ตอบปัญหา อภิญญา ญาณ สมาบัติ กรรมฐาน 40 กอง อรหันต์ 4 สาย

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย สมิง สมิง สมิง, 15 มีนาคม 2018.

  1. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953


    อาจารย์คะเช้านี้หนูนั่งได้ชั่วโมง สิ่งที่เกิดคือหนูเหมือนแยกตัวกับร่างกายนี้ได้ เหมือนหนูรู้สึกไม่มีร่างกายนี้เลย แต่กับมีแต่ปิติสุขมาก ไม่เห็นอะไร รู้แต่ว่ามันไม่มีกายนี้ เบาๆ บอกไม่ถูก แต่มันสุขมาก สักพักถึงจะมีการสั่นของร่างกาย อาจารย์ช่วยบอกได้ไหมคะ ว่ามันคืออะไร แต่หนูสุขเหลือเกิน

    ....จากการปฏิบัติของคุณ คิดว่าได้จิตสัมผัสแล้ว ได้ทิพยจักขุญาณแล้ว (อาจรวมทั้่งการอาจได้ญาณอีก ๗ อย่าง)...
    ...ญาณอีก ๗ อย่าง อันเป็นบริวารของทิพยจักขุญาณ คือ พอได้ทิพยจักขุญาณ ก็มีสิทธิ์ที่จะได้ญาณอีก ๗ อย่างทันที
    1. เจโตปริยญาณ ญาณกำหนดรู้วาระจิต
    2. จุตูปปาตญาณ ญาณกำหนดรู้จุติและเกิดของสัตว์ทั้งหลาย
    3. บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ญาณกำหนดรู้การระลึกชาติได้
    4. อตีตังสญาณ ญาณกำหนดรู้เรื่องในอดีต
    5. ปัจจุบันนังสญาณ ญาณกำหนดรู้ปัจจุบัน
    6. อนาคตังสญาณ ญาณกำหนดรู้อนาคต
    7. ยถากัมมุตตาญาณ ญาณกำหนดรู้ผลกรรมของสัตว์ทั้งหลาย

    ...การปฏิบัติสมาธิ (สมถะกรรมฐาน) เมื่อจิตรวมเป็นขณิกะสมาธิ, อุปาจาระสมาธิ และอัปปนาสมาธิ คือ การที่จิตเรามีความละเอียดเข้าไป เข้าไป วิ่งจากกายหยาบเข้าไปอยู่ที่กายละเอียด และการเกิดจิตเป็นทิพย์ มีความพิเศษแห่งจิตเกิดขึ้น คือ เป็นทิพยจิต อำนาจิิต เมื่อจิตเข้าไปสัมผัสกับกายทิพย์แบบเต็มที่ จนสามารถบังคับกายทิพย์ได้ จิตกับ กายหยาบ ก็จะแยกจากกัน เมื่อตอนนี้ จิตก็จะสามารถออกไปท่องเที่ยว ณ ภพภูมิต่าง ๆ ได้ อันนี้ เรียกว่า " กำลังจิตถึงฌาน ๔ " เป็นการฝึกมโนมยิทธิ คือ ฤทธิ์ทางใจนั่นเอง
    ...ส่วนอีกแบบหนึ่ง เช่น การใช้คำบริกรรมภาวนาที่ทำให้จิตเป็นทิพย์ เช่น นะมะ พะธะ แล้วเกิดทิพยจักขุญาณ (แบบครึ่งกำลัง) เกิดความคล่องตัวนิด ๆ ก็ไต่ระดับ เป็นแบบเต็มกำลัง (ฌาน ๔) ช่วงนี้จะเกิดอาการสั่น เหมือนทรงเจ้าเข้าผี จริง ๆ แล้ว เป็นแต่เพียงฌาน ๔ ยังไม่คงตัวเท่านั้น เดี๋ยวก็หายไปเอง การปฏิบัติแบบนี้ เรียกว่า " จิตสามารถทรงอารมณ์ของฌาน ๔ ได้" หรือ "ฌาน ๔ ใช้งานนั่นเอง " จิตก็สามารถออกท่องเที่ยวได้ ณ ภพภูมิต่าง ๆ เป็นมโนมยิทธินั่นเอง แบบนี้อาศัยบุญเก่ามากพอสมควรทีเดียว (บุญญฤทธิ์).......



