อภิญญา ในสาธารณะ |
|
![]() |
![]() |
|||||
|
||||||
![]() |
![]() |
|
ยินดีต้อนรับ, คุณ zipper.
คุณเข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ at 03:01 PM มีข้อความส่วนตัว: 0 Unread, Total 808. |
User CP | สมัครเป็นสมาชิก | คู่มือการใช้เว็ปบอร์ด | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | โพสที่มาใหม่ | ค้นหา | Quick Links | Log Out |
![]() |
Thread Tools | Search this Thread |
Rating: ![]() |
Display Modes |
![]() |
#241 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
ก่อนเกิดสึนามิ มีการทำนายไว้แล้วดังนี้ครับ
Attached Images Attached Images Last edited by เกษม : 06-04-2005 at 01:41 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#242 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
เห็นว่าข้อมูลถูกลบไปเลยเอามาลงให้ใหม่ครับ
"หยุดสึนามิด้วยฝ่ามือ"(คัดลอกจากนิตยสารโลกลี้ลับ) ปลายปีพ.ศ. 2547 จนถึงปลายปี พ.ศ.2549 จะเป็นช่วงวิบากกรรมของประเทศไทย โดยเริ่มจาก สึนามิลูกแรก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ตามขอบ อ่าวเบงกอล และทะเลอันดามัน ตามที่เป็นข่าวโศกนาฏกรรมดังไปทั่วโลก ตามมาด้วย ตึกยุบ และรถไฟฟ้าใต้ดินชนกัน อย่างไร ก็ตามจาก การมองเห็นอนาคตด้วยจิตและคำยืนยันของมนุษย์ต่างดาว ที่ได้เชิญมาสนทนากัน มีคนมาร่วมฟังและช่วยกันซักถามเกือบ 10 คน ได้แนวโน้มว่า ในระยะอันใกล้นี้จะเกิดภัยพิบัติทางน้ำอย่างน้อยอีก 2 ครั้ง ครั้งที่หนึ่งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในทะเลอันดามันอีกครั้ง จุดศูนย์กลางการไหวจะเคลื่อนไปทางเหนือของครั้งที่แล้ว จะเป็นผลให้เกิดภัยพิบัติแก่ฝั่งทะเลของประเทศพม่า กับบังคลาเทศมากที่สุด ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ไทย มาเลเซีย จะเสียหายมากน้อยตามลำดับ ประเทศไทยนั้นแนวชายฝั่งจะเฉียงและขนานกับแนวคลื่น ความรุนแรงจึงไม่มากเท่าครั้งแรก เพราะไม่ได้ชนโดยตรง แนวโนมว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2548 ในประเทศไทยมีรอยแตกแยกใต้ทะเลมาถึงจังหวัดระนอง และมีรอยเลื่อนขึ้นไปทางทิศเหนือ จะผ่านขึ้นไปถึงเชียงราย แพร่ น่านตลอดรอยเลื่อน มีเขื่อนใหญ่ในเขตเมืองกาญจนบุรีอยู่สองเขื่อนที่น่าจะจับตาระวังเป็นพิเศษ(ขอแทรกนิดนึงว่าเขื่อนที่ว่านี้ผู้พิมพ์มีญาติเปิดร้านอาหารอยู่ที่อำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ขอเรียกว่าอาตุ๊ อาตุ๊บอกกับข้าพเจ้าว่า รถสิบล้อมันขนปูนไปที่เขื่อนเขาแหลม กับเขื่อน ศรีนครินทร์ กันเป็นร้อยคัน มันบอกว่าเอาปูนไปยิงเขื่อนเพราะมีรอยแตกเยอะมาก บางคนไม่ได้กลับบ้านเลยตลอดสัปดาห์ อันนี้ขอยืนยันว่าจริง แต่ทางราชการบอกว่าไม่แตก ไม่มีรอยร้าว มันตอแหล) ภัยพิบัติลำดับต่อมาคือ จะเกิดทางน้ำอีกเช่นกัน ในอ่าวไทย เนื่องจากการแตกและยุบของพื้นทะเล ด้วยสาเหตุที่โครงสร้างใต้พื้นมีการเปลี่ยนแปลงจากแผ่นดินไหว 2 ครั้งก่อนหน้านั้นกอร์ปกับการเกิดโพรงและความดันตก เนื่องจากมีการสูบแก๊สธรรมชาติมาใช้เฉลี่ยวันละ 40-45 ล้านลูกบาศ์กฟุตมาเป็นเวลา 25 ปี และเนื่องจากระดับความลึกของทะเลในอ่าวไทยตอนบนค่อนข้างตื้น โดยเฉลี่ย 20-40 เมตร อิทธิพลของคลื่นจึงไม่รุนแรงมาก เป็นคลื่นสูงใหญ่กว่าปกติ อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท มีพระสงฆ์ และผู้มีอภิญญาได้ร่วมกันใช้อภิญญาปิดปากแม่น้ำที่สำคัญโดยการเนรมิตเขื่อนทางจิต เพื่อป้องกันมิให้คลื่นและน้ำเข้าทำลายและท่วมเมืองและนครใหญ่ ๆ โดย องค์พระเหนือโลก ได้เดินทางด้วยตนเองปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันกรุงเทพมหานคร และได้มอบหมายให้คณะบุคคลจาก "กลุ่มโลกทิพย์" ไปดำเนินการปิดปากแมม่น้ำตาปีเพื่อป้องกันเมืองสุราษฎร์ธานี และที่สำคัญคือ "พระบรมธาตุไชยา"โบราณศาสนสถานสำคัญของภาคใต้ที่สร้างขึ้นใน ยุคศรีวิชัย ขณะรุ่งเรืองอย่างสูงสุด วันที่ 23 ม.ค.2548 "กลุ่มโลกทิพย์" รวม 4 คน ได้เดินทางโดยเครื่องบินไปถึงสนามบิน สุราษฎร์ธานี เวลา 11.00 น. เมื่อรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางเข้าสู่ อ.ไชยาเป็นอันดับแรก คณะของเราและสมาชิกโลกทิพย์ในพื้นที่ ที่มารอร่วมไปด้วยกันอีก 5 คน ไปถึง วัดพระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร ประมาณบ่ายสองโมงเมื่อไปถึงมองเห็นองค์พระเจดีย์สูง องค์พระบรมธาตุมีสีขาว มีกำแพงล้อมรอบเป็นรูปเหลี่ยม มีประตูกำแพงเข้าได้หลายด้าน เราเข้าทางด้านหน้าซึ่งเป็นลานจอดรถที่หน้าประตูด่านแรก เราสัมผัสถึงพลังและบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ จึงหยุดที่หน้าประตูยืนสำรวมจิตขออนุญาติเข้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้าดูแลตามมารยาทอันควรของแขกผู้มาเยี่ยม ในชั่วอึดใจเห็น พญานาคสีทองเจ็ดเศียร เลื้อยมาต้อนรับที่หน้าประตู เป็นนาคตระกูลแผ่เต็มเบี้ย ซึ่งมีอำนาจมากกว่านาคตระกูลที่คอยาวเป็นนิ้วเหมือนนิ้วมือมนุษย์ พญานาคนั้นหันกลับเดินนำ เราจึงเดินตามเข้าไป ปรากฎว่าด้านในมีกำแพงอีกชั้นก่อนที่จะเข้าไปถึงเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ เราจึงกำหนดจิตขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าของที่อีกครั้ง เมื่อก้าวเข้ามาสู่ด้านในสุดอันเป็นหัวใจของพระบรมธาตุไชยา พลังและอณูอากาศ มีความอบอุ่นและสั่นสะเทือนบีบหัวใจในกายของเราให้เต้นและสั่นในความถี่ที่คงที่ เมื่อตั้งขบวนเครื่องบูชาอันประกอบด้วย ดอกบัวและธูปเทียนเรียบร้อยแล้ว เราจึงคุกเข่าลงกราบ สวดมนต์กำหนดจิตอธิษฐาน ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้องค์พระบรมธาตุไชยาพ้นจากภัยพิบัติด้วยเถิด กำหนดจิตให้ลึกจึงมองเห็นว่า ควันจากธูปที่จุดไว้ และละอองหมอกสีขาว เป็นเส้นไหมจากจิตที่กำหนดตั้งจิตอฐิษฐานแผ่กุศลและส่วนบุญ ลอยออกไปจากพวกเราและธูปที่ปักเหมือนสายไหมที่พุ่งเข้าไปสู่จุดรวมของทอผ้า จุดรวมเส้นไหมของแรงกุศลและอธิษฐานหมุนเป็นเกลียวปั่นในทิศทางหมุนทวนเข็มนาฬิกา เข้าสู่จุดกลางของช่องว่างที่มีสีดำรูปวงรี คิดอยู่ในใจว่า ช่องว่างดำนั้นคือสิ่งใด เมื่อจิตคิดถามคำตอบก็มาทันทีมองเห็นชัดว่าเป็นปากของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นคือปากของราหู เป็นปากของยักษ์ที่เคยเห็นประจำในรูปแบบของราหูอมจันทร์ สายไหมหรือสายใยแห่งกุศล แห่งแรงอธิษฐานลอยเข้าไปเหมือนถูกดูดจนหมดภายใน เวลาประมาณ 5 นาที เราจ้องมองดูจึงเห็นว่าราหูหน้ายักษ์ ค่อย ๆ ลอยขึ้นสูงอย่างช้า ๆ จนเลยยอดพระเจดีย์ขึ้นสูงหายไป ซึ่งหมายความว่า ราหูที่ถือกันว่าเป็นสิ่งมีอำนาจในการทำลายล้าง เมื่อสองสัปดาห์ข้าพเจ้ามองเห็น กำลังอมอ่าวไทยทั้งหมดอยู่ในปากอันแสดงว่าเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงในอ่าวไทยขึ้น บัตนี้ได้ถอยออกไปและคืนพระบรมธาตุกลับมาด้วยแรงกุศล และแรงอธิษฐานของพวกเรา เสมือนเป็นการบอกว่า พระบรมธาตุไชยากลับคืนมาสู่สันติและความสงบเป็นมิ่งขวัญของชาว จังหวัดสุราษฎ์ธานีสืบไป เมื่อทุกอย่างคลี่คลายพวกเราจึงพากันคลี่ผ้ายกสีทอง หน้ากว้างห่มรอบพระองค์เจดีย์โดยรอบ มีความยาวสี่ด้านประมาณ 25 เมตร เป็นการห่มถวายด้วยจิตที่เบิกบาน การห่มผ้าครั้งนี้เป็นผืนที่สาม เพราะมีร่องรอยของผู้มีจิตแรงกล้าได้มาถวามไว้ก่อนหน้าที่พวกเราจะมาแล้ว 2 ผืน เมื่อการห่มถวายเสร็จเรียบร้อยพวกเราจึงค่อยถอยห่างออกมา พระบรมธาตุไชยาสร้างขึ้นในพุทธศัตวรรษที่ 13-14 หรือนานกว่า 1200 ปีมาแล้ว ในยุคศรีวิชัยกำลังรุ่งโรจน์ การก่อสร้างเป็นศิปะมหายานปนฮินดูเป็นองค์พระธาตุแบบสี่เหลี่ยมจตุรมุข ย่อซ้อนกันสามชั้น ตามมุมและหน้าบันที่อยู่เหนือซุ้มประตู เป็นที่สถิตขององค์เทพของฮินดู มีองค์พระพรหม พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ คชสิงห์ นกยูงและบรรดาสัตว์ในป่าหิมพานต์ ตามระเบียงคตโดยรอบมีพระพุทธรูปวางเรียงรายจนเต็ม เช่นเดียวกับที่เคยเห็นในระเบียงคตวัดโพธิ์ เมื่อจบขบวนการเราจึงถอยกลับออกมาสู่ด้านนอก พบว่าที่หน้าลานกว้างมีต้นโพธิ์ใหญ่ยืนต้น และมีอะไรอย่างหนึ่งที่มาบอกจิตว่า ณ โคนต้นโพธิ์นั้นพระแม่ธรณีท่านรออยู่ ทุกคนจึงเดินไป ณ ที่นั้น เมื่อถึงก็คุกเข่าก้มลงกราบถวายของบูชาพร้อมอธิษฐาน ขอให้พระแม่ธรณีช่วยคุ้มครององค์พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ด้วย จากการมองด้วยตาใน เห็นองค์พระแม่ธรณีทรงยื่นพระหัตถ์ออกมารับของบูชาถวาย เท่ากับเป็นความหมายว่า พระแม่ธรณีทรงเป็นองค์อุปถัมป์คุ้มครองแผ่นดินบริเวณ พระบรมธาตุไชยา เป็นที่น่าอนุโมทนายิ่งแล้ว จุดหมายที่ 2 คือ ปากแม่น้ำตาปี สายน้ำของตาปีไหลผ่านตัวเมืองสุราษฏ์ ภาพคลื่นยักษ์ และกระแสน้ำพัดเข้ามาความเสียหายอาจจะเกิดขึ้นคาดไม่ได้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน ทางที่ดีคือกันไว้ดีกว่าแก้ ตามคำแนะนำของ องค์พระเหนือโลก คณะของเรามุ่งตรงไปบริเวณปากแม่น้ำ เมื่อไปถึงก็พบว่า ที่บริเวณปากแม่น้ำที่ข้าพเจ้าเคยมาเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งเป็นสถานที่ชายทะเลที่เงียบสงบ โดยเฉพาะยามเย็นเป็นสถานที่พักผ่อนเยี่ยงสวนสาธารณะ ริมหาดมีเรือนแพจัดเป็นภัตตาคารขายอาหารทะเลที่ได้รสชาด ดีที่สุดในภาคใต้ แต่บัดนี้กลายเป็นสถานที่กองวัตถุดิบ ยิปซั่ม ที่กองเป็นภูเขาเลากาบริเวณกลายเป็นท่าเรือใหญ่ของเอกชน เป็นการทำลายทัศนียาภาพของดีเมืองสุราษฏ์ และนำความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากองสุมแทน ตามสัจจะธรรมที่ว่า เมื่อความเจริญทางด้านวัตถุมาถึง ความสะอาดและความสงบย่อมหายไป เมื่อมาถึงปากแม่น้ำตาปี ทอดสายตาไปทิศออกทะเล มองเห็นช่องปากแม่น้ำเป็นแนวกว้างพอประมาณ สองริมฝั่งขนาบด้วยป่าโกงกางหนาทึบที่คาดว่า จะลดความรุนแรงของกระแสคลื่นและน้ำลงไปได้มาก มองลงไปในสายน้ำด้วย ตาที่สาม ภาพที่เห็นคือ กระแสน้ำสีแดงเหมือนสายเลือดแดงฉานกำลังไหลขึ้นมาจากทะเล เข้าสู่ภายในปากแม่น้ำ เสมือนหนึ่งจะนำความตายและความพินาศเข้ามาด้วย ทำให้ใจรู้สึกสยดสยอง วิธีบูชาบวงสรวงจึงได้เริ่มขึ้น โดยการอธิษฐานขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขออำนาจของพระแม่คงคา และบอกกล่าวมนุษย์ตั้งแต่ ปีชวด ถึงปี กุน ให้ตั้งมั่นอยู่ใน ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อจะได้อยู่ในพระพุทธศาสนา ขออำนาจแห่งการ แผ่กุศลจากพวกเราทุกคน ช่วยคุ้มครองแม่น้ำสายนี้ด้วยเถิด เพื่อความอยู่รอดของภาคใต้ทั้งหมด ทันใดที่มีการหลั่งอุทก ลงในกระแสน้ำ สิ่งนั้นเกิดขึ้นแก่จักษุคือ น้ำสีแดงฉานจากสายเลือดนั้น ไหลกลับออกปากอ่าวทันที ทุก ๆ นาทีที่ผ่านไป สีแดงของน้ำค่อย ๆ จางลง และใสเป็นปรกติภายในเวลา 10 นาทีต่อมา หมายความว่า อำนาจแห่งความกระหายเลือดได้หมดไปแร้ว เหลือเพียงว่าจะไม่ให้ไหลเข้ามาได้อีกอย่างไร คำตอบคือเนรมิตเขื่อนปิดปากแม่น้ำ องค์พระเหนือโลก ผู้กำหนดให้พวกเรามาก่อนบอกไว้ว่า เมื่อมาถึงก่อนตัวท่านจะตามมา บัดนี้ได้เวลาแล้วท่านมาแล้วหรือยัง กำหนดจิตบอกไปว่าพวกเรารอท่านอยู่ บัดดลมองเห็นสิ่งหนึ่งลอยลิ่วมาจากทางขวา พุ่งโลดไปยังจุดที่เป็นปากแม่น้ำจิง ๆ มองเห็นจีวรสีกรักพัดไสว ท่านเหาะมาเหมือนโยคีขี่รุ้ง ในเรื่องพระภัยมณี มองเห็นเป็นสายรุ้งสีกรัก พระเหนือโลกมาแล้ว พวกเราจึงรวมจิตอีกครั้งมองเห็นชัดว่า จุดที่พระเหนือโลกลงไปที่ปากแม่น้ำแปรปรวนเต็มไปด้วยหมอกหนาสีขาวขุ่น หมอกหนานั้น ค่อย ๆ อัดตัวแน่นเป็นกำแพง สีขาวสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 5 เมตร เป็นกำแพงนิมิตรที่กั้นแม่น้ำป้องกันการรุกล้ำของอุทกภัยที่เป็นอันตราย นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต ที่เห็นการอุบัติของกำแพงน้ำกั้นปิดปากแม่น้ำ เพื่อความอยู่รอดของปวงประชา เมื่อขบวนการเสร็จสิ้น องค์พระเหนือโลกได้เหาะวนกลับออกมา เหมือนขี่รุ้งสีกรักโบกมือในความสำเร็จ และลอยหายลับไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ท่านมา การปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาก็เพื่อป้องกันวัดศรีรัตนศาสดาราม ป้องกันองค์พระแก้วมรกตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง ซึ่งสร้างบูชาถวายโดย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้เป็นพระปฐมต้นราชวงศ์จักรี ที่ยืนยงมาถึง รัชกาลที 9 เพื่อให้ประเทศได้ยืนยงต่อไป ภายใต้เศวตฉัตรอันประกอบด้วยทศพิศราชธรรม อาณาจักรรุ่งเรือง ประชาราชเป็นสุข การปิดปากแม่น้ำตาปี ก็เพื่อรักษาอาษาจักรศรีวิชัยและพระบรมธาตุไชยา ซึ่งเป็นเหตุปฐมของการตั้งบ้านตั้งเมือง ของสุวรรณภูมิ ควบคู่กับยุคหริภุญไช ของพระแม่จามเทวี เมื่อกว่า 1200 ปีมาแล้ว และได้กลายเป็นประเทศสยาม และเป็นประเทศไทยในที่สุด