พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    99
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    495. พระดีนอกวัดของหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ พระสมเด็จปรกโพธิ์สะดุ้งกลับ วัดเขาตะเครา รุ่นสอง ปี 2516 จ.เพชรบุรี พิมพ์ฐานผ้าทิพย์ ให้บูชา 650 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-15_10-15-18.png

    สมเด็จปรกโพธิ์สะดุ้งกลับ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี ปี2516 เนื้อผงผสมกรุเก่าหลายๆที่ ..ผงเก่าสมเด็จฯ ..ผงกรุวัดสามปลื้ม ..ผงเก่าคณาจารย์ทั้งพื้นที่และทั่วประเทศ สร้างในวาระสมเด็จฯพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมารฯ(ในขณะนั้น) เสด็จฯเททองหล่อฯหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา ในปี2516 ..มีวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นหลายแบบด้วยกัน พระบูชา พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ พระเครื่องเนื้อผง ฯลฯ.
    พิธีปลุกเสกหมู่ยิ่งใหญ่ประจำปี มีคณาจารย์พื้นที่หลายท่านอาทิ
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
    หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ(พระน้องชายหลวงพ่อแดง)
    หลวงพ่อแล วัดพระทรง
    หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    หลวงพ่อทอง วัดใหม่บางจาน
    หลวงปู่แผ่ว วัดโตนดหลวง
    หลวงพ่ออิทร์ วัดยาง ฯลฯ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2022
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    496.สุดยอดเหรียญดี พิธีใหญ่ เหรียญหนึ่งในสยาม พระนเรศวรมหาราช พระไพรีพินาศ 2519 มี 2 พิมพ์

    1.พิมพ์รูปไข่ ให้บูชา 1650 บาท

    upload_2022-7-15_10-53-18.png
    2. พิมพ์เสมา ให้บูชา 1850 บาท

    upload_2022-7-15_10-54-37.png

    เหรียญหนึ่งในสยาม เป็นชื่อที่ใช้เรียกเหรียญรูปเหมือนของสมเด็จพระนเรศวรและอีกด้านเป็นพระไพรีพินาศ ซึ่งจัดสร้างขึ้นโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่9 เมื่อปี 2519 เพื่อพระราชทานให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของ ชาติ และพระเถราจารย์ที่เข้าร่วมพิธีปลุกเสกก็เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่านซึ่งประกอบไปด้วย
    สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวร
    หลวงปู่ธูป วัดแค
    หลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์
    หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม
    พระราชพุทธิรังษี วัดหนองจิก
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพ็ชร
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    หลวงพ่อชื่น วัดตึก
    หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว
    หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    หลวงพ่อพล วัดหนองคณฑี(สระบุรี)
    และหลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง

    เหรียญพระไพรีพินาศ พิธีปลุกเสกดำเนินการในพระอุโบสถ์วัดพระแก้ว เหรียญที่จัดสร้างขึ้นนี้มีสามแบบ คือ มี ๓ แบบ คือ
    แบบ ๑ เหรียญเงิน ลักษณะเหรียญทำเป็นรูปเสมา สูง ๓.๔ เซนติเมตร กว้าง ๒.๑ เซนติเมตร จำนวนเหรียญที่สร้าง ๑๐๐ เหรียญ (แจกแม่ทัพ และ นายพล )
    แบบ ๒ เหรียญโลหะผสมรมดำ ลักษณะเหรียญทำเป็นรูปไข่ สูง ๓.๗ เซนติเมตร กว้าง ๒.๔ เซนติเมตร จำนวนเหรียญที่สร้าง ๗,๐๐๐ เหรียญ (แจกนายทหาร )
    แบบ ๓ เหรียญโลหะผสมรมดำ ลักษณะเหรียญทำเป็นรูปเสมาเหมือนกับเหรียญเงิน สูง ๓.๔ เซนติเมตร กว้าง ๒.๑ เซนติเมตร จำนวนเหรียญที่สร้าง ๑ ล้านเหรียญ (แจกชั้นประทวน )

    เหรียญหนึ่งในสยามโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิมพ์รูปไข่ จัดเป็นของดีที่หาได้ยาก ในปัจจุบัน รวมถึงประสบการณ์ที่ดีเด่นในทุกด้าน จึงเป็นที่เสาะแสวงหากันอย่างมากครับ แต่ส่วนใหญ่จะเจอกันแต่พิมพ์เสมามากกว่า
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    497. เหรียญพระพุทธชินสีห์ใบโพธิ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2516 ให้บูชา 799 บาท

    upload_2022-7-15_11-14-49.png

    upload_2022-7-15_11-15-4.png

    เหรียญ พระพุทธชินสีห์ รุ่นแรก " วัดบวรนิเวศวิหาร " ปี2516 สร้างเป็นที่ระลึกฉลองครบ 5รอบ สมเด็จฯพระญาณสังวรฯ วัดบวรนิเวศฯ.
    สร้างพร้อม พระผงศาสดา รุ่นแรก ปี16 และ เหรียญรูปไข่พระศาสดาหลังตราชั่ง
    เหรียญรุ่นนี้จัดอยู่ในทำเนียบวัตถุมงคลยุคแรกๆ ของท่าน ก่อนดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระสังฆราชฯ ในปี2532.
    ด้านหลังเหรียญ เป็นพระคาถาที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงผูกขึ้นเช่นเดียวกับเหรียญพระพุทธชินสีห์สมโภชพระสมณศักดิ์ ว่า.

    "อิสฺวาสุรตนตฺตยํ รกฺขตุ ตวํ นิรนฺตรํ โหตุ สุวฑฺฒโน สาธุ สพฺพตฺถ ญาณสํวโร"

    อันมีความหมายที่ทรงแปลไว้ว่า
    "ขอรัตนะทั้งสาม คือพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ จงรักษาท่านชั่วนิรันดร์ จงเป็นผู้เจริญดี เป็นคนดี และจงเป็นผู้สำรวมในญาณ(การระลึกหยั่งรู้)ทุกเมื่อแล"
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    498. พระกริ่งที่ใรหลวง ร.9 ทรงพระราชวินิจฉัย แก้ไขพุทธลักษณะด้วยพระองค์เอง พระกริ่ง ภปร. วัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ.2508เนื้อโลหะรมดำ ให้บูชา 2,500 บาท

    upload_2022-7-15_11-21-54.png

    upload_2022-7-15_11-23-37.png

    พระพุทธรูปและพระกริ่ง ภ.ป.ร. วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2508 ที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ เดิมคณะกรรมการจะจัดสร้างตามแบบพระพุทธรูป ภ.ป.ร. พระกฐินต้น ปี2506 วัดเทวสังฆาราม(วัดเหนือ) กาญจนบุรี ทุกประการ แต่เมื่อคณะกรรมการได้นำพระพุทธรูป ที่ออกแบบสร้างแล้วขึ้นทูลเกล้าฯถวาย...ท่านทรงพระมหากรุณาธิคุณฯ แก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบให้ถูกต้องเหมาะสมกับพระพุทธลักษณะยิ่งขึ้น ด้วยพระบรมราชวินิจฉัยของพระองค์เอง

    พระองค์ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย แก้ไขพุทธลักษณะคล้ายคลึงใกล้เคียงไปทางพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยเป็นอันมาก นอกจากนี้ยังได้พระราชทานภาษิต สำหรับจารึกไว้ที่ฐานด้านหน้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชาติว่า ทยฺยชาติยา สามคฺคิย สติสญฺชานเนน โภชิสิย รกฺขนฺติ แปลว่า คนชาติไทย จะรักษาความเป็นไท อยู่ได้ด้วยมีสติสำนึกอยู่ในความสามัคคี ส่วนที่ฐานด้านหลังจารึกใจความว่า เสด็จพระราชดำเนินในพิธีหล่อ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2508
    โดยมอบหมายให้ศาสตราจารย์ ไทฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ นายช่างศิลป์กรมศิลปากร ปั้นหุ่นขึ้นใหม่ ได้ทรงควบคุมการปั้นหุ่น ให้อยู่ในพระบรมราชวินิจฉัยโดยตลอด
    ฉะนั้น พระพุทธรูป ภ.ป.ร. รุ่นนี้ จึงสมบูรณ์แบบครบถ้วน รวมเอาสัญลักษณ์ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าไว้ด้วยกันอย่างบริบูรณ์ มีคุณค่าทั้งทางศิลปะประติมากรรม ประวัติศาสตร์ และคุณค่าแห่งจิตใจ
    พิธีกรรม

    การประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ครั้งนี้เป็นเวลา 3 วันโดยในหนังสือ จาตุรงคมงคล ของวัดบวรนิเวศ ได้บันทึกพิธีกรรมไว้ว่า
    วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เวลา 16.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงประเคนผ้าไตรแด่ สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ พร้อมพระสงฆ์ที่มาในพิธีพุทธาภิเษกทั้งหมดแล้ว เฉพาะสมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ 10 รูป ที่เจริญพุทธมนต์ออกไปครองผ้า แล้วกลับมานั่งยังอาสนะ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย สมเด็จพระราชาคณะประธานพระสงฆ์ถวายศีลจบ พระราชครูวามเทพมุนีถวายน้ำเทพมนต์แล้วพระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ และลงคาถาในแผ่นโลหะที่จะผสมหล่อพระพุทธรูปจบแล้ว
    ได้เวลาพระฤกษ์ (17.16 – 17.41 น.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง ทรงตั้งสัตยธิษฐาน ถวายเทียนทองนั้นแต่สมเด็จพระราชาคณะผู้เป็นประประธานสงฆ์จุดเทียนชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรบัณเฑาะว์และดุริยางค์ พระสงฆ์เจริญคารา จุดเทียนชัยจบแล้วถวายอนุโมทนาถวายดิเรก (ไม่ออกจากพระอุโบสถ คงนั่งอยู่ตามเดิม) เจ้าพนักงานนิมนต์พระราชาคณะที่นั่งปรกขึ้นนั่งยังอาสนะหน้าตู้เทียนชัย และพรสงฆ์ที่จะสวดภาณวารขึ้นนั่งยังเตียงมณฑล พร้อมแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชาธรรมที่มณฑลพระสวดภาณวาร เสด็จพระราชดำเนินกลับ พระสงฆ์สวดภาณวารต่อไปคณาจารย์นั่งปรกทำการปลุกเสกโลหะต่าง ๆ ตลอดคืน พระราชครูวามเทพมุนีประกอบพิธีบูชากุมภ์ประพรมน้ำเทพมนต์ปลุกเสกโลหะต่าง ๆ

    วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้เสด็จฯ พระภาวนาจารย์และพระเกจิอาจารย์ หมุนเวียนกันนั่งปลุกเสกโลหะ ที่จะใช้หล่อพระ และถ่ายรูปพร้อมกันเป็นที่ระลึก โดยมีพิธีปลุกเสกตลอดคืนเช่นกันกับวันแรก