    ตอนแรกก่อนนั่งหนูไปไม่ได้เพราะบ้างทีภาพไรต่างๆมันขึ้นมาจนคำภาวนาหนูหายไปรู้สติก็มาภาวนาใหม่ คราวนี้หนูคิดว่ามันไม่ใช่แล้วหนูเลยเอาใจจดจอแต่คำภาวนา กลับไปสักพักมันเกิดความมืดๆๆ แล้วก็เพิ่งมารู้ตัวว่า ทำไมเราไม่มีลมหายใจ ทำไมเราเหมือนไม่มีร่างกายไม่เจ็บไม่ชาไรเลย พอสักพักมันก็มีปิติสุขขึ้นมา หนูงงจนแยก แล้วร่างกายเนื้อตัวมันก็เต้นๆๆๆ สั่นๆๆๆ ถึงลืมตาน่ะคะ่[/QUOTE]


    ....ในระดับนี้ของคุณ.....คำบริกรรมภาวนาหายไป..(อุปจาระสมาธิ)...หรือ ประมาณ ฌาน ๒........เหมือนลมมันหายไป ..(อัปปนาสมาธิ)...หรือ ประมาณ ฌาน ๓ , ๔ ...แต่ว่าเมื่อเราตกใจทุกครั้ง เช่น จากที่ คำภาวนาหายไป กลับ มา ยึดเอาคำบริการภาวนาใหม่ แสดงว่าจิตเราหยาบขึ้นมาอีกนิด และ จากไม่มีลม กลับ รู้สึกว่ามีลม ก็แสดงจิตเราถอยระดับลงอีกขั้น........(จิตคุณกลับไปกลับมาอยู่แถว ๆ นี้แระ)

    ....ข้อแนะนำ......
    ...ในการใช้คำบริกรรมว่า " สมิง " ถ้าจะถอดจิตก็สามารถกำหนดจิตออกไปได้เลย ดูว่าจิตมีพลังพอไหม ถ้าไม่พอ ก็ำหนดระลึกถึง หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า สมเด็จโต หลวงตาอ๋อย และองค์รัชกาลที่ ๑๐ แล้ว พุ่งจิตออกไปกราบท่านเลย............................................

    ...ในการเห็นภาพต่าง ๆ ให้กำหนดว่า " สมิง สมิง สมิง " แล้วในใจ " จริงไหม " ภาพจริงไม่หาย ภาพไม่จริงหายไป อันนี้เป็นการป้องกัน นิมิต อุปปาทาน และ วิปลาส นั่นเอง...........


    ....อนุโมทนาบุญ.....
     
  2. tunyaluck

    tunyaluck สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2015
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +45

    ....ในระดับนี้ของคุณ.....คำบริกรรมภาวนาหายไป..(อุปจาระสมาธิ)...หรือ ประมาณ ฌาน ๒........เหมือนลมมันหายไป ..(อัปปนาสมาธิ)...หรือ ประมาณ ฌาน ๓ , ๔ ...แต่ว่าเมื่อเราตกใจทุกครั้ง เช่น จากที่ คำภาวนาหายไป กลับ มา ยึดเอาคำบริการภาวนาใหม่ แสดงว่าจิตเราหยาบขึ้นมาอีกนิด และ จากไม่มีลม กลับ รู้สึกว่ามีลม ก็แสดงจิตเราถอยระดับลงอีกขั้น........(จิตคุณกลับไปกลับมาอยู่แถว ๆ นี้แระ)

    ....ข้อแนะนำ......
    ...ในการใช้คำบริกรรมว่า " สมิง " ถ้าจะถอดจิตก็สามารถกำหนดจิตออกไปได้เลย ดูว่าจิตมีพลังพอไหม ถ้าไม่พอ ก็ำหนดระลึกถึง หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า สมเด็จโต หลวงตาอ๋อย และองค์รัชกาลที่ ๑๐ แล้ว พุ่งจิตออกไปกราบท่านเลย............................................

