ขอถามผู้รู้ เรื่องสมาธิค่ะ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย YandY, 22 พฤษภาคม 2016.

  1. YandY

    YandY สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +8
    คือมีเหตุการณ์ เกิดขึ้น: ขณะนั่งสมาธิขณะหนึ่ง หนูมีความรู้สึกว่า เหมือนตัวหดลงดิ่งลงไปเหมือนจะวูบแต่รู้ตัว กับ การบริกรรม พุท โธ และ ลมหายใจ ตลอด ขณะนั้นตกใจออกจากสมาธิ มันเกิดอะไรขึ้นกับดิฉัน หรือ หมายความว่า อย่างไรค่ะ และหลังจากออกจาก สมาธิ ก็ยังรู้สึกว่า ลมหายใจยังเบา ละเอียดอยู่รู้สึกว่าสุขุมขึ้น อาการทางกาย ก็ยังเบาสบายๆ ช้าๆอยู่ หนูขอความกรุณา ถามท่าผู้รู้ ช่วยบอกและชี้แนะนำ ด้วยค่ะ หนูพึ่งเริ่ม ปฏิบัติ ปีนี้อย่าง สม่ำเสมอ ค่ะ ฝึกเองที่บ้าน

    ขอบคุณค่ะ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ไม่ว่าจะเกิดกิริยาอย่างเดิมอีก หรือว่าจะเหมือนลอยได้ไปด้านหลัง หรือจับทิศทางไม่ได้
    ตัวใหญ่ได้ ตัวโยก เห็นแสงสว่างจร้าขาวไปทั้งบริเวณ
    หรือ มีเสียงที่นั้นโน้นนี่
    มีเหมือนอะไรมาเกาะตามตัว หรือได้ยินเสียงอะไรชัดเจน
    และไม่ว่าจะเสียงอะไรก็ตาม...ให้เฉยๆและให้ปล่อยให้ผ่าน
    ไปเลยแบบสุดๆครับ แม้ว่าจะรู้สึกกลัวบ้างก็ไม่เป็นไร
    เพราะเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเราฝืนต่อไปจะไม่กลัวได้เองครับ
    และที่สำคัญอีกอย่างคือ ห้ามลืมตาครับ
    ไม่งั้นเราจะกลับออกมาสู่สภาวะปกติทันที
    แม้ว่า จะเกิดผลรู้สึกว่าสงบ เบาๆก็ตาม
    หลังออกจากสมาธิ แต่ว่ามันจะคงอยู่ไม่นานครับ..
    แต่ถ้ารู้สึกว่า มีอะไรมาแคว๊กๆ หรือเหมือนมี
    อะไรมาถูๆตามตัว นี่ให้ลืมตานะครับ
    เพราะว่ามันคือ แมว ครับ ๕๕๕(แอบฮา)

    แล้วถ้าทำได้ กิริยาพวกนี้จะไม่มารบกวนเราในขณะนั่ง
    สมาธิได้อีกครับ..จะว่าไป กิริยาที่เล่ามาเป็นเสมือน
    ตัวขวางการพัฒนาของเรา มาเพื่อสะกิดให้เราไปเผลอสนใจ
    ไปยึดกับกิริยานั้นๆนั่นเองครับ

    ยังไงก็ปรับลมหายใจให้ลึกถึงท้องเอาไว้ด้วยครับ
    คือหายใจเข้าให้ท้องพอง หายใจออกให้ท้องยุบ
    และทำความรู้สึก รับรู้ว่า มีลมกระทบเข้าและออก
    ที่ปลายจมูกก็พอ แต่ว่าไม่ต้องไปตามลมนะครับ

    และเวลานั่งสายตาปกติให้มองลงมาที่ลิ้นปี่
    เด่วเราจะเหมือนมีตาเดียวมองผ่านระหว่างคิ้วได้เอง
    เพื่อป้องกันการเผลอไปดึงความคิดจากสมองครับ..

    ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ สมาธิก็จะมีการพัฒนาได้ของมันเองครับ
    เพราะถ้าเราไม่ผ่านและติดอยู่จุดนี้ สมาธิเราจะตัน
    ในขณะนั่งได้สูงสุดไม่เกิน ฌาน ๑ และ ๒ สองครับ
    และเวลาลืมตาปกติ สมาธิใช้งานก็จะไม่เกินฌาน ๑ ครับ

    ของคุณตัวจิตกิริยามันฟ้องว่า มันเคยมีสัมผัสภายใน
    เกี่ยวกับนามธรรมต่างๆในระดับที่ดีมาก่อน
    รวมทั้งการรับรู้เรื่องพลังงานภายนอกก็ดีครับ...
    แค่ปรับระบบหายใจอย่างที่แนะนำ
    และปล่อยกิริยาที่เจอมาที่นำมาเล่าให้ฟัง
    ก็น่าจะไปได้ดีครับ แต่ถ้าจะเร็วกว่านี้
    ก็ให้ดูเรื่อง ทานบารมี ๑๐ ร่วมด้วย
    ชอบเรื่องไหนก็ทำอย่างนั้น..
    และก็ที่สำคัญ ให้อุทิศส่วนกุศล
    ก่อนและหลังนั่งเสมอให้เป็นนิสัยครับ
    ปล.ประมาณนี้ครับ
     
  3. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ตรงนี้ ผมเคยเป็น มันเป็นอาการของ "ความเป็นตน หรือ อัตตาจิต" รวมตัวหดควบแน่น ลดขนาดของตนเองลง

    +++ อาการของผม คือ หลังจากมันหดตัวแล้ว กลายเป็น "ตัวผม ลงไปนั่งสมาธิอยู่ในท้อง ของกายผมเอง"

    +++ อาการนี้เคยเกิดมาเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้ว แต่ผม "ไม่ถอนสมาธิ" ปล่อยตัวเองให้นั่งอยู่ในนั้น ดูกายของตนเอง เหมือนตนเอง นั่งอยู่ในบ้านแล้ว มองดูข้างในบ้านแบบนั้นแหละ

    +++ ตรงนี้ทำให้ผม "เข้าใจ" ความเป็นตน และ สิ่งที่เรียกันว่า "อัตตา" มากยิ่งขึ้น

    +++ ไม่ต้องไปให้ความหมายอะไรกับมันหรอก "มันเป็น อย่างที่มันเป็น มันมี อย่างที่มันมี" นั่นแหละ นั่นคือ "สภาวะธรรม เฉพาะหน้า (ณ ปัจจุบัณขณะ ในขณะนั้น) ปรากฏ"

    +++ ให้ทราบเอาไว้ว่า "สภาวะธรรมที่ปรากฏ" นั้น เป็นส่วนหนึ่งของ "ดำรงค์สติมั่น รู้ ธรรมเฉพาะหน้า"

    +++ ให้ทำ "ทบทวน" ไปเรื่อย ๆ "อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด" อย่าไป "แทรกแซง" สภาวะธรรมนั้น ๆ แล้วจะก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ได้เอง

    +++ ตรงนี้ มันคือ "ความสุข" จากฌาน 3 อาจสุขต่อเนื่องได้ถึง 3-4 วันก็ได้ แล้วแต่บุคคล

    +++ ให้ปฏิบัติต่อไปอย่างต่อเนื่อง "รู้สึกตน" ไปเรื่อย ๆ ทุกอย่าง "ถูกต้อง" แล้ว และ ยังมีอีกมากในหนทางนี้ นะครับ
     
  4. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    ตัวหดลงดิ่งลงไปเหมือนจะวูบ
    อันนี้ไม่ชัดนะครับ คนมาช่วยตอบจะงง
    ถ้ามีความรู้สึกเหมือนหดเข้าไปในตัว อาจเป็นสภาวะที่เข้าฌาน เป็นไปได้
    ถ้ามีความรู้สึกเหมือนดิ่งวูบลงไปคล้ายตกจากที่สูง แปลว่าสติไม่ดี ตามสมาธิไม่ทัน
    แต่จะดิ่งได้แบบนี้แปลว่าต้องนิ่งได้ที่ อย่างน้อยก็เกือบๆจะเข้าฌาน หรือเข้าไปแล้วแว่บนึง
    วิธีแก้ก็ ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง หรือเจริญสติเพิ่ม