ทั้งหมดคือขบวนการรักษาปฐมเหตุของการตั้งชาติ และรักษาความศักดิ์สิทธิ์รวมถึงอำนาจของราชวงศ์จักรี พวกเราทุกคนขอน้อมจิตและแผ่ส่วนกุศล ให้สรรพสัตว์โลกทั้งหลายจงพ้นจากทุกข์ในคราวนี้ด้วยเทอญ(โปรดติดตามตอนต่อไป) ก็ไปซื้ออ่านกันเอาเองนะจ๊ะสำหรับผู้ที่กำลังติดตาม คุณตาที่สาม ที่ข้าพเจ้าพิมพ์มาทั้งหมดนี้ คัดลอกมาจาก หนังสือโลกลี้ลับ ปีที 22 ฉบับที่243 ประจำเดือนมีนาคม 2548 ISSN 0858-8104 เล่มละ 40 บาท จากกระทู้นึงที่ว่า "หยุดคลื่นซึนามิด้วยฝ่ามือ" มีคำว่า"องค์พระเหนือโลก" อยู่ เลยสงสัยว่าคืออะไร... จากคุณ : หนุ่มทิพย์ ![]() เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ รู้ว่า จะมีการยุบของพื้นทะเลในอ่าวไทย และจะมี คลื่นใหญ่ น้องๆๆ ซึนามิ เข้า โถมใส่ ตลอด ชายฝั่งอ่าวไทย และบางส่วนจะทะลัก เข้า ตามแม่น้ำที่อยู่รอบอ่าวไทย " องค์พระเหนือโลก " คือ พระ รูปหนึ่ง จาก อิสานใต้ ได้ เห็นความจำเป็น จึง มาที่ ปากแม่น้ำ เจ้าพระยา เพื่อ ปิด ปากแม่น้ำ ด้วยมนต์ ป้องกันไม่ให้ คลื่นน้ำ ทะลัก เข้าท่วม กทม เป้าหมายสำคัญ อยู่ที่ วัด พระแก้ว และ หลักเมือง ซึ่ง เป้นสัญญลักษณ์สำคัญ เป็นจุดคี้มึ้ง ของกทม และ ราชวงศ์จักรี ถ้าจมน้ำไป ประเทศไทย และ ราชวงศ์จักรีจะเป็น อย่างไร และอีกจุด คือ พระธาตุไชยา ซึ่งเป็น ที่ตั้งและจุดเกิด ของ สุวรรณภูมิ หรือ ประเทศไทยยุคแรก ถ้าจมน้ำไป สุวรรณภูมิ ก็จะไม่มี แล้วประเทศไทยก็จะไม่มีเช่นกัน "องค์พระเหนือโลก ได้มีบัญชาให้ คณะ ของเรา เดินทางไป ช่วยกันปิด ปากแม่น้ำตาปี เพื่อ ป้องกัน สุราษฎร์ธานี พอคณะเราไปถึง จุดที่ปากแม่น้ำ " องค์พระเหนือโลก ท่าน ได้เหาะมาในอากาศ เหมือน โยคีขี่รุ้งใน เรื่อง พระอภัยมณี ลง มา สร้างมนต์กำแพงน้ำสูงประมาณ 8เมตร เพื่อ ไม่ให้ น้ำ จาก คลื่น เข้าท่วม สุราษร์และ พระธาตุไชยา เรื่องนี้เป็นงาน ปิดทองหลังพระ ไม่อยาก จะ เล่า แต่เมื่อ ถามมา ก็ เล่าให้ฟัง เงียบๆๆ ครับ .. จากคุณ : ตาที่สาม ![]() เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า ต้องเกิดแน่ๆ ดังนั้นขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ด้วย ความไม่ประมาท จากคุณ : ปัญโญภาส ![]() หยุดคลื่นซึนามิด้วยฝ่ามือ นี่เป็นข้อเขียนของคุณตาที่สามเองเหรอครับ จากคุณ : TerraN เจ้าเก่า ![]() ผมอยู่ในเหตุการณ์ ปิด แม่น้ำตาปี นั้นด้วย คนที่ไป เป็นคณะ โลกทิพย์ มี สี่คน..คนที่เขียน เป็นคนของ โลกทิพย์ ครับ โลก หรือห้องทดสอบจิตมนุษย์ หรือ นรก บนดิน.หมดเวลาแล้ว..องค์พระศิวะ ซึ่งเป็นผู้สร้าง และผู้ทำลาย ท่านได้สร้างมาแล้ว และบัดนี้ถึงเวลาที่จะต้อง ทำลาย เพื่อ ล้าง และ สร้างมาใหม่ สำหรับ ยุคพระศรีอารย์..ที่กำลังจะเริ่ม เป็นโลกแห่ง ความดี แห่งความสุข ตามที่พวกเราได้รู้กัน เวลา เหลือน้อยมาก..อยากจะพูดว่า ไม่ทันแล้ว สำหรับคนที่ยัง มัวเมาในกิเลส และ จะต้องถูกทำลาย ลบทิ้งไป...การทำลายล้างโลก ได้เริ่มต้นอย่างจริงจังมาแล้ว หลังจากที่ได้เตือนมาก่อนหน้านั้น..เตือนอย่างไร..คงเข้าใจ เท่านั้นครับ จากคุณ : ตาที่สาม ![]() http://www.pantip.com/cafe/wahkor/t...5/X3390925.html18:14:09 ] Last edited by เกษม : 29-04-2005 at 11:25 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#243 |
Narinwet
Join Date: Mar 2005
โพส: 40
Rep Power: 0
![]() |
อยากทราบว่าถ้าจะเกิดขึ้นปีนี้ สามารถเลื่อนไปเป็นปีหน้าได้ไหมครับ และช้าสุดเมื่อไร ่่่่่่่่้่ี่่่่่
|
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#244 |
ชาตมรณะ
Join Date: Mar 2005
Location: สยามประเทศ
โพส: 29
Rep Power: 0
![]() |
คำทำนายจากพระแผ่นดินไหวและสึนามี
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ อยากจะขอกล่าวเรื่องพลังงาน เรื่องความสมดุลของพลังงาน เรื่องแผ่นดินไหว เรื่องสึนามิ(Tsunami)คลื่นยักษ์ที่เกิดขึ้น อยากจะบอกให้รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้กระทำ และจะเกิดขึ้นอีก และจะหนักกว่านี้หลายเท่า และจะมีภัยธรรมชาติ และโรคร้าย อีกหลายอย่างที่ตามมา ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 มีคนโทรมาบอกว่าเกิดแผนดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์ที่ภาคใต้ของประเทศไทยและมีคนตาย เนื่องด้วยข้าพเจ้าเคยบอกเพื่อนเมื่อหลายปีก่อนว่าพระอาจารย์บอกว่าจะมีการเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ขณะที่เพื่อนโทรมาบอกข้าพเจ้าคิดว่าเป็นแค่แผ่นดินไหวเล็กๆและก็น่าจะไม่มีอะไรมาก แต่เมื่อกลับมาดูข่าวจาก TV. ที่บ้านก็รู้ว่ามันเกิดผลเสียหายมากมายเหลือเกิน อย่างเช่นยอดสรุปในวันนี้(31 ธค.47) พบศพผู้เสียชีวิตในประเทศไทยถึงสี่พันกว่าคน ผู้บาดเจ็บเก้าพันกว่ากัน และมีผู้สูญหายหกพันกว่าคน และยอดรวมของศพผู้เสียชีวิตในเอเซียมีมากถึงแสนกว่าศพ ซึ่งถือว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เคยบันไว้ แผ่นดินไหวเป็นต้นเหตุให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร ? แผ่นดินไหวเกิดจากความไม่สมดุลของพลังงานที่แกนโลก และความไม่สมดุลเกิดขึ้นได้อย่างไร ? ความไม่สมดุลเกิดขึ้นจากมนุษย์กระทำขึ้นเอง ทำลายธรรมชาติทั้งบนพื้นดิน ในอากาศ ใต้ดิน สรุปมนุษย์ทำลายทุกอย่างที่เป็นความสมมุลของโลก ธรรมชาติเก็บพลังงานไว้ในรูปของความเย็น เก็บเป็นก๊าซ เป็นน้ำมัน เป็นฐานหิน ฯลฯ เก็บไว้ใต้ดิน แต่ด้วยความอวดดีคิดว่าตนฉลาด มนุษย์ได้ขุดมันขึ้นมาจากใต้ดินแล้วนำมาใช้งานโดยเปลี่ยนให้มันกลายเป็นพลังงานความร้อน เอามาเผา ไม่ว่าจะเป็นผลิตไฟฟ้า เอามาเผาในเครื่องยนต์ของรถยนต์ ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ธรรมชาตินั้นเก็บไว้ในรูปของความเย็นแต่มนุษย์เปลี่ยนให้เป็นความร้อน มันก็เกิดปัญหาขึ้นนะซิ ทำความสมดุลของโลกเปลี่ยนไปทันที ชั้นโอโซนเสียไปจนไม่มีโอโซนที่ช่วยเป็นเกาะกั้นบังรังสีจากนอกโลก เราจึงเป็นโรคต่างๆมากขึ้น โลกร้อนเพราะปรากฏการเรือนกระจก สนามแม่เหล็กโลก แกนโลกขาดความสมดุล พลังงานในแกนโลกขาดความสมดุลเพราะมนุษย์ทำให้มันเป็นเช่นนั้น เมื่อส่วนใดของโลกขาดความสมดุลโลกก็จะปรับตัวของมันเองเพื่อให้เกิดความสมดุล อย่างเช่นแผ่นดินไหวเกินจากแกนโลกขาดความสมดุล เมื่อแกนโลกขาดความสมดุลทางพลังงานแกนโลกก็จะมีการเคลื่อนที่แบบไม่สมดุล และเพื่อให้ความสมดุล แกนโลกจะต้องมีพลังงานเท่าเดิมจึงจะสมมุล แกนโลกจึงส่งผลให้เปลือกโลกขยับตัวเพื่อดึงพลังงานจากเหนือพื้นดินลงสู่แกนโลก จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวและส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ซึนามิเกิดขึ้น แผ่นดินไหวในธรรมชาติแบบเดิมๆนั้นมีอยู่แต่ก็ไม่หนักเท่าแผ่นดินไหวที่เกินจากการปรับตัวครั้งใหญ่ของแกนโลก หากจะถามว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และผลจะเป็นอย่างไร? ขอตอบว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอีกและจะหนักขึ้น จะเกิดขึ้นอีกจนกว่าแกนโลกจะสมดุล หากจะถามว่าแล้วเมื่อไรแกนโลกจะสมดุล ? ก็ขอตอบว่าเมื่อเกินแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ? และเมื่อไรจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น? ท่านพระอาจารย์เคยกล่าวไว้เหมือนกัน แต่ถ้านับจากที่ท่านพระอาจารย์กล่าวไว้ก็นานแล้ว แต่ถ้านับจากวันนี้ก็จะประมาณได้ว่า โลกจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 18 ปี นับจากนี้(พ.ศ.2547) หมายความว่าเกิดได้ทุกเมื่อแต่ไม่เกินระยะเวลานี้ ภัยจากแผ่นดินไหวที่พระอาจารย์กล่าวไว้มีความเสียหายมากมายกว่านี้หลายเท่า ที่ได้พบเจอในครั้งนี้ถือว่าเป็นแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น ของจริงมากกว่านี้ ในวันที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นนั้นเกินขึ้นเพียงวันเดียวและระยะเวลาเดียวกันพร้อมกันทั้งโลก ทุกพื้นที่ของโลกได้รับแผ่นดินไหวพร้อมๆกัน เป็นแผ่นดินไหวใหญ่เพียงครั้งเดียวพร้อมกันทั้งโลกพื้นดินขยับตัวเห็นอย่างชัดเช่น ภัยจากน้ำจะมากกว่านี้หลายเท่า จะมีทั้งลมทั้งน้ำ เสียงท้องฟ้าน่ากลัวมาก ผลของมั่นจะมากมายจนเราคิดไม่ถึง ไม่คิดว่ามันจะมากมายถึงขนาดนี้ ผู้รอดชีวิตบ้างคนจะคุมสติไม่อยู่เพราะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ระบบต่างๆที่อาศัยไฟฟ้าจะใช้การไม่ได้ เรียกว่าไม่มีไฟฟ้าจะดีซะกว่า ผู้คนไม่ทันได้หนี อยู่ตรงไหนก็ตายตรงนั้น ธรรมชาติได้เตือนมนุษย์หลายครั้ง ด้วยภัยธรรมชาติและโรคร้ายต่างๆ แต่มนุษย์ไม่เคยสนใส่ใจ ในธรรมชาติความสมดุลของโลก ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ธรรมชาติก็จะเตือนมนุษย์อีก แต่ดูเหมือนมนุษย์ผู้ฉลาดไม่เคยเข้าใจบ้าน(โลก)ที่ตนเองอาศัยอยู่เลยว่าเป็นเช่นไร มนุษย์รู้เรื่องเกี่ยวกับความสมดุลพลังงานของโลกน้อยมาก ครั้งต่อไปธรรมชาติปรับตัวอีก จะได้รู้กันว่าประเทศมหาอำนาจของโลกที่มากด้วยเทคโนโลยีที่อวดตนว่าฉลาดจะถูกธรรมชาติเล่นงานหนักจะรับมือไหวหรือไม่ ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงแผ่นดินไหว ไม่ได้กล่าวเพื่อให้ตกใจหรือหวาดกลัว แต่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าจะบอกเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้เร่งความเพียร เพราะคนเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ขอให้เร่งความเพียร ขอให้จริงใจในธรรม สำหรับผู้ที่ไม่สนใจธรรม ไม่เคยหวังมรรคผลนิพพานก็ขอให้เป็นคนดี เพราะผลดีจะทำให้เราไปดี ตัวข้าพเจ้ามีประสพการณ์ได้เดินทางไปหลายที่และก็ได้พบวิญญาณที่ประสพอุบัติเหตุตายข้างทางบ่อยอยู่เหมือนกัน พวกวิญญาณเหล่านั้นสมัยเป็นคนก็ไม่ได้สนใจในการปฏิบัติธรรม ไม่ได้สนใจทำบุญ เอาแต่ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป เมื่อตายจิตก็ติดอยู่ตรงนั้น จิตไม่มีสติ ไม่มีบุญ คือไม่มีกำลังที่จะไปไหนก็ติดอยู่ตรงนั้น ต้องรอขอส่วนบุญคนที่ผ่านไปมา เป็นวิญญาณไม่ได้ไปผุดไปเกิด เป็นผี เป็นวิญญาณคอยขอส่วนบุญและหลอกหลอดคนอยู่ข้างทาง ข้าพเจ้าอยากจะเตือนผู้คนว่า อย่าเอาแต่ทำงานหาเงินให้ หัดทำบุญ หัดฝึกจิต หัดฝึกสติซะบ้าง เพราะเงินทองนั้นช่วยอะไรเราไม่ได้ ให้มีเงินนับล้านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ หากไม่ทำบุญ ไม่มีสติตายก็ไปไหนไม่ได้ มีตัวอย่างพอจะเล่าให้ฟังได้หนึ่งตัวอย่าง เป็นคนที่ถือว่ามีฐานะและหน้าที่การงานดี ในช่วงนั้นประมาณปี 2545 หรือ 2546 จำได้ไม่แน่ชัด เวลาดึกประมาณตีหนึ่งตีสอง ข้าพเจ้าอยู่ในรถผ่านแยกบางนา รถลงจากทางด่วนตรงแยกบางนาเพื่อมุ่งไปชลบุรี ลงจากทางด่วนรถก็ติด ข้าพเจ้ามองไปเห็นไฟฉุกเฉินละเห็นรถหนึ่งคนประสพอุบัติเหตุหล่นจงมาจากทางด่วนที่วิ่งจากชลบุรีมากรุงเทพ เป็นทางด่วนที่อยู่สูงจากถนนข้างล้างมาก ข้าพเจ้าก็มองเข้าไปและได้คิดตำหนิเจ้าหน้าที่ทางด่วนอยู่ในใจว่า ข้างบนไม่ได้กันหรืออย่างไร จึงทำให้คนวิ่งตรงตกลงมา เพราะถ้ามีเครื่องหมายกั้น คนที่มาจากชลบุรีก็หน้าจะลงทางด่วนก่อนห้างเ็ซ็นทรันบางนา ข้าพเจ้าก็คิดแค่นี้และก็ไม่ได้สนใจอะไร พอรถไปได้ระยะหนึ่งซึ่งห่างจากจุดที่เกิดเหตุพอสมควรข้าพเจ้าก็ได้กลิ่นคาวเลือดอย่างมากจนแทบจะอาเจียน ก็คิดในใจว่าตอนอยู่ที่จุดเกิดอุบัติเหตุก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีกลิ่นอะไร พอผ่านมาไกลขนาดนี้ทำไมมีกลิ่น ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันแปลกๆ ก็เคยถามว่า "มีอะไร จะเอาอะไร" ก็ได้รับคำตอบว่า -ช่วยเ谮าด้วย เขาไปไหนไม่ได้ สอบถามก็ได้ความว่าเขาปล่อยวางไม่ได้ เขายังไม่อยากตาย เขายังไม่พร้อมจะตาย เขามีห่วงมาก ห่วงครอบครัวห่วงการงาน- ข้าพเจ้าก็ช่วยเขาไปเท่าที่ทำได้ และเขาก็จากไป ข้าพเจ้าอยู่บนรถก็ยังคิดว่าห่วงอะไรกันนักหนา ตัวเองยังเอาไม่รวด ยังจะห่วงคนอื่นอีก ไม่รู้เขาทำงานอะไรถึงได้บอกว่าห่วงงาน ข้าพเจ้าก็สงสัยอยู่เช่นนั้น อีกสองวันต่อมาก็มีคนโทรมาบอกว่ารู้แล้วคนที่ตายเป็นใคร เป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ...(ไม่น่าละบอกว่าห่วงงานมาก) ที่นำมาเขียนให้อ่านไม่ได้มีความประสงค์ที่จะแสดงภูมิอะไร(ของอย่างนี้ทำได้ทุกคน) เพียงเพื่ออยากจะบอกว่าให้ทำบุญ ให้ฝึกจิตบ้าง จะได้เป็นแรงบุญให้ตัวเอง เมื่อวันที่ตนต้องตาย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นผีรอขอส่วนบุญอยู่ข้างถนน ตัวอย่างเศรษฐีที่ประสพอุบุติเหตุรถตกจากทางด่วน ถ้าวันนั้นข้าพเจ้าไม่ผ่านไป ก็คงต้องเป็นวิญญาณขอส่วนบุญจากคนอื่นต่อไป ข้าพเจ้าอุทิศส่วนบุญให้และก็สอนธรรมให้ จิตเข้าก็ดีขึ้นและจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เห็นบอกว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวก่อนแล้วถึงจะไปเกิด ข้าพเจ้าจำไม่ได้ชัดว่าเขาบอกว่าอย่างไรบ้าง ถ้าจำไม่ผิดเห็นบอกว่าชาติหน้าอยากจะปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าก็บอกว่าถ้าไปเกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สามได้ก็ดี เพราะยุคนั้นศาสนาพุทธจะรุ่งเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง ศาสนาที่เป็นแต่ความเชื่อก็จะไม่รุ่งเรื่อง เพราะคนเริ่มมีปัญญาได้เห็นแล้วว่าคำสอน สอนแต่ให้เชื่อและให้ศรัทธามันไม่มีความเป็นจริงมันเป็นแต่ความศรัทธาที่เชื่อตามๆกันมาเท่านั้น ข้าพเจ้าพึ่งเขียนการตอบปัญหาธรรมข้อที่ 40 (click here) ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 และก็ได้เขียนถึงแผ่นดินไหว และได้บอกว่าโลกจะเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วโลก และผ่านมาเพียง 1 เดือนก็เกิดแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในเอเซีย(ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ) ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าเรามีเวลาไม่มากสำหรับทำความดี เพราะความตายอาจจะเกิดแก่เราก็ได้ทุกเมื่อ อย่าได้คิดว่าอยู่ห่างทะเลจะไม่เป็น ขอบอกว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นทุกที่และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะถึงเรา อย่าได้นิ่งเฉยในการทำดี พระพุทธเจ้าเตือนสติเราไว้ว่า "วันเวลาผ่านไปแล้วเล่าๆ บัดนี้ท่านธรรมอะไรอยู่" ขอธรรมจงมีแต่ท่าน ที่มา : http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#245 |
