การฝึกสมาธิที่ถูกต้องตามหลัก พุทธวจน..

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เราโตมาคนละแบบ, 7 มีนาคม 2017.

  1. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :p พี่ขาจอน..ไม่ใช่ไม่ชอบ และไม่ได้กล่าวร้าย อุตส่าห์เกริ่นไว้ให้ฟังแล้วว่า ยกท่านไว้แต่แรกแล้วว่าเราวิจารณ์ธรรม ไม่วิจารณ์องค์ท่าน..อย่าศรัทธานำตัวบุคคล จนไม่ยอมคิดตามเหตุ-ปัจจัย-ตำราแผนที่- จนกล่าวหาคนอื่นและปิดบังความคิดคนอื่นซิครับ
    ส่วนเรื่อง พิจราณากาย ก็คือการพิจราณาลมหายใจ มันต่างกันตรงไหนครับ ผลที่ได้ นะครับ ต่างกันตรงที่จะยกจิตขึ้น วิปัสสนา ยังไงครับ ทำเป็นไหมครับ..
    เจโตวิมุตติ แค่กดข่มราคะได้เท่านั้น-ผมถามต่อนะครับ สามารถเสื่อมได้ไหมครับ เจโตวิมึุตตินี่ ผมไม่เคยเห็นมีใครชี้ชัดว่าละราคะได้แล้วบรรลุธรรมขั้นไหน อนาคามีก็ละราคะได้ครับ แต่ยังมาเกิดอีก เห็นไหมครับ แสดงว่าอาจจะ อาจจะนะครับ เป็น หินทับหญ้า เท่านั้นครับ(ความเห็นส่วนตัว-ฟ้าเปิดแล้วครับ ใครกะลาแลนด์-ยึดติดตัวบุคคลมากไปก็ไม่ต้องตอบนะครับ)
     
  2. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ต้องขอบคุณเพื่อนสมาชิกในนี้ครับ ตบตีตีแผ่เป็นปัจจัยแก่กันจนได้เห็นตามความเป็นจริง ไม่ใช่ว่าใครจะผิดจะถูก ผิดถูกจริงๆยังเป็นเรื่องปรุงแต่งให้ค่า ความจริงคือ เมื่อไหร่ใครจะก้าวข้ามความเชื่อฝังรากลึกเดิมๆ ที่มีในตนเหล่านั้นไปได้ และเห็นตามความเป็นจริงจริงๆ สักที

    ที่มีในตนนะ ผมย้ำ ความเชื่อที่มีในตน ดังนั้นครูบาอาจารย์จะสอนผิดสอนถูกยังไงก็ต้องทันความเชื่อที่มีในตนอยู่ดี แม้องค์สมเด็จพระบรมครูเองก็ยังทรงสรรเสริญการไม่เชื่อพระองค์ในทันที ให้พิสูจน์ให้เห็นจริงก่อน คำสอนของพระพุทธองค์สอนให้ไปพิสูจน์ ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้ทาง ให้ไปปฏิบัติ โฟกัสให้ตรงจุด ก็จะเกิดคุณแก่การภาวนาเอง
     
  3. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    เนี่ย..คุณเริ่มเอาการยึดติดตัวบุคคลมาดิสเครดิต-คนอื่นแล้วครับ ใจเย็นๆครับ ผมเองทำใจไว้แล้วครับ แต่ต้องมีโต้กลับมั่งหากคุณไม่สุภาพ ผมฟังแล้วใช้ พุทธวจน-ตำรา-แผนที่-การปฏิบัติ ของผมเล้กน้อยเข้าจับ
    :mad:จึงมีข้อสงสัยถามได้ใจความด้วยคุณ อ้างแต่นามธรรม-สอนคนแบบไหน-ควรสอน-แล้วไงครับ ตอบผมให้ได้ซิครับ ท่านไม่กล่าวถึงวงจรปฏิจจสมุปบาท เลยใช่ไหมครับ ที่ผมพูดถูกต้องไหมครับ ผมถามใช่ไหม ที่ผมโพสต์ ไม่ใช่คุณมาคิดแทนท่าน เอาเฉพาะในซีดีที่ท่านบรรลุธรรมบนยอดดอยธรรมเจดีย์ นั่นแหละครับ คุณต้องอย่ามาตอบแทนท่านหมดนะคัรบ นั้นมันศรัทธานำปัญญาหมดครับ
     
