พญานาคที่ดอยหลวงเชียงดาว

​

เรื่องเหลือเชื่อที่ถ่ำเชียงดาว
<O</O​

<O</O
พูดถึงถ้ำเขาเชียงดาวทุกท่านน่าจะรู้จักรกันดีเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
แห่งหนึ่งของเมืองไทยซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ถ้ำเชียงดาวนี้เป็นถ้ำที่สวยงามมีความลึกและความยาวนับเป็นกิโลเมตร
ภายในถ้ำมีพื้นที่ที่เป็นลานกว้างและมีเส้นทางที่สลับซับซ้อนส่วนภายนอกถ้ำ
นั้นก็เป็นเทือกเขาที่สลับซับซ้อนและเป็นป่าโปร่งซึ่งท่านอาจารย์ใหญ่

หลวงปู่มั่นท่านเคยกล่าวไว้ว่าที่ถ้ำเชียงดาวนี้เป็นสถานที่เหมาะสำหรับ
การปลีกวิเวกเพื่อฝึกวิปัสสนากรรมฐานอย่างดียิ่งเพราะมีความสงบร่มเย็น
ช่วยทำให้จิตมีสมาธิดี เกจิอาจารย์สายหลวงปู่มั่นก็มักจะแวะเวียนมาปักกลด
ฝึกกรรมฐาน ณ ถ้ำเชียงดาวเป็นประจำ ไม่ว่าหลวงปู่ฉิม หลวงปู่แหวน
หลวงปู่ตื้อหรือแม้พระมหาบัวแห่งวัดบ้านตราด อุดรธานีหากผู้ใดเคยสนทนา
ธรรมกับท่านเกจิอาจารย์ที่กล่าวถึงนี้ก็จะรู้ว่าถ้ำเชียงดาวมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพ
เทวดารักษาอยู่โดยเฉพาะมีพญานาครักษาถ้ำอยู่

หลวงปู่แหวนเคยกล่าวไว้ว่าภายในถ้ำหลวงของถ้ำเชียงดาวตรงบริเวณ
พื้นที่ที่มีหินเป็นรูปกงจักรและดอกบัวที่ใต้แผ่นหินนั้นมีพญานาคเฝ้าอยู่
ซึ่งพญานาคในถ้ำเชียงดาวนี้มีทั้งที่เป็นมิฉฉาทิฐิและส้มมาทิฐิหากพระเกจิ
ที่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเชียงดาวถูกรบกวนจากพญานาคที่เป็นมิฉฉาทิฐิท่านเกจิ
ท่านก็จะย้ายที่ปฏิบัติธรรมเพราะท่านกล่าวว่าไม่อยากให้เป็นบาปเป็นกรรม
แก่พญานาคเหล่านั้น<O</O

เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องภายในถ้ำเชียงดาวมาพอสมควรแล้วต่อไปนี้เรามคุย
เรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าถ้ำเชียงดาวกันบ้างที่หน้าถ้ำเชียงดาวนั้นมีการขายของ
มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ของฝากหรือพวกต้นไม้สมุนไพร
ที่รักษาโรคต่างๆเอาละทีนี้ผมจะขอเล่าเรื่องของผมที่หน้าถ้ำดีกว่า