    ...ในการเห็นภาพต่าง ๆ ให้กำหนดว่า " สมิง สมิง สมิง " แล้วในใจ " จริงไหม " ภาพจริงไม่หาย ภาพไม่จริงหายไป อันนี้เป็นการป้องกัน นิมิต อุปปาทาน และ วิปลาส นั่นเอง...........


    ....อนุโมทนาบุญ.....
    [/QUOTE]


    ขอบคุณค่ะอาจารย์ หนูไม่เคยได้เข้าถึงขั้นนี้ ตอนแรกมันสุขมากๆๆบอกไม่ถูกเลยทั้งทีไม่เห็นอะไรทั้งนั้นมีแต่ความมืดแต่มันเหมือนเราไม่มีร่างกายหมือนหาร่างกายเรานี้ไม่เจอ แล้วมันก็เริ่มรู้สึก ใช่ๆๆค่ะ เหมือนตัวสั่นเหมือนคนจะลงทรงไรแบบนี้ มันเนื้อตัวสั่นๆๆ แล้วก็รู้ตัวคือทำไรต่อไม่ถูก ทั้งที่ก็เหมือนไม่มีตัวตน อยากลืมตาไม่กล้าไปต่อ เพราะไม่่รู้ว่าต้องทำแบบไหนอีก ก็ลืมตาเนื้อตัวก็ยังสั่น เดียวหนูลองหัดนั่งบ่อยๆๆน่ะค่ะ ดีใจมาก และตอนนี้รู้ทางเข้าแล้ว ขอบคุณอาจารย์มากๆๆจริงๆๆค่ะดีใจที่ได้เจออาจารย์
     
  3. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953


    อาจารย์คะเช้านี้หนูนั่งได้ชั่วโมง สิ่งที่เกิดคือหนูเหมือนแยกตัวกับร่างกายนี้ได้ เหมือนหนูรู้สึกไม่มีร่างกายนี้เลย แต่กับมีแต่ปิติสุขมาก ไม่เห็นอะไร รู้แต่ว่ามันไม่มีกายนี้ เบาๆ บอกไม่ถูก แต่มันสุขมาก สักพักถึงจะมีการสั่นของร่างกาย อาจารย์ช่วยบอกได้ไหมคะ ว่ามันคืออะไร แต่หนูสุขเหลือเกิน

    ...ฌาน เป็นการเสวยสุข..............


    ตอนแรกก่อนนั่งหนูไปไม่ได้เพราะบ้างทีภาพไรต่างๆมันขึ้นมาจนคำภาวนาหนูหายไปรู้สติก็มาภาวนาใหม่ คราวนี้หนูคิดว่ามันไม่ใช่แล้วหนูเลยเอาใจจดจอแต่คำภาวนา กลับไปสักพักมันเกิดความมืดๆๆ แล้วก็เพิ่งมารู้ตัวว่า ทำไมเราไม่มีลมหายใจ ทำไมเราเหมือนไม่มีร่างกายไม่เจ็บไม่ชาไรเลย พอสักพักมันก็มีปิติสุขขึ้นมา หนูงงจนแยก แล้วร่างกายเนื้อตัวมันก็เต้นๆๆๆ สั่นๆๆๆ ถึงลืมตาน่ะคะ่[/QUOTE]


    ....อุปจาระสมาธิ....

