ปกิณณกะธรรม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย กระร่อน, 22 กรกฎาคม 2020.

  1. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015
    อันแรกถามว่า จะต้องเป็นพระอริยะเจ้า เท่านั้นหรือเปล่า
    ที่สามารถฝึก การระลึกถึงพระนิพพาน ได้
    ตอบว่า ไม่ใช่ ทุกคนสามารถฝึกได้หมด
    เพราะว่า ไม่ได้อาศัยจิตของเราเอง
    แต่ อาศัยจิตของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ช่วยพาไป
    คนอยู่ในคุกในตารางก็ฝึกได้ หากมีผู้สอนที่ดี

    ข้อที่สอง ถามว่า อย่างโสดาที่ว่าเห็นนิพพานแล้ว
    รู้อารมณ์นิพพานแล้ว สามารถไปเห็นนิพพานได้บ่อยๆตามใจต้องการมั้ย
    ตอบว่า สามารถเห็นได้ทุกที่ทุกเวลา
    ตามกำลังความสามารถ ความขยันในการฝึกซ้อม
    ยี่งขยันมาก ก็สามารถที่จะฝึกซ้อมได้ทั้งวัน หากยังไม่เมื่อย


    ข้อที่สาม ถามว่า ถ้าไม่ได้ จะจำอารมณ์นิพพาน
    ทีเกิดตอนมรรคผลเกิด เอามาระรึกถึงทรงไว้จะได้หรือ
    สัญญาไม่เที่ยง แปปเดียวก็ลืม
    ตอบว่า อะไรที่เราฝึกบ่่อยๆ เดี๊ยวเราก็จำจนเป็นนิสัย
    หากไม่อยากลืม ก็ให้ฝึกทุกๆวัน ซ้อมตายเข้านิพพาน บ่อยๆ
    ซ้อมตายเข้านิพพาน ฝึกอยู่อย๋างนี้
    หากทำได้ทั้งวัน ก็แสดงว่า ใจใสจนเป็น พระอรหันต์ แล้ว
    แต่ส่วนมากจะทำได้ไม่เกิน สองถึงสาม ชั่วโมงแล้วก็เลิก
    ซึ่งพระโสดาบัน จะต้องทรงได้ ไม่ต่ากว่า หกชั่วโมงต่อวัน
    และจะต้องทำติดต่อกันทุกวัน เป็นเวลา สามเดือน
    ก็แสดงว่า ตนเองบรรลุธรรมแล้ว นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2020
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    อนึง พึง ทราบว่า

    อาการ ปรารภว่า "แปปเดียวลืม"

    เป็น อาการมิจฉาทิฏฐิ บางประการ

    เป็นการ สำคัญว่าสัตว์มีสัญญา สัตว์ไม่มีสัญญา
    สัตว์มีสัญญาอสาญัณก็ไม่ใช่

    แต่ถ้า สัญญามีปรกติดับทันที จะผลิกเป็น สัมมาทิฏฐิ
    ความเห็นผิด จะกระจัดกระจาย เป็นกองสันตติท่วมทับมิได้

    ดังนั้น

    การหน่วงนิพพานเป็นอารมณ์ โดยที่ มีญาณสัมปยุติ
    ว่า สัญญามีปรกติดับ ก็จะ ทราบเองว่า "ถึงพร้อม"
    หรือ "เขย่งอยู่ในโลก"

    อุปมา

    ยืนอยู่ปากบ่อน้ำ กลางทะเลทราย เห็นอยู่ก้นบ่อ
    มีน้ำใสเย็นชื่นใจ แต่....ได้ตักดื่ม
    หรือ ยืนเห็นชัดอยู่ว่า มีแน่ๆ แล้วเดินทางต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2020
  3. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    แจก อมยิ้มเยย
     
  4. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015

    นิพพานมีสองประเภท ก็คือ อารัมณู กับ ลักขณู
    หรือที่เรียกว่า อารัมมณูปนิชฌาน และ ลักขณูปนิชฌาน

    พระสายป่า ส่วนมากจะบรรลุแบบสุกกวิปัสสโก ที่พิจารณาลักษณะสาม
    คือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นสิ่งสมมุติ จะเป็น พวกลักขณูปนิชฌาน

    ส่วนสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะบรรลุแบบปฏิสัมภาทาญาน
    ที่พิจารณาอารมณ์ต่างๆ แล้วบรรลุธรรม
    จะเป็น พวกอารัมมณูปนิชฌาน

