เปิดให้บูชาเม็ดรุทรักษะหายากจากอินเดียผ่านพิธีจากอินเดียอย่างถูกต้อง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย slaybadhuman, 9 เมษายน 2008.

  1. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    พอดีไปอินเดียแล้วได้ติดมือมา มี ทั้ง 1หน้า 8หน้า 9หน้า 11หน้า และสุดยอดของสุดยอดหายากคือ14หน้า ทุกเม็ดมีจำนวนจำกัดเพียงอย่างล่ะ3เม็ดเท่านั้น
    รุทรักษะ14หน้า นั้นจะเหมาะแก่ หมอดู นักโหรศาสตร์ นักพยากรณ์ เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยว่าผู้ใดที่สวมใส่รุทรักษะ14หน้าจะทำให้หยั่งรู้อนาคต เพิ่มพูนสัมผัสที่6 จะได้รับพรและพลังสูงสุดแห่งองค์พระศิวะ
    [​IMG]รุทรักษะ 1 หน้า พระศิวะ (1 Mukhi Rudraksha) ช่วยเพิ่มสติ และสมาธิ รวมถึง ความนึกคิดจิตใจ เพิ่มมุมมองต่อโลกกว้าง และช่วยให้ผู้สวมใส่มีความสุข และรู้สึกสบาย อย่างไม่ยึดติด นอกจากนั้น ยังช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จ เพิ่มความเชื่อมั่น เป็นทางแห่งชัยชนะ เพิ่มพูนบารมี ชื่อเสียงกึกก้อง นำมาซึ่งความสงบสุข มักมาในรูปแบบพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว หรือรูปแบบกลม นำมาซึ่งพลังเช่นเดียวกัน
    The One Mukhi Rudraksha is the symbol of Godhood, Supreme Truth and Attainment of Eternity. The One Mukhi Rudraksha is itself Lord Shankar and it is the main among all Rudrakshas of all faces. It is ruled by the Sun and enlightens the Super Consciousness. It brings the power of Dharana to the wearer meaning the power to concentrate the mind on an object. The wearer of One Mukhi Rudraksha gets his mental structure changed and he begins to feel renunciation from the worldly affairs and naturally inclines towards GOD. His mind begins to concentrate on the Supreme Element that is Partattva Dharana cha jayate Tatprakashnam thus the discoverers of Aatma Tattva must wear One Mukhi Rudraksha.
    [​IMG][​IMG]
    </TD>รุทรักษะ 8 หน้า พระคเณศ (8 Mukhi Rudraksha) ช่วยขจัดอุปสรรค และนำมาซึ่งความสำเร็จในทุก ๆ เรื่อง เพิ่มความก้าวหน้า
    8 mukhi Rudraksha is the second form of reflection of the first son of Lord Shiva, Lord Ganesh and is one who is worshipped prior to other gods. Eight linings present on it makes it a very effective Rudraksha. Its wearer becomes unaffected by miseries – physical, divine or mental. It sets the wearer free from the sin caused by telling a lie. It gives the wearer all kinds of attainments – Riddhies and Siddhies and leads him to Shivloka. His opponents are finished i.e. the minds or intentions of his opponents are changed and all obstacles in his path are removed. Ruling planet is Rahu hence helpful in sublimating the malefic effects of Rahu. It’s malefic effects are similar to that of Shani or Saturn as in 7 mukhi. It is held responsible for causing sudden effects. Snake bites are also the result of malefic effects of Rahu. Wearing 8 faced rudraksha keeps a check on the malefic effects of the planet Rahu. Ideal for writers and intellectuals.
    [​IMG][​IMG]
    </TD></TR>
    รุทรักษะ 9 หน้า พระแม่ทุรคา (9 Mukhi Rudraksha) ช่วยเสริมสร้าง พลังในชีวิตอย่างมหาศาล พลังผลักดันให้ดำเนินชีวิตอย่างกล้าหาญ ได้รับความคุ้มครองจากดาวนพคราะห์ ทั้งเก้า ป้องกันสิ่งไม่ดี และภูตผีปีศาจ
    9 mukhi rudraksha is the form of the Goddess Durga (Shakti). It contains the power of Nine Deities. The worshippers of the supreme power Shakti must wear this Rudraksha. All the Rudraksha are the symbol of Lord Shiva but Nine faced Rudraksha contains special Nine qualities. It increases self-power. It makes us concentrate our mind and it also creates the belief that as by hiding the head into the lap of mother, all the fears of a child finish, similarity its wearer becomes fearless. The blessings of the Mother remain with him who always wears it. Nine faced Rudraksha gives the wearer both devotion and salvation.When invoked, the mother Goddess blesses the wearer with lot of energy, powers, Dynamism and fearlessness, which are useful to live a life of success. Gives Bhoga and Moksha. It's ruling planet is Ketu (Dragon's tail).
    [​IMG]<TR><TD width="18"></TD> </TR><TR><TD width="14" background="images/homebox-01bg.gif"></TD>[​IMG]
    </TD></TR>รุทรักษะ 11 หน้า พระหนุมาน ( 11 Mukhi Rudraksha) ช่วยนำมาซึ่งสติปัญญา ช่วยให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง เพิ่มพูนพลังงาน ผลักดันสู่ความสำเร็จ ปกป้องคุ้มครองอุบัติเหตุ เพิ่มสัญชาติญาณ
    11 Mukhi Rudraksha is regarded as the light mass of Lord Rudra Shiva (Eleven Rudras). For the devotees of Lord Shiva it is the most effective and most successful Rudraksha. There are eleven Rudras and the eleventh Rudra is Lord Hanuman and taking his name ghosts and evil spirits run away. He is full of learning, virtues, cleverness and wisdom. Therefore, all these virtues are filled in the man who wears this eleven faced rudraksha. It makes the wearer strong, wise, healthy and without disease. This Rudraksha is the symbol of Indra, the king of Gods. It gives the wearer permanent happiness. It means that pleasure and happiness come to the man who worships Indra and makes him happy. It relieves the wearer from the fear of sudden death. It induces courage and confidence in the wearer to lead an adventurous life. It also helps in practicing meditation and religious rituals and removes the problems of yogic practices.
    [​IMG][​IMG]
    </TD></TR></TD></TR>
    รุทรักษะ 14 หน้า พระศิวะ (14 Mukhi Rudraksha) นำมาซึ่งสัญชาติญาณ สัมผัสที่ 6 หยั่งรู้อนาคต ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ขจัดสิ่งที่ไม่ดี ภูตผีวิญญาณ มนต์ดำต่าง ๆ นำมาซึ่งความปลอดภัย และพลังในตัวเองอย่างเหลือล้น รุ่งเรืองในทิศทั้งสิบ ช่วยปกป้องคุ้มครอง และขจัดสิ่งที่ไม่ดี ทำลายอำนาจมืด ขจัดโรคร้าย
    14 Mukhi Rudraksha is found most rarely and it pleases Lord Shiva to give the wearer His company. It is the most precious divine thing Deva Mani. It awakens the sixth sense organ by which the wearer foresees the future happenings. Its wearer never fails in his decisions. Its wearer gets rid of all the calamities, miseries, worries. It provides the wearer safety and riches. It is a very powerful antedote for Saturn miseries and provides miraculous cures to several ailments. It is recommended to be worn on chest as a necklace, on forehead on third eye region or on right arm. It helps in achieving moksha (salvation) from the world which is the essence of human life. The wearer of 14 mukhi rudraksha becomes divine and becomes dear to Lord Shiva.

