปด้วย ก็รับกรรมกันเองละกัน อุตส่าห์เป็นห่วง

ไม่เดือดร้อนแทนละ

 

สงสัยจะ ยึดแต่ พระธรรม พระพุทธเจ้า กับพระสงฆ์ไม่มี ต้องตั้งศาสนาไหม่แล้วกันครับ

 

ตงิดๆตั้งแต่เห็นคำสอนท่านตั้งแต่แรกละ โอ้... เค้าเอาพระพุทธรูปมาเป็นที่ระลึกถึงพระศาสดา สมัยนั้นเค้าไม่กล้าทำรูปท่าน แต่ขอที่ระลึก พระพุทธองค์ก็ประทานรอยพระพุทธบาทไว้ให้ไหว้บูชา ไม่ใช่ทำให้พระพุทธบาท หรือพระพุทธรูปเป็นศาสดา พระธรรมที่ท่านสอนก็บอกไว้ว่านี่ให้ถือเป็นครูเป็นคาสดา เหมือนกับ พระไตรปิฏกเท่ากับ หนังสือเรียน ส่วนครูผู้สอนตายไปนานแล้ว ก็เอารูปท่านมารำลึกถึง

มิจฉาทิฏฐิชัดเจน นี่แค่ 2500กว่าปีนะนี่ จะให้คนเสื่อมศรัทธาในพระไปถึงไหน ...

 

ขออนุญาติลดความเครียดของทุกท่าน ด้วยกระทู้ดีๆๆ

วันแม่แห่งชาติ
มีการสาธยายพระไตรปิฎก
กรมการศาสนา
ถวายเป็นพุทธบูชา

และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ

ตลอด ๒๔ ชัวโมง
ณ วัดใหม่ยายแป้น สี่แยกบางขุนนนท์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

วันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ถึง วันอังคาร ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๑

เริ่มงานวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๑

เวลา 0๘.00 น พร้อมกันที่พระอุโบสถ

เวลา 0๘.๓0 น อันเชิญพระไตรปิฎกทักษิณาวัตรรอบพระอุโบสถ

เวลา 0๙.0๙ น เริ่มพิธีที่พระวิหารพระไตรปิฎก

ประธาน จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย

เจ้าหน้าที่อาราธนาสีล ประธานสงฆ์ให้สีล ประกาศศักราช

ประธานจุดเทียนบูชาพระไตรปิฎก

เจ้าหน้าที่อาราธนาธรรม

พระสงฆ์สวดพระธรรมจักร

สาธยายพระไตรปิฎกเริ่มเล่มที่ ๓๕ เป็นต้นไปพร้อมกันตลอด ๕ วัน ๔ คืนไม่มีการหยุดสาธยาย

ชมพระไตรปิฎกโบราณที่หาชมได้ยาก

(งานนี้ไมมีการรับเงินบริจาคครับ)

รับเป็นน้ำปานะภัตรตาหารเช้าภัตรตาหารเพล ครับ ท่านใดมีความประสงค์เป็นเจ้าภัตรหาร

ให้ติดต่อพระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ

02-435-7555

มือถือ 089-963-4505

โทรสาร 02-434-1238

มีรถเมล์ผ่าน
79 57 56 68 157 175 40 542 80 509 28 171
ที่มาจากปินเกล้าลงที่สี่แยกบางขุนนนท์เชิงสะพานลอย
ที่มาจากสามแยกไฟฉายลงที่เลยห้างแมคโคเดินขึ้นมา
หรือติดต่อที่ผมก้ได้ครับ 0851245895 ครับ สุริยะ


สีล คำนี้มาจากพระไตรปิฎกครับ

ห้ามใส่เสิ้อผ้า สี่ดำมางานครับ
ท่านใดมางานควรนำดอกบัวสีขาวมาบูชาพระพุทธองค์ด้วยครับ

 

...................................................................................

เหตุ มี "ปุ่ม" ให้เลือก กด....



ทำให้ผู้อ่าน อาจจะ งง งง ในปุ่มกด "ไม่เห็นด้วย" และ "อนุโมทนา"

1. ที่ว่า "ไม่เห็นด้วย" นี่..
1.1. ไม่เห็นด้วย กับ "เนื้อหา" ที่ โพส แสดงไว้
1.2. หรือ ไม่เห็นด้วย กับ "ผู้โพส"

2. ที่ว่า "อนุโมทนา" นี่..
2.1. อนุโมทนา กับ "เนื้อหา" ที่ โพส แสดงไว้
2.2. หรือ อนุโมทนา กับ "ผู้โพส"

...................................................................................

ผล ตามที่อ้างอิง เหตุ ข้างบน ก็คือ..

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif>สมาชิก 2 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความของ คุณ WebSnow ที่เขียนไว้ทางด้านบน</TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29>chanasin (วันนี้), สังขารไม่เที่ยง (วันนี้)</TD></TR><TR><TD class=alt1>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat>สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ WebSnow ในข้อความที่เขียนด้านบน </TD></TR><TR><TD class=alt2 height=29> AddWassana (วันนี้), เจนัย (วันนี้), Baby_par (วันนี้), Paravatee (วันนี้), phutsa (วันนี้), YourWifeKeeper (วันนี้), ชนะ สิริไพโรจน์ (วันนี้), ชนะมาร (วันนี้), ชนณพัฒน์ (วันนี้)</TD></TR></TBODY></TABLE>

"คุณสังขารไม่เที่ยง" ที่กดปุ่ม "ไม่เห็นด้วย"
นี่.. คงเป็น หมายความ ตามคำอธิบาย ว่า....