Narinwet
Join Date: Mar 2005
โพส: 40
Rep Power: 0
![]() |
กระผมได้ไปถือศีล 8 ที่วัดมาเมื่อช่วง สงกรานต์นี้ ทราบมาครับว่า มีผู้ที่ศึกษาธรรมมะท่านนึง ทราบมาจากพระท่าน ว่า ในอนาคตจะเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3
กระผมเองขอท่าน ทั้งหลาย เร่งทำความดี ถือศีล กินเจ(หรือ มังสวิรัติ) สร้างบุญกุศล และเจริญภาวนา โดยเฉพาะ การเจริญมรณานุสติ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเหตุการณ์มหันภัยได้จบลง จะมีศพตาย เกลื่อนกลาด เยอะมากๆ ดังนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยแท้ พวกเราทุกคนต่างก็ไม่รู้วันตายของตัวเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะเวลาไม่เคยย้อนกลับ
ขอให้ทุกท่านจงอยู่ในความไม่ประมาท
|
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#246 |
ชาตมรณะ
Join Date: Mar 2005
Location: สยามประเทศ
โพส: 29
Rep Power: 0
![]() |
ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต![]()
__________________
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#247 |
Guest
โพส: n/a
|
เรียนคุณเกษมที่นับถือ
คุณอาจเห็นผมเป็นคนนอกและไม่ใส่ใจในคําเตือนของผม แต่!! ถึงแม้คุณจะลบข้อความที่ผมบอกกล่าวเตือนนี้ไปในที่สุดแล้วก็ตาม แต่สัจธรรมที่ผมพูดจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมอยากจะบอกคุณว่า การที่คุณเอาข้อความในหนังสือสัจจบุรุษของ เอน เอเลี่ยน มาลงเพื่อเผยแพร่นั้น คุณอาจจะมีวัตถุประสงค์ดี ที่ต้องการเตือนชาวโลก แต่!! คุณเกษม คุณรู้หรือไม่ว่าคุณกําลังทําความผิดอย่างรุนแรงอยู่ ในหนังสือเอน เอเลี่ยน ได้ยําหนักยําหนาแล้วว่า ข้อความเหล่านี้มิใช่ข้อความสาธารณะที่จะมาเปิดเผยได้ง่ายๆ ผู้ที่ต้องเปิดเผยคือผู้เขียนที่ถูกเลือกมาแล้วเท่านั้น และผู้ลอกเค้ามาเปิดเผย แม้จะบอกชื่อให้เครดิตเขาก็ไม่ใช่เรื่องสมควร ผู้เขียนได้เตือนหนักหนาแล้วว่าจะเข้าตัวคุณเอง และจะมีโอกาสได้เป็น 1 ในผู้ประสบภัย นี่ผมเตือน แต่ไม่ได้แช่ง หวังว่าคุณจะเข้าใจ ในบทความที่คุณนํามาลงยังมี เช่น" สำรวจกันดูเองว่าใครได้กระทำ แย่งชิงสมบัติไปจากเจ้าของผลงานตัวจริง เขาจะต้องชดใช้กรรมจากการไม่รู้จักพอของเขาอย่างสาสมแน่นอน " และยังมีอีกหลายส่วนที่เตือนหลายครั้งว่าอย่านําไปบอกกล่าว เว้นเพียงแต่ผู้ที่สมควรรู้ ถ้าเขาจะได้รู้จริง หนังสือย่อมถึงมือเขาเอง ดังนั้นคุณควรรู้ว่าจะทําเช่นไรกับบทความ เอน เอเลี่ยนนี้นะครับ ขอบคุณ |
![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#248 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
รับทราบครับ และต้องขออภัยต่อเจ้าของบทประพันธ์นี้เป็นอย่างสูง ที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน เนื่องจากเข้าใจผิดว่าผู้ประพันธ์หนังสือนี้ต้องการบอกกล่าวต่อสาธารณะชนให้รับทราบเป็นการทั่วไป และต้องขอขอบคุณ คุณ Medalon ที่ได้ท้วงติงมาจะทำการลบข้อความนี้ให้นะครับ
|
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#249 |
Narinwet
Join Date: Mar 2005
โพส: 40
Rep Power: 0
![]() |
ขอความกรุณาต่อท่าน ผู้มีอภิญญาทั้งหลาย หรือท่านที่เจริญสมาธิอย่างแน่วแน่ถึงขั้นเห็นอนาคตได้ กระผมในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง ขอความกรุณาท่านทั้งหลาย "เจริญสมาธิ " มองอนาคต ของท่านที่โพสกระทู้ที่ 242 เถิดนะครับ ว่า จะมีชีวิตรอดถึง " ยุควิไลซ์ " ได้หรือไม่ครับ
______________________________________________________ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี่เป็นพระวาจามีในครั้งสุดท้ายของพระตถาคตเจ้า |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#250 |
Narinwet
Join Date: Mar 2005
โพส: 40
Rep Power: 0
![]() |
ขอธรรมจงมีแด่ท่าน
______________________________________________________ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี่เป็นพระวาจามีในครั้งสุดท้ายของพระตถาคตเจ้า |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#251 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
สวัสดีครับ คุณ Narinwet
เรื่องการอยู่หรือตายของคนเรานั้น ไม่มีพระอริยะเจ้า หรือ ผู้ทรงฌาณท่านไหนจะตอบได้หรอกครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับกรรม หรือการกระทำทั้งในอดีตและปัจจุบันของคนๆ นั้นเป็นหลัก สมมุติว่ามีท่านผู้ปฏิบัติธรรมจนได้ทิพย์จักษุญาณมองเห็นว่าผมมีกรรมในอดีตชาติเคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเอาไว้ และกรรมนั้นกำลังจะมาส่งผลให้ผมต้องตายภายใน 7 วันเมื่อผมได้ทราบถึงวิบากกรรม ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผมก็รีบสร้างกรรมดี สร้างบุญสร้างกุศล รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ สร้างพระพุทธรูป ปล่อยสัตว์ใหญ่น้อย เช่น วัว ควาย นก เต่า ปลา แล้วอธิษฐานขอให้บุญใหญ่นี้ช่วยต่ออายุขัยของผมให้ยืนยาวต่อไปอีก แล้วอุทิศบุญกุศลที่ได้ทำนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ผมได้เคยล่วงเกินมาในอดีตชาติ คือสร้างกรรมดีใหม่ให้มีกำลังแรงกว่ากรรมเก่าที่กำลังจะมาส่งผล ก็จะสามารถทำให้ผมมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้อีก ตัวอย่างนี้ก็เคยมีมาในพระไตรปิฎกแล้ว หรือในทางตรงกันข้ามหาก ท่านผู้ทรงฌาณท่านนั้นเห็นด้วยทิพย์จักษุญาณว่า ผมได้สร้างกรรมดีในอดีตชาติมามากจะมีอายุยืนยาวถึง 100 ปี เมื่อผมได้รู้เช่นนั้นก็เกิดความประมาท โดยคิดว่าตัวเองยังมีอายุขัยยืนยาว ไม่รักษาศีล ไม่ปฎิบัติธรรม ใช้ชีวิตอย่างเสเพล ดื่มสุรา เล่นการพนัน เที่ยวกลางคืน ยิงนก ตกปลา ล่าสัตว์ ด้วยเห็นเป็นเกมกีฬา สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นการสร้างกรรมใหม่ที่มีกำลังแรงกว่ากรรมดีในอดีตชาติ ทำให้ผมต้องตายก่อนวัยอันควรและก่อนอายุขัยอย่างแน่นอนตามหลักกฎแห่งกรรมที่ว่า กรรมอันไหนที่มีกำลังแรงกว่ากรรมอันนั้นย่อมส่งผลก่อนเสมอ ด้วยเหตุนี้ผมจึงบอกว่า การอยู่หรือตายของคนเรานั้น ไม่มีพระอริยะเจ้า หรือ ผู้ทรงฌาณท่านไหนจะตอบได้หรอกครับ เพราะมันมีตัวแปรที่สำคัญก็คือกรรมใหม่ หรือการกระทำในปัจจุบันของตัวเราเป็นหลัก และไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำสาปแช่งของใคร หรือคำอวยพรของใคร แต่มันขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเราเองจริงๆ ว่าต้องการจะลิขิตชีวิตตัวของเราเองให้เป็นเช่นไร เพราะเราทุกคนล้วนตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น Last edited by เกษม : 10-05-2005 at 11:48 PM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#252 |
Narinwet
Join Date: Mar 2005
โพส: 40
Rep Power: 0
![]() |
ขอธรรมจงมีแด่ท่าน
______________________________________________________ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด นี่เป็นพระวาจามีในครั้งสุดท้ายของพระตถาคตเจ้า |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#253 | ||||||||||||||||||||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
เมืองหลวงในอนาคต ที่ท่านธรรมญาณบอกว่า เมืองหลวงไทยในอนาคตจะย้ายไปอยู่ที่เพชรบุรีนั้น มีเหตุผลสนับสนุนอย่างไรบ้างคะ? เพชรบุรี ก็เป็นเมืองที่อยู่ใกล้ชายทะเลอีกด้วย จะปลอดภัยและมั่นคงอยู่ได้อีกสักกี่ปีคะ? เมืองหลวงไทยในอนาคต จะมีหลายๆเมือง แบบเป็นเมืองแฝดจะได้ไหมคะ? เช่น เพชรบุรี กับชัยภูมิ,เพชรบุรีกับเชียงราย,หรือเพชรบุรีกับอุดรธานี ? ผู้ตั้งกระทู้ กระต่ายตื่นน้ำ ( ) ::วันที่ 03-05-2005 14:49:04 ความเห็นที่ 1 (100188) ถ้าน้ำทะเลสูงกว่าพิ้นกรุงเทพ 4 เมตร แล้วจะอยู่ในกรุงเทพอย่างไร? ไม่ย้ายก็ต้องย้าย ปัจจุบันภูเขาน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ซึ่งยาว 105 กิโลเมตร กำลังไหลเลื่อน ไปชนลิ่มน้ำแข็ง ซึ่งมีความยาว 5 กิโลเมตร และละลายลงมาแล้ว ไม่ต้องดูอื่นไกล สมัยเด็กๆ หน้าแล้งน้ำในคลองจะแห้ง ปัจจุบันน้ำไม่เคยแห้ง จะปลอดภัยหรือไม่? ต้องดู อีกไม่นานเกินรอ ประมาณ 10-13 ปี ก็คงรู้ มีผู้รู้บอกว่า กรุงเทพฯจะจมน้ำไปจนถึงสระบุรีโน่น ภัยพิบัติใหญ่ ต้องเกิดอีกแน่ มนุษย์จึงควรบำเพ็ยตนอยู่แต่ในความดีครับ........ ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมญาณ ( dhammayan2000@yahoo.com ) วันที่ 04-05-2005 10:16:55 ความเห็นที่ 2 (101420) การทำเมืองแฝด ทำได้อยู่แล้วครับ จะเป็นแฝด 2 แฝด 3-4-5 แบบคนมีลูกแฝดออกมาที 5 คนเมื่อเร็วๆนี้ มีอะไรๆเหมือนกันหมด ทำได้สบายมากครับ ถ้ารัฐบาลมีเงินพอ คือ ขยายเมืองออกไปจากเมืองหลวง ให้เหมือนมีเมืองหลวงหลายๆเมือง กระจายออกไปทั่วประเทศ อาจเป็นภาคละ 1 เมืองก็ได้ เมืองที่ว่ามาทำได้ทุกเมืองแหละครับ แต่ไม่ควรไปทำเมืองลุ่มๆแบบนครนายกที่เป็นสนามบินสุวรรณภูมินะครับ ตรงนี้ในอนาคตไม่ปลอดภัย อาจจมน้ำไปอย่างที่ว่ากันก็ได้ เพราะดินที่ถมไว้ไม่เพียงพอกับปริมาณน้ำที่จะมาในอนาคตครับ......ควรไปทำเมืองแฝดในแหล่งพื้นที่ดอนๆสูงๆเข้าไว้ครับ จึงจะปลอดภัยมั่นคงที่สุด อยู่ได้อีกนานๆเลยครับ......
ผู้แสดงความคิดเห็น เนิน นราธร ( nern.naratorn@gmail.com ) วันที่ 06-05-2005 09:15:48 ภาพในนิมิตกรุงเทพน้ำท่วมถึงยอดเสาไฟฟ้า!! ที่ผู้มีตาทิพย์ มองเห็นในนิมิตว่า กรุงเทพน้ำท่วมถึงยอดเสาไฟฟ้านั้น เหตุการณ์จริงจะเกิดขึ้นเมื่อใด? จะป้องกันแก้ไขกันไม่ได้หรือ? เมื่อเร็วๆนี้ มีพระสงฆ์ 3 องค์ ได้เนรมิตเขื่อนป้องกันน้ำท่วมพระแก้วมรกตและพระบรมธาตุเจดีย์ไชยา ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำตาปี สูงขึ้นอีกถึง 5 เมตร ยังป้องกันไม่ได้อีกหรือ? พระ 3 องค์นั้น ชื่ออะไรบ้างและอยู่ที่ไหน? ผู้ตั้งกระทู้ อุณาโลม ( ) ::วันที่ 28-04-2005 12:39:49 ความเห็นที่ 1 (97466) รถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมสายตัวกรุงเทพเมื่อใด ก็ต้องระวังตัวกันไว้แล้วกัน จะป้องกันแก้ไขอย่างไร......เมื่อมนุษย์ทำบาปทำกรรมมากมายกันขนาดนี้ ขนาดโรคไก่ไข้หวัดนกระบาด ก็ฆ่าตายทั้งเป็นกันเป็นเบือ น้ำมัน-แก๊ส ก็สูบกันขึ้นมาจากใต้ดิน วันหนึ่งเป็นพันล้านบาเรล ใต้โลกเป็นโพรงไปหมด ดินตั้งอยู่บนน้ำ เมื่อสูบน้ำมันมากๆ แผ่นดินก็ยุบ โลกร้อนขึ้นทุกวัน น้ำแข็งขั้วโลกเหนือ-ใต้ ก็กำลังละลาย หิมะบนยอดเขาหิมาลัย ก็กำลังละลาย ใกล้ถึงวันล้างโลกเข้าไปทุกวัน แต่มนุษย์ก็ไม่หันมาสร้างความดี......มีพระสงฆ์อยู่ 3 องค์ได้เนรมิตเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วม ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำตาปี คือ พระอาจารย์เที่ยง กิติธัมโม จ.ศรีสะเกษ หลวงพ่อธรรมรังสี อยู่สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้ช่วยเนรมิตเขื่อนทิพย์ป้องกันให้ คงจะรักษาได้สักระยะหนึ่ง ผู้รู้บอกมาอย่างนั้น จะจริงเท็จอย่างไรไปถามหลวงพ่อเอาเอง ส่วนการป้องกัน มิให้พระบรมธาตุต่างๆน้ำท่วม เพื่อรักษาพุทธศาสนาและบ้านเมืองไว้ การเกิดเหตุใดๆก็ตาม สัญลักษณ์ในพุทธศาสนาต่างๆ มีเมืองจำลองอยู่บนสวรรค์ การเกิดเหตุผู้สำเร็จจึงดูจากเบื้องบน ก็จะดูได้กว้างและไกลกว่า.......
ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมญาณ ( dhammayan2000@yahoo.com ) วันที่ 29-04-2005 08:39:43 ถามท่านธรรมญาณภัยพิบัติสึนามิรอบ2-3จากงานสภาชาวพุทธ ทราบว่าท่านธรรมญาณไปร่วมงานสภาชาวพุทธที่โลกทิพย์เมื่อเร็วๆนี้ มีการอภิปรายพูดถึงภัยพิบัติสึนามิรอบ2-3 ในอนาคตกาลของโลกและไทยในอนาคต จากวิทยากรผู้มีชื่อเสียงหลายท่าน ใคร่ขอให้ท่านสรุปเล่าให้สู่กันฟังบ้าง เพราะมีผู้สนใจกันมาก แต่ไม่มีโอกาสเข้าร่วมฟังด้วยค่ะ.... ผู้ตั้งกระทู้ จิตสคราญ หิรัญพฤกษ์ ( jitskran@msn.com ) ::วันที่ 01-05-2005 16:36:56 ความเห็นที่ 1 (99030) มีผู้รู้ มาอรรถาธิบายถึงการเกิดภัยพิบัติใหญ่อีกครั้งในเร็วๆนี้นั้นได้บอกว่า จะเกิดคลื่นยักษ์อีกและใหญ่กว่าเดิมมาก ในปัจจุบันโลกร้อนขึ้นทุกวัน ปัญหาของภัยพิบัติ เกิดจากธรรมชาติต้องการรักษาธรรมชาติ ตามกฎกติกาของธรรมชาติ คือ มนุษย์ได้เกิดขึ้นในโลกมากขึ้น ประชากรเพิ่มมากขึ้นอย่างน่ากลัว ถ้าหากยังเพิ่มในระดับปัจจุบัน อีก 10-20 ปีข้างหน้า คนในโลกจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว แต่ละคนก็ใช้ทรัพยากร ธรรมชาติก็อยู่ไม่ได้ ธรรมชาติอยู่ไม่ได้ แล้วคนในโลกจะอยู่อย่างไร? โลกไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นเหมือนประชากรโลก คนจะล้นโลกแล้ว คนจะอยู่กันอย่างไร คนก็ทำลายธรรมชาติ อุตส่าหากรรม ก็ปล่อยคาร์บอนด์ ลมหายใจของคน ก็ปล่อยคาร์บอนด์ โลกร้อนขึ้นทุกวัน น้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้กำลังละลาย เพราะมนุษย์ใช้วิทยาศาสตร์ในทางที่ผิด ไม่อิงอาศัยธรรมชาติเป็นหลัก ไม่อยู่กับธรรมชาติ มนุษย์ต้องรีบเตรียมตัวไปอยู่ตามภูเขา ชนบท เพื่อหลีกจากชุมชนเมือง กลับสู่ชนบท ก่อนจะสายเกินแก้ รัฐบาลต้องสร้างขนส่งมวลชนความเร็วสูง ให้เร็วที่สุด เพื่อขนคนออกจากเมืองใหญ่ๆ กลับสู่ชนบทให้เร็วขึ้น กระจายคนออกไปสู่ชนบทให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หรือไม่ก็เตรียมเรือไว้ให้มากที่สุด อย่างน้อย"ห่วงยางรถยนต์"เตรียมๆไว้ในบ้าน ภัยพิบัติจะมา เขาไม่บอกล่วงหน้า บอกก็เตรียมตัวไม่ทัน ฉะนั้นป้องกันไว้แหละดี ไปเที่ยวทะเล มีห่วงยางรถยนต์อย่างเดียว ให้โคตรสึนามิ เราก็ลอยคอไปกับมัน ไม่เห็นต้องตกอกตกใจอะไรเลย....... ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมญาณ ( dhammayan@hotmail.com ) วันที่ 02-05-2005 11:19:56 คัดลอกมาจากhttp://www.buddha-dhamma.com/index.php?lay=show&ac=webboard Last edited by เกษม : 10-05-2005 at 11:46 PM. |
||||||||||||||||||||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#254 | ||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
คำตอบจากอาจารย์คนเมืองบัว
มีท่านผู้รู้ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า ปลายปี พ.ศ.2548 นี้ จะเริ่มเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ..........ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้ 1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ 2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่ 3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม จากคุณ ผู้ไม่รู้ เมื่อวันที่ 21/4/2548 11:58:47
แหล่งที่มาhttp://www.konmeungbua.com/webboard...on.asp?GID=4858 Last edited by เกษม : 12-05-2005 at 04:22 PM. |
||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#255 | |||||||||||||||||||||||||||||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
แหล่งที่มาhttp://www.buddha-dhamma.com/index....page=1&No=47149 Last edited by เกษม : 21-05-2005 at 03:30 PM. |
|||||||||||||||||||||||||||||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#256 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
วีดีโอ มือถือ โดยตาที่สาม
โทรศัพท์ ธรรมดา มีมานานแล้ว ต่อมาก็มีมือถือ ถัดมาก็มีวีดีโอ และล่าสุดก็มีวีดีโอมือถือ ซึ่งคิดว่าไม่เหมือนใคร เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ขณะขับรถไปทำธุระแถว ลาดพร้าว ซอย 93 จะไปเอาหน้าปก หนังสือ "ตาที่สาม เล่ม สาม" ไปให้เขาแก้ เฉดสีให้สดขึ้น เพราะหนังสือกำลังจัดพิมพ์ คาดว่าการพิมพ์จะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือน มิถุนายน 2548 ขณะขับไป ก็เห็นรูปของพระพุทธองค์ลอยมาบนฟ้าทางทิศเหนือ เป็นพระพุทธรูปสีทองเหลืองอร่าม ก็ตั้งจิต เพรารู้ว่าเป็นการส่งข่าวจากเบื้องบน เมื่อกำหนดจิตก็ ได้ความว่าให้ไปที่บ้านคนที่รู้จักดี คนหนึ่ง เพราะคาดว่าต้องมีเรื่องสำคัญ เราก็ไป เจ้าของบ้าน ก็พอดีกลับมา จึงพากันเข้าไปในห้องพระ และได้เห็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิและสำคัญ ยิ่ง มีปาฏิหาริย์มากมายเกิดขึ้นที่ห้องพระนั้น วันหลังจะขยายให้ฟัง วันศุกร์ตอนบ่าย เจ้าของบ้านพระพุทธรูปก็แวะมาที่บูธ บอกว่า " พระพุทธรูปท่านฝาก วีดีโอมาให้อาจารย์ดู ขณะนี้อยู่ในมือข้างขวาของผม ขอให้อาจารย์ดู จะได้หมดหน้าที่ของผู้ถือ สาร เพราะหนักมือ เพราะท่านใช้วิธีจารอัด ลงไป" เออ..เคยเจอวีดีโอ ที่เป็นแผ่นกลมๆๆเล็กๆๆ นี่มา เป็นมือ ของ คน ก็แปลกดี..ก็ไม่คิดอะไร..อาจจะเป็นไปได้..จึงกำหนดจิต เพ่งไปที่มือ ของเขา..โอ้โฮ.เป็นวีดีโอ ภาพสีจริง แต่ภาพในมือ มันเล็กไป จึง กดคริๆๆ แบบ คุณ Freek ย้ายภาพ และขยายให้ไปอยู่บนฟ้า นั่งดู เหมือนอยู่ในโรงหนัง วีดีโอนั้น เป็นสามม้วน เป็น มหกรรมชนิด Star War มี 3 episode ม้วนแรกเริ่มด้วย มองเห็นโลก จากระยะไกล ประมาณ ครึ่งทาง โลก-ดวงจันทร์ เป็นโลก ขาว ปกคลุมไปด้วยไอน้ำและควันสีเทา ภาพ ค่อยๆๆ ซูมลงมา พอใกล้ ก็จำได้ว่า เป็นภูมิภาค เอเซียตลอดทั้งทวีป มองเห็นประเทศไทย ที่เป็นด้ามขวานทอง ภูมิทัศน์ทางภูมิศาสตร์ที่เคยเห็นจนชินตาและจำได้ตอนเรียนหนังสือเปลี่ยนไป ด้ามขวานแคบและแหว่งวิ่นเห็นได้ชัด ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ทำให้ขนาด เหลือประมาณ 70 % เทียบกับของเดิม..และจะขาดออกเป็นสามท่อนในช่วงการปรับครั้งสุดท้าย อ่าวไทย กว้างขึ้น ฝั่งตะวันออกหายไปแยะ หายลึกเข้าไปถึง แปดริ้ว ปลวกแดง ไม่มีชลบุรี ศรีราชา เหลือ เกาะสัตตหีบเล็กๆๆ โรงไฟฟ้าบางปะกง กฟผ ที่เราเคยมีส่วนในการสร้างก็หายไป หมายความว่า หลังการกวาดล้างและแก้ระบบนิเวศน์โดยเบื้องบน ภาพที่เห็นคือ ผลสุดท้ายของการปรับและกวาดล้าง เพื่อ ชีวิตและนิเวศน์ที่ี่ดีกว่า..หลังจากถูกมนุษย์ย่ำยีจนเป็นอันตรายต่อการดำรงสภาพชีวิตของ ชนรุ่นหลัง จากนั้น ในวีดีโอได้แสดงให้เห็นว่า ขั้นตอนการปรับสภาพนิเวศน์ของอ่าวไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร มีรายละเอียดมาก จะขอ ข้ามไป ก่อน มหกรรม ภาค 2 Episode ii เริ่มด้วยมองเห็นท้องน้ำและฟ้ามืดมาก มองสลัวพอจำเค้าได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ฟ้ามืด อากาศมัวมาก เหมือนกรุงเทพฯตกอยู่ในหมอกแห่งความน่ากลัว..มองเห็นสิ่งหนึ่งมีสีทองสว่างท่ามกลางความมืด..ล่องลอยมาตามลำน้ำ..พอเข้ามาใกล้ก็ เห็นชัด นั่นคือ หัวพญานาค 7 เศียร ลอยมาเหนือน้ำ .....พญานาคมาทำไม. .ทันใด ก็ชัดเจนขึ้นว่า เป็นหัวเรืออนันตนาคราช ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนเรือพระที่นั่งของกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ขนาดเรือ เท่าของจริง มองเห็นผู้ที่กำลัง เป็นผู้ควบคุมเรือ ท่านคือ องค์พิฆเนศวร กำลังให้สัญญาณในการบังคับเรือ มองเห็นว่า ด้านท้ายเรือ ผู้ที่ทำหน้าที่ถือหางเสือเรือ คือ พญาครุฑ ซึ่งเป็น สัตว์เทพพาหนะคู่บารมีของพระเจ้าแผ่นดิน กลางลำ มองเห็นชัดเจน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงประทับยืน ในพระหัตถ์ทรงถือ ธารพระกร หรือ คฑา ทรงค่อยๆๆ ชูคฑานั้นขึ้นสูงเหนือ เหนือพระเศียร ทันใด พระคฑา ก็กลายเป้นคบเพลิงใหญ่ สว่างโรจน์ เหมือน ภาพ ปั้น อนุสาวรีย์เสรีภาพที่หน้าอ่าว แมนฮัตตัน ของ อเมริกา ความสว่างและความร้อนของเพลิง ขับไล่ความมืดมัว ท้องฟ้าที่มีสีดำ เหมือนมนต์อาถรรพ์เริ่มละลายเป็นช่องโหว่ที่ตำแหน่ง เหนือพระเศียร..... พอช่องโหว่ได้ที่ พระองค์ก็ทรงโยนพระคฑาขึ้งสูง เหมือน ดรัมเมเดยอร์โยนคฑาขึ้นฟ้า คฑาที่ลอยขึ้น กลายเป็น เศวตฉัตร 9 ชั้นสีเงิน เศวตฉัตรนั้น ลอยขึ้นสูงอย่างช้าๆ เมื่อไปแตะเมฆดำทึบมืดมนต์ ก็เกิดสายฟ้าแลบกว้างไกล...ท้องฟ้าทั้งหมด สว่างขึ้นทันตา..ความมืดมัวและอาถรรพ์นั้นหายไปจนหมดสิ้น..ฟ้าเปิดแล้ว ทั้งหมด แปลว่า ท่ามกลางความยุ่งยาก ของความวิปริตของธรรมชาติ นั้น ในที่สุดก็คลี่คลาย ด้วยพระบารมีของ ในหลวง รัชกาลปัจจุบัน โดยการร่วมมือของ พญานาค องค์พิฆเนศวร (ฝ่ายเทพ) พญา ครุฑ (จากฟ้า) และองค์มหาเทพ ในหลวงรัชกาลที่9..ที่ทรงสเด็จลลงมาช่วยแก้ไขประเทศไทยไว้..อันเป็นบารมี สูงสุด ม้วนที่สาม Episode iii เป็นภาพท้องน้ำ เจ้าพระยา อีกครั้ง มองเห็นลำน้ำใส มองเห็นทิวแม่น้ำและท้องทุ่ง สดเขียวขจี ทุกแห่งมีแต่ความสมบูรณ์ ผู้คนล้วนแต่งในชุดขาว หน้าตาสดใส เป็นผู้คนที่มาจากฟ้าหลังฝน มองเห้นแต่ความเจริญ ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นการเริ่มยุคแห่งศรีอริยเมตตรัย..เป็นความร่วมมือของ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ พระแม่สุวรรณมัจฉาและพระพิรุณ..โดยแท้ ทางฝั่งขวาของแม่น้ำ มองเห็น องค์พระพุทธรูป ปางลีลา สูงเด่น มองเห็นแต่ไกล ซึ่งแสดงระหัสว่า พระพุทธศาสนา จะคงอยู่ในประเทศไทย เป็นหลักให้คนทำดี ได้มีโอกาสทำดีต่อไป...หลังจาก ที่ ฝนพายุได้ผ่านไป มองเห็น พระพุทธคยา ตั้งเด่นซ้อนอยู่กับองค์พระพุทธรูป ขนาดสูงใหญ่...ซึ่งเป็น นิมิตรหมายว่า ประเทศไทย จะเป็น ศูนย์กลางการเผยแพร่ ศาสนาพุทธอันยิ่งใหญ่ใน อนาคต เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว..พวกเราในวันนี้ เราควรจะทำเช่นใด.ผู้ที่มีวิจารณาญาณที่ดี ก็คง จะรู้ว่า จะต้องทำอะไร มองดูทั่วโลก ยุโรปเปลี่ยนแปลงน้อย อเมริกา เหมือนถูกทุบ มองเห็นร่องน้ำใหญ่ ที่เกิดจากถูกฝ่ามือกดลงไป กลายเป็นร่องน้ำกว้าง หลายร้อยไมล์ยาวกว่าพันไมล์ ห้าร่อง แปลว่า จะมีคนตายนับล้านที่นั่น เอเซีย นั้นไม่มีสิงค์โปร์ ไม่มี ฟิลลิปปินส์ ไม่มีเกาะญี่ปุ่น. อินโดนีเซียเหลือเพียงบางส่วน.ฯลฯ เช้านี้ เวลา ตีห้า มีกระแส เข้ามาทาง จิตว่า มีจานบินจากดาวต่างๆๆ เข้ามาวนอยู่รอบโลกในระดับสูง มากกว่า 200 ลำ เพื่อ ช่วยเหลือมนุษยืที่จะต้องเผชิญ กับ ภัยธรรมชาติ. .ความสำคัญ จึงอยู่ที่ว่า...พวกเราพร้อมหรือยัง..มหกรรม ยกแรก Episode i กำลังจะเริ้มขึ้นแล้ว...ขอให้ทุกท่านจงปลอดภัย ตามแรงบุญ และความดี ที่ได้สะสมไว้ ..ตลอดหลายภพ หลายชาติที่ผ่านมา..สวัสดี แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 48 จากคุณ : ตาที่สาม ![]() แหล่งที่มาhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/t...6/X3476656.html Last edited by เกษม : 28-05-2005 at 12:29 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#257 | ||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
แหล่งที่มาhttp://www.buddha-dhamma.com/index....page=1&No=44268 Last edited by เกษม : 21-05-2005 at 03:08 PM. |
||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#258 | |||||||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
ของหนีภาษี นำเข้าโดยเทวดา จากเขมร มาสู่ไทย!!
