ร่วมทำบุญบูชา ชุดเก่าตะกรุดดอกครูนามธรรมบุญหนุนส่งวาสนานำพา(เอื้อบุญ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงคชศาสตร์พญาโพธิสัตว์นาฬาคิรีกุญชร(พี่ช้างธนปาลกะ)
    แค่ท่านกับเราเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
    "ครั้นรุ่งขึ้นเป็นเวลาเช้าพระดาบสธรรมเสนบรมโพธิสัตว์นั้นก็เหาะมายังสำนักสมเด็จพระโกนาคมนเจ้าพร้อมด้วยพระอริยสาวก แล้วก็เข้าไปกราบนมัสการแทบพระบาทมูลแห่งสมเด็จพระสัพพัญญู พิจารณาดูทวัตติงสมหาบุรุษลักษณะแล้วก็เกิดความโสมนัสยินดีขึ้นมา จึงกราบทูลอาราธนาพระโกนาคมนเจ้าให้ตรัสพระสัทธรรมเทศนาฯ ครั้งนั้นสมเด็จพระผู้ทรงพระภาคเจ้าจึงทรงพระมหากรุณาตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่าฯ ดูก่อนธรรมเสนดาบสผู้เจริญบัดนี้สมควรตัวท่านจะพินิจพิจารณาซึ่งกิริยาอันจะให้ไปสู่เมืองแก้วคือพระอมตมหานครนิพพานจึงจะชอบแก่ตัวท่านฯ จึงมีพระพุทธฎีกา ตรัสเป็นนัยคัมภีรภาพด้วยประการดังนั้น พระธรรมเสนดาบสได้สดับก็บังเกิดความเลื่อมใสศรัทธา คิดว่าจะตัดซึ่งเศียรเกล้าออกกระทำสักการบูชาพระสัทธรรมเทศนาแห่งสมเด็จพระโกนาคมนเจ้าเถิด จึงกระทำอธิษฐานเล็บของพระองค์ให้คมดุจดาบ ตรัสซึ่งเศียรเกล้าให้ขาด แล้วก็วางไว้ในฝ่าพระหัตถ์ชูขึ้นกระทำสักการบูชาสมเด็จพระพุทธเจ้า กล่าวเป็นพระคาถาตั้งความปรารถนาว่า พระองค์ทรงพระนามว่าพระโกนาคมนเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูผู้ประเสริฐแล้ว นานไปในอนาคตกาลเบื้องหน้า ข้าพระบาทขอปรารถนาให้ได้สำเร็จพระศรีสรรเพ็ชญ์พุทธเจ้าพระองค์หนึ่งด้วยศีลทานของข้าพระบาทนี้ อนึ่งเล่าพระองค์ผู้ทรงพระมหากรุณาเป็นที่พึ่งแก่ไตรโลกแล้วจะล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่เมืองแก้วก่อนข้าพระบาทเล่า ข้าพระบาทขอปรารถนาให้สำเร็จพระนิพพานในกาลเบื้องหน้าด้วยเดชะผลศีลทานของข้าพระบาทในครั้งนี้ฯ"

    ด้วยคติการบูชาพญานาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์ หรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเทพบุตรธนปาลกะซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์นั้นจะยังกุศลให้เกิดขึ้นมหาศาล ทั้งยังให้ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่อัตคัดข้นแค้น ทำกิจการหรือบำเพ็ญบารมีได้อย่างราบรื่น จะเกิดลาภสักการะไหลหลั่งมาไม่มีประมาณทั้งยังใช้เสริมมงคลต่างๆ ด้วยเป็นศาสตร์ที่รุ่งเรืองและนับถือในหมู่ชนชั้นสูงสุดเท่านั้น เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพระผงคชศาสตร์นี้เป็นพิเศษด้วยจะได้เชิญเทพบุตรธนปาลกะซึ่งเป็นเอกอัครบุรุษอุดมวงศ์ในสิบองค์โพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ อันพระพุทธองค์ได้รองรับแล้วเมื่อเกิดเป็นช้างนาฬาคิรีนั้นว่าท่านมีบุญไม่น้อยเลย ให้แสดงมหากรุณาลงมาสร้างบารมีสั่งสมไปชั่วกาลในศาสนาสมเด็จพระชินสีห์เจ้าอีกวาระหนึ่ง

    นอกจากนั้นท่านยังผสมผสานพุทธคุณจากการลบผงพญาคชสารเชือกสำคัญต่างๆนอกจากผงวิชาของช้างนาฬาคิรีแล้วไว้ในวาระเดียวกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นพญาฉัททันต์โพธิสัตว์,ช้างเอราวัณ,ช้างปาลิไลยกะ...เป็นต้น พอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้
    - คติการบูชาพญาช้างฉัททันต์นั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพญาช้างอยู่ในป่าหิมพานต์ มีกายขาวดั่งเงินยวง เท้าแดง ปากแดง งาฉายรังสีแสงเป็นหกสี มีกำลังมาก มีบริวาร 8000 เชือก บูชาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้ง 500 พระองค์อยู่เป็นนิจสะสมบารมีธรรมมากมาย ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสายหลวงพ่อเดิมมีพุทธคุณมากสามารถบันดาลให้ได้ทุกสิ่งที่ขอ
    - ส่วนช้างเอราวัณนั้นเป็นพาหนะของพระอินทร์ ถือว่ามีอานึภาพมากสามารถเหยียบไปได้ทุกหนแห่ง ทั้งบนดิน,บนผิวน้ำ,และในอากาศ ด้วยคติว่ามีพละกำลังที่มากมายมหาศาลทั้งสามารถทำลายสรรพสิ่งให้ย่อยยับไปได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเท่าใดนัก แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เกิดจากการจำแลงกายของเทพคือเอราวัณเทพบุตรดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เห็นท่านสำแดงฤทธานุภาพไล่ทำลายสิ่งต่างๆให้ปรากฏเท่าไหร่นัก ทั้งนี้วิชาการสร้างช้างเอราวัณนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วเป็นของสูง มีอาถรรพ์มาก มีฤทธานุภาพมาก จึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากตามไปด้วย ถ้าทำขึ้นมาด้วยความรู้จริง วิชาถึง เกิดผลดีก็ดีไป แต่ถ้ารู้ไม่จริง ทำไม่ดี ไม่เหมาะไม่ควร เกิดเป็นผลร้ายกับคนใช้ขึ้นแล้วก็จะควบคุมไม่อยู่


    โดยปรกติแล้วช้างเผือกนั้นคือสัญลักษณ์แห่งความรู้และการเกิดสิริมงคล ดั่งความฝันของพระพุทธมารดาคืนก่อนวันเสด็จลงจากดุสิตสวรรค์ของพระโพธิสัตว์เจ้า พระนางก็ทรงพระสุบินถึงช้างเผือกมอบดอกบัวให้พระนางโดยดอกบัวอันหมายถึงความบริสุทธิ์และความรู้ ทั้งในไตรภูมิ ยังเชื่อกันว่าช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ได้แก่ ภริยาที่สมบูรณ์,ขุมสมบัติเหลือคณานับ,ที่ปรึกษาแผ่นดินที่ดี,ม้าที่วิ่งเร็ว,กฎการปกครองที่ดี,แก้วแหวนอันเป็นสิ่งสำคัญ,ช้างเผือกที่สง่างาม” ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้นถือว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มีพลังอำนาจลึกลับในตัว เมื่อได้บูชาจะก่อให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคลทั้งแก่บุคคลและสถานที่ เป็นนิมิตรหมายแห่งความยิ่งใหญ่,ความอุดมสมบูรณ์,ความมั่งคั่งรุ่งเรือง อันหาที่สุดมิได้ อีกทั้งช่วยเสริมบารมีของผู้ที่ได้ครอบครองตลอดจนดีเด่นไปในทางทางมหาอำนาจปราบข่มศัตรู เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพญานาฬาคิรีกุญชรนี้เป็นกรณีพิเศษเพื่อหวังผลในการเกื้อหนุนชีวิตผู้ใช้โดยตรง

    ท่านว่าวิชาช้างแต่ละประเภทนั้นมีคุณต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วช้างเหล่านี้เหมือนกันคือมีครบทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ด้วยพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทั้งมีนิสัยอ่อนโยน,เป็นมิตรและไม่ดุร้าย ทั้งช้างยังเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารจึงไม่คุกคามชีวิตสัตว์โลกอื่นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อสร้างเป็นช้างเทพบุตรธนปาลกะแล้ว ท่านจะลงมาช่วยสนับสนุนในเรื่องของความสูงใหญ่คือดันเรา,ชูเราขึ้นไปให้สูงที่สุด เปรียบเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มั่นคงอันจะเป็นร่มเงาและที่พึ่งของเราต่อไปภายหน้า ทั้งยังช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งเติมเต็มสติปัญญา ท่านว่าพกไว้กับตัวนี่ถ้าใช้คำว่าเธอจะฉลาดขึ้นไม่รู้ว่าจะเชื่อกันมั๊ย ด้วยท่านมีพละกำลังมหาศาลและมีรูปร่างสูงใหญ่แต่ข้างในลึกๆกลับไม่ดุร้ายไม่ทำร้ายผู้อื่นง่ายๆรวมถึงไม่ไปรบกวนผู้ใดก่อนไม่ตอแยกับใครนั่นแหละ เพราะฉะนั้นคนที่บูชาท่านให้จำเอาไว้ว่าท่านจะดันเราอย่างเดียว ดันไม่หยุด ดันไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตเราจะมีอำนาจเป็นของตัวเอง มีความสำเร็จใหญ่โตดั่งที่ปรารถนาทั้งท่านจะช่วยปัดเป่าภัยอันตรายทั้งปวงไม่ให้เข้ามายุ่งกับเรา รวมถึงขัดเกลาสติปัญญาและความคิดให้แหลมคม ทั้งยังเป็นเหตุ,เป็นบ่อเกิด,เป็นกำลังอันจะนำพาโชคลาภวาสนาฉุดกระชากลากดึงให้เข้ามาถึงตัว ท่านธนปาลกะกำหนดให้พ่ออาจารย์ท่านแกะพิมพ์รูปช้างนาฬาคิรีโดยให้มีใบหูยาวใหญ่เพื่อคนบูชาท่านจะได้ป้องกันตัวได้ดุจช้างที่สะบัดใบหูปรกข้างตัว หรือด้านข้างบนของขา,หางซึ่งยาวจรดพื้นต้องแกว่งไกวตวัดขึ้นไม่อยู่นิ่งเพื่อป้องปัดเป่าเสนียดจัญไรทั้งหลาย,งวงก็ต้องยาวจรดพื้นแลตวัดเข้าหาตัวเพื่อจะดึงโชคและสิริมงคลเข้ามาถึงตัวเราด้วยวาสนากำลังพญานาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์เ,งาช้างจะต้องมีลักษณะแหลมคมปลายโค้งเชิดขึ้นเพื่อที่จะเอาไว้พุ่งชนศัตรูหรือคู่ต่อสู้เป็นมหาปราบมีอานุภาพทำลายล้างสูงสุด

    ท่านได้รวบรวมมวลสารสำคัญต่างๆมาผสมกับผงคุณวิชาสายพญาช้างที่ท่านลบไว้ทั้งไคลพระเจดีย์เจ็ดวัด,ไคลเสมาเจ็ดวัด,ไคลโบสถ์เจ็ดวัด(ถือตามตำราโบราณว่าพญาช้างที่สร้างจะได้มีกำลังเจ็ดช้างสารอันเกรียงไกร)นำมาผสมกับผงอิทธิเจ,ผงมหาราช,ไม้พญาช้างหลง(ดีเด่นด้านมหาเสน่ห์ยิ่งนัก),ผงไม้เสาตะลุงช้าง,ว่านชะดองชา,ว่านพญาลิ้นดำ...ท่านนำมวลสารต่างๆมาผสมกับผงสำคัญต่างๆของพญาช้างเผือก ได้แก่
    - ผงงาช้างศึก อันเป็นสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์และเป็นมงคล ผงนี้ท่านธนปาลกะได้เสกให้ก่อนนำมาผสมคราวหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้เป็นกาลเฉพาะเน้นทางพลังอำนาจสะกดให้คนอื่นเชื่อฟังทั้งยังช่วยฟันฝ่าอุปสรรคให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลาย ท่านเสกให้พร้อมกำกับว่าให้ใส่ไปทั้งหมดเพื่อคนใช้ต่อไปจะได้เอาชนะเหล่าศัตรูหมู่มารที่ผจญเวร,ผจญกรรมกันในชีวิตได้ไม่ยาก(พ่ออาจารย์ท่านว่าผงงาสำคัญนี้จะต้องใช้งาช้างศึกโบราณมาลงอาถรรพ์เท่านั้น ทั้งต้องเป็นช้างเผือกด้วย นอกจากงาช้างที่ออกศึกงาธรรมดายังใช้ไม่ได้) ทั้งนี้ยังเป็นเคล็ดที่จะทำให้ผู้ครอบครองชนะการทำศึก,การแข่งขันได้ครั้ง
    - ขนหางช้างเผือก ท่านว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่เป็นตัวแทนของอำนาจ ท่านธนปาลกะท่านได้เสกให้สำเร็จก่อน ท่านว่าขนหางช้างเผือกนี้ท่านลงให้ครบทั้งปัดเป่าเสนียดจัญไร,อุปสรรคขัดขวางทั้งหลาย เมื่อนำมาเป็นมวลสารแล้วผู้บูชาติดตัวจะได้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายที่มองไม่เห็น ทั้งจะปลอดภัยจากการเดินทางสัญจรในแต่ละวันอันจะเหยียบย่างเข้าไปในถิ่นอาถรรพ์ที่ต่างๆ ท่านว่าลงให้ครบหมดจะใช้ป้องกันคุณไสยก็กันได้ทุกชนิด ทั้งยังช่วยปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายได้อีกด้วย(ท่านว่าแม้เจ้ากรรมนายเวรมารังควานก็ปัดออกไปได้ ท่านธนปาลกะท่านลงให้ครบถึงขนาดนั้น มากกว่านี้ไม่สามารถพูดได้) ให้บูชากันดีๆท่านว่าองค์มหาโพธิสัตว์ท่านเมตตาทำให้หมดแล้วติดตัวไว้จะทำให้สามารถหยั่งรู้เภทภัยต่างๆล่วงหน้าได้ เสมือนตัวเองมีสัมผัสพิเศษทั้งยังป้องกันเหตุอันตรายระงับไว้ไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ความรักและความภักดีท่านว่าใส่ลงไปหนนี้ก็เพื่อให้พี่ช้างท่านรักเราเต็มที่นั่นเอง
    - ผงรกช้างผือก เป็นของมงคลอันน่าอัศจรรย์ซึ่งคนโบราณผู้เฒ่าผู้แก่เชื่อกันว่าผู้ใดได้ครอบครองพกพา กช้าง จะบันดาลโชคลาภขั้นสูง,เรียกโชค,เรียกลาภ และยังสามารถเร่งโชค,เร่งลาภ เข้ามาสู่ตัวผู้ครอบครองอย่างน่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านขอเมตตาท่านธนปาลกะลงวิชาให้ก่อนจะนำมาเป็นมวลสาร ท่านว่าผงรกช้างนี้ท้าวเธอท่านทำให้เป้นพิเศษเพราะเป็นของที่จะดึงจะฉุดวาสนาช่วยเหลือคนได้ ทั้งคนที่หมด,คนที่ไม่มี,คนที่ยังไม่ถึงเวลาบุญพาวาสนานำส่งทั้งหลายก็ยังเร่งเวลาให้โชคดีเข้าถึงตัวได้ ท่านว่าผสมไปให้ทั้งหมดพกเอาไว้จะไม่มีอับจน เงินทองจะไหลมาเทมาเป็นระยะไม่ขาดสายกินใช้ไม่หมด คนที่ทำมาหากินไม่คล่อง,โชคลาภไม่ค่อยมี,การงานตกต่ำ,ทำอะไรก็ติดขัด,ชักหน้าไม่ถึงหลัง,เป็นหนี้เป็นสิน,เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ท่านว่าหมดปัญหา ต่อไปจะมีมาเรื่อยๆ หมดแล้วก็มีมาใหม่เป็นวงจรหล่อเลี้ยงชีวิตดั่งรกช้างสายใยแห่งพระมหาโพธิสัตว์ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเราเช่นนั้น
    - ผงเชือกปะกำ ท่านธนปาลกะได้ลงอาถรรพ์ให้สามารถป้องกันคุณไสย์หรือวิชา,โรคร้ายและการกระทำที่เขาปล่อยมาในอากาศที่เรียกว่าลมเพลมพัดได้ ทั้งยังเป็นมงคลมาก (ท่านธนปาลกะท่านอุปมาไว้น่าฟังว่าเอาไว้จับอะไรที่จับยาก,ตึงมือ,เกินวาสนาตัวเองที่จะรับ ต่อไปจะได้สัมผัส,ได้ครอบครอง,เป็นของเราอย่างง่ายดาย ก็ลำพังเชือกนี้มีอำนาจคล้องช้างที่ได้ชื่อว่าดุ ว่ามีอาถรรพ์มากได้อย่างไร ต่อไปสิ่งที่ยากๆเธอก็เอามาได้เช่นนั้น) พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วก็มีอำนาจมากภูตผีปีศาจและคุณไสยเกรงกลัวยิ่งกว่าเทพศาสตราวุธ ทั้งใช้ล้างอาถรรพ์อะไรที่ว่าเฮี้ยนๆได้ฉมังนัก บ่วงบาศก์หนังปะกำยังเด่นด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย ถือเป็นของมงคลยิ่งนักทั้งด้วยความที่เป็นบ่วงบาศก์ในตัวมันเองยังจะคล้องจะนำพาให้เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้นไม่อดอยากเป็นสิ่งมงคลที่ให้โชคลาภสุขสมหวังให้สมดังใจปราถนา
    ท่านเน้นมวลสารอาถรรพ์และว่านยาเพื่อจะทำให้เป็น เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ควบคู่ไปกับวิชาอาถรรพ์ของพญาช้างที่เป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ครบเครื่องส่งผลในด้านการเจรจา การค้าขาย โชคลาภให้เป็นนะจังงัง ให้ผู้ที่ได้ยินเสียงเกิดความนิยมชมชอบควบคู่กันไปด้วยทั้งหมด ทั้งยังคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆยามเมื่อมีภัยมาถึงตัว
    **ท่านว่าพระผงนี้สำคัญนักเพราะผู้ใดมีไว้เขาจะมีพละกำลังดุจพญาช้างสาร มีวาสนาบารมีเพิ่มขึ้นเจ็ดเท่าห่างไกลกับผู้อื่นเจ็ดช่วงตัวจนตามกันไม่ทัน ดั่งคำที่ว่าแข่งเรือแข่งพายนั้นแข่งได้แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพญาช้างที่สร้างนี้เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ให้พกไว้กับตัวพี่ช้างเขาจะเป็นพาหนะอันประเสริฐนำโชค,นำวาสนามาให้เราสิ่งใดที่ขาดก็ให้บอกพี่ช้างขอท่านว่าให้ยื่นงวงออกไปหยิบมาให้ ใครที่ชีวิตตกอับหาความมั่นคงไม่ได้ ยังใช้ชีวิตอยู่ในมุมที่ไม่มั่นคงไม่แข็งแรงหรือมีเภทภัยต่างๆคอยกัดกินตัวเราทำร้ายตัวเรา พร้อมจะพิฆาตเราให้ย่อยยับลงไป ท่านว่าให้ใช้พี่ช้างเขาเถิดท่านสามารถป้องกันเสนียดจัญไรให้เราได้ แม้จะเจ็บไข้ได้ป่วยไม่แข็งแรงประเภทสามวันดีสี่วันไข้ก็ให้ขอบารมีพี่ช้างเขาปัดรังควานทั้งหลายออกไปก็จะกลับมาแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆอีก ท่านว่าใช้ได้หมดทั้งสิ้นขอแค่เรารู้ตัวว่าชีวิตตัวเองเป็นอย่างไรโดนรังควานอยู่หรือไม่ จะเป็นที่เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่าที่ทำให้เราหากินไม่ขึ้นดังนี้ ทั้งพี่ช้างยังจะคอยนิมิตบอกเหตุเภทภัยที่จะเกิดขึ้นแก่เราให้รู้ตัวล่วงหน้าด้วยสัญชาติของเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าช้างนั้นจะมีสัญชาติญาณพิเศษเขาจะรู้ล่วงหน้าทั้งหมดหากจะมีภัยเข้ามถึงตัวผู้เลี้ยงดูเขา พี่ช้างนี่ก็เช่นกัน ไอ้ชีวิตที่ว่าแย่ๆปัญหาเยอะๆต่อไปจะคลี่คลายไปทั้งหมดเอง*** หากปรารถนาสิ่งใดให้ลูบหลังพี่ช้างเพื่อกระตุ้นให้ก่อเกิดสิริมงคลทั้งโชคลาภเงินทองและความร่ำรวย,ความสำเร็จ ท่านว่ายิ่งลูบเจ้าของยิ่งพบกับความสุข,ความสำเร็จ,ความเจริญรุ่งเรือง ยิ่งก้าวหน้าก้าวไกลประสบความสำเร็จครบถ้วนสมบูรณ์ตามความสมควรในกิจการที่กระทำอยู่

