Album: ช่างหลอมแก้วที่สร้างพระพุทธรูปหน้าตักเก้านิ้วคนเดียวของไทย

ช่่างหลอมแก้วในไทยคนเดียวที่คิดจะสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 9 นิ้วตั้งแต่ปี 2516 จากการที่โรงงานของพ่อสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 3 นิ้ว 5 นิ้ว ๒๕ ศตวรรษหลายรุ่นหลายรูปแบบ แต่ตนเองกลับรู้สึกว่า พระแก้วที่ปั๊มด้วยวิธี pressed glass ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๑๖ นั้นสวยยังไม่สมใจ จึงเก็บความรู้ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้ว ( หัวเข่าถึงหัวเข่า ) สำเร็จอย่างแก้วกลวงเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ อย่างตันเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมเวลาการสร้างโดยมีความตั้งใจสร้างอย่างตันตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนสำเร็จรวม 5 ปี รูปภาพต่าง ๆ เหล่านี้เป็นรูปภาพที่ผมถ่ายด้วยตนเองทั้งสิ้น ซึ่งหากมีเนื้อที่เขียนคำอธิบายประกอบภาพ ผมอาจเขียนกำกับไปด้วยในแต่ละรูปภาพ

ช่างหลอมแก้วที่สร้างพระพุทธรูปหน้าตักเก้านิ้วคนเดียวของไทย

อัปเดต 23 มีนาคม 2013
IMGP6321  
IMGP6321
IMGP6322  
IMGP6322
องค์พระแก้วที่ไม่ได้เข้ากล่องปิด ผมใช้วิธีทดลองบนหลอดไฟไส้ฮาโลเย่น 2,000 วัตต์ ซึ่งถือว่ามีความร้อนสูงมาก ๆ โดยทดลองในที่เปิด วางองค์พระไว้บนกระจกกั  
องค์พระแก้วที่ไม่ได้เข้ากล่องปิด ผมใช้วิธีทดลองบนหลอดไฟไส้ฮาโลเย่น 2,000 วัตต์ ซึ่งถือว่ามีความร้อนสูงมาก ๆ โดยทดลองในที่เปิด วางองค์พระไว้บนกระจกกั
ถึงแม้ปัญหาเนื้อแก้วปลายจมูกจะบังคับให้ไม่บางเกินไปจะหนักหนากว่าปัญหาตรงหัวเข่าบาง แต่เนื่องจากจมูกมีพื้นที่เพียงเล็กน้อยและหนีศูนย์กลางน้อย ไม่เหมือ  
ถึงแม้ปัญหาเนื้อแก้วปลายจมูกจะบังคับให้ไม่บางเกินไปจะหนักหนากว่าปัญหาตรงหัวเข่าบาง แต่เนื่องจากจมูกมีพื้นที่เพียงเล็กน้อยและหนีศูนย์กลางน้อย ไม่เหมือ
ในกล่องปิดที่ผมทำการทดลองด้วยการใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์นี้ ผมใช้สปอตไล้ท์ความร้อนสูงขนาด 60 วัตต์ ซึ่งจะให้ความร้อนประมาณเท่ากับหลอดอินแคน 100 วัตต์ แต่  
ในกล่องปิดที่ผมทำการทดลองด้วยการใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์นี้ ผมใช้สปอตไล้ท์ความร้อนสูงขนาด 60 วัตต์ ซึ่งจะให้ความร้อนประมาณเท่ากับหลอดอินแคน 100 วัตต์ แต่
9 inches width mouth blown glass-buddha พระพุทธรูปแก้วหน้าตัก 9 นิ้วซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดของโลกในสายการสร้างพระจากแก้วที่หลอมจากทราย สร้างด้วยการ  
9 inches width mouth blown glass-buddha พระพุทธรูปแก้วหน้าตัก 9 นิ้วซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดของโลกในสายการสร้างพระจากแก้วที่หลอมจากทราย สร้างด้วยการ