    อาการของสมาธิ คุณสังเกตุตัวเองได้ตามนี้
    ถ้าคุณใช้พุทโธควบกับลมหายใจ
    ที่อุปจารสมาธิ จะรู้สึกได้ว่า พุทโธ กับลมหายใจ ต่างคนต่างอยู่ อาการที่พุทหายใจเข้า โธหายใจออก จะไม่มีที่นี่
    ลมหายใจเข้าออก จะแยกขาดออกจากคำภาวนา

    ที่ฌานหนึ่ง ก็มีได้สองกรณี
    ถ้าจิตคุณติดกับคำว่าพุทโธ ลมหายใจจะหายไป เหลือแต่ความสว่างกับคำว่า พุท โธ พุท โธ พุท โธ พุท โธ ไปเรื่อยๆ
    หรือแรกๆอาจจะไม่สว่างก็ได้แต่พุทโธ มีแน่ จนเข้าฌานสอง คำภาวนาจะหายไป

    ถ้าจิตคุณติดกับลมหายใจ พุทโธ จะหายไป เหลือแต่นิมิตของลมหายใจ ปรากฏอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นรูปอะไรก็ได้
    เช่น ก้อนฝ้าย น้ำตก ดวงกลมเป็นสีหลายสี ก้อนเมฆ สายน้ำ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับจุดสัมผัสลมที่คุณเลือก
    กรณีนี้ นิมิตของลมหายใจ จะมีตั้งแต่ก่อนเข้าฌาน พอเข้าฌานสอง นิมิตจะใสขึ้นสว่างขึ้น

    หลังออกจากสมาธิมาแล้ว ถ้าเราเข้าได้อย่างน้อยอุปจารสมาธิ กำลังของสมาธิจะกดเราอยู่อีกพักใหญ่ อันนี้ธรรมดาครับ
    เดี๋ยวก็ชินไปเอง

    ที่เหลือก็ตามคำแนะนำด้านบนแหละครับ
     
  5. YandY

    YandY สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +8
    หนู ขอกราบขอบพระคุณท่าน ที่กรุณาชี้แนะนำหนูเป็นประโยชน์กับหนูมากค่ะ.
     
  6. YandY

    YandY สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +8
    ข้าพอจ้างขอตั้งจิตอุทิศ ผลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ สวดมนต์ไว้พระ เจริญภาวนา ทานสินนี้ ให้กับทุกท่าน ที่มีจิตเมตตาช่วยชี้แนะกับข้าพเจ้า ท่านจะปรารถนาสิ่งใดที่ชอบ ประกอบด้วยธรรม ขอให้สำเร็จเผล็ดผล สมความปรารถนาทุกปรถการ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อาการ ปิติ ครับ

    อย่าไปสนใจ อาการพวกนี้ ตัวขวางผลการปฏิบัติ

    ผ่านตรงนี้ไปได้ จิตจะเป็นสมาธิครับ

    อย่ากลัว อย่าตกใจ กับอาการพวกนี้ ใดๆ ทั้งสิ้น

    นอกจากอาการพวกนี้แล้วเดี๋ยวก็เจออาการอื่นๆเข้ามา ก็อย่าไปสนใจ

    ให้มีสติอยู่กับคำภาวนาในกรรมฐานที่ปฏิบัติ ครับ
     
  8. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ไม่ใช่ ผิดถนัด อย่างแรง

    +++ ตั้งกายตรง ดำรงค์สติมั่น "รู้ธรรมเฉพาะหน้า" เป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้า

    +++ เอ็ง กำลังทำตัวเป็น "ตัวขวางผลการปฏิบัติ" กำลังขัดขวางการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น

    +++ เขาเป็นสมาธิอยู่แล้ว เรียบร้อยแล้ว

    +++ เอ็งไม่ใช่นักปฏิบัติ อย่าเข้ามา "ขวาง" การปฏิบัติของผู้อื่น

    +++ เขาแค่ "แปลกใจ" ไม่ได้ ขี้กลัว ขี้ขลาด อย่างที่ "เอ็งมโนเอาเอง"