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อผมอายุ9ขวบตอนนั้นพ่อผมได้พาผมไปเที่ยวเชียงใหม่และ
ได้แวะที่ถ้ำเชียงดาวหลังจากได้เที่ยวในถ้ำเสร็จแล้ว เราก็ได้เดินออกมาดูของ
สินค้าที่ลานหน้าถ้ำขณะที่เรากำลังเดินดูของอยู่นั้นสายตาผมก็เหลือบไปเห็น
ลุงแก่คนหนึ่งนั่งอยู่กับพื้นและที่มือลุงคนนี้ถือเชือกควั่นมัดงูไว้ตัวหนึ่งใส่ตะกร้า
ไว้ผมสังเกตุลักษณะงูแล้วมีลักษณะที่แปลกคือที่หัวมีหงอนสีแดงส่วนลำตัวมี
เกล็ดสีดำเป็นมันวาวเมื่อผมเห็นงูตัวนี้ครั้งแรกผมก็เกิดความรู้สึกสงสาร
อยากจะช่วยงูตัวนี้ให้ได้จึงบอกพ่อว่า พ่อผมอยากได้งูตัวนั้นและก็ชี้ไปที่ตะกร้า
ให้พ่อดูตอนแรกพ่อก็ปฏิเสธแต่หลังจากที่รบเล้าพ่อพักใหญ่พ่อก็ยอมเข้าไป
ถามราคางูตัวนั้นให้ผมปรากฏว่าราคางูนั้นแพงมากพอสมควรคือเค้าคิดตัวละ
2,000บาท พ่อผมก็อึ่งท่าทางท่านจะไม่ซื้อให้ผมแน่นอนคราวนี้ผมเลย
ออกอาการร้องไห้ฟูมฟายเพราะไม่รู้เป็นอะไรวันนั้นผมคิดแต่จะช่วยงูตัวนั้นให้
ได้จนพ่อทนรำคาญผมไม่ไหวพ่อเลยยอมเข้าไปเจรจาต่อรองราคาดูแต่ปรากฏ
ว่าคนขายไม่ยอมลดราคาเลยแถมบอกพ่อว่างูตัวนี้หายากมากมากนานๆจะเจอ
สักครั้งเป็นงูพญานาคต้องใช้คาถาบ่วงบาศก์พญาครุธจึงจะจับได้สรุปแล้ววัน
นั้นพ่อยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อซื้องูให้ผม2000บาทแล้วพ่อก็พาผมขึ้นรถเพื่อ
นำงูไปปล่อยข้างทาง

ขากลับหลังจากปล่อยงูแล้วผมก็เดินกลับมาที่ประตูรถปรากฏว่าที่ประตูรถนั้น
ผมได้พบเจอชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งไม่ใส่เสื้อแต่ใส่กางเกงขาก๊วยสีขาวกล่าว
กับผมว่า'ขอบใจท่านมากที่ช่วยชีวิตข้าข้าก็คืองูที่ท่านปล่อยข้าเมื่อสักครู่นี้เอง '
หลังจากนั้นชายคนนั้นก็เดินหายวับเข้าไปในป่าข้างทางเหตุการณ์ครั้งนี้เป็น
เรื่องจริงที่ผมได้จดจำมาถึงทุกวันนี้ว่าผมเคยช่วยชีวิตพญานาคมาแล้ว

ที่มา

 

​

พญานาคในถ้ำเชียงดาว​

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เล่าถึงพญานาคในถ้ำเชียงดาวดังนี้:-

ภายในถ้ำหลวง ที่ถ้ำเชียงดาวมีพญานาคอยู่ถ้ำดังกล่าวนี้ ต้องแยกขึ้นไปทางซ้ายมือ อยู่เหนือถ้ำหลวงเล็กน้อย
พื้นถ้ำมีก้อนหินเป็นรูปกงจักรกับดอกบัวมีพญานาคเฝ้าอยู่ภายใต้แผ่นหินนี้

เวลามีพระเข้าไปภาวนาอยู่ภายในถ้ำนั้นท่านแทบกระดุกกระดิกตัวไม่ได้เลย เป็นต้องถูกพญานาคกล่าวโทษทันที่ว่า
สมณะอะไรช่างไม่สำรวม คะนองกายเหมือนเด็กๆ ถ้าเดินไปสะดุดเอาก้อนหินดังกรอกแกรกเขาก็จะกล่าวโทษว่า สมณะอะไร
จะเดินจะเหิน ไม่สำรวมระวัง รีบไปรีบมา เหมือนม้าแข่ง
ไม่ว่าพระจะทำอะไร ต้องสำรวมทุกอิริยาบถถึงอย่างนั้นก็ไม่วายจะถูกตำหนิติเตียน

พญานาคนี้มีอัธยาศัยชอบพอกับพระมหาบุญ ถ้าพระมหาบุญเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้น ไม่ว่าท่านจะทำอะไร เช่น
ทำเสียงกระแอมกระไอ เดินเสียงดัง ทำก้อนหินหล่น เธอก็เฉย ไม่แสดงกิริยาอะไรต่อต้านเพราะมีจริตเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีพระองค์ใด เข้าไปอยู่ในถ้ำนั้นได้นานเพราะในถ้ำมีช่องให้อากาศเช้าไปทางเดียว คือทางปากถ้ำ
เมื่อพระเข้าไปอยู่ข้างในแล้วปิดประตู อากาศภายนอกแทบเข้าไปไม่ได้เลย ทำให้อึดอัดหายใจไม่สะดวก
ยกเว้น หลวงปู่มั่น องค์เดียวที่ท่านเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้นได้นานเป็นวันๆ