สมาชิก 2 คน ได้กล่าว "ไม่เห็นด้วย" กับ "ข้อความ" ของ คุณ WebSnow ที่เขียนไว้ทางด้านบน

แล้วก็ โพส ยืนยันไว้ในลำดับ 6 ที่ว่า....

"..ผิดปกติอย่างมากค่ะ........สอนผิดมาก ๆ เลยค่ะ.....
เท่าที่อ่านข่าวทั้งหมดแล้ว.....พระท่านขาดการใส่ใจโดยแยบคาย...ในพระไตรปิฏกค่ะ....
ขาดความเข้าใจ....ในพระไตรปิฏกค่ะ......จึงทำให้พระท่านเกิดมิจฉาทิฐิค่ะ

หรือไม่ท่านก็อาจจะไม่สบายค่ะ...."
<!-- / message --><!-- sig -->
.................................................................................

แล้ว..

สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ WebSnow ใน "ข้อความ" ที่เขียนด้านบน

นี่หมายถึง เห็นด้วย กับ เจ้าสำนักเกษม ใช่ไหมครับ....

..................................................................................

ผมก็ งง งง ไปเอง กระมัง นี่....

...................................................................................

 

ท่านคงหลงนิมิตไปแล้ว

 

หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านยังไหว้พระพุทธรูป ทำพระพุทธรูปไว้บูชา นี่หลวงพ่อเกษมเป็นใคร มาทำกับ รูปที่ระลึกนึกถึงพ่อของชาวพุทธแบบนี้ได้อย่างไร ยังเป็นพระอยู่อีกรึปล่าว ... ได้ฟังเรื่องนี้แล้วนึกถึง เรื่องของสมเด็จลุนที่มีพระมหาร้อนวิชาเรียนพระไตรปิฏกมาจากลังกาบอกให้ยุบพระพุทธรูปในแผ่นดินลาวทั้งหมดให้เป็นองค์เดียวเพราะพระพุทธเจ้ามีแค่องค์เดียวในยุคศาสนานี้ เจอสมเด็จลุนโต้ว่าท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าซ้อนในศาสนาพระโคดมอีกองค์เป็นองค์ที่ 6 ในกัปนี้เหรอ บัญญัติมาได้อย่างไร ให้ยุบรวมพระพุทธรูปทั้งประเทศให้เหลือองค์เดียว และ พระพุทธรูปนี่เค้าไว้เป็นที่ระลึกนึกถึงพระศาสดา ไม่ใช่เป็นพระศาสดาแทน แล้วอะไรอื่นอีก ...(สัญญาไม่ดีเป็นทุกข์ อนิจจังอนัตตา จำไม่ได้อีกแล้ว 555+)

 

เอาเป็นว่า....

ผมขอยืนยัน

"ไม่เห็นด้วย" กับ "เนื้อหา"
และ "ขอโมทนา" กับ คุณWebSnow

นะครับ

................................................................................................

 

เช่นกันครับ
สาธุ

 

คิดเหมือนกันค่ะ คือ อนุโมทนากับผู้โพสต์

แต่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาเป็นอย่างมาก

 

สาธุ สาธุ สาธุ ทำไมหนอท่านจึงสำคัญผิดได้ถึงปานนั้น กราบพระพุทธรูปท่านผู้รู้กล่าวเอาไว้ว่า อย่าให้ถูกทองเหลือง หมายถึง อย่าไปยึดว่าเรากราบเพียงพระพุทธรูปเท่านั้น แต่ควรมี มนสิการน้อมถึงคุณของพระพุทธเจ้าด้วย

แต่นี่ท่านเล่นประจานองค์แทนพระพุทธเจ้า เรียกว่ามัน มิควรเลย มิควรเลย

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เคยอ่านหนังสือของพระเกษม
คงเป็นเพราะรู้อะไรยังไม่ครบ แถมท่านยังโดนนิมิตรหลอกอีก
ท่านสมาธิดีสามารถสัมผัสกายทิพย์ได้ แต่ยังเป็นเพียง
สัมภเวสี เปรตาวิสัย และ อสูรกายเท่านั้น แถมยังโดน
อสูรกายหลอกอีก จึงทำให้เชื่อและสั่งสอนคนไปเช่นนั้น

ในหนังสือบอกว่าท่านเป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น น่าเสียดาย
สมาธิของท่านแท้ๆ แต่หากท่านยังมีบุญบารมีอยู่คงมี
พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นไปโปรดท่านสักคนแหละ
จะได้หลุดพ้นจากมิจฉาทิฐิเช่นนี้

 

นรกจะกินหัว

 

จําได้ครับเฮียปอ ก็สมาชิกท่านนั้น มีความคิดประหลาดพิกล(เหมือนวัดสามแยก)
น่าสงสารมากครับ นรกขุมตื้นๆคงไม่ได้ลง กรรมน๊อ..สัพเพสัตตาฯ

 

ที่มา
http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=2160