    [​IMG]
    ส่วนหน้านั้นมี14เม็ดผมได้ร้อยประดับกับเงินพร้อมด้วยสายสิญจน์สีแดงจากทางอินเดียที่ผ่านพิธีแล้ว เป็นสร้อยข้อมือชายแบบ2in1คือ เป็นสร้อยข้อมือก็ได้ ประกอบเป็นสร้อยคอก็ได้ เสนอราคาที่ 13900 บาท

    แบบที่ยังเป็นเม็ดไม่ได้ร้อยมีดังนี้
    1 หน้า เม็ดล่ะ 1900บาท
    8 หน้า เม็ดล่ะ 999 บาท
    9 หน้า เม็ดล่ะ 1290 บาท
    11 หน้า เม็ดล่ะ 2090 บาท
    14 หน้า เม็ดล่ะ 9900 บาท (ลดพิเศษ)
    ทุกชิ้นได้มาอย่างล่ะ3ชิ้นเท่านั้น ทันทีที่สั่งซื้อทุกชิ้นพร้อมบริการร้อยกับด้ายสายสิญจน์สีแดงผ่านพิธีกรรมจากอินเดีย ประดับเม็ดเงินข้อเงิน และร้อยใส้เม็ดรุทรักษะ5หน้าขนาดเล็กฟรี ดังรูปข้างต้น

