***$$$สมบัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำและพระเกจิอาจารย์ครับ บูชาเบาๆ( 2) $$$****

943.พระรูปหล่อนั่งรุ่นวางศิลาฤกษ์อุโบสถ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ปี 2537 ผสมชนวนเสกจากวัดท่าซุง สภาพสวยพร้อมกล่องวัดเดิมๆครับ

บูชา 450 บาท

 

ขอจองครับ

 

944.รูปหล่อเนื้อผงหลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์ ที่ระลึกอายุ 95 ปี สร้างปี 2550 พร้อมกล่องวัดเดิมๆครับ

กราบไหว้ สักการะ สรีระสังขารที่ไม่ได้เน่าเปื่อยลงไปตามธรรมชาติ ของอมตเถราจารย์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกหนึ่งรูป ศิษย์ที่สืบทอดวิทยาคมมาจากหลวงพ่อเดิม แห่งวัดหนองโพ และหลวงปู่นาค แห่งวัดระฆัง

หลวงพ่อจ้อย จันทสุวัณโณ แห่งวัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์

เมื่อครั้งที่หลวงพ่อจ้อย ท่านยังไม่ได้มรณภาพ ท่านเก่งเรื่องทำน้ำพระพุทธมนต์เป็นอย่างมาก โดยท่านได้ไปฝากตัวเรียนวิชาการทำน้ำพระพุทธมนต์มาจาก หลวงพ่อจง พุทธสโร แห่งวัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา น้ำพระพุทธมนต์ในอ่างน้ำมนต์นั้นท่านปลุกเสกนั้น หลวงพ่อจ้อยท่านปลุกเสกจนน้ำพระพุทธมนต์วิ่งวนเป็นวงกลมอยู่ในอ่างจนเป็นที่กล่าวขานกันมาก และยังมีพุทธคุณเป็นอย่างยิ่ง สามารถขับไล่ภูตผี ปีศาจ สิ่งชั่วร้าย คุณไสย์อาคม มนต์ดำต่างได้อย่างชงัดนัก จนชาวบ้านจากจังหวัดที่ห่างไกลต่างมาขอรดน้ำพระพุทธมนต์กับท่านทุกๆวันจนแน่นขนัดวัด หลังจากทค่หลวงพ่อจ้อย ท่านมรณภาพลงแล้ว ในวันที่16เมษายน พ.ศ.2550 สรีระสังขารของท่านก็ไม่ได้เน่าเปื่อยลงไปแต่อย่างใด ทางวัดจึงได้บรรจุสรีระสังขารของท่านลงในโลงแก้ว และได้น้ำอ่างน้ำพระพุทธมนต์ใบเดิมของท่านใส่น้ำมาตั้งใว้ด้านหน้ารูปปั้นหุ่นขึ้ผึ้งของท่านด้วย เพื่อให้ประชาชนที่มากราบไหว้ สักการะสรีระสังขารของท่านได้ขอน้ำพระพุทธนี้ไปใช้ อาบดื่ม กินรักษาพวกคุณไสย์ อาคมมนต์ดำต่างๆ

เรียบเรียงโดย เจเจ เพจประตูสู่อดีต


ที่ระลึกอายุ 95 ปี สร้างปี 2550 พร้อมกล่องวัดเดิมๆครับ

บูชา 200 บาท

 

945.รูปท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ประธานปกครองสงฆ์ กรรมการมหาเถระสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก หลังปิดแผ่นทองเหลืองจารลายมือของท่าน บุชาเพื่อเป็นสังฆานุสติครับ

บูชา 350 บาท

 

สำหรับวันนี้ก็ลงให้บูชาแค่นี้ก่อน ขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้เยี่ยมชมและเช่าบูชาด้วยครับ ทุกรายการจองได้ไม่เกิน 15 วัน ส่วนท่านที่โอนมาแล้วผมจะรีบจัดส่งให้โดยเร็วครับ..​

อีกประมาณ 3 - 4 วัน จะมีลงรายการใหม่ให้บูชากันอีกครับ ท่านที่สนใจติดตามชมได้นะครับผม..