  4. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :rolleyes::eek:ก็จริงของท่าน แต่เรามาสนทนาธรรมกันไม่ใช่รึครับ ไม่ได้มาเถียงเอาแพ้-ชนะกัน เอาเหตุผล มาคิดวิเคราะห์เป็นแผนที่ให้ตรงกับ พุทธวจน ยังไงครับ ผมนะทำใจไว้แล้วว่าต้องโดนเล่นงานหนักบางคนก็เริ่มด่าแล้ว เพราะยึดติดตัวบุคคลมากไป ทิ้ง พุทธวจนไปเลย เฮ้ออออ เหนื่อนะครับ สาธุ
     
  5. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ครับ สายพระป่า ล้วนสอนให้ใช้สมาธินำปัญญาทั้งสิ้น แล้วสุดท้ายคือ ให้ข้ามเวทนา อดนอน-ผ่อนอาหาร-นั่งสมาธิยันรุ่งสว่าง..นี่คือสายพระป่าคัรบ สมาธินำปัญญา..
    :pไม่ให้คิดให้วางตำรา-ลงบนหิ้งให้หมด แล้วฝึกสมาธิอย่างเดียว-ศิลจึงสำคัญมากสำหรับคนเริ่มลงมือปฏิบัติ หากศิลไม่บริสุทธิ์ ระหว่างฝึกสมาธิ จะเพี้ยนหมดครับ
    :p:rolleyes:แต่สาย พุทธวจน ให้สั่งสมสุตตะ-ปริยัติ-เอาข้อมูลที่สั่งสมมาคิดวิเคราะห์ ก่อนลงมือฝึกสมาธิ หรือปฏิบัติตนให้หลุดพ้นครับ
     
  6. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +470
    ผมก็กล่าวกันไว้ก่อน ไม่ให้ประมาท

    เรื่องพิจารณากายของพระป่า แล้วมันเป็นปัญญายังไง
    ถ้าอยากรู้ก็ถามสหธรรมิกท่านอื่นดู ผมก็ไม่ได้ปฏิบัติแบบนั้น อาศัยฟังมา บอกไปเดี๋ยวเฝือ

    สัทธาวิมุติที่นี้เอาแค่เรื่องมรรควิธีในการละตัณหา ยกผลไว้ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ใช้บริหารจัดการเอง ไม่ใช่ต้องอย่างนี้เท่านั้น
     
  7. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ครับ โดนข้อหาดิสเครดิต แล้วเรา นั้นขออภัย

    เอาเถิดคุณชอบยกวงจรปฏิจจ มาขอให้พิจรณาให้ครบวงจรของพระสูตรนะครับ
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เส้นทางสายน้ำใหลลงทะเลหลวงมันมีหลายสาย

    เส้นทางชาวพุทธ ก็เหมือนกัน ค่อยๆใหลไป สู่วิมุตติ
     
  9. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....ขอบคุณครับ ผมเห็นด้วยกับคำอธิบายแรก

    .....คำอธิบายหลัง อยากถามต่อ ถ้ามีเวลาก็ขอคำตอบครับ
    .....คำตอบที่ว่า "การฝึกเห็นการเกิดดับ คือ เป็นการใช้ "สมาธิ"..เฝ้าดูจิต ที่จะส่งออกไปทาง อายตนะ6 เพื่อผัสสะ-กับอารมณ์ภายนอก ใดๆแล้วทำให้เกิด ภพ-ชาติ-ชราฯล วงจรปฏิจจสมุปบาททำงานครับ-"

    ......ผมเคยฝึกดูจิตมาก่อน ผมสามารถ ทำได้ในระดับหนึ่ง เช่น เมื่อจิตมีการเปลี่ยนแปลง เช่นเกิดโมหะ(ใจลอย) จิตเกิดโลภะ(ความอยากได้โน้นได้นี้ อยากพูดก็ใช่) จิตเกิดโทสะ (เกิดความโกรธ เป็นต้น ผมสามารถ ฝึกให้สติเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติได้ แต่ก็ไม่ตลอด เพราะยังคงไม่ถึงขั้น ต้องมี ลมหายใจเป็นที่เกาะเป็นบางครั้ง ก็สามรถเห็นจิตมันเปลี่ยนตลอดแหละ ตามตำรานักดูจิตเป๊ะเลย