    ชำระเงินผ่านธนาคารทหารไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี ชาติรัตน์ รัตนสมัย 102-7-59136-9

    ติดต่อที่ผมได้โดยตรง24ชม. ที่ 084 9441436 หรือที่เบอร์ 02 6539812 (ชาติ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2008
  2. paimanam

    paimanam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +152
    ผมอยากรู้ว่า รุทรักษะ คืออะไรหรอครับ ????
    ขอคำชี้แนะจากท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ
     
  3. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    ตำนานแห่งเมล็ดพืชมงคล
     
  4. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    ลืมไปครับนอกจากรุทรักษะแล้ว ผมยังมี ศรียัน ตระ จากแก้วคริสตันหรือหินควอสซ์ หรือ ที่คนไทยเรียกอีกชื่อว่า เขาพระสุเมรุแกะ โดยแกะจากช่างทางอินเดีย ผ่านพิธีกรรมเรียบร้อย เหมาะไว้ใช้เพิ่มพลังแก่สถานที่ ซึ่งจะทำให้ได้รับอำนาจแห่งทวยเทพ ใช้วางหน้า พระพุทธรูปหรือเทวรูป ก็ได้

    [​IMG] ขนาดโดยใช้เวอร์เนียวัด ความสูงจากฐานถึงปลายยอด ยาว2.8 ซ.ม. ส่วนฐานด้านกว้างทั้ง4ด้าน ด้านล่ะ 2.4 แต่ละชิ้นขนาดอาจต่างกันเพียงเล็กน้อยเพราะเป็นงานแกะมือของเนปาล ราคาบูชานั้นเพียงอันละ 590 บาท ครับ มีเหลืออยู่2 อันเท่านั้นที่แบ่งให้บูชา ซึ่งไม่รวมส่วนที่ผมไว้บูชาเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2008
  5. อายุมั่น

    อายุมั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2007
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +3,864

    ขอจองทั้ง 2 อันเลยค่ะ
     
  6. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    ได้เลยครับไม่มีปัญหา(||)
     
  7. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    [​IMG]