​

 

รับทราบการจองครับผม ขอบคุณมากครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบคุณมากครับ

 

รายการจัดส่งวันนี้ครับ

 

ขอจองครับ

 

จองครับ

 

รับทราบการจองเพิ่มเติมครับผม ขอบคุณมากครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบคุณมากครับ

 

รายการจัดส่งวันนี้ครับ

 

รายการจัดส่งวันนี้ครับ

 

เริ่มลงให้บูชากันเลยครับ
​

946. (((สุดยอดตำนานวิชาน้ำมันประสานกระดูกอันลือลั่นแห่งภาคตะวันออก สร้างตามตำราได้ยากยิ่ง ทั้งยังมีผลคุณวิIศษในด้านคงกระพันชาตรีอีกด้วย จากสุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งภาคตะวันออกผู้สืบทอดวิชาจากหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง เอกองค์บรมครูพระหมอสมุนไพรผู้เปี่ยมวิชาอาคมแห่งเมืองระยองที่แม้แต่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ยังให้การเคารพ)))

#น้ำมันเลียงผาประสานกระดูก
ตำรับหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง
(หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง)
#หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ถือเป็นพระเกจิรูปสำคัญอีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออก ท่านเป็นพระเกจิที่มีพลังจิตแก่กล้ายิ่งนัก ทั้งยังแตกฉานเชี่ยวชาญวิทยาคม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่โด่งดังมากมาย ได้รับความนิยม อาทิ ผ้ายันต์พัดโบก ผ้ายันต์แม่ทัพ น้ำมันนเรศวรออกศึก น้ำมันจอมพล ตะกรุด เหรียญ พระเครื่องรุ่นต่างๆ มีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ปัดเป่าเคราะห์ร้ายและสิ่งอัปมงคล เสริมชีวิตทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง
หลวงปู่คร่ำท่านเป็นศิษย์เอกรูปสำคัญของหลวงพ่อโต หรือท่านพ่อโต วัดเขาบ่อทอง บูรพาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมอาจารย์ใหญ่แห่งเมืองระยอง ท่านได้อยู่เรียนสรรพวิชาจากหลวงพ่อโตจนเจนจบแตกฉานในสรรพวิชา เป็นทายาทธรรมที่หลวงพ่อโตท่านไว้วางใจ
#วิชาน้ำมันของหลวงปู่คร่ำ ท่านเก่งกาจยิ่งนัก ท่านได้เรียนมาจากหลวงพ่อโตเช่นกัน ท่านสำเร็จวิชาน้ำมันไม่ว่าจะเป็นน้ำมันแม่ทัพ น้ำมันนเรศวรออกศึก น้ำมันยอดขุนพล หรือน้ำมันประสานกระดูก เป็นวิชาน้ำมันที่ตกทอดมาจากบูรพาจารย์ตั้งแต่สมัยที่บ้านเมืองยังต้องรบทับจับศึก เป็นวิชาแต่งทัพลงน้ำมัน ยังผลความศักดิ์สิnธิให้กับบรรดาทหารแม่ทัพนายกองในสมัยโบราณ แม้บรรดาอาวุธมีคมทั้งปวงก็มิอาจทำอันตรายได้
หลวงปู่คร่ำท่านโด่งดังเรื่้องน้ำมันมาตั้งแต่หนุ่มๆ สมัยสงครามอินโดจีน ท่านแจกน้ำมันแม่ทัพให้กับบรรดาทหารลูกหลานชาวเมืองแกลงไปออกรบที่เวียดนาม ปรากฎผลเป็นที่คงกระพันชาตรี คงหนังคงเนื้อคงกระดูกทหารเหล่านั้นล้วนแคล้วคลาดปลอดภัยในสมรภูมิ กลับมาได้ทุกคน เป็นที่เลื่องลือสร้างชื่อให้กับท่านยิ่งนักตั้งแต่สมัยหลวงปู่คร่ำท่านยังหนุ่มๆ
สมัยก่อนเมืองระยองใครจะลงผู้แทน ต้องมาหาหลวงปู่คร่ำให้ท่านเจิมน้ำมัน เพื่อความเป็นศิริมงคลเสริมความเจริญรุ่งเรือง จนหลายรายได้รับเลือกให้เป็นผู้แทน ทั้งบรรดาตำรวจทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ สมัยก่อนต่างล้วนศรัทธาในบารมีหลวงปู่คร่ำแทบทั้งสิ้น
น้ำมันเลียงผาประสานต่อกระดูก ถือเป็นน้ำมันวิเศHอีกตำราหนึ่ง ของท่านพ่อโต หรือพระครูนิวาสธรรมสาร วัดเขากระโดนและเขาบ่อทอง พระเกจิบูรพาจารย์ผู้เป็นเลิศนด้านวิชาอาคม และวิชายาสมุนไพรโบราณ ที่หลวงปู่คร่ำท่านได้ร่ำเรียนมา
ในอดีตท่านพ่อโตใช้รักษาด้วยน้ำมันมนต์ที่เคี่ยวจากตัวเลียงผา ผสมว่านยาสมุนไพรหายากนานาชนิด ที่มีพิธีกรรมที่สลับซับซ้อน มีฤกษ์ยามที่สามารถหุงได้เพียง 4 ปีมีหนึ่งครั้ง ต่อมาตำรารักษาตกมาถึงหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า นำมาใช้รักษาจนมีชื่อเป็นที่รู้จัก