    วันอาทิตย่ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปยังปะรำพิธีมณฑลหน้าตึกมนุษย์นาควิทยาทาน โรงเรียนวัดบวรนิเวศฯ ทรงจุดธูปเทียนสักการบูชาพระรัตนตรับเสร็จแล้ว จอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ประธานการสร้าง อ่านรายงานกราบบังคมทูลการสร้างพระพุทธรูป, พระกริ่ง ภ.ป.ร.
    จากนั้นได้เวลาพระฤกษ์ 16 นาฬิกา 13 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปยังเบ้าหล่อพระแล้วทรงหย่อนทองสำหรับหล่อพระพุทธรูป มีพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ในเตาแรกไปจนครบ 32 เตา พระสงฆ์ในวิหารและกับพระคณาจารย์ที่นั่งอยู่รอบพิธีมณฑลทั้ง 8 ทิศ เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัยสังข์แตรดุริยางค์ พระราชครูวามเทพมุนีรดน้ำสังข์ที่เบ้าภายหลังหล่อพระทุกเบ้าตามลำดับ เสร็จแล้วเสด็จฯไปประกอบพิธียังพระเจดีย์หลังพระอุโบสถ พระพุทธชินสีห์ต่อไป

    วัตถุประสงค์
    วัตถุประสงค์ของการสร้างพระพุทธรูป ภ.ป.ร. วัดบวรนิเวศวิหาร ปี พ.ศ. 2508 เพื่อนำรายได้ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อบูรณะพระอุโบสถวัดบวรนิเวศฯ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินสีห์ อันเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่กับพระพุทธชินราช และเป็นพระอารามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ ประทับขณะทรงผนวช ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างโรงเรียนขึ้นที่วัดเทวสังฆาราม(วัดเหนือ) การญจนบุรี อันเป็นพระอารามที่เริ่มดำริสร้างพระพุทธรูปนี้ขึ้น ส่วนหนึ่งพระราชทานแด่องค์การสาธารณกุศลตามพระราชอัธาศัย

    วัตถุมงคลที่จัดสร้าง
    คณะกรรมการได้กำหนดการสร้างวัตถุมงคล แบ่งออกเป็น 3 ขนาดด้วยกัน และกำหนดราคาการสั่งจองไว้ดังนี้
    1.) พระพุทธรูป ภ.ป.ร. ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว รมดำ องค์ละ๑,๖๐๐บาท
    2.) พระพุทธรูป ภ.ป.ร. ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว รมดำ องค์ละ๕๐๐บาท
    3.) พระกริ่ง ภ.ป.ร. สัมฤทธิ์ รมดำ และ กะไหล่ทอง องค์ละ๕๐บาท

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2022
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    499. พระศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองหลวง เหรียญ พระแก้วมรกต ๓ ฤดู พร้อมกล่อง พระปรมาภิไธย ภปร ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี ฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม รุ่น พระราชศรัทธา ให้บูชาชุดละ 1250 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-15_12-40-2.png


    upload_2022-7-15_12-39-15.png


    เหรียญพระแก้วมรกต ภปร ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2525 ที่แม้จะมีการจัดสร้างจำนวนมาก แต่ด้วยความทรงคุณค่าของเหรียญ ทำให้ทุกคนหวงแหนยิ่งนัก ปัจจุบันหาดูหาเช่ายากมาก นับเนื่องในปี พ.ศ.2525 อันเป็นปีมหามงคลแห่งบรมราชจักรีวงศ์ โอกาสกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ได้มีการตระเตรียมการจัด
    “งานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี” อย่างยิ่งใหญ่ และหนึ่งใน
    ภารกิจสำคัญ คือ การบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวังแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน ในการนี้ คณะกรรมการฯ ได้กราบบังคมทูล ขอพระราชทานจัดสร้าง
    “เหรียญพระแก้วมรกตหลัง ภปร”
    ขึ้นเป็นการเฉพาะ เพื่อเป็นที่ระลึกและสมนาคุณแก่พสกนิกร ที่ต้องการร่วมบริจาคสมทบทุนโดยเสด็จพระราชกุศลในการบูรณะครั้งนี้ เมื่อการจัดสร้างเหรียญแล้วเสร็จสมบูรณ์ ได้ประกอบพระราชพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2524 ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว โดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ทรงเป็นประธาน พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    พระมหาเถระ 10 รูป นั่งปรกเจริญภาวนาอธิษฐานจิตในมณฑล พิธีราชวัตรฉัตรธง ประกอบด้วย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อครั้งยังทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ “สมเด็จพระญาณสังวร (สุวัฑฒน มหาเถระ) วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ,
    พระมงคลราชมุนี (สุพจน์ โชติปาโล) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ,
    พระราชสังวรญาณ (สนิท ถิรสินิทฺโธ) วัดศีลขันธาราม อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง,
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี,
    หลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตมงฺกโรวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี,
    พระครูพิพิธพัชรศาสน์ (หลวงพ่อจ้วน) วัดพระพุทธบาทเขาลูกช้าง อ.ท่ายา
    จ.เพชรบุรี,
    หลวงพ่อสุด วัดกาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร,
    พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร,
    พระครูประดิษฐ์นวการ วัดวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    และ พระครูญาณวิจักขณ์ (พระอาจารย์ผ่องจินดา) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ


    ในเวลาเดียวกันนี้ พระภาวนาจารย์และพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ
    ทั่วราชอาณาจักรอีก 90 รูป ได้ร่วมพิธีนั่งปรกเจริญภาวนาแผ่จิตตานุภาพ ณ วัดที่ประจำอยู่ ส่งพลังจิตภาวนารวมเป็นหนึ่งเดียวส่งไปยัง “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” มีอาทิ

    หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี,
    หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม,
    หลวงพ่อละมูล วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี,
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม,
    หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง,
    หลวงปู่คำดี วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย,
    หลวงพ่อไพบูลย์ วัดรัตนวนาราม (อนาลโย) จ.พะเยา
    หลวงพ่อสงฆ์ จันทสโร วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร,
    หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    จ.สุรินทร์, หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร,
    หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น,
    หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง,
    หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด,
    หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.อุดรธานี,
    หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี,
    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่,
    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2022
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465

    ###ปิดครับ
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465

    ###ปิดครับ
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    500. พระดีพิธีศักดิ์สิทธิ์มากครับ!!! พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ สำนักปู่สวรรค์ พ.ศ.2516 ให้บูชา 999 บาท ปิดครับ


    upload_2022-7-15_20-22-12.png

    ข้อมูล รายละเอียด แบบเต็มๆ เวอร์ชั่น สุดยอดทั้งมวลสาร และพระอาจารย์ ปลุกเสก
    http://poosawan.org/index.php/2013-07-29-08-39-22/126-2013-11-20-11-21-40

    พิธีลงพลังจิตและมหาพุทธาภิเษก

    ในการจัดสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศนี้ท่านบรมครูสำนักปู่สวรรค์มีพระบัญชา และประทานขั้นตอนแนวทางในการดำเนินการจัดสร้างอย่างพิถีพิถัน ให้ถูกต้องตาม เทวะบัญญัติ พรหมบัญญัติ เพื่อให้เกิดความ เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์สมเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุค จึงได้มีการลงพลังจิตมวลสารก่อนที่จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกถึง ๒ ครั้งดังบันทึกต่อไปนี้

    พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๑

    ระหว่างวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๑๖ - ๗ เมษายน ๒๕๑๖ เป็นพิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธ์ ณ สำนักปู่สวรรค์ ( วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ , เป็นวันเสาร์ห้า ) ในพิธีนี้มีพระเถระฝ่ายโลกมนุษย์ผู้ทรงวิทยาคุณ รอบรู้พุทธศาสน์และวิทยาคม จำนวน ๒ รูป คือ พระราชญาณดิลก ( ชิต กันตสีโล ) วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์ และพระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม ร่วมนั่งปรกด้วย

    พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๒

    พิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สองนี้ จัดขึ้น เมื่อ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชา ณ ถ้ำสาลิกา หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้สำเร็จของโลกวิญญาณที่เมตตาเสด็จมาลงพลังจิตในพิธีนี้ได้แก่

    ๑.สมเด็จพระสังฆราชคุรูปาจารย์ หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) องค์ประธานสำนักปู่สวรรค์

    ๒.สมเด็จพระพุฒาจารย์( โต ) พรหมรังสี องค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์

    ๓.ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เจ้าพิธีการแห่งโลกวิญญาณ

    ๔.องค์อมรินทร์จอมเทพ

    ๕.ท้าวมหาพรหมสามภพ

    ๖.ท้าวมหาพรหมสามวิจิตร

    ๗.ท้าวจตุรพรหม

    ๘.พระวิษณุมหาเทพ

    ๙.พระนาคราช

    พระสงฆ์ฝ่ายโลกมนุษย์ คือพระอาจารย์ฮ้อ กัสสะโร เป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดคืน
    พิธีมหาพุทธาพิเษก

    วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๗ เป็นวันเริ่มต้นพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีบันทึกการจัดงานดังนี้

    เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาแด่พระภิกษุสงฆ์และพระราชาคณะที่รับอาราธนามาร่วมในพิธี

    เวลา ๑๓.๐๐ น. รองนายกรัฐมนตรี สุกิจ นิมมาเหมินทร์ เดินทางมาถึงหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาเพื่อเป็นประธานเปิดงาน คุณบุญยง ว่องวานิช เลขาธิการสำนักปู่สวรรค์ เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน

    หลังจากท่านรองนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานแล้ว ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล, อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ , พล.ต. ถวิล เกษตรทัต อัญเชิญธงชาติไทย พานพุ่มและธูปเทียนแพ พร้อมทั้งเรียนเชิญท่านรองนายกรัฐมนตรี อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา เป็นปฐมฤกษ์ กองดุริยางค์กองทัพบกบรรเลงเพลงชาติ

    ศาสตราจารย์ ดร.หลวงสมานวนกิจ , พระครูวามเทพมุณี , คุณฉันท์ บุรารักษ์ นำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีขึ้นสู่ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์ เพื่อจุดเทียนชัย ประจำชาติไทย ต่อจากนั้นจึงเรียนเชิญเอกอัครราชทูตอีก ๘ ประเทศอัญเชิญธงชาติและจุดเทียนชัยของแต่ละประเทศตามลำดับ พระสงฆ์จำนวน ๙๙ รูป สวดชยันโต ตลอดพิธี
    ๙ มวลสาร มงคล ในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ๑.มวลสารปฐมบทอันใช้คุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศคือ ดินศักดิ์สิทธิ์จากปูชนียสถาน ๙ ประเทศที่อัญเชิญมาจาก ไทย ลาว เขมร พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และเนปาล ผืนแผ่นดินในประเทศดังกล่าว เชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์เมื่อครั้งพระพุทธกาลมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้เนื้อดินจากสถานที่เหล่านั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพุทธบารมี แห่ง พระปัญญาคุณ พระกรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระสมเด็จดินเก้าประเทศจึงเป็นพระพุทธปฏิมากรรมที่ทรงด้วย บุญญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ ด้วยกระแสแห่งพุทธานุภาพโดยตรงจากองค์พระบรมศาสนดาเอกของโลก