    ....อย่างที่ท่านดุจิต ท่านทำอย่างผมหรือเปล่า

    .....ที่ว่าเฝ้าดูจิตที่ส่งไปตาม อายาตนะ 6 นั้น หมายถึงอายตนะภายนอกกระทบภายในใช่หรือไม่ คือ ตากระทบรูป หูกระทบเสีย จมูกกระทบกลิ่น......แล้วมีการรับรู้ด้วย จักษุวิญญาณ รับรู้ด้วยโสตะวิญญาณ ด้วยฆานะวิญญาณ ......เป็นต้น

    .....เมื่อรับรู้ด้วยตา หูจมูก ลิ้น กาย ก็จะส่งผลให้ ใจ(มโนวิญญาณ)รับรู้ด้วยทุกครั้ง เพราะมันเป็นทางผ่าน
    .....การเกิดดับที่ว่า คือจิต จะเฝ้าดูว่า ยกตัวอย่างนะ เช่นเห็นด้วยตา ก็จะเห็นการเกิดดับที่ตา จิตจะเห็นการเกิดดับของจักษุวิญญาน อย่างนั้นหรือครับ

    .....ส่วนคำว่าสมาธิ ท่านหมายถึงสิ่งได จิตที่เป็นสมาธิ คือจิตที่มีสติอยู่กับสิ่งไดสิ่งหนี่งที่เรียกว่า เอกคตาจิต เช่นการเพ่งกสิณ ก็จะมีสติจับอยู่ที่ภาพวงกลมที่ระลึกได้ การทำอานาปานสติ ก็จะมีสติ ที่ลมกระทบเข้าออก ในส่วนที่ท่านเอาจิตที่เป็นสมาธิ ท่านเอาสติส่วนใหนมาเป็นตัวกำหนด เป็นตัวสติจับอยู่

    ......ท่านเข้าใจว่า การบรรลุธรรม ในแนวดูจิตนี้ จะเกิดอะไรขึ้น เช่น เมื่อเห็นการเกิดดับแล้ว ตัวจิตจะเข้าสู่นิพพาน กลายเป็น นิพพานธาตุหรือไม่

    .....ท่านคิดว่าตัวผุ้รุ้มีแต่จิตใช่หรือไม่

    ......ถามมากไป ขอโทษด้วย ถ้าตอบก็ขอบคุณ ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร ผมอยากรู้ว่านักดูจิตเขามีชีวิตเป็นอย่างไรครับ
     
  10. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เห
     
  11. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    การบอกว่าพระป่าใช้สมาธินำปัญญา ผมว่าเป็นการกล่าวหานะ เพราะท่านครูบาอาจารย์มั่นเคยเทศน์ ใช้ปัญญาอบรมสมาธิ และลูกศิษย์ท่านหลายองค์ก็เรียนปริยัติมา จนถึงมหาเปรียญก็เป็นลูกศิษย์ท่าน ต่อให้สั่งสมสุตตะ ปริยัติ คิด-วิเคราห์-แยกแยะ ก็ยังต้องพึ่งครูบาอาจารย์ที่ท่านพ้นแล้ว ศีลต้องบริสุทธิ์ อย่าได้ไปดูถูกกิเลส เรื่องแบ่งสายอ้างคำพูดพระพุทธเจ้าเนี้ย พุทธวจน ผมเห็นเป็นคำพูดโก้ๆของคนอยากดังอยากตั้งสำนักมากกว่า เอาคำพูดพระพุทธเจ้ามาหากิน ที่เขาว่าของจริงนิ่งเป็นใบ้ ที่พูดได้มักไม่จริง..
     