#น้ำมันเลียงผาตำรับหลวงปู่คร่ำนั้น นอกจะวิเศษในด้านรักษาข้อต่อกระดูกแล้ว ยังมีความศักดิ์สิnธิ์ด้านคงกระพันชาตรีอีกด้วย หลวงปู่คร่ำท่านเสกลงวิชาอาคมพระเวทย์อันศักดิ์สิnธิ์ไปในน้ำมนต์นี้อย่างบริบูรณ์ ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากได้เพียงถูทาน้ำมันเพียงเล็กน้อย ก็จะยังบังเกิดความศักดิ์สิnธิ์แก่ตน มีผลในด้านคงกระพันชาตรี คงหนัง คงเนื้อ คงกระดูก เป็นที่ร่ำลือและปรารถนาของศิษย์ผู้ศรัทธายิ่งนัก ที่สมัยก่อนบางคนถึงกับนำน้ำมันไปใส่ขวดแก้วเล็กๆแขวนคอก็มีให้เห็น
#เลียงผาหรือชาวบ้านจะเรียกว่าม้าเทวดา ถือได้ว่าเป็นสัตว์สงวนชนิดหนึ่ง โบราณว่าเป็นสัตว์ที่มีความวิเศษในตัว เลียงผาเป็นสัตว์สี่เท้าและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มักอาศัยอยู่ในป่าลึกบนยอดเขา ตามเงื้อมหน้าผาและโถงถ้ำ เลียงผาจึงถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความแข็งแรงมาก มีกำลังมาก สามารถวิ่งขึ้นภูเขาสูงๆได้อย่างรวดเร็ว และยังกระโดดลงจากหน้าผาสูงๆได้อย่างคล่องแคล่ว พวกมันมีใจกล้าหาญไม่กลัวความสูง แม้จะเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม
เลียงผาเป็นสัตว์ที่มีกระดูกที่แข็งแรง มีความรวดเร็วและความคล่องตัวสูง มีมวลกระดูกที่แข็งแรงมาก
และเป็นเรื่องแปลกอย่างหนึ่งที่ว่า เลียงผาหากพลาดท่าตกจากหน้าผาสูงๆ ส่วนใหญ่พวกมันจะไม่ตาย แม้หากบาดเจ็บกระดูกหักหรือแตกตรงส่วนใด ไม่นานมันจะค่อยๆฟื้นตัว และหายได้เองตามปรกติ โบราณจารย์จึงทราบถึงคุณวิเศHข้อนี้ของเลียงผา จึงได้มีการล่านำกระดูกของมันมาสกัดทำยา ปรุงเคี่ยวผสมกับสมุนไพรว่านยานานาชนิดตามตำรา จึงออกมาเป็นน้ำมันที่มีคุณวิเศHในด้านรักษาข้อต่อกระดูกอันเป็นเลิศยิ่งนัก
น้ำมันเลียงผา มีฤทธิ์ร้อน มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของกระดูก เส้นเอ็น และกล้ามเนื้ออย่างดียิ่ง ทั้งยังมีตัวยาที่ช่วยบำรุงซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายจากอาการบาดเจ็บอย่างได้ผลชงัด มีฤทธิ์ร้อนทาแล้วตัวยาซึมซาบเร็ว ทั้งยังช่วยในการไหลเวียนเลือดของกล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ตามตำราของสายหลวงพ่อโตนั้น น้ำมันเลียงผาที่ผ่านการสกัดหุงเคี่ยวออกมาแล้ว ยังไม่สามารถใช้งานได้ ยังต้องพิธีปลุกเสกพระเวทย์อาคมอันศักดิ์สิnธิ์ตามตำราครู จึงจะมีผลสมบูรณ์
#น้ำมันชุดนี้หลวงปู่คร่ำท่านทำพิธีปลุกเสกแล้วหลายวาระ บรรจุไว้ในขวดโหลและปี๊บในกุฏิของท่าน พร้อมกับน้ำมันนเรศวรออกศึก และน้ำมันงายอดขุนพล น้ำมันวิเศHอีกชนิดหนึ่งอันเลื่องชื่อของท่านที่มีคุณวิเศHยิ่งในด้านคงกระพันชาตรี หลังจากหลวงปู่คร่ำมรณะภาพแล้ว น้ำมันชุดนี้ก็ยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี เก็บบ่มไว้อย่างเข้มขลังตลอดมา จนพระอาจารย์วิรัช ผู้เป็นศิษย์เอกของท่าน นำออกมาแบ่งบรรจุใส่ขวดพลาสติก แบ่งให้ศิษย์ผู้ศรัทธาได้นำไปใช้บูชา
ขนาดบรรจุประมาณ 300 มล. ขวดใหญ่บรรจุเยอะ รับประกันของแท้ 100 % เช่ามาจากศิษย์เอกผู้เก็บรักษาน้ำมันหลวงปู่คร่ำโดยตรง น้ำมันชุดนี้เป็นชุดปลายๆ สีน้ำมันอาจใสขึ้นแต่เจ้าของเดิมแจ้งว่าบอกว่ามีตะกอนตัวยาอยู่มากมายยิ่งกว่าชุดก่อน
บรรจุในขวดพลาสติกอย่างดี แข็งแรง ไม่หกง่าย พร้อมใช้งาน วิชาน้ำมันประสานกระดูกถือเป็นวิชาโบราณในยามรบทัพจับศึก ยุคนี้คงหาผู้ใดมีบารมีสร้างสำเร็จได้ยากยิ่งนัก เป็นน้ำมันวิเศHอันเอกอุที่ทุกบ้านควรต้องมีติดไว้ใช้ครับ นอกจากจะนวดทารักษาอาการบาดเจ็บแล้ว ยังมีคุณวิเศHในด้านคงกระพันชาตรีอีกด้วย เรียกว่าครบจบในขวดเดียว หายากมากๆครับ