    ๒.มวลสารทุติยบท คือว่านมงคล ๑๐๘ ประการ อันเป็นเนื้อหาที่เป็นมงคลยิ่งอาธิเช่น
    -ว่านเศรษฐี มีคุณภาพทางกระทำให้เกิดความมั่งคั่งสมบูรณ์นาฐานะกิจการอาชีพ(สัมมาชีพ) ก่อให้เกิดความมั่นคงในฐานะทางครอบครัวอีกส่วนหนึ่งด้วย
    -ว่านชัยมงคล มีคุณในทางก่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตแก่เคหสถานและอาณาบริเวณอันเป็นที่อยู่อาศัย
    -ว่านมหาอุตม์ ขึ้นชื่อลือมาแต่ครั้งโบราณว่าใครมีว่านมหาอุตม์แล้วอาวุธปืนไม่ระคายผิวหนังซ้ำสามารถกระทำให้ดินระเบิดหมดอำนาจลงได้ด้วย
    -ว่านเสน่ห์จันทน์ มีคุณาธิคุณทางพืชอาถรรพณ์ก่อให้เกิดเสน่ห์เกิดความรักใคร่แก่ผู้ที่ได้ประสบพบปะสมาคมด้วย นี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาด้านว่านที่มีอยู่ในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ๓.มวลสาร ตติยบท คือดอกไม้นานาพันธุ์ ๑๐๘ พันธุ์ อาธิเช่น เกสรดอกบุนนาค เป็นยาบำรุงหัวใจให้กระชุ่มกระชวย เบิกบาน เกสรสัตตบุศย์ เกสรโกมุท เกสรลินจง อันดอกไม้นานาพันธุ์พร้อมด้วยเกสร ๑๐๘ ชนิดทุกๆชนิดล้วนมีอารักขเทพประจำรักษาอยู่ด้วยกันทั้งหมดดังนั้นมวลสารตติยบทในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จึงเป็นที่สถิตแห่งเทพเจ้าประจำบุปผาชาติถึง ๑๐๘ องค์ พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศจึงทรงด้วย เทวานุภาพ อีกประการหนึ่งด้วย

    ๔.มวลสารจตุตถบท คือผงสมเด็จอิทธิเจ (รวมด้วยผงพระพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงปถมัง หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่าผงวิเศษ ๕ ประการ

    ผงอิทธิเจ เป็นผงที่เกิดจากดินสอดินขาวปั้นเป็นแท่งๆ มีกรรมวิธีการทำดินสอผงนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่จะทำดินสอนี้ชนิดนี้ใช้ได้จะต้องเป็นผู้สำเร็จในวาชาไสยเวทย์วิทยาคุณ ( สายขาว ) อันเป็นวิทยาการที่มีอาจารย์น้อยคนที่จะเรียนสำเร็จได้ แต่เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี ท่านเรียนวิชานี้สำเร็จตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

    เมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านทำผงได้แล้ว ท่านก็เก็บผงนี้ไว้ในเต้าปูนแดง กาลต่อมาได้มีอุบาสกท่านหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ ( กล่าวกันว่าอุบาสกผู้นี้เป็นคนวัดสังเวชวิศยาการ บางลำพูบน ได้ติดตามเจ้าประคุณสมเด็จ มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จเป็นสามเณร )

    ผงวิเศษห้าประการนี้ได้รับมรดกมาจากท่านผู้เฒ่าแห่งวัดสังเวชฯมอบให้นำมาคุลีการในการสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศ และการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศในครั้งนี้มีคณาจารย์ได้นำผงวิเศษห้าประการของสมเด็จฯผสมลงทั้งหมด ( สำนักวัดสังเวชวิศยาราม มีพระอาจารย์คือ พระบวรวิริยเถร )

    ๕.มวลสารปัญจบท ผงพระคาถาชินปัญชร เป็นผงที่เกิดจากดินสอหินขาวบริสุทธิ์ ดินขาวชนิดนี้ในต่างประเทศเรียกว่า ดินกัวลีน เป็นของบริสุทธิ์โดยธรรมชาติมีค่าสูงมาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ท่านเป็นผู้ค้นพบบ่อดินขาวนี้ คราวที่ท่านธุดงค์ไปเมืองกำแพงเพชร เป้นบ่อดินบริสุทธิ์ที่สมเด็จค้นพบได้อย่างอัศจรรย์ ( และจนกระทั่งปัจจุบัน [ ข้อมูลอ้างอิงเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ ] ยังไม่มีผู้ใดสามารถค้นพบบ่อดินชนิดนี้อีกเลย )

    ท่านได้นำดินขาวมาทำเป็นดินสอมงคล และเขียนพระคาถาชินปัญชรด้วยอักขระขอมลงในกระดานชนวนไม้มะละกอ จากนั้นก็เก็บผงสีขาวนั้นไว้นำมาสร้างเป้นพระประติมากรรมองค์เล็กๆบังเกิดกิติคุณความศักดิ์สิทธิ์ จนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงตรัสถามสมเด็จฯ

    ๖.มวลสาร ฉมหามงคล ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ผงนี้เกิดจากผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่องค์พระพรหมและเทพยเจ้าชั้นสูงในพรหมโลกร่วมเป็น “ เทพสภา ” สร้างไว้ในสำนักปู่สวรรค์ มีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเครื่องคุ้มครองปกป้องภัยแก่ทหารตำรวจและผู้มีส่วนในการพิทักษ์เอกราชของชาติไทยที่มีชีวิตอยู่ในแดนทุรกันดาร

    ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช นับเป็นผงที่มีความพิสดารอัศจรรย์เพราะผงนี้จะรวมตัวกันเป็นรูปร่างต่างๆและจะปรากฏในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ เมื่อการสร้างพระได้ผ่านไปครบ ๙ ปีแล้ว รูปลายลักษณะเป็นภาพมงคลประจำแต่ละองค์ไม่เหมือนกันแล้วแต่ผู้เป็นเจ้าของพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จะบูชาหนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง รูปลายลักษณ์มงคลอาจเกิดเป็นภาพ วัตถุทิพย์ ในสรวงสวรรค์อาจเกิดเป็นภาพเครื่องมงคล ๙ ประการอันได้แก่ คธา สังข์ จักร หม้อน้ำ ธงสามชาย กรอบหน้า โคอุคุภราช ขอช้าง อันงดงามในเมื่อถึงวาระปีที่เก้าแห่งการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

    ๗.มวลสารสัตตมงคล น้ำพระพุทธมนต์ในพิธีเสาร์ ๕ สามโลก ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ของไทยเราถือกันโดยเคร่งครัดว่าวันเสาร์ ๕ ( เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ วันเสาร์ ) เป็นวันสำคัญในทางไสยศาตร์ ( ไสยฝ่ายขาวอันเป็นเวทวิทยาการที่ให้คุณแก่มนุษย์โดยฝ่ายเดียว

    เทพพระเสาร์ อันเป็นดาวประจำดาวเสาร์ จะเสด็จมาประกอบพิธีบวงสรวงเทพยเจ้าพระผู้เป็นเจ้าและบำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนา ( ด้วยปัตตานุโมทนามัยคือ อนุโมทนาการบุญของมนุษย์ )ในวันเสาร์ห้านี้ น้ำพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ๕ นี้จึงเป็นน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และน้ำพรหมมนต์พร้อมกันในคราวเดียวกัน จึงเกิดความศักดิ์สิทธิ์สูงยิ่ง

    น้ำพระพุทธมนต์พิธีเสาร์ห้า ๓ โลก ที่นำมาผสมสร้างพระคราวนี้สำเร็จโดยการอัญเชิญ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก ร่วมทำพระปริตร พร้อมกันไป น้ำพระพุทธมนต์ตำรับนี้จึงเรียกว่า น้ำทิพย์อันเกิดจาก พรหมฤทธานุภาพ และเทวานุภาพ ด้วยกันสองประการ

    ๘.มวลสารอัฏฐมงคล น้ำมันพระพุทธมนต์ครอบจักรวาล มวลสารชุดนี้เป็นตัวประสานให้ผงวิเศษและดินบริสุทธิ์รวมตัวกันเป็นรูปแบบที่นายช่างต้องการ ( เป็นรูปองค์พระ ) นอกจากนั้นยังช่วยให้เกิดความสะอาดแวววาวสะท้อนแสงในเนื้อผงอีกด้วย

    น้ำมันต์พุทธมนต์ครอบจักรวาลเป็นน้ำมันจากพืชบริสุทธิ์ เช่น น้ำมันสกัดจากผลนาฬิเกร์ (ผลมะพร้าวสีแสด เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งในบางแห่ง ) น้ำมันสกัดจากผลมะเค็ด ( คล้ายน้ำมันตังอิ๊ว ที่มาจากประเทศจีน ) น้ำมันสกัดจากผลพระเจ้า ๕ พระองค์ (มีลวดลายเป้นพระเจ้าห้าพระองค์ปรากฏอยู่ที่ผิว) น้ำมันสกัดจากผลไม้ที่ขึ้นในลังกาทวีป เป็นต้น

    ๙.มวลสาร นวมงคล โองการใบลานพิธีมงคลโบราณ ในตำรับไสยเวทวิทยาคม อันเป็นตำรับหนึ่งในไตรเพทางคศาสตร์ ท่านกำหนดให้อัญเชิญเทพเจ้าในเทวโลกเสด็จมาร่วมพิธีมงคลในมนุษยโลกเป็นการ อนุโมทนาการทำบุญเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ในพิธีนั้นๆด้วยทุกครั้งทุกคราวไป การพิธีนี้เป็นประเพณีของชาติไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย การอัญเชิญเทพเจ้าก็คือพราหมณ์อ่านโองการอัญเชิญจากคัมภีร์ใบลาน และคัมภีร์ใบลานใบลานโบราณอันเป็นโองการศักดิ์สิทธิ์นี้ใช้ในการคุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ
    รายนามของพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ในพิธีมหาพุทธาพิเศกพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ ณ อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    ๑.สมเด็จสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธ ประธานในพิธี
    ๒.สมเด็จพระธีรญาณมุณี วัดจักวรรดิ์
    ๓.พระสาสโสภณ วัดเทพศิรินทราวาส
    ๔.พระพรหมมุนี วัดราชผาติการาม
    ๕.พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดราชบพิธ
    ๖.พระเทพคุณาภรณ์ วัดเทพธิดาราม
    ๗.พระเทพเมธี วัดเศวตรฉัตร
    ๘.พระมหารัชมังคลาจารย์ วัดราชบพิธ
    ๙.พระเทพโสภณ วัดพระเชตุพนฯ
    ๑๐.พระเทพประสิทธิคุณ วัดประยุรวงศาวาท
    ๑๑.พระเทพวิสุทธิโมลี วัดมหาธาตุ จังหวัดราชบุรี
    ๑๒.พระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม
    ๑๒.พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์
    ๑๓.พระราชปัญญาภรณ์ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
    ๑๔.พระวินัยวาศาจารย์ วัดท่าตำหนัก จ.นครปฐม
    ๑๕.พระครูประสิทธิวรญาณ วัดอุดมรังษี กรุงเทพมหานคร
    ๑๖.พระครูพรหมโชติวัฒน์(หลวงพ่อบุญมี) วัดอ่างแก้ว
    ๑๗.พระครูประยงค์ ชาคโร วัดศรีสำราญ จ.นครปฐม
    ๑๘.พระครูวิจิตรนวการ วัดโคนอน
    ๑๙.หลวงพ่อสมศักดิ์ สันติจิตโต วัดธรรมศาลา
    ๒๐.พระราชญาณกวี วัดขันเงิน จ.ชุมพร
    ๒๑.พระอโนมคุณมุนี วัดโพธิการาม
    ๒๒.พระราชสารโสภณ วัดตันตริยสภิรมย์ จ.ตรัง
    ๒๓.พระราชญาณเวที วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช
    ๒๔.พระอาจารย์บุญคง วัดภัทยาราม จ.สงขลา
    ๒๕.พระเทพสารสุธี วัดภูผาภิมุข จ.พัทลุง
    ๒๖.พระราชพุทธิรังษี วัดมุจลินทวาปีวิหาร
    ๒๗.พระครูใบฎีกาขาว วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี
    ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2022
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    501. สมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน "รุ่นแรก ผสมเกศา ลพ. ดาบส สุมโน ปี 31 ให้บูชา 900 บาท ปิดครับ