    +++ ตั้งกายตรง ดำรงค์สติมั่น "รู้ธรรมเฉพาะหน้า" เป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้า

    +++ แต่เอ็งเข้ามา "ยุยง" ไม่ให้สนใจ ธรรมเฉพาะหน้า

    +++ อย่ามาทำตัว "เป็นมารศาสนา" ให้มันมากไปกว่านี้

    +++ เขาอยู่ในจุดที่ "กำลังเลยคำภาวนา" อยู่แล้ว และกำลังจะไปลึกกว่านี้

    +++ เอ็งไม่ใช่นักปฏิบัติธรรม อย่า "เสือก" เข้ามา ยุยงปลุกปั่น ไปตาม "มโน" ของเอ็งให้มันมากนัก

    +++ เคยบอกไว้แล้วว่า "มารศาสนา" มันแยะเกินไป ต้องใช้นโยบาย "เดินหน้าชน" กันซะบ้าง โลกมันจะได้เบาขึ้น

    +++ Saber เอ็ง "เอาแต่อ่านตำรา แล้ว มโนเอาเอง" ลูกเดียว ก็ไม่ควรเข้ามาใน "ห้องปฏิบัติ" มัน "ขวาง" การปฏิบัติของผู้อื่น

    +++ สันดานอย่างนี้ รีบ ๆ เลิกซะ มันจะทำให้เอ็ง "ไปนรก" แน่นอน

    +++ ไอ้พวก "ไม่เคยผ่านประสพการณ์ ไม่รู้จริง" อย่ามาเสนอหน้าใน ห้องปฏิบัติ ให้มากนัก
     
  9. YandY

    YandY สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคุณทุกท่านอีกนะค่ะ. หนูจะพยายามใช้สติปัญญา พิจารณา ในคำแนะนำ ของทุกท่านให้ดีที่สุดตาม กำลังสติปัญญาที่มี และ หนูเชื่อว่า กรรมดีที่หนูได้ สะสมมา และ มุ่งมั่นปฏิบัติ บุญนั้นคงช่วยนุนนำหนู ไห้ได้เจอแสงสว่างนำทาง ไปในทางที่ถูกต้องที่ดี. ที่เหมือนบุญหนุนนำไห้หนู ได้ร่วม เป็นสมาชิกในแว๊บนี้ ได้มีโอกาส อ่านข่าวสารบอกบุญ และร่วมทำบุญด้วย ทั้งที่หนูอยู่ไกลบ้านเกิด ได้มีโอกาสถาม ประสปการณ์ กับท่านๆทั้งหลาย.
     
  10. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ จริง ๆ ต้องใช้ "สติ" ให้มาก มีหลักในการพิจารณา "ธรรม" ดังนี้

    +++ 1. สภาวะใดก็ตาม "ที่เกิดขึ้นจริง มีมาเองจริง" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ต่อให้มโนเอาเองอย่างไร ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้" ให้ยอมรับสภาวะนั้นไว้ก่อนว่า "สภาวะนั้น เป็นจริง"

    +++ 2. "ดำรงค์สติมั่น รู้ธรรมเฉพาะหน้า" คือ ในขณะที่ "สติเป็นสมาธิ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถือว่า เป็นธรรมเฉพาะหน้า ทั้งหมด" ไม่มีข้อยกเว้น

    +++ 3. "ธรรมเฉพาะหน้า ทุกชนิด" ให้ "อยู่ และ รู้" กับมัน แล้วจะ "รู้แจ้งแทงตลอด" ในสภาวะของธรรมที่ปรากฏเฉพาะหน้า (ปัจจุบัณขณะ ณ ขณะนั้น ๆ) อันเป็น ธรรมชาติของจิต

    +++ ทั้ง 3 ข้อนี้ คือ "หลักปฏิบัติ" ทางกรรมฐาน ของ พระพุทธศาสนา

    +++ การกระทำใด ๆ ก็ตามที่ปฏิเสธ "การรู้ธรรมเฉพาะหน้า" ให้ถือตรง ๆ ได้เลยว่า เป็น "มิจฉาทิฐิ" ปิดกั้น มรรค-ผล ทั้งหมด และส่งท้ายด้วยการ "ไปอบาย" ตรงนี้ ไม่มีข้อยกเว้น