    1. เมื่อจิตเลื่อนระดับถึงอุปจาระสมาธิ เมื่อนั้นจิตจะเป็นทิพย์ จะสามารถสัมผัส รับรู้ สิ่งต่าง ๆ ได้ ถ้าหากว่า เห็นภาพต่าง ๆ รับรู้ รับทราบสิ่งต่าง ๆ แต่คล้าย ๆ กับว่า ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร คือ จับประเด็นอะไรไม่รู้เรื่อง คุยกันไม่เข้าใจ แวบ ๆ หายไป แสดงว่าเป็นอุปปาทาน (ไม่ใช่ของจริง) และกำหนดไม่ได้ ถึงเป็นของจริง ก็กำหนดในการสัมผัส รับรู้ รับทราบไม่ได้ คือ ไม่มีความรู้ทางใจคล้ายตาทิพย์
    2. เมื่อจิตเลื่อนระดับถึงอุปจาระสมาธิ เมื่อนั้นจิตจะเป็นทิพย์ จะสามารถสัมผัส รับรู้ สิ่งต่าง ๆ ได้ ถ้าหากว่า เห็นภาพต่าง ๆ รับรู้ รับทราบสิ่งต่าง ๆ คุยกันรู้เรื่อง คือ อยากรู้ รู้ได้ อยากเห็น เห็นได้ แสดงว่าได้ทิพยจักขุญาณ นั่นเอง

    ....อนุโมทนาบุญ....
     
  4. เด็กน้อย...

    เด็กน้อย... สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +14
    อยากเรียนถามอาจารย์ สมิง สมิง สมิงครับ คือมีเรื่องสงสัยครับผม

    มองทะลุเปลือกตาคล้ายๆอีกตาหนึ่งมองและเห็นภาพได้ชัดเจนเหมือนลืมตาปกติ ก่อนจะเห็นเหมือนเราลืมตาแต่ไม่ใช่ตาปกติครับเป็นเหมือนอีกตาลืมและเห็นภาพ ผมก็ลองนึกดูนี้เราลืมตาป่าวก็เลยลองลืมตาปกติดูไม่ใช่ตาปกติครับที่ลืมเป็นอีกตา

    อันนี้คือไม่ใช่แบบข้างบนอันนี้เป็นลูกกลมๆถ้าจำไม่ผิดวิ่งจากหน้าอกขึ้นมาที่กลางหว่างคิ้ว(ลูกเล็กแล้วก็ค่อยใหญ่ขึ้นครับ) ในวงกลมก็เห็นภาพชันเจนครับเหมือนเราลืมตาแต่ภาพจะอยู่ในวงกลมเหมือนจะทะลุออกผมตกใจก็เลยหายแวบทรงอารมณ์ไว้ไม่อยู่

    แล้วตาทิพย์กับตาที่สามเหมือนกันไหมครับ

    กราบขอบพระคุณในความกรุณาที่ได้เมตตาตอบครับผม _/\_
     
  5. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953
    อยากเรียนถามอาจารย์ สมิง สมิง สมิงครับ คือมีเรื่องสงสัยครับผม

    มองทะลุเปลือกตาคล้ายๆอีกตาหนึ่งมองและเห็นภาพได้ชัดเจนเหมือนลืมตาปกติ ก่อนจะเห็นเหมือนเราลืมตาแต่ไม่ใช่ตาปกติครับเป็นเหมือนอีกตาลืมและเห็นภาพ ผมก็ลองนึกดูนี้เราลืมตาป่าวก็เลยลองลืมตาปกติดูไม่ใช่ตาปกติครับที่ลืมเป็นอีกตา

    ...พอจิตเราเริ่มสงบระดับหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องถึงทิพยจักขุญาณก็ได้ในด้านของกำลังจิต แต่ว่า จิตมันก็ทรงอารมณ์ของความเป็นทิพย์ได้โดยปกติ เมื่อจิตทรงอารมณ์ของความเป็นทิพย์ได้เช่น นี้ เพียงหลับตา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตา ก็สามารถจะเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ เหมือนลืมตา จนแปลกใจ ว่า เอ๊ะ ตกลงเราลืมตาอยู่ หรือ เราหลับตากันแน่ ....เป็นได้เหมือนกัน...........