    - พญาช้างฝังตะกรุดต้านเคราะห์กรรม
    ปกติวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะเป็นสิ่งที่จะหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวพัน ผูกรัดมัดตรึงชีวิตคนไว้ไม่ให้วิบัติได้ ท่านว่าเสกก็ยากแสนลำบากอุปมาดั่งวัฏจักรที่หมุนวนเช่นสายน้ำหลากหล่นไหลไม่มีวันหยุด แต่ผู้พกตะกรุดนี้ก็ยังรักษาตัวยืนอยู่ได้มั่นคงไม่คลอนแคลนท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่โหมซัดเข้ามาเช่นนั้น เขาจะต้านความแรงของเคราะห์กรรมไว้ ไม่ให้เราไหลลงไป,ไม่ให้เราล้มลงไป,ไม่ให้เราทรุดตัวไป พูดง่ายๆคือไม่ร่วงหล่นลงไปจะยืนเด่นเป็นสง่าเหนือปัญหาอุปสรรค,เหนือเคราะห์กรรมแลทุกข์ภัยทั้งปวง
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออธิษฐานจิตนั้น
    ท่านธนปาลกะท่านลงมาทำให้เต็มที่ และกล่าวว่าไม่ต้องเชิญผู้ใดมาช่วยเพิ่มอีก"เพียงแค่ท่านกับเราเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว"

    เคล็ดการบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่พกติดตัวหากแต่จะตั้งบูชาก็ให้หาน้ำสะอาดวางไว้ให้ท่านซักแก้วด้วย จะได้แก้เคล็ดชีวิต อุปมาดั่งแก้วน้ำนั้นเป็นอ่างน้ำ เป็นบ่อเงินบ่อทองพี่ช้างท่านจะได้ใช้งวงจับและดึงดูดโชคลาภ เงินทอง ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง และโอกาสที่ดีๆทั้งหลายมาวางไว้ให้กับเราได้ง่ายขึ้น ตอนอธิษฐานวางแก้วน้ำก็ตั้งจิตดีๆพูดเองเออเองไปว่าแก้วนี้คือบ่อวาสนา,บ่อสิริมงคลให้พี่ช้างใช้งวงจับวาสนามาป้อนให้ผมถึงปาก...ท่านว่าพูดเองเออเองไปเดี๋ยวได้เรื่อง พี่ช้างที่กำลังดูดน้ำเข้าปากก็คือพี่ช้างที่กำลังดูดเงินทองตามความประสงค์มามอบให้เรานั่นเอง

    คาถาบูชา
    นะโมตัสสะมัย นาฬาคิริงศะวะราย ฉัททันต์โพธิสัตโต โพธิสัตตะวาย มหาสัตตะวาย นะมะพะทะ

    ***พ่ออาจารย์ท่านว่าคนบูชาเป็นเครื่องรางก็ใช้ได้ทุกอย่างทันที แต่คนที่สะสมบารมีและต้องการเพิ่มพูนบารมีของตนเองให้ขยายออกไป,แผ่ไปมากขึ้นเรื่อยๆถือดั่งคติพระเจ้าจักรพรรดิว่ายิ่งมีช้างเผือกมาอุ้มสมในบารมีมากเท่าใดยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้นจะเพิ่มบารมี,เพิ่มพละกำลังในการต่อสู้กับปัญหารุมเร้าต่างๆเป็นการสร้างอาถรรพ์ให้ชีวิตตนเองเจริญรุ่งเรืองสืบไป(ท่านว่าจะใช้กี่เชือกตามความเหมาะแก่บุญบารมีตนก็ถามใจตัวเองเอา เดี๋ยวเทวดาเขาบอกเอง) คนที่บูชาท่านไปก็ให้เรียกว่า "พี่ช้าง" ท่านว่าเลี้ยงไปเรื่อยๆเถิดพอเราเจริญขึ้นพี่ช้างก็จะยิ่งมีเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆจะเงาขึ้นบ้าง,อ้วนขึ้นบ้าง,จ้ำม่ำขึ้นบ้างต่างๆนี้เลี้ยงๆดูแลกันไปเดี๋ยวจะเห็นเป็นอัศจรรย์เอง ท่านว่าขอให้บอกกล่าวท่านขอให้ท่านช่วย ขอพลังจากท่าน เช่นไปทำงานมาเหนื่อยมากก็พูดกับท่านไปว่าพี่ช้างผมเหนื่อยจังเลย...เพราะอะไร อยากได้งานใหญ่ อยากมีอะไร..ทำไมเพราะอะไร ชีวิตเหน็ดเหนื่อยอย่างไร เจออะไรมา ทั้งหมดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บอกกล่าวกับพี่ช้างเขาได้เลยจะปัญหาอะไรทั้งความรัก,สุขภาพ,หน้าทมี่การงาน,ไร้ดวง,ไร้คู่,กระเป่าแห้ง,ไม่มีโชคลาภ ท่านว่าขอให้พูดให้บอกกล่าวก็พอ รับสั่งจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เราสืบไป ปัจจัยส่วนหนึ่งร่วมบุญไถ่ชีวิตโคกระบือในโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงคชศาสตร์พญาโพธิสัตว์นาฬาคิรีกุญชร(พี่ช้างธนปาลกะ) บูชา 2,500 บาท

    58610227-291174938501192-2907855071716835328-n.jpg 58444483-2183424121969492-1761447451950055424-n.jpg
    58902149-318993975386898-1149621062758039552-n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ใจสบาย
    ใจสบายมีความหมายต่อชีวิตมาก เมื่อใดใจไม่สบาย แม้ร่างกายจะสมบูรณ์ ชีวิตก็ไร้ความหมาย เมื่อใดสุขสบายใจแล้ว แม้ร่างกายจะพิการบ้าง ก็หาความสุขได้ไม่ยาก ความสุขของมนุษย์อยู่ที่ใจสบาย มิใช่มีทรัพย์มากกว่า มีเกียรติสูงกว่า เพราะส่วนใหญ่ การมีทรัพย์มาก มีเกียรติมาก มักก่อความไม่สบายใจเสมอ ปัญหาสำคัญจึงอยู่ที่ว่า เราจะอยู่อย่างไรให้ใจสบาย จะอยู่อย่างไรให้ใจเป็นสุข

    ในหลักพระพุทธศาสนาสอนว่า ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส สองข้อแรกเป็นเหตุให้ใจสบายแน่นอน แต่บางครั้ง การตั้งใจทำดีแท้ๆ ก็ยังมีเหตุให้ใจไม่ผ่องใส ทำให้ไม่สบายใจอยู่ก็มีมาก ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสเพิ่มอีกเป็นข้อที่สาม เน้นลงไปที่ความผ่องใสของใจ แปลว่า แม้จะไม่ทำชั่ว ตั้งใจทำดีเต็มที่แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ เรา ยังต้องดูอีกว่า ดีที่ทำนั้น ได้ทำให้ใจของเราผ่องใสหรือไม่ หรือว่าทำไปแล้วยังขุ่นมัวอยู่เพราะดีที่ทำ แล้วก็มาบ่นว่า ทำดีไม่ได้ดีทำคุณคนไม่ขึ้น เมื่อใจไม่สบาย มนุษย์ก็เริ่มเครียด และเครียดสะสม จากวันเป็นเดือนเป็นปี เป็นชีวิต จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้ มนุษย์เรามีความเครียดเพิ่มมากขึ้นตลอดไม่เคยลด เพราะไม่ทราบอุบายที่จะทำใจให้สบาย


    ๑. การพูดถึงปัญหาเพียงครั้งเดียวก็เกินพอ ส่วนวิธีแก้ปัญหาต้องพูดแล้วพูดอีกคิดแล้วคิดอีก
    มนุษย์เราส่วนมาก ที่ใจไม่สบาย ก็เพราะชอบพูดแต่ปัญหา พูดแล้วพูดอีก เจอหน้ากันอีก ก็พูดเรื่องเดิม พูดสิบครั้ง ก็โกรธสิบครั้ง ถูกไฟเผาไหม้ไปสิบครั้ง เรื่องควรจะจบกลับไม่ยอมจบ ไฟที่กำลังจะมอด ก็ถูกเติมเชื้อให้ลุกโชนขึ้นอีก แม้นำความไปพูดกับคนอื่น ก็ทำให้เกิดอารมณ์โกรธเกลียดเคียดแค้นไม่สิ้นสุด และสุดท้ายก็กลายเป็น “โอษฐภัย” ไปโดยไม่รู้ตัว อยากให้ใจสบาย ให้พูดถึงปัญหาเพียงครั้งเดียว และแสวงหาวิธีแก้ปัญหาให้มาก

    ๒. คิดบวกต่อคนอื่นให้มากเข้าไว้
    การคิดบวก เป็นอุบายสำคัญในการดำรงชีวิต คนคิดบวก มักมีกำไรในชีวิต ส่วนคนคิดลบ พูดลบ ชีวิตมักขาดทุน การคิดบวกต้องฝึกฝน เพราะมนุษย์ส่วนมาก มักจินตนาการไปในทางลบ เมื่อเราคิดลบต่อเขา เขาก็คิดลบต่อเรา คิดดูเถิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตลุกลามไม่มีวันจบสิ้น ไม่เคยมีใครที่จะเอาชนะคนโกรธด้วยการโกรธตอบ พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้ พึงชนะคนโกรธ ด้วยการไม่โกรธตอบ ถามว่าทำยากไหม ตอบว่า ทำยาก หากไม่เคยทำ สิ่งเหล่านี้อยู่ที่การฝึกฝนกระทั่งเกิดความคล่องตัวในวิธีคิด

    ๓. ไม่ต้องกลัวว่าใครจะดีกว่าเรา
    เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของมนุษย์คือ เห็นใครได้ดีกว่าแล้วเป็นทุกข์ ถ้าจะบอกว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ก็ดูจะประเมินคุณค่าต่ำเกินไป ข้าพเจ้าอยากพูดว่า จริงๆ แล้วมิใช่เป็นธรรมชาติ หากแต่เป็นความเคยชินที่มนุษย์สร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วไม่มีใครแก้ไข การพยายามฝึกคิดว่า ขอให้คนอื่นดีกว่าเรา ชื่นชมเขาเมื่อ เขาดี เพียงแค่ชื่นชม เราก็เป็นสุข เขาก็สบายใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราอิจฉาเขา ใจเราก็ไม่สบาย ใจเขาเองก็เกิดการต่อต้าน สุดท้ายก็ไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย เมื่อเราได้ดีบ้าง ก็ถูกต่อต้านกลับ ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสสอนเรื่อง “มุทิตาจิต” คือเมื่อเห็นเขาได้ดี ก็ขอให้พลอยยินดีกับเขาด้วย เราต้องฝึกหัดยกย่องชื่นชม โดยไม่ต้องกลัวว่า ใครจะได้ดีกว่าเรา แล้วใจเราก็จะสบาย

    ๔. พึ่งตนให้มาก ไม่คิดหวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลา
    เรื่องการพึ่งตนนี้ เป็นเรื่องสำคัญมาก มนุษย์เราส่วนใหญ่ชอบพึ่งคนอื่นบางครั้งเราก็คิดว่า เขาน่าจะให้เราพึ่งพาอาศัยได้ แต่สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์คือเสียใจกลับมา ในทางกลับกัน เราน่าจะคิดใหม่ว่า ทำอย่างไร เราจะพึ่งตนได้และเป็นที่พึ่งของคนอื่นด้วย การคิดพึ่งตนและให้คนอื่นมาพึ่งเราได้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดทุกข์ ไม่ให้เกิดความผิดหวัง ให้เราคิดว่า แม้ในโลกนี้ จะมีเพียงเราคนเดียว เราก็จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยผู้ฝากความหวังไว้กับคนอื่น จะผิดหวังเสมอ บางคน เราคิดว่า เขาสมหวังแล้ว เขามีมากแล้ว เราควรจะไปขอพึ่งพาอาศัยเขา แล้วก็ฝากความหวังไว้กับเขา แต่เอาเข้าจริง ปรากฏว่า ผิดหวังหนักกว่าเดิม การฝากความหวังไว้กับคนที่ยังไม่สมหวัง เราจะผิดหวังยิ่งกว่าเขาหลายเท่า คนที่เราคิดว่าเขารวยอาจจะจนกว่าเราก็ได้ คนที่เราคิดว่า เขาสมหวัง อาจจะผิดหวังยิ่งกว่าเราก็ได้การฝึกใจให้รู้จักคิดพึ่งตน และกวักมือเรียกคนอื่นให้มาพึ่งเรา จึงถือว่าเป็นการสร้างฐานความคิดที่สำคัญ ในการป้องการใจไม่ให้ตก “หลุมพลางของทุกข์”