    บริวาร-กุเบร
    พระกุเบร ยักษ์ผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สิน
    พระกุเบร คนไทยเรียก ท้าวกุเวรหรืออีกนัยหนึ่งว่า ท้าวเวสสุวรรณ ถือเป็นบริวารคนสนิทของพระศิวะอีกคนหนึ่ง ทรงเป็นเทพเจ้าผู้พิทักษ์ดินแดนทางเหนือแห่งจักรวาล เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ทรงเป็นกษัตริย์แห่งยักษ์ ครองเมืองอัลกา ซึ่งอยู่ใกล้เทือกเขาหิมาลัย
    ว่ากันว่า พระกุเบรนั้นมีผิวพรรณเป็นสีทองคำเหมือนกับรัศมีของ ดวงอาทิตย์ ทรงภูษาชั้นในด้วยผ้าสีแดง ชั้นนอกเป็นสีขาว สร้อยพระศอเป็นเหรียญทองคำ ทรงประดับเพชรพลอยเต็มพระองค์ พาหนะส่วนพระองค์คือ จิ้งจอกทองคำ ทำหน้าที่เดียวกับพระลักษมีเทวี(ในแง่ของการอำนวยโชคและทรัพย์สินเงินทอง)ทรงมีพุงพุ้ย ทรงมี 2 กร พระกรขวาทรงถือนิธิส (ถุงใส่เงินทอง)พระกรซ้ายถือตะบอง บางแห่งบอกมี 4 กร โดยเพิ่มหม้อน้ำกมันทลุ และผลมะนาวหรือแก้วสารพัดนึก ลักษณะพิเศษประจำพระองค์คือ ฟัน 8 ซี่ และมี 3 ขา
    เรื่องราว ของพระกุเบรเกี่ยวพันกับการจุดประทีป โดยเฉพาะการถวายแสงสว่างแก่พระศิวะ
    ก่อนหน้าที่จะมาเป็นพระกุเบรนั้น เขาเป็นลูกของพราหมณ์ญาณทัตตะในแคว้นกัมปิลยะ พราหมณ์ผู้นี้รอบรู้ในพิธีการและพระเวทเป็นอย่างดี ในขณะที่พราหมณ์คุณนิธิ ผู้เป็นลูกชายนั้นมีนิสัยตรงข้ามกับพ่อโดยสิ้นเชิง ชอบเที่ยวเตร่ เฮฮา ดื่มเหล้า ให้ร้ายป้ายสีคนอื่น ลักขโมย เล่นการพนันและติดสาวโสเภณี ผู้เป็นพ่อจับนิสัยลูกได้ จึงตัดขาดจากการเป็นพ่อลูกทันที
    พราหมณ์คุณนิธิกลายเป็นคนพเนจรไร้ซึ่งทรัพย์สินใด ๆวันนั้นยังไม่มีอาหารใด ๆตกถึงท้อง และเขานั่งตัดพ้อต่อว่าชีวิตครั้งใหญ่ ระหว่างนั้น เขาเห็นเหล่าสาวกที่ศรัทธาในพระเป็นเจ้าได้นำเครื่องสังเวยไปบูชาพระศิวะในวันศิวาราตรีเมื่อเขาได้กลิ่นอาหารอันโอชะ เขาคิดช่องทางว่า หากสาวกเหล่านั้นหลับสนิทเมื่อไหร่ จะขโมยอาหารเหล่านั้นมากินแก้ความหิว
    หลังจากเหล่าสาวกสิ้นสุดพิธีบวงสรวง ต่างแยกย้ายกันเข้านอนพราหมณ์หนุ่มเริ่มดำเนินการตามความตั้งใจไว้ทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่แสงไฟที่ตะเกียงบนแท่นบูชาพระศิวะริบหรี่ลง พราหมณ์หนุ่มก็เลยตัดสินใจฉีกชายเสื้อมาเป็นไส้ตะเกียง ไม่ใช่เพราะว่า ศรัทธาในพระเป็นเจ้าหรืออะไรทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะอยากเห็นอะไรต่อมิอะไรได้ชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นเขาได้รีบฉกฉวยเอาอาหารรสเลิศและวิ่งออกจากเทวาลัยทันที ระหว่างที่เร่งรีบนั้น ไม่ทันระวังไปเหยียบเอาสาวกพระศิวะที่นอนอยู่คนหนึ่งเข้า ความเลยแตก เกิดการโวยวายขึ้นมา พวกสาวกทั้งหลาย เห็นชายแปลกหน้ามาขโมยของที่เขานำมาถวายต่อพระเป็นเจ้าก็โกรธเป็นกำลัง เข้ารุมทำร้ายชายแปลกหน้า จนล้มตายตรงหน้า
    ยมฑูตมารับเอาดวงวิญญาณของพราหมณ์คุณนิธิ ขณะนั้นบริวารแห่งพระศิวะเทพได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าฑูต
    "ข้าแต่ท่านยมฑูต ขอให้ปลดปล่อยดวงวิญญาณพราหมณ์หนุ่มผู้นี้เสียเขาไม่สมควรถูกท่านนำไปลงโทษ เพราะบาปทั้งหมดของเขาได้หมดสิ้นไปแล้ว"ยมฑูตเกิดความสงสัยเป็นกำลัง จึงถามว่า
    "ข้าแต่บริวารแห่งคณะผู้ยิ่งใหญ่ เขาผู้นี้เป็นพราหมณ์ที่ประพฤติชั่วร้ายมากทำลายประเพณีและวัฒนธรรมแห่งครอบครัวของพราหมณ์ ทำลายชื่อเสียงวงค์ตระกูลแห่งบิดา-มารดาเขาไม่ปฏิบัติกิจแห่งพราหมณ์ไม่ได้ชำระร่างกายทางศาสนาในครั้งนี้เขาทำบาปมหันต์ด้วยการขโมยอาหารของพระเป็นเจ้า"
    บริวารแห่งพระศิวะได้ฟังถ้อยความของยมฑูต จึงสำรวมจิตถึงพระเป็นเจ้าและตอบคำถามดังนี้
    "ข้าแต่ท่านยมฑูต พระศิวะเทพเป็นผู้ทรงธรรมยิ่งใหญ่ต่อเหล่าบริวารแห่งพระองค์อย่างตลอดกาล ทำไมบุตรแห่งพราหมณ์ญาณทัตตะผู้นี้จึงได้เชื่อว่าหลุดพ้นจากบาปทั้งปวง
    พราหมณ์หนุ่มผู้นี้ด้วยต่อเชื้อเพลิงให้สว่างขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจด้วยเศษผ้าแม้ว่าจะเป็นการกระทำ
    เพียงเล็กน้อยแต่ทว่ายิ่งใหญ่ เขาได้นั่งรอเวลาเพื่อให้ความดึกสงัดเข้าครอบคุมเทวาลัยระหว่างนั้น เขาได้นั่งฟังสวดสรรเสริญถึงพระนามแห่งศิวะเทพตลอดพิธีบวงสรวง อาหารที่เขาขโมยมานั้นยังไม่ตกถึงท้องแม้แต่น้อยด้วยเหตุนี้ เขาจะต้องเดินทางไปยังศิวะโลกพร้อมกับเรา เพื่อรับผลบุญนี้เป็นเขาจะต้องเดินทางไปยังศิวะโลกพร้อมกับเรา เพื่อรับผลบุญนี้เป็นเวลาหนึ่งก่อน ขอให้ท่านปลดปล่อยดวงวิญญาณนี้ และเดินทางกลับสู่ยมโลกเพื่อทราบทูลต่อพระยายมราชถึงเหตุนี้"
    พระยายมราช เมื่อทราบความทั้งหมด ทรงมีรับสั่งว่า "พวกเจ้าทั้งหลายจงฟังคำสั่งของข้าให้ดีทุกคนขอให้เจ้าทุกคนละเว้นจากบุคคลทั้งหลาย ผู้เจิมหน้าผากด้วยเครื่องหมายตรีปุณทร (เครื่องหมายสามขีด)ด้วยขี้เถ้าสีขาว ละเว้นผุ้สวมใส่เทวรูปแห่งศิวะเทพ ผู้สวมใส่ประคำรุทรักษะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จงอย่านำวิญญาณเหล่านี้มายังยมโลก"