    แล้วตาทิพย์กับตาที่สามเหมือนกันไหมครับ

    ...เหมือนกัน ทิพยจักขุญาณ, ตาทิพย์, ตาที่สาม, มีความรู้
    ทางใจคล้ายตาทิพย์, แต่ว่าไม่ใช่ลูกตาเป็นทิพย์......

    ....อนุโมทนาบุญ......
     
  6. เด็กน้อย...

    เด็กน้อย... สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +14
    คือผมเข้าใจถูกไหมครับว่าเมื่อทรงอารมณ์นั้นได้...ผมก็จะเห็น แต่เป็นการใช้ญาณบารมีของท่านที่เมตตาดูแลผมอยู่

    กราบขอบพระคุณครับผม _/\_
     
  7. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953

    ...ตาทิพย์ของเราสิครับ....
     
  8. เด็กน้อย...

    เด็กน้อย... สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +14
    :) ขอบพระคุณอาจารย์ ครับ
    หายสงสัยแล้วครับผม
    _/\_
     
  9. tunyaluck

    tunyaluck สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2015
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +45

    ....อุปจาระสมาธิ....

    1. เมื่อจิตเลื่อนระดับถึงอุปจาระสมาธิ เมื่อนั้นจิตจะเป็นทิพย์ จะสามารถสัมผัส รับรู้ สิ่งต่าง ๆ ได้ ถ้าหากว่า เห็นภาพต่าง ๆ รับรู้ รับทราบสิ่งต่าง ๆ แต่คล้าย ๆ กับว่า ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร คือ จับประเด็นอะไรไม่รู้เรื่อง คุยกันไม่เข้าใจ แวบ ๆ หายไป แสดงว่าเป็นอุปปาทาน (ไม่ใช่ของจริง) และกำหนดไม่ได้ ถึงเป็นของจริง ก็กำหนดในการสัมผัส รับรู้ รับทราบไม่ได้ คือ ไม่มีความรู้ทางใจคล้ายตาทิพย์
    2. เมื่อจิตเลื่อนระดับถึงอุปจาระสมาธิ เมื่อนั้นจิตจะเป็นทิพย์ จะสามารถสัมผัส รับรู้ สิ่งต่าง ๆ ได้ ถ้าหากว่า เห็นภาพต่าง ๆ รับรู้ รับทราบสิ่งต่าง ๆ คุยกันรู้เรื่อง คือ อยากรู้ รู้ได้ อยากเห็น เห็นได้ แสดงว่าได้ทิพยจักขุญาณ นั่นเอง

    ....อนุโมทนาบุญ....
    [/QUOTE]


    ขอบคุณค่ะ สงสัยต้องฝึกอีกเยอะเลย กลัวหลงทางจังค่ะ
     
  10. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953
    ....การเกิดขึ้นของสมาธิ....
    1. ขณิกะสมาธิ
    ....1.1 ร่วมเล็กน้อย
    ....1.2 จิตสัมผัสกับกายละเอียดบ้าง
    ....1.3 จิตยังไม่เป็นทิพย์
    ....1.4 ควบคุมกายทิพย์ไม่ได้
    ....1.5 ทำอภิญญาฤทธิ์ อภิญญาญาณไม่ได้
    2. อุปจาระสมาธิ
    ....2.1 รวมมากหลายชั่วโมง
    ....2.2 จิตสัมผัสกับกายละเอียดมากขึ้น
    ....2.3 จิตเป็นทิพย์
    ....2.4 ควบคุมกายทิพย์ได้เล็กน้อย
    ....2.5 ทำอภิญญาญาณ ได้
    3. อัปปนาสมาธิ
    ....3.1 รวมมากเป็นวันถึงหลายวัน
    ....3.2 จิตสัมผัสกับกายละเอียดมากที่สุด
    ....3.3 จิตเป็นทิพย์
    ....3.4 ควบคุมกายทิพย์ได้
    ....3.5 ทำอภิญญาฤทธิ์ อภิญญาญาณได้

    .......................ฯลฯ...........................