    upload_2022-7-15_20-33-0.png


    upload_2022-7-15_20-32-51.png


    upload_2022-7-15_20-34-51.png

    ท่านอธิษฐานให้สมเด็จรุ่นนี้เป็นสมเด็จมหาจักรพรรดิ์ ให้มวลสารเป็นพระธาตุ บรรจุวิชาดวงแก้วเป็นพระสมเด็จที่ดีทั้งนอกและในครับ เพราะก่อนสร้างได้นำมวลสาร คือ เกสรดอกไม้ 108 นำมาให้หลวงปู่ดาบส อธิษฐานก่อนนำไปกดเป็นองค์พระ หลังจากสร้างพระเสร็จแล้ว หลวงปู่ได้เมตตา อธิษฐานจิตเดี่ยวๆ
    ให้อีกหลายวัน
    #บทสรุปเกี่ยวกับพระสมเด็จรุ่นแรก จากการที่ได้ตรวจสอบ จากท่านผู้ทรงอภิญญา พบว่า
    1. พระสมเด็จนี้ หลวงปู่ดาบส ท่านอธิษฐานให้เป็น
    " สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ "
    2. สัญลักษณ์ ยันต์ " กงจักร " ด้านหลังพระสมเด็จ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ
    จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า ที่สำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด
    ดวงแก้วนั้นมีรัตนะเจ็ด คือ แก้ว ๗ ประการ
    จักรแก้ว ๑
    ช้างแก้ว ๑
    ม้าแก้ว ๑
    ดวง แก้วมณี ๑
    นางแก้ว ๑
    คฤหบดี (ขุนคลัง) แก้ว ๑
    ขุนพลแก้ว ๑
    ใน แก้ว ๗ ประการนี้ จักรแก้วเป็นใหญ่ เป็นประธานในแก้ว ๗ ประการ ทั้งหลายเหล่านั้น ในแก้ว ๗ ประการ เป็นตัวอำนาจ มีสิทธิให้สำเร็จ อำนาจและเกิดการน้อยใหญ่ ดุจดังมหาอำมาตย์ผู้ใหญ่ เป็นผู้สำเร็จราชการทั้งปวง เพราะเหตุนี้แหละ จักรทั้ง ๓ นั้นจึงได้นามว่า “จักร”
    3. ท่านบรรจุวิชชาพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกายสิทธิ์ ลงไปในพระสมเด็จ ที่เรียกว่า บรมจักรพรรดิ์ ( สายวัดปากน้ำ รู้จักกันดี ).
    บรมจักร มีพระบรมเดชาศักดานุภาพและมีฤทธิ์มีอำนาจ ใหญ่ยิ่งสูงสุดกว่า จุลจักร และมหาจักร มีแก้วกายสิทธิ์ชั้น บรมจักรนี้เป็นบริวารอเนกอนันตัง ปริมาณังเหลือที่จะนับจะ ประมาณได้ มีอำนาจเหนือ และเป็นผู้บังคับบัญชาใช้สอยจุล จักร,มหาจักรพร้อมทั้งบริวารจุลจักร มหาจักรด้วย เป็นผู้มีหน้า ทีเลี้ยงและรักษาดูแล ให้สมบัติและความสุขความเจริญ พร้อม ด้วยอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องใช้สอย เครื่อง อุปกรณ์ความสุขต่าง ๆ นานา ไม่ให้เบียดเบียนหมู่มนุษย์ คอย พิทักษ์รักษาดูแลหมู่มนุษย์ และทรัพย์สมบัติของมนุษย์ไม่ให้ เป็นอันตราย คอยให้ความสุข ป้องกันความทุกข์ต่าง ๆ ของ มนุษย์เช่นเดียวกันกับแก้วจุลจักรและมหาจักร แต่ทว่าทำหน้าที่ ประณีตกว่า อุดมกว่า สูงสุดกว่าละเอียดกว่าเลิศประเสริฐกว่า ยิ่งใหญ่กว่าแก้วจุลจักรและแก้วมหาจักรทั้ง ๒ ประการนั้น
    4. ท่านอธิฐานให้ เกศา เป็น " พระธาตุแก้ว "
    5. ท่านอธิษฐานให้ มวลสาร ที่ประกอบเป็นองค์พระ ให้เป็น พระธาตุ ทั้งหมด
    6. ท่านบรรจุวิชา " ดวงแก้วพระสีวลี " ให้เป็นพิเศษ มีผลเรื่อง ลาภ วาสนา เป็นอย่างยิ่ง
    7. ท่านเชิญ เทวดา ชั้นสูง ให้สถิตในองค์พระ ดูแลรักษาผู้บูชา ให้มีแต่ความสุขความเจริญ
    8. ผู้ที่ได้เจริญธรรม สวดมนต์ ภาวนา อยุ่เสมอ จะยิ่งทำให้พระสมเด็จ ทรงอานุภาพสูงยิ่งขึ้นไปๆ จนกระทั่งเป็น " แก้วจักรพรรดิ์ "
    9. ท่านอฐิษฐานธรรม บรรจุวิชชา ของพระพุทธเจ้า บันทึกลงไป เหมือนพระไตรปิฎกเคลื่อนที่
    ยันต์ ด้านหลังเรียกว่า " พระจันทร์ฉาย " เป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่ มีอานุภาพสูงสุด เรื่อง โชคลาภ วาสนา ส่งเสริมให้คนบูชาร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน บริวาร เจริฐลาภ เจริญยศ ส่งเสริมให้ชีวิตไม่มีวันตกต่ำ ประดุจพระจันทร์วันเพ็ญ ที่ส่องแสงนวลประกาย รุ่งเรืองตลอดเวลา
    หลวงพ่อเป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ ยากจะหาพระเกจิองค์ใดมาเทียบได้
    #วัตถุมงคลของท่าน มีผู้ที่ได้รับไปบูชา ล้วนแล้วแต่ร่ำรวยและมีวาสนาดีมากๆ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ไปตามๆกัน
    #สำหรับหลวงปู่ดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า ที่บำเพ็ญพระโพธิญาน บารมีท่านสูงมากๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน เช่น
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นต้นครับ..
    ขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกต อีกด้วย พระระดับนี้ในเมืองไทยไม่ค่อยเจอนะครับ

    #เรื่องเล่าจากหลวงตาวัชรชัย
    ครั้งหนึ่ง ตอนบวชได้พรรษา ๒ หลวงตาได้เที่ยวไปพบพระดีเข้าอีกองค์หนึ่งที่จังหวัดเชียงราย คือ หลวงปู่ดาบส สุมโน แห่งสำนักไผ่มรกต ที่กล้าเรียกท่านว่าพระดี ก็เพราะว่าท่านดีต่อหลวงตา และได้มอบความดีให้หลวงตาประมาณไม่ได้และความดีศรีสุขอันนั้นมันเกี่ยวกับ หลวงพ่อฤๅษี ฯ โดยตรงเสียด้วย
    ครั้งแรกที่ไปกราบหลวงปู่ดาบส ท่านก็ทักถูกใจเราทันทีว่า
    "อยู่กับหลวงพ่อฤๅษี ฯ สอนมโนมยิทธิหรือ?"
    "ครับผม"
    "อภิญญาสมาบัติที่ทรงอยู่ คล่องดีแล้วใช่ไหม?"
    ตอนนี้หลวงตาตกใจ เพราะเข้าใจว่าเรื่องอภิญญาสมาบัติเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าตัวเองจะยอมรับว่า "ทำได้คล่อง" จึงตอบไปว่า
    "ไม่ใช่ขอรับ ผมยังไม่ได้อภิญญา ผมพยายามทำตามที่หลวงพ่อท่านสอน และแนะนำคนอื่นเท่าที่จะนึกได้"
    "นั่นแหละ เขาเรียกว่าอภิญญา พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็ใช้อย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็ทรงใช้อย่างนี้ ใช้แบบวิธีเหมือนกันแต่ความบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน ความมั่นใจไม่เท่ากัน ใจที่บริสุทธิ์มาก มั่นคงมั่นใจมาก ก็ใช้ได้คล่องแคล่วชัดเจนมาก บริสุทธิ์ถึงที่สุด มั่นคง มั่นใจไม่สงสัย ก็ใช้ได้ถึงที่สุด เป็นเรื่องธรรมดา"
    หลวงตาเข้าใจ แต่ยังไม่มั่นใจ
    แล้วหลวงปู่ดาบสก็มองหน้าหลวงตา
    พูดเสียงชัดเจนว่า
    "ออกจากวัดท่าซุง มาอยู่ด้วยกันไหม มาหาที่สงบซุ่มปฏิบัติธรรมให้สมใจ สมวาสนาบารมี"
    "พอสบายจบกิจแล้วจะได้ตั้งสำนักใหม่ สอนพระกรรมฐานให้มีชื่อลือลั่น ไว้ชื่อครูบาอาจารย์ ว่าเรานี่แหละลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ"
    "...................................."
    หลวงตาตกใจ เจ้าประคุณเอ๋ย ความในใจที่อุตริคิดฝังไว้ก้นบึ้งดวงใจไม่เคยเล่าสู่ใคร ไม่เคยถามไถ่แม้แต่หลวงพ่อฤๅษี ฯ คิดซ่อนเร้นไว้กว่า ๑๐ ปี ถึง ๔ ข้อ บัดนี้ได้ถูกหลวงปู่ดาบสไขออกมาไม่มีเหลือ กำลังใจขณะนั้นได้ตอบท่านไปใน ๒ ข้อแรก (และรับรู้ใน ๒ ประการหลัง ซึ่งจะไม่บอกใครจนวันตาย)
    "ไม่เอาครับ หลวงปู่ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่กับหลวงพ่อในวัดท่าซุงตลอดไป"
    "ดีแล้ว" ท่านยิ้มยืนยันว่า
    "ถูกต้องแล้ว อยู่ที่นั่นไม่ต้องไปที่ไหน"
    "เรื่องธุดงค์บางองค์ก็ไม่ต้องธุดงค์หรอก การที่พระสงฆ์ท่านออกธุดงค์กันในที่ต่างๆ ก็เอาคำสอนครูบาอาจารย์ที่น้อมรับเอาไปใส่ใจ แล้วก็ประคองใจอันนั้น ไปหาต้นไม้ หาถ้ำ หาที่วิเวกเหมาะกับจิตใจ เอาเป็นที่บำเพ็ญความเพียรพิจารณาธรรมอันนั้นจนได้มรรคได้ผล แล้วก็ต้องกลับไปอยู่กับผู้คนแทนคุณพระศาสนา แต่ที่วัดท่าซุงนะ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง คือ ต้นหลวงพ่อฤๅษี ฯ ร่มรื่น ร่มเงาเย็นสบาย ผลไม้อริยผลก็ออกดอกเต็มต้น ไปนั่งนอนเดินยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้น อย่าจากไปไหน แล้วก็ประคองมือเอื้อมเด็ดผลไม้ มากินให้หวานชื่นใจด้วยความเคารพ ก็จะบรรลุมรรผลได้ในชีวิตนี้"
    ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า
    "พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียวก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้
    จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว"
    นี่หลวงตาเล่าให้ฟังตามที่ได้พบเห็นได้ยินมาเฉพาะตัวหลวงตาเอง ท่านใดจะชื่นชมสมใจหรือแหนงหน่าย อึดอัดก็โปรดเป็นไปตามกฎธรรมดา ตามปรารถนาเถิด..
    แล้วหลวงตาก็กลับวัด ก่อนลาหลวงปู่กลับ ก็ถ่ายรูปร่วมกับท่านมาภาพหนึ่ง กลับมาถึงก็เล่าให้พี่น้องบรรพชิตและฆราวาสฟังว่า มีหลวงปู่ดาบส แห่งสำนักไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย ท่านพูดถึงพ่อเราอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วท่านก็งามนักหนา ทั้งหน้าตามารยาท ถ้าพ่อเราเป็นพระอาทิตย์เต็มองค์ทรงกลด หลวงปู่ดาบสก็งามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญที่ไม่มีเมฆหมอกมาบดบัง แล้วก็เอารูปของท่านออกมาอวดไปทั่ววัด
    ก็อวดมาถึงหลวงพี่วิรัช ท่านก็เอาไปเล่าอวดหลวงพ่อพร้อมรูปใบนั้น พ่อเราฟังไป ดูรูปไป ก็ส่งรูปคืนให้หลวงพี่วิรัช พร้อมกับพูดลอย ๆ ออกมาว่า
    "เออ.. ๒๐ ปีแล้วซีนะ"
    หลวงพี่วิรัชก็กลับมาบอกคืนหลวงตาว่า คงเป็นเพื่อนหลวงพ่อ ไม่ได้พบกัน ๒๐ ปีกระมัง
    พอตอนเย็น ไปทำวัตรเย็นและปฏิบัติกรรมฐาน หลวงพี่อนันต์ เรียกหลวงตาเข้าไปหาแล้วบอกว่า
    "หลวงพ่อให้บอกท่านว่า พระเจ้าของรูปนั้นได้อรหันต์มา ๒๐ ปีแล้ว"
    #จากหนังสือ #มรดกพระดีหลวงตา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    502.พระดีแดนใต้ครับ!!! พระเนื้อดิน พระยศเศรษฐี วัดศิลาชลเขต จ.นครศรีธรรมราช ปี ๒๕๐๙ (พิธีใหญ่ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขลังและพระเกจิฯลฯร่วมปลุกเสกครับ หลวงปู่เคยบอกว่า อยากรวยให้บูชาพระยศ)ให้บูชา 650 บาท