    +++ "ความตั้งใจดี มีเจตนาดี" ของคุณ ควรจะช่วยให้คุณ ฝ่าฟันด่านต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม ไปได้ด้วยดี

    +++ จะเฉลยคำพูดที่ว่า "ดำรงค์สติมั่น" ไว้ตามอาการ ตั้งแต่ เริ่มแรก ดังนี้

    +++ 1. สติ คือ "อะไรก็ได้" ที่หลังจาก ระลึกแล้ว (ความจำ) ได้ผลลัพธ์มาเป็น "ความรู้ตัว หรือ รู้สึกตัว" (ตัวอย่าง คนไข้ได้สติ รู้สึกตัวแล้ว เป็นต้น) แต่ถ้าหากอยู่ในการปฏิบัติในชั้นสูงแล้ว จะเป็นการ "รู้ตน และ รู้สึกตน (ไม่มีตัว)" ส่วนการ "ระลึกเรื่อยเปื่อย" ถือว่าเป็น "อาการฟุ้งซ่าน"

    +++ 2. หลังจากที่ได้ "สติ" (รู้ตัว หรือ รู้สึกตัว) แล้ว ก็ให้ "ดำรงค์ อาการนั้น ให้มั่นคง" นั่นคือ "อยู่กับความรู้สึกตัว จนตั้งมั่นเป็นสภาวะเดียว" ตรงนี้คือการ "ทำสติให้เป็นสมาธิ" และนี้คือการ "ดำรงค์สติมั่น"

    +++ 3. ให้อยู่กับอาการ "ดำรงค์สติมั่น" อยู่อย่างนั้น ไม่นาน "สภาวะธรรมเฉพาะหน้า" ย่อมปรากฏมาเอง จากนั้น "ปล่อยให้ ธรรม นั้น ๆ วิวัฒนาการด้วยตัวของมันเอง โดยที่เราไม่ต้องไปทำอะไร" ปล่อยให้ ธรรม นั้น ๆ แสดงสภาวะของมันเอง ตั้งแต่ "แรกเริ่มเกิดขึ้น สภาวะที่มันดำรงค์อยู่ จนกระทั่ง จางคลายหายไป" ไม่นานก็จะเข้าใจในเรื่องของ ไตรลักษณ์ ได้เอง


    +++ จากอาการ "รู้สึกว่า เหมือนตัวหดลงดิ่งลงไปเหมือนจะวูบแต่รู้ตัว" ตรงนี้ ชี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า

    +++ 1. มโนเอาเอง "ไม่ได้" ต่อให้ "มโนจนเหงือกแห้ง ตาถลนออกมานอกเบ้า" มันก็ไม่เกิด มันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ตรงนี้คือ "ธรรมเฉพาะหน้า ที่ปรากฏมาเอง"

    +++ 2. อาการ "รู้สึกว่า ตัวหดลง แต่รู้ทั้งหมด" ตรงนี้ ชี้ชัดเจนว่า "มีสติจนตั้งมั่น เป็นสมาธิ (ดำรงค์สติมั่น)" เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ "ขาดประสพการณ์" ไปบ้างเท่านั้น


    +++ อาการ "หดดิ่ง แล้วทำท่าจะ วูป" ตรงนี้เป็นเรื่องที่ สำคัญมาก และ แยกออกได้เป็น 2 กรณี

    +++ 1. หดดิ่ง แล้ว วูป อยู่ภายในกาย จะทำให้รู้ชัดเจนว่า "ตน ที่แท้จริง ไม่ใช่กาย" เพราะ "ตน เข้าไปนั่ง ข้างในกาย ได้" (เรื่องของ สักกายะทิฐิ)

    +++ 2. หดดิ่ง แล้ว วูป ออกไปข้างนอก จะทำให้รู้ในอาการที่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า เปรียบเหมือน "บุรุษคู้แขนเข้า แล้วเหยียดออกด้วยกำลัง" ตรงนี้คือ Teleportation (หมวดของ อภิญญา)