    หลังจากพราหมณ์หนุ่มได้เสวยสุขในศิวะโลกชั่วระยะหนึ่ง ได้ถือกำเนิดเป็นโอรสแห่งกษัตริย์อรินทัมแคว้นกลึงคะ ตั้งอยู่ในคุณความดีและเป็นสาวกแห่งพระศิวะเทพ ตลอดชีวิตของการเป็นกษัตริย์ได้สร้างวัด ซึ่งประดับประดาด้วยดวงประทีป ตลอดทั้งแว่นแคว้นของพระองค์แสงสว่างไม่เคยขาดช่วงเลย ด้วยการปฏิบัตินี้จึงทำให้พระองค์มีสมบัติมากมายเพิ่มทวีคูณมากขึ้น หลังสิ้นพระชนม์ชีพ ด้วยแสงสว่างจากดวงประทีปที่ประกอบต่อเนื่องมาตลอดช่วงที่มีชีวิตอยู่ ยังผลให้พระองค์ไปบังเกิดเป็นท้าวกุเบร กษัตริย์ยักษ์แห่งแคว้นอัลกามีพระนามอีกอย่างหนึ่งว่า ประภา
    คราวหนึ่งกษัตริย์แห่งอัลกาผู้นี้ ได้เข้มงวดในสมาธินานถึง 2 พันปี พระศิวะเทพและพระนางปราวตีปรากฏตรงหน้าแสงสว่างประดุจพระอาทิตย์พันดวงทำให้พระกุเบรมิอาจชื่นชมพระบารมีแห่งพระศิวะได้กระจ่างตา เพียงมหาเทพวางพระหัตถ์แตะบนร่างของพระกุเบรนั้น ทำให้เขามีพลังพอที่จะชื่นชมในพระบารมีแห่งมหาเทวะได้
    พระกุเบรเห็นพระแม่อุมาครั้งแรก จึงรำพึงกับตัวเองว่า
    "เป็นพระองค์ใดเล่า ที่ทรงประทับยืนเคียงข้างพระองค์ผู้เป็นใหญ่ ทรงมีพระรูปโฉมงดงามมาก ยากจะหาหญิงใดมาเทียบเท่า พระนางประกอบสมาธิอันใดเล่า ถึงมีพระบุญญาธิการยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ "พระกุเบรได้รำพึงกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจ้องมองพระนางอุมาด้วยความอิจฉาในบุญญาธิการจนดวงตาด้านซ้ายของเขาระเบิดออกมา
    "ข้าแต่เทวะ ทำไมชายชั่วผู้นี้ พระองค์ทรงให้พรต่อการทำสมาธิของเขา เขาได้จ้องมองข้าพเจ้าด้วยดวงตาข้างขวาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความฉงนสงสัยเขารู้สึกต่อข้าพเจ้าอย่างไรกันแน่ โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วยเถิดเพคะ"
    พระแม่เจ้าตรัสถามพระศิวะเทพผู้เป็นสวามี พระองค์ทรงหัวเราะเมื่อได้ยินคำถามจากพระชายา
    "โอ อุมาเทวีเขาผู้นี้เปรียบได้กับโอรสของนาง เขาไม่ได้จ้องมองนางตามที่นางคิดโกรธหรอก เขาเพียงพรรณาถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจแห่งสมาธิของนางเท่านั้น"
    พระศิวะเทพกล่าวตอบนางผู้เป็นชายา และหันไปตรัสกับพราหมณ์หนุ่มผู้นี้ว่า
    "ลูกรักข้ายินดีและพอใจอย่างมากต่อการทำสมาธิระลึกถึงข้า ข้าจะมอบพรอันวิเศษตามที่เจ้าปรารถนาอยากได้ เจ้าจะได้เป็นเทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ในจักรวาลและจะได้เป็นเทพเจ้าแห่งพวกคุหยักษ์ เจ้าจะได้เป็นกษัตริย์แห่งพวกยักษ์ ,กินนรและเจ้าผู้ปกครองคนทั่วไป เจ้าจะเป็นผู้นำแห่งพวกบุณยะญาณ เป็นเทพเจ้าผู้ประทานทรัพย์สินเงินทองแก่จักรวาล
    อันสัมพันธ์ของเจ้ากับตัวข้านั้นจะอยู่ชั่วกาลปวสาน ข้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าตลอดกาล จะอยู่ในแคว้นของเจ้าและจะปกป้องคุ้มครองดูแลเจ้าอย่างใกล้ชิดเหมือนบริวารคณะของข้าทีเดียว บุตรแห่งพราหมณ์ญาณ ทัตตะ ผู้เป็นสาวกของข้า ขอให้เจ้าเข้ามาใกล้ ๆพระแม่องค์นี้คือ พระมารดาของเจ้า จงน้อมกราบพระบาทของนางด้วยความเคารพบูชา"
    เมื่อรับฟังคำแห่งพระสวามี พระแม่ปราวตีมารดาแห่งจักรวาลทรงมีรับสั่งต่อบุตรพราหมณ์ด้วยถ้อยคำอันไพเราะว่า
    "ลูกชายที่รัก ขอให้กราบไหว้บูชาพระศิวะมหาเทพตลอดกาล ด้วยดวงตาข้างซ้ายของลูกที่แตกออกมานั้นเจ้าจงมีชื่อว่า พระเอกปิงคะ (ผู้มีเครื่องหมายสีเหลืองอยู่ที่ดวงตาข้างซ้าย)ขอให้พรอันยิ่งใหญ่ที่เทพเจ้าแห่งจักรวาลที่ทรงประทานให้ไว้ จงสัมฤทธิ์ผลโดยเร็วและมั่นคงตลอดกาล เจ้าจะถูกขนานนามว่า ท้าวกุเบร (จุดไฟ,ผู้มีรูปร่างผิดแปลกจากผู้อื่น)"
    หลังจากที่มหาเทพและมหาเทวีให้พรแก่ท้าวกุเบรแล้ว ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับเขาไกรลาศ ส่วนดินแดนของท้าวกุเบรนั้นอยู่ในเมืองอัลกา ซึ่งอยู่ใกล้กับเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งคนไทยเรียกกันว่า เขาไกรลาศ นั่นเอง
    โดยเฉพาะท้าวกุเบรนั้น ชาวธิเบตนับถือกันมาก เพราะเป็นเทพเจ้าที่อุดมด้วยทรัพย์สิน มีคุณสมบัติดุจเดียวกับพระลักษมีเทวี การผูกเทวปกรณ์ในบางเรื่องของชาวฮินดูนั้น ในบางแห่งว่ากันว่า ท้าวกุเบรมิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นลูกรักของลักษมีเทวีด้วย นั่นแสดงให้เห็นถึงตำนานที่ผูกแต่งกันไป อันเมืองอัลกา ของท้าวกุเบรนั้น แท้ที่จริงก็คือเมืองหน้าด่าน ที่ทุกคนจะต้องถูกตีตราตรวจสอบก่อนเข้าเฝ้าศิวะเทพที่เขาไกรลาศ นั่นเอง
    credit http://www.geocities.com/thaiganesh
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2008
  8. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
  9. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    <TR><TD width="93" background="images/homebox-03.gif">
    [​IMG]
    </TD><TD width="18">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="14" background="images/homebox-01bg.gif">
    [​IMG]
    </TD><TD width="93" height="82">
    [​IMG]ต้นรุทรักษะที่ขึ้นบริเวณเทือกเขาหิมาลัย