    upload_2022-7-15_21-47-56.png

    upload_2022-7-15_21-51-16.png

    พระยศเศรษฐีหลังโลกวิทูอุกลับ วัดศิลาชลเขต
    อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช พระเครื่องพิมพ์นี้จัดอยู่ในวัตถุมงคล หายากอีกหนึ่งอย่างของดินแดนทักษิณ มวลสารในการจัดสร้างโดยได้ทำการรวบรวม ตั้งแต่ปีพ.ศ ๒๔๙๙จนมีการจัดสร้างพระเครื่องรุ่นนี้ขึ้นในปีพ.ศ ๒๕๐๙ โดยใช้เวลารวบรวมมวลสารมหามงคลเป็นเวลายาวนานถึง๑๐ปี เต็มโดยผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ทั้งหมด ๙วัด๑๑ วาระ

    รายนามวาระพิธีในการพุทธาภิเษก
    ๑.ณ.วัดสุทัศเทพวราราม จำนวน๓วาระ
    โดยมีในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จในงานด้วย
    ๒.ณ.วัดละครทำ กทม. ๑ครั้ง
    ๓.ณ.วัดมุมป้อม จ.นครศรีธรรมราช
    ๔.ณ.วัดศิลาชลเขต อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    รายนามพระเกจิที่ร่วมอธิษฐานจิต ณ.วัดศิลาชลเขต
    -พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน
    -ท่านอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา
    -พระครูปลัดชู วัดมุมป้อม
    -พระครูอมรสุดคุณ วัดศิลาชลเขต
    -เจ้าคุณพระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศน์
    -พ่อท่านเขียว วัดหรงบล เป็นต้น
    ๕.ณ.วัดขรัวช่วย จ.นครศรีธรรมราช
    ๖.ณ.วัดควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
    ๗.วัดพระบรมธาตุต จ.นครศรีธรรมราช
    ๘.วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
    ๙.วัดราชบพิตร กทม.

    ในงานฉลองครบรอบ ๑๐๐ปี วัดราชบพิตร โดยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จในพิธี โดยมีพระเกจิคณาจารย์ จากทั่วประเทศจำนวน๑๐๘รูปร่วมกันอธิษฐานจิตปลุกเสก๓วัน๓คืน อาทิ
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงปู่เทสก์ เทศน์รังสี วัดหินหมากเป้ง
    หลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน
    พระอาจารย์วันอุตตโมวัดถ้ําอภัยดํารงธรรม
    หลวงปู่โชติ ระลึกชาติ จังหวัดนครราชสีมา
    หลวงปู่หิน วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร
    หลวงปู่เชื้อวัดใหม่บำเพ็ญบุญจังหวัดชัยนาท
    หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จังหวัดปทุมธานี
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    ท่านอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
    หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    หลวงปู่แต้ม วัดพระลอย
    หลวงพ่อเย่อ วัดอาษาสงคราม เป็นต้น

    วัตถุมงคลรุ่นนี้จึงถือเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่ดีทั้งนอกดีทั้งในดีทั้งมวลสารดีทั้งพิธีถือเป็นของดีแห่งดินแดนใต้อีกหนึ่งรุ่น



     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    503. พระดี มวลสารดี พิธีศักดิ์สิทธิ์ พระปิดตา วัดสะพานสูง รุ่นบูรณะเจดีย์ ปี 2535 ให้บูชา 750 บาท ปิดครับ


    upload_2022-7-15_21-56-24.png

    upload_2022-7-15_21-56-31.png

    เนื้อผงมวลสารพระเก่าสมัยหลวงปู่เอี่ยมไม่ชุบรัก รุ่นบูรณะเจดีย์ ปี 2535 เป็นพระปิดตาอีกพิมพ์หนึ่งที่น่าสนใจมาก เนื่องจากมวลสารที่นำมาทำองค์พระนั้นได้จากพระปิดตาเก่าที่หักและชำรุดสมัยหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่กลิ่น และหลวงพ่อทองสุข ที่บรรจุไว้ในเจดีย์ของวัด พระปิดตาเก่าเหล่านี้ถูกนำมาบดอัดและคลุกรัก แล้วมากดพิมพ์เป็นพระปิดตา รุ่นบูรณะเจดีย์ ปี 2535 โดยไม่ทารัก เหตุก็เพราะเนื้อพระนั้นเป็นเนื้อมวลสารคลุกรักอยู่แล้วและต้องการให้เห็นเนื้อมวลสารโดยตรง
    นอกจากหลวงพ่อขาว เจ้าอาวาสวัดสะพานสูงได้ จัดการสร้างและปลุกเสกพระปิดตารุ่นบูรณะเจดีย์ ในปี 2535 แล้ว ท่านยังนำมาปลุกเสกเพิ่มเติมอีกร่วมกับพระปิดตา รุ่น 100 ปี ปี 2539 พร้อมกับตะกรุดโสฬสมงคล การปลุกเสกนั้นเต็มสูตรตามสูตรซึ่งหลวงปู่เอี่ยมได้กำหนดไว้ทุกประการ เกจิที่ร่วมปลุกเสกเป็นเจ้าอาวาสดังๆหลายรูปจากวัดต่างๆในจังหวัดนนทบุรี กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง อาทิเช่น หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จึงถือได้ว่าเป็นการปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ ใครที่เคยได้ยินกิตติศัพย์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง แล้วศรัทธาขอแนะนำให้บูชาติดตัว ดีด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากภัยอันตรายและเมตตามหานิยมครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2022
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    สวัสดีครับ^^
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    504. พระกริ่งเจริญทรัพย์ทันใจ หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล วัดอนาลโย +หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต วัดโนนสว่าง ให้บูชา 900 บาท

    upload_2022-7-16_14-48-3.png

    upload_2022-7-16_14-48-11.png

    upload_2022-7-16_14-48-18.png

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาธรรมสังเวช ณ วัดป่าสันติสุข จังหวัดขอนแก่น
    --หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกในงานสมโภชน์หลวงพ่อทันใจ ณ วิหารหลวงพ่อทันใจ วัดอนาลโยทิพยาราม จ.พะเยา เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เมื่อปลุกเสกเสร็จ หลวงพ่อไพบูลย์ ฐานยุตโต ได้พูดกับคณะว่า (เต็มแล้ว ดีแล้ว)
    --นอกจากนี้ยังได้รับเมตตาจาก หลวงพ่อเจริญ ฐานยุตโต วัดโนนสว่าง จ.อุดรธานี มอบยันต์ (ไท้เศรษฐีมั่งมีทรัพย์) หลวงพ่อได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถวัดโนนสว่าง ท่านบอกว่า "ใครมีกริ่งรุ่นนี้ขอให้ร่ำรวยทำมาค้าขายคล่อง"