    557000001349001.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ใครที่รอตะกรุดชุดหรือตะกรุดสังวาลย์ที่นานทีปีหนจะมีซักครั้ง ซ้ำยังเป็นยอดของตะกรุดที่ถือว่าสุดจริงๆ งานนี้ติดตามกันดีๆนะครับ แต่ใบ้ไว้ก่อนว่า"ตะกรุดชุดนี้ไม่ได้มีไว้คาด หากแต่มีวิธีใช้แพรวพราวกว่านั้นมาก"
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่แมน EW 4027 8124 3 TH

    พี่ธีรนนท์ EW 4027 8125 7 TH

    พี่คณพศ EW 4027 8126 5 TH

    พี่วีรพัฒน์ EW 4027 8127 4 TH

    พี่กฤตยชญ์ EW 4027 8128 8 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ใคร... ที่เคยถามๆบ่นๆไว้ว่าคาดตะกรุดสังวาลย์กลัวหนักบ้าง กลัวบุบบ้าง กลัวรำคาญบ้าง หนนี้ไม่ต้องลุ้นหรือคิดมากอะไรเลย เพราะตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้ท่านทำเพื่อให้ใช้โดยไม่ต้องคาด(ซ้ำชุดเดียวยังใช้ได้หลายคนด้วย)
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่าง+น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชค (ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย)

    น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชคนั้นจัดเป็นน้ำมันของเก่าที่มีอายุมากกว่า100ปี #พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนคนที่มารับต้องนำทองมาขอทีละ5บาทครูท่านจึงให้ใช้ เพราะถือเป็นน้ำมันชั้นสูงสุดในบรรดาน้ำมันสายวาสนาโชคลาภทั้งหมดและยังประกอบพิธีสร้างทำได้ยากยิ่ง ท่านเรียกสั้นๆว่าน้ำมันโคตรเศรษฐี(เป็นน้ำมันที่สืบทอดมาในตระกูลของพระอริยเจ้าท่านหนึ่ง...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะไม่ขอออกนามท่าน) น้ำมันนี้ต้องหาวันดีไปทำพิธีกรรมเพื่อเอาน้ำมัน..ในตำราว่า..ถ้าผู้ไม่มีอาคมแก่กล้าอย่าได้บังอาจทำเพราะอาจต้องอาถรรพ์ถึงตายได้(พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดไม่อายเลยนะว่าตัวเองก็ยังไม่คิดจะทำเพราะมวลสารที่ใช้ทำแต่ละอย่างล้วนเสี่ยงตายทั้งนั้นแค่คิดจะทำก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว)เมื่อได้มาครบแล้ว..ก็ให้เสกมวลสารก่อนรอบหนึ่งเสก7โบสถ์, 7เสาร์ ,7อังคาร, 7จันทร์ดับ ,7วันเพ็ญ..วิชาเหล่านี้ปัจจุบันจึงหาได้น้อยนักเพราะทำได้ยากยิ่งและสูญหายไปมาก ท่านว่าของแต่ละอย่างที่ว่าหายากทำยากคือเขากำหนดสถานที่หาที่เอาไว้ทั้งสิ้นไม่ใช่ว่าจะไปเก็บที่ไหนก็ได้กว่าจะรวบรวมได้ครบจึงยากขึ้นไปอีก จะบอกแต่คร่าวๆได้แก่ ยอไม่ตกดิน,ไม้ไก่กุ๊ก,ว่านสาลิกาลิ้นทอง,ว่านสาลิกาชนิดหัว,ว่านกาหลง,ว่านดอกทองมหาอุดม,ว่านมหาลาภ,ว่านจักรพรรดิ์,ว่านกวักพระพรหม,ว่านกวักมรกต,ว่านพระฉิมพลี,ว่านนางคุ้ม,ว่านแม่โพสพ,ว่านเศรษฐร้อยล้าน,ว่านมหาโชค,ว่านอุดมโชค,ว่านเศรษฐีก้านทอง,ว่านรวยไม่เลิก,ว่านบังลังค์เศรษฐี,ว่านเสน่ห์จันต่างๆ,ดอกรักซ้อน,ดอกรัก,ดอกมะรุม,ลูกยอ,รากยอ,ต้นยอไม่ตก,ดอกพิกุล,ดอกจัน,ดอกเข็มขาว,ดอกบานไม่รู้โรย,ดอกบัวทั้ง4 ,ต้นไทรต้นตาลตายคาต้น,กาฝากรัก,กาฝากยอยอ,กาฝากมะยม,ย่านสะบ้าข้ามคลอง,ลูกสวาทล่องวารี,รากไม้เล่นวารี นำมาหุงเข้ากับผงวิเศษต่างๆเช่น ผงกำเนิด,ผงนอโม,ผงอาการสามสิบสอง,ผงยันต์โสฬสมงคล,ผงยันต์ปฐมอักขระ,ผงยันต์ปถมังสูตร,ผงยันต์นพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง,ผงยันต์หัวใจวันทั้ง 7,ผงดวงตราพระอิศวร,ผงดวงตราพระนารายณ์,ผงดวงตราพระพรหม,ผงดวงตราพระพาย,ผงดวงตราพระอินทร์,ผงดวงตราพระลักษมี,ผงยันต์ธาตุ 4,ผงยันต์เทพชุมนุม,ผงยันต์ทางเสน่ห์,ผงเทพนิมิตร,ผงเทพรัญจวน,ผงมหาลาภ,ผงพุทธนิมิต,ผงหัวใจขุนแผน,ผงเทพจินดามณี,ผงประกาศิตพระร่วง,ผงชาตรี,ผงรักซ่อนชู้,ผงเทพบันดาลทรัพย์,ผงเทพเศรษฐี,ผงนางกวัก,ผงพระฉิมพลี,ผงมณฑาสวรรค์,ผงลบคืนจันทร์เพ็ญ ...ท่านว่าผงลบต่างๆเองก็ต้องลงอักขระเลขยันต์ในวันเวลาตามวิชาทั้งทำการปลุกเสก-ร่ายโองการตลอดพิธีลบผงเพื่อให้เกิดฤทธานุภาพสูงที่สุด เมื่อจะหุงก็ต้องแต่งเครื่องพลีกรรมขึ้นบูชาเทวดาทั้งสิบหกชั้นฟ้ารวมถึงบูชาเทวดานพเคราะห์บวงสรวงครูบาอาจารย์ ผู้ที่กวนก็ต้องเลือกวันและเวลาเกิดอีกสามคนเวียนวนกวนกันตามยามต่างๆ,ทั้งยังต้องใช้คนที่เกิดอีกฤกษ์ยามหนึ่งเป็นคนคอยเติมฝืนสุมไฟใส่เชื้อ,คนเทน้ำมัน,คนใส่มวลสารว่านยานี่ก็อีกอย่างล้วนแต่ต้องใช้ฤกษ์และเวลาเกิดตามกำหนดทั้งสิ้นซ้ำยังต้องเป็นคนที่ดำรงค์พรหมจรรย์มาตลอดชีวิต(พ่ออาจารย์ท่านจึงว่ายากนักที่จะทำได้อีก)ไม้ที่ใช้กวนก็ต้องใช้ไม้ชัยพฤกษ์,ไม้พลับพลา ไม้ที่ทำเชื้อเพลิงก็ต้องใช้ไม้เทพทาโร,ไม้ราชพฤกษ์,ไม้ยอ,ไม้รัก,ไม้ขนุน,ไม้มะยม แม้การหุงน้ำมันก็ต้องใช้ก้อนเส้าแบบโบราณโดยใช้ไม้กางหยาง,ใช้กะทะทองสำริดรอบกระทะพันด้วยหญ้าคาปักเฉลวเพชรสามด้าน,วางก้อนเส้าสามก้อนลงยันต์ทุกจุดทั้งไม้กางหยาง,ก้อนเส้าในกะทะ,ก้นกะทะ,หูกะทะ,ขอบกะทะ,แม่ไฟ,ไม้ฟืนต้องลงอักขระกำกับทุกอย่าง การหุงใช้วิธีเดียวกับการกวนเกษียณสมุทรมีการตั้งโลกธาตุ,มีพิธีการปลุกว่าน,การชุมนุมยา,เซ่นไหว้ว่านยา ,เซ่นไหว้เหล่าเพชรพญาธรแลคนธรรพ์ที่รักษาหัวว่านต่างๆ ต้องบูชาไฟตามสูตรแต่โบราณ ทั้งต้องนำใบยาใบว่านมาลงอักขระเลขยันต์ให้ครบสูตรก่อนจะเคี่ยว ขณะหุงก็จะปลุกเสกเดินธาตุ,เรียกธาตุ,ชุมนุมธาตุและร่ายโองการมหาโชคต่างๆ ต้องขับเคลื่อนและดึงพลังจากธรรมชาติมาลงในกระทะน้ำมันโดยห้ามน้ำมันพุ่งลงในกองไฟเป็นอันขาดทั้งไม้ฟืนที่ใส่ก็ห้ามดึงออกจนได้น้ำมันว่านมหาลาภชั้นเลิศที่ไม่ข้น,ไม่หนืด,ไม่เหม็นหืนเป็นน้ำมันชั้นสูงแล้วจึงเริ่มปลุกเสกในฤกษ์อมฤตโชคทั้ง 7 วันได้แก่ อาทิตย์ 8,จันทร์ 3,อังคาร 9,พุธ 2,พฤหัส 4,ศุกร์ 1,เสาร์ 5 และใช้ฤกษ์พิเศษปลุกวันจันทร์เพ็ญอีก 4 วัน,ใช้ฤกษ์จันทรคราส 3,สุริยะคราส 3,ใช้ฤกษ์ชัยโชค 1,มหาสิทธิโชค 1,สิทธิโชค 1 ท่านว่ากระทำให้ครบตามกำลังเทวดาเท่ากับกำลังเทวดาซึ่งกว่าจะปลุกเสกให้ครบและเกิดอาถรรพ์ทั้งลมพัด,ฟ้าผ่า,ฝนตกแดดออกแลเหตุผิดธรรมชาติที่ปรากกฏชัดตรงตามข้อกำหนดนั้น ท่านว่ากว่าจะหุงได้ยากกว่าไปหามวลสารเสียอีกเพราะมีสูตรทำขลังให้ตายตัวเช่นนั้นแต่โบราณท่านจึงหวงและปกปิดนักแม้จะใช้ยังต้องแลกด้วยทองคำ เพราะว่ากว่าจะทำได้นั้นไม่ง่ายเลยบางครู,บางยุค,บางสมัยเกิดมาแล้วตายไปก็ไม่มีวาสนาจะได้ทำ

    เช่นนั้นน้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชคจึงเป็นน้ำมันที่เน้นพุทธคุณทางเมตตามหาลาภ เรียกเงินเรียกทอง เป็นน้ำมันที่สร้างจากแรงครู,แรงวิชา,ว่านยาล้วนๆไม่มีพรายไม่มีมนต์ดำใดๆทั้งสิ้น ผู้ใดได้บูชาย่อมเกิดเสน่หา-เมตตา,เกิดโชคลาภเงินทองแก่ผู้ครอบครอง,มีคนนิยมชมชอบ,ทั้งจักบังราศีไม่ให้อับ,ไม่มีคนคิดร้าย,แม้แต่เทพเทวายังเมตตาแก่ตัวเรา เพียงใช้เจิม-ใช้ทาตามตัววันละนิดตามร่างกายหรือผสมน้ำอาบก็ได้ผลดีแลหมาะสำหรับบุคคลที่ใช้ของทางโชคลาภไม่ขึ้น ใช้ของทางโชคลาภมาหลายอย่างแต่ไม่เป็นผล ท่านว่านี่เป็นมหาโชคชั้นสูงเพียงใช้พกพาก็เห็นผลแค่ครอบครองไว้ก็เป็นที่รักแก่มนุษย์ เทพ เทวดา และสัตว์ทั้งหลาย ครูแต่เดิมท่านว่าผู้ใดใครมีนับได้ว่าประเสริฐกว่าคนทั้งหลายยิ่งนัก จะแก้อาถรรพ์คนที่ดวงขาดโชค,ขาดวาสนา หรือแม้แต่ต้องอาถรรพ์ต่างๆทั้งเล่นผี,เล่นพรายมากเกินไปจนใช้ของโชคลาภไม่ได้ผล,หรือพวกของเข้าตัวท่านว่าสามารถใช้น้ำมันทาตัวหรือผสมน้ำอาบได้เพื่อขับสิ่งไม่ดีออกจากร่างกายช่วยเสริมราศีเราให้ดีที่สุด คนที่ใช้ประจำท่านว่าจะเป็นเสน่ห์ในตัวแม้จะต้องการสิ่งใด ย่อมได้สมหวังตามปราถนาถ้าจะใช้เพื่อการใดเป็นเฉพาะสามารถอธิษฐานบอกครูเทพที่รักษาน้ำมันเอาได้แลเพราะน้ำมันนี้ผู้ใดได้ไว้ครูย่อมเข้ารักษาให้ปลอดภัยทั้งเจริญในโชคลาภมากด้วยเงินทอง เจริญด้วยพรสวัสดิมงคลทุกประการ

    ในยุคสมัยนี้พ่ออาจารย์ท่านมักจะพูดลอยๆออกปากเสมอว่า สงสารพวกคนที่หากินยากจะทำอะไรธุรกิจก็ฝืดเคืองกันไปเสียหมด เรียกว่าข้าวยากหมากเเพงลืมตาอ้าปากกันยาก สิ่งที่เราพอจะทำได้นอกจากให้กำลังใจก็คือใช้วิชาทำมงคลวัตถุนี่เเหละดั่งที่เคยกล่าวไปเเต่ต้นว่าท่านไม่ประสงค์ให้ลูกศิษย์อดอยากยากจนหรือต่ำกว่าใครเขา ท่านจึงมักทำวิชาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองโชคลาภเสมอ เพื่อให้ถูกจริตกับยุคสมัยซึ่งจะเลวร้ายลงไปอีกมากหลังกึ่งพุทธกาล ท่านว่าใครที่เขาเล่นเสน่ห์ซักวันหนึ่งเขาก็จะมาตามเก็บของที่ช่วยเรื่องเงินทองโชคลาภเเบบเน้นๆเอง เพราะในยุคนี้มันต่างออกไปจากอดีต เงินหมื่นเงินเเสนนั้นไม่ได้มีค่าซื้อบ้านได้เป็นหลังๆ ไหนจะภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ร่วมโลก ภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายที่จะทวีเเละหนักขึ้น พ่ออาจารย์ท่านอยากให้เตรียมพร้อมกันไว้ดีกว่ามาตามเเก้ที่หลัง ถ้าจะเล่นวัตถุมงคลท่านว่าอย่าลืมด้านโชคลาภโภคทรัพย์เด็ดขาด *เช่นนั้นท่านจึงตั้งใจเปิดน้ำมันสำคัญซึ่งหายสาบสูญไปนานตามกาลเวลานี้แบ่งให้เอาไปใช้กันเพราะวิชานี้นับว่าเป็นวิชาเอกที่หาคนทำคนสืบทอดได้ยาก ผู้ใดได้บูชาเเล้วให้เจริญรุ่งเรืองไปจนตัวตาย ชีวิตจะมีเเต่ความเจริญในลาภสักการะมิรู้ขาด มีได้สมประสงค์ทุกสิ่งที่พึงจะปรารถนา ถือว่าเป็นยอดวิชาที่สร้างขึ้นเพื่ออนุเคราะห์คนที่จะขอรับไปบูชาจริงๆ ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านได้นำน้ำมันนี้มาบอกกล่าวเชิญมหาเศรษฐีทั้ง 9 ในสมัยพุทธกาล ขอบารมีท่านทั้งหลายมาทำมาลงสงเคราะห์เฉพาะอีก เพื่อจะได้มั่นใจว่าน้ำมันนี้คนรับไปบูชาจะได้ร่ำรวยกันจริงๆ เพราะบารมีของมหาเศรษฐีทั้ง 9 ซึ่งเป็นอริยบุคคลนี้ เเต่ละท่านร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐีกันเลยทีเดียว บุคคลเหล่านี้ถึงจะใช้จ่ายเเม้สมบัติพร่องไปเเต่เพียงน้อยพระภูมิเเละเทวดาทั้งหลายก็ต้องหามาเติมให้เต็มคลังมิรู้จักขาดตกบกพร่อง เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเสวยสุขทางโลกเลยจริงๆก็ว่าได้ท่านไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพียงเเต่บอกว่า เอาไปใช้ รู้จักการให้ทานอย่าได้ขาดนะ จะได้ลืมตาอ้าปากได้ มีได้เหมือนคนอื่นเขาไม่น้อยกว่าใครเขา น้ำมันของครูสอน,ครูฝึกของเรา ครูเราไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะ ก่อนใช้อย่างน้อยก็นึกถึงมหาเศรษฐีพุทธกาลทั้ง 9 ท่านนั่นแหละ จำท่านเอาไว้ให้ติดปากนึกถึงท่านเมื่อใช้น้ำมัน เพราะน้ำมันนี้พวกท่านมาช่วยกันลงช่วยกันสงเคราะห์ นึกถึงท่านก่อนใช้กุศลก็จะได้เกิดมีบุญหล่นทับหัวทับตัวกันทุกคน ดีอย่างไรเราพูดไปก็เท่านั้น น้ำมันชุดนี้เราบอกได้แค่ให้บูชาเอาไว้ใช้สืบรุ่นลูกรุ่นหลานนะ รักษากันดีๆ