  12. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :rolleyes:วันที่หลวงตามหาบัว ไปหาหลวงปู่มั่น..ท่านบอกให้หลวงตาที่จบเปรียญ3 ประโยคว่า ท่านมหา ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจากตำรา ให้วางตำราลงหรือยกไว้บนหิ้งก่อน ไปหาอ่านเอาเองนะครับ
     
  13. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :eek::confused::p เรื่องสติกับสมาธิ หากคุณมีสัมมาสมาธิ สติกับสมาธิ เขาเกิดด้วยกันพร้อมกัน ในพุทธศาสนา เขาเอื้อกันเกิด อัญญะมัยญะ อะไรนี่(บาลี)..หากคุณเกิดสติสมาธิแล้ว นิวรณ์5 โลภ-โกรธ-หลง คุณจะเห็นกระพลังกระเพื่อมมาแต่ไกลที่กลางอก จิตคุณจะตัดฉับ ความทุกข์เหล่านั้นจะมาไม่ถึงจิตคุณเลย นี่คือ สติสมาธิ ของพระป่าทางสมถะ ภาวนา-หลวงปู่ดูลย์ ที่ถูกต้อง และได้ผล100 เปอร์เซ็ฯต์
    :mad:ดูจิต ของปราโมชโชใ. นั่นมันลวงโลกครับ-สติแบบสมถะ ของวพระป่าท่านเปรียบเสมือน หมาเฝ้าบ้าน เห็นโขมย(ทุกข์-นิวรณ์5) จะเห่าไล่ไปทันทีเข้าบ้านไมไ่ด้เลย(ทุกข์เข้าไม่ถึงจิต) ..ดูจิต ของปราโมชโช..ขโมย เข้าบ้านมาแล้ว ทุกข์ไปแล้วจึงมาไล่..
    :(:mad::pคนที่ไม่เคย ทรงสมาธิหรือ ได้สมาธิเลย จะไม่เข้าใจที่ผมโพสต์เพราะพวกเขาขาดประสบการณ์ครับ-อย่าถามว่าผมมีประสบการณ์ไหมนะครับ อ่านดูเอาเองคัรบ

    :mad: คำถาม-.....การเกิดดับที่ว่า คือจิต จะเฝ้าดูว่า ยกตัวอย่างนะ เช่นเห็นด้วยตา ก็จะเห็นการเกิดดับที่ตา จิตจะเห็นการเกิดดับของจักษุวิญญาน อย่างนั้นหรือครับ
    :p ใช่ครับ-จิตรับได้ทีละอารมณ์ วิญญาณในขันธ์5 จะมาทำหน้าที่ในสฬายตนะทั้ง6(ผมเข้าใจเอง) ผลัดกันวิ่งออกไปรับรู้ตามช่องทางทีละช่อง ตา หู จมูกฯล ..อ่านตรงนี้ดีๆครับ ธรรมชาติของ จิต จะเสพหรือรับได้ทีละอารมณ์-ธรรมชาติของจิตจะไม่อยู่นิ่ง หากเราจับลมอยู่ จิตจะหลุดไปเสพอารมณ์อื่นเสมอๆ การไป นี่เรียกว่า "เกิด" เราก็พยายามดึงจิตกลับมาที่ลม การมา นี่เรียกว่า "ดับ" ภพที่จะเกิดตามวงจรปฏิจจสมุปบาท ก็ไม่มี วงจรก็ดับครับ
    :eek: คำถาม -
    .....ส่วนคำว่าสมาธิ ท่านหมายถึงสิ่งได จิตที่เป็นสมาธิ คือจิตที่มีสติอยู่กับสิ่งไดสิ่งหนี่งที่เรียกว่า เอกคตาจิต เช่นการเพ่งกสิณ ก็จะมีสติจับอยู่ที่ภาพวงกลมที่ระลึกได้ การทำอานาปานสติ ก็จะมีสติ ที่ลมกระทบเข้าออก ในส่วนที่ท่านเอาจิตที่เป็นสมาธิ ท่านเอาสติส่วนใหนมาเป็นตัวกำหนด เป็นตัวสติจับอยู่
    ตอบ.-สัมมาสมาธิ สติกับสมาธิ เขาเกิดร่วมกันครับ ไม่มีแยกกัน สติจะเป็นมหาสติได้ก็ต้องอาศัย สมาธิเป็นตัวเชื่อม..อ่านตรงนี้ดีๆครับมองให้เป็นภาคปฏิบัติจริงๆจะเข้าใจง่าย มหาสติ-สมาธิ..ไม่ใช่สมาธิของพวก ฤษี ชี ไพร ในครั้งพุทธกาล ไม่มีสติในสมาธิครับ นั่นไม่ใช่ "สัมมาสมาธิ" ครับ
    :eek:ถาม-......ท่านเข้าใจว่า การบรรลุธรรม ในแนวดูจิตนี้ จะเกิดอะไรขึ้น เช่น เมื่อเห็นการเกิดดับแล้ว ตัวจิตจะเข้าสู่นิพพาน กลายเป็น นิพพานธาตุหรือไม่
    :p ตอบ.-สัตตานัง-คือผู้ยึดติด หรือสัตว์สิ่งหนึ่ง ที่โคจรมายึดเกาะขันธ์5 รูป-เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ เสมอ..การยึดติดนี้ทำให้เกิด ว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา การที่เราเฝ้าดูจิต เกิด-ดับ ได้ทันตามวงจรปฏิจจสมุปบาท การเกิด -ภพ -ชาติ-ชรา มรณะ ก็ไม่มี จิตไม่มีอารมณ์ใดมาเสพ-ก็ไม่เกิดการสร้างภพขึ้นมา ที่ใดที่ปราศจากอารมณ์ให้จิตเกาะ ที่นั้นคือ นิพพาน พุทธวจน(ท่านพุทธทาส)
     