     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    505.พระกริ่ง รุ่นโคตรเศรษฐีรับทรัพย์ รวย รวย รวย เนื้อทองผสมมงคล 9 #ใต้ฐานทุกองค์บรรจุผงพุทธคุณ ๑๐๘ #เกศา จีวร #เหล็กไหลกแม่น้ำโขงของญาท่านสวน #และตะกรุดทองแดงจารมือ จัดสร้าง 2,599 องค์ ให้บูชา 850 บาท

    upload_2022-7-16_15-11-39.png

    upload_2022-7-16_15-13-53.png


    upload_2022-7-16_15-19-37.png



    วาระที่ 1
    ปฐมบทแห่งพระกริ่งใหญ่โคตรเศรษฐีรับทรัพย์ รวย รวย รวย พระเกจิอาจารย์อีสานแห่งยุครวมพลังจารแผ่นชนวนและนั่งปรกปลุกเสกนำฤกษ์ในชนวนสุดยอดมวลสารที่หาได้ยากยิ่ง ที่นำมาหล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง อาทิเช่น ตะปูสังฆวานรพระอุโบสถเก่า จ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยยอดฉัตรพญาแล ประตูบานเดียวต้องเหลียวหลังกลับ ชนวนกริ่งวัดสุทัศน์ วัดบวร สำริดโบราณเก่ากว่าพันปีที่ได้มาจากประเทศเพื่อนบ้าน และห่วงเหรียญเก่าที่ถูกปลุกเสกโดยคณาจารย์เก่าที่โด่งดังในอดีตจนถึงปัจจุบัน สุดพิเศษเข้มขลังในเนื้อพระทุกองค์มีแร่เหล็กไหลพญานาคกลางแม่น้ำโขง ที่หลวงปู่ญาท่านสวนได้เสกอธิษฐานจิตพร้อมเส้นเกศาหลวงปู่ญาท่านสวน มาเป็นชนวนผสมด้วย โดยนำมาหล่อหลอมรวมเข้าด้วยกัน จึงได้แท่งชนวนศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิฤทธิ์เข้มขลัง แล้วนำมาเสกจารเพิ่มอาคมจากพระเกจิอาจารย์ที่เรียกได้ว่าเป็นมือหนึ่งแห่งอีสานใต้ถึง 9 องค์ ประกอบด้วย
    1.หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด
    2.หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู
    3.หลวงปู่เพ็ง วัดโพธิ์ศรีละทาย
    4.หลวงปู่คำดี วัดบูรพา
    5.หลวงปู่มหาคำแดง วัดคัมภีราวาส ศิษย์กรรมฐานหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
    6.หลวงปู่เก่ง วัดกิตติราชเจริญศรี
    7.หลวงปู่ทอง วัดศรีชมภู พระเกจิอาจารย์นามมงคลศิษย์เอกหลวงปู่บุญ วัดบ้านคำหว้า
    8.หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน ศิษย์องค์สำคัญของญาท่านสวน วัดนาอุดม
    9.หลวงปู่เรียบ วัดโคกกลางแสนสุข อีกหนึ่งศิษย์ญาท่านสวน ผู้สยบอาถรรพ์โคกกลางแสนสุข ทั้ง 9 พระคณาจารย์เมื่อจารและเสกเรียบร้อยต่างกล่าวอนุโมทนา และพูดถึงแท่งชนวนว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
    วาระที่ 2
    พิธีมหาพุทธาภิเษกแปดทิศ โดย 8 พระปรมาจารย์แห่งลุ่มน้ำมูล ได้แก่
    หลวงปู่คำบุ แห่งวัดกุดชมภู เป็นประธานจุดเทียนชัย พร้อมเทหล่อนำฤกษ์พระกริ่งใหญ่
    หลวงปู่เก่ง วัดกิตติราชเจริญศรี (บ้านนาแก)
    หลวงตามหาคำแดง แห่งวัดคัมภีราวาส
    หลวงปู่เร็ว แห่งวัดหนองโน จ.อุบลราชธานี,
    หลวงปู่ญาท่านเกษม แห่งวัดเกษมสำราญ
    พระครูปลัดสุริยา สุมโน (ญาครูน้อย) แห่งวัดหลวงปู่คำบุ สาขา 1 จ.อุบลราชธานี รวม 8 ทิศ
    โดยทุกรูปเมตตา "เขียนยันต์กลางอากาศ" เพื่อคลุมวัตถุมงคลทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาล เนื่องด้วยสถานที่ตั้งวัดเป็นที่แรงป่าช้าเก่า และชาวบ้านต่างเล่าขานกันว่าเป็นที่อยู่พญานาค จากการที่หลวงปู่ได้นิมิตและมาสำรวจที่ดินก่อนซื้อ พบว่าด้านหลังวัดมีลำธารคดเคี้ยวคล้ายทางเลื้อยของพญานาค จึงได้ตัดสินใจซื้อที่แห่งนี้สร้างวัด จะได้สร้างบุญกุศลและบารมี รุ่นนี้จัดสร้างก็ด้วยหลวงปู่คำบุท่านกล่าว่า ลูกหลานทั้งหลายมาช่วยกันสร้างมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ หาปัจจัยสร้างวัด (ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ห้องน้ำ ฯลฯ) ให้เป็นวัดที่ชาวบ้าน ภูตผี เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาอารักษ์ได้อาศัยพึ่งพา นับว่าเป็นรุ่นแรกที่ออกวัดหลวงปู่คำบุ สาขา 1 อย่างเป็นทางการ
    วาระที่ 3
    หลวงปู่คำบุอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ณ อุโบสถวัดกุดชมภู เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556
    วาระที่ 4
    นำวัตถุมงคลทั้งหมดลงภาคใต้เพิ่มบารมีโดย ๒๒ พระคณาจารย์ดังสายใต้แห่งยุคร่วมอธิษฐานจิตเดี่ยวคือ
    พ่อท่านเกลื่อน คุนกาโม อายุ ๑๐๖ ปี วัดประดู่หมู่, พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย,
    พ่อท่านเขียว กิตฺติคุโน วัดห้วยเงาะ,
    พ่อท่านแสง อาภาธโร วัดศิลาลอย,
    พ่อท่านเสือเล็ก อายุ ๑๐๐ ปี วัดควนซาง,
    พ่อท่านเจียม อติเมโธ อายุ ๑๐๔ ปี วัดคีรีวงก์
    พ่อท่านชุ่ม อายุ ๙๖ ปี,
    พ่อท่านขาว วัดพรุพ้อ,
    พ่อท่านพริ้ม อายุ๙๘ ปี,
    พ่อท่านช่วง วัดควนปัตตาราม,
    พ่อท่านผอม ถาวโร อายุ ๘๖ ปี วัดไทรขาม,
    พ่อท่านอิ้น ธมฺมโชโต วัดนิคมเทพา,
    พ่อท่านจ่าง วัดน้ำรอบ,
    พ่อท่านจวน วัดยางแดง,
    พ่อท่านเคล้า ปัญฺญาธโร วัดแดง,
    พ่อท่านท้วง คุณุตฺตโร สำนักสงฆ์คลองแคว,
    พ่อท่านมหาอุทัย วัดดอนศาลา,
    พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม,
    พ่อท่านนูญ อายุ ๘๑ ปี วัดคงคาราม,
    พ่อท่านนิ่ง วัดพระพรหม,
    พ่อท่านจ่าง วัดศรีมหาโพธิ
    พ่อท่านกล้าย วัดถ้ำตลอด
    วาระที่ 5
    พิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดหลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ พ.ค. ๒๕๕๖ โดยพระคณาจารย์ ๑๘ รูปคือ
    หลวงปู่คำบุ,
    หลวงปู่จันทร์หอม วัดบุ้งขี้เหล็ก,
    หลวงปู่บรรยงค์ วัดสว่างวารี,
    หลวงปู่เก่ง วัดกิตติราชเจริญศรี,
    หลวงปู่คล้าย วัดโพธิ์ศรีสุมังคลาราม,
    หลวงปู่อ่อง วัดสิงหาร,
    หลวงปู่เถิง วัดกุญชราราม,
    หลวงปู่มหาคำแดง วัดคัมภีราวาส,
    หลวงปู่ทอง วัดศรีชมภู,
    หลวงปู่ผา วัดเดือยไก่,
    ญาท่านเขียน สำนักปฏิบัติธรรมยางขี้นก,
    หลวงปู่ขุน วัดใหม่ทองสว่าง,
    หลวงปู่พุทธา วัดป่าหนองยาว,
    หลวงปู่คำหล้า วัดราษฎรเจริญ,
    หลวงปู่หนู วัดบ้านหนองหว้า,
    หลวงปู่เร็ว วัดหนองโน,
    หลวงปู่เรียบ วัดโคกกลางแสนสุข,
    หลวงพ่อแจ่ม วัดโนนเจริญ
    หลังเสร็จพิธีได้มีการทำลายบล็อกทันที
    กล่าวได้ว่าวัตถุมงคลชุดนี้ดีทั้งในและดีทั้งนอก ดีในคือเนื้อชนวนที่นำมาสร้างเป็นองค์พระได้ผ่านการจาร-การเจิม-การเสก อธิษฐานจิตจากยอดพระคณาจารย์แห่งอีสานใต้ที่หมดแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง ที่ได้ญาณแห่งความดี ไม่ยินดียินร้ายแล้ว ส่วนดีนอกคือพิธีปลุกเสก การเทหล่อนำฤกษ์ ฤกษ์ดี เวลาดี พิธีดี พระคณาจารย์พร้อมดี เทหล่อนำฤกษ์สวยคมเข้มขลังดี
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    506.มวลสารว่านสิริมหากาฬ พระเนื้อว่านยุคต้น หลัง เหี้ยม หลวงพ่อนก วัดเขาบังเหย จังหวัดชัยภูมิ ให้บูชา 700 บาท ปิดครับ