เป็นภาพที่ได้จากคุณตาที่สามครับ เค้าบรรยายว่าเป็นภาพของ พระธาตุ ซึ่งอยู่ที่ ภูผลาณไชย จังหวัดอุบลราชธานี ....ซึ่งนำเข้ามาโดยเทวดา!!! คุณตาที่สามบรรยายมาแค่นี้อ่ะ ผมก็ลองหาข้อมูลก็หาไม่เจอ - -" คงต้องรบกวนคุณตาที่สามอ่ะครับ ว่าที่มาที่ไปมันเป็นยังไงกัน
![]() ความคิดเห็นที่ 1 ขออนุญาต ตอบเท่าที่รู้นะครับ ไม่แน่ใจว่า จะเป็นองค์เดียวกับที่เคยอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ วัดปทุมวนาราม ตรงสยามช่วงวันมาฆบูชาที่ผ่านมารึเปล่า เจ้าอาวาสท่านมีใบประกาศบอกถึงที่มา ผมจำไม่ค่อยได้อ่ะ คราวๆ ว่า วันมาฆบูชาที่ผ่านมา เจ้าอาวาสบอกว่า มีเทวดาบอกจะอัญเชิญพระธาตุให้เสด็จ แต่ว่า เจ้าอาวาสก็ไม่แน่ใจ เทวดา ก็มาย้ำให้เตรียมรับเสด็จพระธาตุไว้ จะเสด็จแน่ๆ พอถึงวันมาฆบูชา หลังจากเวียนเทียนอะไรเรียบร้อย เจ้าอาวาส จึงเกิดรู้ว่าว่าพระธาตุกำลังจะเสด็จ เลยนำ อุบาสก อุบาสิกา ไปรอรับ โดยชูพานประดับดอกบัว ขึ้นบนฟ้า มีแสงพุ่งลงมายังพาน พออัญเชิญลงมาดู ก็ปรากฎเป็นพระธาตุเสด็จมา ต่อหน้าต่อตา คนทั้งหลาย นี่แหละครับ คราวๆนะครับ รายละเอียดรอคุณตาที่สามละกันฮะ จากคุณ : ชื่อ เทน นี่แหละ ![]() ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ครับ มีอยู่ช่วงหนึ่งได้อัญเชิญมาจาก วัดเขาภูผลาญไชย อ.นาจะหลวย อุบลราชธานี มาให้ผู้คนกราบไหว้บูชา ที่วัด สระปทุมวนาราม หลัง เวลร์เทรด ราชประสงค์ เทวดานำพระธาตุมาจากเขมร มี การกระทำพิธีตามที่ ได้อธิบายไว้ จำได้ว่า เป็น ข้อพระกรข้างขวา ที่ท่านต้องข้ามแดนเขมรเข้ามา เพราะ ประเทศเขมร จะจมน้ำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงต้อง เสด็จมาอยู่ในสถานทที่ดีที่สุด ผม กับคณะ อีก ประมาณ 15 คน ได้ไปที่ อุบล เพื่อ ต้อนรับ พระบรมสาริกธาตุ พระองค์นั้น...สาธุ สาธุ สาธุ จากคุณ : ตาที่สาม ![]() ความคิดเห็นที่ 6 ไปนมัสการมาแล้วที่วัดปทุมวนาราม เลยร่วมทำวัตรเย็น ดิฉัน ไประหว่าง 18.00-20.00 น. ใครมีเวลาเชิญค่ะ สนามหลวง ช่วงนี้ วันวิสาขบูชา ไปกราบพระบรมสาริกธาตุได้ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 48 14:18:45 จากคุณ : srisuda999 ![]() http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X3478066/X3478066.html Last edited by เกษม : 21-05-2005 at 03:24 PM. |
|||||||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#259 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
โลกเราถึงจุดวิกฤติแล้ว ทำไมไม่มีใครลงมาช่วยเลยครับ
ไม่ว่าจะเป็น เทวดา หรือพระหรือฆราวาสที่ช่วยโลกได้ทำไมไม่ช่วยให้รู้ๆกันไปเลยว่าอะไรคืออะไร โลกจะได้สงบสุขจากคุณ : cf' [26 เม.ย. 47 ![]() ค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆแหละ เทวดาเขากำลังคัดมนุษย์เข้าสู่ยุคพระยาธรรมิกราช ผู้ที่สร้างสมบารมีมาไม่พอและไม่มีศีลธรรมก็ค่อยๆทะยอยตายไป ด้วยอำนาจแห่งเทพเจ้าผู้ทำหน้าที่ ทางด้าน ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคภัย อุบัติเหตุ/ภัยสงคราม ทุกยุคทุกสมัยในโลกนี้เมื่อจะเข้าสู่ยุคพระจักรพรรดิ์ ก็จะมีระบบคัดผู้ไม่มีศีลธรรมออกไปจากระบบและสิ่งที่เทวดาเขาใช้เป็นตัวชี้วัด ก็คือบาป บุญ (กรรมดี/ชั่ว)ของมนุษย์นั่นเอง เพราะฉะนั้นเพื่อความไม่ประมาท ก็หมั่นสั่งสมความดี ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา กันดีกว่า บางครั้ง การอ่านตำรา มาหาถกเถียงกันนั้น ก็ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด ผู้ปฏิบัติเข้าถึงโลกภายใน ย่อมเข้าใจเรื่องของระบบพระจักรพรรดิ์ว่าเป็นอย่างไร เพราะย่อมไปรู้เห็นมาจากการปฏิบัติ แต่ก็พูดมากไม่ได้ว่าท่านเป็นใครอยู่ที่ไหน ทุกคนกลัวหัวจะแตกเจ็ดเสี่ยงกันทั้งนั้น เพราะเทวดาผู้ใหญ่ท่านสาปไว้อย่างนั้น ก็ไม่มีใครกล้าพูดรายละเอียด อย่างหลวงพ่อฤษีลิงดำท่านก็รู้ดีเรื่องพระจักรพรรดิ์ดี ท่านก็เป็นบริวารส่วนหนึ่งของระบบนี้แต่ก็พูดไม่ได้เช่นกัน เอาเป็นว่าโลกมนุษย์กำลังจะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่ ในไม่ช้าไม่นาน ผู้ที่มีบุญบารมีก็ยังคงอยู่ ส่วนที่ยังสั่งสมบุญบารมีมาไม่พอก็จะตายไป ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าคนปัจจุบันส่วนใหญ่ตายแล้วจะไปนรก และไม่ต้องสงสัยมากจะสามารถเห็นได้ในช่วงชีวิตเรานี่แหละ รอดูซึนามิรอบใหม่ที่จะใหญ่กว่าเดิมจากทะเลฝั่งซ้ายไปฝั่งขวา มุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของจีน รอดูการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ฯลฯ หรือแม้กระทั่งภาคใต้ของไทยเอง ระบบเขาก็จะค่อยๆกวาดไปเรื่อยๆ มวลกรรมของมนุษย์โลกก็เป็นอย่างนี้แหละ เป็นอันสรุปได้ว่าธรรมชาติเหล่านี้มีผู้ที่กระทำให้เกิดขึ้น เหมือนฝนเทียมนั้นมนุษย์เขาทำ ฝนแท้นั้นเทวดาเหล่าต่างๆเขาทำ และภัยพิบัติทั้งหลายก็มีผู้ทำหน้าที่ให้เกิดขึ้นเช่นกัน แค่นาคบางฝ่ายเขาโก่งหลังขึ้นก็จมไปครึ่งโลกแล้วล่ะ เข้าให้ถึงสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของธรรมชาติแล้วจะเข้าใจว่าธรรมชาติที่ไม่มีวิญญาณครองนั้น ยังมีระบบจิตวิญญาณควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าใครทำหน้าที่อะไร ปฏิบัติแบบไหน ก็ได้แบบนั้น เข้าให้ถึง "เฮ็ดจั๋งใด๋ ได้จั๋งซั่น เฮ็ดไห่ถึง" แหล่งข้อมูลของเรามีสามทางคือ หนึ่ง ครูบาอาจารย์บอกไว้ สอง สหธรรมมิกผู้อยู่ในผ้าเหลืองซึ่งเป็นนักปฏิบัติบอก สาม เราปฏิบัติท่องเที่ยวไปในภพภูมิ ไปสนทนากับเทพเจ้าผู้ที่ท่านทำหน้าที่ในโลกลี้ลับโดยตรงและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อข้อมูลจากสามแหล่งตรงกัน จึงจะเชื่อถือได้ สำคัญที่การปฏิบัติภายในแหละ เมื่อมีเหตุการณ์เกิดก็จะมีสิ่งมาบอกกล่าวหรือไม่เราก็ใช้เรดาร์ทางจิตไปตรวจ บางพวกก็ต้องการให้ช่วยสงเคราะห์แบบนั้นแบบนี้ ซึ่งต้องใช้ศาสตร์ของโลกภายในเขา สำคัญที่พลังบุญกุศลนั่นแหละ แค่สงเคราะห์ญาติกาที่ตกๆหล่นๆและยังทุกข์ยังยากอยู่ตามภพภูมิต่างๆและที่ติดตามมาในอดีต ที่ทั้งเห็นตัวและไม่เห็นตัว นี่ก็เหนื่อยเต็มที่แล้ว ที่ไปจะสงเคราะห์โลกนั้น พระมหาโพธิสัตว์ท่านทำอยู่แล้ว เราแค่เป็นลูกมือหยิบนั่น จับนี่ ไปอยู่ในตำแหน่งที่สมควรเท่านั้น ส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์สำคัญๆท่านก็มาบอกเช่นกัน อย่าง หลวงปู่ทวด สมเด็จโต เป็นต้น ก็ยังอยู่กันครบหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีใครหายไปไหน แค่ไม่ใช้ธาตุสี่ ท่านเหล่านั้นก็ใช้ธาตุทิพย์ได้ บางทีท่านก็ให้ช่วยสงเคราะห์คนสำคัญของท่านที่มีเกี่ยวพันกันกับเรามาบางชาติหรือหลายๆชาติ ก็ทำไปตามที่จะทำได้นั่นแหละ ก็เหนื่อยหน่ายกับญาติมนุษย์ผู้กิเลสหนาซะเหลือเกิน กรรมก็เยอะ สร้างกันแต่เวรแต่กรรมกันสารพัด ก็รอแค่กรุงเทพฯจมน้ำเมื่อไหร่ ก็จะได้ไปทำหน้าที่อื่นต่อไป บอกได้แค่ว่าเมื่อถึงเวลาพญานาคที่ทำหน้าที่เขาจะทำฤทธิ์ ถ้าใครดีจริงก็รอด ใครไม่ดีจริงก็เสร็จ กฏแห่งกรรมก็เป็นอย่างนี้แหละ ศีลธรรมภายในที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลก็ทะยอยย้ายออกไปเรื่อยๆ เหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้ว เพราะอำนาจยักษ์ อำนาจมารมันมีมาก รวมทั้งมวลบาปของคน กทม. ก็มีมากด้วย ฝ่ายศีลธรรมจะไม่รักษาคนบาป สำหรับทางภาคใต้นั้นพวกยักษ์ภายในมันกินเลือด หากมัวปราบภายนอก ไม่ปราบภายในก็สู้ยักษ์และบริวารยักษ์ไม่ได้แหละ หากเทพเจ้าภายในเขาปราบพวกยักษ์แสบๆทางภาคใต้ก็คงจะแปลออกมาภายนอก อยู่ในรูปของภัยพิบัติแหละ และคนที่ต้องตายเพราะเหตุเหล่านั้นเขาก็มีกรรมมาแต่อดีต และตายไปแล้วก็สงเคราะห์ยากเพราะถือว่าเทพเจ้าเขาลงโทษ ชีวิตมนุษย์ยุค 80 ปีนี่แสนสั้นก็รีบเร่งปฏิบัติกัน เอาตัวให้รอดก่อนแล้วช่วยคนอื่นทีหลัง ภายในสิบปีข้างหน้านี้ใครมีชีวิตอยู่รอดได้ ถือว่าโชคดีสุดๆ อย่าคิดมาก ให้ถือว่าเป็นนิทานของโลกภายในเขาก็แล้วกัน ปฏิบัติให้ถึงก่อนจึงจะเชื่อ อย่าเชื่อโดยที่ตัวเองยังไม่ได้ปฏิบัติ จากคุณ : คนไกล [06 เม.ย. 48 ![]() แหล่งที่มา http://larndham.net/index.php?showtopic=11923&st=39 Last edited by เกษม : 22-05-2005 at 01:10 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#260 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
สงครามโลกครั้งที่ 3 หายนะล้างโลก ด้วยน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง โดยคุณ witt แห่งเวปพุทธภูมิ
เรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 3 นี้ได้มาจากการที่ผมได้เคยพูดคุยกับหลายท่านมาในระดับหนึ่ง และเล็งเห็นว่าสงครามเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อต้องการอำนาจ เงินตรา ทรัพยากรทางธรรมชาติในส่วนที่ตนไม่มี ในส่วนที่เอามาลงในนี้ถือว่าเป็นส่วนที่ข้าพเจ้าได้รวมรวมข้อมูลมา และสรุปเองโดยคร่าวๆ รายละเอียดมีตามนี้ครับ สงครามล้างโลก โลกจะเกิดภัยพิบัติด้วยน้ำมือของเหล่ามวลมนุษย์ ทุกชีวิตจะล้มตาย ส่วนที่เหลือ จะได้รับความลำบากทุกข์ยาก อย่างแสนเข็น ขาดแคลนทั้งเสบียง อาหาร น้ำดื่ม มนุษย์จะฆ่ากันเอง จงจัดเตรียมเสบียง อาหารน้ำดื่มไว้ให้พร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น สงครามจะเริ่มก่อตัวขึ้นแถว อเมริกาเหนือ จะลามออกมาทางฝั่งตะวันออก จะมีสามผ่ายหลักใหญ่ ได้แก่ อเมริกา จีน อินเดีย เพื่อแย่งชิง อำนาจเหนืออธิปไตยประเทศอื่น สงครามจะดำเนินต่อเนื่อง 7 เดือน ถึง 1 ปี 6 เดือน และจบลงด้วยระเบิดนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สามารถล้มล้างประเทศใด ประเทศหนึ่ง ให้หายออกไปจากโลกใบนี้ได้ อเมริกา ล่มสลายประเทศต่างๆก็ได้รับบาดเจ็บ บอบช้ำไปตามๆกัน คนที่ตายก็ตายไป ส่วนคนที่อยู่จะได้รับความทุกข์ยากลำบาก แต่ผลที่ตามมานั้นร้ายแรงกว่าที่คิด ประชาชนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด พลัดพรากจากครอบครัวแหล่งน้ำตามธรรมชาติจะใช้ไม่ได้เพราะเจือปนด้วยสารเคมี ข้าวจะหายาก หมากจะราคาแพง ต้องดิ้นรนสุดชีวิต โจรผู้ร้ายก็ชุกชุมเพราะความอดอยาก โรคระบาดจะคอยซ้ำเติม ช่วงเวลาที่ทรมานอย่างนรกนี้จะกินเวลาประมาณ 5 ปี จึงจะค่อยเริ่มฟื้นตัว เทคโนโลยีที่มีอยู่จะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สันติภาพจะเกิดขึ้น สาเหตุของสงคราม ตามที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสงครามมิใช่สิ่งที่ดีนอกจากการสูญเสียกำลังทรัพย์ สินเงินทอง เลือดเนื้อ ชีวิต นับพันนับหมื่นคน แต่ทำไมคนเราถึงยังก่อสงครามกันอยู่ได้ เนื่องมาจากความโลภโมโทสัน อยากมีอยากได้ นี้เป็นสาเหตุหลัก สงครามมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะความอยากได้ในสิ่งที่ตนไม่มี ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี มีการยกทัพเพื่อแย่งชิงดินแดนอาณาเขตเพื่อขยายอาณาจักรของตนเอง ถ้าอีกฝ่ายยอมก็ไม่มีการเกิดสงครามแต่ต้องยอมอยู่ภายใต้อำนาจกดขี่ข่มแหงของผู้อื่น ซึ่งการยอมอยู่ใต้ผู้อื่นย่อมไม่มีทางที่จะยอมได้ง่ายๆ สาเหตุหลักของการเกิดสงคราม โลกครั้งที่ 3 เนื่องจากสาเหตุขัดประโยชน์กันเอง ไม่มีใครยอมใครต่างถือว่าตนใหญ่จะเอาให้ได้ ไม่ได้ไม่ยอม จากเรื่องระหว่าง สองประเทศจะลามไปเรื่อยๆเหมือนไฟลามทุ่ง คือ ขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็วๆ ครอบคลุมโลกใบนี้ ผลกระทบระดับโลก พื้นที่หลายส่วนจะถูกลบทิ้งออกจากแผนที่โลก บางแห่งอาจจะหายไปทั้งประชากรและแผ่นดิน สิ่งที่ไม่น่าเกิดก็จะเกิดขึ้น รวมถึงภัยพิบัติต่างๆตามธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จำนวนประชากรโลกจะถูกลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น แผนที่โลกจะมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ในขณะที่สัตว์ชนิดต่างๆพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาวะเลวร้าย จะเกิดเหตุการณ์คนกินคน สัตว์กินคน เพราะความหิว กระหาย สารเคมีพวกกัมมันตภาพรังสี ที่แพร่ไปทั่วโลก จะมีผลทำให้มนุษย์ เป็นโรคผิวหนัง อย่างรุนแรง ต้นไม้จะเหี่ยวเฉาเพราะปรับสภาพไม่ทัน เสียงคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานจะมีอยู่ทั่วไปหมด คนพิการจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นคนที่แขนขาสมบูรณ์น้อยลง ช่วงก่อนสงคราม ช่วงก่อนที่จะเกิดสงครามอาหารการกินทั่วโลกจะอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าราคาสินค้าอาจจะแพงอยู่บ้างแต่สามารถหาซื้อหากินได้โดยทั่วไปแล้ว ประชาชนจะอยู่ดีมีความสุข ไม่นึกถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่มีการกักตุนสินค้า ข้าวสาร อาหารแห้ง เกลือ และ น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นและต้องเตรียมสำรองในปริมาณที่มากและเพียงพอในถาวะวิกฤตช่วงต้นของสงคราม ราคาสินค้าอาหารจะทยอยเริ่มขึ้นราคา คนที่พอมีเงินจะสามารถซื้อ ข้าวปลาอาหารไว้ได้อย่างเพียงพอ คนที่ไม่มีเงินทองก็จะอดตาย ถือเป็นการล้างโลกทางอ้อมอีกทางหนึ่ง สงครามจะเริ่มจากฝั่งตะวันตกและจะลามมาทางตะวันออก รวมถึงประเทศไทย ในช่วงสงครามเริ่มก่อตัวประชาชนทั่วไปจะไม่ค่อยรู้สึกสักเท่าไหร่ เพราะจะเป็นเหมือนสงครามปรกติ ที่เกิดขึ้นทั่วไป แต่สินค้าทางการเกษตรจะมีราคาสูงขึ้น เนื่องจาก สภาวะสงคราม ช่วงต้นและกลางของสงคราม ช่วงแรกสงครามจะเริ่มก่อตัวขึ้นบริเวณแถบยุโรบอเมริกา ช่วงแรกจะจำกัดพื้นที่ในบริเวณนั้นประมาณ 5 เดือน ในช่วงนี้จะมีการหาสมัครพรรคพวกและอาศัยประเทศข้างเคียงเป็นสนามรบ ประชาชนแถบยุโรบ จะเดือนร้อนกันไปทั่ว ประเทศไทยยังไม่มีที่ท่าที่แน่นอนยังแค่ประกาศให้ความช่วยเหลือทั้งสองผ่าย ต่างคนต่างต้องการให้สงครามสงบโดยเร็ว แต่ประเทศมหาอำนาจไม่ยอมให้สงบเร็วเนื่องจาก กลัวว่าจะเจอภัยทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ้งหมายถึงจะหมดอำนาจที่จะครองโลก หลังจากช่วง 5 เดือนแรก ต่างผ่ายก็ได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และต่างก็เหนื่อยล้าเต็มทีที่ต้องรบ แต่ว่าผลกระทบจากสงคราม คือ สงครามไม่ได้เจาะจงเฉพาะ เพียงแค่ ไม่กี่ประเทศ แต่ว่าสงครามจะกระจายตัวเองไปทั่วและลามมาฝั่งเอเชียตะวันออกช่วงนี้จะกินเวลาประมาณ 4-5 เดือน การสู้รบจะดุเดือดขึ้น ประเทศที่มีหัวรบ จรวดนิวเคลียร์ จะเตรียบหัวรบเพื่อเล็งไปยังประเทศที่เป็นศัตรู จะยังไม่มีการยิงระเบิดนิวเคลียร์ จะอยู่ในสภาพพร้อมยิง จะเป็นการเตือนและข่มขู่กันขั้นสุดท้าย ช่วงปลายสงคราม ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากทหารประชาชนล้มตายกันมาก แทบจะล้างโลกเลยก็ว่าได้ ประเทศที่อ่อนแอ จะถูกควบคุมโดยประเทศมหาอำนาจเพื่อประโยชน์ทางการทหาร และทางเศรษฐกิจ ความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนหน้าทีก็ยังตามมาส่งผลตามมาเรื่อยๆ ประชาชนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด พลัดพรากจากัน ช่วงนี้แหละจะเป็นช่วง ขาดแคลนเสบียง อาหารเหลือน้อยไม่พอบริโภค เพราะผลผลิตที่ได้มามีปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับความต้องการของมนุษย์ แม้ว่าประชากรโลกจะลดลงไปเยอะก็ตาม แหล่งผลิตอาหารจะหมดไม่ไปเพราะไม่มีคนที่จะผลิตอาหาร ช่วงนี้จะกินเวลาประมาณ 3- 5 เดือน จำนวนยอดผู้เสียชีวิตเข้าสู่หลักล้าน ระเบิดนิวเคลียร์จะถูกปล่อยออกมาเพื่อโจมตีไปยังหัวใจของผ่ายข้าศึก เพื่อชัยชนะ ต่างผ่ายก็ปล่อยออกมาลูกแล้วลูกเล่า เพื่อกำจัดศัตรูทางการทหารให้หมดไปแต่ผลที่ได้รับคือ ต่างผ่ายต่างก็ได้รับความเสียหาย บ้านเมืองพังพินาศ จะเหลือที่ดีๆ ก็มีอยู่ส่วนน้อย เต็มทีและมีแต่ซากปรักหักพัง ผลของนิวเคลียร์จะทำให้ อากาศ อาหาร และน้ำดื่ม ปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี ทั้งสัตว์ทั้งมนุษย์ จะตายอย่างอเนจอนาถ ส่วนที่รอดและได้รับสารเคมีอย่างแรงจะเป็นโรคผิวหนัง เนื้อจะตายและเน่าได้รับความทรมานอย่างยิ่ง ส่วนคนที่ได้รับสารแคมีอย่างกลาง ผิวหนัง พุผองและเนื้อจะค่อยๆตายอย่างช้าๆทรมานแสนสาหัสถ้าจะรอดก็คงต้องอยู่อย่างคนพิการ ส่วนคนที่ได้รับสารเคมีอย่างอ่อน จะเกิดอาการระคายเคือง รักษา ให้หายด้วยความยากลำบากเพราะขาดแคลน ยา และเครื่องมือ ส่วนคนที่ไม่ได้รับสารเคมีถือว่าโชคดีไม่ได้รับสารเคมี แต่ก็ได้รับความกระทบกระเทือน จากผลของสงคราม เมื่อระเบิดนิวเคลียร์ถูกใช้หมดไป ต่างฝ่ายต่างก็ประเมิน สถานการณ์ บางผ่ายก็ยอมแพ้ บางผ่ายก็ดีใจที่ตัวเองชนะแต่ในที่สุดไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเกิดขึ้น ต่างก็เจรจายุติศึก สูญเสียเงินทอง ชีวิต