บูชาขวดละ 450 บาท มีให้บูชา 1 ขวด


************* จองแล้วครับ ************

 

947.จีวรไหมและเกศา หลวงปู่ฝั้น อาจาโร สิ่งมงคลขององค์หลวงปู่ฝั้น บรรจุในหลอดตะกรุดพร้อมแขวนบูชา ใช้บูชาทดแทนพระเครื่ององค์ของท่าน ราคาหลักแสน หลักล้านได้เลยครับ

บูชา หลอดละ 300 บาท มีให้บูชา 5 หลอดครับ

*****คงเหลือ 3 หลอด *******

 

948.พระเนื้อผงว่าน พิมพ์ใบโพธิ์ หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ จ.ศรีษะเกษ
ปี ๒๕๑๗
แจกในงานปลุกเสกพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2517 เป็นที่ระลึกให้พระสงฆ์ที่ร่วมปลุกเสก มีส่วนผสมพระผงสมเด็จบางขุนพรหม สภาพสวย น่าเก็บ มีบรรจุในงานประกวดด้วย
พระผงรูปใบโพธิ์ หลังยันต์ ส.ก. ๑๗ พุทธาภิเศกวัดอินทร์ (วัดบางขุนพรหม) ผสมผงเก่าบางขุนพรหม ปี ๒๕๑๗ โดย หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ (มีข้อมูลในหนังสือรวมเล่ม) และ
พระผงใบโพธิ์ หลังศก. หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ ปี ๒๕๑๗ พระรุ่นนี้มีส่วนผสมผงเก่าของสมเด็จบางขุนพรหม และเข้าพิธีปลุกเสกเดียวกันกับพระสมเด็จ วัดบางขุนพรหม ปี17
โดยมีพระเกจิดังร่วมปลุกเสกมากมาย เช่น
1.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,

2. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,
3.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
4. หลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ
5.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์,
6.อาจารย์นอง วัดทรายขาว
7.หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ
8.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่

และพระเกจิดังๆในยุคนั้นอีกหลายท่าน ปัจจุบันหายากแล้ว

เปิด บูชาเบาๆ ราคาพิเศษองค์ละเพียง 350 บาท มีให้บูชา 3 องค์ครับ สภาพสวยๆประมาณในรูป (มีรอยคราบปลวกจับนิดๆครับ) บางเวปเปิดแพงกว่านี้มากครับ ที่เห็นเปิดเป็นพันก็มี



(รูปตัวอย่าง)

 

949.สร้อยประคำ ๑๐๘ เม็ด และน้ำเต้าดูดทรัพย์ เนื้อผงยาวาสนาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา

(สร้อยประคำ เนื้อผงยาวาสนาจินดามณี รุ่นนี้ใช้วิธีกดแม่พิมพ์ที่วัด แทนการปั้นมือในยุคแรก)

#สภาพสวยครับ #สร้างน้อย ประมาณปี 2520-2529
#รับประกันแท้ดูง่าย #หายากมาก

เปิดบูชาเบาๆ เส้นละ 7500 บาท มีให้บูชา 1 เส้นครับ พุทธคุณใช้แทนประคำหลวงปู่บุญท่านได้เลยแถมบูชาย่อมเยากว่าเยอะ คิดคำนวนจากปริมาณเม็ดยาก็คุ้มแล้วครับ แถมมีน้ำเต้าดูดทรัพย์ให้อีกลูกนึงด้วยครับ






เส้นนี้จะร้อยด้วยเชือกสีขาว จะออกก่อนไหม 7 สีนิดนึงครับ คงเหลือเส้นสุดท้าย เปิดให้บูชา ราคาพิเศษๆ

 

***เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับยาจินดามณีของหลวงปู่ทองอยู วัดท่าเสา ครับ ****

เครดิตข้อมูล : จากเพจเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ

ตำรา "ผงยาจินดามณี" ของโบราณกาลซึ่งสืบทอดกันมาจนถึงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม นั้นได้มีการถ่ายทอดให้กับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเพียงสององค์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับท่าน นั่นคือ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ซึ่งเป็นศิษย์เอกและหลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นหลานแท้ๆของท่าน หลวงพ่อทองอยู่ได้ทำการศึกษาตำราคัมภีร์ "ผงยาจินดามณี" จนมีความรู้แจ้งตลอดสามารถผสมผงตามตำราให้มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เสมอเหมือนของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
หากกล่าวถึงพระผงยาวาสนาจินดามณี อันมีคุณวิเศษครอบจักรวาลตามอธิษฐาน ปรมาจารย์เจ้าตำรับยาจินดามณีเท่าที่สืบทราบแจ้งชัด คือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงลุงของ หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร พระเถราจารย์ผู้เปรียบดั่งพญายูงทองที่หลีกเร้นในแนวไพร เพราะหากเปรียบกับพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคในเขตสมุทรสาครแล้ว ช่วงยุคหลังปี ๒๕๐๐ ล่วงมาถึง ๒๕๒๕ เวลานั้นเขานิยมทางสักเลขยันต์ทางเหนียวคงเป็นหลัก ลูกน้ำเค็มในย่านนี้มักพากันไปหาพระอาจารย์สายเหนียว เช่น หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อสุด วัดกาหลง, หลวงพ่อแง วัดบางไผ่เตี้ย ฯลฯ ท่านเหล่านี้วัตถุมงคลท่านมีประสบการณ์ทางเหนียวคงทั้งสิ้น
หลวงพ่อทองอยู่ท่านนิยมทางเมตตาและมหานิยม ส่งเสริมทางโภคทรัพย์สนับสนุนให้ฅนไปทำกิน ทางไม่ชอบทางนักเลงไม่ส่งเสริมศิษย์ให้ไปต่อยตี ท่านว่าเมตตาให้เขารักไม่เกียจดีกว่าทุกสิ่ง คือ ไม่ทั้งมิตรและมีกินไม่อับจนไปไหนก็สบาย นี่ท่านชอบแบบนี้ แต่ฅนหนุ่มสมัยนั้นเขาชอบทางเหนียวมากกว่า หลวงพ่อทองอยู่ท่านชอบทางเมตตาและนิรันตราย คือ ไปไหนให้ฅนเมตตาไม่พบเจออันตราย เหตุนี้วัตถุมงคลท่านจึงปรากฏผลทางบู๊ทางคงแบบโลดโผนน้อย เพราะโดยมากผู้บูชาพระของหลวงพ่อทองอยู่ จะเป็นพวกพ่อค้าแม่ขายพวกล่องเรือขายของ หรือเถ้าแก่ชาวจีนเสียเป็นส่วนมาก

พระผงยาวาสนาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา ท่านจัดสร้างตามตำราอย่างเคร่งครัด ต้องคำนวณฤกษ์ยามและกำลังวันให้เป็นมงคลสูงสุด รวมไปถึงส่วนประกอบที่เป็นว่านยาต่างๆ หลวงปู่ท่านตั้งใจทำน้ำมนต์ รดน้ำเองทุกวัน

ตำราการสร้างยาวาสนาจินดามณีนี้ หลวงพ่อทองอยู่ ศึกษามาจาก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ขณะอายุได้ ๑๗ ปี ท่านศึกษาวิชานี้จนแตกฉาน ได้เสริมเคล็ดตัวอย่าเพิ่มเข้าไปให้เข้าขลังยิ่งขึ้น

ทำให้ตัวยาวาสนาจินดามณีของวัดท่าเสา มีความแตกต่างจากตัวยาของสำนักอื่น ๆ ที่สืบวิชาไป คือ ท่านได้นำเอา ดอกบัวแฝด ซึ่งเป็นดอกบัวที่หายากในจำนวนดอกบัว ๑๐๐ ดอก ๑,๐๐๐ ดอก จะเกิดเป็นดอกบัวแฝดโดยธรรมชาติตามตำรานั้นยากนัก เกี่ยวกับเรื่องดอกบัวแฝดนี้ หลวงพ่อทองอยู่ เคยกล่าวไว้ว่า
ดอกบัวแฝดมวลสารแสนเข้มขลัง ตำราเดิมหลวงปู่บุญก็ไม่ได้มีการบันทึกไว้ เห็นมีบันทึกตัวยาไว้เพียง *เกสรบัว บุษบัน* แต่ในตำราหลวงพ่อทองอยู่บันทึกการทำยาวาสนาจินดามณีของท่านแต่ละครั้ง อย่างน้อยต้องจัดหาดอกบัวแฝดให้ได้อย่างน้อย ๕ คู่ ถึงจะอนุญาตให้ปรุงยานี้ได้
(ซึ่งศิษย์มาขยายความจนกระจ่างใจว่า นี้เป็นกลที่หลวงพ่อทองอยู่กำหนดขึ้นไว้ ก็เพื่อให้ผู้ที่คิดทำยาวาสนาจินดามณี มีความตั้งใจจริงแท้และความเพียร มิใช่เพียงคิดจัดหาเอาเพียงตัวยา ที่คิดว่าหาง่ายแล้วนำมาทำกันแบบขอไปที) หากถามว่าตำราเดิมของหลวงปู่บุญมีดอกบัวแฝดนี้ไหม หลวงพ่อทองอยู่เคยตอบศิษย์ถึงเรื่องนี้ว่า
สมัยหลวงปู่บุญเคยมีคนนำดอกบัวแฝดมาถวาย ท่านพิจารณาดูแล้วว่าเป็นของมงคลหายาก จึงได้นำมาใส่เสริมลงไปในตัวยาของท่านด้วย แต่มิได้มีการบันทึกไว้ในตำรายาอย่างเป็นทางการซึ่งดอกบัวเปรียบดั่งเครื่องบูชา พระพุทธองค์ เป็นเครื่องหมายแสดงถึงผู้มีปัญญา แสดงดั่งผู้ที่สามารถเห็นธรรมแลบรรลุธรรมได้ดั่งบัวที่พ้นน้ำ และยิ่งมีลักษณะเป็นดอกแฝดซึ่งถือเป็นของหายาก ซึ่งลักษณะความเป็นของที่เป็นแฝดนี้ แต่โบราณเชื่อว่าเป็นมงคลทั้งสิ้น ดั่งลูกแฝด
หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๑ รวมสิริอายุ ๙๒ ปี ๘ เดือน ๑๒ วัน ๕๖ พรรษา หลังจากท่านมรณะภาพแล้วสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย เพียงแต่แห้งไปเท่านั้น...