  14. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :mad::p คุณกล่าวหาผมว่าผมเข้าใจผิด-นั่นเพราะคุณยึดติดตัวบุคคลและสายปฏิบัติ มากไป แต่ไม่เป็นไรครับ ..
    :p ที่คุณสื่อมาทั้งหมดนะครับ-ถูกมั่ง-ขาด-เกินมั่ง-ปนเปกันไปหมด แต่ก็ตรงกันซะส่วนใหญ่ในข้อเท็จจริง ที่ผมโพสต์มา-คุณอ่านให้ถ้วนทั่วก่อนตอบซิครับ-อย่าตีความเอาเอง มันไม่ละเอียดครับ ใช่ครับต้องเกิดสมาธิก่อน..แต่คุณเข้าใจสมาธิแค่ไหนครับ สัมมาสมาธิ สติ-สมาธิเขาจะเกิดพร้อมกันครับ
    :mad:การที่จิตเกิดสัมมาสมาธิ ใช่ว่าคุณจะเกิดปัญญาหากคุณ ทำวิปัสสนาไม่เป็น และไม่เอาสมาธิ-สติ นี้ไปเรียนรู้ตำรา ปริยัติ ก่อนลงมือปฏิบัติ..คุณดูพระเวียดนาม ติชนัธฮัน-หลวงพ่อเทียน .สองคนนี้เกิดสติแบบที่เรียกอย่างอลังการณ์ว่า "ปาฏิหารย์แห่งการตื่น"..แต่ทำไม ทั้งสองคนนี้ไม่บรรลุธรรม ติธนัธฮัน ไปสร้างวงดนตรี-ทีมฟุตบอล นั่นไหลลงสู่กามฉันทะทางโลก หลวงพ่อเทียน-ไม่เคยกล่าวถึง วงจรปฏิจจสมุปบาทเลย หนังสือสักตัวท่านก็อ่านไม่ออก ท่านไปแยกสติ-จากมรรคมีองคื8 มาสอนแล้วเข้าใจเองว่าสติทำให้หลุดพ้น..
    :p ศาสนาพุทธ ของเราหลุดพ้นด้วยปัญญานะคัรบ ไม่ใช่สติ-สมาธิ แต่ สติ-สมาธิ คือพื้นฐานในการวิปัสสนาให้เกิดปัญญา ทางพุทธศาสนา (นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ที่ผมศึกษามา-ไม่ด่ากันนะครับ เพราะผมเดินปัญญาตำรา-แผนที่ทางพุทธวจน-ไม่ยอมเดินตามความเชื่อในตัวบุคคล-ผมจะเรียนรู้เอง-ผมไม่เชื่อใครอีกแล้วนอกจาก พุทธวจน ครับ)
     