หลวงปู่มั่น เคยเทศน์แนะนำพญานาคแต่เธอไม่ยอมรับคำแนะนำ เพราะยังอาลัยอัตภาพปัจจุบันของตนอยู่
ในที่สุดท่านเห็นว่าเข้าไปทำความรำคาญให้แก่เธอ จึงไม่เข้าไปในถ้ำนั้นอีกเลย

ที่ถ้ำพญานาคนี้หลวงปู่แหวน เข้าไปอยู่ ๑ วัน หลวงปู่ตื้อเข้าไปอยู่ ๓ วัน แต่ละองค์ที่เข้าไปอยู่
ต่างถูกพญานาคตำหนิกล่าวโทษเอาทั้งสิ้น พระท่านอยู่ไม่ได้เพราะส่งจิตออกไปดูทีไรเห็น
พญานาคคอยจ้องหาเรื่องตำหนิพระอยู่ตลอดเวลา
เมื่อพระต่างองค์ต่างเห็นว่าถ้าเข้าไปแล้วจะทำให้พญานาคสร้างบาปหนักเข้าไปอีก
จึงได้ช่วยเหลือเธอโดยการไม่เข้าไปรบกวนในที่อยู่ของเธออีกต่อไป


ที่มา:ประตูสู่ธรรม http://dharma-gateway.com/

 

เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เคยไปเที่ยวถ้ำเชียงดาวมาแล้ว สวยงามประทับใจมาก
พอมาถึงปัจจุบัน มีโอกาสจะได้เข้าไปเที่ยวอีกกับเพื่อน แต่คราวนี้ต้องผิดหวัง เพราะมีชมรมแม่บ้านอะไรไม่รู้ มาตั้งกลุ่มปากทางเข้าถ้ำ เขาบอกกับพวกเราว่า จะต้องเสียค่าตะเกียงดวงใหญ่ส่องนำทาง 150 บาท (ค่าเข้าชมประมาณ 10 กว่าบาท) พอพวกเราบอกว่า ไม่เอาตะเกียงได้ไหม เพราะว่าแพงมากเกินไป กลุ่มแม่บ้านเหล่านี้ก็ทำท่าไม่พอใจ พูดจาต่างๆ นาๆ ทำนองว่า ในถ้ำมืดมากเดินไปอาจพลัดตกร่องหินได้ อีกคนก็พูดว่า แค่ 150 บาท ถือว่าช่วยเหลือชาวบ้านหน่อยไม่ได้หรือไง
พวกเรางงมากกับพฤติกรรมของแม่บ้านกลุ่มนี้ พร้อมกับนึกในใจว่า ทำไมหน่วยงานของรัฐหรือ อบต.จึงปล่อยให้มีอย่างนี้เกิดขึ้น
สุดท้าย เรากับเพื่อนเลยตกลงใจว่า ไม่เข้าไปเที่ยวถ้ำเชียงดาวแล้ว (ทั้งๆที่ซื้อตั๋วเข้าชมแล้ว) เปลี่ยนใจไปวัดถ้ำผาปล่องซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถ้ำเชียงดาวแทนดีกว่า
ผลปรากฏว่า เราได้รับความอิ่มใจ อิ่มบุญและมีความสุขอย่างมากมาย ได้ไปกราบ ณ จุดที่หลวงปู่สิมท่านดับธาตุขันธ์ ได้ขึ้นไปกราบพระบรมสารีริกธาตุบนพระเจดีย์บนภูเขา
ได้ข้อธรรมะต่างๆมากมายจากโคนต้นไม้ ดีกว่าไปเที่ยวถ้ำเชียงดาวเสียอีก

 

คนกลุ่มนี้ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปเยอะครับ

แนะนำ"วัดถ้ำผาปล่อง" อย่างที่คุณจิ๋วหลิ่วแนะนำเช่นกันครับผม

สาธุครับผม

 

ชอบฟังเรื่องราวหลวงปู่มั่น สนุก ลึกลับ น่าติดตาม

 

ดีครับ...คุณจิ๋วหลิ่ว โชคดีจังเลยไปเจอของดีที่โคนต้นไม้

 

ตอนนี้พญานาคยังอยู่มั้ย?

 

เห็นแถวๆต.สบงาย-ต.ทุ่งข้าวพวง(อ.เชียงดาว)ครับ

สีเขียวกับสีดำ,สีตำตัวใหญ่กว่า

*******************

กระทู้หลายปีแล้วน้อ ^_^

 

​

 

ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ได้มั้ยค่ะ

 

ยินดีครับผม