    .....อนุโมทนาบุญ.......
     
  11. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953
    ....สมาบัติ ๘ .........
    ...รูปฌาน ๔ .....
    1. เข้าฌาน มี สติ
    2. รู้สึกตัวภายนอก
    3. เกิดพลังจิต

    ...อรูปฌาน ๔...
    1. เข้าฌานมีสติ
    2. ไม่รู้สึกตัวภายนอก
    3. สูญเสียพลังจิต

    ......อนุโมทนาบุญ......
     
  12. tunyaluck

    tunyaluck สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2015
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +45
    อาจารย์ค่ะ ฌานนี้ไม่ได้ทำให้เราหลุดพ้นใช่ไหมค่ะ หนูรู้สึกติดในฌาน หมายถึงว่า เวลานั่งสมาธิจะนึกถึงว่าอยากจะได้ฌานอีก ทั้งทีบ้างทีตัวเราจากเดิมที่มีภาพเยอะเข้ามา รู้สึกจิตละเอียดขึ้น บ้างทีนั่งได้สักพัก จะมีเพียงแต่สัมผัสได้ที่มือที่ประสานกับลมหายใจ แต่ก็เข้าไปไมไ่ด้ หนูต้องไม่ยึดติดใช่ไหมค่ะ มีวิธีแนวทางอย่างไรกับการแบบนี้ อาจารย์ สอนหนูหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  13. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953


    ....การปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น....

    1. สมถยานิก คือ การปฏิบัติสมาธิให้ได้ฌานก่อน พอได้ฌานก็เกิดญาณ เกิด อภิญญา แล้วค่อยเจริญวิปัสนา เพื่อให้ถึงความหลุดพ้นนั่นเอง (วิชชา ๓, อภิญญา ๖, ปฏิสัมภิทาญาณ)
    2. วิปัสสนายานิก คือ การปฏิบัติที่เน้นวิปัสสนามากเป็นพิเศษตั้งแต่เริ่มต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คุมสมาธิไปในตัว แต่ไม่ได้ต้องการฌานสูงอะไร หรือไปรู้โน่น เห็นนี่ มีฤทธิ์เดชอะไรมากมาย ขอให้จิตถึงความบริสุทธิ์เป็นหลักสำคัญ ปฏิบัติจนกระทั่ง สติ สมาธิ ปัญญา แก่รอบ ถึงฌานจิตโดยอัตตโนมัติ สามารถถึงความหลุดพ้นได้ (สุกขวิปัสโก)

    ....การติดสุขในฌาน ความสุขุมลุ่มลึกละเอียดอ่อนคัมภีรภาพ ความสุขทางใจที่เกิดจากความสงบจากจิตที่ฝึกได้แล้ว ส่วนมากจะติดกันทุกคน แต่ว่าก็ต้องพิจารณาให้รู้ ให้เห็นว่า ฌาน เกิดได้ มีได้ เสื่อมได้ เพราะสัพพะสิ่งทั้งหลายล้วนไม่เที่ยง เป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์ ฉนั้น ควรปล่อยวางไม่หลงไม่ติดจนเกินไป...เพราะมันจะไม่ได้อะไรเลย....เราต้องเจริญวิปัสสนา เพื่อความหลุดพ้น เมื่อเราเจริญสมถะจนได้กำลังจิตถึงสิ่งที่เราต้องการแล้ว (ย้อนไปดู อรหันต์ ๔ สาย ในกระทู้นี้).....ทำให้เป็นวสี แล้วจะเกิดญาณบารมี อินทรีย์แก่ แกล้าในที่สุด สามารถบรรลุธรรมได้เมื่อถึงเวลา...................