    พระสายป่า จึงไม่เน้นฤทธิ์ แต่หลุดพ้นได้ไว
    แต่พระสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะเป็น พวกที่มีฤทธิ์มาก
    แต่หลุดพ้นได้ช้ากว่า เพราะชอบติดฤทธิ์
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015
    ใช่แล้วครับ ถึงจะบอกว่า เอา แต่ใจมันไม่เอาแล้ว
    แต่พอบอกว่า ให้ปล่อยหมด ใจมันก็ยังมียึดนิดหน่อย
    บริหาร อาการยึด กับ ไม่ยึด ให้พอดี ก็เป็น พระอรหันต์ ได้
     
  7. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    สัญญาครอบเรียบร้อย
    สติกะล้ำหน้าจ้องเอาแต่ผลตลอด
     
  8. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ฮั่นแน่ วันนี้ เดาะธรรมปลานิลตา(ปราณีต) กระติกล้ำหน้า

    อินทรีย์5 รู้หรือ

    พละ5 รู้หรือ
     
  9. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เค้าฝึกอัตตาธรรมฮ่า
    ไม่มีอินทรีย์จะมีตัวตนอย่างงัยอ่า
     
  10. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    อย่าไป กลัว สัญญา

    หากไม่ได้เกิดเป็น สัตว์สัญญาเสีย ( ไม่สามารถ ปลงใจว่า สัญญามีปรกติ ดับ พรึบ)
    ในพระสูตรว่าด้วย สัญญาสูตร มีหลายพระสูตรมาก

    อย่างการ้อง สมมติว่า ชาติที่แล้วพึ่งเป็นเทวดาเหงือออกมาหมาดๆ

    พอเห็นเหงือ ก็ ระลึกได้ ว่า ชาติก่อนเราเป็น เทวดา

    เห็นคุณของเหงือ ให้ได้มีหอยกินบ้าง

    เห็นโทษของเหงื่อ ทำให้ตกปุ๊ลงมา หอยนั่นเอง อยากมากิน

    หน่วง ภพ เก่า เทวดา มี เจดีย มีวิมาน ได้ ก็หน่วงเลย

    แต่ให้ระลึกเพิ่มด้วย สัญญามีปรกติดับ ควบมรณสติ(ยางแตกไม่หวั่นไหว)

    พอ จริมจิตมา(จิตดวงสุดท้าย) ผั๊วะ ได้ก็มี

    ตายตัวนิ่ม สีทอง คลอง10 (รึเป่า) เขาจะเอาไป ทำ PR
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2020
  11. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    อร๊ายอยากเป็นแดนซ์เซอร์
     
  12. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    หาก การ้อง เกิด สมัยพุทธกาล ขยันไป
    จุฬามณี วกมา ดุสิตธานี ฟังเสียงสังข์ เสียงแตร
    เสียงกลองศึก ระลึกได้ว่า เอ้ย เคยเต้น

    พอมาเกิดเป็น มะนุด

    ได้ยิน แค่ โลกมีนิพพานปรากฏ ก็ ผั๊วะ แล้ว

    ไม่มีหลอก จะ เอา สันติ ยันไป ต้องมี กะระรู ก่อนเด้

    ให้ กะระรู ได้ทำท่าทางปฏิบัติหน่อย เซ่

    จะมาเทศนา แค่บอกว่า นิพพานมี จะแค่บรรยายหัวข้อ
    จะให้เป็นเวนัยยะทำความปราถนาเป็นเอทัคคะ
    แล้ว ผัวะไม่ได้

    ต้อง ให้ กะระรู แหย่ สันติ อุดพระโอษฐ์ก่อน

    บรรลุเลย ง่ายๆ ไม่มี

    ฮิววววววววววววววววววววววววววววววววววววส์


    ปล. ลิง : พระศาสดาให้ รหัสลับไว้ เวลาฟัง
    ธรรมวาที หรือ อธรรมวาที ให้กำหนดรู้ "ฉันทะ"
    ทำงานยังไง ลากไปไหน เอ้อระเหยยังไง
    จะแบบ ฉันทะ เป็น ปัจจัย นิพพน มะอึ เอา สันติ ส่วนไหนมาอุด
     
  13. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
    เจ้หน้าตากะสวยมัยนิสัยงี้เอ่อ55
     
  14. I sea you

    I sea you Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2020
    โพสต์:
    639
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,115
    นิพพานก็จิตเฉยๆ ตามอารมณ์วิปัสสนาที่ทำกันอยู่ไง พระหลายรูปที่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ก็พูดสภาวะนี้บ่อยๆ

    แต่ความอิสระในพันธนาการของพระอริยะ กับของเราคงจิต่างกันแบบเทียบไม่ได้
     
  15. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ตะเอง ชอบเพชร หรอ

    สนใจ หินสี เป่า

    สนใจ จะเพิ่มพลังหลากชนิด บอกเราได้

    นะเอย นะเอย
     
  16. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    พี่รู้จักนางด้วยเหรอครับ
     
