kokoro

อดีตชาติ ถ้ารู้เองไม่ได้ ใครมาบอกก็เชื่อไม้ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ
อนาคต ก็ไม่ต่างกัน...
อยู่กับปัจจุบันเถอะ ..
รู้ แต่ ทำไม่ได้..กะรูนี่แหละ

 

คิดไม่ออก ก็ สงบ ทันที..

คิดไม่ออก ก็ จิตถึงฐาน ทันที..

 

https://www.aljazeera.com/news/2020/05/france-case-child-dying-kawasaki-disease-200515122350963.html
โควิดมัน ร้ายยยยยยย

 

ศาลาของเรา ใครมาเดินเล่น เราไปก็ได้

 

อย่าลืมความถี่ที่เราไม่สามารถ เห็น,ได้ยิน,สัมผัสสิครับ(พหุภพ,ภพภูมิต่างๆ) ที่ว่างๆนั้นคือทรัพยากรณ์สำหรับความถี่นี้ครับ
ว่าตามส่วนตัวผม จากสเกลของเอกภพ ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอนันต์(กับดาวนับล้านๆๆฯลฯ ไหนจะพหุภพอีก ที่คนละความถี่กับพวกเรา ที่พวกเราไม่สามารถเห็น,ได้ยิน,สัมผัส) เทพ อสูร ปีศาจ พระเจ้า เหล่านี้ก็เป็นเหมือนมนุษย์ต่างดาวที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีต่างจากโลกเรา และจับตาดูหรือคอยแทรกแซงพวกเราอยู่ตลอด รวมถึงสร้างแคลน(ขอบเขตการดูแลที่แบ่งเหมือนกลุ่ม เหมือนชุมชนอย่างจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน และรวมถึงศาสนา)
สำหรับคนธรรมดาๆอย่างพวกเราพวกเขาอาจเฉยๆไม่ยุ่งอะไรมากมาย แต่อาจจะเน้นไปแทรกแซงพวกใหญ่ๆทางสังคมชนชั้นมากกว่า เช่น พวกนักการเมืองประเทศใหญ่ๆ หรือแม้แต่CIA พวกนี้น่าจะเป็นเป้าหมายเด่นๆกว่าคนธรรมดาอย่างเราๆอยู่แล้ว สำหรับ นรก สวรรค์ ส่วนตัวผมเชื่อว่ามี ในฐานะแดนภายใต้การปกครอง เช่น นรก ก็คือคุก โดยเฉพาะ พวกที่ทำผิดและหลบหนีลอยนวล เมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่ถูกสาวความได้ พวกยมโลก(พลูโต) อาจมาลักพาตัวไปยังแดนดังกล่าว สำหรับ สวรรค์ ก็คงเป็นพื้นที่ ภายใต้ในดวงอาทิตย์ที่เป็นเกราะ ณ อีกความถี่หนึ่งที่ซ้อนกับความถี่ที่พวกเราสามารถเห็น ได้ยิน สัมผัส ได้ ประมาณเป็นเขตพื้นที่อยู่อาศัยที่จะคัดกรองแบบสอบเข้าโรงเรียน ที่ไม่ได้รับแบบโรงเรียนในลักษณะรับเด็กเก่งมีความรู้ทำข้อสอบได้ แต่สอบวัดกันที่การใช้ชีวิต ว่าเป็นคนดีแค่ไหน คะแนนเหมาะจะอยู่ในเขตไหนได้มากกว่าครับ ซึ่งพื้นที่เขตที่เรียกว่าสวรรค์นั้นมีเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้ากว่าโลกเราเป็นแสนเป็นล้านปี จึงจำเป็นมากที่ต้องควบคุมการเข้าถึงของผู้ใช้/สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ง่ายๆคือให้แต่คนดีใช้เท่านั้นเพื่อป้องกันผู้ใช้นำไปใช้ในทางที่ผิด จึงรับคนเข้าถึงอย่างเข้มงวด และเป็นพื้นที่ที่กฏหมายเข้มงวดและจุกจิกด้วยเช่นกัน แต่ก็มีพื้นที่ลอยแพเช่นกันสำหรับจำพวกที่คุยไม่รู้เรื่อง เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้นั้นได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากๆเผื่อจะได้ฉุกคิดและให้ความร่วมมืออย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ที่ไม่เลือกศาสนาก็จะได้แคลนสายวิทยศาสตร์ ซึ่งธรรมชาติจะปรับสมดุลพลังงานบวก-ลบที่เจ้าตัวสะสมไว้ เช่น ได้ตกอยู่ในสภาวะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โรคระบาด ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ทุกรูปแบบทุกจินตนาการ ผีดิบซอมบี้ เอเลี่ยนบุก มีสิทธิได้เจอหมด สุดแล้วแต่กรรม ถ้าสามัญๆธรรมดาๆ ก็อาจแจคพอร์ต ประสบภัยพิบัติหรือโรคระบาดด้วยตัวเอง แต่ผู้ไม่เชื่อศาสนาและไม่เคารพธรรมชาติ ก็มักปลอบใจตัวเองประมาณว่ามันเพราะ "ความบังเอิญ"

#เราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ การคัดกรองคัดแยกเป็นเรื่องปกติ ที่ยังมาไม่ถึงเพราะกรรมไม่ถึง ,ยังไม่ถึงเวลา แต่เมื่อใครพร้อมดีแล้วก็สามารถได้พบได้เจอ อย่างแน่นอน โลกของเรามีแวนอัลเลนคอยปกป้องอยู่ ผู้คนยังคงเป็นเหมือนกบในกะลาที่บรรพบุรุษพวกเราคอยเผ้าคุ้มครองไว้อยู่
ยิ่งมากคนยิ่งมากเรื่อง เป็นเรื่องธรรมดา ขอความกรุณาในการทำความเข้าใจในจุดนี้ด้วยครับ

เมื่อเราตาย จิตจะคัดลอกข้อมูลในส่วนที่เรียกว่า วิญญาณ(DATA) ส่วนร่างเก่าก็จะเหมือนคราบที่แมลงลอกคราบทิ้งไว้ เพราะตัวในมันใหญ่ขึ้น
(เทคโนโลยี ควอนตัว ตัวเล็ก-ใหญ่ แต่การรับรู้ เรายังเห็น เส้นผม,มือ,ตัวเอง ขนาดเท่าเดิม ไม่ว่าจะเปลี่ยนไซส์ยังไง มีเพียงแวดล้อมที่สเกลต่างไปเท่านั้น) การที่มนุษย์ลอกคราบ(ร่างเก่า) บุคคลนั้นๆ(ตัวจิต) จะเคลื่อนไปความถี่ใหม่ ที่ขณะคนละความถี่ก่อนหน้าซึ่งปกติจะไม่สามารถ เห็น,ได้ยิน,สัมผัส ต่างความถี่ เราสามารถเข้าใจได้ทุกอย่างได้(หากต้องพึ่งเทคโนโลยี) เมื่อเข้าใจ ควอนตัม(เต็มขั้น)+ทฤษฏีสรรพสิ่ง แล้ว

สำหรับการหลุดพ้น สุขกายสบายใจ ณ ปัจจุบัน ความสุข-ทุกข์ มันไม่จีรังยั่งยืน ทุกอย่างล้วนอนิจจัง วันนี้อาจจะดี แต่พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร อยู่ที่การกระทำ ณ ปัจจุบัน สวรรค์ในอก นรกในใจ เหนื่อยนักก็พัก หายเหนื่อยแล้วก็ต่อ วนลูปไปเรื่อยๆ สร้างโน่นสร้างนี้ขึ้นมาเองก็เป็นของตนเอง แล้วดูแลให้ดี อันไหนเสียก็ซ่อม ถ้าซ่อมไม่ได้ก็เถือแล้วเอาไปเสริมอย่างอื่นที่ลงตัว