    <TR><TD width="93" background="images/homebox-03.gif">
    [​IMG]
    </TD><TD width="18">
    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD width="14" background="images/homebox-01bg.gif">
    [​IMG]
    </TD><TD width="93" height="82">
    [​IMG]ผลของต้นรุทรักษะที่ต้องรอให้ตกลงมาจากต้นจนแห้งก่อนถึงจะเก็บได้​
    </TD></TR>​
    </TD></TR>
     
  10. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    วันนี้มี รุทรักษะ 5 หน้า ร้อยเป็นสร้อยข้อมือมาให้บูชากันครับ จะเป็น 5หน้า เม็ดเล็กตลอดทั้งเส้นครับ จำนวน19เม็ด(ข้อมือผู้ชาย) เลข19 นั้นเป็นเลขมงคล ตัวเลขราชาแห่งโชค ร้อยด้วยด้ายสายสิญจน์สีแดงจากอินเดีย ส่วนข้อต่อเป็นทองเหลือง ราคาบูชาเพียง 199 บาท ครับ มีหลายเส้นครับอันนี้มีไม่จำกัดจำนวน ทุกเส้นผ่านการร้อยอย่างถูกวิธี ตามความเชื่อฮินดูหรือพราหมณ์ ผ่านพิธีอย่างถูกต้อง ผู้สวมใส่ตลอดชีวิตจะไม่ถูกจับกุมจากยมทูตเพื่อไปรับโทษ