    ซ้ำในขวดน้ำมันสำคัญนั้นท่านยังได้ทำวิชาเฉพาะลงตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่างเอาไว้ด้วย เพื่อให้ใช้เสริม,หนุนเข้ากับน้ำมัน เพราะตะกรุดนี้ถือเคล็ดพระธรรมแต่งร่างถือเคล็ดมหาบังเกิดคือเคล็ดลับการเกิดของสรรพสัตว์ทั้งปวงทั้งหลาย ทำอะไรก็ให้บังเกิดแต่ผลดี,บังเกิดโชค,บังเกิดลาภ,บังเกิดเงิน,บังเกิดทอง,บังเกิดทรัพย์ เป็นสูตรวิชาทำมาหากินของคนโบราณท่านว่าใช้เพื่อแต่งร่างเราให้เป็นคนใหม่ ใช้อานุภาพพระสัทธรรมเจ้าอันประเสริฐดั่งน้ำอมฤตรสแต่งร่างแต่งชีวิตที่เสื่อมโทรมเพราะถูกกาลเวลากัดกร่อน แต่งจิตใจที่สึกหรอไปตามห้วงวิบาก พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้น มวลสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมหลงไหลวนเวียน ดำเนินชีวิตไปด้วยปัจจัยสามสิ่ง นั่นคือ กิเลส,กรรม,วิบาก เช่นนั้นตะกรุดสังวาลย์นี้ท่านจึงสร้างแบบเฉพาะกาล คือสร้างขึ้นมาเพื่อชะลอหยุดยั้งกฏของมหาวัฏฏะที่เกิดขึ้นกับผู้ใดผู้หนึ่งอันเกี่ยวเนื่องมาจาก กิเลส กรรม วิบากเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระเวทย์แลพระธรรม(อาตมัน)ท่านมีดำริว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำลายความทุกข์และคราบน้ำตาของหมู่สัตว์ทั้งผอง ชนทั้งหลายที่มีศรัทธาต่อธรรม ต่อจิตวิญญาณสูงสุด คนเหล่านั้นจะต้องถึงซึ่งบรมสุขท่านจึงกรุณาให้พ่ออาจารย์ทำตะกรุดสังวาลย์ที่จะสะกดทับกิเลส กรรม วิบาก อันเหนี่ยวรั้งฉุดดึงให้ชีวิตคนตกต่ำ ตกอยู่กับความมืดไม่พบแสงสว่างหาทางออกอย่างไรไม่ได้การสะกดทับคือสะกดวัฏฏะทั้งสามของมโนวิญญาณอันเคยทำกรรมหรือมีสัญญากรรมตลอดจนวนเวียนชดใช้ผลกรรมซึ่งเกี่ยวเนื่องด้วยกิเลส กรรม วิบากทั้งหลาย วัฏฏะทั้งสามนี้ไม่ได้หายไปไหนแต่ด้วยเมตตาของอาตมันท่านจะทับจะสะกดไว้ให้โอกาสเราได้ประกอบกุศลสร้างคุณงามความดี พบเจอกับความสุขอันปราศจากทุกข์ใดมาเบียดบัง ท่านว่าครูมีคำสั่งไว้ว่า"ศิษย์นั้นก็ไม่ต่างจากลูกในไส้อย่างใด เพราะเราห่วงเขาเหมือนพ่อห่วงลูก หากเขาคิดถึงเราถ้าไม่ช่วยเขาแล้วเราจะช่วยใคร" ท่านว่าทำตะกรุดสำคัญเพื่อเข้ากับน้ำมันครั้งนี้ไม่ใช่แค่จะตัดกรรมหรือริดรอนกรรมด้วยอานุภาพแห่งคุณวิชาของบูรพาจารย์ แต่จะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีอำนาจเหนือวัฏฏะทั้งสามอันไม่เคยปรากฏมีมาก่อน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์อาตมันท่านทำให้จนเป็นดาบสองคม มีคุณอนันต์จนกลัวว่าคนได้ไปจะลำพองใจนำไปใช้ในทางที่ผิด ท่านว่าให้จำไว้เสมอคนที่บูชาไปจงอย่าเกียจคร้าน อย่าลำพองใจ อย่าเดินไปตามกระแสของโลก ให้เร่งขวนขวายประโยชน์เบื้องหน้าหมั่นสร้างตบะสั่งสมบารมีประกอบคุณธรรมความดีให้ถึงพร้อมจึงจะไม่เสียเจตนาของเรา พ่ออาจารย์ท่านมีดำริในภายหลังก่อนออกให้บูชาว่าตะกรุดแลน้ำมันชุดนี้ผิว่ากาลเบื้องหน้าหากหาผู้มาบูชาหรือรับไปไม่ได้ ท่านตายเมื่อไหร่ก็ให้ทำลายลงไปพร้อมกันกับตัวท่านเสีย เพราะกลัวใจคนไม่ดีจะนำไปใช้ จนกระทั่งองค์อาตมันท่านแจ้งเหตุว่าถึงเวลาแล้ว คนที่เขารอคอยและมีวาสนาจะครอบครองก็มีครบแล้ว ให้ท่านวางใจได้เพราะทุกคนที่เอาไปใช้ย่อมเป็นคนดีท่านจะคัดสรรค์คนของท่านให้เอง

    ด้วยสังวาลย์พระธรรมแต่งร่างนี้เป็นของสูงแต่เดิมตะกรุดสายสังวาลย์ต่างๆก็เป็นการทำวิชาเครื่องคาดสำหรับพระมหากษัตริย์และแม่ทัพนายกองอันประกอบด้วยสรรพคุณที่ทรงพลานุภาพอย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว ท่านไม่อยากจะให้วิชาเหล่านี้สูญหายไปประกอบกับถึงเวลาอันดีที่จะสร้างเเละเสกเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการรับสุดยอดของดีไว้บูชาจึงได้จัดทำตะกรุดนี้ขึ้น ในเรื่องของฤกษ์ยามที่จะต้องคัดฤกษ์มงคลสูงสุดลงให้เเก่ผู้บูชาซึ่งพ่ออาจารย์ก็เลือกฤกษ์เพียงสองฤกษ์เท่านั้นที่จะใช้ลงตะกรุดนี้ประกอบไปด้วย ราชาฤกษ์ เเละเพชฌฆาตฤกษ์ โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เนื่องมาจากท่านตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดนั่นเองสำหรับตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้มีความยากในการลงไล่อักขระตามกลบทนั้นถือว่ายากอยู่แล้วเพราะเป็นมหายันต์ชั้นสูงและเป็นยันต์ชุดเทพวิชาคือไม่มีปรากฏมาแต่ก่อนในโลกนอกจากบรมครูองค์อาตมัน(จิตแห่งพระเวทย์และพระธรรม)ท่านจะนิมิตบอกให้ใช้เฉพาะตัวของท่านเองเท่านั้นเป็นตะกรุดชุดที่นานๆจะทำออกมาที นานทีปีหนจึงจะมีให้เห็นเอาเป็นว่าสังวาลย์พระธรรมแต่งร่างนั้นจะต่างจากตะกรุดทั่วๆไปตั้งแต่ความสูงส่งขององค์ต้นวิชา นั่นจึงถือว่าเป็นตะกรุดตระกูลสูงเช่นนั้น ซ้ำในชุดหนึ่งนั้นมีสี่ดอก ในแต่ละดอกย่อมมีสถานที่การลงแตกต่างกันออกไปเมื่อทำเสร็จแล้วท่านจะต้องนำมาคาดติดตัวไว้ตลอดเวลาในการประกอบพิธีต่างๆ ทั้งในพิธีอุปราคา จันทรคราส-สุริยคราส และเเม้เเต่พิธีบนดอยต่างๆของท่าน ซึ่งท่านจะสอบพลังของตะกรุดที่คาดนี้อยู่เนืองๆ จนแน่เเท้แก่ใจว่าเป็นยอดแล้วถึงถอดออกมาเป็นชุดๆ ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพลานุภาพมากยากที่จะประเมิณค่าได้ ทั้งหาผู้สืบทอดและทำได้ยากเนื่องจากเป็นวิชาขององค์อาตมันมีพลานุภาพปรากฎในทุกด้านในทุกทิศทางแม้ตะกรุดนี้อยู่ที่ใดก็จะแผ่รัศมีออกไปในทิศทั้งสิบ เปรียบดังเกราะแก้วกำแพงเหล็กที่ป้องกันภัยและเสนียดจัญไรจากทุกสารทิศไม่ให้มากล้ำกรายผู้บูชาได้ ทั้งยังมีอานุภาพสุดแต่ใจนึก พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้ตะกรุดสังวาลย์นี้สอดคล้องรับกันกับอารมณ์ปรารถนาในใจตัวคนถือคนใช้ ท่านหมายถึงว่าแม้ผู้บูชาใครจะปรารถนาอะไรก็แล้วแต่สิ่งที่ปรารถนาไว้ก็ไม่สามารถหลุดรอดพ้นหนีออกไปได้เลย สังวาลย์ทั้งสี่นี้จะดลบันดาลให้ทุกสิ่งไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้ตามคำอธิษฐาน แม้ว่าจะปรารถนาลาภยศชื่อเสียงเงินทองความเจริญก้าวหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อได้มาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปตลอดไม่รู้จักคำว่าตกต่ำลงเลย เปรียบดั่งต้องพันธนาการจับสิ่งใดไว้ได้ก็ไม่รู้หลุดรู้เคลื่อนเลยฉันใดก็ฉันนั้น ท่านการเสกตะกรุดนี้ต้องทำให้ได้ถึงขั้นใช้ตะกรุดได้ดั่งใจ วิชานี้ท่านว่าทำยาก กว่าจะจารและสำเร็จตะกรุดดอกนึงนั้น บทพระคาถามีหลายคาบหลายบทมาก ต้องเสกแยกทีละดอกๆ สำเร็จทีละดอก ท่านว่าตะกรุดที่จะใช้ได้ดั่งใจปรารถนานี้คือเอาไปแล้วต้องใช้ได้ดั่งใจนะ เพราะวิชานี้มีแรงครูสูงมีธาตุรู้ของครูบาอาจารย์อยู่กับองค์ตะกรุด ท่านว่าครูท่านบอกเอาไว้ อยากได้อะไรปรารถนาสารพัดในปฐพี ให้จ้องที่ตะกรุดแล้วนึกเอา มันมีเท่านี้จริงๆ นึกเอานั่นแหละแล้วจะได้เอาทุกสิ่ง ไม่ว่าลาภสักการะเงินทองความเจริญรุ่งเรืองสิ่งใด ท่านว่ามีไม่รู้หมดตราบใดที่ยังนึกคิดได้ ให้นึกแต่สิ่งที่ดีๆจะได้ไม่ผิดเจตนาของครูบาอาจารย์

    ชุดตะกรุดสังวาลย์ในน้ำมันนี้ท่านว่าแม้เราไม่นำพาติดตัวพกอาราธนา***เพียงแต่อาราธนาน้ำมันจุนเจิมหน้าผากเท่านั้นก็มีผลเสมอคาดด้วยสังวาลย์นี้ไปกับเราทุกที่เช่นเดียวกันมีอานุภาพครอบฟ้าคลุมดินตามแต่จะอธิษฐานท่านว่าวิชานี้เเล้วเเต่จะเอาไปใช้เลย เป็นไปได้ทุกเรื่อง สำเร็จได้ทุกเรื่อง แต่วิชานี้มีความพิเศษไม่เหมือนใครอยู่อย่างหนึ่ง หากผู้คาดผู้บูชา ทำคุณงามความดีทำบุญทำกุศล ตะกรุดจะยิ่งทวีพลังเเละอานุภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ท่านว่าเป็นวิชาที่แปลกพลังไม่ตกไม่เสื่อมมีแต่จะรอวันเพิ่มขึ้น มากขึ้น ขยายขึ้น สูงขึ้นทุกวัน ผู้ที่บูชาจะหนุนนำชักพาให้เจอแสงสว่างพบกับสิ่งดีงาม ประหนึ่งเราได้อานิสงค์มีธรรมคุ้มกาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันชุดนี้กลิ่นว่านยาจะหอมมากๆทั้งใสเหมือนตาตั๊กแตน ท่านว่าให้ดูเอาเถิด สีน้ำมันนั้นมันกลืนๆกันอยู่ จะเหลืองก็ไม่เหลือง จะเขียวก็ไม่เขียว จะฟ้าก็ไม่ฟ้า***แต่ให้จำเอาไว้ให้ดีว่าเมื่อได้ไปนั้น เราเห็นน้ำมันเป็นสีอย่างไรในตาเรา วันไหนถ้าสีน้ำมันเปลี่ยนไป ท่านว่านั่นแหละจะรวยใหญ่ ครูท่านแสดงนิมิตบอกแล้วล่วงหน้าให้รู้เนื้อรู้ตัว เฉพาะตัวน้ำมันนั้นท่านเคยนำมาออกมาให้คนที่เดือดร้อนเรื่องธุรกิจการหากินบูชาไปหลอดหนึ่ง ปรากฏว่าเขาระงับความต้องการและกิเลสของตนไม่ได้สุดท้ายจนท้ายที่สุดหลอดน้ำมันก็อันตรธานหายไป ท่านว่าพอมี,พอได้ก็หลงอยู่ในกามในกิเลส ไม่ได้รู้เลยว่าถือของสูงขนาดไหนอยู่และใครเขาเป็นคนช่วยฉุดขึ้นมา ที่จะสำนึกประกอบคุณงามความดีทำบุญทำกุศลเอาพระธรรมใส่ตนมาปฏิบัติเช่นนั้นยังไม่มี ท่านจึงเก็บน้ำมันชุดนี้ไว้ไม่ยอมนำออกมาให้ใครได้บูชาอีกเลยจนวาระนี้

    ***วิธีทำหวย
    ให้ทำกลางคืนในดึกสงัด ท่านว่าทำเงียบๆคนเดียวอย่าไปบอกใคร เมื่อจะทำให้จุดธูปสิบหกดอก จุดเทียนสองเล่ม เตรียมดอกไม้หรือพวงมาลัยคล้องขวดน้ำมันไว้ตั้งจิตบูชาครูบาอาจารย์ทั้งชั้นฟ้า ทั้งครูเทพ ครูพรหม ครูฤาษี มหาเศรษฐีพุทธกาลทั้งเก้า และองค์อาตมันเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอลาภกับครูท่าน ถ้าเรามีวาสนาก็ให้ท่านโปรดให้เราเห็น โดยนำกระดาษมาแผ่นหนึ่งเขียนเลข 0-9 ล้อมกันไว้เป็นวงกลม อธิษฐานบอกครูบาอาจารย์นำน้ำมันนั้นแตะลงตรงกลางวงกลมหนึ่งที ภาวนาคาถาว่า"สัพเพชะนา พะหูชะนา เมตตาสุขัง จะมหาลาภัง ปิยังมะมะ" แล้วก็แตะน้ำมันบริเวณหนังตาซ้ายขวาแล้วจึงเข้านอน พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ามีวาสนาแรงจะถูกหวยหลับไปตัวเลขจะมาเป็นสีแดงๆในนิมิตฝันของเรานั่นเลย แต่ถ้าไม่ได้ฝันเห็น พอตื่นมาท่านให้จ้องแผ่นกระดาษตัวเลขนั้นโดยหลับตาและลืมตาครั้งหนึ่งเห็นเลขใดเป็นเลขแรกก็เอาตัวนั้น ท่านว่าจะสองตัวหรือสามตัวก็ทำตามนี้โดยการหลับตาและลืมตาสองถึงสามครั้ง(ให้ทำได้เฉพาะคืนก่อนวันหวยออกเท่านั้น) ได้เลขอะไรก็ตามอย่าได้บอกกับใครเด็ดขาด รู้คนเดียวและซื้อคนเดียวเท่านั้น

    คาถาบูชา
    โอมพุทธังบังเกิด ธัมมังบังเกิด สังฆังบังเกิด พระเจ้าประเสริฐบังเกิดเป็น ออ อา ออ แอ ออเมตตา อาเอ็นดู ให้พระธรรมอุปถัมภ์ ให้พระธรรมค้ำชู ยกกูหนีไกลวัฏฏะทุกข์แต่ใดไม่มาแผ้วมาพาน อนิจจาพุทโธ พุททังมาโส ธัมมังมาโส สังฆังมาโส มาแล มาแล มาเชย มาชม มา ออ แอ ฤ ฤา ธัมมังมาโส เมตตามาโสมาสิมา

    * ตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่าง+น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชคนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียงห้าชุด และท่านเก็บเอาไว้ใช้เองชุดหนึ่ง น้ำมันนี้ท่านว่ามีเจ้าของมีผู้ถือครองทุกขวด รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น (ผู้บูชาให้แจ้งชื่อ,นามสกุล,วันเดือนปีเกิดไว้ด้วยท่านจะบอกกล่าวครูอาตมันประสิทธิให้อีกคราหนึ่ง) รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโค-กระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสังวาลย์พระธรรมแต่งร่าง+น้ำมันจ้าวชีวิตโคตรเศรษฐีอมฤตโชค (ลืมตาอ้าปาก,เปิดทางรวย) บูชา 4,000 บาท

    58670498-345539282765030-6622404773712756736-n.jpg
    59423694-822490924799000-3178432711375192064-n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    *** ต้องแจ้งไว้ก่อนว่า น้ำมันชุดนี้แต่เดิมพ่ออาจารย์ท่านก็ตั้งค่ากำนลครูไม่ถูกเช่นกัน เพราะแต่โบราณนั้นท่านว่าต้องแลกด้วยทองห้าบาท ซึ่งท่านว่าเจ้าของเขาจะไม่มีโอกาสได้ใช้สุดท้ายน้ำมันจะไปกะจุกอยู่ในมือคนกลุ่มเดียว ท่านจึงลดลงให้บูชาเพียงราคาทองหนึ่งบาท...แต่ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบอยู่ดีๆท่านกลับบอกว่ามันหนักไปสำหรับคนๆนั้น(เหมือนพูดลอยๆ) คล้ายกับว่าท่านรอใครซักคนให้เอาไปใช้อย่างนั้นจึงได้ลดลงมาให้บูชาในราคาปกติ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่งems
    พี่ภิญโญ EW 4027 5007 3 TH

    พี่ศิระ EW 4027 5008 7 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    - เล่าความฝัน

    ก็มีพี่ท่านนึงไลน์มาเล่าความฝันให้ฟังว่ามีนิมิตเจอพ่ออาจารย์ท่าน ซึ่งท่านนำเข็มฉีดยาขนาดเล็กมาสองอันข้างในมีน้ำมันสองชนิดคือมหาเมตตากับมหาลาภ พี่เขาบอกว่าท่านเอาเข็มมาฉีดน้ำมันใส่เปลือกตาซ้ายขวาของผม ฉีดเสร็จน้ำมันยังเป็นก้อนไม่ละลาย ท่านบอกว่าทิ้งไว้สักพักเดี๋ยวจะเป็นปกติ น้ำมันนี้ทำยากมาก ถ้าผิดส่วนผสมอักขระนิดเดียวสมเด็จองค์ปฐมท่านไม่อนุญาติให้เสกต่อเลย แล้วก็สะดุ้งตื่นพี่เค้าว่าในนิมิตตอนโดนเข็มเสียวว่าจะโดนลูกตาและเจ็บด้วยตื่นมายังงงว่าเราโดนเจาะไปแล้วนี่...

    เราอ่านๆแล้วยังคิดว่า
    บังเอิญเกินไปหรือเปล่า ทำไมมันบังเอิญและเหมาะเจาะเหมาะเวลาแบบนี้ หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่เค้าเรียกว่าแรงครูกระมัง เพราะน้ำมันที่บรรจุตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้ในวิธีการมองหวยรึขอนิมิตท่านก็ให้ทาตาทั้งสองข้างเหมือนกัน ช่างจำเพาะเจาะจงและถูกหรือพอดีจังหวะเหลือเกินดั่งครูดลใจเช่นนั้น ### แต่ผมเชื่อเหลือเกินเหมือนที่พี่ท่านนี้พิมพ์มาเล่าให้ผมฟังว่าน้ำมันตัวนี้ทาไม่กี่ครั้งก็ซึมเข้ากระแสเลือดพุทธคุณอยู่ยาวเลยตามที่เขารู้สึกได้
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มันนี้ก็มีไลน์มาเล่าฝันเห็นคล้ายๆกัน แต่เป็นการน้ำมันมาเจิมเปลือกตาซ้ายขวา อันนี้ก็แปลกดีผมคิดว่ารุ่นนี้เป็นน้ำมันที่แรงครูสูงจริงๆ แล้วอะไรก็ตามที่แรงครูสูงๆนี่แหละเฮี้ยนนัก เพราะครูท่านช่วยแบบถึงลูกถึงคนกันจริงๆ วันนี้ใครจะฝากคำถามอะไรก็ PM กันไว้นะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ใครที่รอชุดหล่อโบราณชนวนแน่นๆแค่หลักร้อยที่รับรองว่าดีจริงๆ ถึงขนาดพ่ออาจารย์ท่านบอกว่า"พลังงานสูงกว่าเหล็กไหล" ติดตามกันดีๆนะครับรายการนี้ของมีน้อยจริงๆ ท่านว่าจะห้อยคอก็ได้ทำหัวแหวนก็ได้ รายการนี้แบบแรงๆเลย
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระสำเร็จอธิษฐานใจอุดรอยรั่วชีวิตเพชรฆาตฤกษ์(เทวดาช่วยด้วย)
    "สิ่งเล็กๆน้อยๆเช่นรอยรั่วเล็กๆก็อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไปตลอดกาลได้ ให้ระวังกันให้ดีเพราะหนึ่งรูเล็กๆที่ว่านี้ก็อาจจะล่มเรือลำใหญ่เหมือนที่ล่มชีวิตใครก็ได้มามากแล้ว" พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตที่ฝึกมาดีแล้วนั้นย่อมไม่มีรอยรั่วใดๆเหมือนเรือนอันอาศัยที่ปลูกมาดีแล้วแม้เจอกับพายุฝนอย่างไรย่อมไม่รั่วไม่ซึม ในขณะเดียวกันจิตที่อัตภาพปรุงแต่งตามกาลเวลาไม่ได้ฝึกฝนขัดเกลาเช่นนี้ฝนตกทุกทีย่อมรั่วเสมอ...(ท่านว่าอนาคตคนจะมีปัญหาชีวิตเพิ่มขึ้นทีละเรื่องๆไปเรื่อยๆมากขึ้นๆ ท่านจึงให้นำพระอธิษฐานใจชุดนี้ออกมาให้บูชา เพื่อให้คนที่มีวิสัยทัศน์และรู้ว่าจะเกิดปัญหาในอนาคตกับตัวได้แก้เคล็ดนำไปใช้อุดรอยรั่ว)

    *** พระชุดนี้เป็นพระเก่าสมัยที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างเหรียญซุ้มระฆัง ซึ่งท่านใช้มวลสารเดียวกันหล่อบูชาครูขึ้นพร้อมกัน
    เพราะว่าเหรียญหล่อรุ่นแรกนี้ท่านตั้งใจมากๆและทำเต็มที่ โดยใช้ชนวนล้วนๆที่ไม่มีโลหะธรรมดาเจือปนให้เสียชื่อแต่อย่างใด ที่สำคัญนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้แกะเเม่พิมพ์ด้วยตัวเองรวมทั้งลงมือหล่อเองด้วย ในวาระนี้จะมาดูมวลสารกันก่อนซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้เตรียมชนวนมวลสารไว้ที่ง่ายต่อการหลอมและการลงวิชาเพื่อให้มีพุทธคุณที่เข้มขลังสุดๆ เป็นที่ทราบกันดีว่า ตะกั่วและเงินเป็นโลหะที่รับเเละซึมซับกระเเสพลังงานได้ดีเยี่ยมที่สุดและที่สำคัญยังง่ายต่อการหล่อหลอมที่สุด ชนวนที่นำมาหล่อเหรียญนี้จึงเป็นตะกั่วผสมเงินนั่นเอง โดยท่านได้นำตะกั่วอวนหาปลามาแช่น้ำพระพุทธมนต์ปะสระล้างอาถรรพ์ปัดเสนียดโดยตั้งธาตุให้บริสุทธิ์ก่อน ก่อนที่จะนำมารีดเป็นแผ่นและลงอักขระวิชาทับถมตามสูตรบูรพาจารย์ในอดีตเช่นหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังเป็นต้น พ่ออาจารย์ได้กำกับลงอักขระพุทธาคมพระยันต์ต่าง108พระยันต์ลบถมอยู่เช่นนี้ ทำไปเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อน จนเต็มความสามารถเพื่อประสงค์ที่จะสร้างมงคลสักการะที่ดีงามฝากไว้ตามรอยบูรพาจารย์ในอดีตหลังจากนั้นท่านจึงสั่งรีดแผ่นเงินแท้เเละต้องเป็นเงินบริสทธิ์ที่หลอมไฟละลายด้วย มาทำการลงวิชาและอักขระอีกทั้งหมด 8 แผ่น เพื่อจะทำการหลอมรวมกันสร้างเหรียญหล่อรุ่นแรกเป็นปฐมฤกษ์ครั้งนี้

    โดยเเผ่นเงินทั้ง8ท่านลงวิชาต่างๆกัน ดังนี้
    1. แผ่นยันต์พระคาถาชินบัญชร พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพ108 พันประการสุดที่จะกล่าวถึงได้เสียหมด พุทธคุณดังฝอยท่วมหลังช้างตามเเต่ผู้ใช้จะอธิษฐาน
    2. เเผ่นยันต์เกราะเพชร ตำรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เพื่อให้คุ้มครองป้องกันผู้ที่มีเหรียญไว้บูชาดุจเกราะเเก้วตาข่ายเพชร ซึ่งการลงยันต์นี้ท่านว่าต้องเดินตามสูตรทีละตัวๆ และหลังจากลงแล้วจึงเชิญเสด็จพระใหญ่ให้มาเป็นประธานพร้อมหลวงพ่อปานลงเสก
    3. แผ่นยันต์แม่ธาตุทั้ง 4 ท่านว่าทุกสิ่งทุกอย่างในวัฏสงสารนี้ย่อมประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 ปรุงเเต่งขึ้น ดังนั้นจึงถือว่าเป็นวิชาที่มีอานุภาพครอบจักรวาลสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดเเละปรับสมดุลย์ให้แก่ร่างกายผู้ใช้ได้
    4. แผ่นยันต์ครอบจักรวาล พระยันต์นี้ท่านว่ามีอานุภาพครอบจักรวาลสุดแล้วแต่ผู้ใช้จะมีสิ่งใดปรารถนาประสงค์บอกกล่าว จะช่วยทำให้สำเร็จสมดังคำอธิษฐาน ครอบคลุมในทุกๆด้าน
    5. แผ่นยันต์พระปัจเจกพุทธเจ้าเรียกทรัพย์ วิชานี้เป็นหนึ่งในวิชาของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้ลงเเละเสกกำกับเพื่อเร่งลาภดูดดึงเอาโชคลาภวาสนามาสู่ผู้ใช้ผู้บูชาไม่ให้เสียเวลาคอยท่าบุญเก่านานๆ นอกจากนั้นท่านยังเชิญหลวงพ่อปานพร้อมทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ได้มรณภาพไปแล้วลงทำการประสิทธิ์ให้อีกด้วย
    6. แผ่นยันต์พญาราชสีห์ ท่านลงเเละเสกให้เป็นมหาอำนาจ เป็นราชเสน่ห์ สามารถสะกดผู้อื่นได้ ผู้บูชาจะได้มีตบะเดชะเหมือนหนึ่งพญาราชสีห์เป็นที่เคารพยำเกรงของบุคคลรอบข้างไม่โดนกดขี่
    7. แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ พระยันต์นี้ท่านลงไว้เพื่อให้ผู้บูชาเหรียญเมื่อถึงคราวคับขัน จะสะเดาะลูกตายในครรภ์ออก จะสะเดาะก้างปลาออกจากคอ จะทำน้ำมนต์รดอาบเพื่อเป็นสิริมงคล หรือแก้วิกลจริตผีเข้าเจ้าสิงต่างๆ ก็สามารถกระทำได้ง่าย ด้วยการนำเหรียญหล่อนี้อาราธนาลงเเช่น้ำทำน้ำพระพุทธมนต์ได้ทันที เฉกเช่นวัตถุมงคลของอมตเถราจารย์ในอดีตทั้งหลาย
    8. แผ่นยันต์หัวใจชายหญิง เป็นเมตตามหานิยมมผูกจิตผูกใจ ให้ผู้คนททั้งหลายรักใคร่ ไม่ว่าจะเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม
    ท่านได้นำแผ่นตะกั่วอวนลงถมเเละเเผ่นเงินจารพระยันต์ต่างๆผสมกันหล่อหลอมขึ้นด้วยตัวท่านเอง สำเร็จเป็นเหรียญหล่ออธิษฐานใจทั้งสิ้นตามดำริเดิมเมื่อสร้างเหรียญซุ้มระฆังด้วยตั้งใจจะทำไว้เป็นพระคะแนน หลังจากนั้นจึงนำมาแช่น้ำว่านและทำการปลุกเสกทิ้งไว้มาโดยตลอ


    นับแต่อดีตกาลตำนานการทำวัตถุมงคลเนื้อโลหะนั้น โบราณจารย์และบูรพาจารย์ทั้งหลายได้สร้างสิ่งล้ำค่าเต็มภูมิรู้และสติปัญญาของท่านทิ้งไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึง การสร้างต้องเลือกฤกษ์ยาม ต้องดีตั้งแต่เนื้อในดีให้ถึงที่สุดในทุกๆด้าน เมื่อกาลเวลาผ่านไปเครื่องมงคลเหล่านั้นล้วนมีคุณค่าบังเกิดพระพุทธคุณมากมาย พ่ออาจารย์ท่านมีความประสงค์อยากจะสร้างเพื่อบูชาครู และดำเนินรอยตามบูรพาจารย์ทั้งหลายแต่จะไม่ทับรอยครู จึงได้ซุ่มจัดทำเหรียญหล่อขึ้นมาเป็นเหรียญหล่อที่เน้นเนื้อหามากกว่าปริมาณ ท่านให้เหตุผลที่จะทำรูปเหรียญนี้ขึ้นว่าเพื่อบูชายกย่องครูบาอาจารย์ทั้งเป็นเครื่องระลึกตรึกถึง "เมื่อศิษย์ไม่ลืมครู ครูย่อมไม่ทิ้งศิษย์ฉันใดก็ฉันนั้น"

    ต้องกล่าวเกริ่นเลยว่า แรกเริ่มเดิมทีท่านอยากจะทำเหรียญหล่อที่มีเเรงครูสูงขึ้นมาซักรุ่นแต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร แล้วอยู่ดีๆท่านก็เเกะเเม่พิมพ์ของท่านออกมาเสร็จเรียบร้อย ท่านว่าต้องเหรียญพระสมเด็จโตนี่แหละเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์ของเราในสายบารมี(และในการนั้นท่านก็ตั้งใจทำพระพุทธจักรพรรดิ์พิมพ์สมเด็จคะแนนขนาดย่อมๆเพื่อเทนำฤกษ์,เบิกฤกษ์ในวาระเดียวกันตามธรรมเนียมการสร้างพระคะแนนไว้ด้วย) เมื่อเเกะเเม่พิมพ์นี้ท่านพูดคำพูดนึงจนติดปาก พูดไปยิ้มไป เหมือนท่านดีใจอะไรมากๆซักอย่าง ท่านว่า "ทำเหรียญนี้ครูลงแรงเทวดาเค้าช่วยด้วย" พูดซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้หลายครั้ง เมื่อได้ฤกษ์เพชรฆาตฤกษ์อันประกอบด้วยวันและเวลาอันเป็นมงคลสมบูรณ์ครบถ้วนทุกประการ ท่านได้นำเบ้าหลอมมาผิงไฟไล่ขี้เทียนและหลอมโลหะตะกั่วกับแผ่นเงินจารอักขระรวมกันจากนั้นจึงทำการเทด้วยตัวท่านเองทีละองค์ เมื่อเทพระอยู่นั้นท่านพูดขึ้นมาว่า "ไม่คิดว่าครูใหญ่จะมา นี่ไงสมเด็จโตท่านมาจริงๆนะ" พูดไปยิ้มไป เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดเเละสร้างความปิติลึกเข้าไปในจิตใจของผุ้บูชาว่าครั้งหนึ่งก็ได้ใช้พระในสายบารมีในบารมีของครูสมเด็จจริงๆ และยังได้ทราบว่าบารมีของสมเด็จโตนั้นท่านเตรียมพร้อมที่จะมาโปรดเเละคุ้มครองเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตสำหรับผู้มีศรัทธาเเล้ว เมื่อทำการหล่อได้ ครบจำนวนบล๊อคแม่พิมพ์พระก็ได้เเตกลง เป็นการทำลายตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ เสมือนมีประสงค์จะให้เหรียญหล่อรุ่นแรกนี้มีเพียงเท่านี้ในฤกษ์นี้ไม่สามารถสร้างเพิ่มได้อีก เมื่อหล่อเก็บในเพชรฆาตฤกษ์ได้ครบพ่ออาจารย์ท่านจึงนำเหรียญทั้งหมดลงแช่ในน้ำมนต์อ่านโองการทำน้ำพระพุทธมนต์เสกเพิ่มเข้าไป เเละยังได้นำน้ำว่านน้ำยามาเข้าเพิ่มเพื่อแช่เเละอาบเหรียญหล่อนี้ให้เป็นกายสิทธิ์บังเกิดพุทธคุณถึงขีดสุด ถือว่าท่านเสกใต้น้ำตลอดเวลาเป็นการดับพิษไฟร้อน เเก้เคล็ดสำหรับผู้ที่บูชาพระเนื้อโลหะไม่ขึ้นและไม่ถูกกับธาตุไฟ