  15. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :p ดูคุณสะเปะ-สะปะ ในข้อมูลไปหน่อยนะครับ เรียบเรียงดีๆ หากคุณยังคุยถึงคำพูดสาวก-กับธรรมจากพระโอษฐ์ แสดงว่าคุณตกข่าวแบบไม่น่าคุย ทำเป็นไม่เข้าใจ
    :pพระไตรปิฏก ฉบับ มหามงกุฏ-ฉบับมหาจุฬา..แต่ง-แปลมา-ถูกต้องไหมครับ เพราะบรรจุ พุทธวจน ไว้ทั้งสองเล่ม ผมว่าคุณไปหาข้อมูลมามากๆก่อนมาสนทนาจะดีมากครับ ถ้าพุทธวจน ในพระไตรปิฏก ทั้ง2 ฉบับ นี้ถูก พุทธวจน ที่ อจ.คึกฤทธิ์ยกมาก็ถูกต้องด้วย เพราะท่าน ยกมาทั้งกะบิ-เอามาจากพระไตรปิฏก ทั้งสองฉบับนี้ เพียงตัด อรรถกถา ที่แปลเอง-พระที่แปลใส่ความเห็นเอง ออกหมดเท่านั้น ไม่มีเสริมเติมแต่งใดๆเลยครับ ไปหาข้อมูลมาให้ชัดเจนครับ แล้วมาโต้กันจะได้ความรู้ทั้งสองฝ่าย สาธุ
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พระพุทธองค์ ตรัสไว้

    คำใด เป็นอุบาย อบรมจิต ขจัดกิเลส เป็นไปเพื่อการสิ้นภพ สิ้นชาติ เพื่อนิพพาน

    คำเหล่านั้น จะเป็น คำตถาคต ทั้งหมด


    ถ้า คุณมาเสวนาธรรม ด้วยอาการ ตรรกศาตร์ จับ ศัพท์เป็นคำๆ จับอาการ
    เป็นบางอาการ เช่น

    ถ้า คุณสอนลูก ให้ จำคำของคุณไว้

    เวลา ลูกคุณพูด คุณ เห็นเป็น คำของลูก หรือ คำของคุณ

    ถ้า ถกกันแบบ ตรรกศาตร์ แบบที่ คุณกำลังทำ คุณก็ประเคนเปรี้ยงใส่ ลูกได้เลย
    ว่าทำไม ไม่ทรงจำคำของคุณไว้ จะพูดออกมา ทำเฮีย อะไร เพราะ พอลูกพูด
    ปั๊ป คุณเห็นว่า เป็นคำของลูก ล้วนๆ


    ธรรมะดัดจริต ไม่ซื่อตรงต่อธรรม จะ อ้างรู้เห็นธรรม ปฏิบัติธรรม ไปทำเฮีย !! อะไร
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กลุ่ม พุทธวจน ที่เป็น กลุ่มพระ เป็นการ สานต่องาน ของท่านพุทธทาส

    เขาแค่ วางกรอบ กติกา ที่จะ คัดให้เหลือเพียง คำที่สืบได้ว่า เป็นคำตรง
    ทรงจำมาจาก ตถาคต ตรงๆ

    เขาก็แค่วางกรอบ วางกติกา เอาไว้ เพื่อ สร้างหนังสือ มาเล่มนึง ทำต่อ
    จากท่านพุทธทาส ที่คัดกรองให้แล้วบางส่วน

    เขาไม่ได้ทำเพื่อ บอกว่า สาวกสอนคนถึงนิพพานไม่ได้ เขาไม่ได้ปฏิเสธแบบนั้น

    พวก ปัญญาอ่อน เก่งกระเด้ง พอเขาพูดแค่นั้น ก็ดัน ยัดข้อหา

    หาว่า เขาปฏิเสธว่าสาวกสอนถึง พระนิพพานไม่ได้

    เรียกว่า จริงๆแล้ว แสดงความปัญญาอ่อน ขาดสามัญสำนึก ตัวเองพร่อง
    เองทางสามัญสำนึก ไม่มีใครเขาจะคิดแบบนั้น ก็ดัน ยัดข้อหา เอาดื้อๆ