    ....อนุโมทนาบุญ......
     
  14. tunyaluck

    tunyaluck สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2015
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +45
    ขอบคุณค่ะอาจารย์ หนูต้องเปลี่ยนแนวทางแล้ว ต้องเรียนรู้เยอะมากเลย
     
  15. tsplw

    tsplw สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +24
    สวัสดีครับอาจารย์ สมิง สมิง สมิง รบกวน ดุูให้ทีครับว่าควรฝึกแบบไหน ถึงจะเหมาะสมกับตัวเอง ขอบคุณมากครับ
     
  16. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953

    ...เข้าหาครูบาอาจารย์เป็นดีครับ...

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
  17. tsplw

    tsplw สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +24
    พอมีครูบาอาจารย์ท่านไหน หรือสายไหน แนะนำไหมครับ :)
     
  18. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953

    ...ตามจริต ครับ....

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
  19. นะ จัง งัง

    นะ จัง งัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +178
    ถามหน่อยสิครับ
    เมื่อประมาณกลางเดือนคิดไว้แล้วว่าถ้าไม่เก็บไฟล์นี้ไว้ดีๆระวังทำงานมีปัญหา พอมาถึงวันนี้งานดันมีปัญหาจริงๆ เพราะเราไม่ได้เก็บไฟล์บางอย่างเอาไว้ อาการแบบนี้เค้าเรียกว่าพรายกระซิบหรือว่าลางสังหรณ์แบบซิกเซ้นที่เรามีอยู่ นะ
     
  20. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +953
    ....ถ้าในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชีวิตส่วนตัวต่าง ๆ งาน ครอบครัว หรือ แม้กระทั่งเรื่องราวของคนอื่นก็ตามที...ถ้าหากว่า มีอะไรบางอย่าง ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต...ซึ่งอาจเป็นเรื่องของงาน หรือ สิ่งต่าง ๆ ใด ๆ ก็ตามเป็นเรา หรือ คนรอบข้าง.....เช่นที่ คุณบอกว่า " เมื่อประมาณกลางเดือนคิดไว้แล้วว่าถ้าไม่เก็บไฟล์นี้ไว้ดีๆระวังทำงานมีปัญหา พอมาถึงวันนี้งานดันมีปัญหาจริงๆ เพราะเราไม่ได้เก็บไฟล์บางอย่างเอาไว้ "

    ...อาจเกิดจาก....
    1. ญาณอ่อน ๆ เปรียบเทียบเฉย ๆ ว่าเป็นญาณอ่อน ๆ จริงๆ แล้ว มันคือ ญาณของเก่าที่ติดตัวมานั่นเอง เช่น คิดว่า (เหมือนรู้สึก) แล้วมันก็เป็นจริง, และ ฝัน แล้ว มันก็จริง เป็นต้น (คาดการณ์ได้แม่น)
    2. ถ้าคนมีจิตสัมผัส ก็จะไม่สงสัย (เพราะจิตมันสัมผัสรู้สึกได้ว่า) เพื่อรู้สึกว่า " งานนี้ต้องเก็บ เพราะจะมีปัญหา เขาจะรู้สึกขึ้นมาเลย เหมือนมันถูกดึงความรู้สึกออกมาจากใต้จิตสำนึก" ให้รู้สึกนั่นเอง
    3. ถ้าคนมีทิพยจักขุญาณ อาจเป็นภาพแว๊บ ๆ หรือ มีเสียงเตือน ก็เป็นได้
    4. ถ้าคนมีอนาคตังสญาณ (เด่นชัด) หมายถึงญาณกำหนดรู้อนาคต ก็อาจจะแตกต่างไปอีก

    ...อนุโมทนาบุญ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...