    เหตุที่ท่านหล่อในฤกษ์เพชรฆาตท่านให้เหตุผลว่า อันนี้เราตั้งใจจะให้เอาไปใช้งานกันจริงๆ เหรียญนี้จะได้มีพุทธคุณสามารถนำไปพิฆาตสิ่งชั่วร้ายและทำลายล้างอาถรรพ์ต่างๆอันเป็นเหตุที่ทำให้ชีวิตผู้ครอบครองตกต่ำได้ เราจะเเก้ตั้งเเต่ต้นเหตุกันเลย ถ้าทำแล้วชีวิตเขาไม่ดีขึ้นก็ไม่รู้จะทำไปทำไมด้วยครูสมเด็จคือพระอริยเจ้าที่มีบารมีอริยภูมิเต็มเปี่ยม เมื่อท่านเเสดงธรรมนั้น เปรียบดุจแสงสว่างที่ส่องลงไปในที่มืดสนิท แสงแห่งธรรมนี้สว่างแจ่มใสเเละไม่มอดดับ เมื่อตกต้องผู้ใดชีวิตผู้นั้นย่อมเจริญรุ่งเรืองไม่รู้จักตกต่ำ ใครที่ว่าเดือดร้อนเเสนเข็ญ,ลืมตาอ้าปากไม่ขึ้นเอาเหรียญนี้ไปบูชาเขาจะได้เจอทางออกของชีวิต เหรียญทุกเหรียญนี้พ่ออาจารย์ประกอบพิธีเชิญครูเเละอธิษฐานจิตมายาวนานตกหลายๆปี ท่านว่าตั้งใจจะให้ผู้รับไปเห็นพุุทธคุณจะทำอะไรก็ให้ก้าวหน้าต่อไปไม่มีวันถอยหลังให้เขาเห็นเเละรู้ว่าเหรียญนี้มีคุณค่าไม่ใช่ของธรรมดาที่ทำขึ้นมาเล่นๆเพียงเเค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้เเล้วว่าเหรียญนี้มีคุณค่าอยู่ในตัวเอง เหรียญหล่อนี้ท่านว่ามีเทพยดาเเละหมู่พรหมเข้ารักษาเป็นคระอยู่ประจำทุกเหรียญ พลังพุทธคุณนั้นจะเเผ่รัศมีออกมาเป็นพุทธรัศมีทั้งยังมีบารมีของพรหมเเละเทพระดับสูงที่ต้องการลงมาสงเคราะห์มนุษย์เข้ารักษาโดยเฉพาะ ท่านจึงเรียกเหรียญหล่อนี้ว่าเหรียญเทวดาช่วยด้วย เหรียญหล่อนี้ถือว่ามีน้ำหนักพอควรจับเเล้วตึงๆมือและมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเเละเทพเทวดาตั้งแต่ขั้นตอนการแกะพิมพ์ การหล่อเเละการเสก ดังนั้นจึงถือว่าเป็นยอดวัตถุมงคลที่ควรหามาไว้บูชากันให้ได้(อันนี้เเนะนำจริงๆ) เพราะตั้งแต่ท่านทำเครื่องมงคลมาไม่เคยได้ยินท่านพูดไปยิ้มไปเช่นนี้เลย "ว่าข้างบนเขาเอาด้วยเทวดาเขาเล่นด้วย"

    สำหรับเหรียญชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านหยิบออกมาหนึ่งเหรียญนำไปเลี่ยมเงินห้อยคอบูชาของท่านเอง ท่านว่าชุดนี้พุทธคุณสูงมากเสกเสร็จเเล้วใช้เองก็เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นชัดเจนดี ถ้าใครเค้าถามว่าดีอย่างไรให้ตอบเขาไปว่าห้อยเเล้วดีขึ้น จะต้องดีขึ้นทุกอย่าง พับผ่าสิ ทำก็ยาก เสกก็ยิ่งยาก เชิญครูลงมาทำกันหมด ยังไม่ทันใช้เลยมาถามว่าดียังไง ดีไม่ดีบอกเขาไปว่าตัวเราเองยังนำมาห้อยเองเท่านี้ก็พอ สำหรับเหรีญนี้ด้านหลังจะเรียบพ่ออาจารย์จะลงเหล็กจารกำกับไว้ทุกเหรียญ เมื่อได้ไปบูชาให้เลือกฤกษ์วันพฤหัสบดี ถวายบายศรีปากชาม น้ำเปล่า น้ำชา หมากพลู แก่องค์สมเด็จโตแล้วสวดพระคาถาชินบัญชรบูชาท่าน เมื่อจะอาราธนาเหรียญให้ท่องห้องพระพุทธคุณอิติปิโสเพียงเท่านี้ ถ้ามีเวลาว่างก็สวดอิติปิโสเท่าอายุโดยสวดเกินอายุตัวเองหนึ่งจบได้ก็จะดีมาก

    ***เฉพาะชุดเหรียญอธิษฐานใจพิมพ์คะแนนนี้(ท่านว่าตอนหลอมท่านได้เพิ่มมวลสารลับลงไปด้วยเป็นตะกรุดเก่าของสมเด็จโตที่ครูสมเด็จท่านนำมาแต่กรุกำแพงเพชร...ท่านว่าครูไม่ให้พูดถึง ชุดนี้จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าพิเศษยอดโถจริงๆ) พ่ออาจารย์ท่านว่าติดตัวเอาไว้เถิดเมื่อใดที่เราได้กระทำการบำเพ็ญสั่งสมบารมีมาในระดับเต็มที่ดีเเล้ว ญาณทัศนะของเราจะได้ไปเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพิทักษ์รักษาเหรียญและตัวเราอยู่ เมื่อจิตเราเข้าถึงต่อไปทำอะไรก็ง่ายเพราะครูสมเด็จท่านลงไว้ให้เป็นพลังงานสัมฤทธิ์ผลอันยิ่งใหญ่ในนามของความสำเร็จบรรลุผลท่านเรียกวิชานี้ว่า"มงคลประสิทธิ์" เมื่อเกิดขึ้นเเละตั้งอยู่ที่เเห่งใดเเล้วย่อมนำมาซึ่งสวัสดิมงคล ประสิทธิ์ซึ่งมงคลต่างๆดุจมีเทวดาให้พร หากแม้นปราศจากสิ่งดีงามเต็มเปี่ยมไปด้วยอุบาทว์จัญไรทั้งหลายก็จะกลับกลายพลิกผันเติมเต็มทุกๆด้านให้มีซึ่งสุขสวัสดิมงคล เมื่ออยู่ที่ใดมีมงคลเกิดเก่ตัวเราเองเเล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะพลันสำเร็จไปได้โดยอัตโนมัติ เมื่อเชิญครูทำการบรรจุวิชามงคลประสิทธิ์แล้วอาจกล่าวได้ว่าผู้ที่ได้เหรียญนี้ไปบูชานับเป็นวาสนา จะได้เชื่อมต่อกับครูสมเด็จและเทพยดาท่านให้ทำการประสิทธิกิจทั้งหลายเเละช่วยเหลือให้พ้นจากความยากลำบากประสบพบเจอความสำเร็จในทุกๆด้าน ต้องเน้นย้ำเลยว่าทุกๆด้านไม่มีแบ่งเว้น ผู้บูชาต้องได้รับพรได้ใช้พลังขององค์พระท่านในด้านต่างๆได้ เพื่อที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จนั้นๆแก่ชนหมู่มากให้ก้าวข้ามพ้นซึ่งอุปสรรคเเละอุปัทวอันตรายทั้งปวง เสนียดจัญไรทั้งหลายจะไม่มากล้ำกราย และทุกคำขอที่ประสงค์และขอไปต้องสัมฤทธิ์ผลสมดังประสงค์สำหรับพ่ออาจารย์ท่านมีความประสงค์อยากเห็นสัตว์พ้นทุกข์เเละออกจากกองทุกข์ต่างๆที่ถาโถมเข้ามาในยุคปัจจุบัน ท่านจึงได้สร้างเเละขอครูให้ช่วยเป็นกรณีพิเศษ

    - เหรียญอธิษฐานใจ
    เมื่อจะอธิษฐานสิ่งใดหากอยากสำเร็จได้เร็วและไวให้ตั้งจิตให้นิ่งเสียก่อน ปราศจากอารมณ์อยากได้ใคร่ดีทั้งหลายและนำเหรียญหล่อนี้จรดหน้าผากตัวเราเอาท่านมาเเตะหน้าผากเราไว้ขณะอธิษฐาน เป็นการอ่านใจและสื่อใจระหว่างเรากับท่านโดยตรง ขอแนะนำว่าอย่าทำนิสัยไม่ดี,อย่าโลภให้อธิษฐานเพียงเรื่องเดียวแค่ข้อเดียวเท่านั้นจะเห็นผลไวที่สุดในวันหนึ่งๆ อย่าโลภ ให้ทำการขอท่านได้วันละครั้งวันละเรื่อง เมื่ออธิษฐานกับองค์พระเสร็จเรียบร้อยเเล้วก็ให้อาราธนาห้อยบูชาได้ตามปกติ สำหรับการบูชานี้ก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลยพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้เต็มที่เเล้ว ให้มีจิตมีเจตสิกรับรู้โต้ตอบกับเราได้ถ้าใครมีตาในจะรู้จะเห็นว่าทุกคำพรเเละข้ออธิษฐาน ครูท่านจะใส่ใจหากสำเร็จการณ์ใหญ่ลุล่วงความปรารถนาเเห่งตัวเราเองเเล้ว ก็ให้หาน้ำเปล่า ข้าวตอกดอกไม้ ผลไม้ 3-5-9 อย่าง ตามแต่ที่หาได้ถวายท่านไป เป็นการแสดงออกถึงน้ำใจของมนุษย์ แม้นจะไม่มีใครว่าถวายไปท่านจะรับจะกินหรือไม่ แต่เมื่อท่านช่วยเเล้วก็ถือเสียว่าเราควรจะตอบเเทนน้ำใจท่าน การซื้อใจด้วยน้ำใจนี้ เป็นการผูกมิตรที่ดีที่สุดเเล้วต่อๆไปการอธิษฐานช่วยเหลือก็จะยิ่งง่ายขึ้นเรื่อยๆ การอธิษฐานนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความรัก,ความเจริญ,ตำแหน่งการงาน,เรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์,ตามคนหาย...ขอให้เป็นสิ่งที่ปรารถนาในใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็บอกกล่าวแก่ท่านได้เพราะอำนาจของท่านจะครอบคลุมความสำเร็จในทุกๆด้าน เเละช่วยเหลือกันเต็มกำลังความสามารถไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ท่านว่ามงคลวัตถุชิ้นนี้ให้ฉลาดในการใช้ หากอยู่บ้านไม่อยากห้อยคอก็ให้หาพานเล็กๆมาใส่ จะได้กำจัดซึ่งความหม่นหมองเเละเรื่องเลวร้ายภายในภายนอกทั้งหลายซึ่งเกิดกับคนในบ้าน เมื่อจะไปที่แห่งใดจะเข้านอนหรือจะเดินทางก็ควรอาราธนาออกจากพานมาติดเนื้อติดตัวเดินทางไปด้วยกับเรา ให้ท่านขับล้างพิษเเละเสนียดจัญไรความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายในร่างกายเราเสียก่อนเมื่อกลับถึงบ้านก็นำไปอาราธนาตั้งไว้ที่พานเช่นเดิมดังนี้ก็ได้

    คาถาบูชา
    ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯ

    *** เหรียญอธิษฐานใจชุดนี้เป็นพระเก่า พ่ออาจารย์ท่านจะลงเหล็กจารให้ทุกองค์ไม่ซ้ำกันท่านว่าห้ามเลือกแล้วแต่วาสนาบารมีใครจะได้องค์ไหน จะนำไปเลี่ยมห้อยคอก็ได้,ทำหัวแหวนก็ได้,ทำกำไรก็ได้ แต่อย่านำไปไว้ในที่ต่ำ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระสำเร็จอธิษฐานใจอุดรอยรั่วชีวิตเพชรฆาตฤกษ์(เทวดาช่วยด้วย) บูชา 900 บาท

    59385514-321056825234754-28292577371357184-n.jpg
    SAM-4515.jpg SAM-4504.jpg
    59392763-618391111961757-7168145342934810624-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เห็นยอดจองพระแล้วตกใจจริงๆ หลังจากนี้ผมขอจำกัดไว้ให้จองได้ไม่เกินท่านละสององค์นะครับ รายการนี้แค่มวลสารก็คุ้มแล้วยันต์แต่ละแผ่นท่านลงเต็มวิชาและแยกเสกทั้งนั้น
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    จิตคือกาย กายคือจิต

    คำๆนี้ มักมีผู้ไม่แจ้งในความหมาย ว่าเป็นไปได้อย่างไร บ่อยครั้งทีมีคนถามว่า จิตอยู่ที่ไหน อยู่ที่หัวใจ หรือกระหม่อม หรือระหว่างคิ้ว

    ก็ตอบไปว่า อยู่ทุกที่ที่มีความรู้สึก ปลายนิ้วเท้าก็จิต บนกระหม่อมก็เป็นที่ตัั้งของจิต ทุกส่วนในร่างกายคือจิตทั้งสิ้น เพราะจิตฝังอาศัยอยู่ในกายทุกส่วนในร่างกายก็คือที่ตั้งของจิต ดังนั้นจิตกับกายจึงเป็นส่วนเดียวกันมีความเกี่ยวเนื่องถึงกันหมด

    เมื่อจิตมีอำนาจสั่งกายให้ทำงาน คือให้คิด พูด ทำใดๆ ผลของการกระทำที่ถูกสั่งด้วยจิตจึงไปปรากฏแสดงผลอยู่ในกายด้วยและพอกายนี่เสื่อมสภาพไปตามสังขารจนกระทั่งตายไปในที่สุด จิตต้องถอนออกจากกาย ผลจากกระทำใดๆก็ฝังอยู่ในจิตเต็มที่เรียกว่าฝังอยู่ในจิตส่วนสังขาร ผลจากการกระทำก็กลายเป็นรหัสกรรมที่เป็นเครื่องชี้นำว่า จิตดวงนี้จะมีทางเดินต่อไปอย่างไร ไปจุติในภพภูมิไหนด้วยสิ่งที่ฝังแฝงอยู่ในจิตสังขารเป็นเข็มทิศที่พาจิตไปจุติ

    การปฏิบัติเตโชวิปัสสนากรรมฐาน เป็นทางแห่งธรรมแท้ต่อการหลุดพ้นที่ให้ผลแรงและหลุดพ้นอย่างรวดเร็ว เพราะตีตรงมาที่สังขารอย่างไม่อ้อมค้อม ปฐมวัจนะของพระพุทธองค์ที่ทรงตรัสในวันตรัสรู้ก็ทรงตรัสว่า“จิตของเรา ปราศจากสังขารการปรุงแต่งแล้ว” เมื่อไม่มีสังขารใดฝังอยู่ก็ไม่มีเชื้อใดที่ทำให้มีภพชาติอีก ดังนั้นด้วยหลักการปฏิบัติที่เพ่งดูมาที่กายเพื่อเผากิเลสจึงเป็นการเผาสังขารให้สิ้นไปตามลำดับขั้น จึงทำให้พ้นทุกข์และเข้าสู่ทางนิพพานอย่างรวดเร็วซึ่งผลปรากฏเกิดแก่ทั้งกับกายและกับจิตคือทั้งกายและจิตจะเบาโปร่งสบาย และจิตเกิดมีความอ่อนโยนตามมาด้วยจิตสำนึกกตัญญูอย่างที่ไม่เคยมีไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นก็เพราะความหยาบกระด้างจากอำนาจกิเลสถูกเผาไปไม่ต้องไปอ้อมจากข้างนอกมาข้างในเช่นการไปฝึกเพ่งกสิณ หรือได้แต่สวดมนต์ซึ่งเป็นเพียงการทำสมาธิ ผู้ที่ชอบสวดมนต์นานๆก็เพราะเลี่ยงไม่อยากฝึกฝนจิต ชอบให้มีการเคลื่อนไหวคือเคลื่อนด้วยการพูดจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด การฝึกแต่สมาธิอย่างเดียว ก็เป็นการกดทับกิเลสและบาปให้สงบอยู่ชั่วขณะด้วยกำลังฌาน ขณะที่ดิ่งเข้าฌานจิตก็รู้สึกสงบ แต่ไม่เกิดปัญญาคือหาทางดับทุกข์ไม่ได้ เพราะกดทับมันไว้ได้แต่นิ่งอยู่เช่นนั้น นิ่งไปนิ่งมาเจอมารขุดสังขารออกมาเป็นภาพนิมิตหลอก ผุ้ที่ดำรงแต่สติรู้ตัวอยู่เสมอแต่ไม่เอาสติมาพุ่งชนเป้าหมายเพื่อทำลายสังขารได้แต่รู้อยู่แต่ระดับผิวๆพอเจออาสวะกิเลสที่มีกำลังแรงมากแผลงฤทธิ์ก็ไม่อาจต้านทานกำลังกิเลสได้