    [​IMG]


    [​IMG]
    <TR><TD width="93" background="images/homebox-03.gif"></TD><TD width="18"></TD></TR><TR><TD width="14" background="images/homebox-01bg.gif"></TD>[​IMG]
    </TD></TR> รุทรักษะ 5 หน้า พระศิวะ (5 Mukhi Rudraksha) ช่วยเรื่องสุขภาพ และนำมาซึ่งความสงบสุข ตลอดจนช่วยเพิ่มความทรงจำ ไม่ให้หลงลืมง่าย มีพลังเสริมของธาตุทั้ง 5 เสริมเรื่องสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง นำมาซึ่งความโชคดี และช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
    5 mukhi Rudraksha is the form of Rudra named Kaalagni. The wealth, in the form of learning that man gains in the world, should be apparent and permanent only then it is meaningful. Five faced Rudraksha is useful for this purpose. In the long run we lose our power to maintain the learning that we have gained and at last it vanishes. We forget the acquired learning or cannot remember the lost learning only after wearing the five faced Rudraksha. Agni (fire) purifies the metals and similarly five faced Rudraksha rectifies all the vices and faults of Jeeva and makes him pure and Jeeva gains the form of Pashupati i.e. the Lord of all creatures after becoming free from the animal instincts. By wearing its mala the wearer
     
  11. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    สำหรับผู้สนใจ ศรียันตระ จากแก้วคริสตัน ควอซ ใส สามารถสั่งจองเพิ่มเติมล่วงหน้าไว้ก่อนได้ สิ้นเดือน ไปอินเดีย อีกจะได้นำกลับมาอีก ผู้สนใจลงชื่อสั่งจองได้เลยครับ ของมาแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ
     
  12. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    วันนี้นำข้อมูลเกี่ยวศรีจักรา หรือ ศรียันตระ ถ้าเป็นแผ่นยันจะเป็นแผ่นแบนๆ และก็จะ มีส่วนที่ ทำแกะเป็น3D เป็นองค์ ศรียันตระขึ้นมา ข้อมูลที่จะนำมาให้อ่านนี้เป็นข้อมูลจาก อุณมิลิต