    +++ ยิ่งตรงนี้ "และหลังจากออกจาก สมาธิ ก็ยังรู้สึกว่า ลมหายใจยังเบา ละเอียดอยู่รู้สึกว่าสุขุมขึ้น อาการทางกาย ก็ยังเบาสบายๆ ช้าๆอยู่" ยิ่งชัดเจนอยู่แล้วว่า "ผ่าน อัปปนาสมาธิ มาเรียบร้อยแล้ว"

    +++ ทั้งหมดชี้ชัดเจนอยู่ในตัวแล้วว่า "ดำรงค์สติมั่น รู้ธรรมเฉพาะหน้า" นั้น ทำได้แล้ว ยังขาดแต่ "ประสพการณ์ในธรรมเฉพาะหน้า" เท่านั้น ที่ยังอ่อนอยู่

    +++ ตรงนี้ทั้งหมด สามารถกล่าวได้ว่า "บุคคลผู้นี้ ก้าวเข้าสู่เบื้องต้น ในชั้น มรรค" แล้ว

    +++ มหาสติปัฏฐาน 4 ที่ถูกต้อง และ "ตั้งมั่นจนเป็นสมาธิแล้ว" จะมีเหลือเฉพาะเพียงแค่อาการเดียวเท่านั้น คือ "ดำรงค์สติมั่น รู้ธรรมเฉพาะหน้า" เท่านั้น

    +++ สิ่งที่คุณ YandY ทำมานั้น "ถูกต้องแล้ว" ให้เดินหน้า "ปฏิบัติธรรม" ต่อไป

    +++ หากเอาจริงมุ่งมั่น ก็สมควรที่จะถึงขั้น "สิ้นสงสัย" ในสภาวะธรรมทั้งหมด ด้วยการผ่านหนทางแห่ง "การรู้แจ้ง" นะครับ
     
  11. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
  12. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    • ในขณะที่คุณนั่งสมาธิ ขณะนั้นเป็นขณิกสมาธิ คือ สมาธิชั่วคราว ชั่วขณะ ตั้งมั่นเล็กน้อย คือ คำอยู่กับคำบริกรรม ภาวนาได้ไม่นานประมาณ ๒ - ๓ นาที ประเดี๋ยวประด๋าว ก็ไปคว้าเอาเรื่องอื่นมาคิด ต้องพยายาม ดึงกลับมาให้อยู่กับ คำบริกรรมภาวนา
    • ที่นี้พอคุณทำสมาธิจดจ่ออยู่กับอารมณ์ คำบริกรรมภาวนาไป เรื่อยจิตมันเริ่มรวม และทำให้มีอาการปิติเกิดขึ้น (ในขณิก สมาธิ) คืออาการเหมือนตัวหดลงดิ่งลงไปเหมือนจะวูบแต่รู้ตัว ลมหายใจมันจะปรับจากหยาบไปละเอียด จากหนักไปเบา กายเริ่มเบา จิตเริ่มเบาครับ
    • ถึงแม้ว่าตกใจแล้วออกจากการทำสมาธิแล้วก็ตาม อาการก็ยัง คงเหลืออยู่ครับ
    *****อนุโมทนาบุญ****
     
  13. Saruttung

    Saruttung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +12
    รบกวนสอบ
    ถามด้วยครับ
    หลังจากนั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงวิ้งๆๆๆๆในหัวเป็นอาการอะไรครับ
     
  14. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ไม่ได้ถามผมเเต่ช่วยตอบ มันก็เป็นเรื่องทางกายเช่นกัน อย่าไปสน ให้เข้าใจว่า เราจริงๆไม่ใช้กายนี้ เราจะอยู่กับจิตที่ผ่องแผ้วสงบเเละมีสติรู้กับสิ่งนี้ ระหว่างชีวิตประจำวันก็ทำสมาธิเเทรกได้คือ อย่าสนใจเรื่องคนอื่น ข่าวสารต่างๆเป็นต้น จะเข้าสมาธิง่าย

    การรู้เรื่องมากก็คือเอาจิตไปผูกไปสร้างน้ำเลี้ยงระหว่างสิ่งรอบตัวกับตัวเรา เราก็ไม่สงบนิพพานก็ยาก ไปสร้างความเกี่ยวผูกพันธ์ไว้นั้นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...