    ดังนั้นการเพ่งดูจิตแล้วเผาประหารกิเลสนี่แหละจึงเป็นทั้งทางตรงและทางลัด พระพุทธองค์สอนไว้ในสติปัฏฐานสี่ว่า อาตาปี สัมปชาโณ สติมา คือมีความเพียรเผากิเลส เตโชวิปัสสนานี่เผาจริงๆเผาในระดับปรมัตถในระดับจิตที่มหัศจรรย์เกินบรรยาย เป็นธรรมที่ต้องค้นลงมาที่จิตจริงๆจินตนาการไม่ได้เลย

    เวลาคนที่สะสมกรรมมามาก กรรมก็ปรากฏขึ้นทางกายเป็นเวทนาหรือมีความเจ็บปวดที่รุนแรง เช่น ผู้ทำกรรมกับบุพการีมามากกรรมปรากฏที่กลางกระดูกสันหลังเลยที่กรรมฝังอยู่ตรงนี้ก็เพราะ กระดูกสันหลังเป็นแกนชีวิตกรรมชนิดนี้หากยังไม่แก้ไขพอตายไปแล้วดิ่งสถานเดียว ส่วนผู้เพียรภาวนเผาบาปเผากิเลสมามากจะไม่มีความเจ็บปวดรุนแรงตามร่างกายเลย จะมีเพียงความเมื่อยล้าตามลักษณะกายสังขารเท่านั้น ดังนั้นเวลาภาวนาแล้วมีเวทนารุนแรงอย่าท้อถอย ให้รู้ว่า ดีแล้วที่เราได้มีโอกาสแก้ไขตัวเองและอย่าคิดว่าที่เวทนารุนแรงเพราะนั่งนานแล้วจึงปวด แต่ทำไมเวลานั่งดูหนังสามชั่วโมงรวดจึงไม่ปวด นั่นก็เพราะเวลาดูหนังจิตมันปรุงแต่พอปฏิบัติภาวนาจิตดิ่งลงไปดูความจริงที่ฝังในสังขารจึงได้รู้กรรมที่ปรากฏเป็นเวทนา

    *** นักภาวนาที่พยายามหนีเวทนาจะหาความเจริญก้าวหน้ามิได้เลย เพราะการหนีภาวนาคือการหนีกรรมนั่นเอง กรรมหรือทุกข์มีไว้ให้เผชิญแต่ภพชาติมีไว้ให้หนีดังนั้นต้องตั้งหลักให้ดีสู้กันจนหยดสุดท้าย นี่แหละคือธรรมแท้ของคนจริง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุรวุฒิ EW 4028 0043 8 TH

    พี่เกษมธิดา EW 4028 0044 1 TH

    พี่เมธี EW 4028 0045 5 TH

    พี่วิชัย EW 4028 0046 9 TH

    พี่ธนากร EW 4028 0047 2 TH

    พี่วัชรพันธุ์ EW 4028 0048 6 TH

    พี่พรเทพ EW 4028 0049 0 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ใครที่ชอบวิชาเกี่ยวกับพุทธคุณ พุทธภูมิ....พุทธบารมีล้วนๆ ไม่มีสิ่งอื่นเจือปนแถมยังเป็นบารมีเฉพาะทางของพระพุทธเจ้าบางพระองค์อีกด้วยเดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามกันให้ดี เพราะถ้าพ่ออาจารย์ท่านเน้นว่าเป็นพุทธบารมีเฉพาะทางของบางพระองค์แล้วแสดงว่าของสิ่งนั้นจะใช้ในเรื่องสงเคราะห์กรรมบางเรื่อง###แบบเข้มข้นจริงๆ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์(นิราศทุกข์ทั้งผอง)

    ด้วยคติแห่งโพธิและมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ต้องการจะโปรดโลก สั่งสอนมนุษย์เเละเวไนยสัตว์ทั้งหลายข้อนี้เป็นพระเมตตาอันไม่มีประมาณ และเหนือสิ่งอื่นใดนั้นเราทุกคนได้ชื่อว่าเป็นลูกของพ่อพระพุทธเจ้า ดังนั้นวิชานี้จึงใช้อำนาจพ่อพระพุทธสงเคราะห์ดวงลูกๆโดยตรง ใช้คุณแห่งมหากรุณาและเมตตาของพ่อเพื่อยับยั้งกลไกแห่งอกุศลกรรมทั้งหลาย ให้เจ้าของดวงนั้นได้มีกำลังแห่งพระโพธิญาณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสริมส่งอยู่ในดวงของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นท่านก็ทำกิจและบำเพ็ญบารมีมาต่างกันถึงท่านจะสร้างบารมีอย่างไม่ได้ย่อท้อ ตั้งแต่การสั่งสมบุญซึ่งจะใช้ชำระขัดเกลาสันดานให้มีคุณภาพดีขึ้น เป็นความประพฤติที่ดีขึ้นทางกาย,ทางวาจาและทางใจจนกระทั่งมีจิตใจที่กล้าแข็ง จึงได้สร้างบารมีหรือก็คือบุญที่ทำอย่างหนักหน่วงมากด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันอย่างไม่หวั่นไหว จนบารมีครบทั้ง 30 ประการ เช่นนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์จึงสร้างบารมีกันมายาวนานด้วยบุญบารมีอย่างมากมายที่ทำไว้ยิ่งยวด ... ในด้านคุณสมบัติและคุณธรรมซึ่งการฝึกฝนตนเองของพระองค์ด้วยคุณธรรมอันยิ่งยวดนี้เองก็ทำให้แต่ละพระองค์มีความถนัดและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามวิสัยของบารมีอันได้อบรมมา

    แต่กาลเวลาภายหน้านั้น...ท่านว่านักปราชญ์จะตกต่ำลง ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจวาสนา การเปลี่ยนแปลงตามวัฏฏจักรทั้งฤดูกาลตลอดจนธรรมชาติร่วมไปถึงน้ำใจของมนุษย์นั้นได้เริ่มเกิดขึ้นเเละมีให้เห็นอยู่มากมายเเล้ว ความผันผวนทั้งหลายนี้มาพร้อมความเสื่อม ในยุคปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าทอดสายตาไปที่แห่งใดก็ล้วนเเต่พบเจอความทุกข์ทั้งสิ้น แม้มองเห็นความสุขก็ยังเป็นความสุขในความทุกข์อยู่ดี เราทั้งหลายนอกจากจะรู้จักความทุกข์ยากลำบากเเล้ว ควรจะมองเข้าไปให้เห็นความทุกข์ อย่าไปหดหู่ท้อแท้ใจกับมัน ให้ปลงอนิจจังเอาไว้ ตั้งอารมณ์ให้เป็นกลาง หมั่นฝึกฝนสติเเละต่อพระกรรมฐานเป็นทุนของชีวิตไว้ไม่หลงไปตามกระเเสโลกและสังคม เมื่อท่านมีดำริเช่นนี้ครูท่านก็อยากจะช่วยบุคคลอันเจริญตั้งมั่นอยู่ในศรัทธาที่ไม่คลอนแคลนให้พ้นจากยุคเข็ญเเละห้วงภาวะขาลงต่างๆทุกด้าน ท่านก็คิดที่จะทำวัตถุมงคลกลับดวงชะตาขึ้น ###ท่านว่านอกจากการเชิญครูให้แฝงกายจับมือขึ้นรูปชักยันต์แล้วตะกรุดชนิดนี้ยังต้องใช้บารมีขององค์พระบางพระองค์ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าก่อนที่จะลงได้ต้องทำสมาธิจนได้ระดับหนึ่งก่อนเพราะครูที่แฝงกำลังจับมือท่านชักยันต์นั้นต้องใช้วิปัสสนาญาณของท่านเข้ามาช่วยเสริมในการปัดเป่าเคราะห์กรรมของผู้บูชานั่นเอง

    เสด็จพระใหญ่ท่านให้พ่ออาจารย์ขอบารมีขององค์สมเด็จพระพุทธเวสสภู,และองค์สมเด็จพระพุทธกุกกุสันโธเป็นกาลเฉพาะเหตุ เพราะองค์สมเด็จพระกกุสันโธนั้นจะมีบารมีทางด้านนำสัตว์ข้ามพ้นจากยุคมืดยุคเข็ญและนำสัตว์โลกทั้งหลายออกจากความทุกข์ร้อนความกันดารต่างๆ(ท่านว่านี่ถ้าใครทุกข์มากหรือลำบากมากต้องรีบขอบารมีองค์พระกกุสันโธนี่แหละ) ส่วนสมเด็จพระพุทธเวสสภูนั้นท่านย่อมเป็นผู้ประทานความสุขแก่หมู่ชน เป็นผู้เติมเต็มความสุข ดังนั้นชีวิตใครที่มีแต่ทุกข์ไม่เคยได้สัมผัสความสุขเลยจึงจำเป็นต้องขอบารมีท่านที่ได้ทำไว้เพื่อสงเคราะห์สัตว์ทั้งหลายให้ได้รับความสุขกันถ้วนหน้า โดยวิชานี้จะมีพุทธคุณใหญ่ๆนอกจากเรื่องความสำเร็จเเล้ว ท่านหมายใจจะให้ผู้บูชาไปถึงฝั่งฝันได้อย่างง่ายดายเสมือนปอกกล้วยเข้าปาก ด้วยมนุษยชาตินั้นล้วนมีความต้องการความอยากได้ใคร่ดีกันต่างๆนานาเนื่องจากมีความหวังมีความฝันที่จะต้องก้าวไปพร้อมความทะเยอทะยานในตัวเอง ดังนั้นเเล้วทุกเรื่องที่ปรารถนาเมื่อไปถึงฝั่งแล้วย่อมถือได้ว่าสำเร็จ แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเเละไม่ง่ายเลยที่มนุษย์จะประสบความสำเร็จได้ในทุกเรื่องสืบเนื่องมาจากความขัดข้อง,อุปสรรคเเละปัญหาที่มีเข้ามาเป็นเครื่องทดกสอบกำลังใจนั่นเอง ไม่ว่าจะการงาน,การศึกษา,ความรัก,ความปรารถนา,ความต้องการ,ความอยากได้ใคร่ดีต่างๆ ซึ่งความขัดข้องเหล่านั้นก็มีผลสืบเนื่องมาเเต่กรรมอันเป็นกฎของวัฏฏสงสารนั่นเอง เช่นนั้นองค์สมเด็จพระพุทธเวสสภู,แลองค์สมเด็จพระกกุสันโธจึงให้ท่านลงตะกรุดไว้จะได้มอบแก่ชนทั้งหลายได้ติดตัวใช้กัน เพราะต่อไปนี้สิ่งที่คนทั้งหลายจะประสบพบเจอนั้นล้วนเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสนัก จะหนักจะรุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกมาก ท่านว่า "ปกติเธอจะทำตะกรุดไว้กันและแก้ดวงให้พวกเขา จำไว้นะว่าทั้งกันและแก้ตอนนี้ก็ไม่พอเราจะลงเพชรกลับเพื่อกลับชีวิตเขาให้รุ่งโรจน์ให้นิราศห่างไกลจากทุกข์ทั้งผอง" พ่ออาจารย์ท่านได้พิจารณาดูโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั้น เปรียบเสมือนคำปกาศิตและความปรารถนาดีของพ่อพระพุทธทั้งสองที่เป็นห่วงชีวิตมนุษย์ เช่นนั้นจึงสบายใจได้ว่าตะกรุดที่ท่านจะทำขึ้นให้บูชานี้จะต้องไม่ใช่ตะกรุดที่ห้อยแล้วหนักตัวเปล่า แต่ต้องกันสารพัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่จะเกิดเหตุต่อไปในอนาคตกาลไม่ให้เกิดขึ้นกับผู้บูชาได้ ซ้ำยังต้องมีพุทธคุณในการแก้,การคลายเหตุการณ์วิกฤติต่างๆให้ผ่านพ้นไปด้วย รวมไปถึงการกลับร้ายกลายเป้นดีกลับชีววิตที่อ่อนล้าเพราะความเหน็ดเหนื่อนและท้อใจนั้นกัดกินให้กลับมารุ่งโรจน์อยู่ในจุดสูงสุดอีกครั้ง

    ท่านว่าแต่เดิมนั้นพอเสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำให้ขอบารมีพ่อพระพุทธทั้งสอง ฉันก็ยังคิดหนักว่าจะลงอะไรดีแล้วจะให้ท่านมาเสกอย่างไร คิดอยู่แต่แค่นั้นแหละว่ามีวิชาใดที่จะช่วยฉุดชักเเละขจัดความขัดข้องทั้งหลายท่านตั้งจิตพิจารณาจนมีนิมิตรเเละทราบโดยนิมิตรนั้นว่า สมเด็จพระพุทธเวสสภูให้ทำตะกรุดซึ่งท่านได้กล่าวว่าคนเราหากประสบความสำเร็จได้ง่ายเเละเร็วชีวิตเค้าก็จะมีความสุขเช่นนั้นชีวิตนี้ของเขาเราจะช่วยเอง เราจะขจัดเหตุเเห่งปัญหาเเละอุปสรรคตลอดจนความขัดข้องทั้งมวลที่จะเข้ามาขวางความสำเร็จในชีวิตเขาทุกเรื่อง ให้เขาสำเร็จได้ลืมตาอ้าปากได้ในทุกเรื่อง ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากกรรมเก่า,เจ้ากรรมนายเวรหรือเทพยดาทดสอบลองใจก็ตาม เราจะคลี่คลายการณ์ทั้งหลายนั้นให้ผ่านไปด้วยดี เพราะความสำเร็จนี้เป็นบ่อเกิดเเห่งความสุขสมบูรณ์ถึงพร้อมในทุกด้านมิได้จำกัดไว้เพียงด้านใดด้านหนึ่ง ทั้งสมเด็จพระกกุสันโธยังได้เสริมให้อีกวาระหนึ่ง ด้วยเป็นวิชาที่ช่วยให้ชีวิตสัตว์ดำเนินไปสู่ความสำเร็จไม่ตกกรอบไม่ออกนอกเส้นทาง เมื่อมีเป้าหมายใดแล้ววิชานี้ก็จะเป็นพลังไฟในการขับเคลื่อนชีวิตให้ไปสู่เป้าหมาย ไม่ใช่เพียงมีเป้าหมายไว้ให้เพ้อฝันแต่ไม่สามารถไปถึงได้ ตะกรุดวิชานี้จะช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคเหตุการณ์อาเพศต่างๆทั้งน้อยใหญ่ไม่ให้เกิดเเก่ผู้ครอบครอง คิดอ่านทำการณ์สิ่งใดใหญ่น้อยทั้งหลายก็ให้สัมฤทธิ์ผลพบเจอเเต่ชัยมงคลไร้พ่ายตลอดไป (***พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนลงนั้นกลายเป็นว่าเราไม่ต้องทำ พ่อพระพุทธทั้งสองท่านเมตตาทำให้หมดเลย ท่านมาจับมือเราวาดยันต์ขึ้นพอสมเด็จพระพุทธเวสสภูปล่อยสมเด็จพระกกุสันโธท่านก็ทำให้ต่อเลย ยันต์ที่ท่านวาดที่ท่านลงให้ก็เป็นวิชาในยุคสมัยของพวกท่านที่แตกฉานกันมายาวนานจนเราไม่สามารถรู้หรือเข้าใจและอ่านได้ว่าท่านจับมือเราเขียนอะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ทั้งสองวิชาที่พ่อพระพุทธท่านลงนั้นเกินกว่าปฏิภาณและความสามารถเราที่จะทำเองได้จริง)

    ซึ่งหลักใหญ่ของวิชานี้นอกจากจะคุ้มภัยอันตรายทั้งหลายแล้วยังเสริมส่งให้ผู้บูชาประสบชัยชนะในทุกๆด้านอีกด้วย ศัตรูคู่แข่งทั้งหลายนั้นท่านว่าสู้เราไม่ได้เลย หากเรากำหนดจิตบอกกล่าวพระรัตนตรัยว่าใครคนไหนคือศัตรูเขาจะมีอันพ่ายแพ้แก่เราไปสิ้น วิธีนี้ท่านว่าเป็นเล่ห์กลใช้ได้หลายทางนักจะศัตรูคู่แข่งทางด้านธุรกิจ,การเจรจาต่อรอง,การงาน,ความรัก ล้วนใช้ได้ทั้งหมดพ่ออาจารย์ท่านพ่อพระพุทธท่านลงสงเคราะห์ผู้นำไปใช้เต็มที่โดยทำการแฝงพุทธานุภาพเพื่อที่ต่อไปเบื้องหน้าเเม้เข้าสู่ยุคเข็ญ เขาก็จะไม่ลำบากเลยทั้งกัน,แก้และพลิกกลับครบเครื่องตามดำริของครูบาอาจารย์ เมื่อลงเสร็จนั้นท่านได้ทำการอธิษฐานบอกกล่าวครูบาอาจารย์ ฝากให้ครูท่านสงเคราะห์ผู้ใช้ให้เต็มที่ เพราะท่านจะถักเชือกลายจรเข้ขบฟันเเเละเชือกนี้ก็เป็นสายสิญจน์ที่ท่านทำขึ้นมาโดยเฉาะ ซึ่งได้นำไปชุบน้ำฟ้ากล่าวง่ายๆคือใช้น้ำที่ตกจากฟ้า(ฝน)ห่าแรก มาทำเป็นน้ำมุรธาภิเษกชุบเชือกเพื่อพันตะกรุดนั่นเอง ถือเคล็ดที่ว่าน้ำนั้นฟ้าประทานให้ เทพเทวดาทั้งหลายท่านเมตตาให้ดับร้อนผ่อนทุกข์ เพื่อเป็นสื่อให้ตะกรุดนี้ผู้ใช้จะได้รับความเมตตาจากเทพยดาทั้งหลายอีกโสตหนึ่งนั่นเอง

    เวลาเสกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกแบบเปิดโลกเต็มกำลัง แต่ตะกรุดนี้มีอะไรที่มากกว่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติท่านจะเสกเองแต่หนนี้พ่อพระพุทธทั้งสองท่านเปิดโลกทำให้ของท่านเองโดยที่ตัวฉันไม่ต้องยุ่ง เพราะการเสกแบบเปิดโลกนั้นปกติต้องอาศัยกำลังญาณและสมาบัติของผู้เสกเองเป็นสื่อ เพื่อเชื่อมถึงพลังงานธรรมะ พลังงานพระพุทธคุณและกำลังแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ด้วยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ธรรมะนั้นคือแสงสว่างที่ไม่มีวันมอดดับ เป็นแสงสว่างที่ใช้ทำลายความมืด ความไม่รู้ อวิชชาทั้งปวง ทำลายเครื่องกีดขวาง เครื่องผูกมัด ส่องแสงสว่างให้มองเห็นทะลุเชื่อมถึงกันได้ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อเสกแล้วเครื่องมงคลที่สำเร็จออกมาจะได้รับการสงเคราะห์ด้วยอำนาจพระพุทธคุณในระดับที่อยู่เหนือและสูงกว่าอำนาจพุทธคุณในระดับอื่นๆ เพราะเป็นอำนาจแห่งสัจธรรมที่ใช้ส่องสว่างและทำลายความมืด เกินกว่าและสูงกว่าอำนาจแห่งวิปัสสนาญาณในสายอภิญญาหรือพระอรหันต์ทั่วไปก็ไม่สามารถกระทำได้ ต้องใช้พระพุทธคุณให้สงเคราะห์ให้ทำให้เท่านั้น เป็นกำลังพิเศษอันจะเกิดได้แต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นวัตถุมงคลเครื่องสูงที่เสกได้ยากทำได้ยากและไม่ค่อยมีพ่อแม่ครูอาจารย์จะทำกันเท่าไหร่ เพราะใช้กำลังจิตกำลังใจสูงหลังจากเสกแล้วกายเนื้อกายสังขารย่อมอิดโรยวัตถุมงคลประเภทนี้กล่าวได้เลยว่านับแต่อดีตกาลมาผู้ที่มีถือครองไว้ก็มีเพียงไม่กี่คน เพราะครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็ไม่ปรารถนาที่จะเสกด้วยวิธีนี้ เพราะถ้าหากหมายใจที่จะทำแล้วจะทำให้ได้ผลมากได้อานิสงค์มากนั้นต้องเป็นการสงเคราะห์เฉพาะบุคคลการเสกแบบนี้จึงไม่เหมาะกับพิธีพุทธาภิเษกหรือนั่งปรกแบบปกติหากสำเร็จด้วยอำนาจแห่งสัจธรรมอันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า เป็นอะไรที่สุดๆแล้วจริงๆ เพราะอำนาจแห่งพระสัจธรรมนั้นยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณหากเป็นอำนาจแห่งครูอาจารย์อำนาจแห่งเทพยดาทั้งหลายยังมีประมาณได้,มีขีดจำกัดได้ แต่อำนาจแห่งพระสัจธรรมนั้นเป็นอำนาจที่อยู่เหนือกลไกเเห่งวัฏฏสงสาร เป็นอำนาจที่ไม่รู้เหือด,รู้แห้ง,รู้ดับ เป็นแสงสว่างที่ส่องประกายตลอดเวลาเกินกว่าอำนาจของเทพพรหมใดๆทั้งสิ้น ผู้ใช้เครื่องมงคลประเภทนี้พูดภาษาง่ายๆคือดีวันดีคืน ทำอะไรจับอะไรก็รุ่งไปหมด ชีวิตไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร หากตนเองเป็นสัมมาทิฏฐิ ดำรงค์ตนอยู่ในหนทางที่สุจริตด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ เพราะเราเดินอยู่ในด้านสว่างอยู่แล้วต่อให้มีความมืดฉายเข้ามาบ้างมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แสงสว่างนั้นจะทำลายความมืดทั้งปวงและชักนำเราให้ขึ้นไปสู่สิ่งที่เจริญและเป็นสวัสดิมงคลทั้งหลายสืบไป

    ท่านว่ายิ่งพ่อพระพุทธทั้งสองทำวิชาเปิดโลกให้เองดังนี้แล้วจึงมั่นใจได้ว่าดีกว่าเราทำเองหรือไปเชิญท่านมาทำอีกเป็นไหนๆ เพราะเป็นวิชาของท่านเช่นนั้นท่านจึงรับผิดชอบให้เต็มที่ด้วยการเปิดให้สว่างทั้งตานอกเเละตาใน,เปิดชีวิตคนใช้ให้ออกมาพบแสงสว่าง เมื่ออับจนหนทางทุกข์หามยามเคราะห์ต่างๆก็จะช่วยเปิดสิ่งที่ปิดกั้น,ขวางกั้นเราอยู่ออกไป,ที่ว่าต่ำว่าจน,ที่ว่าหมดหนทางเยียวยา,ตกไปสู่ที่มืดสนิทก็ฉุดชักกลับมาในความสว่างให้ดำรงค์อยู่ในคุณธรรมเเละสัจธรรมสืบไป ท่านว่าเห็นมั๊ยนี่มันกลับทั้งหมด เพราะท่านตั้งใจจะกลับจะพลิกให้ทุกอย่างรุ่งโรจน์ จะนำเราออกจากทุกข์ทั้งผองตามคติของท่านดังนั้นตะกรุดนี้จึงมีสำคัญมากท่านว่าใครได้ไว้แม้ตายไปจากภพภูมินี้จิตที่ตั้งมั่นอยู่ในกุศลและหนแห่งสัจธรรมก็จะยังช่วยเขาให้ได้สืบสวรรค์สมบัติเเละนิพพานสมบัติต่อไป แค่พบเจอตะกรุดนี้ได้ก็เป็นบุญนักหนาแล้ว หากได้อาราธนาด้วยด้วยก็ยิ่งเจริญรุ่งเรืองในครรลองคลองธรรมยิ่งๆขึ้นไปอีก ท่านว่าถึงคราวทำเพื่อปวงชนทั้งหลายของสิ่งนี้ให้เอาไว้ใช้ปราบยุคเข็ญ,ขจัดพิษภัยเศรษฐกิจและปัญหาชีวิตโดยเฉพาะสืบไปเบื้องหน้า ใครที่ว่าตกต่ำย่ำแย่,ทำอะไรก็ทรุดตัว,เงยหน้าขึ้นไม่ได้,ไปต่อไม่ถูก,หาทางออกไม่เจอ มีตะกรุดคุณวิชาพ่อพระพุทธทั้งสองนี้ไว้บูชา ด้วยอำนาจแห่งพุทธบารมีของทั้งสองพระองค์อันได้จำเริญบ่มเพาะมาดีแล้วนั้นจะช่วยพยุงเขาไว้ไม่ให้ตกต่ำ,ให้ลุกขึ้นได้,ให้กลับมาเจริญได้ ใครที่ไม่เคยพบความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมเขาก็จะได้พบ

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์เรานั้นมีธาตุความร้อนอยู่ในตัวทุกคนนั่นคือธาตุไฟในกายมนุษย์ เมื่อสภาพเเวดล้อมปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มันส่งผลให้สิ่งมีชีวิตต่างๆนั้นเร่าร้อนขึ้นเร่งเสริมและหนุนมีปฏิสัมพันธ์ให้ธาตุไฟแสดงออกทางพฤติกรรมและอารมณ์มากขึ้นต้องทำความเข้าใจไว้ก่อนว่าบุคคลใดก็ตามมีธาตุไฟในตัวมากไปนั้นไม่ดี จะส่งผลต่ออารมณ์,โทสะ,ความเกรี้ยวโกรธและที่สำคัญโชคลาภนั้นทำให้ตายอย่างไรก็จะไม่วิ่งเข้ามาหาบุคคลประเภทนี้ เพราะโชคลาภนั้นเปรียบเสมือนความเย็นเป็นธาตุน้ำที่ขัดกับธาตุไฟโดยสิ้นเชิง พ่อพระพุทธทั้งสองท่านจึงตั้งใจจะช่วยเหลือ ท่านว่าเมื่อช่วยแล้วก้ต้องไปให้มันสุด ต้องเปลี่ยนจากข้างในจึงจะเป็นการปรับชีวิตเขาได้อย่างแท้จริง จะต้องเปลี่ยนแปลงความร้อนภายในร่างกายและจิตใจให้ทุเลาเบาบางลง จากคนแข็งกร้าวอุปนิสัยก็จะอ่อนลง เมื่อร่างกายเราเย็นลงโชคลาภวาสนาการเงินต่างๆก็จะตามมาอย่างเต็มที่ไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร เปิดทางรับแต่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นและข้อดีสูงสุดของตะกรุดนี้คือสิ่งที่วิชาอื่นไม่มีเสมอเหมือน นั่นคือกำลังแห่งพระโพธิญาณพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในทุกโลกธาตุนั้นมีมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในพื้นมหาสมุทร แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์มีเหมือนกันนั่นก็คือทศบารมีธรรมและกำลังอำนาจแห่งพระโพธิญาณซึ่งเป็นสิ่งที่เหนือกว่าอำนาจแห่งฉฬภิญญาอรหันตานุภาพของพระสงฆ์สาวกทั้งปวง เช่นนั้นเมื่อพ่อพระพุทธท่านทำให้ด้วยกำลังแห่งพระโพธิญาณแล้วเรื่องอื่นเราอย่าไปคิดอะไรอีก

    คาถาบูชา(นะโมสามจบ)
    ท่านว่ากำหนดลมหายใจพุท-โธ จนจิตนิ่งดีแล้ว ให้นึกถึงชื่อพ่อพระพุทธทั้งสองคือสมเด็จพระพุทธเวสสภูและสมเด็จกกุสันโธเพียงเท่านี้ก็ใช้ได้เลย เพราะท่านทั้งสองนั้นเมตตามาทำให้จนเป็นของสำเร็จเกินความคิดอ่านของปุถุชนแล้ว


    * ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่ามีเจ้าของกำหนดไว้แล้วทุกดอก ใครที่มาพบมาเจอนั้นท่านว่านั่นคือคนที่มีสัญญาร่วมกัน แต่ถ้ากรรมปัจจุบันของเขาหนักเกินไปหรือไม่สามารถแก้ไขเยียวยาอะไรได้แล้วเขาก็จะปล่อยผ่านไปด้วยตัวเขาเอง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเพชรกลับชีวิตรุ่งโรจน์สำเร็จสมประสงค์(นิราศทุกข์ทั้งผอง) บูชา1,500 บาท

    59705863-1796374717131412-3069022675822182400-n.jpg
    59727077-2199427683471088-2950290083040722944-n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ตะกรุดนิราศทุกข์นี้ท่านให้จองวันนี้วันเดียวนะครับ ท่านว่าข้างบนเค้าเน้นไว้ถ้าไม่มีวาสนาหรือไม่ใช่จริงๆก็เอาไม่ได้ ใครไม่ทันก็ยกยอดไป
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ EW 4027 8929 5 TH

    พี่ศิระ EW 4027 8930 4 TH

    พี่รังสรรค์ EW 4027 8931 8 TH

    พี่อัครพงศ์ EW 4027 8932 1 TH

    พี่วัชรพันธ์ EW 4027 8933 5 TH

    พี่สิวริศร EW 4027 8934 9 TH

    พี่ภิญโญ EW 4027 8935 2 TH

    พี่คณพศ EW 4027 8936 6 TH

    พี่นฤชา EW 4027 8937 0 TH

    พี่ธีรนนท์ EW 4027 8938 3 TH

    พี่บุญชนะ EW 4027 8939 7 TH

    พี่ทวีพงษ์ EW 4027 8940 6 TH

    พี่ชนัฏทิชา EW 4027 8941 0 TH

    พี่วิศณุกร EW 4027 8942 3 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,111
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พูดคุยรอบเช้า

    - เกี่ยวกับพี่ช้างนาฬาคิรีนี่ก็มีประสบการณ์เข้ามาแล้ว แต่จะเล่าเยอะก็ไม่ได้ ได้แต่สรุปคร่าวๆให้ฟังว่าแรงได้ใจพี่คนที่เอาไปอธิษฐานใช้เลย พี่เค้าว่าได้มาคืนแรกก็ขอบารมีพ่อช้างอยากเห็น เขาว่าก็ฝันจริงๆตื่นมายังได้กลิ่นของช้างติดจมูกอยู่เลย ส่วนเรื่องอธิษฐานใช้นั้นเค้าว่าไวมาก...พี่เค้าเอาไปอธิษฐานย้อนคืนการกระทำที่ตัวเขาโดนเล่นงานมาทั้งทางตรงและทางอ้อม(ทั้งการกระทำให้ร้ายและไสยศาสตร์) อันนี้เราก็ไม่ได้บอกหรือแนะนำใครเลยว่าถ้าเอาไปขอให้ช่วยเรื่องแบบนี้พี่ช้างเขาจะไวมาก ยิ่งหากเราโดนให้ร้ายหรือถูกกลั่นแกล้งใดๆให้ไม่ได้รับความยุติธรรมจริงๆ

    - อีกเรื่องก็เป็นเรื่องของพระพิมพ์ที่มีคนถามบูชาเข้ามาจนเราต้องไปถามพ่ออาจารย์ว่าจะออกได้หรือยังเพราะคนร่ำๆว่าจะมาเหมากันอยู่แล้วไม่รู้ข่าวออกไปได้ยังไง(เพราะเป็นพระพิมพ์สำคัญที่ผมเองก็เล็งไว้อยู่เนื่องจากความสำคัญของสายวิชาจริงๆ) กลายเป็นว่าท่านเคยให้คนที่มีชีวิตอยู่ในจุดวิกฤติสุดๆใช้จากคนน้ำตาอาบหน้าสามปีเปลี่ยนจากเกาะผัวกินเป็นหาเลี้ยงครอบครัวได้ จากคนไม่มีอะไรเลยกลายเป็นมีกิจการนับสิบมีลูกน้องเกือบร้อยคน จากคนหมดตัวโดนโกงเปลี่ยนเป้นจับอะไรก็ขึ้นมือหมด ท่านว่าก็นั่นแหละแค่สามปีเขากระโดดไปไกลได้ขนาดนั้น...ก็เลยเป็นชนวนผลเหตุให้มีการแนะนำต่อๆกันมาในวงสหายและญาติมิตรของหญิงสาวที่ประสบความสำเร็จ
    พระพิมพ์นี้อาจจะเป็นพระพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นสุดๆแล้วของพ่ออาจารย์ท่าน...ท่านว่าแค่พิมพ์ทรงและพุทธานุภาพอย่างนี้ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงทำอะไรก็ขึ้นมือ ขนาดคนที่เราเช็คว่าเป็นดวงชะตาผ้าขาดชีวิตจะต่ำไปตลอดกาลยังพ้นชะตาที่ลิขิตมาแต่เกิดได้ ประกอบกับปาฏิหาริย์ตั้งแต่ก่อนสร้างจนถึงขณะปลุกเสก เรียกว่าหลายๆอย่างรวมกันตั้งแต่แก่นวิชาจนถึงพุทธานุภาพที่เสด็จพระใหญ่ท่านตั้งใจแนะนำพ่ออาจารย์ทีละอย่าง ท่านว่า
    ##ให้ทำฝากไว้ในโลกด้วยพระพิมพ์นี้ต่อไปใครก็ทำไม่ได้เหมือนเธอ ท่านแนะนำทีละอย่างตั้งแต่เริ่มกำหนดพิมพ์ทรงกระทั่งเสร็จจนถึงขั้นพ่ออาจารย์ท่านเอ่ยปากว่า "ไม่มีใครทำได้อย่างเรา..พระพิมพ์นี้ต่อไปจะเป็นตำนาน จะมีค่าควรเมืองแมนเมืองสวรรค์ จบจากเราแล้วหากใครคิดจะประดิษฐ์ทำสืบไปก็ทำได้เพียงเปลือกเพียงกระพี้เท่านั้น"

    557000001349001.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...