    ธรรมดัดจริต ไม่ซื่อตรงต่อธรรม จะ อ้างรู้เห็นธรรม ปฏิบัติธรรม ไปทำเฮีย !! อะไร
     
  18. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อย่าไปเข้าใจแบบนั้นเลยคุณ..จะเล่าอะไรให้ฟังนิดนึง โปรดทำความเข้าใจว่า ผมไม่คิดเกทับใคร เพราะนั่นมันเรื่องของเปลือกล้วนๆ เราจะไม่กระทบกระทั่งกันด้วยเรื่องแบบนั้นกันครับ

    เรื่องกระแสคลื่นพลังงานที่เกิดขึ้นตรงกลางอก เวลาเกิดแล้ว สติจะเกิดตาม รับรู้ตามความกระเพื่อมเบาแรง ณ จุดนั้น ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่า จิตเกิด (อาการ) ขึ้นแล้ว มีอยู่ สภาพธรรมรู้เร็วนี้เอง ทำให้ภาวะแห่งอารมณ์ไม่ทันเกิด หรือเข้าไม่ถึงตัวจิตเปล่าๆ ภายใน ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้เห็นจิตเปล่าๆ ผู้รู้ และอารมณ์แยกออกเป็นคนละส่วนกัน (เมื่อก่อนผมเรียกว่า มันไม่อินนะ) ความมั่นอกมั่นใจมันก็มาเลย มองโลกแง่ดี ตอนเห็นครั้งแรกนี่โอ้โห..หลงกันมานานแสนนานกี่แสนชาติแล้วนี่ ใจมันสะท้อนระลึกเห็นทุกข์เห็นโทษในความหลงตรงนั้น มันหลงมายาวนานนักหนา ผมเห็นคุณกลับมาโพสต์ใหม่ๆ เรื่องหลงมาหลายแสนชาติ คิดในใจคุณคงเจอสภาวะนี้เข้าแน่ๆ

    ภาวะไม่อินนี่สำหรับผม ปรากฏชัดอยู่สักอาทิตย์ จากนั้นจะเริ่มชินไปเอง (จริงๆ หากย้อนอ่านกระทู้เก่าๆ ที่ผมเคยโพสต์ อาจจะเจอ นานมากแล้ว) แต่มันได้หลักการกำหนดรู้เท่าทันจิตจะเกิดอาการมา จิตจะเกิดอาการ กล่าวแบบนี้คือ เมื่อเริ่มมีมวลก่อตัวที่กลางอกเล็กๆ จะรู้ทันก่อนจะขยายวงกว่านั้น แต่เมื่อมาพิจารณาทีหลัง นั่นก็จิตเกิดอาการแล้วถึงรู้ตาม ไม่ใช่รู้ก่อนเกิด เกิดแล้วถึงจะรู้ สติถึงจะทำงาน (แรงกระเพื่อมทำให้สติเกิด) กับไม่เกิดเลย ไม่เกิดเลยคือไม่ฝักใฝ่หมกมุ่น ไม่ติดใจนั่นแหละไม่เกิดเลย

    ลองว่ามีการสังขารขึ้นมาเมื่อไหร่ จิตเกิดแล้วทั้งนั้น แต่มันก็มี 2 กรณี หลงสังขาร จิตก่อตัว เพราะความหลงมีอวิชชา กับไม่ได้หลงแต่ตั้งใจจะใช้งาน ก็สังขารขึ้นมาใช้ (น่าจะเรียกว่าเป็นเพียงกิริยามากกว่า ไม่หลงบุญหลงบาปอะไร) อันนี้ผมแค่วิเคราะห์จากประสบการณ์ของตนๆ

    แต่ทั้งหมดนี้ ถ้าไม่ประกอบด้วยปัญญาความเห็นถูก มันก็แค่วนๆ อยู่ในโลกของสมมุติ มันก็แค่เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตามเหตุปัจจัย นี่ยังมีไปกว่านั้นอีก หลังจากที่กระชับรู้ ๆ เข้ามา ๆ เรื่อย ๆ เต็มที่จิตมันจะคลายตัวออกเอง รู้เลย มันคลายออกไม่มุ่งกระชับพื้นที่เหมือนก่อน แต่เปลี่ยนเป็นรู้ตามความเป็นจริงแทน อะไรมา ก็รู้ ๆ ดังนั้นอย่าไปเข้าใจว่า พระท่านสอนมั่ว มันอยู่ที่ใครอยู่ตรงไหนของทางต่างหาก