#ความรู้ รู้ไว้วันนี้อาจจะยังไม่ได้ใช้ แต่รู้ไว้ย่อมดีกว่าไม่รู้ มีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ย่อมดีกว่าจำเป็นต้องใช้แต่ไม่มี

 

ชีวิตจริงทำอย่างนี้ไม่ได้/

 

ลึกลับซับซ้อนจุง

 

มันมีมลคลจักวาลใกล้ดับเค้าเลยเตียมย้ายที
มะโนไปเพลินๆ55

 

ใครมากดขำเดี๋ยวบล๊อคเลย เครียดอยู่

 

[ถ้าไม่คุยเรื่อง จักรวาล วิทยาศาสตร์ อาจโดนย้ายไปหลุมดำ....
ถ้านิพพานคือธรรมชาติ อันกว้างใหญ่
มันก็รวมถึง อวกาศด้วย...

 

ก็ไม่ได้ตั้งกระทู้เอาไว้เพ้อเพลงถึงใครๆ
แบบใครๆ
เพราะไร้สาระไปโหน่ยนึง
แต่ .ใครอยากแปะเพลงก็เชิญ
ขอแบบ กระแทกจายยยย

 

ถ้านิพพานหมายรวมถึง อวกาศที่เหมือนไร้ขอบ เขต..ซึ่งก็คงจริง..เพราะทุกสิ่งที่ไม่ใช่นิพพานล้วนมีจุดจบ จุดสิ้นสุด...
แต่กาลอวกาศ...อาจไม่มีสิ้นสุด ดังนั้น ก็ก็
เป็นธรรมชาติ ที่เหนือธรรมชาติ

 

พูดคนเดียว มีกระร้อนคอยกดขำ..
ดูเหมือนจะเหงา แต่ที่จริงไม่เหงา..
เพราะความเหงาที่แท้จริง ยังเดินทางมาไม่ถึง ทำยังไงจะหนีมันพ้น....
ถ้าทำนิพพานไม่ได้ ก็ต้องหนัโดยเข้าชาน หากทำชานไม่ได้ ก็...ชิบหาย
ไปอวกาศกัน

 

เผื่อโดนครับ

 

ความรักเป็นทุกข์ มากมาย เป็นจุดเริ่มต้นของอารมณ์ต่างๆ เช่น โลภ โกรธ หลง
หนุ่มสาวเขามองว่าสวยงาม คนฆ่าตัวตายตามคนรักที่ตายจากไป ยังมองว่า เป็นความงดงามของความรักเลย..ง่าวจริงๆ..
...

 

รู้ถึงโทษภัยของความรัก แต่ก็หนีมันไม่พ้น.....กะรูนี้แหละ รั
รักลูก รักคุณแม่
รักญาติพี่น้อง..แต่ก็ทุกข์เหมือนกันเมื่อถึงเวลา จาก นั้นแหละ ความเหงาของจริง

 

ผมเห็นมีแต่คนแพ้ ใช้เวลาซักพัก ก็คงเป็นปกติกันได้ครับ

 

รักในโลก มันก็แพ้กันหมด แพ้ตั้งแต่เริ่มต้น แพ้ตั้งแต่คิดจะครองแล้ว ..ใช้เเวลาสักพักก็เป็นปรกติเหรอ...วนมาที่เดิมหนะสิ..วนมาแพ้เหมือนเดิม จบด้วยทุกข์ไม่รู้จบเหมือนเดิมๆ เป็น ปรกติ จริงๆ

ฟังเพลงรักไหนก็อินๆไปหมด..
แต่ผมไม่ไม่อินนะ...เพราะ ผมไม่ฟัง 55
ผมจะฟังแต่เพลงทีีผมฟังไม่รู้เริ่องเท่านั้นละเดี๋ยวนึ้นะ ชิววว