ในระยะเดือนแรก ๆ ที่ช่างเป่าแก้วด้วยปอดที่ท่านคิดว่าเก่งแล้ว ที่ผ่านการฝึกทักษะการขวั้นแก้วเทคนิคอิตาลีแล้ว และนึกว่าผลงานเป่าองค์พระออกมาน่าจะดี แต่  
ในระยะเดือนแรก ๆ ที่ช่างเป่าแก้วด้วยปอดที่ท่านคิดว่าเก่งแล้ว ที่ผ่านการฝึกทักษะการขวั้นแก้วเทคนิคอิตาลีแล้ว และนึกว่าผลงานเป่าองค์พระออกมาน่าจะดี แต่
เมื่อช่างเป่าแก้วด้วยปอดทำตามเทคนิคถูกต้องทุกอย่างแล้ว ผลงานที่ออกมาก็น่าจะได้ประมาณองค์นี้ครับ ดูจากรูป สังเกตุจะเห็นความหนาของเนื้อแก้วที่เป็นองค์พร  
เมื่อช่างเป่าแก้วด้วยปอดทำตามเทคนิคถูกต้องทุกอย่างแล้ว ผลงานที่ออกมาก็น่าจะได้ประมาณองค์นี้ครับ ดูจากรูป สังเกตุจะเห็นความหนาของเนื้อแก้วที่เป็นองค์พร
ภาพนี้เป็นภาพที่ผมสร้างขึ้นครับ ความจริงองค์พระแก้วที่เจ้าภาพนำมาน้อมถวายหลวงปู่คำบ่อนั้น เป็นขนาดหน้าตัก 9 นิ้ววางอยู่บนตั่ง ผมใช้คอมพิวเตอร์แต่งให้ใ  
ภาพนี้เป็นภาพที่ผมสร้างขึ้นครับ ความจริงองค์พระแก้วที่เจ้าภาพนำมาน้อมถวายหลวงปู่คำบ่อนั้น เป็นขนาดหน้าตัก 9 นิ้ววางอยู่บนตั่ง ผมใช้คอมพิวเตอร์แต่งให้ใ
พระพุทธรูปตัน ๆ หน้าตัก 9 นิ้วองค์แรก ๆ ที่ผมสร้างขึ้นในระบบ pressed glass เป็นองค์แรก ๆ ถือว่า ไม่สำเร็จก็ได้ เพราะแก้วไม่ใส มีเส้น และในเนื้อแก้วยั  
พระพุทธรูปตัน ๆ หน้าตัก 9 นิ้วองค์แรก ๆ ที่ผมสร้างขึ้นในระบบ pressed glass เป็นองค์แรก ๆ ถือว่า ไม่สำเร็จก็ได้ เพราะแก้วไม่ใส มีเส้น และในเนื้อแก้วยั
อดีตสามเณรวัดบรมนิวาสวรวิหาร ปทุมวัน กรุงเทพฯ ด้วยการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ศิริราชพยาบาลท่านหนึ่ง ได้เดินทางมาขอเงินจากกองทุนสร้างพระแก้วในครั้งนั้น เพื่  
อดีตสามเณรวัดบรมนิวาสวรวิหาร ปทุมวัน กรุงเทพฯ ด้วยการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ศิริราชพยาบาลท่านหนึ่ง ได้เดินทางมาขอเงินจากกองทุนสร้างพระแก้วในครั้งนั้น เพื่
ช่างอี๊ดเป็นช่างเป่าแก้วฝีมือดีคนหนึ่ง ในภาพจะเห็นว่า ช่างอี๊ดกำลังเป่าแก้วที่มีขนาดสูงประมาณ 60 ซ.ม. กว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ซ.ม. เป็นโคมไฟสนา  
ช่างอี๊ดเป็นช่างเป่าแก้วฝีมือดีคนหนึ่ง ในภาพจะเห็นว่า ช่างอี๊ดกำลังเป่าแก้วที่มีขนาดสูงประมาณ 60 ซ.ม. กว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ซ.ม. เป็นโคมไฟสนา
เมื่อเดือนมกราคม 2548 ผมเริ่มต้นโครงการสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 9 นิ้ว ( วัดหัวเข่าถึงหัวเข่า ) ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้  
เมื่อเดือนมกราคม 2548 ผมเริ่มต้นโครงการสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 9 นิ้ว ( วัดหัวเข่าถึงหัวเข่า ) ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้
เมื่อได้หุ่นขี้ผึ้งและทำเป็นหุ่นทองแดงเรียบร้อยแล้วจึงนำมาให้โรงงานทำแม่พิมพ์เหล็กทำการสร้างแม่พิมพ์เหล็ก จากแม่พิมพ์เหล็กชุดนี้ได้เคยสร้างพระพุทธรูปห  