ที่ไม่สามารถประมาณได้ สภาวะหลังสงคราม หลังจากสงครามเสร็จสิ้นต่างฝ่ายต่างพยายามฟื้นฟูสภาพประเทศของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายอย่างยับเยิน ประเทศไทยก็ได้รับความเสียหายไม่น้อยแต่สามารถเอาตัวรอดจากสภาพวิกฤตได้ดี ถึงแม้จะไม่เป็นเมืองขึ้นของใครก็ตาม แต่ก็ถูกพวกต่างชาติบีบบังคับต่างๆนานา ส่วนสภาพบ้านเมืองเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ความอดยากของประชาชน ชุมนุมโจรมีมากขึ้นคอยปล้นสะดมชาวบ้าน ไม่รู้จักทำมาหากิน แต่พวกนี้จะหมดไป เพราะทางการสามารถปราบปรามได้สำเร็จ ตรงนี้จะเป็นยุคทองของประเทศไทย สมกับชื่อที่ว่าสุวรรณภูมิ แดนศรีวิไลใต้ดินจะมีน้ำมัน อัญมณี สารแร่ต่างๆ เศรษฐกิจจะเจริญก้าวหน้า ในช่วง 5 ปีแรกของการฟื้นฟูประเทศ เรียกว่าช่วงลำบาก เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องทำ ทั้งการวางระบบสาธารณูปโภคใหม่หมด การพัฒนาทางด้านการศึกษา การเกษตร เพื่อให้บ้านเมืองคืนสู่สภาวะปรกติให้เร็วที่สุดถึงแม้ว่าราคาสินค้า จะค่อนข้างสูง แต่ราคาก็จะไม่แพงมากจนเกินไป หลังจากช่วง 5 ปี สภาวการณ์กับสู่สภาพปรกติ แต่ยังเหลือรอยคราบแห่งอดีตของสงครามโลกครั้งที่ 3 ความโศกเศร้าอาลัยต่อผู้ที่เสียชีวิต พิการ แม้แต่ขาดแคลนที่พักอาศัย อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค รวมทั้งเครื่องนุ่งห่ม การเตรียมพร้อมรับมือ สงครามโลก ช่วงแรกให้แรกให้เริ่มกักตุนสินค้าอุปโภคปริโภคให้มากที่สุด เพราะจำเป็นต้องใช้ในช่วงสุดท้ายของสงคราม และช่วงแรกของสงครามสงบ จะเป็นช่วงที่อดอยาก และขาดแคลนอาหาร เพราะสารเคมีชนิดต่างๆกระจายไปทั่ว เจือปนทั้งในน้ำดื่มและอาหาร แหล่งน้ำธรรมชาติ แทบไม่มีประโยชน์เพราะสารพิษเจือปนเยอะ ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบกระเทือนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่พื้นที่บางส่วนจะหายไปข้าวจะหายาก หมากก็จะราคาแพง ต้องกินอย่างประหยัด อดมื้อกินมื้อ ชุมนุมโจรต่างๆเกิดขึ้น เพื่อปล้นแย่งเสบียงของชาวบ้าน จะเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ภาครัฐจะเร่งปราบปรามชุมนุมโจรต่างๆ พื้นฟูเศรษฐกิจ พัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากประชากรลดน้อยลงและขาดแคลนทัพยากรบุคคล การกำจักสารเคมีในอากาศหรือฝนเหลือง เป็นไปได้ยากเนื่องยงจากรัฐไม่ได้มีการเตรียมการไว้ และไม่มีความพร้อมในการดำเนินงาน ประเทศไทยจะใช้เวลาถึง 5 ปี เพื่อการพื้นตัวแต่จะเร็วกว่าประเทศอื่น แต่ต้องอาศัยความสามัคคีภายในประเทศเป็นหลัก โรคระบาดจะมีมาเรื่อยๆ แต่พอสามารถควบคุมได้ คนตายด้วยโรคระบาดก็เยอะ หยูกยาจะหายากเพราะคนใช้เยอะ และขาดแคลน ของที่มีก็พอจะประทังชีวิตไปได้บ้าง จนรอดพ้นจากความอดอยาก คนที่ทนได้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนใครที่ตายในช่วงนี้ถือว่าไม่ต้องทรมานมาก แหล่งที่มาhttp://www.buddhabhumi.info/wm_talk/ww3/ww3.html Last edited by เกษม : 03-06-2005 at 01:30 PM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#261 |
สมาชิก
Join Date: May 2005
โพส: 2
Rep Power: 0
![]() |
อารายจะเกิดก้อต้องเกิดไปซีเรียส กันทำไมผมว่าน่าตื่นเต้นดีออก ถ้าเราประสบเหตอย่างงั้นเงินทองอาจไม่มีประโยชนเหมือน สมัยสงครามโลกครั้งที่2 ก้อได้และเราจะได้รู้หลายๆสิ่งหลายอย่างเหมือนที่ คนรุ่นเก่าได้รู้ไง อิอิ
|
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#262 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
ปูยักษ์ขึ้นจากทะเล
เช้าวันนี้ 30 พค48 มาทำงาน ปกติที่ๆทำงานบางสีทอง นนทบุรี พบคนงานหญิง..เขาถามว่า วันก่อน นายดู ทีวีหรือเปล่า เขาถ่ายทอดข่าวมีปูยักษ์ ขนาด ตัวเท่าปี๊ป แขนขายาวเป็นฟุต เดินโย่งเย่งขึ้นมาที่ฝั่ง ตัวหัวหน้าใหญ่ที่สุด พาบริวาร ตัวขนาด หม้อข้าว ขึ้นมา นับประมาณได้มากกว่า 4,1000(สีหมื่นกว่าตัว) จำนวน ขนาด เต็มสนามหลวง " เป็นข่าวที่แปลกและน่ากลัว ผมไม่ได้ดูรายการที่ว่า สมาชิกท่านใด ได้ดู และถ่ายภาพข่าวไว้ หรือมีข้อมูล ขอให้เล่ามาบนจอด้วย เพื่อยืนยันว่า ข่าวนี้ เป็นจริง ถ้าจริง หมายความว่า สัตว์ที่อยู่น้ำลึก ก้นมหาสมุทร ได้เคลื่อนย้ายหนีขึ้นมา จาก ที่ๆๆเคยอยู่ สัตว์เหล่านี้ ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ไวต่อ ไวเบรชั่น และ รีบหนีก่อน...หมายความว่า..อย่างไร..หรือว่า Episode i ของเมืองไทย กำลังจะเริ่มแล้ว ในไม่ช้านี้ ขอให้ผู้ที่ได้เห็น ได้ยิน ข่าวปูยักษ์หนีจากท้องทะเล ขึ้นมา ยืนยัน ถ้าไม่มีก็..ขอให้เป็นข่าวลือ..ด้วยเถิด สาธุ จากคุณ : ตาที่สาม ![]() ข่าวนั้นเป็นความจริงผมก็ได้ดู แต่มันไม่ได้เกิดอยู่ในประเทศไทย...นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าปูมารวมตัวกันเพื่อผสมพันธ์...แต่ปูชนิดนี้ปรกติจะหากินเป็นอิสระไม่อยู่รวมกันเป็นปูน้ำลึกครับ จากคุณ : stock1991 ![]() สรุปว่า เรื่องปูยักษ์ ขึ้นฝั่งเป็นเรื่องจริง อธิบายว่า ขึ้นมาผสมพันธ์ แปลกมาก เวลาผสมพันธ์ ต้องขึ้นมาข้างบน ให้คนจับไป นึ่งง่ายๆๆ ทำไม...ฟ้งหูไว้หูต่อไป.. จากคุณ : ตาที่สาม ![]() แหล่งที่มาhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/t...1/X3510131.html Last edited by เกษม : 03-06-2005 at 12:07 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#263 |
สมาชิก
Join Date: Sep 2004
โพส: 144
Rep Power: 23
![]() |
เฮ้อ...อ่านแล้วก็ใจตุ๋มๆ ต่อมๆ....ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างที่ว่ากันไว้เมื่อไร แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่บอกว่า ด้วยพระบารมีของในหลวงจะช่วยให้ประเทศไทยรอดพ้นจากเหตุการณ์ร้ายในครั้งนี้ได้ ...ก็ขอให้เป็นจริง
อย่างที่บอกเถิด... สงสารคนที่จะได้รับชะตากรรมนั้น...และกริ่งเกรงว่าตัวเองและครอบครัวจะรอดพ้น จากภัยนั้นได้หรือเปล่าก็ไม่รู้.... |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#264 |
สมาชิก
Join Date: Mar 2005
โพส: 11
Rep Power: 0
![]() |
World Leaders Prepare For Chaos As Scientists Confirm Massive Ocean Changes, Massive Droughts Begin Overtaking Entire Globe
Reports have reached us today that Western scientists have now confirmed the findings of their Russian scientific counterparts that massive global changes are now occurring to the worlds ocean systems, and as we can read as reported by the New Zealand Press News Service in their article titled "Slowing currents could cause catastrophe" and which says; "Powerful ocean currents are grinding slowly to a halt, raising the possibility of a catastrophic climate "flip" that could chill Europe and warm New Zealand, startling new evidence suggests. Scientists have detected evidence of a slowdown in ocean currents that control climate across the globe, supporting earlier research on the threats of global warming. Without these currents, parts of the globe are expected to alter dramatically. The climate in Europe would cool significantly, while New Zealand would be warmer and more susceptible to exotic diseases, scientists suggest." Not known to many Westerners is that both the World Bank and the United States Government had previously warned them of these now occurring events, and as we can read as reported by the Greenpeace Environmental News Service in their article titled "World Bank, Pentagon: global warming red alert" and which says; "A world thrown into turmoil by drought, floods, typhoons. Whole countries rendered uninhabitable. The political capital of the Netherlands submerged. The borders of the US and Australia patrolled by armies firing into waves of starving boat people desperate to find a new home. Fishing boats armed with cannon to drive off competitors. Demands for access to water and farmland backed up with nuclear weapons. Sound like the ravings of doom-saying environmental extremists? It's actually from a report commissioned by the Pentagon on how to ready America for the coming climate Armageddon. Fifteen years ago, some of us were warning of the impacts of fossil fuels on the climate. The science was less conclusive than today, but we, along with most climatologists, believed that the consequences were of such magnitude that immediate action was prudent. Today, environmentalists aren't the only ones saying that. The World Bank and the Pentagon have both commissioned studies which finally admit that our world is in serious peril, and the biggest threat to our future is not terrorism, but our own dependence on fossil fuels. In other words, "We have met the enemy, and he is us." Of the greatest immediate concern has been the violent changes in weather patterns occurring over the Northern Hemisphere since December, 2004 that have seen an almost total disruption to this springs growing seasons for crops, and as can be seen reported by the United States Department of Agriculture on their weekly Drought Report Map that fully 80% of their prime growing areas are now experiencing drought. One of the worlds other prime agricultural areas in the southern parts of Brazil have also been affected by these massively changing weather patterns, and as we can read as reported by United Press International News Service in their article titled "Torrential rains hit Brazils economic capital" and which says, "Torrential rains in Brazil`s economic capital flooded streets and neighborhoods and brought parts of the city to a standstill. At least five people were killed by flash floods and mudslides in many of Sao Paulo`s "favelas" or slums. Both the city and much of southern Brazil were pounded by several days of rain. Nearly half a foot of rain was recorded in Sao Paulo Wednesday, Estado de Sao Paulo newspaper reported." So severe is the drought in one of the worlds other large agricultural countries that the Australian Government is now reporting that their drought is beginning to affect their entire national economy, and as we can read as reported by the Australian Advertiser News Service in their article titled "Drought slows down economy" and which says; "AUSTRALIA'S economy is on the move again but is hamstrung by the drought and not growing fast enough to warrant another interest rate rise. Deputy Prime Minister John Anderson warned that if the current drought ravaging the central and eastern states does not break soon, a full 1 per cent could be wiped off economic growth. Mr. Costello said the precise impact was hard to predict. "Tell me when the rains come and I'll give you a precise outcome as to the effect it will have," he said." Perhaps no area of the world will be more immediately affected by these massively changing weather systems than India, where two thirds of a billion of these peoples depend upon the annual monsoon rains for their crops, and which has failed to arrive so far this year. Reports from this region are speculating that though late the monsoons might arrive in time, and as we can read as reported by the Reuters News Service in their article titled Monsoon advances, may hit before June 7 and which says; "The southwest monsoon has set in over the southern part of Sri Lanka after a delay of about five days and may hit the Indian coast even earlier than the revised arrival date of June 7, weather officials said on Wednesday. The annual monsoon, an important driver of Indian economy, generally arrives over Kerala on June 1 but the India Meteorological Department said last month it might be delayed by a week. The monsoon, which runs from June to September, is closely watched in India as two-thirds of the billion-plus population earns a living from agriculture, which generates about a quarter of the countrys gross domestic product." Reports from the Ukraine, one of the worlds largest producers of grain crops, is also reporting losses due to these massively changing global weather patterns, and as we can read as reported by the Ukraine Internet News Service in their article titled "Ukraine loses grain yields to dry weather" and which says, "Forecast grain yields in Ukraine are dropping considerably because of unfavorable weather conditions, Tetyana Adamenko, agriculture specialist from Ukrainian weather centre said to APK-Inform on Monday. She said more than 30 percent of Ukrainian territory was now affected by soil drought. These are major grain producing regions, such as Lugansk, Zaporozhye, Nikolaev, Kherson, a part of Donetsk Oblasts, steppe area of the Crimea and some localities in central oblasts." To these many reports of drought conditions hitting the worlds main agricultural growing regions the worlds top scientists have also sounded their warnings, and as we can read as reported by the British Independent News Service in their article titled "Climate change poses threat to food supply, scientists say" and which says, "Worldwide production of essential crops such as wheat, rice, maize and soya beans is likely to be hit much harder by global warming than previously predicted, an international conference in London has heard." To the Western peoples in either knowing or in their preparing for these currently occurring massive weather global weather changes we still see no evidence of them doing anything to protect themselves, and as we had previously stated in our report titled "Western Scientists Admit Massive Blasts to Earths Atmosphere as Global Weather Systems Begin Massive Shift" wherein we had said; To our hoping is always that these Western peoples will begin their preparations for the massive weather changes, to especially diverting their spending towards food. Either to the growing of their own food, or to their storing of food, who would not begin preparing for these things like these Western peoples? Only to these Western peoples can this be found, this type of thinking, that all will be tomorrow as it is today. It is as if they are not even aware of what is happening in, and to, the very world they live in. Today our hopes remain the same that these Western peoples will begin the immediate preparations necessary for the protection of themselves and their families in the face of the global famine soon to occur. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#265 |
สมาชิก
Join Date: Mar 2005
โพส: 11
Rep Power: 0
![]() |
Weather News
-Quake Rattles Tennessee Part of New Madrid Fault Region -New Madrid Fault System -Australia's Drought Worsens as Autumn Rains Fail -Snow Hits Somalia For First Time In History -Slowing ocean currents could cause catastrophe -Risk of bird flu 'higher than ever' -Strange Fast Growing Algae Strikes Arkansas River -Torrential rains lash central China -Brazil Government Shocked As No Letup In Onslaught On Amazon Rain Forest Seen -US Bars Cattle From Mexico Over Disease Fears -Excessive secrecy deeply flaws flu fight -Asian nation begins massive anti-polio drive |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#266 |