    ศรีจักรานี้เป็นยันต์ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของยันต์ทั้งปวงของชาวภารตะ ซึ่งถูกลอกเลียนไปใช้ในทิเบตแต่ก็ได้ไปแบบไม่ครบถ้วน เนื่องจากคติยันต์ฝ่ายฮินดูนั้นผูกสร้างอำนาจจากเทวะต่างๆด้วย การบูชาเทวราชที่เป็นรูปแบบหนึ่งของธรรมชาติ หรือบางทีคัมภีร์โบราณก็มักกล่าวว่า ธรรมชาติที่เราเห็นอยู่สัมผัสอยู่นี่ละที่เป็นส่วนหนึ่งของพระเป็นเจ้าของพวกเขา ซึ่งตรงนี้ลุงกุสต้องขอบอกว่าเรื่องราวของเทพเจ้าทางพราหมณ์เขานั้นนะไม่ใช่สิ่งที่เหลวไหลไร้สาระนา แต่เป็นการศึกษาในระดับคลาสสิกทีเดียวเชียวซึ่งต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า เรื่องทรงเจ้าเข้าผีที่ก่อคดีสะเทือนขวัญที่เพิ่งผ่านมาเร็วๆนี้มันเป็นคนละเรื่องกับศาสตร์ของทางพราหมณ์เขา ซึ่งไม่นิยมยอมรับเรื่องการประทับทรงนี้เลย โดยยกเว้นพวกกลุ่มชาวทมิฬ(อินเดียใต้) ที่มักมีพิธีทรงเจ้าแต่คนฮินดูส่วนใหญ่เขาไม่ยอมรับเนื่องจากมีคติว่าร่างกายของมนุษย์นั้น หยาบเกินกว่าภาวะของเทพเจ้าจะเข้าทาบทับจนสนิทได้ซึ่งผู้ที่จะเข้าถึงเทพเจ้าได้ต้องบำเพ็ญตบะเฉพาะ และต้องแสวงสันโดษจนจิตยกระดับเป็นที่สมาคมกับมหาเทวะทั้งหลายได้ เรื่องการทรงเจ้าเข้าผีแบบดำน้ำลุยไฟนี่ละลุงกุสไม่ยอมรับกิจพิธีเหล่านี้ว่า เป็นเรื่องของเทพเจ้าหรอกเพราะจากตำรับตำราที่เชื่อถือได้พบว่าเป็นพิธีกรรมของพวกคนป่าด้อยอารยะธรรมแบบพ่อมดหมอผีวูดู ซึ่งลัทธินิยมเทวะเรียกพวกนี้ว่า
     
  13. อายุมั่น

    อายุมั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2007
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +3,864
    โอนเงินแล้วนะคะวันนี้ 1230.00 รวมค่าจัดส่งค่ะ
     
  14. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    จะจัดส่งให้พรุ่งนี้เช้าครับ แล้วจะโทรไปบอกอีกทีนะครับ ขอบคุณครับ
     
  15. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    ส่งของให้แล้วนะครับวันนี้ 09.00 น.
    ขอบคุณที่อุดหนุนนะครับ
     
  16. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    [​IMG] ศรีจักรา มหายันต์ 3D หรือ เขาพระสุเมรุ จากแท่งแก้วคริสตัลหรือหินควอร์ซ แกะจากประเทศอินเดีย มาแล้วนะครับสามารถสั่งได้ครับ เหมาะในการใช้วางเพื่อเพิ่มพลังให้แก่สถานที่นั้นๆ เพิ่มพลังให้แก่เทวรูป และสิ่งศักด์สิทธ์ต่างๆ ผ่านพิธีจากพราหมที่ประเทศอินเดีย
    ถ้าใครอ่านหนังสือ ชื่อ ธาตุกายสิทธ์พิชิตโรค เล่มสีฟ้า แล้วไม่ควรพลาดครับ

    เพียง590บาทเท่าเดิมครับ
     
  17. slaybadhuman

    slaybadhuman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +11
    รุทรักษะของ คุณธนวัตร จัดส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ED605330314TH

    ขอบคุณที่อุดหนุนครับ ของพลังแห่งองค์พ่อศิวะ จงคุ้มครองคุณธนวัตรให้มีแต่โชคดี
    "โอม นะมัส ศิวา ยะ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...