    upload_2022-7-16_16-1-38.png

    #ประวัติพระอาจารย์นกบางส่วนค่ะ
    พระอาจารย์นก ฐิตะธัมโม แห่งวัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม หมู่บ้านซับมงคล ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นพระสายปฏิบัติศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พระอริยะสงฆ์ แห่งดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ท่านได้ไปอยู่ปรนนิบัติอุปฐาก หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากหลวงปูละสังขารมีการพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่แหวนแล้ว พระอาจารย์นกได้เดินธุดงค์ปลีกวิเวกหาความสงบภาวนามาเรื่อยๆจนถึงเขาพังเหยบริเวณ บ้านซับมงคล ตำบลโปร่งนก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ เห็นว่าสถานที่ตรงนี้ เหมาะสำหรับภาวนา จึงได้ปักกรด เจริญสมถวิปัสสนา ซึ่งเป็นบริเวณของวัดในปัจจุบัน ท่านพระอาจารย์นกได้พิจารณาเห็นว่าสถานที่แห่งนี้เป็นมงคล ต่อไปภายภาคหน้าสถานที่บริเวณนี้จะเป็นวัด อาณาบริเวณนี้เป็นป่าธรรมชาติได้ เป็นสถานที่สงบวิเวกเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม "อนึ่งพระเครื่องและวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ญาติโยมสร้างถวายเพื่อแจกฟรีเป็นทาน ให้เป็นที่ระลึกคนที่มาช่วยใช้กำลังก่อสร้างวัด ให้เป็นที่ระลึกสำหรับญาติโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมบุญในวาระต่างๆ แจกให้เป็นที่ระลึกเพื่อให้คนมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เป็นเครื่องเตือนสติ ละบาป ทำบุญ ละชั่ว ทำดี จนถึงทุกวันนี้
    พระอาจารย์นกบอกว่า “วัตถุมงคลแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณสูง แต่ไม่มีวัตถุมงคลชนิดใดในโลกนี้กันตายได้แต่ช่วยเหลือไม่ให้ตายได้ และไม่ได้หมายความว่าวัตถุมงคลชนิดเดียวกันจะช่วยเหลือคนได้ทุกคนเหมือนกัน หากต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาด้วย เมื่อมีศรัทธาปฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ เมื่อไร้ศรัทธาก็ไร้ปาฏิหาริย์ จึงไม่ควรใช้ชีวิตด้วยความประมาท ไม่ว่าคนดีหรือคนเลวหากมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน เมื่อทำชั่วแล้วย่อมได้รับผลแห่งกรรมชั่ว เมื่อทำดีย่อมได้รับผลแห่งกรรมดี ทุกคนย่อมหลีกหนีกฏแห่งกรรมไปไม่พ้น ” ทั้งนี้พระอาจารย์นกได้ตอบคำถามที่ว่า“การสร้างวัตถุมงคลเป็นเปลือกของพุทธศาสนาทำให้คนติดและหลงใหลในวัตถุมงคล”ไว้อย่างน่าคิดว่า “ทุกอย่างย่อมมีเปลือก ต้นไม้ก็เช่นกันอยู่ได้เพราะเปลือกที่คอยปกป้องเลี้ยงกระพี้และแก่นให้เจริญเติบโต ศาสนาก็มีเปลือกคือ”ทาน”ที่คอยปกป้องอุ้มชูเลี้ยงกระพี้คือ”ศีล”และศีลคอยปกป้องอุ้มชูเลี้ยงแก่นคือ”ภาวนา คอยปกป้องอุ้มชูเลี้ยงใจกลางแก่นคือ ” ปัญญา ” ถ้าทุกคนในศาสนานี้มุ่งแสวงหาแต่แก่นเพื่อความหลุดพ้นอย่างเดียว โดยไม่รู้จักการให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนาแล้วไซร้ วันนี้พุทธศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร เพราะถ้าทุกคนไม่รู้จักทำบุญให้ทาน ข้าวน้ำอาหาร เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นเปลือกของศาสนา พระภิกษุสามเณรก็จะอยู่ไม่ได้ การสร้างศาสนะสถานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เกิดจากคนที่มีจิตใจศรัทธาในบุญ สละทรัพย์ให้เป็นทาน ท่านพระอาจารย์นกได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อีกว่า การให้ทานด้วยศรัทธา ด้วยการเสียสละ ด้วยการไม่ยึดติด เป็นการละกิเลสในเบื้องต้น ทานเป็นบุญอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ความปิติอิ่มเอิบของทาน เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งของสังขาร มีศรัทธาคล้อยตามบุญสวรรค์ก็บังเกิด เมื่อบุญสวรรค์บังเกิด ย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักรไม่รู้จบ สิ่งที่เวียนว่ายแปรเปลี่ยนอยู่หาใช่บุญที่ยั่งยืนไม่ การเจริญ สมถ วิปัสสนา จิตที่ผ่องใสแลปัญญานั้นปรากฏตัว การเวียนว่ายตายเกิดของภพชาติย่อมสั้นลง สิ่งนี้ต่างหากคือเส้นทางแห่งบุญที่ยั่งยืน การไม่ ยึดติด ยึดถือ ในรูปนาม ว่าเป็นตัวกูของกู นั่นแลคือบุญที่แท้จริง อย่างไรก็ตามพระอาจารย์นกยังกล่าวว่า สำหรับญาติโยมและลูกศิษย์ที่มีจิตศรัทธาสร้างวัดเขาบังเหย เมื่อ ทาน ศีล ภาวนา บารมีไม่มากพอ ก็ย๊ากที่จะเข้าถึงธรรมในระดับสูงได้ ก็ให้เพียรพยายามสะสมบุญตามกำลังศรัทธาไปก่อน คนที่ทำดีหรือทำชั่วก็ใช่ว่าต้องมีวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลัง ขึ้นอยู่ว่าคนเหล่านั้นเข้าถึงธรรมมะคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มากน้อยเพียงใด วัตถุมงคลที่ญาติโยมมีศรัทธาสร้างถวายเพื่อให้อาจารย์นกแจกฟรีเพื่อเป็นทาน! ปรากฎว่า "ผู้ที่มีศรัทธารับแจกวัตถุมงคลไปบูชาแล้วล้วนมีประสบการณ์ปาฏิหารย์เล่าขานกันมากมาย"
    #บทความส่วนหนึ่งเกี่ยวกับที่มาของพระเครื่องรุ่น โหด เหี้ยม หด
    ได้ฟังมาว่ากาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้นั่งสมาธิ แล้วเกิดนิมิต ขึ้นเป็นตัวหนังสือว่า โหด เหี้ยม หด พอตัวหนังสือเกิดขึ้นครบแล้ว ก่อนที่ตัวหนังสือจะหายไป ดินก็ผ่าขึ้นไปบนฟ้า เสียงดังสนั่นแม้แต่พระเณรในวัด ตอนนั้นก็ได้ยินทั้วกัน คล้ายๆจะบอกว่าเหรียญ3รุ่นนี้จะต้องดังสนั่นในวันข้างหน้า ด้วยเหตุนี้พระอาจารย์นกท่านเลย ตั้งใจว่าจะทำวัตถุมงคลชื่อสามชื่อนี้ ความไม่ธรรมดาของพระอาจารย์นกท่านยังเคยไปร่วมพิธีปลุกเสกพระร่วมกับคณาจารย์ชื่อดังอีกหลายท่านเช่นหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่,หลวงพ่อเปิ่นวัดบางพระ,หลวงพ่อพูนวัดไผ่ล้อม
    เช่นพระสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ ผสมผงเก่าของสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักชำรุดจากในกรุ รุ่นปี 2539ที่ท่านพระอาจารย์นกเคยเข้าร่วมปลุกเสก และพระคณาจารย์ดัง นั่งปรกปลุกเสกในพิธีฯ เมื่อวันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2538 ณ อุโบสถวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2022
  17. MATHS

    MATHS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +903
    ขอจองครับ
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    507. เหรียญเซียนลื่อท่งปิง วิหารเซียน ชลบุรี อ.สง่า กุลกอบเกียรติ สร้างครับ ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-7-17_12-53-53.png