สมาชิก
Join Date: Mar 2005
โพส: 11
Rep Power: 0
![]() |
New Earthquake Hits New Madrid Fault As North American Continent Instability Increases, Mass Whale Beachings Presage More Catastrophic Earth Changes
Reports have reached us today that yet another earthquake has occurred in one of the most dangerous earthquake zones of the world called the New Madrid Fault, and as we can read as reported by the Associated Press News Service in their article titled "Quake Rattles Tenn.; No Damage Reported" and which says; "DYERSBURG, Tenn. - A minor earthquake struck northwestern Tennessee early Thursday, jarring some residents awake but causing no reported damage. The quake had a magnitude of 4.0 and was centered 10 miles north-northwest of Dyersburg, the U.S. Geological Survey reported. The area where the quake hit is in the New Madrid fault zone, a seismically active area that runs along the Mississippi River. Dyer County fire chief James Paul Medling said emergency agencies were flooded with telephone calls from anxious residents shortly after the 6:38 a.m. CDT event, but no one reported any damage." This latest New Madrid Fault Zone earthquake follows yet more serious earthquake disturbances at the eastern end of the North American Plate, and where incredible stresses are continuing to build upon the Northern Mid Atlantic Ridge Region, and of which we have previously reported about in numerous of our reports including our May 18, 2004 report titled "United States Oklahoma Region Earthquake Increases Cataclysmic Event Probability 100 Fold Russian Scientists Report" and wherein we had stated; Russian Scientists are reporting today that the chances of a cataclysmic earthquake event occurring in the Americas has increased over 100 fold following the earthquake this week in the United States Oklahoma Region and which has shown the probability of the Meers Fault Line in that region awakening. The 2.9 magnitude event in the Oklahoma Region on May 16th has been preceded by: May 16th, 1.6 magnitude event in the Tennessee Region; May 15th, 1.5 magnitude event in the Southeastern Missouri Region; May 13th, 1.6 magnitude event in the Southeastern Missouri Region; May 1st, 4.1 magnitude event in the Arkansas Region; April 21st, 3.0 magnitude event in the Texas and Oklahoma Region. These earthquake events are also occurring in near simultaneous occurrences with similar earthquake events in the Icelandic and Northern Atlantic Regions where two Great Plates of the world meet, and of which we have previously reported in numerous reports, including "Massive Pressure Builds upon North American Plate as Continued Bombardment of Earths Atmosphere by Cosmic Blasts Shake Worlds Weather Systems", and wherein we had stated; In our March 6th report titled "Arctic Circle Earthquakes Begins North American Continent Instability, Greater Earthquakes Sure to Follow" we had warned about these events by stating; And now today as we are evidencing these events, not to the stability, but rather to the instability of the entire Eastern Seaboard Regions of the areas of Canada, the United States and the Caribbean Sea are we concerned about. Of concern to Russian researchers has also been that the United States Geological Services Quaternary Faults Maps for the Eastern Regions of this country are non-existent, so no further estimations can be made as to the immediate future course of these events. However, if these Northern Hemisphere events are indeed mirroring those of the Southern Hemispheres experience in December, 2004 (where an arctic pole (north or south) earthquake event precedes a much larger boundary plate event) a much larger event for this troubled region may be imminent. From all of the evidence from this region however there still appears to be no preparations, and even to the warnings given by the Americans own Center for Earthquake Research and Information which has said about these events, "The choice is ours. We can get ready and reduce our losses, or we can do nothing, and suffer the full consequences of a damaging earthquake. We need to continue to plan, to build better buildings, and make sure that earthquake preparedness becomes a part of all our lives. We cannot prevent the coming of an earthquake, but we can reduce the effects." Even more dangerous than to the ignoring of their own scientists warnings of these events, these Western peoples also ignore the older peoples of the earths wisdom that warns of violent earth changes within weeks of mass whale beachings, and of which yet another such mass beaching has occurred today, and as we can read as reported by the ABC News Service in their article titled Mass whale stranding at two Australian beaches" and which says, "Up to 160 whales became stranded on two beaches on Australia's southwest coast on Thursday after two pods beached themselves. The false killer whales, most between four and five meters (13 to 16 feet) long, beached themselves near the coastal town of Busselton, 200km (125 miles) south of the western city of Perth." These most loving and gentle giants of our Earths seas have always been for our protection and warning, even to the sacrificing of their own lives that ours may be spared have they always been. There is no greater Love than one who lays down his life for another, how sad that today the world has become a place where men no longer listen. As the new Global War increases is size and scope, the world prepares for the massive flu pandemic beginning now, massive weather changes are occurring the world over and cataclysmic volcanic and earthquake forces are building, even in the face of all of these events the Western peoples still pretend that nothing is occurring that will in any way affect them. How sad, how utterly sad will their awakening soon be to the true state of the world they live in, have been warned about, yet continue to ignore to the very peril of their lives. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#267 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
วิดีโอมือถือ มหกรรมชำระล้างแผ่นดิน(ภาคต่อ) โดยตาที่สาม
เมื่อ วันก่อน ได้เล่าเรื่องมหกรรมล้างแผ่นดิน ไว้เป็น สามภาค หรือ Episode i ii iii และมีคนพยายามที่จะรู้ว่า จะเริ่ม เมื่อใด ได้สนทนากับผู้ที่มีหน้าที่กดปุ่มเริ่มต้นแล้ว ได้ความยาว ค่อนข้างยาวแต่จะขอย่อ มาไว้ดังนี้ 1. มหกรรม นั้น ที่จริง จะเริ่ม ตั้งแต่ปี 2547 แต่บรรดา หลวงปู่ หลวงพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ของพวกคนไทย นับร่วมสิบ ได้ ขอ ใช้บารมี เลื่อนออกไป 2. เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็จะได้กำหนดอีกครั้ง ก็ถูกขอเลื่อนไปได้อีกครั้ง โดย หลวงปู่ หลวงพ่อ ทั้งหลาย การขอเลื่อนสอง ครั้ง ทำให้ บารมี หมดลงไปมาก และเบื้องบน ยินยอม แต่ ในครั้งที่สามนี้ บารมีของหลวงปู้หลวงพ่อ ทั้งหลาย จะไม่มากพอ ที่จะ เลื่อน การกวาดล้างเป็นไป ตามธรรมชาติกำหนด เพื่อ ล้างสิ่งที่เลวร้ายทั้งคน วิญญาณ และสภาพแผ่นดิน นิเวศน์วิทยา ให้ ลดลง สิ่งที่ตามมาคือ สภาพสังคม สภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าและชีวิตที่ดีกว่า น้ำหนักของกรรมนั้นบัดนี้เต็มตราชั่งแล้วแต่ ที่ยังกดปุ่มไม่ได้ เพราะน้ำหนักของกรรม (คนบาป คนเลว) ยังกระจายอยู่นอก Killing one หรือ พื้นที่ กำจัด ในไม่ช้าจะต้องมีการดลใจและชักนำทางอ้อมให้ เป้าหมาย เคลื่อนย้ายเข้าสู่ คิลลิ่งโซน เมื่อครบน้ำหนัก มหกรรมนั้นก็จะเริ่ม เหมือนปลาในบ่อใหญ่ หรือตามคลองหน้าวัด ธรรมดา จะกระจายกันอยู่ ทั่วท้องน้ำ วิธีที่ปลาจะมาออรวมกัน ก็คือ ต้องมีสิ่งล่อใจ เช่น ตามลานบุญ ในวัด ตามหน้าวัด ที่มี การให้อาหารปลา เมื่อมาเต็ม ก็โยนระเบิดปลาใส่ ก็จะจบเรื่อง..เรื่องนี้ก็จะทำนองเดียวกัน เมื่อรู้หลักนี้แล้วก็คงจะรู้ไม่ยากว่า การกดปุ่มจะเริ่มเมื่อใด ลองไล่ปฏิทินดู การตายของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องใหญ๋ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเป็นการเปลี่ยนสภาพจากเดิมไปเป็นรูปอื่นที่เป็นเหตุเป็นผลกับกรรมที่ได้ทำไว้ ครับ จากคุณ : ตาที่สาม ![]() แหล่งที่มาhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X3525934/X3525934.html Last edited by เกษม : 06-06-2005 at 11:30 PM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#268 | ||||||||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
หนังสืออินทร์ตกเทพทำนาย
ค้นพบหนังสืออินทร์ตกเทพทำนาย โดยคัดย่อ
หนังสือใบลานสีได้เก็บรักษาสืบทอดมาจากวัดแห่งหนึ่ง ในแขวงอัตตะปือ(ประเทศลาว) ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแผ่ให้ เลยเกิดศรัทธาเสียสละทรัพย์ส่วนตัว พิมพ์แจกจ่ายมายังญาติพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นการกุศลและเพื่อพิจารณญาณด้วยตนเอง ถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้ว่าดังนี้ โส ชัง ชน โทโพโส อินโตกรุณา
พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แล้วจงรีบร้อนบอกเล่าสู่กันฟัง หรือพิมพ์แจกจ่ายตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยท่านให้หลุดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ถ้าบุคคลใดไม่เชื่อมั่นตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจะเกิดเดือดร้อน ในปีจอ ขึ้น 4 ค่ำผู้มีบุญจะลงมาเกิด พร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าไม่มีอยู่ในบ้าน เรือนบ้านช่องของผู้ใด จะมีพวกผีปีศาจร้ายเข้าทำลายอย่างแน่แท้ ในปีจอต่อปีกุลยามเดือนหงาย จะเกิดมีงูพิษอยู่บนหัวกัดฉกให้ตาย และฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลายประการเช่น ทุกข์ยากร้อน เพราะศึกสงครามบ่แล้ว ทุกข์ยากร้อน เพราะมีคนตายตามทุ่งไร่ทุ่งนา ทุกข์ยากร้อน เพราะน้ำและไฟ ทุกข์ยากร้อน เพราะไม่มีผู้เฒ่า ทุกข์ยากร้อน เพราะไม่มีใครจะดูใคร ทุกข์ยากร้อน เพราะไปต่างประเทศไม่สะดวก ทุกข์ยากร้อน เพราะอดข้าวปลาอาหาร ทุกข์ยากร้อน เพราะนอนไม่หลับ ทุกข์ยากร้อน เพราะผัวเมียไม่เห็นหน้ากัน ในปีจอนี้เมืองเวียงจันทน์ จะมีองค์ฤาษีทองคำสิกขาลาบวชออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ตักน้ำอาบน้ำกิน ตามห้วยหนองคลองบึงหลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนมืดค่ำ) พญายมราชจะนำเอายาพิษพ่นมาใส่โลกมนุษย์ ในปีจอเมืองกรุงเทพฯ จะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตหัวเมืองเชียงใหม่เม็ดข้าวใหญ่ จะได้กลับคืนสู่เมืองเวียงจันทน์ นี้คือ พระคาถาขององค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนลงในใบลาน จงรักษาเก็บไว้ให้ดีเพื่อช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ในยามเกิดเหตุการณ์ มหันตภัย พระคาถาได้เขียนไว้ ปะโต เมตัง ปะละชิมินัง สุขะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะนัง สุขะโต จุติ
พระคาถาข้อนี้จะเขียนลงใส่ใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ดีให้ติดไว้บนประตู ห้องเรือน หรือรถราพาหนะ หรือพันหัวไว้ในยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้รอดพ้นภัยอันตราย ในกาละเวลานี้เทพเจ้าเหล่าเทวดา ผู้คุ้มครองรักษาเหล่ามนุษย์โลก ได้ไปกราบทูลต่อพระอินทร์ว่า มนุษย์โลกทำกุศลผลบุญ (ความดี) เพียง 3 ส่วน และทำบาปกรรม (ความชั่วร้าย) ถึง 10 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้พระองค์อินทร์จะได้ลงโทษกับมนุษย์โลก ถึง 9 ข้อนับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุล คือ จะให้เกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหวหวั่น จะให้เกิดสารพิษต่างๆ (อากาศ - อาหาร เป็นพิษ) จะให้เกิดไฟไหม้ (อัคคีภัย) จะให้เกิดกาฬโรคต่าง ๆ (พยาธิร้าย) จะให้เกิดน้ำท่วม (อุทกภัย) จะให้เกิดอด ข้าว ปลา อาหาร จะให้เกิดฟ้าฝ่า จะให้เกิดอาฆาตฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนใจบาป จะให้เกิดร้อนมาก หนาวมาก มหันตภัยทั้ง 9 อย่างนี้ จะรอดพ้นเฉพาะคนใจบุญ คนที่ปฎิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อกันไป ให้รีบเร่งทำแต่ความดีมากกว่าทำบาปกรรมชั่วร้าย ถ้าผ่านปีจอ ปีกุล ไปแล้วทุกคนพร้อมทั้งลูก หลาน เหลน จะได้รับความสุขสบายกันทั่วหน้า (เวลาเหลือน้อย) ให้ทุกคนเคร่งครัดถือศีล 5 ข้อ ให้ขยันไหว้พระ ภาวนา ให้ทาน เพื่อการกุศล อย่างต่อเนื่อง ศีล 5 ข้อได้แก่ ห้ามเบียดเบียนสิ่งมีชีวิต (ทุกชีวิตใครก็รัก) ห้ามลักเอาสิ่งของผู้อื่นมาเป็นของตน ห้ามล่วงเกินเป็นชู้คนอื่น เมีย ผัว คนอื่น (ที่มีเจ้าของ) ห้ามพูดปดหลอกลวงผู้อื่น ในทางที่ไม่ดีซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกสามัคคี หรือสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ห้ามดื่มหรือเสพของมึนเมาทั้งหลายทั้งปวง นอกจากหนังสืออินทร์ตกที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่ง ได้พบเห็นเนื้อในอักษรธรรมเขียนจารึกไว้ บนก้อนหินศิลาที่พึ่งพ้นจากพื้นดิน ในภูผาป่าดงแห่งหนึ่ง ที่พระรูปนี้ได้เดินธุดงค์ วิปัสสนากรรมฐานผ่านไป (ข้าพเจ้าไม่ขอบอกนามพระ และกำหนดสถานที่อย่างจะแจ้งได้) เพราะได้สอบหาข้อมูลละเอียดแล้วพระผู้ทรงศีล ได้กล่าวว่า โยมเอย ถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าโยมเชื่อก็เป็นกุศล ถ้าไม่เชื่อก็เป็นอกุศลรู้เพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในปีระกา - ปีจอ และปีกุล เดือน 7 8 จะเกิดเหตุร้ายตามถนนหนทาง เดือน 9 -10 คนใจบาปหยาบช้าจะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านก็ไม่มีคนอยู่ มีข้าวก็ไม่มีคนกิน มีทางก็ไม่มีคนเดิน สุดท้ายพระผู้ทรงศีลยังได้กล่าวเน้นย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสืออินทร์ตกอินทร์ตื่น ถ้าท่านผู้ใดเชื่อ ศรัทธา บูชา เคารพกราบไหว้ หรือบนบาน ว่าจะบอกเล่าต่อผู้อื่นหรือลงพิมพ์แจกให้สาธุชน คนทั้งหลายรับรู้ด้วยแล้ว ท่านจะปรารถนาสิ่งใดจะได้ดั่งใจนึก พยาธิร้ายที่เบียดเบียนกายก็จะหายขาด ท่านไม่เชื่อขออย่าลบหลู่เป็นอันขาด
พระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแพร่บอกกล่าวมา
แหล่งที่มาhttp://www.konmeungbua.com/webboard...on.asp?GID=5310 Last edited by เกษม : 08-06-2005 at 05:45 PM. |
||||||||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#269 | ||||||
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
เรื่องของเทวดา โดยอาจารย์คนเมืองบัว
อยากทราบมานานแล้ว ว่าในเมื่อเทวดามีจริง ทำไมเทวดาไม่ลงมาช่วยมนุษย์ล่ะครับ
แหล่งที่มา http://www.konmeungbua.com/webboard...on.asp?GID=5325 Last edited by เกษม : 07-06-2005 at 12:25 AM. |
||||||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#270 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