เมื่อได้หุ่นขี้ผึ้งและทำเป็นหุ่นทองแดงเรียบร้อยแล้วจึงนำมาให้โรงงานทำแม่พิมพ์เหล็กทำการสร้างแม่พิมพ์เหล็ก จากแม่พิมพ์เหล็กชุดนี้ได้เคยสร้างพระพุทธรูปห
ผมขออนุญาตนำภาพการใช้แม่พิมพ์เหล็กในการสร้างพระพุทธรูปของบริษัท Baccarat ในประเทศฝรั่งเศสมาลงแทนแม่พิมพ์เหล็กของผมเอง เพราะตอนสร้างพระแก้วในไทยผมไม่ได  
ผมขออนุญาตนำภาพการใช้แม่พิมพ์เหล็กในการสร้างพระพุทธรูปของบริษัท Baccarat ในประเทศฝรั่งเศสมาลงแทนแม่พิมพ์เหล็กของผมเอง เพราะตอนสร้างพระแก้วในไทยผมไม่ได
ฝีมือการลบตะเข็บแม่พิมพ์เหล็กด้วยการเป่าไฟจากหัวเป่าแก๊สนี้ ผมยกให้ 2 บริษัทที่มีช่างแก้วฝีมือระดับแถวหน้าของโลกคือ Lalique และ Baccarat โปรดสังเกตุก้  
ฝีมือการลบตะเข็บแม่พิมพ์เหล็กด้วยการเป่าไฟจากหัวเป่าแก๊สนี้ ผมยกให้ 2 บริษัทที่มีช่างแก้วฝีมือระดับแถวหน้าของโลกคือ Lalique และ Baccarat โปรดสังเกตุก้
ผมถ่ายโคลสอัพเข้าที่แผ่นฟิลม์สไล้ด์เพื่อให้ภาพได้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น ช่างเป่าแก้วด้วยปอด บางที่ก็เรียกว่า เป่าด้วยปาก แต่ผมนิยมเรียกว่าเป่าด้วยปอดมา  
ผมถ่ายโคลสอัพเข้าที่แผ่นฟิลม์สไล้ด์เพื่อให้ภาพได้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น ช่างเป่าแก้วด้วยปอด บางที่ก็เรียกว่า เป่าด้วยปาก แต่ผมนิยมเรียกว่าเป่าด้วยปอดมา
ผมใช้กล้องขนาด 120 ถ่ายด้วยฟิลม์สไล้ด์ของ Kodak ตั้งแต่ตอนที่ผมดูแลโรงงานหลอมแก้วของคุณพ่อผม ในรูปนี้แสดงให้เห็นว่า โรงงานหลอมแก้วของคุณพ่อมีแผนกการขึ  
ผมใช้กล้องขนาด 120 ถ่ายด้วยฟิลม์สไล้ด์ของ Kodak ตั้งแต่ตอนที่ผมดูแลโรงงานหลอมแก้วของคุณพ่อผม ในรูปนี้แสดงให้เห็นว่า โรงงานหลอมแก้วของคุณพ่อมีแผนกการขึ
Loading Photos......
Loading Photos......
glassbuddha2009
ช่่างหลอมแก้วในไทยคนเดียวที่คิดจะสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 9 นิ้วตั้งแต่ปี 2516 จากการที่โรงงานของพ่อสร้างพระพุทธรูปหน้าตัก 3 นิ้ว 5 นิ้ว ๒๕ ศตวรรษหลายรุ่นหลายรูปแบบ แต่ตนเองกลับรู้สึกว่า พระแก้วที่ปั๊มด้วยวิธี pressed glass ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ - ๒๕๑๖ นั้นสวยยังไม่สมใจ จึงเก็บความรู้ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้ว ( หัวเข่าถึงหัวเข่า ) สำเร็จอย่างแก้วกลวงเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ อย่างตันเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๒ รวมเวลาการสร้างโดยมีความตั้งใจสร้างอย่างตันตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนสำเร็จรวม 5 ปี รูปภาพต่าง ๆ เหล่านี้เป็นรูปภาพที่ผมถ่ายด้วยตนเองทั้งสิ้น ซึ่งหากมีเนื้อที่เขียนคำอธิบายประกอบภาพ ผมอาจเขียนกำกับไปด้วยในแต่ละรูปภาพ
23 มีนาคม 2013

จัดการ

แชร์หน้านี้

Loading...