    upload_2022-7-17_12-56-53.png


    เครดิตจากเพจ


    ศรัทธาอาคม กำลังรู้สึกสุดยอดที่ วิหารเซียน
    28 กันยายน 2018 · เมืองพัทยา ·
    ( ของดี วิหารเซียน ชลบุรี )
    ไม่ต้องไปหา ของหมดไป ตั้งนานแล้ว
    สายจีนรู้กัน มานาน แต่สายไทย ยังไม่รู้
    องค์ลื้อตงปิน เนื้อผง ของ เซียน อ.สง่า
    พลังอำนาจ เทียบเท่า พระเครื่อง หลักสิบล้าน ของไทย พลังขององค์หลีตงปิน เมตตา แคล้วคลาด ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง หนุนชะตา แก่ผู้บูชา
    เชื่อไหม!!! เก่งหรือ ไม่ ในหลวง ร.9 ยังประคอง
    ท่าน อ.สง่า ท่านต้องมี ดี อะไร สักอย่าง ??
    เป็นบุคคล ได้รับการ ยกย่อง จาก รัฐบาลจีน จากคนธรรมดา แต่ อ.สง่า สื่อญาณ รับ ใช้ ทำตาม
    เทวบัญชา พระเทวจารย์ หลีตงปิน
    สมัยที่ สร้างวัดญาณสังวรวราราม ชลบุรีใหม่ๆ
    นั้น ได้ประสบปัญหาและ อุปสรรคนานาชนิด ทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญผู้ที่มีสมาธิจิตดี มาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัดนั้นมี ความสัมพันธ์กับ พระนเรศวรมาก และมี ดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจากสงครามอยู่มากเป็นเหตุให้การทำงานมีอุปสรรค
    ความทราบถึงองค์สมเด็จ พระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลยได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตาให้แก่ดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วยพระองค์เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมีดวงวิญญาณพากันมามากขึ้นจนท่านต้องมีบัญชาให้ไปตามตัว
    ซินแสสง่า(ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน) มาช่วยตรวจดูให้
    ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่
    สร้างวัดเคยเป็นที่เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ตรงใจกลาง
    ของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ตาดี ได้เห็นองค์ท่าน"ลื่อตงปิน"เสด็จมาบนหลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณทั้งหลาย ก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮู้นั้นได้กลายเป็นใจกลาง พระอุโบสถในปัจจุบันนี้"
    ประวัติ เซียน ลื้อท่งปิน วิหารเซียน จ.ชลบุรี
    ท่าน อ.สง่า ผู้ก่อตั้ง วิหารเซียนที่ชลบุรี ท่านบอกว่า องค์ลื่อตงปิน สามารถสื่อกับท่านได้โดยทางจิตแต่ท่านไม่เคยเห็นตัวองค์ท่าน ทางนิมิตเลย ท่านบอกว่าตำแหน่งของ ท่านลื่อตงปิน มีหน้าที่เหมือน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย มี หน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยและปรามปรามผู้ร้าย
    มูลเหตุที่ท่านได้รู้จักกับองค์ท่านนั้นเนื่องมาจากคุณแม่ของอ.สง่าท่านป่วย เป็นโรคทานอะไรไม่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังแม้แต่จะลุกยืน ตอนนั้นพวกญาติท่านก็พาไปหาซินแสหรือหมอแผนปัจจุบันมาหลายท่านก็ไม่ดีขึ้น ประจวบกับท่านอ.สง่าในสมัยนั้นไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการเผาฮู้ต้มกินแล้วจะ หาย ยิ่งพวกเข้าทรงเจ้าต่างๆท่านไม่เชื่อเลย แต่เมื่อเป็นความต้องกรของญาติๆก็เลยได้แต่
    ลองทำดูเพราะไม่มีวิธีอื่นแล้ว จนวันหนึ่งได้เชิญคนทรงมาซึ่งคนทรงนี้ตามปกติจะไม่ใช่ร่างทรงของท่านองค์ เซียนลื่อตงปิน แต่เป็นร่างทรงเทพ องค์อื่น แต่วันนั้นพอทำพิธีอัญเชิญ ปั๊บ
    ท่านลื่อตงปินก็มาประทับทรง ทันทีและก็ บอกว่าจะช่วยให้คุณแม่ของ อ.สง่าลุกเดิน ได้หาย
    ภายใน3เดือน แต่มีข้อแม้ว่า อ.สง่าจะต้อง ทำงานรับใช้ท่าน ซึ่งท่านอ.สง่าก็ได้ถามว่าจะให้ทำ อะไรถ้าให้เป็นร่างทรงแบบนี้ ท่านไม่เอาและ ท่านก็ไม่เคย
    ศึกษาศาสตร์แนวนี้ มาก่อน ท่านลื่อตงปิน ก็บอกว่าไม่เป็นไรท่านจะ คอยช่วยบอกให้เองว่าจะ ต้องทำอะไร แล้วท่านก็เขียนฮู้ ให้ อ.สง่าเก็บไว้เผาให้คุณแม่
    ของท่านละลายน้ำดื่ม ซึ่งก็ปรากฏว่าพอครบ3เดือนคุณแม่ท่านก็แข็งแรง เป็นปรกติเดิน
    ได้ดังเดิม ท่านลื่อตงปิน ก็มาทวงสัญญา อ.สง่าจึงต้อง ยอมทำงานรับใช้ ท่านสงเคราะห์มนุษย์ โดยที่ท่านกับ
    อ.สง่า จะ สื่อสัมผัสทางใจกัน เหมือนเป็น อาจาร กับลูกศิษย์
    อภินิหาร ขององค์เซียนลื่อตงปินที่ วิหารเซียนมี เยอะครับ เอาไว้มีเวลาจะมาเล่าเป็นเรื่องๆไปครับ เช่นเรื่องตอนช่วยสร้าง วัดญาณสังวร ชลบุรี ตอนปราบมังกรเขียว ตอน ไฟไหม้โรงแรมที่พัทยา ตอนที่ช่วยกิจการของเจ้าของผลิตภัณฑ์จาก ไก่รายใหญ่ ตอนช่วยเจ้าของ ตึกใบหยกทาวเวอร์ ตอนช่วยแบงค์กสิกรที่จะล่มช่วง IMF
    อีก อย่างหนึ่งคือ เพื่อนผมคนหนึ่งเขาบูชา พระผงท่านลื่อตงปิน จากที่ วิหารเซียนที่ ชลบุรีไป วันหนึ่งก็เจอนักจับ พลังพระ ขณะที่นักจับ พลังพระกำลังตรวจพระ ของคนอื่นอยู่ว่าดียังไง จู่ๆเขาก็หันมาที่เพื่อนของกระผมแล้วถามว่า เขาห้อยพระอะไรอยู่
    (พระอยู่ใน เสื้อ ไม่ได้ห้อยออกมาข้างนอก)
    เพราะเขาเห็นรัศมี สีชมพู พุ่งออกมาดี ทางเมตตาร่มเย็น และพลังนี้ หมุนวน กลับไปกลับมา เหมือน หยิน และหยาง ซึ่งตั้งแต่เขาตรวจพระมาไม่เคยเจอ แบบนี้เขาก็เลยขอดูพระ ของเพื่อนผม พอเขาเห็นพระเเล้วเขาก็เลยหายสงสัยว่าทำไมจึง
    มีพลังแบบนี้ พระนี้คิดว่าที่ทางวิหารเซียน
    ยังมีอยู่นะครับไม่แน่ใจ นานแล้ว คงหมดจากวิหารเซียน แล้วละ ประสบการณ์ ปากต่อปาก โดนกวาด เก็บเข้ารัง เซฟธนาคาร ใบสั่งจาก ผู้ศรัทธา เจ้าของธุรกิจ แจกให้ ลูกหลานไว้ใช้กันเฉพาะกลุ่ม เนื้อผง องค์หลีตงปิน ปิดทองเดิม พิเศษ กรรมการ
    สำหรับพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากชื่อ"พระ พุทธหทัยนเรศวร์"สร้างขึ้นจากฝาบาตรพระที่ลงอักขระถึง 84000ฝาด้วยกัน อีกทั้งยังได้อัญเชิญ เทพระดับพรหมมารักษา
    พระพุทธรูป และภายในองค์ท่านยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถึง84000องค์ ซึ่งเท่าที่ผมทราบมาน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุด เพราะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุเกือบเต็มบาตรพระเลยครับ ใครผ่านไปก็ลองแวะไปขอพรท่านดูนะครับและอย่าลืมแวะชมวิหารเซียนกับพระพุทธ รูปเขาชีจรรย์ที่ แกะสักด้วยเลเซอร์ ด้วยครับ
    ช่วงที่สร้างวัดญาณสังวรใหม่ๆ นอกจากจะประสบปัญหาจากดวงวิญญาณเก่าแก่แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องเวลาฝนตกแล้วน้ำจะท่วมถนนทางเข้าขาดทำให้การก่อสร้างต้อง หยุดชะงักและไม่คืบหน้า ทางอ.สง่าได้พิจารณาดูแล้วพบว่าเขาที่อยู่เบื้องหลังของวิหารเซียนในตอนนี้
    (ตอนนั้นวิหารเซียนยังไม่ได้ก่อตั้ง)
    เป็นที่อยู่ของมังกรเขียว ที่ดุร้ายตัว หนึ่งเวลาฝนตกจะชอบออกมาเล่นน้ำฝน เป็นประจำ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมทางขาดเป็นประจำ มังกรเขียวตัวนี้มีหน้าที่เฝ้าบ่อเงินกับบ่อทอง
    (ตอนนี้ได้กลายเป็นที่ตั้ง ของวิหารเซียนไปแล้ว)
    ท่านจึงมีความคิดที่จะปิดปาก. ถ้ำพญามังกรตัวนี้ไว้ ซึ่งท่านลื่อตงปิน ก็ได้มาแนะนำว่าให้เอา
    ดินทับฟ้าไว้จึงจะ ปิดปากถ้ำไม่ให้ พญามังกรตัวนี้ออกมาอาละวาดได้ ดังนั้นถ้าใครพอมีความรู้เรื่อง
    ฮวงจุ้ยจะต้องเคยเห็น รูปปลาดำปลาขาว
    (สัญลักษณ์หยิน-หยางที่หน้าอกนักพรตไท้ก๊ก)
    ซึ่งแทนความหมายฟ้า-ดิน โดยสีขาวหมายถึงฟ้า สีดำหมายถึงดิน ตามปกติเครื่องหมายนี้สีขาวจะต้องอยู่ข้างบนและสีดำจะต้องอยู่ข้างล่าง แต่ที่วิหารเซียนจะกลับกันจากที่อื่นคือสีดำจะอยู่บนสีขาวจะอยู่ข้างล่าง เคยมีนักดูฮวงจุ้ย ชื่อดังที่รับดูฮวงจุ้ยเป็นอาชีพได้ไปที่วิหารเซียน และ เคยปรามาส ท่าน อ.สง่าว่าไม่รู้จริงสร้าง
    ผิดหลัก ท่านก็ได้แต่หัวเราะ ไม่ว่าอะไร ท่านมาเฉลยให้ผมฟังว่าที่ท่านทำอย่างนี้เพื่อจะได้เอา
    ดินทับฟ้าสะกด ปิดปากถ้ำ มังกรเขียวไว้นั่นเอง
    และตอนนี้มังกรเขียวตัวนั้นก็
    ได้กลายเป็นพาหนะของ ท่านลื่อตงปินไปแล้ว อ.สง่าท่าน จึงเขียนฮู้มังกรเขียว แจกฟรี
    ใครสนใจไปขอได้ที่วิหารเซียนครับ และมีอย่างผ้ายันต์มังกรเขียวด้วย
    ท่านบอกว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรให้เผาฮู้กลางแจ้งจุดธูป)
    บอกองค์เซียน ลื่อตงปิน ท่านแล้วอธิษฐาน ครับ
    ฮู้นี้มีผู้เคยประสบเหตุบ่อย ๆ คือมีอยู่ท่านหนึ่งได้รับฮู้แบบผ้ายันต์ไปซึ่งตามปกติท่านจะแจกแบบ
    กระดาษซะ เป็นส่วนใหญ่ ก็พับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ระหว่างทางขับรถกลับบ้านก็ประสบอุบัติเหตรถพังยับแต่ตนเองไม่เป็นอะไร ก็ไม่ได้เอะใจอะไรแต่เมื่อกลับไปถึงบ้านเอาอู้ออกมาจากกระเป๋า
    เสื้อปรากฏว่า ฮู้ขาดเป็นสองท่อน ก็เลยรีบมาเล่าให้ท่านอ.สง่าฟัง ท่านก็บอกว่ามังกรเขียวเขา ออกไป รับแทนไม่งั้นจะเจ็บหนักแน่ ที่น่าแปลก คือฮู้ นั้นเป็นผ้ายันต์ แต่ขาดเหมือนโดนฉีกออกจากกัน อย่างแรง
    มันเหลือเชื่อมาก ประสบการณ์ ตรงล้วนๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,610
    ค่าพลัง:
    +465
    508.พระดีน่าบูชา พระผงสุพรรณ หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี ปี 2505 ให้บูชา 550 บาท

    upload_2022-7-17_17-59-46.png

    upload_2022-7-17_17-59-52.png

    หลวงพ่อแต้มได้บวชที่วัดสำปะซิว โดยหลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาส อบรม บ่มนิสัยก่อนบวช แรกเริ่มไม่รู้หนังสือแม้แต่ตัวเดียว แต่ก็สามารถท่องเจ็ดตำนานได้ภายใน 7 วัน หลวงปู่โต๊ะชอบใจมาก เพราะหัวไว หลังจากนั้นจึงอุปสมบทให้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2455 ที่พัทธสีมาวัดสำปะซิว มีหลวงพ่อ ปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อปลื้ม (อีกรูปหนึ่ง) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่โต๊ะ วัดสำปะซิว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ปุญญสุวัณโณ"
    หลังจากบวชแล้วเกิดจิตฟุ้งซ่าน หลวงปู่โต๊ะจึงพาไปเล่นกระดูกผีในป่าช้า และสอน กัมมัฏฐานให้ด้วย รวมทั้งสอนหนังสือทั้งไทย-ขอม จนอ่านออกเขียนได้ หลวงพ่อแต้มยังศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณกับช่างไม้-ช่างก่อสร้าง จากหลวงปู่โต๊ะอีกด้วย จนมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
    ต่อมาในปีพ.ศ.2463 ลาสิกขาออกมา สรุปแล้วท่านบวชครั้งแรกอยู่ 8 พรรษา ใช้ชีวิตทางโลกอยู่พักหนึ่ง เกิดเบื่อหน่ายทางโลกจึงอุปสมบทครั้งที่ 2 มีหลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อพร วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระ กรรมวาจาจารย์, หลวงพ่อคำ วัดพระรูป เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    หลังจากอุปสมบทครั้งที่สองแล้วจำพรรษาอยู่วัดลาวทอง จวบจนปีพ.ศ.2466 จึงไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงพ่อซัว วัดสาลี อ.บางปลาม้า จวบจนถึงปีพ.ศ.2468 และไปเรียนต่อจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา สำเร็จวิชายันต์เกราะเพชร ท่านเคยได้เขียนยันต์เกราะเพชรให้เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ขณะนี้ยังอยู่สวยงามมาก และวิชาหมอตาทิพย์ วิชาแพทย์แผนโบราณช่วยคน และกลับมาอยู่วัดลาวทองต่อ
    เริ่มสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกตั้งแต่ปีพ.ศ.2495 เป็นพระเนื้อดินเผาสีดำ เป็นพระซุ้มกอ และพิมพ์นาคปรก หรือปางพญามหาชมพู และอีกหลายพิมพ์ เป็นเนื้อดิน เป็นต้น
    เมื่อปีพ.ศ.2511 สร้างเหรียญรุ่นแรกเป็นเหรียญรูปอาร์ม เนื้อทองแดงรมดำ และเหรียญรุ่น 2 ปี 2512 รุ่น 3 ปี 2523 ช่วงเวลานั้นท่านสร้างพระกริ่ง เป็นกริ่งนาคปรก เนื้อโลหะผสม นับเป็นกริ่งรุ่นแรกรุ่นเดียวของหลวงพ่อแต้ม
    ด้วยหลวงพ่อแต้มสำเร็จวิชายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จึงได้สร้างเหรียญยันต์เกราะเพชรเหรียญแรกของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2511 ฝากไว้เป็นสมบัติชั่วลูกชั่วหลาน


     

แชร์หน้านี้

Loading...