น่าเสียดาย...หากไม่พิจารณาเงื่อนเวลาที่ระบุกาลโลกาวินาศในพุทธทำนาย จากคุณ : ศรีวรุณะอิสโร
ก่อนนี้ ผมก็ได้นำ "พุทธทำนายจากพระโอษฐ์ ...จากหนังสือผูกอีสาน" มาโพสต์ไว้ที่ กระทู้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/t...9/X3514989.html แต่ด้วยความเห็นใจผู้เข้ามาอ่านในห้องลึกลับที่อาจไม่สันทัดในภาษาอีสาน อาจจะไม่เข้าใจ และปล่อยผ่านไปอย่างน่าเสียดาย...ผมจึงขออนุญาต หยิบประเด็น ที่จะพอเป็นประโยชน์ มานำเสนอเป็นภาษากลางให้อ่านง่ายๆ เพราะไม่กล้าแปลทั้งหมด เพราะแม้เป็นคนอีสาน แต่ก็ไม่สันทัดคำเก่าๆ เช่นกัน ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องที่อ่านแล้วอาจจะนำความสลดหดหู่และสิ้นหวัง ขอเริ่มต้นด้วยความหวังหลัง "วันโลกาวินาศ" ก่อน จากพุทธทำนายที่ว่า "องค์พระยาธรรมเจ้าสิลงมาครองโลก หากสิเห็นเที่ยงแท้ให้เพียรสร้างส่วนบุญ หัวทีนั้นพระองค์ทรงยั้งอยู่เมืองใหญ่สีปาด เป็นปัจจุบันเป็นเมืองลานช้างเฮาแท้เที่ยงจริง เผินจักมาเถิงแท้เดือน ๑๑ ขึ้น ๘ ค่ำ ครั้น พ.ศ. ไปเถิงสองพันห้าฮ้อยแล้วปีกุนหน้าเที่ยงจริง " ความหมาย...หลังเกิดมหาภัยพิบัติ จะมี "พระยาธรรมิกราช" คือพระราชาผู้ทรงธรรม มาปกครองบ้านเมือง และฟื้นฟูพระธรรมคำสอน ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ใน "ปีกุน" หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ ไปแล้ว ( เช่น ๒๕๑๔ ๒๕๒๖ ๒๕๓๘ ๒๕๕๐...ทุก ๑๒ ปี) ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ โดยผู้ที่จะมาเป็น "พระยาธรรมิกราช" มีพื้นเพเป็นคน "เมืองล้านช้าง" ข้อสังเกต...คำว่า "ล้านช้าง" คนภาคกลางมักเข้าใจว่า มีช้างเป็นล้านตัวคือมีช้างเยอะมาก และมักจะชี้ไปที่ "กรุงศรีสัตตนาคนหุต-หลวงพระบาง" ว่าเป็น "เมืองล้านช้าง" แต่ในอีกด้านหนึ่ง ใครที่เป็นคนกาฬสินธุ์ หรือเคยไปกาฬสินธุ์ จะผ่านพื้นที่หนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า "ภูแลนช้าง" และเรียกกันมาช้านานนานโดยอาจจะไม่รู้ที่มา แต่เมื่อมีการขุดค้นพบ "ฟอสซิลไดโนเสาร์" จึงทำให้นึกภาพออกว่า เวลาที่ คนเราเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ใหญ่กว่าปรกติ ก้จะมีคสร้อยคำขยายเช่น เมื่อครั้งเกิดสึนามิ คนไทยไม่รู้จักคำสึนามิ เราก็เรียกว่า "คลื่นยักษ์" ทำนองเดียวกับคนในสมัยโบราณ จะนานแค่ไหนไม่สามารถบอกได้ อาจจะเคยเห็น แต่น่าจะเห็นภาพนิมิตปรากฏหรือฝันเห็น "ไดโนเสาร์" ในบริเวณนั้น แต่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร รู้แต่ว่ามันเหมือน "ตัวแลนหรือตะกวด" แต่มีขนาดใหญ่มากๆ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร จึงเรียกว่า "แลนยักษ์" หรือ "แลนช้าง" ต่อมาอาจะเพี๊ยนด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง หรือแสลงกับคำว่า "แลนคือตะกวด" จึงกลายเป็น "ลานช้าง" ดังนั้น หาแก้ปริศนา "เมืองล้านช้าง" ได้ ก็จะรู้ที่มาของ "พระยาธรรมิกราช" แต่ที่ยกมาก็เพื่อจะบอกว่า "ฟ้าหลังฝน จะต้องมีความสดใสเกิดขึ้น โลกใหม่ที่อุดมด้วยธรรม"ภัยพิบัติจะเริ่มเกิดขึ้น เมื่อ พ.ศ. ล่วงเลย ๒๕๐๐ ปีไปแล้ว นับตั้งแต่ปี เถาะ..มะโรง..มะเส็ง แต่ไม่รู้ พ.ศ.เท่าไหร่? แต่ มี "ประโยคปริศนา" ที่น่าสนใจ จากพุทธทำนายที่ว่า... "อานนท์เอ๋ยหากสิเห็นเที่ยงแท้ภายสร้อยศาสนา พอมาเถิงห้องพระยาลิงปีวอก คนสิออกจากบ้านเดินเข้าสู่ทะเล " ความหมาย...พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่า "ภัยพิบัติครั้งใหญ่" นี้ จะเกิดขึ้นเมื่อศาสนาเสื่อมโทรม (คำว่า "สร้อย" หมายถึง เสื่อมโทรม ขาดวิ่น) โดยที่ เมื่อถึง "ปีวอก" ผู้คนจะพากันออกจากบ้านเดินเข้าสู่ทะเล ประโยคนี้คงไม่ต้องแปล แต่ต้องตีความหมาย เงื่อนเวลา...ปีวอก หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้แก่ พ.ศ. ๒๕๑๑ ๒๕๒๓ ๒๕๓๕ ๒๕๔๗ ๒๕๕๙ ๒๕๗๑ ..... "คนจะพากันออกจากบ้านเดินเข้าสู่ทะเล " ประโยคข้างต้นนี้อาจจะตีความได้ต่างๆ นานา หากไม่เกิด เหตุการณ์ "สึนามิ" ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ตรงกับปี "วอก" เราจึงเห็นภาพ "คนที่อยู่ในบ้านถูกคลื่นซัดสาดและถูกกวาดถูกดึงลงไปสู่ท้องทะเล"หรือ "ปีวอก" ในพุทธทำนายคือ "ปี พ.ศ. ๒๕๔๗" ที่ผ่านมา! แล้วจะเกิดอะไรขึ้นอีกตามมา? ข้อความในพุทธทำนายมีต่อไปว่า... "ถัดจากนั้นมาจวบปีระกา กรรมของพวกชาวมนุษย์มันสิบันดาลให้มีมืดควันคุงฟ้า ดูประมาณได้เจ็ดวันเป็นเขต ในเวลามืดนั้นเทวดาเฮียกเอิ้นเอาผีเสื้อยักษ์หลวง นับอ่านได้เถิงโกฏิเป็นประมาณมากินฝูงหญิงชายหมู่กรรมเหลือล้น กับทั้งฝูงผีเสื้ออีกแสนตัวแข็งขนาด " ความหมาย...ถัดจากปีวอก ก็จะเป็นปีระกา ด้วยกรรมชั่วที่สั่งสมมาของมนุษย์ทั้งหญิงและชาย ก็จะบันดาลให้เกิดภาวะ "ควันคละคลุ้งจนทำให้ท้องฟ้ามืด" เป็นระยะเวลา ๗ วัน ในระหว่างนั้น "เทวดา" จะเรียกให้ผีเสื้อยักษ์หลวงจำนวนประมาณ ๑๐ ล้านตัว (๑ โกฏิ เท่ากับ ๑๐ ล้าน) และผีเสื้อที่มีลักษณะตัว (Body) แข็งมากออกมากิน หรือทำลาย "ผู้คนผู้มีกรรมหนัก" (เหลือล้น เท่ากับ หนักมากๆๆๆๆ) ให้ล้มตาย อะไรจะทำให้เกิดควันคละคลุ้ง? ควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้ และ/หรือฝุ่นจำนวนมหาศาล หรือกลุ่มหมอกไอน้ำจากการละลายของภูเขาน้ำแข็ง ที่ทำให้บดบังแสงอาทิตย์ ดังปรากฏเมื่อราว ๒-๓ เดือนที่ผ่านมา ที่กรุงเทพมืดครึ้มอยู่หลายวัน แต่... ครั้งนี้จะหนักกว่ามากๆๆๆ มีการโจมตีกันด้วย "อาวุธนิวเคลียร์" ที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูงมากๆๆ จนเกิดการเผาไหม้และก่อให้เกิดกลุ่มควัน เกิดฝุ่นที่เกิดจากอาคารสูงถล่มเหมือนเวลาระเบิดตึกเก่า หรือเกิดความร้อนจาก "รังสีนิวเคลียร์" จนทำให้ภูเขาน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว และเกิดเป็นไอน้ำ? และ... อะไรคือผีเสื้อยักษ์หลวงกับผีเสื้อ? จะมีผีเสื้อที่ได้กิน "พืชสมุนไพร" แบบ "อนาคอนดา" ที่ผลของมันทำให้เกิดการแบ่งเซลที่ผิดปรกติ มีอายุยืนยาว ทำให้ตัวใหญ่ขึ้นอย่างมากๆๆ และมีผลต่อพฤติกรรมความโหดร้ายหรือไม่? เมื่อฟ้ามืด ไม่สามารถหาอาหารตามธรรมชาติได้จึงออกมาจากแหล่งที่หลบซ่อน หรือเกิดการจู่โจม ทำลายแหล่งพักพิงจึงต้องฮือออกมาเหมือนผู้แตกรัง? หรือแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรงที่สามารถทำให้เกาะสุมาตราแยกออกจากกันภายในระยะเวลา ๑ ปีนี้ ตามที่ "นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศส" ออกมาเปิดเผย (อ่านได้จาก เดลินิวส์ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๘) จะทำลายรังของ "ผีเสื้อยักษ์" ใน ป่าบอร์เนียว! หรือป่งดงดิบอื่นๆ เช่น อะเมซอน เป็นต้น หรือเป็น "คำเปรียบเปรย" ของ "อะไรที่หล่นลงมาจากท้องฟ้า" เหมือน "ครกที่เพิ่งหล่นใส่หน้าสาวโรงงาน" แต่มันมีจำนวนมากๆๆๆ และมีที่มาจากนอกโลก "อุกกาบาต" หรือเปล่า? หรือ มันคือ "จานผี-UFO" ที่ขณะนี้มาลอยวนเหนือโลก ตามที่หลายสำนักออกมาเปิดเผย โดยเฉพาะศูรย์กลางการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวที่ "เขากะลา นครสวรรค์" ซึ่งเตรียมการที่จะโจมตีโลกมนุษย์? ระดับความสูญเสีย...หากเทียบสัดส่วนขีดความสามารถในการทำลาย ๑ ต่อ ๖-๘ (ตามจำนวนขาของมัน) ก็จะมีผู้คนล้มตายประมาณ ๖๐-๘๐ ล้านคน แต่สัดส่วนนี้เทียบกับประชากรเฉพาะในภูมิภาคนี้ไทยหรือทั้งโลก ขึ้นอยู่กับว่า พุทธทำนายนี้ พยากรณ์เฉพาะภูมิภาคนี้หรือทั้งโลก? แล้วจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? หากปีวอกหมายถึง พ.ศ. ๒๕๔๗ ที่ผ่านมา ดังนั้น ในปีระกา ตามพุทธทำนายนี้ก็หมายถึง "พ.ศ. ๒๕๔๘" นี้ แต่หากไม่ใช่ ก็คงเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕๗๒ ๒๕๘๙ เพราะ มีบางตอนในพุทธทำนายระบุไว้ว่าเหตุจะเกิดในช่วง พ.ศ. ๒๕๐๐ ปลาย นั่นหมายความว่าไม่เกิด พ.ศ. ๓๐๐๐ ที่เราจะได้เห็นการล้างโลก (Big Clean) ความน่าจะเป็นที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์... ขณะนี้ในเวทีโลก มีความพยายามในการเจรจาเรื่องการจำกัดหรือกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ภายใต้ข้อจำกัดของระดับศีลธรรมในตัวผู้นำชาติมหาอำนาจนิวเคลี่ยร์ ที่ อุดมไปด้วย "โลภะคือความโลภ โมหะคือความหลง และโทสะคือความโกรธ" ไม่แน่ว่าการเจรจาจะมีการทุบโต๊ะจนเป็นสัญญาณให้ลูกน้องเข้าใจผิดไปกดปุ่มยิงหัวรบนิวเคลียร์หรือเปล่า? นกบินผ่านจอเรดาร์มันยังหนีไปรบห้องใต้ดินเลย!! บางทีอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด...ถึงเวลานั้นเทนโซปล๊าสต์ก็คงช่วยไม่ได้ นอกจาก พุทธศาสตร์เท่านั้น!เพราะน่าสนใจตรงที่มีประโยคในพุทธทำนายที่ว่า "ข้อหนึ่งนั้นยังมีสามพี่น้องประสงค์แข่งแสดงฤทธิ์ กำหนดกาลเวลาแข่งดีให้เห็นแจ้ง เจ้าผู้พี่ขานไขตามใจเฮารบสิบห้าวันจิงเซายั้ง องค์กลางนั้นเจ็ดวันหักเที่ยง พระองค์น้อยผู้หลังว่าสามมื้อบ่ให้กลายไผสิดีก็ดีหั้น ไผสิตายก็ตามช่าง บ่ให้ช้ากว่านั้นสิฮามมื้อเศิกคราว " ความหมาย...จะมี ๓ พี่น้อง อาจหมายถึง ผู้นำชาติมหาอำนาจ ๓ ฝ่าย เพราะประชุมทีไรเห็นทั้งกอดกัน หอมกัน จูบปากกัน เหมือนพี่กับน้องยังไงยังงั้น พี่น้องทั้ง ๓ จะท้ารบกัน พี่ใหญ่บอกเรามารบให้เห็นดำเห็นแดงกันภายใน ๑๕ วัน แต่พี่รองบอกว่าช้าไป ๑๕ วัน เอาแค่ ๗ วันพอ น้องเล็กคนสุดท้องบอกผมใจรอน ๓ วัน ก็เหลือเฟือ ใครจะเป็นใครจะตายช่างหัวมัน...ฉันไม่แคร์ ซึ่งก็มีคนพูดเอาไว้ใน เว๊บพุทธภูมิ ว่า สงครามโลกครั้งที่ ๓ จะเกิดขึ้นจาก "อเมริกา จีน และอินเดีย" ใครจะเป็นพี่ใหญ่ พี่รอง และน้องเล็ก ก็พิจารณากันเอง เอาเป็นว่าสมควรแก่เวลา ไขปริศนาไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนให้คอยดูต่อไป ว่า "หลังออกพรรษา" ปีนี้ ถัดจาก "วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก" ไปแล้วจะมีสัญญาณอะไรหรือไม่ หาก ตุลาคมเกิดวันมหาวิปโยคเลือดนองแผ่นดิน นั่นก็หมายถึงการ BIG CLEAN ก็ย่อมต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา...นี่เป็นสัญญาแจ้งเหตุเท่านั้น "พุทธทำนายจากพระโอษฐ์หรือคำตรัสของพระพุทธองค์" นั้น หนึ่งไม่มีสอง เปรียบเหมือนพญาราชสีห์เมื่อตื่นนอนย่อมบรรลือสีหนาทฉันใด เหมือนโยนของไปในอากาศย่อมตกลงสู่พื้นธรณีฉันนั้น ปีระกา ก็คือปีระกา ไม่ใช่ชวด ฉลู ขาล เป็นเที่ยงแท้ "เข้าพรรษา" ปีนี้ จึงควรแก่การที่เราจะหมั่นสร้างสมเหตุปัจจัยที่เป็นกุศล เป็นเสบียงติดตัวไปทั้งในโลกนี้และโลกหน้า หาก ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ไม่เกิด และแก่ตายหรือตายด้วยใดในปีหน้า ปีต่อๆ ไป ก็จะไม่ตกไปที่ต่ำ "เธอทั้งหลายจงยังชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท เพียรระวังเฝ้าติดตามจิตของตนอยู่ทุกขณะ อย่าให้อกุศลที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้นได้ เพียรกำจัดอกุศลที่เกิดขึ้นแล้วให้หมดสิ้นไป เพียรระวังไม่ให้กุศลที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไปจากจิต เพียรสร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้นในจิตของเธอ" สวัสดีครับ... จากคุณ : ศรีวรุณะอิสโร ![]() แหล่งที่มาhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X3533998/X3533998.html Last edited by เกษม : เมื่อวาน at 12:17 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#271 | ||||
Super Moderator
Join Date: Sep 2004
โพส: 4,659
Rep Power: 499
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
ฮ่าๆๆๆๆๆ เจ้าพ่อ กระทู้........ดีครับ จะได้ ไม่ประมาท
__________________
"ความรู้สึกที่งดงามที่สุดและลึกซึ้งที่สุดที่ประจักษ์แก่เรานั้นก็คือ ความรู้สึกในเรื่องที่เกี่ยวกับความลึกลับ(จิตวิญญาณ ) ความรู้สึกอันนี้แหละที่ก่อ ให้เกิดวิทยาการทั้งมวล" ![]() ![]() ห้องของมดเอ้ก เปิดให้ปั่นแล้ว ปั่นให้จุใจ ไปเลย แอ๊ดของป๋มก้าบบบบ :> botestu@hotmail.com หนังสือ....สารคดีเล่มล่าสุด..เจาะเรื่อง..ไอสไตน์ ด้วย หาอ่านเองเด้อ คุ้มๆๆๆๆๆๆ |
||||
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#272 |
Guest
โพส: n/a
|
ปี 51 หรือ ปี 60 ที่อ่านมาบอกว่าโลกเราจะพินาศแน่คือ ผมได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับ ฤาษีตาไฟ ที่คุณกระเจียวเคยบอกเล่า ผมมีความจำเป็นที่จะต้องไปหาท่านให้ได้ครับ แต่ผมไม่ทราบว่า ที่อยู่ของท่านฤาษีตาไฟอยู่ที่ไหนครับ รู้แต่ว่าเป็นคนชลบุรี เพื่อน ๆ ชาวพลังจิต ใครรู้ก็ช่วยหน่อยนะครับ เพราะเท่าที่ผมอ่านมา ผมคิดว่าท่านฤาษีตาไฟจะสามารถช่วยปัญหาเกี่ยวกับโรคภัยบางอย่างที่ประสบอยุ่ได้ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ด่วนนะครับ 09-6212335 ผมขออนุญาตเอาข้อความนี้ไปโพสต์ไว้หลาย ๆ ที่นะครับ ขอบคุณครับ
meesara@chaiyo.com |
![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#273 |
สมาชิก
Join Date: Nov 2004
โพส: 109
Rep Power: 17
![]() |
เจได แห่งกองทัพธรรม โดยตาที่สาม
หลัง มหกรรม Episode I ระยะแรกจะมีปัญหาเรื่องคนตายนับแสน เรื่องไม่มีอาหาร การอดอยาก และ โรคระบาด จึงน่าจะมีหน่วยกองทัพธรรมเข้ามาช่วยเหลือในบางส่วน คนที่จะเป็นสมาชิกกองทัพธรรมได้จะต้องมี 1. ความสามารถพลังจากตา(ที่สาม) เพื่อ ฆ่าเชื้อโรค มองเห็นเหล่าวิญญาณ คนที่ตาย และส่งพลังให้ไปเกิดใหม่ 2. ต้องมีมือที่มีพลัง ในการแตะต้องบาดแผล ความเจ็บปวด ที่เมื่อแตะ จะบรรเทาความเจ็บ หรือให้หายทันที คนที่จะเป็น เจไดของกองทัพธรรมต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้ 1. มีศีล ครบห้าอย่างเคร่งครัด 2.ปฎิบัติสมาธิ ดี มาตลอด จน ที่จุดหว่างคิ้วเต้นตุบๆๆ 3. เดินไปตามสถานที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถสัมผัสได้ ด้วยจิต หรือมือ แขนชา 4.ออร่าสีสวยและแรง โดยเฉพาะสีแดงหรือ สีม่วง จะดีที่สุด 5. กำลังภายใน(แบบเสี้ยวลิ้มยี่ วัดเส้าหลิน) ไม่ต่ำกว่า 15 เมตร 6.คนมีตาทิพย์/จิตทิพย์/หูทิพย์ อยู่แล้ว จะเห็นว่าเริ่มมีคนพูดถึงการเปิดตาที่สามกันประปรายซึ่งก็เป็นความจริงเพราะเมื่อผม พบ คนที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ก็จะทำให้เขาเป็น เจได แห่งกองทัพธรรม ทำโดย เปิดตาที่สามให้ ฝึกให้ สายตาที่เป็นแสง ส่องได้ไกลเกิน 100 เมตร เพื่อความสามารถได้กว้างไกล มีรัศมี 100 เมตร ผลพลอยได้ ของการมีตาที่สาม คือ การมองเห็นออร่า เห็นอดีต เห็นอนาคตเห็นโลกอีกมิติ ติดพลังที่มือ ให้มือที่มีพลังเพื่อใช้ในการรักษาคนป่วยคนบาดเจ็บ เมื่อพลังเข้าที่มือ มือนั้น จะเรืองแสง มองเห้นได้ชัด เหมือนมีดาบในมือใน"สตาร์วอ" ต้องมีกล่องแล้วกด จึงจะมีดาบยืดออกมายาว แต่เจไดของกองทัพธรรม แค่คิด ดาบก็ออกมาแล้วเรืองแสงยาว พอๆๆกับดาบใน สตาร์วอมือดาบของ เจไดแห่งกองทัพธรรม ใช้ในการรักษาคน ไม่ใช่ใช้ฆ่าคน แบบในหนังสตาร์วอ จากฟ้ากำหนด เจไดแห่งกองทัพะรรม จะมีกำลังพลประมาณ 1000 (หนึ่งพันคน) ปัจจุบันได้ไปแล้ว ประมาณ 15 คน (เพิ่งเริ่มเมื่อ 8 มิย.48) คนที่จะเป็นเจได แห่งกองทัพธรรม จะค่อยๆๆทะยอยมาติดดาบเอง คนที่มา เป็นเพราะ ฟ้ากำหนด เมื่อ มา เมื่อ เห็น ก็จะรู้ได้ทันทีว่า เป็นเขาทั้งนี้เพื่อความสุขและความอยู่รอด ของผู้มีบุญ แค่นี้ก่อน นะ ครับ จากคุณ : ตาที่สาม ![]() แหล่งที่มาhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/t...7/X3538027.html Last edited by เกษม : วันนี้ at 11:10 AM. |
![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
![]() |
#274 |
cosmic Moderator
Join Date: Sep 2004
Location: ดวงจันทร์
โพส: 2,891
Rep Power: 298
![]() |
หุหุ มีรวบรวมพรรคพวกเจไดแห่งกองทัพธรรมด้วย เจ๋งดี อิอิ
|
![]() ![]() |
![]() ![]() ![]() |
![]() |
Currently Active Users Viewing This Thread: 1 (1 members and 0 guests) | |
zipper* |
|
|
ลิงค์ที่น่าสนใจ
[ คนเมืองบัว
] [ ลานธรรมเสวนา ]
[ Praruttanatri ] [
สำนักข่าวชาวพุทธ
] [
84000.org ] [ธรรมเทศนาหลวงพ่อ]
[ พุทธภูมิ ]
[ สมเด็จองค์ปฐม
] [
กายทิพย์โลกวิญญาณ
] [แม่ชีพิมพา]
[ ดวงแก้ว ] [
คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน ] [
ธรรมประทานพร ]
[
กัลยาณมิตร
]
[ เรื่องลึกลับที่พันทิพย์
] [ ศาสนา-ปรัชญาที่พันทิพย์
] [ยุวสงฆ์ดอทคอม
] [
ศากยบุตร ]
[ Buddhabirthplace
] [ มิติพิศวง
]
[
พระไทยเน็ต
] [
พระโพธิสัตว์ ]
[
ธรรมหลวงตามหาบัว ] [
ศรัทธาธรรม ] [
จักรวาลภูมิ
๓๑ ] [
ศาสนาต่างๆ ] [
จิตวิญญาน ]
[
ซีดีธรรมะ ]
[
เรื่องมหัศจรรย์ ] [
ฟิสิกส์น่ารู้ ] [
UFO ]
[12Rasi.com
ดูดวง ทำนายชีวิต]
[
Thai English Dictionary ]
Thai Keyboard