    เอาเข้าจริงๆ ต้องแยกโลกแห่งวัฏฏสงสาร หรือโลกแห่งการหลงปรุงแต่งหลงกระทำ กับธรรมชาติที่พ้นขาดจากความปรุงแต่งอย่างแท้จริงให้ออก นั่นแหละ คุณถึงจะรู้ว่า ส่วนใดคือมายาสมมุติ ส่วนใดคือพ้นสมมุติอย่างแท้จริง นั่นแหละสัมมาทิฏฐิแบบเป็นกิริยา ไม่ติดข้องในความเป็นบุญหรือเป็นบาป จึงจะเกิดจริงๆ และทีนี้ก็สมาทานการศึกษา มีปฏิปทาเป็นอยู่ด้วยความไม่ประมาทต่อไป..
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    น้องๆ หนูๆ อย่า งง นะครับ

    พระไตรปิฏก ฉบับแรก จริงๆ ควรกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า เป็นคำของ ตถาคต ทั้งหมด

    ไม่ใช่ ไปจับอาการใครเป็นคนเขียน ใครเป็นคนพูด ใช้ ตรรกศาตร์ หลัก กฏหมาย
    แบบโลกๆ เข้าไป จับ ธรรมะ

    คำของสาวก ในบางส่วนในพระไตรปิฏก แม้นจะไม่มี หลักฐาน ว่า ตถาคตรับรอง
    หรือ พระพุทธองค์ทรงกล่าวทวนซ้ำให้ แต่เราจะอาศัย จรณะสัมปันโน เข้า
    พิจารณา

    ถ้อยคำใด แสดงโดยสาวก แต่ถ้าไม่ปรากฏ บททักท้วงจากพระศาสดา โดย จรณะ
    เราจะถือว่า พระพุทธองค์ทรงไม่คัดค้าน คำสอนเหล่านั้น

    ทีนี้ กลุ่มพุทธวจน ก็เพียงแต่ วางกรอบในการ คัดคำออกมาทำ หนังสือ เฉพาะ
    เล่มนึง คัดเอาแต่ที่เห็นได้ชัดว่าตถาคตเป็นผู้กล่าวตรงๆ แล้วสาวกทรงจำมาทำ
    เป็นพระไตรปิฏก ไม่ได้ มีเป้าประสงค์จะเอาไปแทน พระไตรปิฏกทั้งหมด

    ดังนั้น อย่า ยัดข้อหา ให้เว้อ เกินไป เท่านั้นเอง
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พี่ที ฮับ

    ตรงเห็น สภาวะธรรมก่อนก่อตัว กลางอก

    พี่ที อย่าไป ดูตรงนี้อยู่อย่างนั้น เพื่อให้มันเที่ยง ไม่หายไป นะฮับ

    ต้องกำหนดเห็น จิตที่มันเข้าไประลึกเห็นเอง ก็รู้ว่า มันเห็นของมันเอง

    แต่พอสักพัก มันจะ ตั้งไม่ได้

    ดังนั้น จิตไม่เที่ยง ต้องยกเข้ามาเห็นตรงนี้ เราไม่ได้ภาวนาเพื่อให้
    มันเห็น กลางอกตลอดวัด ตลอดคืน

    สติ กว่าจะเกิด กว่าจะ ลง

    สัมปชัญญะ กว่าจะไม่คลาดเคลื่อน ของไม่เที่ยงไปทำให้มันเที่ยง
    มันจะ ซื่อเกินไป ต้อง " ....อีกนิดนึง....."

    จิตถึงจะถึงฐาน ...... อานาปานสติ ถึงจะ ครบรอบ ถ้ากำหนดรู้การ ปล่อยจิต เข้ามา

    การตามเห็นการสลัดคืน จะเหลืออีกนิดเดียว ไม่มาก ไม่ยาก แต่ ก็เลือดตาแทบกระเด็น [ ตรงนี้ ไม่ได้แปลว่า จบ นะ ยังมี งาน อาตาปี สัมปชาโน อีกเยอะ
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับ ขนหัวตั้ง ]
     

แชร์หน้านี้

Loading...