**ผงจินดามณีมนต์พระกาฬ หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา ดีทะลุถุงออกมาเลย นี่คือจินดามณีมนต์พระกาฬของเเท้เเน่นอน ต้องเเบบนี้ จริงๆเเล้ว #ทำยากกว่ายาจินดามณีอีกนะ ที่ไม่ค่อยได้เห็นออกมาเพราะท่านหวงของท่านมาก ท่านจะเเจกเฉพาะคนที่สมควร หลวงปู่ทองอยู่ปลูกพญาว่านยาไว้ที่ระเบียงกุฏิ เเละท่านพิถีพิถันมากดูเเลอย่างดี ทำน้ำมนต์รดว่านเองทุกวัน เเละอำนาจใจพลังจิตก็เหลือรับประทาน**
(คัดลอกส่วนหนึ่งจากบทสนทนาของพระอาจารย์ จากเพจเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ)

 

**** ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประดับความรู้ครับ ********

#อุปเท่ห์ของเม็ดยาวาสนาจินดามณีโดยย่อ

"หากใครได้รับประทานแล้ว จะบันดาลให้ เกิดสิริสวัสดีและลาภผล"

"หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้"

"ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน"

********************************


**ผงยาวาสนาจินดามณี ตำรับหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว**

ตำรับการสร้างยาจินดามณี หรือยาวาสนา ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ดั้งเดิมนั้นเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา ฉบับที่มาอยู่วัดกลางแก้วเป็นตำรับสมุดข่อย ลงทองล่องชาด กล่าวเอาไว้ถึงกรรมวิธีการสร้างที่พิสดารและอานุภาพอัศจรรย์อย่างยิ่ง

กรรมวิธีการสร้าง ประกอบด้วยพิธีกรรมและเครื่องยา แยกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับยาพรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆ ในเบื้องต้นของของตำราว่า

“จินดามณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราด ดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป้นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็วิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย ”

นอกจากนี้ยังได้แยกเครื่องยาไว้อย่างละเอียดว่าสมุนไพร ชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไร บดเป็นผงละเอียด เคล้ากับตัวประสาน สมุนไพรนั้นมีมากมายหลายชนิด แยกออกเป็นสัดส่วนว่าส่วนไหนใช้เท่าใดและให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างไรบ้าง เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้วก็เอาเครื่องยามาประสม กันมีคาถาฤาษีประสมยาประกอบไว้อีกโสตหนึ่ง

การจัดพิธี ท่านให้เลือกเอาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์จัดว่าดีเยี่ยม ให้จัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่าง ๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถและมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วย ผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลง ยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุ และฆราวาสที่ร่วมพิธีพร้อมกันโดยเฉพาะฆราวาสนั้น หากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโบสถเช่นเดียวกัน

ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยาจะต้องท่องคาถาปั้นเม็ดยาได้ เพื่อใช้ภาวนาตลอดระยะเวลาการปั้นเม็ดยา และยาที่ปั้นสำเร็จเป็นเม็ดในพิธีแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์อีกอย่าง น้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร

อุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณี

ก่อนใช้ยาท่านให้เสกยาด้วยคาถาดังนี้

“ จินดามณี ปิยังมันตัง ยะสังธาสังโกมัง อุปะสันติ สิเนหัง มาตาปิตาวะ โอระสัง ปะโพตันจะ มหาราชา ตะวังมังโป สัตตุโนทีปัง กาเรเทโว สุโป เสทิกิญจิ เทโว เยสักโก ปัชชัง ทัสมิง กินเนวา ทัตวาปิยัง กันตัง สาริปุตโต ภวันตุเม สิทธิลาภัง ชนานะเย มณีจินดา ปิยัง จะธะนัง สัพเพชะนา พหูชะนา ปิยังมะมะ ”

นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงอานุภาพของการใช้ยาจินดามณีไว้ ดังนี้

หากใครได้รับประทานแล้วจะบันดาลให้เกิดสิริสวัสดีและลาภผล

หากบูชาเอาไว้จะป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรค

ผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใด ๆ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน

ผู้ใดต้องโทษทัณฑ์ใด ๆ ก็บรรเทาเบาบางลงได้

ผู้ใดที่ป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หาได้รับประทานยาจินดามณีแล้วก็จักรรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้น ๆ

สำหรับวิธีการใช้ได้กล่าวไว้ในส่วนท้ายตำรา ขอยกมาบางส่วนดังนี้

"ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรค หรือท้องเดิน ให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูแลน้ำปูนใสแล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไป ดื่มรับประทานหายจากโรคแล"

"แก้โรคเสมหะดีขึ้น ให้ใช้ดีหมีผสมน้ำร้อนแล้วใส่ยาหอมจินดามณีฝนผสมลงไปรับประทาน"

"ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย “ เอกัง จินดามณีมันตัง ” เป็นเมตตามหานิยมแล้วเอาน้ำประพรมศีรษะแล้วอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลาจะชนะความ สิ้นแล และเป็นเมตตามหานิยมแก่คนทั้งปวง"

ให้มีปัญญาดี เสกด้วยพระคาถานี้ 3 จบ

“ ตะโตโส ปัณฑิโต ปีหิโล อัตถะ ทัสสีมะ โหสะโถ ” แล้วอมยา จะเล่าบ่นมนตร์คาถา สารพัดวิชาจำได้สิ้นที่ลืมหลงก็จะรำลึกได้แล

ให้เสกด้วย “เอกัง จินดามณี นาคา มันตัง” ไปในที่ไหน ๆ งูมิกัด

ให้ภาวนาด้วย “อุ อา กะ สะ” ทำไร่ทำนาทำการงานมิรู้เหน็ดเหนื่อยแล

ให้ภาวนาด้วย “บทยันทุนนิมิตตัง อามังคะ สัญจะ ๆ” จบหนึ่งเอายาติดตัวไว้จะกลับลางนิมิตร้ายให้กลายเป็นดีแล

ให้อมเม็ดยาเอาไว้แล้วนั่งเหนือลม ภาวนาว่า “อิตถี จิตตัง ปิยัง มะมะ”หญิงคนรักจะรักและหลงเรามิหนีห่างกายไปไหนได้เลยแล

เมื่อจะเดินทางไปสารทิศไหน เข้าหาเจ้านายผู้ใหญ่ให้เอายาแช่น้ำ ใช้น้ำมนต์สระหัว อมเม็ดยาและภาวนาว่า “สัตถาเทวะมนุสานัง พุทโธภะคะวาติ” 7 ครั้ง ผู้ใหญ่ เจ้านายหายโกรธช่วยเหลือเราทุกทางแล

ถ้าเผอิญด้วยหมู่ศัตรูคิดร้ายให้อมเม็ดยาแล้วภาวนาว่า “พามานา อุ กะ สะ นะ ทุ” 8 คาบ ชนะศัตรู ศัตรูทำร้ายเรามิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล

เอาเม็ดยาติดตัวไว้ป้องกันสรรพโรคภัย ป้องกันเสนียดจังไร กันยายีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัดพิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อยาเมา เอารากมะนาวหนึ่ง มะปรางหนึ่ง หัวหนุมานกระทืบแท่นหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสายกินเถิดมิเป็นไร อย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้วถ้าติดเม็ดยากับตัวไปมิต้องเราเลยแล

ให้มีเม็ดยาติดตน ถึงคราวอับจนจะได้ใช้ ตามืดหูมืดได้ใช้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษ คุณมากนัก ตีค่าไว้ถึง 8 ตำลึงทองแล

********************************