  17. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ตะเอง รู้เป่า

    รู้อะไร ฮิตติดดอยมากที่สุด

    เฉลย รู้งี้ รู้งี้ tenor (1).gif <---
     
  18. ล่อนจ้อน

    ล่อนจ้อน ยถาวารี ตถาการี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4,665
    ค่าพลัง:
    +2,579
  19. zero2zero

    zero2zero จากศูนย์ไปหาศูนย์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +430

    ปุถุชน ตรึกนึกนิพพานมาเป็นอารมณ์ไม่ได้ ถึงคิดว่าใช่แต่ก็ไม่ใช่

    การเห็นโลกไปตามอย่างที่มันเป็น... เพียงแต่การไหลเรื่อยของธรรมชาติ ไม่หยิบฉวยขึ้นมาาเป็นอะไร... นั่นล่ะการเห็นโลกอย่างพระอรหันต์เห็นโลก...

    อริยะบุคคลอย่างโสดาบัน ก็เห็นโลกเช่นเดียวกับ พระอรหันต์ .... ไม่ใช่การนึกคิดให้เป็น หรือหยิบสภาวะตอนเกิดมรรคจิต มามองโลกให้เป็นแบบนั้น ... แต่ในโสดาบันการแบบนี้.. ไม่ได้เห็นทุกขณะอย่างพระอรหันต์... แต่การเห็นแบบนั้นเหมือนกัน.....

    พอคนธรรมดาได้ยินแบบนี้ก็พากันคิดว่า.. การเห็นโลกเป็นเพียง "ธรรมชาติหนึ่ง" ไม่พ้นจากการหยิบสัญญา, ปรุงแต่งสังสารขึ้นมาในจิต ... อันนี้พ้นวิสัย คนธรรมดา จะไปรู้จิตของพระอริยะ

    การเห็นไตรลักษณ์ ไม่ใช่การเห็นอย่างคนทั่วไป.... นักปฏิบัติที่คิดว่าการเจริญสติ .. เห็นการเกิด การดับไปของสภาวะธรรม .. นี้คือการเห็นไตรลักษณ์จริงๆ ... ถ้าอนุโลมก็เรียกแบบนั้นได้.... นี้คือการเห็นไตรลักษณ์.. แต่ยังไม่ใช่ไตรลักษณ์จริงๆ ...เพราะหากเข้าไปเห็น สภาพของไตรลักษณ์จริงๆ ว่ามันว่างเปล่า แต่เป็นความ"ว่างเหมือนไม่ว่าง" จิตจะถอนสังโยชน์ไป... ถ้าการเห็นแจ้งแก่จิตชัดเท่าใด.. การสลัดคืนจนพ้นไปก็เกิดขึ้นในการเห็นนั้น

    ...เพราะความจริงคือ สภาพของไตรลักษณ์จริงๆ... ลึกไปยิ่งกว่าสภาพที่นักปฎิบัติพากันเข้าใจ ว่าการเห็นเกิด เห็นดับ นี้คือเราเห็นไตรลักษณ์จริงๆแล้ว...

    นักปฎิบัติพากันงมทาง... คลำทาง...หาทางเข้าไปเห็นสภาพไตรลักษณ์นั้น .. มองไม่ออกว่าวิธีใดก็ได้ย่อมเข้าไปถึงความเห็นสิ่งนั้นได้.... ความคิดของนักปฎิบัติที่ยังงมอยู่กับวิธีการต้องมีลำดับ 1234.... จึงไม่พ้นการลูบคลำทาง...

    แม้การปฎิบัติยัง ลูบคลำทาง ไม่เห็นไตรลักษณ์จริงๆ... ก็เป็นเรื่องเกินวิสัย.. จะรู้อะไรเกิดขึ้นในจิตพระอริยะได้ ... ทำได้แต่การคาดเดากันไปแค่นั้น... ก็เมื่อ ถ้าผู้นั้นได้เห็นความว่าง ของไตรลักษณ์ ประจักษ์จริงแล้ว เมื่ออ่านธรรมนี้ก็จะนิ่ง... แล้วเกิดธรรมะอุทาน ... อืมใช่ อืมใช่
     
  20. จิ้งจกตุ๊กแก

    จิ้งจกตุ๊กแก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +41
    แค่ใช้คำ แปปเดียวลืม เป็นมิจฉาทิฏฐิเลยหรอ
    แปปเดียวลืมก็คือลืมแน่ๆเป็นปรกติ
    ไม่เห็นมีนจะต่างกับ มีปรกติดับ เลยนะ
    ยัดเป็นทิจฉาทิฐิ รู้สึกว่าเกินไป ถามหาพระสูตรดีมัีย
     

แชร์หน้านี้

Loading...